เรื่องจริง เสริมศรัทธา ( ชุดที่ 2 )
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 29, 2022 9:54 pm
( 1 )
“ท่านอดอาหาร แต่ซาตานก็ไม่กินอะไร
ท่านทำงานหนัก แต่ซาตานก็ไม่เคยหลับพักผ่อน
สิ่งที่ท่านสามารถทำได้ดีกว่าซาตานก็คือท่านต้องมีใจถ่อมตน เพราะซาตานไม่มีความถ่อมตน”
- นักบุญโมเสส ชาวเอธิโอเปีย
"You fast, but Satan does not eat. You labor fervently, but Satan never sleeps.
The only dimension with which you can outperform Satan is by acquiring humility,
for Satan has no humility." - Saint Moses the Black (Ethiopian)
ชีวประวัติ “นักบุญโมเสส ชาวเอธิโอเปีย (St. Moses The Ethiopian)”
+ จากโจรสู่ชีวิตนักบุญ : เส้นทางชีวิตนักบุญโมเสส ชาวเอธิโอเปีย (St. Moses The Ethiopian) +
เนื่องเมื่อวานนี้เป็นวันฉลองของนักบุญโมเสส แห่งเอธิโอเปีย (อิงตามปฏิทินจูเลียน) นักบุญโมเสส
มักจะรู้จักกันในชื่อ นักบุญโมเสส คนดำ (St. Moses The Black), อับบาโมเสส ผู้เป็นโจร
(Abba Moses The Robber) หรือ อับบาโมเสส ผู้แข็งแรง (Abba Moses The Strong) ท่านนับ
ได้ว่าเป็นปิตาจารย์แห่งทะเลทราย (Desert Father) อีกหนึ่งคนที่เป็นที่รู้จักอย่างมากอีกด้วยครับ
เอาละเพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปกันเลย #เตรียมขนม!
.
= ประวัติของนักบุญโมเสส ชาวเอธิโอเปีย =
นักบุญโมเสสอาศัยอยู่ที่ประเทศอียิปต์ในช่วงศตวรรษที่ 4 ท่านเป็นชาวเอธิโอเปียที่ผิวคล่ำ
อย่างมากกกกกกก เพราะเหตุนี้ท่านจึงถูกเรียกว่า “โมเสส คนดำ” ในวัยเด็กโมเสสเป็นทาสของผู้มี
ต่ำแหน่งสูงในเมือง แต่เมื่อท่านได้ก่อเหตุฆาตรกรรม เจ้านายก็ได้ไล่ท่านออก โมเสส ที่ ณ เวลานั้น
เต็มไปด้วยความโกรธและความขมขื่นใจ จึงตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มโจรที่มักจะโจมตี, บุกปล้น และ
ฆ่าคนอื่น ๆ ที่เดินทางในทะเลทราย ต่อมาทางกลุ่มโจรที่ท่านอยู่นั้นได้เลือกท่านให้ขึ้นเป็นหัวหน้า
เนื่องจากนักบุญโมเสสมีร่างกายที่ใหญ่โตและพร้อมที่จะทำบาปทุกเวลา ผู้คนต่างหวาดกลัวที่จะ
เอ่ยชื่อของท่านมาก (อารมณ์คงคล้าย ๆ โวลเดอมอร์ 5555)
.
หลังจากที่นักบุญโมเสสได้ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความผิดบาปต่าง ๆ มาหลายปี โดยอาศัยพระ
หรรษทานของพระเจ้า ท่านได้กลับใจในที่สุด ได้ออกจากกลุ่มโจรและเดินทางไปที่อารามนักพรต
ในทะเลทรายแห่งหนึ่ง ท่านต้องใช้เวลานานมากในการร่ำร้องและร้องขอเพื่อให้พี่น้องในอารามเชื่อ
ว่าท่านเป็นคนที่จริงใจและกลับใจแล้ว และในที่สุดอารามก็รับนักบุญโมเสสเข้าเป็นหนึ่งในนักพรต
ท่านรู้สึกเสียใจอย่างมากต่อบาปที่ตนเคยทำในอดีต ด้วยเหตุนี้ท่านจึงเคารพเชื่อฟังคุณพ่ออธิการ
อย่างมาก อับบา (คุณพ่อ) อิซิดอร์ พ่อวิญญญาณและพ่อที่คอยโปรดศีลบาปแก่โมเสส ถือว่าเป็นผู้ที่
มีปรีชาญาณและประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่ดีคนหนึ่ง ได้แนะนำท่านนักบุญในเรื่องต่าง ๆ หลังจาก
นั้นไม่นานท่านก็กลับไปยังห้องของตนเองและสวดภาวนา ถือศีลอดอาหาร ต่อสู้กับตัณหาและสิ่งต่าง ๆ
โดยการแนะนำของอับบาอิซิดอร์ อับบาได้สอนท่านในเรื่องการภาวนาทั้งคืนและต่อสู้กับปีศาจ
ความพยายาม ของท่านในการอดทนและต่อสู้กับปีศาจนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะว่ามันสามารถช่วย
ชะล้างความผิดที่ตนเคยทำมาได้ มันเป็นการต่อสู้กับระหว่างทูตสวรรค์และปีศาจ ซึ่งอับบาอิซิดอร์มั่นใจ
ว่านักบุญโมเสส (ทูตสวรรค์) จะผ่านพ้นและเอาชนะมัน (ปีศาจ) ได้
.
วันหนึ่งโจร 4 คน จากกลุ่มโจรที่นักบุญโมเสสเคยเป็นสมาชิกได้เข้ามาทำร้ายท่านในห้อง ซึ่งพวก
โจรนั้นไม่รู้ว่าคนที่ตนทำร้ายอยู่นั้นเป็นใคร นักบุญโมเสสที่อาศัยอยู่ในอารามก็หาได้สิ้นพละกำลังและ
ความแข็งแรงของตนเองไม่ ท่านจับโจรมัด แบกขึ้นบ่า และพาพวกโจรไปที่อารามนักพรต แต่เอลเดอร์
(นักพรตชรา) ก็ได้บอกให้ท่านปล่อยตัวพวกเขา หลังจากพวกโจรได้รู้ว่าคนที่เขาเข้าไปทำร้ายนั้นเป็น
#โมเสส อดีตหัวหน้าก็ตกใจ นักบุญโมเสสได้ปฏิบัติกับพวกเขาด้วยความเมตตา โจรทั้ง 4 ได้เห็นแบบ
อย่างดังนั้นจึงกลับใจและถวายตัวเป็นนักพรตที่อารามนั้น เมื่อโจรที่เหลือในกลุ่มได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ก็กลับใจ ทิ้งชีวิตที่เต็มไปด้วยบาปและได้ถวายตัวเป็นนักพรตกันทั้งหมด
.
เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความพยายามทางจิตวิญญาณของตน นักบุญโมเสสได้เริ่มขนน้ำจากบ่อน้ำไป
ให้พี่น้องของตนทุก ๆ คืน โดยเฉพาะเหล่าเอลเดอร์ที่อาศัยอยู่ไกลจากบ่อน้ำ และเพื่อใครก็ตามที่ไม่
สามารถขนน้ำได้ ครั้งหนึ่งขณะที่ท่านเอนกายพิงบ่อน้ำอยู่นั้นปีศาจก็ได้ล้างแค้นกับนักบุญโมเสส
โดยเหตุที่ท่านได้เอาชนะพวกมันได้ จ่ากเหตุการณ์ครั้งนั้น หลังของท่านได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงและ
ปราศจากความรู้สึกใด ๆ ท่านต้องใช้เวลาตลอดทั้งปีในการนอนเฉย ๆ ที่ห้องของตน หลังจากนั้นท่านก็
ได้รับการรักษาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
.
หลายปีต่อมาเรื่องราวของนักบุญโมเสสได้ถูกเล่าต่อ ๆ กันไปอย่างกว้างขวาง ผู้คนต่างพากันมา
เยี่ยมท่าน นักบุญโมเสสจึงหนีออกจากห้องของตนและซ่อนตัวจากผู้คน ระหว่างทางท่านได้เจอกับผู้รับใช้
ของผู้ว่าราชการจังหวัดคนหนึ่ง เขาได้ถามท่านว่า “จะไปยังห้องของโมเสสผู้ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายได้
อย่างไร?” นักบุญโมเสสจึงตอบเขาไปว่า “อย่าไปไกลกว่านี้เพื่อเจอกับนักพรตที่ผิดบาปและไม่คู่ควรนี้เลย”
เมื่อผู้รับใช้คนนั้นไปถึงอารามเขาก็ได้รู้ทันทีว่าคนที่เขาเจอระหว่างทางนั้นคือนักบุญโมเสสที่เขาและ
เจ้านายปรารถนาจะพบ
.
หลังจากฝ่าฟันกับชีวิตนักพรตอยู่หลายปี อับบาโมเสสได้รับศีลบวชเป็นสังฆานุกร แต่ด้วยความถ่อมตน
ของท่านเองจึงคิดว่าท่านไม่คู่ควรกับสถานะนี้เลยแม้แต่น้อย ครั้งหนึ่งท่านได้ถูกทดสอบโดยพระสังฆราช
พระสังฆราชได้บอกให้เหล่านักบวชพูดจาดูถูกและเยาะเย้ยนักบุญโมเสสว่าเป็นเพียงชาวเอธิโอเปียที่
ไม่คู่ควรและต่ำต้อย ทั้งยังได้บังคบให้ท่านออกจากบริเวณพระแท่นด้วย นักพรตผู้ถ่อมตนยอมรับการดูถูก
หลังจากการทดสอบครั้งนี้พระสังฆราชจึงตัดสินใจบวชนักบุญโมเสสให้เป็นพระสงฆ์ อับบาโมเสสมีอายุ
ได้ 60 ปีในเวลานั้น อับบาโมเสสได้พยายามทำหน้าที่ของตนอีก 15 ปี และท่านเองยังมีศิษย์อีก 75 คน
.
เมื่อท่านอายุได้ 75 ปี ในฐานะอธิการอาราม ท่านได้เตือนนักพรตของตนว่าเร็ว ๆ นี้ ผู้ร้ายจะมาโจมตี
ชุมชนนักพรตและจะฆ่าทุก ๆ คน อับบาโมเสสได้ร้องขอให้พวกเขาย้ายออกไปแต่ตนเองจะอยู่ต่อ เพราะว่า
ท่านเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่พระวาจาของพระเจ้าจะเป็นจริงที่ว่า “เพราะทุกคนที่ใช้ดาบ ก็จะต้องพินาศด้วยดาบ”
(มัทธิว 26:52) มีนักพรต 7 องค์ที่ตกลงจะอยู่กับอับบาโมเสส เมื่อผู้รายเข้ามาก็ได้ทำการรฆาตรกรรมอับบา
โมเสสและนักพรตองค์อื่น ๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราว ค.ศ.400 มีนักพรตคนหนึ่งที่ซ่อนตัวเมื่อกลุ่มผู้ร้ายเข้ามา
และได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดในขณะที่ผู้รายฆ่าอับบาโมเสสและนักพรตอีก 6 องค์
* * * * * * * * * *
เรื่องราวของนักบุญโมเสสเป็นแบบอย่างที่ดี (เช่นเดียวกับเรื่องราวของนักบุญมารีย์ แห่งอียิปต์) ที่แสดง
ให้เห็นว่าโดยอาศัยการสำนึกผิดและกลับใจอย่างจริงจังเปลี่ยนให้คนที่บาปที่สุดมาเป็นนักบุญที่ยิ่งใหญ่ได้
นักบุญโมเสสเป็นทั้งฆาตรกร, โจร และเป็นคนที่รุนแรง ดังนั้น นักบุญโมเสสเป็นแบบอย่างที่สำคัญของเรา
ในเรื่องการกลับใจและการอภัยของพระเจ้า โดยเฉพาะผู้ที่รู้สึกว่าพวกเขานั้นเต็มไปด้วยบาปเกินที่จะคืนดี
กับพระเจ้าและพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ได้ เพราะเขาหลงผิดและตกสู่บาป “ความชอบธรรม” จะได้รับการ
เพิ่มพูนจากพระเจ้ามากกว่าจากคนบาป เพราะว่า “ความชอบธรรม” ก็เหมือนเรื่องราวที่พระเยซูเจ้าได้ทรง
เล่าในเรื่อง #ฟาริสี กับ #ลูกผู้หลงผิด อย่ามองบาปของพวกเขา เพราะความทะนงตัวจะถูกเพิ่มพูนแทนที่
ความถ่อมตน ในทางตรงกันข้ามเหมือนกับเรื่องราวของบุตรผู้หลงผิดและของคนเก็บภาษี คนที่บาปที่สุด
ผู้ที่สำนึกบาปและกลับใจสามารถใกล้ชิดกับพระเจ้าได้ โดยการกลับใจอย่างต่อเนื่องของตนเอง ซึ่งเป็นผล
มาจากความอ่อนน้อมถ่อมตนของตนเองนั้นเองครับ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านประวัตินักบุญมารีย์ แห่งอียิปต์สามารถอ่านได้ที่นี่เลยครับ
> https://goo.gl/MJ4Ama
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่อ่านครับ หากใครชอบฝากกดไลก์กดแชร์ด้วยนะครับบ #ขอพระเจ้าอวยพร
#นักบุญโมเสสโปรดภาวนาต่อพระเจ้าเพื่อเราเทอญ
CR. : จิตอิสระ
CR. ชีวประวัติ : https://www.facebook.com/834510796680621/posts/pfbid0zp
NoVXGdZ2Yp6gK5J3Zrr8pXWFZ613siYX97kMzurBMxG1RhNrGHqu3vUeYnLDXTl/?d=n
“ท่านอดอาหาร แต่ซาตานก็ไม่กินอะไร
ท่านทำงานหนัก แต่ซาตานก็ไม่เคยหลับพักผ่อน
สิ่งที่ท่านสามารถทำได้ดีกว่าซาตานก็คือท่านต้องมีใจถ่อมตน เพราะซาตานไม่มีความถ่อมตน”
- นักบุญโมเสส ชาวเอธิโอเปีย
"You fast, but Satan does not eat. You labor fervently, but Satan never sleeps.
The only dimension with which you can outperform Satan is by acquiring humility,
for Satan has no humility." - Saint Moses the Black (Ethiopian)
ชีวประวัติ “นักบุญโมเสส ชาวเอธิโอเปีย (St. Moses The Ethiopian)”
+ จากโจรสู่ชีวิตนักบุญ : เส้นทางชีวิตนักบุญโมเสส ชาวเอธิโอเปีย (St. Moses The Ethiopian) +
เนื่องเมื่อวานนี้เป็นวันฉลองของนักบุญโมเสส แห่งเอธิโอเปีย (อิงตามปฏิทินจูเลียน) นักบุญโมเสส
มักจะรู้จักกันในชื่อ นักบุญโมเสส คนดำ (St. Moses The Black), อับบาโมเสส ผู้เป็นโจร
(Abba Moses The Robber) หรือ อับบาโมเสส ผู้แข็งแรง (Abba Moses The Strong) ท่านนับ
ได้ว่าเป็นปิตาจารย์แห่งทะเลทราย (Desert Father) อีกหนึ่งคนที่เป็นที่รู้จักอย่างมากอีกด้วยครับ
เอาละเพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปกันเลย #เตรียมขนม!
.
= ประวัติของนักบุญโมเสส ชาวเอธิโอเปีย =
นักบุญโมเสสอาศัยอยู่ที่ประเทศอียิปต์ในช่วงศตวรรษที่ 4 ท่านเป็นชาวเอธิโอเปียที่ผิวคล่ำ
อย่างมากกกกกกก เพราะเหตุนี้ท่านจึงถูกเรียกว่า “โมเสส คนดำ” ในวัยเด็กโมเสสเป็นทาสของผู้มี
ต่ำแหน่งสูงในเมือง แต่เมื่อท่านได้ก่อเหตุฆาตรกรรม เจ้านายก็ได้ไล่ท่านออก โมเสส ที่ ณ เวลานั้น
เต็มไปด้วยความโกรธและความขมขื่นใจ จึงตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มโจรที่มักจะโจมตี, บุกปล้น และ
ฆ่าคนอื่น ๆ ที่เดินทางในทะเลทราย ต่อมาทางกลุ่มโจรที่ท่านอยู่นั้นได้เลือกท่านให้ขึ้นเป็นหัวหน้า
เนื่องจากนักบุญโมเสสมีร่างกายที่ใหญ่โตและพร้อมที่จะทำบาปทุกเวลา ผู้คนต่างหวาดกลัวที่จะ
เอ่ยชื่อของท่านมาก (อารมณ์คงคล้าย ๆ โวลเดอมอร์ 5555)
.
หลังจากที่นักบุญโมเสสได้ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความผิดบาปต่าง ๆ มาหลายปี โดยอาศัยพระ
หรรษทานของพระเจ้า ท่านได้กลับใจในที่สุด ได้ออกจากกลุ่มโจรและเดินทางไปที่อารามนักพรต
ในทะเลทรายแห่งหนึ่ง ท่านต้องใช้เวลานานมากในการร่ำร้องและร้องขอเพื่อให้พี่น้องในอารามเชื่อ
ว่าท่านเป็นคนที่จริงใจและกลับใจแล้ว และในที่สุดอารามก็รับนักบุญโมเสสเข้าเป็นหนึ่งในนักพรต
ท่านรู้สึกเสียใจอย่างมากต่อบาปที่ตนเคยทำในอดีต ด้วยเหตุนี้ท่านจึงเคารพเชื่อฟังคุณพ่ออธิการ
อย่างมาก อับบา (คุณพ่อ) อิซิดอร์ พ่อวิญญญาณและพ่อที่คอยโปรดศีลบาปแก่โมเสส ถือว่าเป็นผู้ที่
มีปรีชาญาณและประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่ดีคนหนึ่ง ได้แนะนำท่านนักบุญในเรื่องต่าง ๆ หลังจาก
นั้นไม่นานท่านก็กลับไปยังห้องของตนเองและสวดภาวนา ถือศีลอดอาหาร ต่อสู้กับตัณหาและสิ่งต่าง ๆ
โดยการแนะนำของอับบาอิซิดอร์ อับบาได้สอนท่านในเรื่องการภาวนาทั้งคืนและต่อสู้กับปีศาจ
ความพยายาม ของท่านในการอดทนและต่อสู้กับปีศาจนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะว่ามันสามารถช่วย
ชะล้างความผิดที่ตนเคยทำมาได้ มันเป็นการต่อสู้กับระหว่างทูตสวรรค์และปีศาจ ซึ่งอับบาอิซิดอร์มั่นใจ
ว่านักบุญโมเสส (ทูตสวรรค์) จะผ่านพ้นและเอาชนะมัน (ปีศาจ) ได้
.
วันหนึ่งโจร 4 คน จากกลุ่มโจรที่นักบุญโมเสสเคยเป็นสมาชิกได้เข้ามาทำร้ายท่านในห้อง ซึ่งพวก
โจรนั้นไม่รู้ว่าคนที่ตนทำร้ายอยู่นั้นเป็นใคร นักบุญโมเสสที่อาศัยอยู่ในอารามก็หาได้สิ้นพละกำลังและ
ความแข็งแรงของตนเองไม่ ท่านจับโจรมัด แบกขึ้นบ่า และพาพวกโจรไปที่อารามนักพรต แต่เอลเดอร์
(นักพรตชรา) ก็ได้บอกให้ท่านปล่อยตัวพวกเขา หลังจากพวกโจรได้รู้ว่าคนที่เขาเข้าไปทำร้ายนั้นเป็น
#โมเสส อดีตหัวหน้าก็ตกใจ นักบุญโมเสสได้ปฏิบัติกับพวกเขาด้วยความเมตตา โจรทั้ง 4 ได้เห็นแบบ
อย่างดังนั้นจึงกลับใจและถวายตัวเป็นนักพรตที่อารามนั้น เมื่อโจรที่เหลือในกลุ่มได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ก็กลับใจ ทิ้งชีวิตที่เต็มไปด้วยบาปและได้ถวายตัวเป็นนักพรตกันทั้งหมด
.
เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความพยายามทางจิตวิญญาณของตน นักบุญโมเสสได้เริ่มขนน้ำจากบ่อน้ำไป
ให้พี่น้องของตนทุก ๆ คืน โดยเฉพาะเหล่าเอลเดอร์ที่อาศัยอยู่ไกลจากบ่อน้ำ และเพื่อใครก็ตามที่ไม่
สามารถขนน้ำได้ ครั้งหนึ่งขณะที่ท่านเอนกายพิงบ่อน้ำอยู่นั้นปีศาจก็ได้ล้างแค้นกับนักบุญโมเสส
โดยเหตุที่ท่านได้เอาชนะพวกมันได้ จ่ากเหตุการณ์ครั้งนั้น หลังของท่านได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงและ
ปราศจากความรู้สึกใด ๆ ท่านต้องใช้เวลาตลอดทั้งปีในการนอนเฉย ๆ ที่ห้องของตน หลังจากนั้นท่านก็
ได้รับการรักษาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
.
หลายปีต่อมาเรื่องราวของนักบุญโมเสสได้ถูกเล่าต่อ ๆ กันไปอย่างกว้างขวาง ผู้คนต่างพากันมา
เยี่ยมท่าน นักบุญโมเสสจึงหนีออกจากห้องของตนและซ่อนตัวจากผู้คน ระหว่างทางท่านได้เจอกับผู้รับใช้
ของผู้ว่าราชการจังหวัดคนหนึ่ง เขาได้ถามท่านว่า “จะไปยังห้องของโมเสสผู้ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายได้
อย่างไร?” นักบุญโมเสสจึงตอบเขาไปว่า “อย่าไปไกลกว่านี้เพื่อเจอกับนักพรตที่ผิดบาปและไม่คู่ควรนี้เลย”
เมื่อผู้รับใช้คนนั้นไปถึงอารามเขาก็ได้รู้ทันทีว่าคนที่เขาเจอระหว่างทางนั้นคือนักบุญโมเสสที่เขาและ
เจ้านายปรารถนาจะพบ
.
หลังจากฝ่าฟันกับชีวิตนักพรตอยู่หลายปี อับบาโมเสสได้รับศีลบวชเป็นสังฆานุกร แต่ด้วยความถ่อมตน
ของท่านเองจึงคิดว่าท่านไม่คู่ควรกับสถานะนี้เลยแม้แต่น้อย ครั้งหนึ่งท่านได้ถูกทดสอบโดยพระสังฆราช
พระสังฆราชได้บอกให้เหล่านักบวชพูดจาดูถูกและเยาะเย้ยนักบุญโมเสสว่าเป็นเพียงชาวเอธิโอเปียที่
ไม่คู่ควรและต่ำต้อย ทั้งยังได้บังคบให้ท่านออกจากบริเวณพระแท่นด้วย นักพรตผู้ถ่อมตนยอมรับการดูถูก
หลังจากการทดสอบครั้งนี้พระสังฆราชจึงตัดสินใจบวชนักบุญโมเสสให้เป็นพระสงฆ์ อับบาโมเสสมีอายุ
ได้ 60 ปีในเวลานั้น อับบาโมเสสได้พยายามทำหน้าที่ของตนอีก 15 ปี และท่านเองยังมีศิษย์อีก 75 คน
.
เมื่อท่านอายุได้ 75 ปี ในฐานะอธิการอาราม ท่านได้เตือนนักพรตของตนว่าเร็ว ๆ นี้ ผู้ร้ายจะมาโจมตี
ชุมชนนักพรตและจะฆ่าทุก ๆ คน อับบาโมเสสได้ร้องขอให้พวกเขาย้ายออกไปแต่ตนเองจะอยู่ต่อ เพราะว่า
ท่านเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่พระวาจาของพระเจ้าจะเป็นจริงที่ว่า “เพราะทุกคนที่ใช้ดาบ ก็จะต้องพินาศด้วยดาบ”
(มัทธิว 26:52) มีนักพรต 7 องค์ที่ตกลงจะอยู่กับอับบาโมเสส เมื่อผู้รายเข้ามาก็ได้ทำการรฆาตรกรรมอับบา
โมเสสและนักพรตองค์อื่น ๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราว ค.ศ.400 มีนักพรตคนหนึ่งที่ซ่อนตัวเมื่อกลุ่มผู้ร้ายเข้ามา
และได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดในขณะที่ผู้รายฆ่าอับบาโมเสสและนักพรตอีก 6 องค์
* * * * * * * * * *
เรื่องราวของนักบุญโมเสสเป็นแบบอย่างที่ดี (เช่นเดียวกับเรื่องราวของนักบุญมารีย์ แห่งอียิปต์) ที่แสดง
ให้เห็นว่าโดยอาศัยการสำนึกผิดและกลับใจอย่างจริงจังเปลี่ยนให้คนที่บาปที่สุดมาเป็นนักบุญที่ยิ่งใหญ่ได้
นักบุญโมเสสเป็นทั้งฆาตรกร, โจร และเป็นคนที่รุนแรง ดังนั้น นักบุญโมเสสเป็นแบบอย่างที่สำคัญของเรา
ในเรื่องการกลับใจและการอภัยของพระเจ้า โดยเฉพาะผู้ที่รู้สึกว่าพวกเขานั้นเต็มไปด้วยบาปเกินที่จะคืนดี
กับพระเจ้าและพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ได้ เพราะเขาหลงผิดและตกสู่บาป “ความชอบธรรม” จะได้รับการ
เพิ่มพูนจากพระเจ้ามากกว่าจากคนบาป เพราะว่า “ความชอบธรรม” ก็เหมือนเรื่องราวที่พระเยซูเจ้าได้ทรง
เล่าในเรื่อง #ฟาริสี กับ #ลูกผู้หลงผิด อย่ามองบาปของพวกเขา เพราะความทะนงตัวจะถูกเพิ่มพูนแทนที่
ความถ่อมตน ในทางตรงกันข้ามเหมือนกับเรื่องราวของบุตรผู้หลงผิดและของคนเก็บภาษี คนที่บาปที่สุด
ผู้ที่สำนึกบาปและกลับใจสามารถใกล้ชิดกับพระเจ้าได้ โดยการกลับใจอย่างต่อเนื่องของตนเอง ซึ่งเป็นผล
มาจากความอ่อนน้อมถ่อมตนของตนเองนั้นเองครับ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านประวัตินักบุญมารีย์ แห่งอียิปต์สามารถอ่านได้ที่นี่เลยครับ
> https://goo.gl/MJ4Ama
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่อ่านครับ หากใครชอบฝากกดไลก์กดแชร์ด้วยนะครับบ #ขอพระเจ้าอวยพร
#นักบุญโมเสสโปรดภาวนาต่อพระเจ้าเพื่อเราเทอญ
CR. : จิตอิสระ
CR. ชีวประวัติ : https://www.facebook.com/834510796680621/posts/pfbid0zp
NoVXGdZ2Yp6gK5J3Zrr8pXWFZ613siYX97kMzurBMxG1RhNrGHqu3vUeYnLDXTl/?d=n