“ด้วยดวงใจอันเร่าร้อน” ( ตอนที่ 1-15 )
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 18, 2022 7:27 pm
" ด้วยดวงใจอันเร่าร้อน" ( With Burning Heart )
บทรำพึงถึงชีวิตในบูชาขอบพระคุณ และศีลมหาสนิท
(#) เขียนโดย คุณพ่อ เฮนรี่ เจ. เอ็ม. นูเวน
(#)แปลและเรียบเรียง โดย มงซินญอร์วิษณุ ธัญญอนันต์
บทรำพึง ฯ นี้ แบ่งย่อยออกทั้งหมด 37 ตอน
ตอนที่ (1): บทนำ ลูกา 24: 13-35
ถนนสู่ตำบลเอมมาอุส ; วันนั้นเองมีศิษย์สองคนกำลังเดินไปยังหมู่บ้านชื่อเอมมาอูสห่างไกล
จากกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 11 กิโลเมตร เขาสนทนากันถึงเหตุการณ์ซึ่งได้เกิดขึ้น และเป็นไปนั้น
ขณะที่เขากำลังสนทนากันอยู่ พระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาใกล้ ดำเนินไปกับเขา แต่ตาเขาฝ้าฟางไป
จึงจำพระองค์ไม่ได้ พระองค์ตรัสกับเขาว่า "ขณะเดินมาที่นี่ ท่านโต้เถียงกันถึงเรื่องอะไร "
เขาหยุดยืนหน้าตาโศกเศร้าคนหนึ่งชื่อ เคลโอฟาส จึงทูลถามพระองค์ว่า " ท่านคงจะเป็นแขกเมือง
ที่อาศัยในกรุงเยรูซาเล็มแต่คนเดียว ที่ไม่รู้เหตุการณ์ทั้งปวง ซึ่งเป็นไปในวันเหล่านี้ " พระองค์จึงตรัส
ถามเขาว่า "เหตุการณ์อะไร? " เขาตอบพระองค์ว่า " เหตุการณ์เรื่องพระเยซูคริสต์ชาวนาซาแร็ธ
ผู้เป็นประกาศก - ผู้เผยพระวจนะ เปี่ยมไปด้วยฤทธิ์ในกิจการ และวาจา ทั้งต่อพระพักตร์พระเจ้า และ
ต่อหน้าประชาชน พวกมหาปุโรหิตกับบรรดาขุนนางของพวกเรากลับได้อายัดท่านไว้ให้ปรับโทษถึงตาย
และตรึงพระองค์ท่านที่กางเขน พวกเราต่างก็หวังเป็นอย่างยิ่งจะเป็นท่านผู้นั้นที่จะไถ่กู้ชนชาติอิสราแอล
ยิ่งกว่านั้นอีก วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น มีผู้หญิงบางคนในหมู่พวกเราที่ได้ทำ
ให้พวกเราประหลาดใจ นางได้ไปที่อุโมงค์เมื่อเวลาเช้าตรู่แต่ไม่พบพระศพ จึงมาเล่าว่า นางได้เห็น
นิมิตเป็นทูตสวรรค์และทูตนั้นบอกว่า พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ บางคนที่อยู่กับพวกเราก็ไปจนถึงอุโมงค์
และได้พบเหตุการณ์เหมือนผู้หญิงเหล่านั้นได้บอกแต่เขาหาได้เห็นพระองค์ไม่ " พระองค์ตรัสแก่ศิษย์
สองคนนั้นว่า "โอ! คนเขลาและมีใจเฉื่อยชา ในการเชื่อต่อถ้อยคำที่บรรดาประกาศกได้กล่าวไว้นั้น
จำเป็นที่พระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนั้น แล้วจึงเข้าสู่พระสิริมงคลของพระองค์มิใช่ดอกหรือ ?"
พระองค์ทรงอธิบายพระคัมภีร์ที่เจาะจงถึงตัวของพระองค์เองทุกข้อให้เขาทั้งสองฟัง เริ่มตั้งแต่โมเสส
และบรรดาประกาศกอื่น ๆ เมื่อเขาเดินมาใกล้หมู่บ้านที่จะไปนั้นพระองค์ทรงกระทำเหมือนจะทรงดำเนิน
เลยไป เขาทั้งสองจึงหน่วงเหนี่ยวพระองค์และปรารภว่า "เชิญท่านหยุดพักกับพวกเราเพราะว่าจวนเย็น
และวันเวลาก็ล่วงไปมากแล้ว " พระองค์จึงเสด็จเข้าไปเพื่อพักกับพวกเขา ต่อมาเมื่อพระองค์เสวย
พระกายาหารกีบพวกเขา พระองค์ทรงหยิบขนมปังกล่าวขอบคุณแล้วบิปังออกยื่นให้พวกเขา ตาของเขา
ทั้งสองก็หายฝ้าฟางและจำพระองค์ได้ แต่แล้วพระองค์ก็อันตรธานไป พวกเขาพูดกันว่า "ใจพวกเราช่าง
เร่าร้อนภายใน ขณะที่พระองค์ตรัสกับพวกเขาตามทางและขณะที่ทรงอธิบายพระคัมภีร์ให้พวกเราฟัง
มิใช่หรือ ? " และทั้งสองคนนั้นก็ลุกขึ้นฉับพลันในเวลานั่นเอง และศิษย์ทั้งสองก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นกลางทาง และพวกเขาจำพระองค์ได้โดยการหักขนมปังนั้น (ลูกา 24: 13-35)
โปรดติดตาม ตอนที่ (2) ในวันต่อไป
บทรำพึงถึงชีวิตในบูชาขอบพระคุณ และศีลมหาสนิท
(#) เขียนโดย คุณพ่อ เฮนรี่ เจ. เอ็ม. นูเวน
(#)แปลและเรียบเรียง โดย มงซินญอร์วิษณุ ธัญญอนันต์
บทรำพึง ฯ นี้ แบ่งย่อยออกทั้งหมด 37 ตอน
ตอนที่ (1): บทนำ ลูกา 24: 13-35
ถนนสู่ตำบลเอมมาอุส ; วันนั้นเองมีศิษย์สองคนกำลังเดินไปยังหมู่บ้านชื่อเอมมาอูสห่างไกล
จากกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 11 กิโลเมตร เขาสนทนากันถึงเหตุการณ์ซึ่งได้เกิดขึ้น และเป็นไปนั้น
ขณะที่เขากำลังสนทนากันอยู่ พระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาใกล้ ดำเนินไปกับเขา แต่ตาเขาฝ้าฟางไป
จึงจำพระองค์ไม่ได้ พระองค์ตรัสกับเขาว่า "ขณะเดินมาที่นี่ ท่านโต้เถียงกันถึงเรื่องอะไร "
เขาหยุดยืนหน้าตาโศกเศร้าคนหนึ่งชื่อ เคลโอฟาส จึงทูลถามพระองค์ว่า " ท่านคงจะเป็นแขกเมือง
ที่อาศัยในกรุงเยรูซาเล็มแต่คนเดียว ที่ไม่รู้เหตุการณ์ทั้งปวง ซึ่งเป็นไปในวันเหล่านี้ " พระองค์จึงตรัส
ถามเขาว่า "เหตุการณ์อะไร? " เขาตอบพระองค์ว่า " เหตุการณ์เรื่องพระเยซูคริสต์ชาวนาซาแร็ธ
ผู้เป็นประกาศก - ผู้เผยพระวจนะ เปี่ยมไปด้วยฤทธิ์ในกิจการ และวาจา ทั้งต่อพระพักตร์พระเจ้า และ
ต่อหน้าประชาชน พวกมหาปุโรหิตกับบรรดาขุนนางของพวกเรากลับได้อายัดท่านไว้ให้ปรับโทษถึงตาย
และตรึงพระองค์ท่านที่กางเขน พวกเราต่างก็หวังเป็นอย่างยิ่งจะเป็นท่านผู้นั้นที่จะไถ่กู้ชนชาติอิสราแอล
ยิ่งกว่านั้นอีก วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น มีผู้หญิงบางคนในหมู่พวกเราที่ได้ทำ
ให้พวกเราประหลาดใจ นางได้ไปที่อุโมงค์เมื่อเวลาเช้าตรู่แต่ไม่พบพระศพ จึงมาเล่าว่า นางได้เห็น
นิมิตเป็นทูตสวรรค์และทูตนั้นบอกว่า พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ บางคนที่อยู่กับพวกเราก็ไปจนถึงอุโมงค์
และได้พบเหตุการณ์เหมือนผู้หญิงเหล่านั้นได้บอกแต่เขาหาได้เห็นพระองค์ไม่ " พระองค์ตรัสแก่ศิษย์
สองคนนั้นว่า "โอ! คนเขลาและมีใจเฉื่อยชา ในการเชื่อต่อถ้อยคำที่บรรดาประกาศกได้กล่าวไว้นั้น
จำเป็นที่พระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนั้น แล้วจึงเข้าสู่พระสิริมงคลของพระองค์มิใช่ดอกหรือ ?"
พระองค์ทรงอธิบายพระคัมภีร์ที่เจาะจงถึงตัวของพระองค์เองทุกข้อให้เขาทั้งสองฟัง เริ่มตั้งแต่โมเสส
และบรรดาประกาศกอื่น ๆ เมื่อเขาเดินมาใกล้หมู่บ้านที่จะไปนั้นพระองค์ทรงกระทำเหมือนจะทรงดำเนิน
เลยไป เขาทั้งสองจึงหน่วงเหนี่ยวพระองค์และปรารภว่า "เชิญท่านหยุดพักกับพวกเราเพราะว่าจวนเย็น
และวันเวลาก็ล่วงไปมากแล้ว " พระองค์จึงเสด็จเข้าไปเพื่อพักกับพวกเขา ต่อมาเมื่อพระองค์เสวย
พระกายาหารกีบพวกเขา พระองค์ทรงหยิบขนมปังกล่าวขอบคุณแล้วบิปังออกยื่นให้พวกเขา ตาของเขา
ทั้งสองก็หายฝ้าฟางและจำพระองค์ได้ แต่แล้วพระองค์ก็อันตรธานไป พวกเขาพูดกันว่า "ใจพวกเราช่าง
เร่าร้อนภายใน ขณะที่พระองค์ตรัสกับพวกเขาตามทางและขณะที่ทรงอธิบายพระคัมภีร์ให้พวกเราฟัง
มิใช่หรือ ? " และทั้งสองคนนั้นก็ลุกขึ้นฉับพลันในเวลานั่นเอง และศิษย์ทั้งสองก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นกลางทาง และพวกเขาจำพระองค์ได้โดยการหักขนมปังนั้น (ลูกา 24: 13-35)
โปรดติดตาม ตอนที่ (2) ในวันต่อไป