น.โฟสตินาโควัลสกา” ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า” (1-25)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2022 7:57 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า (1905-1938)
" แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ
ของ ซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก
จัดพิมพ์โดยคณะพระเมตตาประเทศไทย....
📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า" เล่มนี้
จะแบ่งออกเป็นตอน ๆ มีทั้งหมด 50 ตอน
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ เสาร์ ก.ย. 03, 2022 8:50 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2022 8:01 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า (1905-1938)
" แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ
ของ ซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก ตอนที่ (1 )

คำนำ จาก คุณพ่อยอห์น บัปติสต์ พงศ์เทพ ประมวลพร้อม
จิตตาธิการคณะพระเมตตาประเทศ ไทย

การเผยแผ่ความศรัทธาต่อ "พระเมตตา" ของพระเยซูเจ้าที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดคือ การลงมือสวด
ภาวนาขอพระเมตตาร่วมกันทั้งผู้เผยแผ่ และผู้รับข่าวสารเรื่องพระเมตตา จากนั้น พระเมตตา
ของพระเยซูเจ้า จะทรงนำเราเช้าสู่การกลับใจ รับศีลอภัยบาปและร่วมถวายพิธีบูชามิสซา
ในชีวิตประจำวันและโดยเฉพาะ อย่างยิ่งในวันฉลองพระเมตตา
ถ้าสังเกตุให้ดี บทภาวนาพระเมตตาทุกบทจะลงท้ายว่า "โปรดเมตตาลูกทั้งหลายและชาวโลกทั้ง
มวลเทอญ" หรือ "เพื่อชดเชยบาปของลูกและของชาวโลกทั้งมวล" ที่เป็นเช่นนี้เพราะพระเมตตาแท้จริง
คือการเริ่มต้นสวดภาวนาให้แก่ผู้อื่น โดยเฉพาะคนบาปหรือคนที่ต้องการคำภาวนา เพราะพระเยซูเจ้า
ทรงเมตตาต่อพวกเขาเป็นพิเศษ จิตตารมณ์นี้ นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ได้รับการไขแสดงจากพระเยซูเจ้า
ให้เธอมีความรู้สึกเช่นนี้อย่างเปี่ยมล้นอยู่ในหัวใจ เธอหรวงคนบาปเพื่อให้ได้รอดกลับมาถวายแด่พระเยซูเจ้า
และพยายามประกาศข่าวสารว่า "พระเมตตายิ่งใหญ่ ตักดื่มกินเท่าไรก็เป็นดั่งมหาสมุทรแห่งความเมตตา
ไม่มีวันเหือดแห้ง" และแท้จริงหนึ่งในบรรดาคนบาปเหล่านั้นก็คือตัวเรา พระเยซูเจ้าและท่านนักบุญ
หวงแหนเรายิ่งนัก....
เหนืออื่นใด "พระเมตตา" นี้เป็นประตูเปิดไว้สำหรับทุกปัญหาที่เราคิดว่าจนตรอกแล้ว แต่มีประตูแห่ง
"พระเมตตา" ของพระเยซูเจ้าเปิดรอเราอยู่ที่จะเมตตานำพาเราไปสู่ทางแห่งความรอดพ้นเสมอ ตราบเท่าที่
เราเข้ามาแสดงความไว้วางใจในพระเยซูเจ้าทันเวลาก่อนสิ้นใจ แต่ใครเล่าจะเข้ามาทันถ้าไม่เริ่มแต่บัดนี้...
หนังสือประวัติ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา" ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้าเล่มนี้ อาจเป็นหนทางที่ทำ
ให้เราเข้าใจและเข้ามาเริ่มต้นสวดภาวนาขอพระเมตตาเพื่อเราทั้งหลาย และชาวโลกทั้งมวลจะได้รับ
พระเมตตาจากพระเยซูเจ้าครบถ้วนทุกคนไม่เว้นใครเลย....

🙏 พระเยซูเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์ ...

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 2 ) ในวันต่อไป
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ อังคาร ส.ค. 16, 2022 5:30 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2022 8:05 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า แปลจากต้นฉบับ
ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก ตอนที่ ( 2 ):

ชีวิตช่วงแรก (2905-1925) ชีวิตที่บ้านเกิด
ซิสเตอร์มาเรียโฟสตินาแห่งศิลมาหาสนิท หรือ 'ซิสเตอร์โฟสตินา' เกิดที่โกลกอเวียตส์ หมู่บ้านเล็ก ๆ
ในชวีนีตส์แซวาร์สเกียไม่ไกลนักจากเทศมณฑลวูช เมืองสิ่งทอในเขตตูเร็กแถบใจกลางประเทศโปแลนด์...
สตานิสวอฟ โควัลสกี พ่อของเธอ เกิด 6 พฤษภาคม 1868 ในหมู่บ้านชวีนีตส์ ส่วนแม่ของเธอ
มาเรียนนา บาแบล เกิด 8 มีนาคม 1875 ในหมู่บ้านเมียเวียใกล้ ๆ กัน ทั้งสองแต่งงานกัน
เมื่อ 28 ตุลาคม 1892 แล้วมาตั้งรกรากอยู่ในโกลกอเวียตส์....
'โกลกอเวียตส์' มาจากคำว่า 'กล๊อก' หมายถึง ผลไม้ลูกเล็ก ๆ ของต้นฮอธอร์น ไม้พุ่มขนาดเล็กมีหนาม
ในตระกูลแอปเปิล ดอกสีชมพูกับสีขาวของฮอธอร์น ขึ้นชื่อว่ามีกลิ่นหอม ฮอธอร์นดอกหนึ่งได้เบ่งบานขึ้น
ด้วยเดชะพระญาณสอดส่อง ในหมู่บ้านสมถะแห่งนี้แล้ว....
สารพระเมตตาที่เธอได้รับ ซึ่งบรรยายภาพลำแสงสีแดงกับสีจางหลั่งไหลออกมาจากพระหฤทัยของ
พระเยซูเจ้านั้น เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก จึงสมควรแก่เวลาแล้วที่เราจะมารู้จักความเป็นมาของผู้นำสาร
ท่านนี้ให้ดียิ่งขึ้น.....
ถนนประจำหมู่บ้านทอดยาวจากชวีนีตส์ไปสู่โกลกอเวียตส์ราวสามกิโลเมตร คดเคี้ยวเลี้ยวไปตาม
ที่ราบดินทราย คั่นด้วยป่ากับทิวไม้เป็นระยะ ดินแล้งเช่นนี้ปลูกได้แต่มันฝรั่งและข้าวไรย์ ยังมีทุ่งเลี้ยงสัตว์
ที่ปล่อยไว้ให้วัวเล็มหญ้าอยู่บ้าง แต่ก่อนนั้นวัวเล็มหญ้าได้เฉพาะตามร่องทางเดินระหว่างต้นข้าวที่ดกเขียว
หรือตามแนวเขตของที่ดินเท่านั้น...
เบื้องหลังหมู่บ้านเป็นทิวสนสูงตระหว่าน มีบ้านเดี่ยวพร้อมสวนขนาดย่อมกระจายอยู่ตามท้องทุ่ง
ไม่ก็ปลูกเรียงรายอยู่สองข้างทาง บ้านของครอบครัวโควัลสกีอยู่บนถนนสายนี้ ตัวบ้านก่อด้วยหินผสมอิฐ
หลังคามุงกาบไม้เหมือนบ้านตามชนบททั่วไป มีสองห้อง พื้นครัวเป็นดิน ตัวบ้านกับโรงนาสองโรง
ล้อมลานบ้านสามด้าน....
เก้าปีแรกคู่สามีภรรยาโควัลสกียังไม่พร้อมีพยานรักด้วยกันสักคน มาเรียนนากับแม่จึงระดมสวดวิงวอน
ขอพรจากพระ จนในที่สุดคำภาวนาก็ได้รับการตอบสนอง.....
ปี 1901 หลังมาเรียนนาเจ็บครรภ์นานสามวันจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เธอก็คลอดลูกสาวชื่อโยเซฟิน
ต่อมาอีกสองปี เธอให้กำเนิดลูกสาวอีกคน สองท้องแรกนี้คลอดยากยิ่ง จนมาเรียนนา อดวิตกไม่ได้เมื่อ
ตั้งครรภ์ลูกคนที่สาม แต่ท้องนี้กลับคลอดง่าย เธอให้กำเนิดลูกสาวคนที่สาม
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ 1905.....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 3 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ส.ค. 16, 2022 5:34 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก ตอนที่ ( 3 )

: สองวันต่อมา คุณพ่อโยเซฟ ฮอดเดอญิงสกี เจ้าอาวาสวัดนักบุญคาสิเมียร์ ในชวีนีตส์ ได้โปรดศีล
ล้างบาปให้ทารกน้อย และตั้งชื่อเธอว่า 'เฮเลนา' พ่อกับแม่ทูนหัวของเธอคือ มัลร์ชิน วูกอฟสกี และ
มาเรียภชีฟชึก เชชปาเญียก
หลังจากฮาเลน มาเรียนนามีลูกอีกเจ็ดคน และคลอดง่ายทุกรายเธอมั่นใจว่า "เฮเลนกา
(ชื่อเล่นของเฮเลน) เป็นเด็กที่ได้รับพร เธอทำให้ครรภ์ของฉันบริสุทธิ์" มาเรียนนาเสียลูกสาวไปสองคน
(คาซีมีรา และ บรอนิสลาวา) ตั้งแต่วัยแบเบาะ
ต้นศตวรรษที่ 19 เป็นช่วงที่มีแต่เหตุการณ์วุ่นวาย การปฎิวัติ และเหตุประท้วง แต่ข่าวคราวเหล่านี้
แทบเข้ามาไม่ถึงหมู่บ้านโกลกอเวียตส์ที่เงียบสงบเลย ชาวนาอย่างสตานิสวอฟสนใจแต่เรื่องหารายได้
ให้สมดุลกับรายจ่าย แม่เขาเป็นเจ้าของที่ดินเพาะปลูกถึง 17.5 ไร่ กับทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์อีก 12.5 ไร่ ก็ยัง
แทบไม่พอหาเลี้ยงครอบครัวขนาดใหญ่ของเขา สตานิสวอฟจึงทำงานช่างไม้หารายได้เสริมอีกทาง
แม้สตานิสวอฟทำงานช่างไม้ตอนกลางวัน และดูแลฟาร์มหลังจากนั้นจนดึกดื่น แต่เขาก็ตื่นแต่เช้ามืด
ประเดิมวันใหม่ด้วยการร้องเพลง สรรเสริญพระนางพรหมจารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมล ส่วนในช่วงมหาพรต
เขาก็เปลี่ยนไปร้องเพลงครํ่าครวญถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า มาเรียนนาคอยปราม หยุดร้องเพลง
เถอะพ่อ เดี๋ยวก็ตื่นกันทั้งบ้านหรอก มีบ้างเหมือนกันที่เขาแย้งเธอว่า "หน้าที่แรกของเราคือหน้าที่ต่อพระเจ้า"
ซึ่งเป็นการสื่อความหมายในบทเพลงสรรเสริญที่เขาร้องในทุกเช้า....
" ยามแสงอรุณต้องกายข้า กังวานก้องซ้องสำเนียงเสียงโมทนา จากผืนฟ้า พสุธา มหานที สรรพชีวี
ในจักรวาล ล้วนขับขานเทิดไท้สักการ แล้วเราผองชน ผลงานพระภูบาล ผู้รับการไถ่กู้จากองค์พระเยซูเล่า
จักเนานิ่งดูดายอยู่ได้กระไร !…"
สตานิสวอฟ เลี้ยงครอบครัวตามพระบัญญัติของพระเจ้าและของพระศาสนจักรตามประเพณีเก่าแก่
ของชาวโปแลนด์
เฮเลนได้รับการปลูกฝังให้สวดภาวนาบทสั้น ๆ ตั้งแต่เด็ก ครั้นพอโตขึ้นเธอก็สวดภาวนาร่วมกับครอบครัว
เฮเลนเป็นเด็กที่ชอบสนทนากับชาวสวรรค์ แม่ของเธอจำความฝันที่เธอเล่าให้ฟังตอนห้าขวบได้ว่า
"หนูเดินจูงมือแม่พระอยู่ในสวนสวย ๆ ที่นึงค่ะ"
พระเจ้าดึงดูดความสนใจของเธอตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเธออายุได้เจ็ดขวบ เธอรับรู้ว่าพระเจ้าเชิญชวนเธอ
ให้เจริญชีวิตที่ครบครันยิ่งขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างการตั้งศิลมหาสนิทตอนสวดทำวัตรเย็น เธอเล่า
ในภายหลังว่า "แต่ดิฉันก็ไม่ได้ทำตามเสียงเรียกของพระหรรษทานเสมอไป
ดิฉันไม่รู้จักใครที่จะชี้แจงเรื่องเหล่านี้ให้ฟังได้...

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 4 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ส.ค. 16, 2022 5:40 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก ตอนที่ ( 4 )

: สตานิสวอฟ น้องชายของเฮเลน จำได้ว่าเธอมักปล่อยให้วัวเล็มหญ้าตามทางแคบ ๆ รอบที่ดินของ
ครอบครัว วัวจึงไม่สร้างความเสียหายให้นาข้าวของบ้านใกล้เรือนเคียง ทั้งเป็นเพราะเฮเลนมีอัธยาศัยดี
พูดจาน่าคบหา จึงได้รับความเอ็นดูจากเพื่อนบ้าน
ทุกครั้งที่เฮเลนนำวัวออกไปเล็มหญ้า มักมีเด็ก ๆ ติดสอยห้อยตามเป็นพรวน เด็ก ๆ ชอบเพราะเธอ
เป็นคนใจดี และอยากฟังเธอเล่านิทานด้วย เฮเลนนำข้อมูลที่ได้จากหนังสือเสริมศรัทธาที่มีอยู่ไม่กี่เล่ม
จากพระคัมภีร์บ้าง นิตยสารแพร่ธรรมกับประวัตินักบุญบ้าง มาผูกเรื่องเล่าเป็นนิทาน เธอเล่าทุกเรื่องได้
อย่างออกรสและน่าทึ่งจนเด็ก ๆ ติดใจ เธอมักบอกเด็ก ๆว่า สักวันเธอจะออกจากบ้านไปอยู่อาศรมในป่า
กินรากไม้กับผลไม้ประทังชีวิต หรือไม่ก็ไปเป็นมิชชันนารีสอนคนต่างศาสนา พวกเด็ก ๆ จะคล้อยตาม
แรงศรัทธาของเธอจนพร้อมจะตามติดเธอไปทุกที่
เนื่องจากเฮเลนเข้ากับคนง่ายและมีความคิดสร้างสรรค์ เธอจึงนำเศษกระดาษ กับเศษผ้ามาประดิษฐ์
ประดอยเป็นของเล่นไว้เล่นขายของกัน เธอขายของพวกนี้ให้เพื่อน ๆ แล้วนำเศษสตางค์ที่ได้มาไปช่วย
เหลือเด็ก 'ยากจน' เธอเป็นคนรักสัตว์ด้วย ถ้ามีสุนัขป่วย หรือมีไก่บาดเจ็บ เฮเลนจะช่วยรักษาพยาบาลทันที
พอเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โปแลนด์ต้องประสบความหายนะ เกิดความอดอยากแร้นแค้นไปทุก
หย่อมหญ้า ครอบครัวของเธอแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าสภาพดีใส่ไปวัด เฮเลนรู้สึกผิดหวัง
ทุกครั้งที่เธอไปฟังมิสซาวันอาทิตย์ไม่ได้ เธอมักหยิบหนังสือสวดปลีกตัวไปภาวนาในเวลาเดียวกับที่ทางวัด
มีมิสซา ถ้าแม่เรียกใช้เธอในช่วงนั้น เธอก็ไม่ขานตอบ จนกว่าจะแน่ใจว่ามิสซาจบลงแล้ว เธอจึงไปหาแม่
จูบมือท่านพลางกล่าวว่า "แม่อย่าโกรธหนูนะ หนูต้องทำหน้าที่ของหนูต่อพระค่ะ"
ช่วงสองปีต่อมาขณะเฮเลนช่วยทำงานบ้าน เธอกลับติดใจใฝ่ฝันในเรื่องอื่น เธอไม่อยากอยู่บ้านอีกแล้ว
เธอชอบชีวิตรับใช้พระเจ้าแบบเต็มตัว แม้เธอไม่เคยรู้ว่าชีวิตในอารามเป็นอย่างไร แต่เธอก็มั่นใจว่าต้อง
มีชีวิตแบบนั้นที่ไหนสักแห่ง ชีวิตแบบที่เธอต้องการ เธออยากมีเวลาสวดภาวนามากขึ้น เธอตื่นขึ้นมาสวด
กลางดึกเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เธอบอกพ่อกับแม่ว่า เธอมักเห็นแสงประหลาด ท่านทั้งสองสั่งให้เธอเลิกฟุ้งซ่าน
และหยุดพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เธอจึงไม่เอ่ยถึงประสบ การณ์ที่ไม่ธรรมดานี้อีก...
มีเพียงครั้งเดียวที่เฮเลนทำให้พ่อเสียใจและโกรธจัด ตอนนั้นเธออายุ 14 ปี โยเซฟิน พี่สาวคนโต ได้
รับเชิญไปงานเลี้ยงในชวีนีตส์ เนื่องจากพ่อของเธอเป็นคนระมัดระวังเรื่องมารยาทสังคมมากเขาจึงให้เฮเลน
ไปเป็นเพื่อนพี่สาว สองพี่น้องกลับมาจากงานเลี้ยงพร้อมกับชายหนุ่มอีกคน ลูงของเฮเลนเห็นเข้าจึงรายงาน
พ่อของเธอจนเกินจริง พ่อโกรธจัดตำหนิและลงโทษลูกสาวทั้งสองอย่างรุนแรงที่สร้างความอับอายขายหน้า
ให้แก่ครอบครัว เธอพยายามชี้แจงอธิบายกับพ่อ แต่พ่อไม่ยอมฟัง เฮเลนจึงตัดสินใจแน่วแน่ "ดิฉันเป็น
ต้นเหตุให้พ่อเสียใจ ดิฉันจะต้องชดเชยเป็นร้อยเท่า ด้วยการนำเกียรติยศมาสู่ท่าน ไม่ใช่ความอัปยศ "....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 5 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ส.ค. 18, 2022 9:02 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 5 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

หญิงรับใช้ ระหว่างฤดูใบไม้ผลิปี 1921 เฮเลนอายุได้ 15 ปี เธอบอกแม่ว่า "แม่คะ" พ่อทำงานหนัก
ขนาดนี้ หนูก็ยังไม่มีเสื้อผ้าดี ๆ ใส่เลย ชุดของหนูซอมซ่อที่สุด หนูควรออกไปหาเงินใช้เองได้แล้ว"
แม่ของเธอยินยอมให้ลูกสาวสองคนออกไปทำงานเป็นหญิงรับใช้ แม่ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้ว
จึงพูดว่า "งั้นก็ขอให้ลูกไปในนามพระเจ้า" เฮเลนจึงจากบ้านไปทำงานให้นางเฮเลน กอร์ชเชสกา
พี่สาวของเพื่อนบ้านในอเล็กซันโดรวา ใกล้เมืองวูช
เฮเลนเป็นหญิงรับใช้ที่รู้ใจ นบนอบและร่าเริงขณะทำงาน เธอทำหน้าที่ได้อย่างดี นายจ้างพอใจ
มากเป็นพิเศษกับวิธีที่เธอสร้างความเพลิดเพลินให้ลูกชายตัวน้อยของนางด้วยการเล่านิทานที่เธอถนัด
แต่ทำงานได้ไม่ถึงปี เฮเลนก็แจ้งนายจ้างว่าเธออยากลาออก นายจ้างอยากให้เธออยู่ต่อจึงซักว่า
"เธอจะลาออกไปทำไมกัน" เฮเลนตอบว่า "หนูตอบไม่ได้ค่ะ แต่หนูอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว " ด้วย
คำตอบที่กำกวมนี้เธอได้ทิ้งงานหาเลี้ยงชีพงานแรกของเธอ
เรื่องที่นายจ้างของเธอไม่รู้ก็คือ เธอภาวนาระหว่างทำงานตอนกลางวัน บ่อยครั้งก็ภาวนาจน
ดึกดื่นเธอนอนไม่หลับ แสงประหลาดทำให้เธอหลับไม่ลง ความปรารถนาพระเจ้าเพิ่มพูนขึ้นในตัวเธอ
เธอรู้ว่าเธอต้องตัดสินใจบางอย่างแล้ว เธอบอกแม่ของเธอว่า "แม่คะ หนูต้องไปเข้าอารามค่ะ"
ทั้งพ่อ และแม่ไม่สนใจฟัง พ่ออ้างว่า "พ่อไม่มีเงินสินสอด ( เงินและชุดที่ผู้ต้องการเป็นนักบวชต้องจ่าย)
แถมพ่อยังมีหนี้สินอีกตั้งมาก เธอตอบว่า "พ่อคะ หนูไม่จำเป็นต้องใช้เงิน พระเยซูเจ้าจะพาหนูไปเข้า
อารามเอง" แต่พ่อกับแม่ก็ยังยืนกรานไม่ยอมให้เธอเข้าอารามอยู่ดี...
พอถึงฤดูใบไม้ร่วงปี 1922 เฺฮเลนออกจากบ้านไปอีกด้วยความผิดหวัง คราวนี้เธอไปทำงานที่วูช
เธอพักอยู่กับลูกพี่ลูกน้อง และไปทำงานให้หญิงนักพรตชั้นสาม คณะนักบุญฟรังซิสสามคน แม้ได้
เงินค่าจ้างไม่มาก แต่เฮเลนกลับพอใจ เพราะเธอได้รับอนุญาตให้เข้ามิสซาได้ทุกวัน แถมยังเยี่ยมคน
ใกล้ตายในละแวกนั้นอีก นับว่าเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่ธรรมดาของสาวน้อยวัยสิบเจ็ด นอกจากนี้เธอยัง
ขอสารภาพบาปกับคุณพ่อวิซชิคอฟสกี ผู้ฟังแก้บาปของพวกเขาด้วย
เฮเลนกลับไปขออนุญาต พ่อกับแม่เข้าอารามอีก แต่พวกท่านก็ยังปฏิเสธเสียงแข็งเหมือนเดิม
เธอถอดใจ จึงตัดใจละทิ้งชีวิตฝ่ายจิตไปเริ่มใช้ชีวิตที่เธอเรียกว่า 'ชีวิตทางโลกที่วุ่นวายสับสน'
เธอกลบเกลื่อนเสียงดลใจจากพระหรรษทานด้วยการทำตามใจตัวเอง เช่น หัดแต่งเนื้อแต่งตัว
ซื้อเสื้อผ้าตามสมัยนิยม เต้นรำกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง แต่กิจกรรมพวกนี้กลับไม่ได้ทำให้เธอเบิกบาน
หรือสนองความต้องการฝ่ายวิญญาณได้เลย...

โปรดติดตาม ตอนที่( 6 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ส.ค. 18, 2022 9:05 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ (6 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

กระแสเรียก
หลังจากอำลานางซาดอฟสกามาได้ไม่นาน เฮเลนก็ไปงานเต้นรำกับโยเซฟิน พี่สาวในขณะที่คนอื่น
กำลังสรวลเสเฮฮากัน เฮเลนกลับถูกความทุกข์รุมเร้า ทันทีที่เธอออกไปเต้นรำ เธอเห็นพระเยซูเจ้า
ประทับยืนใกล้เธอฉลองพระองค์ถูกเปลื้องออก พระวรกายมีแต่บาดแผลพระเยซูเจ้าชำเลืองมองเธอ
อย่างตำหนิ บอกเธอว่า เราต้องทนลูกไปอีกนานแค่ไหน แล้วลูกจะผลัดเราไปอีกนานเท่าไร... ในขณะนั้น
เธอไม่ได้ยินเสียงเพลงไพเราะเสนาะหู ผู้คนรอบ ๆ ตัวหายไปจากสายตา เธออยู่กับพระเยซูเจ้าตามลำพัง
เธอเดินออกจากฟลอร์ไปนั่งข้างพี่สาว ทำทีปวดศีรษะขึ้นมาปุบปับ แล้วก็เลี่ยงออกไปโดยไม่มีใครเห็น
เธอเดินไปที่อาสนวิหารนักบุญสตานิสวอฟ คอสกา ตอนนั้นเป็นเวลาพลบค่ำแล้วมีคนอยู่ในวัดไม่กี่คน
เฮเลนไม่สนใจใครทั้งสิ้น นอนราบคว่ำหน้าลงเบื้องหน้าพระแท่น ขอความสว่างจากพระเยซูเจ้าให้เธอ
ล่วงรู้พระประสงค์ ให้เธอรู้ว่าควรทำอะไรต่อไป พลันเธอได้ยินคำพูดว่า ไปวอร์ซอเดี๋ยวนี้ลูกจะเข้าอารามที่นั่น....
เฮเลนลุกขึ้น กลับไปเก็บข้าวของ เธอรํ่าลาพี่สาวในตอนเช้า แวะไปบอกลุง "ฉันกำลังไปเข้าอารามที่วอร์ซอ"
ลุงของเธอโวยวายลั่น เธอก็รู้นี่นาว่าเรื่องนี้จะทำให้แม่กับพ่อของเธอช้ำใจแค่ไหน ! เธอตอบว่า
"งั้นลุงก็อย่าเพิ่งบอกท่านสิคะ" เอาไว้ลุงไปหาท่านคราวหน้า ค่อยเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปให้ท่าน ลุงของเธอถาม
แล้วเธอจะใส่อะไรล่ะ เธอตอบว่า "แค่ชุดที่ฉันสวมอยู่นี่ก็พอแล้ว พระเยซูเจ้าจะจัดหาของที่จำเป็นให้ฉันเอง "....
เธอออกเดินทางไปวอร์ซอโดยมีเสื้อผ้าใส่ติดตัวไปชุดเดียว ลุงพาเธอไปส่งที่สถานีรถไฟ กำลังใจของ
เธอยังดีอยู่ จนเธอเข้าไปนั่งในตู้โดยสารนั่นแหละถึงได้ร้องไห้ เธอคิด ถ้าแม่รู้เรื่อง คงคิดว่าฉันหนีออก
จากบ้านแน่ เธอเศร้าใจเพราะรู้ว่าการกระทำของเธอจะทำให้พ่อ แม่ เสียใจ แต่เธอก็ตระหนักแน่แก่ใจว่า
เธอจำต้องนบนอบพระเจ้าผู้ที่เธอรักมาเนิ่นนานตั้งแต่เธออายุ เจ็ดขวบ....
รถไฟมาถึงวอร์ซอตอนบ่ายแก่ ๆ เธอตื่นคน เธอไม่รู้จักใครในวอร์ซอสักคน เธอสวดขอแม่พระ
อย่างสิ้นหวัง "พระแม่มารีย์ โปรดนำทางลูกด้วย โปรดชี้แนะลูกด้วยเถิด" พลันมีเสียงในวิญญาณบอก
ให้เธอออกนอกเมือง แล้วเธอจะได้ที่พักที่ปลอดภัย ในหมู่บ้านใกล้ ๆ เธอทำตามนั้นแล้วก็พบว่าทุกอย่าง
เป็นไปตามที่แม่พระบอก....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 7 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ส.ค. 19, 2022 8:10 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 7 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

: เช้าวันรุ่งขึ้นเธอกลับเข้าเมืองแล้วเยี่ยมวัดแห่งแรก คือวัดนักบุญยากอบ ในเขตชานเมืองออก์คอตา
เธอคุกเข่าลงภาวนาขอให้พระเจ้าเผยพระประสงค์ให้เธอรู้ ระหว่างมิสซาเธอได้ยินคำพูดว่า ไปหา
พระสงฆ์องค์นั้น แล้วเล่าทุกอย่างให้ท่านฟัง ท่านจะบอกลูกเองว่าควรทำอะไรต่อไป...
หลังมิสซาเธอไปที่ห้องสักการภัณฑ์ แล้วเล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นให้พระสงฆ์ฟัง เธอขอคำแนะนำ
จากท่านว่าเธอควรเข้าอารามใด....
พระสงฆ์องค์นั้นแปลกใจในทีแรก แต่แล่วท่านก็บอกให้เธอวางใจแล้วรอการชึ้นำจากพระ ท่าน
ยื่นจดหมายสั้น ๆ ให้เธอฉบับหนึ่งบอกเธอว่า "สำหรับตอนนี้ พ่อจะส่งลูกไปหาผู้หญิงใจศรัทธาคนหนึ่ง
ลูกจะพักอยู่กับเธอจนกว่าลูกจะเข้าอาราม".....
ด้วยเหตุนี้ ระหว่างฤดูร้อนปี 1924 คุณพ่อเจมส์ ดอมบรอฟสกีจึงส่งเธอไปหานางอัลโดนา ลิปชึชส์...
เฮเลนถือจดหมายของคุณพ่อเจมส์มาหาครอบครัวนี้ จดหมายมีใจความว่า "พ่อไม่รู้จักเธอหรอกนะ
แต่พ่อหวังว่าเธอจะมีคุณสมบัติตามที่ต้องการ"...
นางลิปซึซส์ ต้องชะตากับเฮเลนมาก นางชื่นชมเธอว่าเป็นคนที่แข็งแรง ใจดี ร่าเริงสดใส นางสังเกต
เห็นว่าเฮเลนมีแต่ข้าวของที่พกไว้ในห่อผ้าติดตัวมาเท่านั้น นางจึงให้เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มแก่เธอเป็นอันดับแรก
เฮเลนแจงว่าเธอจากบ้านมาเพราะต้องการเป็นนักบวช และตั้งใจจะเข้าอารามทันทีที่หาเงินค่าสินสอดได้...
เฮเลนทำตามคำแนะนำของนางลิปซึซส์ เธอเริ่มออกเยี่ยมอารามแห่งแล้วแห่งเล่าในเมืองวอร์ซอที่กว้าง
ใหญ่น่าเกรงขาม สารรูปของเธอที่ไม่ได้รับการเหลียวแลเท่าไหร่ ขาดการศึกษา การที่ยากจนเกินไป
กับอาชีพสาวใช้ของเธอในขณะนั้น เป็นสาเหตุให้ทุกอารามที่เธอไปสมัครบอกปัดไม่รับเธอ โดยแจ้งว่า
"ที่นี่ไม่รับสาวใช้" เฮเลนเรียกหาพระเยซูเจ้าด้วยความชํ้าใจ 'โปรดช่วยลูกด้วยเถิด อย่าทอดทิ้งลูกเลย' ....
วันหนึ่งเธอมาถึงอารามคณะภคินีพระแม่แห่งความเมตตา ถนนซิตเนีย เธอยืนประหม่าอยู่หน้าประตู
อารามที่แลดูสมถะ เธอเคาะ คนเฝ้าประตูก็ชะโงกหน้าออกมาถาม ต้องการอะไรหรือแม่หนู เธอตอบว่า
"ดิฉันต้องการเข้าอารามค่ะ" เข้ามารอข้างในก่อนซิ ฉันจะไปตามคุณแม่อธิการให้นะ เธอรอได้สักพัก คุณแม่
มีคาแอล มอรัชชัฟสกา ก็เดินเข้ามาในห้อง เฮเลนหารู้ไม่ว่าท่านอธิการิณีเฝ้าดูเธอตั้งแต่เดินเข้าประตูมาแล้ว
และก็ไม่ประทับใจรูปลักษณ์ของเธอสักเท่าไหร่ ท่านตั้งใจจะฟังคำร้องขอเข้าอารามพอเป็นพิธี แล้วค่อย
ปฏิเสธเธออย่างนุ่มนวล ระหว่างสนทนากัน คุณแม่มีคาแอลสังเกตดูผู้สมัครรายนี้เห็นว่าพอจะมีเค้าดีอยู่บ้าง
เธอมีรอยยิ้มที่สดใส หน้าตาก็จิ้มลิ้ม ดูเปิดเผยและจริงใจมาก อีกทั้งคำพูดคำจาก็ยังแสดงให้เห็นว่าเธอมี
สามัญสำนึกที่ดีทีเดียว คุณแม่ตัดสินใจรับเธอไว้ เป็นที่น่าสังเกตว่าเฮเลนกลับจดจำเรื่องราวการพบปะกัน
ครั้งแรกในแง่มุมที่ต่างไปจากนี้มาก.....

โปรดติดตาม ตอนที่( 8 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ส.ค. 21, 2022 8:51 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ( 8 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

ความยากจนของเฮเลนกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของการเข้าอาราม เธอไม่มีเงินสินสอด
ทางสันตะสำนักย่อมยกเว้นกฎข้อนี้ได้แต่เธอจำเป็นต้องมีชุดใส่ในชั้นเรียน และทางคณะก็ไม่มี
ทุนสำรองเพื่อการนี้
ท่านอธิการิณีจึงแนะว่าเธอควรทำงานไปก่อนเพื่อออมเงินไว้ซื้อชุด เฮเลนพอใจกับความคิดนี้มาก
จึงตกลงกันว่าเธอจะนำเงินที่สะสมได้มาฝากไว้ที่อารามเป็นงวด ๆ และเธอก็กลับมาทำงานให้กับ
นางลิปซีซส์ต่อ เพื่อหาเงินให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการ...
สองสามเดือนต่อมา คุณแม่อธิการก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้รับรายงานว่า มีเด็กสาวคนหนึ่ง
นำเงิน 60 ซวอตี มาให้เก็บรักษาตามที่ตกลงกันไว้ หลังจากมี่ท่านอธิการพยายามนั่งทบทวนอยู่
ครู่หนึ่ง คุณแม่ก็นึกขึ้นได้ นับจากนั้นเงินสะสมของเฮเลนก็พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ เธอสามารถหาเงินได้
ครบตามจำนวนภายในปีเดียว....
แต่ก็มีอยู่สองเรื่องที่ท้าทายเธอในช่วงนั้น เรื่องแรกเพราะนางลิปซึซส์ นายจ้างใจดีของเธอ
ต้องชะตากับเธอ ไม่เข้าใจเรื่องความสุขในชีวิตนักบวช นางจึงเริ่มวางแผนให้เฮเลนแต่งงาน
ซึ่งเฮเลนไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลย นางไม่เคยรู้มาก่อนว่าเฮเลนตัดสินใจครั้งสำคัญซึ่งกำหนดชีวิต
ของเธอแล้ว เฮเลนปฏิญาณตนถือความบริสุทธิ์ตลอดไปด้วยคำพูดใสซื่อ จึงไม่น่าแปลกใจที่เพลงโปรด
ในช่วงเวลานี้ของเธอ คือ "พระเยซูผู้ซ่อนพระองค์" พระเยซูผู้ซ่อนพระองค์ในศิลมหาสนิท พระองค์ที่ลูก
สมควรเทิดทูนบูชา ลูกละทิ้งทุกสิ่งมาเพื่อพระองค์ ประทังชีวิตด้วยความรักของพระองค์เท่านั้น
เรื่องท้าทายเรื่องที่สอง เฮเลนเขียนจดหมายเล่าให้พ่อกับแม่ทราบว่า เธอจะได้เข้าอารามหลังจาก
หาเงินจ่ายค่าชุดใส่ในชั้นเรียนได้แล้ว ทางบ้านจึงส่งพี่สาวของเธอมาเยี่ยมเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เฮเลน
เปลี่ยนใจ แล้วชวนเธอกลับบ้านด้วยกัน เฮเลนปฏิเสธและตัดสินใจเด็ดเดี่ยวที่จะเข้าอารามพี่สาวเธอ
จึงเลิกรบเร้า และกลับบ้าน พ่อ กับ แม่ เสียใจอย่างมากเมื่อเห็นพี่สาวเธอกลับมาคนเดียว....
ในที่สุด เมื่อหมดอุปสรรค เฮเลนจึงได้เข้าอารามในวันเตรียมฉลองพระแม่แห่งนิกรเทวดา
วันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ.1925 เธอบันทึกว่า "ดิฉันมีความสุขมาก เหมือนได้ก้าวสู่ชีวิตในสวนสวรรค์มี
คำภาวนาเพียงบทเดียวที่พรั่งพรูออกมาจากหัวใจ นั่นคือ บทโมทนาพระคุณพระเจ้า "....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 9 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ส.ค. 21, 2022 8:57 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า (ตอนที่ ( 9 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

ชีวิตในนวกภาพ ผู้เตรียมบวช
คณะภคินีพระแม่แห่งความเมตตาซึ่งรับเฮเลนไว้นี้ ก่อตั้งขึ้นโดย เทเรซา รองโด ในปี ค.ศ. 1818
ที่ลาวาล ประเทศฝรั่งเศส จุดประสงค์หลักของคณะ คือ เลียนแบบพระคริสตเจ้า ด้วยการแสดง
ความเมตตาของพระองค์ต่อทุกขเวทนาฝ่ายจิตวิญญาณของมนุษย์ ส่วนจุดมุ่งหมายพิเศษคือ
เพื่อฟื้นฟูจิตใจของสตรีกับเยาวชนหญิงที่หลงผิด คณะฯ มีความเลื่อมใสศรัทธาเป็นพิเศษต่อ
พระนางมารีย์ พระมารดาแห่งความเมตตา องค์อุปถัมภ์ของคณะฯ....
คณะนี้ประกอบด้วยภคินีสองกลุ่ม คือ * ภคินีผู้สอน และ ** ภคินีผู้ช่วยงาน
*ภคินีผู้สอนมีหน้าที่อบรมบรรดาสตรี และ เยาวชนหญิงด้วยจิตตารมณ์คริสตชน...
**ส่วนภคินีผู้ช่วยงานมีหน้าที่ช่วยทำงานบ้าน ภาวนา พลีกรรม และทรมานกาย คณะฯ
รับเฮเลนไว้ให้ทำหน้าที่อย่างหลังนี้....
เฮเลนเข้ามาอยู่ในคณะฯ ได้เพียงสามสัปดาห์ ก็อยากลาออกเสียแล้ว เธอคิดว่าเธอมีเวลา
สวดภาวนาน้อยเกินไป และมีเงื่อนไขอื่น ๆ ทีเธอไม่ชอบ เธอจึงอยากเปลี่ยนไปเข้าคณะอื่นที่
เคร่งกว่าและสมถะกว่า คืนหนึ่งเธอตัดสินใจจะบอกคุณแม่อธิการว่าเธอต้องการลาออก
แต่พระเจ้าทรง จัดการมิให้เธอมีโอกาสได้พบท่าน...
ก่อนเข้านอนคืนนั้น เธอเข้าไปสวดภาวนาในวัดน้อย เพื่อขอให้พระนำทาง เธอมีแต่ความว้าวุ่นใจ
ซึ่งเธอเองก็ไม่เข้าใจ แต่เธอก็ยังตั้งใจจะเรียนให้คุณแม่อธิการิณีทราบในวันรุ่งขึ้นทันทีหลังเลิกมิสซา...
พวกภคินีปิดไฟเข้านอนกันหมดแล้ว ตอนเธอเดินกลับห้องพัก เธอกลัดกลุ้มและคับข้องใจไม่รู้
จะหันไปพึ่งใคร จึงโถมตัวลงกับพื้น วิงวอนขอพระเจ้าช่วยให้เธอล่วงรู้พระประสงค์ ขณะภาวนา
มีแสงสาดเข้ามาในห้องบริเวณที่เธอนอน เธอมองเห็นพระพักตร์หมองเศร้าของพระเยซูเจ้าปรากฏ
บนผืนม่าน พระพักตร์มีแต่บาดแผล หยาดน้ำตาหยดลงบนผ้าปูที่นอน สีขาวของเธอ เธอไม่เข้าใจ
ความหมายของนิมิตนี้ จึงถามพระองค์ว่า "พระเยซูเจ้าข้า ใครทำให้พระองค์เสียพระทัยขนาดนี้ "
พระองค์ตอบว่า ลูกนั่นแหละจะทำให้เราเสียใจหากลูกออกจากอารามนี้ไป เราเรียกลูกเข้ามาที่
อารามนี้ มิใช่ที่อื่น และเราจัดเตรียมพระหรรษทานมากมายไว้ให้กับลูก...เฺฮเลนสะเทือนใจยิ่ง
กราบขอโทษ และเปลี่ยนใจอยู่ในอารามนี้ต่อ...

โปรดติดตาม ตอนที่( 10 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 24, 2022 11:27 am

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 10 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

: พิธีรับเสื้อและผ้าคลุมจัดขึ้นวันที่ 30 เมษายน ค.ศ.1926 ในโอกาสนี้ พระเจ้าได้เผยให้เฮเลนรู้
ระดับความทุกข์ในอนาคตของเธอ เธอเข้าใจในทันทีว่าเธอกำลังผูกมัดตนเองกับอะไร เธอเจ็บ
แปลบจากการเปิดเผยนี้เพียงชั่วขณะ จากนั้นพระเจ้าได้ประทานความบรรเทาให้แก่วิญญาณ
เธออีกมากมาย....
เมื่อเฮเลนได้รับเสื้อคลุมกับผ้าคลุมศีรษะสีขาวแล้ว ก็ได้รับชื่อใหม่เพื่อเป็นเครื่องหมายว่า
พวกเธอกำลังตั้งต้นชีวิตใหม่ จากวันนั้นมา เฮเลนโควัลสกา ก็ได้ชื่อใหม่ว่า 'ซิสเตอร์มาเรียโฟสตินา'
หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า ซิสเตอร์โฟสตินา ชื่อ "โฟสตินา' แปลว่า ผู้โชคดีมีสุข หรือ ผู้ที่ได้รับพร....
ซิสเตอร์โฟสตินาได้รับมอบหมายให้ทำงานในห้องครัวระหว่างเป็นนวกเณรี ซึ่งทำให้เธอ
ลำบากใจมาก เพราะหม้อหุงต้มในครัวมีขนาดใหญ่มากจนเธอยกไม่ขึ้น งานที่ยากที่สุดสำหรับ
เธอคือการรินน้ำออกจากหม้อต้มมันฝรั่งขนาดใหญ่ และเธอมักทำหกเสียค่อนหม้อ พอเธอบอก
เรื่องนี้กับนวกจารย์ของเธอ ท่านบอกว่าทำต่อไปเธอก็จะชำนาญขึ้นเอง แต่งานก็ไม่ได้ง่ายขึ้น
เพราะเธออ่อนแอลงทุกวัน เธอจึงเลี่ยงงานนี้จนพวกภคินีสังเกตเห็น ! พวกเขาไม่อาจรู้ได้ว่าแม้
เธอเต็มใจทำงานทุกอย่าง แต่เธอรู้ตัวว่าเธอทำไม่ได้...
เที่ยงวันหนึ่งระหว่างสำรวจมโนธรรม ซิสเตอร์โฟสตินาโอดครวญกับพระเยซูเจ้าเรื่องความอ่อนแอ
ของเธอ เธอได้ยินคำพูดในวิญญาณว่า นับจากวันนี้ไป ลูกจะทำงานนี้ได้อย่างราบรื่น เราจะให้กำลังแก่ลูก...
ด้วยความเชื่อมั่นตามที่พระเจ้าตรัสไว้ เย็นวันนั้นเธอรีบไปที่หม้อก่อน เธอยกหม้อได้อย่างคล่องแคล่ว
แล้วก็รินน้ำทิ้งได้อย่างเรียบร้อยทีเดียว พอเธอแง้มฝาหม้อให้ไอน้ำระเหยออกไป แทนที่จะเจอมันฝรั่ง
เธอกลับเจอดอกกุหลาบมากมายที่สวยงามสุดบรรยาย เธอไม่เคยเห็นดอกกุหลาบงามเช่นนี้ที่ไหนมาก่อน
ขณะยืนตะลึงกับภาพนี้และพยายามเข้าใจความหมาย เธอได้ยินเสียงจากภายในว่า เปลี่ยนงานหนัก
ให้เป็นช่อดอกไม้ที่สวยที่สุด และให้ความหอมของดอกไม้นั้นล่องลอยขึ้นไปถึงบัลลังก์ของเรา นับจาก
วันนั้นเป็นต้นมาเธอกระตือรือ ร้นในการทำงานที่ได้รับมอบหมายเธอเข้าใจแล้วว่าการกระทำเช่นนี้ทำ
ให้พระเจ้าพอพระทัย เธอจึงเต็มใจช่วยเหลือเพื่อนภคินีทั้งงานครัว และงานยาก ๆ ทุกงาน ขณะที่เธอ
ป่วยหนัก เธอได้เขียนบทภาวนาซึ่งสะท้อนให้เห็นกิจเมตตาโดยทั่วไปของเธอ ...
"ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้มือของลูกเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาและกิจการดีงาม ลูกจะกระทำ
แต่ความดี ต่อเพื่อนมนุษย์ยอมรับภาระที่ยากลำบากและงานหนัก"..
"ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้เท้าของลูกเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา เพื่อลูกจะได้รีบไปช่วยเหลือ
เพื่อนมนุษย์เอาชนะความอ่อนแอและเหนื่อยล้าของตนเอง การพักผ่อนที่แท้จริงของลูก
คือการรับใช้เพื่อนมนุษย์...

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 11 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 24, 2022 11:31 am

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ( ตอนที่ 11 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

ในช่วงปลายปีแรกของนวกภาพ ซิสเตอร์ โฟสตินาเริ่มผเชิญกับการทดลองฝ่ายวิญญาณซึ่ง
เรียกกันว่า 'คืนมืด' นานหกเดือน ระหว่างช่วงเวลานี้ เธอปราศจากความยินดี และไม่ได้รับ
ความบรรเทาใจจากการภาวนาเลย เธอแทบจะรำพึงไม่ได้และมีแต่ความหวาดกลัวเมื่อ
หันมาพิจารณาตนเองให้ถ่องแท้ เธอกลับมองเห็นแต่ความน่าสังเวช แต่ในเวลาเดียวกัน
เธอก็เข้าใจศักดิ์สิทธิภาพที่สูงส่งของพระเจ้าได้อย่างชัดเจน จนเธอไม่กล้ายกสายตาขึ้น
มองพระองค์ เธอร้องขอความเมตตาตลอดเวลาเสมือนว่าตัวเธอเป็นละอองธุลีอยู่ใต้พระบาท
แม้แต่คำพูดให้กำลังใจจากนวกจารย์ก็ไร้ผล ในห้วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ความทุกข์ของเธอ
ยังคงดำเนินต่อไป...
ตอนนั้นเธอกำลังประสบความยุ่งยากภายในวิญญาณ บางอย่างซึ่งเกี่ยวพันกับปัญหาภายนอก
เธอไม่ได้อธิบายว่าปัญหาเหล่านี้คืออะไร เธอรู้ตัวว่าเธอไม่สามารถรับมือได้ และไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิต
ต่อไปได้อย่างไร เธอนึกขึ้นมาได้ว่าควรภาวนาต่อนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู ซิสเตอร์โฟสตินา
เคยศรัทธาต่อนักบุญองค์นี้มากก่อนเข้าอาราม...
นักบุญเทเรซาได้มาเข้าฝันเธอเหมือนท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยไม่ให้ซิสเตอร์รู้ว่าท่านเป็นนักบุญ
และเริ่มุปลอบใจเธอ "อย่ากังวลกับเรื่องนี้เลย แต่จงวางใจในพระเจ้าให้มากยิ่งขึ้น ดิฉันเองก็เคย
ทรมานแสนสาหัสมาแล้ว" ซิสเตอร์ไม่เชื่อตอบท่านว่า "ดูท่าทางท่านไม่มีความทุกข์เลย " แต่นักบุญ
เทเรซาพูดโน้มน้าวให้เธอเชื่อ "ซิสเตอร์ จงรู้เถิดว่าภายในสามวัน ความยุ่งยากนี้จะสิ้นสุดลงด้วยดี
" เนื่องจากซิสเตอร์ยังไม่เชื่อท่าน ท่านจึงเปิดเผยว่าท่านเป็นนักบุญ ซิสเตอร์บันทึกการพบปะกันครั้งนี้ :
ในเวลานั้น วิญญาณดิฉันเต็มตื้นด้วยความยินดี ดิฉันถามท่าน "ท่านเป็นนักบุญหรือ" ท่านตอบ
" ใช่ ดิฉันเป็นนักบุญจงวางใจเถิด เรื่องนี้จะคลี่คลายภายในสามวัน" ดิฉันกล่าว "เทเรซาที่รัก
บอกดิฉันหน่อยเถิดว่าดิฉันจะได้ไปสวรรค์หรือเปล่า" ท่านตอบ "ค่ะ ซิสเตอร์จะได้เป็นนักบุญเหมือนดิฉัน"
แต่ซิสเตอร์ต้องวางใจในพระเยซูเจ้านะ...
นี่เป็นความฝัน ความฝันเป็นภาพลวงตา พระเจ้าคือความเชื่อ กระนั้นก็ดี สามวันต่อมา
เรื่องยุ่งยากนั้นก็จบลงอย่างง่ายดายเป็นไปตามอย่างที่ท่านนักบุญบอกไว้ทุกอย่าง
นี่คือความฝันแต่ก็มีนัยยะสำคัญ...

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 12 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 24, 2022 11:35 am

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า (ตอนที่ 12 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

วันหนึ่ง ขณะที่เธอสำรวมจิตใจอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า เกิดมีความคิดรุมเร้าว่าพระเจ้า
ทรงทอดทิ้งเธอ ความสิ้นหวังท่วมล้นวิญญาณ เธอรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น ตลอดเช้าวันนั้น
เธอต่อสู้กับความมืดในวิญญาณสุดกำลัง พอถึงช่วงบ่าย ความหวาดกลัวสุดขีดก็ครอบงำเธอ
จนร่างกายหมดสภาพแน่นิ่งนานเกือบชั่วโมงเคราะห์ดีที่ซิสเตอร์คนหนึ่งเข้ามาในห้องเธอ พอเห็น
เธออยู่ในสภาพเช่นนั้น จึงรีบไปเรียนให้นวกจารย์ทราบ...
คุณแม่นวกจารย์รีบมา ท่านสั่งเธอทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องว่า "ในนามความนบนอบศักดิ์สิทธิ์
จงลุกขึ้นจากพื้น" ซิสเตอร์โฟสตินารู้สึกว่ามีพลังบางอย่างยกร่างเธอให้ยืนขึ้นทันที คุณแม่นวกจารย์
เริ่มอธิบายด้วยคำพูดที่อ่อนโยนว่า นี่คือการทดลองที่พระเจ้าประทานแก่เธอ ท่านบอกเธอว่า
"จงวางใจให้มาก พระเจ้าทรงเป็นบิดาของเราเสมอ แม้แต่ในยามที่พระองค์ประทาน
การทดลองต่าง ๆ แก่เรา"....
เมื่อเธอเริ่มเจ็บปวดทรมานอีกระหว่างพิธีตอนเย็น เธอภาวนาว่า "พระเยซูเจ้าผู้เปรียบพระองค์
กับมารดาผู้อ่อนโยนในพระวร สาร ลูกเชื่อมั่นในพระวาจาของพระองค์ เพราะพระองค์คือความจริง
และชีวิต ข้าแต่พระเยซูเจ้า ถึงอย่างไรลูกก็วางใจในพระองค์ เมื่อลูกเผชิญกับสภาพอารมณ์ความรู้สึก
ซึ่งมุ่งมั่นจะต่อต้านความหวัง โปรดกระทำต่อลูกตามที่พระองค์ปรารถนาเถิด ลูกจะไม่มีวันละทิ้ง
พระองค์ไป เพราะพระองค์คือต้นธารชีวิตของลูก....
คืนนั้นแม่พระมาเยี่ยมเธอ พระแม่อุ้มพระกุมารเยซูไว้ในอ้อมแขน เธอกลับมีกำลังวังชาและ
ความกล้าหาญขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็เป็นเช่นนั้นแค่วันเดียว เธอรู้สึกว่าความทุกข์ทรมานฝ่ายจิตเหล่านี้
จะอยู่กับเธอไปจนชั่วชีวิต....
นวกภาพของเธอกำลังจะสิ้นสุดลงแต่ความทรมานของเธอหาได้ลดน้อยลงไม่ กลับเป็นสาเหตุ
ให้ร่างกายของเธออ่อนแรง คุณแม่นวกจารย์อนุญาตให้เธองดเว้นการปฏิบัติกิจศรัทธาตามปกติ
โดยให้เธอสวดบทภาวนาสั้น ๆ แทน....
วันที่ 30 เมษายน ค.ศ.1928 เธอและเพื่อนร่วมรุ่นได้ปฏิญาณตนประจำปีตามปกติ ในวันนี้+
เธอเผยความปรารถนาต่อพระเยซูเจ้าว่า เธอจะขจัดตัวตนของเธอเองด้วยความรักที่กระตือ รือร้น
เพื่อเห็นแก่พระองค์ ในตอนนั้น เธอไม่รู้ตัวว่า พระเยซูเจ้าพอพระทัยคำภาวนาของเธอ.....
ความมืดยังฝังแน่นในวิญญาณต่อไปอีกหกเดือน เธอไม่มีผู้แนะนำวิญญาณคอยชี้แนะ การไม่มี
พระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปคอยช่วยเหลือยิ่งทำให้เธอทุกข์ใจ พระสงฆ์เหล่านี้ปลอบเธอว่า พระเจ้าพอ
พระทัยเธอในสภาพนี้ ยิ่งกว่าในยามที่เธอมีแต่ความบรรเทาใจเสียอีก แต่พวกท่านกลับไม่อาจช่วย
ให้เธอตระหนักรู้ว่า สภาพของวิญญาณเช่นนี้สอดคล้องกับขั้นหนึ่งของชีวิตฝ่ายจิต ซึ่งวิญญาณผู้
ศักดิ์สิทธิ์ต้องประสบระหว่างการเดินทางไปหาพระเจ้า คืนมืดของเธอจึงดำเนินต่อไป.....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 13 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ส.ค. 25, 2022 11:52 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 13 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

ซิสเตอร์โฟสตินาเดินทางมาถึงอารามเดิมสมัยที่เธอเป็นสมัครเณรีในวอร์ซอ
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.1928 เพื่อทำงานในห้องครัวตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ไม่นานนักสุขภาพ
ของเธอก็เริ่มทรุดโทรม แม้ผู้ใหญ่ในคณะ และแพทย์จะดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่อาการเธอก็ไม่กระเตื้องขึ้น
ขณะที่อยู่ในสถานพยาบาลราวหนึ่งเดือน เธอต้องหนักใจกับความไม่เป็นมิตรของภคินีบางรูป
และพบว่าการเพ่งพิศความเจ็บปวดของพระเยซูเจ้าในพระมหาทรมานนั้นคือที่พึ่งเดียวของเธอ
เธอบันทึกไว้ว่า " เมื่อใดที่พระเยซูเจ้าต้องการใกล้ชิดวิญญาณและนำทางวิญญาณนั้นด้วยพระองค์เอง
เมื่อนั้นพระองค์ จะขจัดสิ่งภายนอกทุกอย่างออกไป...พวกผู้ใหญ่ห่วงใยคนป่วยก็จริง แต่พระเยซูเจ้า
ทรงกำหนดให้ดิฉันรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง "....
วันหนึ่งคุณแม่มีคาแอล บอกซิสเตอร์โฟสตินาว่า"ซิสเตอร์ความทุกข์ยากจะอุบัติขึ้นตามเส้นทาง
มีเธอเดิน แม่ถือว่าเธอเหมือนคนที่ถูกตรึงกางเขน แต่แม่ก็รับรู้ได้ว่าพระเยซูเจ้าทรงเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
ขอให้เธอซื่อสัตย์ต่อพระองค์เถิด"
ซิสเตอร์โฟสตินาได้ยินข่าวลือเรื่องเธอแสร้งป่วย ข่าวนี้ลือกันอยู่นาน และทำให้เธอทุกข์ใจมาก
เธอโอดครวญกับพระเยซูเจ้าที่เธอเป็นภาระของเพื่อนภคินี พระองค์ตรัสกับเธอว่า ลูกไม่ได้มีชีวิต
เพื่อตัวเอง แต่เพื่อวิญญาณทั้งหลาย และวิญญาณอื่น ๆ จะได้รับประโยชน์จากความทุกข์ยากของลูก
ความทุกข์ที่ยืดเยื้อของลูกจะทำให้พวกเขาได้รับความสว่างและพลังที่จะสนองรับความประสงค์ของเรา....
เมื่อภคินีอาวุโสรูปหนึ่งได้ยินว่าซิสเตอร์โฟสตินามีสัมพันธภาพที่ใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้า เธอบอก
กับโฟสตินาอย่างไม่อ้อมค้อมว่าเธอต้องหลอกตัวเองแน่ เพราะพระเจ้าทรงเชื่อม สัมพันธ์ในลักษณะนี้
ก็แต่กับคนที่ศักดิ์สิทธิ์ มิใช่กับคนบาปอย่างโฟสตินา ทำให้เธอเริ่มระแวงพระเยซูเจ้า เธอจึงทูลถาม
พระองค์ "พระเยซูเจ้าข้า พระองค์มิใช่ภาพลวงตาหรือ" พระองค์ตอบว่า ความรักของเราไม่หลอกลวงใคร
ซิสเตอร์โฟส ตินาจึงมองหาความสว่าง และคำแนะนำจากพระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาป และผู้ใหญ่ในคณะ
แต่เธอก็ไม่ได้รับความบรรเทาจากพวกเขาเลย....
อธิการิณีท่านหนึ่งดูเหมือนจะเข้าใจวิญญาณของเธอ และเส้นทางที่พระเจ้าทรงกำหนดให้เธอ
เมื่อเธอทำตามคำแนะนำของท่านเธอก็รุดหน้าสู่ความครบครันอย่างรวดเร็ว แต่ก็ดำเนินได้ไม่นาน
ยิ่งเธอเปิดเผยวิญญาณเต็มที่ ท่านอธิการิณีกลับคิดว่า พระหรรษทานเช่นนั้นไม่น่าเกิดขึ้นได้ และไม่
สามารถช่วยเธอได้อีกท่านบอกเธอ "เป็นไปไม่ได้หรอกที่พระเจ้าจะสื่อสัมพันธ์กับสิ่งสร้างของพระองค์
ในลักษณะนี้ แม้กลัวแทนเธอจริง ๆนะ นี่ไม่ใช่ภาพลวงตาหรอกหรือ เธอควรขอคำแนะนำจากพระสงฆ์
สักองค์จะดีกว่า" แต่พระสงฆ์ก็ไม่เข้าใจเธอเช่นเดียวกัน และบอกกับเธอว่า เธอควรจะไปคุยเรื่องนี้กับ
อธิการิณีจะดีกว่า ดังนั้นเธอจึงเทียวไปเทียวมาระหว่างพระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปกับอธิการิณีโดยหา
ความสงบใจมิได้เลย พระหรรษทานของพระเจ้ากลับเป็นต้นเหตุแห่งมหันตทุกข์ !...

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 14 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ส.ค. 30, 2022 3:29 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 14 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1929 ซิสเตอร์ โฟสตินาถูกส่งตัวไปวิลนีอุสเพื่อทำหน้าที่แทนซิสเตอร์เปโตรนีลา
เธอได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในห้องครัวสองเดือน...
วันที่ 11 มิถุนายน เธอก็ได้รับมอบหมายให้ทำงานในห้องครัวของ โยเซฟีแน็ก เพียงสองสามสัปดาห์
ให้หลังในเดือน กรกฎาคม เธอก็ถูกส่งตัวไปยังบ้านอีกหลังในกีแยซ เพื่อทำงานแทนซิสเตอร์มอ้ดสตา
ที่ล้มป่วย เธอทำงานที่นั่นจนถึงเดือนตุลาคม และหลังจากนั้นเธอก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลสวน...
อาจมีคนข้องใจว่า "ทำไมเธอถึงเปลี่ยนหน้าที่บ่อยนัก" ภคินีบางรูปคิดว่าเธอชอบการเปลี่ยนแปลง
แต่ซิสเตอร์โฟสตินาเคยเผยความในใจกับภคินีรูปหนึ่งว่าการเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ เป็นเรื่องยาก
สำหรับเธอ แต่เธอไม่เคยขัดขืนเพราะเธอมองออกว่านี่คือพระประ สงค์ของพระ....
คุณแม่มีคาแอลซึ่งเป็นอธิการใหญ่กล่าวในภายหลังว่า บุคคลเดียวที่ท่านมอบหมายหน้าที่ใหม่
ให้ได้โดยไม่มีปัญหาเลย คือ ซิสเตอร์โฟสตินา
พอกลับมาที่วอร์ซอได้ไม่นานเธอก็ล้มป่วยอีกทำให้เธอได้ฝึกฝนเรื่องความเพียรทนต่อไป
พระเยซูเจ้าเท่านั้นที่ทรงรู้ว่าเธอต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนเพื่อจะทำหน้าที่ของตนให้ลุล่วง
บ่อยครั้งที่ความตั้งใจดีของเธอถูกเพื่อนภคินีเข้าใจผิดพวกเขาพากันปลีกตัวจากเธอเพราะเธอ
พยายามทำใจให้สงบและซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ความทุกข์ประเภทนี้เจ็บปวดที่สุด ยังมีอีกเรื่องที่เธอ
ไม่เข้าใจ คือ เหตุใดพระเยซูเจ้าจึงสั่งให้เธอรายงานทุกเรื่องต่อผู้ใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ผู้ใหญ่ไม่เชื่อเรื่องที่
เธอพูด และพากันสมเพชเธอราวกับเธอถูกลวงให้หลงเชื่อหรือสร้างจินตนาการขึ้นมาเอง....
ปลายเดือน เมษายน ปี 1929 พระเยซูเจ้าทรงบอกซิสเตอร์โฟสตินาว่าพระองค์ กำลังมอบความรัก
นิรันดรให้แก่เธอ เพื่อให้ความบริสุทธิ์ของเธอไม่มัวหมอง พระองค์ได้ปลดสายคาดเอวสีทองของ
พระองค์มาพันไว้รอบเอวเธอเพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงว่าเธอจะไม่ถูกประจญในเรื่องความบริสุทธิ์อีก
นับจากนั้นเป็นต้นมาเธอก็ไม่ถูกประจญให้ผิดต่อความบริสุทธิ์อีกเลยทั้งในจิตใจ และความคิด ต่อมา
เธอจึงได้รู้ว่านี่คือพระหรรษทานพิเศษอย่างหนึ่งที่แม่พระเสนอวิงวอนให้เธอ เนื่องจากเธอได้วอนขอ
แม่พระไว้นานหลายปีแล้ว ด้วยเหตุนี้ ความศรัทธาของเธอต่อแม่พระจึงเข้มข้นขึ้น.....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 15 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ส.ค. 30, 2022 3:32 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 15 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

: การเปิดเผยเรื่องภาพพระเมตตา วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1931 ซิสเตอร์โฟสตินา ได้รับ
ภาพนิมิตแรกที่เกี่ยวข้องกับพันธกิจในชีวิตของเธอ คือ เป็นผู้ที่พระองค์ไว้วางใจให้จดบันทึก
และเป็นผู้นำสารพระเมตตามามอบให้มนุษยชาติ เธอบรรยายเหตุการณ์ไว้ดังนี้:
ตอนเย็น ขณะที่ดิฉันอยู่ในห้องพัก ดิฉันเห็นพระเยซูเจ้าในฉลองพระองค์สีขาว ยกพระหัตถ์ขวา
ในท่าอวยพร พระหัตถ์ซ้ายแตะอกเสื้อ มีลำแสงสองสายฉายออกมาจากภายใต้เสื้อบริเวณทรวงอก
ที่เผยออกไปทางด้านข้าง ลำแสงหนึ่งสีแดง อีกลำแสงหนึ่งสีจาง ดิฉันเพ่งมององค์พระผู้เป็นเจ้า
อยู่เงียบ ๆ วิญญาณดิฉันตื่นกลัวระคนยินดีอย่างยิ่ง...
หลังจากนั้นชั่วขณะ พระเยซูเจ้าตรัสกับดิฉันว่า จงวาดภาพขึ้นมาภาพหนึ่งตามแบบที่ลูกเห็นนี้
พร้อมคำจารึกว่า "พระเยซูเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์ " เราปรารถนาให้มีการแสดงความเคารพ
ต่อภาพนี้ เริ่มจากวัดน้อยของลูก และทั่วโลกเราสัญญาว่า วิญญาณที่แสดงความเคารพต่อภาพนี้จะ
ไม่พินาศ และเขาจะได้รับชัยชนะเหนือศัตรู ตั้งแต่บนโลกนี้ โดยเฉพาะในเวลาที่เขาจะสิ้นใจ
เราจะปกป้องเขาเสมือนหนึ่งสิริรุ่งโรจน์ของเราเอง....
ดิฉันเรียนเรื่องนี้ให้พระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปทราบ ท่านตอบว่า "แน่นอน จงวาดภาพพระเจ้าไว้ใน
วิญญาณเธอ " ดิฉันได้ยินพระดำรัสว่า ภาพของเราอยู่ในวิญญาณของลูกแล้ว เราปรารถนาให้มี
วันฉลองพระเมตตา เราต้องการให้ภาพที่ลูกจะใช้พู่กันวาดขึ้นมานี้ ได้รับการเสกอย่างสง่าใน
วันอาทิตย์แรกหลังวันปัสกา วันอาทิตย์นั้นจะเป็นวันฉลองพระเมตตา เราปรารถนาให้บรรดา
พระสงฆ์ประกาศความเมตตายิ่งใหญ่ของเราแก่วิญญาณคนบาปทั้งหลาย จงอย่ากลัวที่จะเข้ามา
หาเรา เปลวไฟแห่งความเมตตากำลังแผดเผาเรา เร่งเร้าให้เราสำแดงความเมตตา เราต้องการ
หลั่งความเมตตานี้ลงบนวิญญาณทั้งหลาย...
ดิฉันเรียน คุณแม่อธิการิณีว่า พระเจ้าทรงขอให้ดิฉันทำตามนี้ ท่านตอบว่าพระเยซูเจ้าควร
ประทานเครื่องหมายสักอย่างให้เรารู้แน่ชัดว่าเป็นพระองค์...
พอดิฉันขอเครื่องหมายจากพระเยซูเจ้าเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า "พระองค์คือองค์พระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าของลูกจริง ๆ และความต้องการนั้นมาจากพระองค์ " ดิฉันได้ยินเสียงภายในใจว่า เราจะทำให้
ท่านอธิการิณีเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน ด้วยพระหรรษทานต่าง ๆ ที่เราจะมอบให้ ผ่านภาพนี้...

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 16 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ส.ค. 30, 2022 3:50 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 16 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

วันที่ 1 ธันวาคม 1932 ซิสเตอร์โฟสตินา กับภคินีอีกสองรูปมาพบคุณแม่มาร์กาเรต ผู้เป็นนวกจารย์
ของพวกเขาที่วอร์ซอ คุณแม่มาร์กาเร็ตประเดิมด้วยการภาวนาแล้วอธิบายขั้นตอนการรอพินิจครั้ง
ที่ สาม จากนั้นจึงกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของพระหรรษทานแห่งการปฏิญาณตนตลอดชีพ...
หลังการประชุมซิสเตอร์ โฟสตินา ไปอ้อนวอนขอพระเมตตาเบื้องหน้าศีลมหาสนิท พระเยซูตรัส
กับเธอว่า ลูกรัก ความน่าสมเพชของลูก ถูกทำลายจนหมดสิ้นในเปลวไฟรักของเรา ดั่งกิ่งไม้เล็ก ๆ
ถูกโยนเข้ากองไฟที่ลุกโชน เมื่อใดที่ลูกถ่อมตนในลักษณะนี้ เมื่อนั้นลูกก็ตักตวงความเมตตาอันยิ่ง
ใหญ่ไพศาลของเรามาสู่ตัวลูกเองและวิญญาณอื่น ๆ เธอทูลว่า พระเยซูเจ้าข้า โปรดหลอมหัวใจที่
ตํ่าต้อย ของลูกเป็นดังที่พระองค์ชื่นชมเถิด...
ตลอดระยะนี้ ซิสเตอร์
โฟสตินาเร่าร้อนภาวนา ให้พระเจ้าประทานความสว่างแก่พระสงฆ์ที่เธอต้องเปิดเผยสิ่งที่ช่อนอยู่
ในวิญญาณเธอ เธอวอนขอพระหรรษทานจากพระเยซูเจ้าให้เธอสามารถถ่ายทอดความลับระหว่าง
พระองค์กับเธอ เธอเตรียมใจรับคำวินิจฉัยของพระสงฆ์ เสมือนว่ามาจากพระเยซูเจ้าเอง ตอนนี้แหละ
ที่เธอเริ่มปกปิดเรื่องพระหรรษทานภายในวิญญาณเธอทั้งหมดไว้เป็นความลับ และรอคอยผู้แนะนำ
วิญญาณที่พระเยซูเจ้าจะส่งมาให้เธอ....
และในระหว่างนี้อีกเช่นกันที่พระเยซูเจ้าทรงเตรียมเธอให้เป็นวิญญาณพลีบูชา คือ เป็นยัญบูชา
แทนวิญญาณทั้งหลาย โดยเฉพาะคนบาปจึงไม่น่าแปลกใจที่เธอภาวนาว่า : ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระองค์
ทรงเป็นเจ้าชีวิตของลูก มีแต่พระองค์เท่านั้นที่ทราบดีว่า ลูกมิได้ใฝ่หาสิ่งอื่นใด นอกจากพระเกียรติมงคล
แห่งพระนามพระองค์ และเพื่อให้วิญญาณทั้งหลายได้มารู้จักพระมหากรุณาของพระองค์...
พระเยซูเจ้าข้า เหตุไฉนวิญญาณทั้งหลายจึงเหินห่างจากพระองค์เล่า ลูกไม่เข้าใจเลย ถ้าลูกทำได้
ลูกอยากตัดหัวใจของลูกแบ่งออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วถวายแต่ละชื้นนั้นแด่พระองค์ ต่างหัวใจ เต็มดวง
แต่ละดวงที่ไม่รักพระองค์ พระเยซูเจ้าข้า ลูกรักพระองค์ด้วยเลือดทุกหยาดหยดของลูก และลูกยินดีจะ
หลั่งเลือดเป็นพลีแทนพระองค์ เพื่อพิสูจน์ความจริงใจในความรักของลูก ....
หนึ่งวันก่อนวันพระคริส ตสมภพ ซิสเตอร์โฟสตินารู้สึกสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับแม่พระและร่วมรับรู้
ความรู้สึกของพระนาง ตอนเย็นก่อนร่วมพิธีหักปังตามธรรมเนียมคริสต์มาสกับเพื่อนภคินี เธอได้เข้า
ไปในวัดน้อย เพื่อร่วมงานเลี้ยงฝ่ายจิตกับบุคคลที่เธอรัก และขอให้แม่พระมาร่วมเป็นเกียรติในพิธีด้วย
จิตเธอซึมซาบอยู่ในพระเจ้าแม้ขณะรับประทานอาหารและทำงานต่อจากนั้น ระหว่างพิธีมิสซาเที่ยงคืน
เธอได้เห็นพระกุมารในแผ่นศีล ซึ่งเป็นภาพนิมิตที่ปรากฏให้เธอเห็นบ่อยครั้งในเวลาต่อมา...
เทศกาลพระคริสตสมภพสิ้นสุดลง และเทศกาลมหาพรตกำลังใกล้เข้ามา เธอเริ่มรวบรวม
ความทุกข์ยาก และปัญหาทั้งหมดถวายพระเยซูเจ้าต่างช่อดอกไม้ วันหนึ่งพระเยซูเจ้าตรัสกับเธอว่า :
เราปรารถนาให้ลูกเข้าใจลึกซึ้งในความรักต่อวิญญาณทั้งหลายที่ลุกไหม้อยู่ในหัวใจของเรา แล้วลูก
จะเข้าใจเรื่องนี้ในเวลาที่ลูกรำพึงถึงมหาทรมานของเรา จงอ้อนวอนขอความเมตตาของเราแทนคนบาป
ทั้งหลาย เราปรารถนาให้พวกเขาได้รับความรอด เมื่อลูกสวดบทภาวนานี้ด้วยความสำนึกเสียใจ
และด้วยความเชื่อแทนคนบาปบางคน เราจะมอบพระหรรษทาน แห่งการกลับใจแก่เขาเหล่านั้น..
นี่คือบทภาวนา : โอ้พระโลหิตและน้ำ ซึ่งหลั่งไหลมาจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า
เป็นท่อธารพระเมตตาเพื่อลูกทั้งหลาย ลูกวางใจในพระองค์....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 17 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ส.ค. 30, 2022 3:54 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 17 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

: วันที่ 17 เมษายน 1933 ผู้รอการพินิจทั้งสามคนเตรียมเดินทางกลับ คราคูฟในวันรุ่งขึ้น
เมื่อเธอเข้าไปในวัดน้อยเพื่อขอบพระคุณพระเยซูเจ้า สำหรับพระคุณต่าง ๆ ที่เธอได้รับตลอดห้าเดือน
ที่ผ่านมานั้น ซิสเตอร์โฟสตินา ได้ยินพระองค์ตรัสว่า ลูกรัก สบายใจเถิด เรากำลังช่วยเหลือลูก
ในเรื่องนี้อยู่ เราจะเตรียมการทุกอย่างร่วมกับบรรดาอธิการิณีของลูก และ กับพระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาป
จงพูดคุยกับคุณพ่ออันดราชอย่างซื่อ ๆ และด้วยความวางใจเหมือนที่ลูกพูดคุยกับเราเถิด....
ซิสเตอร์โฟสตินาเข้าไปสารภาพบาปเธอเล่าทุกอย่างให้คุณพ่อผู้ฟังแก้บาปฟังอย่างง่ายดาย
จนเธอเองก็แปลกใจเมื่อเธอขอให้คุณพ่อช่วยเธอให้หลุดพ้นจากการดลใจที่เธอได้รับ รวมทั้งจาก
ความรับผิดชอบเรื่องการวาดภาพด้วย คุณพ่อบอกกับเธอว่า:..
"ซิสเตอร์ พ่อจะไม่จัดการเรื่องอะไรให้เธอทั้งนั้น เป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่เธอจะเบือนหน้าหนีการดลใจ
เหล่านี้ แค่เธอต้องบอกทุกเรื่องกับผู้ฟังแก้บาปของเธอ มิฉะนั้นเธอจะหลงทาง ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับ
พระหรรษทาน ที่ยิ่งใหญ่จากพระเจ้า ระหว่างนี้เธอก็มาสารภาพบาปกับพ่อไปก่อน แต่จงเข้าใจให้ดีว่า
ซิสเตอร์จำเป็นต้องมีผู้ฟังแก้บาปประจำ คือ มีผู้แนะนำวิญญาณสักคนนั่นแหละ...
ซิสเตอร์ว้าวุ่นใจกับเรื่องนี้มาก เธอนึกว่าจะหลุดพ้นจากทุกเรื่อง แต่การณ์กลับตรงกันข้าม ตอนนี้
เธอได้รับคำสั่งชัดเจนให้ทำตามที่พระเยซูเจ้าเรียกร้อง แต่เธอยังไม่มีผู้แนะนำวิญญาณคอยแนะนำ
เธอเลย ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้แน่นอนเท่าความทุกข์ยาก ความทุกข์เป็นเพื่อนตายของวิญญาณเสมอ
ข้าแต่พระเยซูเจ้า ลูกปรารถนาอย่างยิ่งให้วิญญาณมิรู้ตายได้รับความรอด ลูกจะลุกไหม้และ
มอดมลายไปในเปลวไฟรักศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าโดยที่ไม่มีใครเห็น การสถิตย์อยู่ของพระเจ้าจะช่วย
ให้เครื่องบูชาของลูกครบครันและบริสุทธิ์....
วันที่ 1 พฤษภาคม 1933 ระหว่างพิธีมิสซา เธอวางหัวใจบนจานรองแผ่นศีลร่วมกับพระหฤทัยของ
พระเยซูเจ้า และถวายตัวเธอเองเป็นเครื่องบูชาพร้อมกับพระองค์แด่พระเจ้าผู้ทรงเป็นบิดาของพระเยซูเจ้า
และของเธอ เพื่อวอนขอให้พระบิดาแห่งความเมตตาทอดพระเนตรหัวใจที่ถวายเป็นเครื่องบูชาของเธอ
ผ่านบาดแผลในดวงพระทัยของพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าตรัสกับเธอว่า คู่วิญญาณของเรา หัวใจของเรา
สองประสานเป็นหนึ่งเดียวตลอดไป จงจำไว้ว่าลูกได้ปฏิญาณตนกับใคร ?....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 18 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ส.ค. 30, 2022 3:59 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 18 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

ในวันสารภาพบาป ซิสเตอร์โฟสตินาไปยังที่ฟังแก้บาปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มจนเพื่อน ๆ
สังเกตเห็น เพราะพระสงฆ์องค์นี้คือพระสงฆ์องค์เดียวกันกับที่เธอเห็นในนิมิตถึงสองครั้ง
คุณพ่อมีคาแอล โซปอชโก คือบุรุษที่พระเยซูเจ้าทรงเลือก เพื่อช่วยซิสเตอร์ ให้ปฏิบัติตาม
พระประสงค์ของพระองค์....
คุณพ่อโซปอชโกเองก็ประทับใจในผู้สารภาพบาปคนใหม่ของท่าน ท่านสังเกตว่าเธอมี
มโนธรรมที่ละเอียด และมีความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง บาปที่เธอสารภาพไม่จำเป็น
ต้องได้รับการโปรดเลย เธอเปิดเผยตั้งแต่ว่าเธอเห็นท่านในนิมิตและเธอรู้ว่าท่านจะเป็นผู้แนะนำ
วิญญาณของเธอเพื่อให้เธอปฏิบัติตามแผนการของพระเจ้าให้สำเร็จ พระสงฆ์สำรวจความจริงใจ
ของเธอด้วยการไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของเธอ ซ้ำยังทดสอบเธอเป็นพิเศษอีกด้วย ด้วยเหตุนี้
ซิสเตอร์จึงไม่อาจเปิดเผยเรื่องราวลึก ๆ ในใจได้สะดวกนัก ที่สุด เธอก็ตัดสินใจมองหาพระสงฆ์
ผู้ฟังแก้บาปรายใหม่....
แต่คุณพ่อดอมบรอฟสกี ผู้ฟังแก้บาปองค์ใหม่ก็ทดสอบเธอหลายอย่างเช่นเดียวกัน เธอจึงไม่ไ
ปสาร ภาพบาปกับท่านอีก เธอกลับไปเฝ้าศิลอุทิศแก่ท่าน และทำพลีกรรมเป็นพิเศษเพื่อขอให้พระ
ประทานพระหรรษทานการหยั่งรู้ให้ท่านสามารถเข้าใจวิญญาณได้..
หลังจากนั้นเธอจึงกลับมาหาคุณพ่อโซปอชโกและแจ้งว่าเธอพร้อมจะยอมรับการทดลองทุกอย่าง
เธอจะไม่มองหาผู้ฟังแก้บาปรายอื่นอีก เมื่อเธอเปิดเผยวิญญาณต่อพระสงฆ์องค์นี้จนหมดสิ้น
พระเยซูเจ้าทรงหลั่งพระหรรษทานมากมายลงสู่วิญญาณเธอ เธอหารู้ไม่ว่าคุณพ่อ โซปอชโกได้เริ่ม
พิจารณาสารที่เธอได้รับอย่างจริงจังแล้ว...
ระหว่างนั้น กิจวัตรในบ้านวิลนีอุสดำเนินไปตามปกติซึ่งโฟสตินาไม่คุ้นชิน การปรับตัวเข้ากับ
ธรรมเนียมใหม่ ๆ รวมถึงงานใหม่ทุกงานที่เธอได้รับมอบหมาย ทำให้เธอเป็นนวกเณรีน้อยอ่อนหัดที่
มีเรื่องใหม่ ๆ ให้เรียนรู้ การต่อสู้ดิ้นรนและความทุกข์ได้เริ่มขึ้นแล้ว...
หน้าที่ใหม่ของซิสเตอร์ โฟสตินาในฐานะหัวหน้าคนสวนเป็นงานที่ท้าทายจริง ๆ เธอไม่ประสากับ
เรื่องงาน ทำสวนเลย แต่เธอเชื่อว่าเมื่อเธอนบนอบ พระเจ้าย่อมช่วยให้เธอทำงานนี้ได้เหมือนกับงานอื่น ๆ
ที่ผ่านมา เธอขอความช่วยเหลือจากธรรมทูตท่านหนึ่งซึ่งเป็นคนสวนมืออาชีพ คำแนะนำของท่านผสมผสาน
กับภูมิปัญญาชาวบ้านของเธอ ช่วยให้เธอทำงานได้สำเร็จ เธอริเริ่มปลูกพืชในเรือนกระจก ซึ่งได้ผลดีเยี่ยม
วันหนึ่งมีคณะเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของรัฐบาลมาเยี่ยมสถาบัน สุภาพสตรีในกลุ่มท่านหนึ่งได้แสดง
ความคิดเห็นกับคุณแม่เจ้าคณะว่า "โอ้โห ! ซิสเตอร์ที่นี่มีคนสวนที่เชี่ยวชาญมากทีเดียวนะคะ !
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า 'ผู้เชี่ยวชาญ' ขี้โรคคนนี้ต้องผจญกับอุปสรรค และความเหนื่อยยากเพียงไร....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 19 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ย. 03, 2022 7:57 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 19 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

เวลาผ่านไปสองเดือน ในวันฉลองพระแม่แห่งความเมตตา วันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1933
ซิสเตอร์โฟสตินาได้รับพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะเข้าใจได้ ซึ่งเธอบอกว่าเธอจะสำนึก
ในพระคุณของพระเจ้าทั้งในชีวิตนี้และชีวิตนิรันดร เธอเขียนในบันทึกว่า : พระเยซูเจ้าทรงบอกว่า
ดิฉันสามารถทำให้พระองค์พอพระทัยมากที่สุดได้ด้วยการรำพึงถึงพระมหาทรมานของพระองค์
และวิญญาณของดิฉันได้รับความสว่างมากทีเดียวจากการรำพึงนี้ ผู้ใดต้องการรู้จักความสุภาพแท้
ควรไตร่ตรองถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ดิฉันได้รับความรู้ความเข้าใจอย่างกระจ่างชัดเจน
ในหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ดิฉันไม่เคยรู้มาก่อน....
"ข้าแต่พระเยซูเจ้า ลูกอยากเป็นเหมือนพระองค์ พระองค์ถูกตรึงบนกางเขน ถูกทารุณ ถูกสบ
ประมาท พระเยซูเจ้าข้าโปรดจารึกความสุภาพของพระองค์ไว้ในจิตวิญญาณของลูกเถิด พระเยซูเจ้าข้า
ลูกรักพระองค์เหลือเกิน พระองค์ผู้ทรงรับความทุกข์ทรมานตามที่ประกาศกได้บรรยายไว้ ข้อนี้เองที่
ทำให้ลูกหลงรักพระองค์ ข้าแต่พระผู้ทรงดำรงอยู่ชั่วนิรันดรและหาที่สิ้นสุดมิได้ ทำไมความรักจึงทำกับ
พระองค์เช่นนี้....
พระเยซูเจ้าทรงสอนนวกเณรีน้อยของพระองค์ต่อไป ครั้งหนึ่งหลังจากที่เธอทำนพวารวอนขอ
พระจิตเจ้า เพื่ออุทิศแก่พระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปของเธอ พระเยซูเจ้าตรัสกับเธอว่า เราให้ลูกรู้จักท่าน
ก่อนหน้าอธิการของลูกส่งลูกมาที่นี่เสียอีก ลูกปฏิบัติต่อผู้ฟังแก้บาปของลูกอย่างไร เราก็จะปฏิบัติ
ต่อลูกอย่างนั้น หากลูกปิดบังสิ่งใดจากท่านแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นพระหรรษทานที่เล็กน้อยที่สุดของเรา
ก็ตาม เราจะซ่อนตัวจากลูก และลูกจะต้องอยู่โดยลำพัง เธอทำตามความปรารถนาของพระเยซูเจ้า
ทำให้วิญญาณเธอได้รับสันติสุขอย่างลึกล้ำ บัดนี้เธอเข้าใจแล้วว่าพระเยซูเจ้าทรงปกป้องและ
คุ้มครองพระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปขนาดไหน..
คุณพ่อโซปอชโก คอยเตือนเธอให้ระลึกว่า เราไม่อาจทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้ถ้าหากเราขาด
ความสุภาพ ดังนั้นท่านจึงให้เธอปฏิบัติความสุภาพระดับสามตามแบบอย่างการปฏิบัติจิตของ
นักบุญอิกญาซืโอ ซึ่งระดับนี้ไม่เพียงแต่แนะนำเราให้ละเว้นจากการแก้ตัวเมื่อถูกตำหนิเท่านั้น
แต่ให้เรายินดีในความอัปยศอดสูที่ได้รับด้วย คุณพ่อบอกเธอว่า "เธอจะถูกครหาและถูกกลั่นแกล้ง
ผู้คนจะคิดว่าเธอเป็นโรคอุปทาน และเป็นคนนอกรีตนอกรอย แต่พระ เจ้าจะทุ่มเทพระหรรษทานต่าง ๆ
ของพระองค์ให้เเก่เธอ ผลงานแท้ของพระเจ้ามักถูกต่อต้านอยู่เสมอ และมีความทุกข์ทรมานเป็น
เครื่องหมาย ถ้าพระเจ้าต้องการดำเนินการบางอย่างให้สำเร็จ พระองค์ก็จะทำเช่นนั้นจนสำเร็จไม่ช้า
ก็เร็ว ไม่ว่าจะยากลำบากสักแค่ไหนก็ตาม หน้าที่ของเธอในเวลานี้ก็คือ เตรียมใจให้พร้อม
ด้ายความเพียรอดทนให้มาก ๆ ....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 20 ) ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ย. 03, 2022 8:02 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 20 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

การวาดภาพตามนิมิตบนผืนผ้าใบระหว่างการสารภาพบาปที่เธอทำเป็นกิจวัตรนั้น เธอใช้เวลา
ทีละนาน ๆ เปิดเผยเรื่องภาพนิมิต และสารต่าง ๆ ของเธอ เธอมักพูดถึงการสนทนากับพระเยซูเจ้า
เกี่ยวกับพระเมตตาของพระเจ้าบ่อยขึ้น เธอบอกคุณพ่อโซปอชโกว่าพระเยซูเจ้าปรารถนาให้วาด
ภาพตามนิมิตขึ้นมาภาพหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือนำพระหรรษทานมาสู่่โลกที่น่าเวทนา และบอก
เรื่องที่พระเยซูเจ้าขอให้พระศาสนจักรสถาปนา วันอาทิตย์แรกหลังปัสกาเป็นวันฉลองพระเมตตา
อันที่จริง เธอได้รับคำสั่งอย่างชัดเจนว่าควรวาดภาพนั้นอย่างไร....
คุณพ่อจึงมอบหมายให้อูกันนา คาซิมีรอฟสกี ซึ่งเป็นจิตรกรในละแวกนั้นให้วาดภาพนี้ขึ้นมา...
ซิสเตอร์โฟสตินาทูลถามพระเยซูเจ้าถึงความหมายของลำแสงทั้งสองสายในภาพตามที่ผู้แนะนำ
วิญญาณของเธอสอบถามมา เธอได้ยินคำตอบดังนี้:
"ลำแสงทั้งสองสายหมายถึงโลหิตและน้ำ แสงสีจางแทนน้ำซึ่งทำให้วิญญาณชอบธรรม
แสงสีแดงแทนโลหิต ซึ่งเป็นชีวิตของวิญญาณทั้งหลาย...
ลำแสงสองสายนี้ฉายออกมาจากส่วนลึกสุดของความเมตตาที่อ่อนโยนของเรา เมื่อหัวใจที่
ทุกข์ระทมของเราถูกหอกทิ่มแทงบนไม้กางเขน...
ลำแสงเหล่านี้ปกป้องวิญญาณทั้งหลายจากการลงโทษของพระบิดาของเรา บุคคลที่อาศัยอยู่
ในลำแสงนี้ย่อมเป็นสุข เพราะพระหัตถ์อันทรงความเที่ยงธรรมของพระเจ้าจะยึดเขาไว้มิได้
เราปรารถนาให้วันอาทิตย์แรกหลังปัสกาเป็นวันฉลองพระเมตตา....
จงขอให้ข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ของเรา เล่าให้ชาวโลกฟังเกี่ยวกับความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของเราว่า
ใครก็ตามที่เข้าถึงต้นธารแห่งชีวิตในวันนี้ จะได้รับการอภัยบาปและโทษบาปทั้งหมด มนุษยชาติ
จะไม่มีความสงบสุข จนกว่าเขาจะหันมาพึ่งความเมตตาของเราด้วยความวางใจ....
การที่วิญญาณขาดความวางใจนั้นทำให้เราต้องปวดร้าวยิ่งนัก ! วิญญาณเช่นนั้นยอมรับว่าเรา
ศักดิ์สิทธิ์และเที่ยงธรรม แต่เขาไม่เชื่อว่าเราคือองค์ความเมตตา และไม่วางใจในความกรุณาของเรา
แม้แต่ปีศาจเองยังชื่นชมในความเที่ยงธรรมของเรา แต่พวกเขาไม่เชื่อในความกรุณาของเรา
หัวใจของเราครอบครองนาม 'องค์ความเมตตา' นี้....
จงประกาศว่า ความเมตตาคือคุณลักษณะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้า
ผลงานของเราล้วนเปี่ยมด้วยความเมตตานี้...

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 21 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ย. 03, 2022 8:07 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 21 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

เมื่อพระเยซูเจ้าปูทางให้เธอเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องนี้แล้ว พระองค์ปรารถนาให้เธอถวายตัวเป็น
พลีบูชาเพื่ออุทิศแก่คนบาป โดยเฉพาะคนบาปที่สูญสิ้นความศรัทธาในพระเมตตาของพระเจ้า
แล้วเธอปฏิบัติ ตามและได้ถวายตัวดังนี้ :
พระเจ้าและวิญญาณทั้งหลาย เบื้องหน้าสวรรค์และแผ่นดิน เบื้องหน้านิกรเทวดา เบื้องหน้า
พระนางมารีย์พรหมจารีศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง เบื้องหน้าอานุภาพทั้งมวลแห่งสวรรค์ ลูกขอประกาศต่อ
พระตรีเอกภาพว่า วันนี้โดยการร่วมสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเยซู พระผู้ไถ่กู้วิญญาณ
ทั้งหลาย ลูกสมัครใจถวายตัวเพื่อการกลับใจของคนบาป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิญญาณที่สูญสิ้น
ความศรัทธาในพระเมตตาของพระเจ้า การถวายตัวครั้งนี้ประกอบด้วยการยอมรับความทุกข์ทรมาน
ความกลัวและความหวาดวิตกของคนบาป โดยลูกน้อมรับพระประสงค์ของพระเจ้าทั้งครบ ลูกขอ
ตอบแทนด้วยการมอบความบรรเทาใจทั้งหมดที่วิญญาณลูกได้รับจากการสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า
แก่พวกเขา กล่าวสั้น ๆ ก็คือลูกขออุทิศทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่พวกเขา คือ มิสซา การรับศีลมหาสนิท
พลีกรรม การทรมานกายและคำภาวนา ลูกมิได้หวั่นกลัวการตีสอนด้วยความเที่ยงธรรมของพระเจ้า
เพราะลูกสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ข้าแต่พระเจ้า ลูกปรารถนาจะชดใช้ให้พระองค์ด้วยวิธีนี้
แทนวิญญาณทั้งหลายที่ไม่วางใจในพระมหากรุณาของพระองค์ ลูกยังหวังใจในมหาสมุทรแห่งความ
เมตตาของพระองค์แม้มีโอกาสเพียงน้อยนิด องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระเจ้าของลูกคือส่วนแบ่งนิรันดร
ของลูก ลูกมิได้ถวายตัวครั้งนี้โดยหวังพึ่งพละกำลังของตนเอง แต่ขอพึ่งพละกำลังที่หลั่งไหลออกมา
จากบุญบารมีของพระเยซูคริสตเจ้า ลูกจะกล่าวคำถวายตัวนี้ซ้ำทุกวัน โดยสวดบทภาวนาซึ่งพระเยซูเจ้า
ทรงสอนลูกด้วยพระองค์เองดังนี้ "โอ้พระโลหิตและน้ำซึ่งหลั่งไหลมาจากดวงพระทัยของพระเยซูเจ้า
เป็นท่อธารพระเมตตาเพื่อลูกทั้งหลาย ลูกวางใจในพระองค์ ! "
ซิสเตอร์ ม.โฟสตินาแห่งศิลมหาสนิท
วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างพิธีบูชามิสซา
29 มีนาคม ค.ศ. 1934

พระเยซูเจ้าทรงเห็นชอบกับการถวายตัวในครั้งนี้ เรากำลังให้ลูกมีส่วนร่วมในการไถ่บาปมนุษยชาติ
ลูกคือผู้ปลอบโยนเราในยามที่เราเข้าตรีทูต....
แน่ล่ะ เธอทำการถวายตัวเป็นพลีบูชาครั้งนี้โดยได้รับอนุญาตจากพระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปของเธอ
แม้เธอได้รับความเบิกบานใจเนื่องจากความใกล้ชิดเป็นพิเศษกับพระเจ้า แต่ในไม่ช้าเธอก็รู้ว่า
กระแสเรียกของเธอก็มีมิติในด้านลบด้วยเช่นกัน วิญญาณเธอรู้สึกสดชื่นในเบื้องต้น แต่แล้วก็กลับ
แห้งแล้งราวกับก้อนหิน มีแต่ความทรมาน และ วุ่นวายใจ!

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 22 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ย. 03, 2022 8:12 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ (22)
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

: ความเจ็บป่วยตามที่ทำนายไว้ พระเยซูเจ้าทรงเตรียมซิสเตอร์ โฟสตินาให้พร้อมรับมือกับสิ่งที่
จะเกิดด้วยความกรุณาอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ พระมารดาของพระองค์เป็นผู้แจ้งให้เธอรู้ว่า
เธอจะถูกทดสอบด้วยโรคภัยไข้เจ็บ แม่พระบอกเธอว่า " ลูกจะหนักใจเรื่องภาพพระเมตตาด้วย
แต่ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น"
เธอล้มป่วยเฉียบพลันแพทย์วินิจฉัยผิดพลาดว่าเป็นแค่ 'โรคหวัด' แต่ที่จริงเธอทรมานเป็นกิจวัตร
อยู่แล้ว เธอบันทึกไว้ว่า " ความทุกข์ทรมารคือเพื่อนร่วมชีวิตของดิฉันมาโดยตลอด"
เป็นธรรมเนียมของคณะที่ให้ภคินีที่มีสุขภาพแข็งแรงเฝ้าศิลมหาสนิทหนึ่งชั่วโมง เพื่อชดใช้
โทษบาปแทนคนบาปทั้งหลาย มีการจัดชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่สามทุ่มถึงสี่ทุ่มก่อนวันศุกร์ต้นเดือน
โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเฝ้าศิลคนละหนึ่งชั่วโมงต่อเนื่องกันไปตลอดคืน เธอบันทึกไว่ว่า
เธอสามารถเฝ้าศิลได้จากห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน เธอถวายชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์นี้ เพื่อการ กลับใจของคนบาป
ที่ไม่สำ นึกผิดโดยเฉพาะผู้ที่หมดสิ้นหนทางที่จะได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า แล้วเธอวิงวอนให้ชาว
สวรรค์ทั้งหมดชดเชยบาปเนรคุณต่อพระเจ้าของวิญญาณจำนวนหนึ่งร่วมกับเธอ....
คืนนั้นพระเยซูเจ้าทรงแย้มให้เธอทราบว่าพระองค์พอพระทัยการภาวนาเพื่อชดเชยบาปมากเพียงไร
พระองค์ตรัสกับเธอว่า "คำภาวนาของวิญญาณที่สุภาพและเปี่ยมด้วยความรัก จะบรรเทาพระพิโรธ
ของพระบิดา และนำมาซึ่งพระพรมากมายมหาศาล "...

แต่หลังจากเฝ้าศิล ฯ ระหว่างเดินทางกลับห้อง เธอก็ถูกฝูงสุนัขดำตัวใหญ่รุม พวกมันกระโจน
เห่าหอนและพยายามจะขย้ำเธอ เธอรู้ได้ทันทีว่านั่นมิใช่สุนัข แต่เป็นปีศาจมันตะคอกใส่เธอ
"เราจะฉีกเนื้อแกให้แหลกเชียว คืนนี้แกแย่งชิงวิญญาณไปจากเราตั้งมาก " เธอตอบมันว่า
"หากนั่นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าผู้ทรงเมตตายิ่งแล้วก็จงฉีกเนื้อฉันเถอะนะ ฉันสมควรโดนอยู่หรอก
เพราะฉันเป็นคนบาปที่น่าสมเพชที่สุด และพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ เที่ยงธรรม และทรงพระเมตตากรุณา
อย่างหาที่สุดมิได้ " พอปีศาจได้ยินมันก็ส่งสัญญาณขึ้นพร้อมกัน "เผ่นกันเถอะ มันไม่ได้อยู่คนเดียว
พระผู้ทรงสรรพานุภาพอยู่กับมัน ! " แล้วพวกมันก็สลายตัวไปเหมือนฝุ่น และเธอก็เดินทางกลับห้องพัก
โดยไม่สะทกสะท้าน...

สามวันต่อมาเธอรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงขึ้นมาฉับพลันราวกับว่าเธอกำลังเข้าตรีทูต เธอเชื่อว่า
นี่มิใช่ความตายแท้จริง แต่เป็นการลิ้มรสความเจ็บปวดของความตาย เหตุการณ์นี้น่ากล้วมาก
จู่ ๆ เธอก็รู้สึกคลื่นเหียน เหนื่อยหอบ สายตาพร่ามัว แขนขาชา เธอคิดว่าเธอกำลังขาดใจ เป็นเรื่อง
น่าสยดสยองมาก! ในเวลาแค่ชั่วขณะแต่ดูราวกับเป็นเวลาอันแสนยาวนาน แถมยังมีความกลัวแปลก ๆ
ชอบกลทั้ง ๆ ที่เธอก็มีความวางใจในพระเยซูเจ้า....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 23 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 04, 2022 9:54 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 23 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

เธอปรารถนารับศิลเจิมผู้ป่วย มีการเชิญคุณพ่อโซปอชโก มา โปรดศืลเจิมให้เธอ อาการ
ของซิสเตอร์ดีขึ้นทันทีหลังจากได้รับศิลเจิม แต่ครึ่งชั่วโมงต่อมา อาการของเธอกลับทรุด
ลงอีก แต่อาการครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่าอาการครั้งแรก เนื่องจากเธอได้รับการดูแลจากแพทย์...

ซิสเตอร์รวมความทุกข์ทรมานของเธอเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า
และยกถวายเพื่อตัวเธอเอง และเพื่อการกลับใจของวิญญาณที่ไม่วางใจในพระมหากรุณาธิคุณ
@ของพระเจ้า ในทันใดห้องพักของเธอก็เต็มไปด้วยร่างดำสนิท ซึ่งสำแดงความเคียดแค้น
อาฆาตเธอ มันพูดว่า "ไปตายซะทั้งตัวแกและผู้ที่อยู่ในตัวของแกด้วย แกรังควานพวกข้าถึง
ขุมนรกเชียวนะ " ซิสเตอร์กล่าวเรียบ ๆว่า "และพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์ มาสถิตอยู่
ท่ามกลางเรา" ร่างทั้งหมดก็หายวับไปกับตา วันต่อมาเธอรู้สึกเพลียมาก แต่เนื่องจากเธอ
ไม่รู้สึกทรมาน เธอจึงไปร่วมมิสซา หลังรับศิลมหาสนิท เธอเห็นพระเยซูเจ้าและทูลพระองค์
"พระเยซูเจ้าข้า ลูกนึกว่พระ องค์จะรับลูกไปเสียแล้ว"...
พระเยซูเจ้าตรัสตอบ "ความประสงค์ของเรายังไม่สำเร็จลุล่วงในตัวลูก ลูกจะยังอยู่บนโลกนี้ต่อไป
แต่ไม่นานหรอก เราพอใจในความวางใจของลูกมาก แต่ความรักของลูกควรร้อนรนมากกว่านี้
ความรักบริสุทธิ์ให้กำลังแก่วิญญาณในยามใกล้ตาย ขณะที่เรากำลังจะตายบนไม้กางเขนนั้น
เรามิได้คิดถึงตัวเราเองเลย แต่เราคิดถึงคนบาปผู้น่าสงสาร และภาวนาต่อพระบิดาของเราให้
อภัยแก่เขาเหล่านั้น เราอยากให้วาระสุดท้ายของลูก เหมือนกับวาระสุดท้ายของเราบนไม้กางเขน
ทุกอย่าง มีอย่างเดียวที่ไถ่วิญญาณได้ และนั่นก็คือ ความทุกข์ทรมานที่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับมหา
ทรมานของเราบนไม้กางเขน ความรักที่บริสุทธิ์ย่อมเข้าใจคำพูดเหล่านี้ ความรักทางโลก
จะไม่มีวันเข้าใจได้เลย."...

วันที่ 15 สิงหาคมซึ่งเป็นวันฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ เธอเห็นพระนางพรหมจารี
ผู้งดงามสุดบรรยาย พระนางบอกเธอว่า ลูกรักแม่เรียกร้องให้ลูกภาวนา ภาวนา และขอย้ำ
ให้ลูกภาวนาเพื่อชาวโลก โดยเฉพาะเพื่อบ้านเมืองของลูก จงรับศีลมหาสนิทติดต่อกันเก้าวัน
เพื่อชดเชยบาป และร่วมสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับยัญบูชาศักดิ์สิทธิ์ในพิธีมิสซา ระหว่างเก้าวันนี้
ลูกจะยืนเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าในฐานะเครื่องบูชา ทุกขณะจิต และ ทุกแห่งหน ทุกครั้งและ
ทุกสถานที่ ทั้งกลางวันและกลางคืน ขอให้ลูกภาวนาในใจยามตื่น คนเราสามารถภาวนา
ในใจได้ตลอดเวลา "....

ซิสเตอร์ยังคงหนักใจกับการถูกก่อกวนสารพัด...
ในห้วงเวลาที่ดิฉันทุกข์หนัก ฉันจะสงบปาก สงบคำ เพราะไม่ไว้ใจลิ้นของตัวเอง ในขณะที่ลิ้น
มีหน้าที่ช่วยดิฉันสรรเสริญพระเจ้า ที่พระองค์ประทานพระพรและพระคุณนานับประการให้ เมื่อ
ดิฉันรับพระเยซูเจ้าใน ศิลมหาสนิท ดิฉันวิงวอนพระองค์อย่างร้อนรนให้ทรงพระกรุณาเยียวยา
รักษาลิ้นของดิฉัน เพื่อมิให้ดิฉันใช้มันในการกระทำความผิด ทั้งต่อพระเจ้า และ ต่อเพื่อนมนุษย์
ดิฉันต้องการให้ลิ้นของดิฉันสรรเสริญพระเจ้าไม่หยุดหย่อน ความผิดพลาดอันเกิดจากลิ้นมีมากมาย
วิญญาณจะไม่บรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์หากไม่คอยระวังลิ้นของตนเอง...

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 24 )ในวันต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 06, 2022 8:25 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ ( 24 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก
พระเยซูเจ้าทรงมาเยี่ยม ซิสเตอร์โฟสตินา ทรงปรากฎพระองค์เหนือวัดน้อยในลักษณะ
เดียวกันกับที่เธอเห็นในครั้งแรกเหมือนกับในภาพวาด ลำแสงสองสายฉายออกมาจาก
พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ปกคลุมทั้งวัดน้อย และสถานพยาบาล แผ่ขยายออกไปปกคลุม
ทั้งเมือง แล้วก็กระจายออกไปทั่วโลก เป็นเช่นนี้อยู่ราว สี่นาที

อีเมลด้า เด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งเดินตามหลังคนอื่่น ๆ มากับซิสเตอร์โฟสตินา ก็เห็น
ลำแสงนั้นด้วย แต่อีเมล ด้าไม่เห็นพระเยซูเจ้า จึงไม่รู้ว่าต้นตอของลำแสงนั้นมาจากไหน...
อีเมลด้ามาบอก ซิสเตอร์ โฟสตินาว่าเธอติดใจเรื่องลำแสงนั้นมากจนเธอไม่อาจนิ่งเฉย
และอยากเล่าให้ทุกคนฟัง ซิสเตอร์โฟสตินากระอักกระอ่วนใจยิ่ง ด้วยเธอไม่อาจบอกอีเมลด้า
ได้ว่าเธอเห็นพระเยซูเจ้า จนกระทั่งหนึ่งเดือนต่อมา เธอถูกผู้ใหญ่บังคับให้เขียนรายงานเรื่อง
ภาพนิมิตครั้งนั้น เธอกลายเป็นจุดสนใจ และเธอกล่าวว่า "ดิฉันปลื้มใจในข้อเท็จจริงที่ว่า
พระเยซูเจ้าทรงริเริ่มประกาศพระองค์เองให้เป็นที่รู้จัก ถึงแม้ว่าการที่พระองค์ดำเนินการ
ดังกล่าวเป็นสาเหตุให้ดิฉันถูกก่อกวนก็ตาม เพื่อพระเยซูเจ้าแล้วดิฉันรับได้ทุกอย่าง ".....

วันที่ 5 พฤศจิกายน ซิสเตอร์เข้าวัดน้อยเพื่อรื้อฟื้นความตั้งใจประจำนั้น เธอทูลพระเยซูเจ้าว่า
"ข้าแต่พระเยซูเจ้า วันนี้ลูกขอถวายแด่พระองค์ซึ่งความทุกข์ทรมาน การทรมานกาย และ
คำภาวนาของลูกทั้งหมดตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา เพื่อพระองค์จะได้อนุมัติ
ให้จัดฉลองพระเมตตา แต่พระเยซูเจ้าข้า ลูกยังมีอีกเรื่องจะทูลพระองค์ คือ ลูกแปลกใจนักที่
พระองค์ทรงสั่งให้ลูกพูดถึงการฉลองพระเมตตานี้ เพราะพวกเขาบอกลูกว่ามีการฉลองเช่นนี้อยู่แล้ว
แล้วทำไมลูกจึงต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก" พระเยซูเจ้าตรัสกับเธอว่า แล้วมีใครบ้างล่ะที่รู้เรื่องวันฉลองนี้
ไม่มีเลย ! แม้แต่ผู้ที่สมควรประกาศ และเทศน์สอนเรื่องความเมตตาของเราก็มักไม่รู้เสียเอง
ด้วยเหตุนี้ เราถึงต้องการให้ภาพนี้ได้รับการเสกอย่างสง่าในวันอาทิตย์แรกหลังปาสกา เราต้องการ
ให้ภาพนี้ ได้รับการเคารพจากสาธารณชนเพื่อวิญญาณทุกดวงจะได้รู้จักภาพนี้ จงทำนพวารเพื่อ
ความประสงค์ของ พระสันตปาปา ซึ่งประกอบด้วยบทสวด 33 บท คือ บทภาวนาต่อพระเมตตาบทสั้น
ตามที่เราสอนลูกไว้ .....

บทภาวนาที่พระเยซูเจ้าเอ่ยถึงคือ "โอ้พระโลหิตและน้ำ ซึ่งหลั่งไหลมาจากพระ หฤทัยของพระเยซูเจ้า
เป็นท่อธารพระเมตตาเพื่อลูกทั้งหลาย ลูกวางใจในพระองค์"

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 25 )ในวันต่อไป
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ อังคาร ก.ย. 06, 2022 8:30 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 06, 2022 8:30 pm

📝 หนังสือ "นักบุญโฟสตินา โควัลสกา ธรรมทูตพระเมตตาของพระเจ้า ตอนที่ (25 )
แปลจากต้นฉบับ ภาษาอังกฤษ ของซิสเตอร์โซเฟีย มีคาเลนโก

: ในเดือนธันวาคม ซิสเตอร์โฟสตินาเริ่มรู้สึกข้องใจอย่างหนักเกี่ยวกับสารพระเมตตายิ่งใหญ่
ของพระเจ้าที่เธอบันทึกไว้ "เรื่องพระเมตตาที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ดิฉันกล่าวถึงทั้งหมดนี้ มิได้
เป็นเพียงเรื่องมุสา หรือเป็น ภาพ ลวงตาดอกหรือ "
ขณะที่เธอเริ่มคิดเช่นนี้ระหว่างการอวยพรศิลมหาสนิท เธอได้ยินเสียงที่ทรงอำนาจและชัดเจน
ภายในใจ กล่าวว่า เรื่องความกรุณาของเราที่ลูกกล่าวมาทั้งหมดนั้นล้วนเป็นความจริง ไม่มีถ้อย
คำสรรเสริญใดพรรณาความดีงามของเราได้เพียงพอหรอก....

เธอบันทึกว่า คำพูดเหล่านี้ทรงอำนาจ และชัดเจนยิ่งนัก จนดิฉันพร้อมจะยืนยันด้วยชีวิตว่าสิ่ง
เหล่านี้มาจากพระเจ้า ดิฉันรู้ได้เช่นนี้จากสันติสุขอันล้ำลึกที่เกิดขึ้นควบคู่กันในเวลานั้น และยัง
ดำรงอยู่กับดิฉันจนทุกวันนี้ สันติสุขนึ้ทำให้ดิฉันมีความเข้มแข็งและมีพลัง.....

เนื่องจากเธอเปิดใจรับการดลใจจากพระจิตเจ้า เธอจึงได้รับสารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางครั้ง
พระเยซูเจ้าทรงเผยความรู้สึกลึก ๆ ในพระทัย ความรักที่ยิ่งใหญ่ ตลอดจนความผิดหวังอย่างรุนแรง
ของพระองค์ เธอบันทึกไว้ว่า หัวใจของเราท่วมล้นด้วยความเมตตายิ่งใหญ่ต่อวิญญาณทั้งหลาย
โดยเฉพาะต่อคนบาปที่น่าสงสาร ขอเพียงแต่ให้พวกเขารู้ว่าเราคือบิดาที่ประเสริฐที่สุดของพวกเขา
และรู้ว่าโลหิตและน้ำหลั่งไหลออกมาจากหัวใจของเรา และหนึ่งไหลล้นจากต้นธารความเมตตา
สำหรับเขาเหล่านั้น เราพำนักอยู่ในตู้ศิลในฐานะกษัตริย์แห่งความเมตตาเพื่อเห็นแก่เขาเหล่านั้น
เราปรารถนาจะมอบ พระหรรษทานต่าง ๆ ของเราให้แก่วิญญาณทั้งหลาย แต่พวกเขาไม่ต้อง การรับ
อย่างน้อยที่สุดลูกก็มาหาเราบ่อยครั้งเท่าที่ทำ ได้ และรับพระหรรษทานที่พวกเขาไม่ยอมรับเหล่านี้ไป
ลูกจะบรรเทาใจเรา ก็ด้วยวิธีนี้... โอ้ วิญญาณช่างใจ จืดเหลือเกินต่อคุณงามความดีและต่อบทพิสูจน์
ความรักมากขนาดนั้น ! ใจเราได้แต่ดื่มด่ำความเนรคุณ และความสะเพร่าของวิญญาณที่ยังดำรงชีวิต
อยู่ในโลก เขาเหล่านั้นมีเวลาให้ทุกอย่าง แต่กลับไม่มีเวลามารับพระหรรษทานจากเรา....

พระคุณฝ่ายจิตอย่างหนึ่งที่ซิสเตอร์ได้รับ คือ พระคุณแห่งความรู้ภายในจิตใจ เธอบันทึกนิมิต
ภายในไว้ดังนี้ : เช้าวันอังคาร วันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 1935 ขณะรำพึงภาวนา ดิฉันเห็นพระสันตะปาปา
ในนิมิต พระองค์กำลังถวายมิสซา หลังบทข้าแต่พระบิดาฯ พระองค์สนทนากับพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับเรื่อง
ที่พระเยซูเจ้าสั่งให้ดิฉันทูลพระองค์ แม้ดิฉันจะไม่ได้ทูลพระสันตะปาปาด้วยตนเองแต่ก็มีคนอื่นดูแลเรื่องนี้
ให้(คุณพ่อโซปอชโก) แต่ในเวลานั้นดิฉันได้รับรู้ภายในวิญญาณว่า พระสันตะปาปากำลังพิจารณาเรื่องนี้
ซึ่งจะสำเร็จตามความปรารถนาของพระเยซูเจ้าในไม่ช้า....
สองปีต่อมา คุณพ่อโซปอชโก ได้เขียนจดหมายถึงซิสเตอร์โฟสตินาเพื่อยืนยันในเรื่องนี้ว่า ท่านได้
พูดกับท่านสมณทูต พระอัครสังฆราชซรอแตซิมแล้วเกี่ยวกับการจัดฉลองพระเมตตา และขอให้
พระคุณเจ้า ฯ รายงานให้พระสันตะปาปาทราบเรื่องสาร ฯ ....

โปรดติดตาม ตอนที่ ( 26 ) ในวันต่อไป


:s005: :s005:
ตอบกลับโพส