ฉลองนักบุญ วันที่ ๕ กันยายน
นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา
St. Teresa of Calcutta
พระศาสนจักรฉลองคุณแม่เทเรซาในวันนี้ ท่านเป็นสัญลักษณ์สากลของความเมตตาของพระเจ้า
และความโปรดปรานพิเศษของพระองค์ต่อคนยากจนและถูกทอดทิ้ง
คุณแม่เทเรซาเกิดเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๑๙๑๐ ใน Skopje มาเซโดเนีย ท่านเป็นลูกคนสุดท้อง
ในจำนวน ๓ คน ชื่อของท่านคืออักเนส กองซา โบยาจู (Agnes Gonxha Bojaxhiu) ท่านเข้าร่วม
กลุ่มเยาวชนที่เรียกว่า โซดาลิตี้ (Sodality) ซึ่งจัดตั้งโดยสงฆ์เยสุอิตที่วัดของท่าน และกิจการของ
กลุ่มนี่เองที่นำท่านสู่กระแสเรียกเป็นซิสเตอร์
ท่านเข้าคณะซิสเตอร์แห่งลอเร็ตโต (Sisters of Loretto) และถูกส่งไปเมืองกัลกัตตาเพื่อสอนหนังสือ
ในโรงเรียนมัธยม ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๑๙๔๖ ระหว่างที่กำลังนั่งรถไฟกลับไปอารามที่
เมืองดาร์จีลิง ขณะอยู่บนขบวนรถไฟท่านได้ยินเสียง ซึ่งท่านเรียกว่า "คำสั่ง" ของพระเจ้า ให้ท่าน
ลาออกจากอาราม ไปทำงานและใช้ชีวิตท่ามกลางคนยากจน ในเวลานั้น ท่านไม่ทราบว่าจะต้องตั้ง
คณะนักบวชหญิง หรือแม้กระทั่งว่าจะไปทำงานรับใช้ที่ไหน
"ฉันรู้ว่าฉันควรไปที่ไหน แต่ฉันไม่รู้ว่าจะไปที่นั่นได้อย่างไร"
การยืนยันต่อเสียงเรียกนี้มาถึงเมื่อทางวาติกันอนุญาตให้ท่านลาออกจากคณะซิสเตอร์แห่งลอเร็ตโต
และให้อยู่ใต้ปกครองของอัครสังฆราชแห่งกัลกัตตา ท่านเริ่มทำงานในสลัม สอนเด็กยากจนและดูแล
คนป่วยที่บ้านของพวกเขา ปีต่อมา มีลูกศิษย์บางคนของท่านขอเข้าร่วมงานด้วย ท่านและพวกศิษย์
พาชายหญิงและเด็กๆ ที่กำลังจะตายอยู่ข้างถนนมาใส่ใจดูแล
ปี ๑๙๕๐ คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม (Missionaries of Charity) ถือกำเนิดขึ้นในฐานะคณะนักบวช
ของสังฆมณฑลกัลกัตตา ในปี ๑๙๕๒ รัฐบาลมอบบ้านหลังหนึ่งให้คณะสำหรับทำงานช่วยเหลือ
ชาวกัลกัตตาที่ถูกทอดทิ้ง คณะเติบโตอย่างรวดเร็วจากบ้านหลังเดียวที่ใช้ดูแลผู้ใกล้ตายและไม่เป็น
ที่ต้องการเพิ่มเป็นเกือบ ๕,๐๐๐ หลังทั่วโลก คุณแม่เทเรซาสร้างบ้านเพื่อผู้ทุกข์ทรมานจากโรคเอดส์
บ้านสำหรับโสเภณี บ้านสำหรับผู้หญิงที่ถูกทำร้ายและบ้านเด็กกำพร้าสำหรับคนจน
ท่านมักกล่าวเสมอว่าคนจนที่สุดของคนจน คือผู้ที่ไม่มีใครใส่ใจและไม่มีใครรู้จักพวกเขา ท่านตั้งข้อ
สังเกตบ่อยๆ ด้วยความเศร้าใจถึงคนเป็นล้านๆ ในโลกที่กำลังพัฒนาแต่ขาดแคลนชีวิตฝ่ายจิตและ
โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา ซึ่งเป็นเหตุให้พวกเขาทุกข์ทรมานแสนสาหัส ท่านปกป้องสิทธิในการเกิดมา
มีชีวิตของเด็กอย่างแข็งขัน "ถ้าคุณได้ยินแม่คนไหนบอกว่าไม่อยากมีเด็กและต้องการทำแท้ง
จงพยายามชักชวนให้เธอมอบเด็กให้ฉัน ฉันจะรักเด็กคนนั้น เขาเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้า"
คุณแม่เทเรซาเสียชีวิตวันที่ ๕ กันยายน ๑๙๙๗ และได้รับประกาศเป็นบุญราศี ๖ ปีต่อมา
ในวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๐๐๓ และได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญโดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
เมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๐๑๖
ท่านเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า "การเสียสละที่แท้จริงต้องมีราคา ต้องเจ็บ ต้องทำให้เราว่างเปล่า...
ผลของความเงียบคือการภาวนา ผลของการภาวนาคือความเชื่อ ผลของความเชื่อคือความรัก
ผลของความรักคือการรับใช้ ผลของการรับใช้คือสันติสุข"
ท่านยังกล่าวด้วยว่า "จงมอบตัวท่านทั้งหมดให้กับพระเจ้า พระองค์จะใช้ท่านเพื่อทำงานยิ่งใหญ่ให้สำเร็จ
โดยมีเงื่อนไขว่าท่านต้องเชื่อในความรักของพระองค์มากกว่าความอ่อนแอของตัวเอง"
CR. : Sinapis
Thought of The Day
ข้อคิด 10 ประการ จากคุณแม่เทเรซา (น.เทเรซา แห่งกัลกัตตา)
เมื่อพระศาสนจักรประกาศการสถาปนาคุณแม่เทเรซาเป็นนักบุญ (ผู้ศักดิ์สิทธิ์) ทีมงานของ
Aleteia ได้รวบรวมข้อคิดของคุณแม่ที่ให้แรงบันดาลใจแก่เราและสังคม คือ
ถ้าคุณกำลังตัดสินคนอื่น
คุณย่อมไม่มีเวลาจะรักเขา
โรคร้ายที่สุดในปัจจุบันไม่ใช่วัณโรค หรือโรคเรื้อน
แต่มันคือ การไม่มีใครต้องการ ไม่มีใครรัก และเอาใจใส่
เราสามารถเยียวยารักษาโรคฝ่ายกายด้วยยา แต่วิธีเดียวที่จะรักษาความโดดเดี่ยว
และความสิ้นหวัง คือ ความรัก
♥*♡∞:。。.。:∞♡*♥
มีหลายคนในโลกกำลังสิ้นชีวิตเพราะขาดอาหาร แต่ก็มีหลายคนกำลังสิ้นชีวิตมากกว่าอีก
เพราะขาดความรักเล็กๆ น้อยๆ ความยากจนในโลกตะวัตตกเป็นความยากจนชนิดหนึ่ง
ที่แตกต่างจากเรา คือ ไม่ใช่แค่ยากจนน่าสงสารเพราะความโดดเดี่ยวเท่านั้น แต่ทางจิตวิญญาณ
ก็กระหายความรักของพระเจ้า
ความคิดของฉันคือ อะไร
ฉันเห็นพระเยซูเจ้าในมนุษย์ทุกคน ฉันพูดกับตนเองว่า พระเยซูเจ้าหิว ฉันต้องให้อาหารพระองค์
พระเยซูเจ้าไม่สบาย คนนี้เป็นโรคเรื้อน หรือเนื้อตายเน่า ฉันต้องล้างแผลให้ ดูแลเขา ฉันรับใช้
เพราะฉันรักพระเยซูเจ้า
จงใจดีต่อทุกคนในบ้าน จงใจดีกับคนรอบข้างคุณ
ฉันชอบให้คุณทำผิดพลาดในความใจกว้าง มากกว่าคุณทำอัศจรรย์ได้แต่ไม่ใจดี บ่อยๆ
แค่คำพูดคำเดียว มองครั้งเดียว ทำครั้งเดียวด้วยความรัก จะเปลี่ยนเงามืดในหัวใจคนได้
ฉันอธิษฐานภาวนาขอให้คุณเข้าใจคำพูดของพระเยซูเจ้า ที่ว่า :
“ให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด” (ยน 13:34)
จงถามตนเองว่า : “พระองค์ทรงรักฉันอย่างไร ฉันรักผู้อื่นจริงๆ ในแบบเดียวกันไหม”
หากความรักไม่ได้อยู่ท่ามกลางเรา เราก็สามารถฆ่าตัวเราเองด้วยงาน มันจะเป็นเพียงงาน
ไม่ใช่ความรัก งานที่ไม่มีความรัก ก็เป็นทาส
♥*♡∞:。。.。:∞♡*♥
การเสียสละที่ดี ต้องมีคุณค่า ต้องไม่ทำร้าย ต้องเสียสละตนเองให้ว่างเปล่า
ผลของความเงียบ คือ การภาวนา
ผลของการภาวนา คือ ความเชื่อ
ผลของความเชื่อ คือ ความรัก
ผลของความรัก คือ การรับใช้
ผลของการรับใช้ คือ สันติสุข
การแสวงหาพระพักตร์พระเจ้าในทุกสิ่ง ทุกคน ตลอดเวลา
และแสวงหาพระหัตถ์ของพระองค์ในทุกเหตุการณ์
นี่คือ สิ่งที่มีความหมาย ที่เราต้องไตร่ตรองในใจ การมองและการนมัสการการประทับอยู่
ของพระเยซูเจ้า เป็นพิเศษในคนที่ขาดอาหาร ในคนจนที่กำลังมีทุกข์
สิ่งที่คุณกำลังทำ ฉันไม่สามารถทำ
แต่สิ่งที่ฉันกำลังทำ คุณไม่สามารถทำ
แต่เมื่อเราทำอะไรด้วยกันบางสิ่งที่สวยงาม เพื่อพระเจ้า
นี่คือความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้าสำหรับเรา
พระองค์ให้โอกาสเราเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ … อาศัยกิจการแห่งความรัก
เมื่อคนจนสิ้นชีวิตเพราะความหิว ไม่ใช่เพราะพระเจ้าไม่เอาใจใส่ดูแลเขา
แต่เป็นเพราะเราไม่ได้ช่วยเขา …
พระเยซูเจ้าต้องการให้ฉันบอกคุณอีกว่า
พระองค์ทรงรักคุณมากเกินกว่าที่คุณมโนได้…
พระองค์ทรงรักคุณเสมอ .. แม้เมื่อคุณรู้สึกว่าไม่มีค่าควร …
(ขอบคุณบทความจาก : เวบไซต์สังฆมณฑลราชบุรี / พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล)