ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๓ กันยายน
นักบุญปีโอแห่งปีเอเตรลชีนา
St. Pio of Pietrelcina
ท่านเป็นพระสงฆ์คณะฟรังซิสกัน ซึ่งรู้จักกันในนาม ปาเดรปีโอ (คุณพ่อปีโอ) ท่านมีชื่อเสียง
ในความสุภาพถ่อมตน ยอมรับความทุกข์ทรมานและมีอัศจรรย์หลายอย่างเกิดเนื่องจากท่าน
ท่านเกิดในปี ๑๘๘๗ บิดามารดา กราซิโอและมารีอา ตั้งชื่อท่านว่า ฟรานเชสโก ฟอร์จิโอเน
ท่านมีพี่น้อง ๗ คน แต่สองคนตายแต่ยังเล็ก บิดามารดาดูแลลูกทุกคนอย่างเอาใจใส่ ให้พวกเขา
ไปร่วมมิสซาทุกวัน ร่วมสวดสายประคำในครอบครัว และทำพลีกรรมใช้โทษบาปเสมอๆ
ฟรานเชสโกตัดสินใจแต่ยังเล็กว่าจะสละชีวิตให้พระเจ้า เมื่ออายุ ๑๐ ปีท่านได้รับแรงบันดาลใจ
จากตัวอย่างของภราดากาปูชินคนหนึ่ง ท่านบอกบิดามารดาว่า
"ผมอยากเป็นภราดาและมีหนวดเคราอย่างนั้นด้วย" บิดาของฟรานเชสโกไปอเมริกา ทำงานส่งเสีย
ให้ลูกชายได้เรียนหนังสือเพื่อเขาจะสามารถเข้าเป็นนักบวชได้
วันที่ ๒๒ มกราคม ๑๙๐๓ ฟรานเชสโกได้สวมชุดเครื่องแบบฟรังซิสกันเป็นครั้งแรก ท่านได้รับชื่อ
ใหม่ว่า ปีโอ ซึ่งเป็นชื่อภาษาอิตาเลียนสำหรับปีอุส ตามพระสันตะปาปาปีอุส ที่ ๕ ท่านปฏิญาณตัว
ในอีก ๔ ปีต่อมา และได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ในฤดูร้อนปี ๑๙๑๐ หลังจากนั้นเพียงเล็กน้อย
ท่านก็ได้รับสติกมาตา บาดแผลของพระคริสต์อยู่บนร่างกายของท่าน
นอกจากบาดแผลลึกลับเหล่านี้ คุณพ่อปีโอยังต้องทรมานกับปัญหาด้านสุขภาพที่ทำให้ท่านต้อง
แยกออกจากหมู่คณะในช่วงหกปีแรกของชีวิตสงฆ์ ในปี ๑๙๑๖ ท่านสามารถเข้ามาใช้ชีวิตกลุ่มได้
ที่บ้านคณะใน San Giovanni Rotondo ที่ซึ่งท่านจะอยู่จนตลอดชีวิต ท่านทำหน้าที่สอนและ
เป็นผู้แนะนำชีวิตฝ่ายจิตแทนพวกภราดาที่ถูกเรียกตัวไปร่วมในสงครามโลกครั้งที่ ๑
ในระหว่างปี ๑๙๑๗ และ ๑๙๑๘ คุณพ่อปีโอทำงานในหน่วยพยาบาลของกองทัพอิตาลี ท่านมอบ
ถวายตัวเองให้เป็น "เหยื่อ" ทางจิตวิญญาณ เพื่อให้สงครามยุติท่านขอยอมรับความทุกข์ทรมาน
เป็นคำภาวนาเพื่อสันติภาพ รอยแผลของพระคริสต์ปรากฏบนร่างกายท่านอีกครั้ง บาดแผลเหล่านี้
จะอยู่กับท่านไปตลอดเวลาอีก ๕๐ ปี
ชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์และอัศจรรย์ของท่านเริ่มดึงดูดผู้คน แต่ผู้นำศาสนจักรบางคนประกาศ
ปฏิเสธท่าน และห้ามท่านทำงานอภิบาลในปี ๑๙๓๑ แต่พระสันตะปาปาปีโอ ที่ ๙ ยกเลิกการห้ามนี้
ใน ๒ ปีให้หลัง และผู้สืบตำแหน่งต่อจากพระองค์ พระสันตะปาปาปีโอ ที่ ๑๒ กลับส่งเสริมให้มีการ
จาริกแสวงบุญไปยังที่พำนักของท่าน
คุณพ่อปีโอเป็นที่รู้จักในการเพียรทนรับความทุกข์ สวดภาวนาเสมอ และเร่าร้อนในการแนะนำ
ชีวิตฝ่ายจิต ท่านยังสนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ชื่อ "บ้านบรรเทาทุกข์"
ท่านสิ้นใจในปี ๑๙๖๘ และถูกประกาศเป็นนักบุญในปี ๒๐๐๒
CR. : Sinapis
🕊 อัศจรรย์ของพระจิตเจ้าในยุคของเราในการสารภาพบาปเป็นพระองค์เองที่ฟังและยกโทษ 1/2
ยอห์น 20:22
พระเยซูเจ้าตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า
“จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด
บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด
บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย”
พระจิตเจ้าได้ประทานพระพรให้แต่ละคนแตกต่างกัน ผู้ที่พระองค์ประทานพระพรให้คือผู้รับใช้
ของพระองค์ ที่จะใช้ของประทานในการเสริมสร้างพระศาสนจักรและตามพระประสงค์ ซึ่งมีทั้ง
ฆารวาส นักบวช และทั้งบรรดานักบุญ และบุคคลหนึ่งที่ได้รับพระพรในการ “ฟังแก้บาป” นี้อย่าง
เต็มเปี่ยม คือพระสงฆ์ชาวอิตาลี นักบุญคุณพ่อปีโอผู้มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์
🕊 คุณพ่อปีโอคือใคร
คุณพ่อปีโอ ผู้ได้รับรอยแผลคล้ายแผลที่พระเยซูเจ้าได้รับเป็นพันธกิจที่พระเป็นเจ้าทรงมอบหมาย
ให้เป็นผู้ประกาศความรัก ความเมตตา แผนการการช่วยวิญญาณมนุษย์ให้รอดด้วยอีกวิธีหนึ่ง
(“รอยแผลศักดิ์สิทธิ์” ได้เคยปรากฏแก่นักบุญฟรันซิส อัสซีซี (ค.ศ.๑๑๘๑-๑๒๒๖) สมัยศตวรรษที่ ๑๒
ผู้ก่อตั้งคณะนักบวชฟรันซิสกัน และคณะภราดาน้อยกาปูชิน)�� ท่านมีชีวิตอยู่ในยุคสมัยของ
พวกเรานี้เอง คือในช่วงค.ศ.1887-1968 และท่านได้รับการประกาศเป็นนักบุญเมื่อ ค.ศ.2002 นี้เอง
นอกจากความศักดิ์สิทธิ์ในการดำเนินชีวิตนักบวชที่เคร่งครัด และความรักอันลึกซึ้งต่อพระผู้เป็นเจ้า
อย่างยิ่งแล้ว ท่านมีชื่อเสียงด้านการหยั่งรู้ความคิดและอนาคต พระพรการรักษา และหลักฐานพยาน
บุคคลหลายครั้งได้ยืนยันว่า ท่านอยู่สองสถานที่ในเวลาเดียวกัน (Bilocation) ซึ่งเป็นมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง
และ ท่านคือ 1ในบรรดานักบุญของคริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิคที่มี “ของประทาน” จากพระจิตเจ้า
ในเรื่องของ “การฟังสารภาพบาป” ของสัตบุรุษ
ท่านจึงเป็นบาดหลวงที่มีคนขอต่อคิวเพื่อสารภาพบาปมากที่สุด มีผู้ประเมินตัวเลขไว้ว่าคุณพ่อปีโอ
โปรดศีลอภัยบาปสัตบุรุษมากถึง ๒ ล้านคน ในระยะเวลา ๕๑ ปี และต่อไปนี้คือการอัศจรรย์ที่พระจิตเจ้า
ได้ทรงกระทำผ่านผู้รับใช้ของพระองค์
🕊 พระพรที่โด่งดังไปทั่วโลก
ระหว่าง ค.ศ. ๑๙๑๘-๒๓ คุณพ่อปีโอฟังแก้บาปนาน ๑๕-๑๙ ชั่วโมงทุกๆ วัน จนคุณพ่ออธิการต้อง
จำกัดเวลาฟังแก้บาปของคุณพ่อให้น้อยลง ค.ศ. ๑๙๔๐-๕๐ คุณพ่อปีโอจึงฟังแก้บาปลดลงเหลือ ๕-๘ ชั่วโมง
ในแต่ละวัน ในเวลาเช้าคุณพ่อปีโอจะโปรดศีลอภัยบาปสตรีที่ห้องฟังแก้บาปภายในวัด ส่วนเวลาบ่าย
สัตบุรุษชายจะมาแก้บาปในห้องแต่งตัวพระสงฆ์หลังวัด โดยนั่งพูดคุยกันอย่างเปิดเผยตามลำพังสองคน
คุณพ่อปีโอจะปรกมือทั้งสองบนบ่าของผู้สำนึกผิดที่มาขอคืนดีกับพระเป็นเจ้า
หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีสัตบุรุษมาแก้บาปกับคุณพ่อปีโอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
สัตบุรุษจะตั้งแถวแต่เช้ามืดคอยคุณพ่อปีโอมาฟังแก้บาป เมื่อมีคนเพิ่มมากขึ้น หลายครั้งผู้มายืนรอ
คุณพ่อปีโอเกือบทั้งวันจำนวนหนึ่งจะไม่ได้พบคุณพ่อปีโอ คนเหล่านั้นก็จะมาเข้าแถวรออีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
และเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้ลำดับตามเดิมที่ได้เมื่อวันวาน เช่น สมมุติว่าคนหนึ่งรอเป็นคนที่ ๔ ของวันก่อน
อาจจะอยู่ในลำดับที่ ๑๓ ของวันรุ่งขึ้น
เมื่อเกิดปัญหาในการเข้าคิวมากขึ้น ทางคณะและโบสถ์จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบในเรื่องนี้
คุณพ่อเคลเมนต์ นอยเบาเออร์ มหาธิการคณะที่กรุงโรม ขออนุญาตใช้ “บัตรคิวแก้บาป” คุณพ่อเคลเมนต
รู้สึกว่าการใช้บัตรคิวให้ความรู้สึกว่าวัดเป็นโรงภาพยนตร์มากกว่าสถานที่ภาวนา แต่ก็ได้รับการจูงใจว่า
จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีนี้เพื่อลดความขัดแย้ง ในเวลาต่อมาผู้จะมาแก้บาปกับคุณพ่อปีโอจะต้องไปลงทะเบียน
โดยแยกระหว่างคนในท้องที่และผู้แสวงบุญจากต่างถิ่น และเพื่อไม่ให้มีการซื้อขายบัตรคิวผู้แก้บาปต้อง
เซ็นต์ชื่อในบัตรต่อหน้าพระสงฆ์ที่ออกบัตร โดยพระสงฆ์จะลงนามและระบุวันที่ออกบัตรไว้ด้วย
พระพรการพูดภาษาต่างๆและการเข้าใจภาษาต่างๆเหมือนในวันเปนเตกอสเต
กิจการ 2:1-13 วันเปนเตกอสเต
เมื่อวันเปนเตกอสเตมาถึง บรรดาศิษย์ทุกคนมาชุมนุมในสถานที่เดียวกัน ทันใดนั้นมีเสียงจากฟ้า
เหมือนเสียงลมพัดแรงกล้าทุกคนที่อยู่ในบ้านได้ยิน เขาเห็นเปลวไฟลักษณะเหมือนลิ้นแยกไปอยู่เหนือศีรษะ
ของเขาแต่ละคน ทุกคนได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม และเริ่มพูดภาษาอื่น ๆ ตามที่พระจิตเจ้าประทานให้พูด
ขณะนั้นที่กรุงเยรูซาเล็มมีชาวยิวผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระเจ้ามาจากทุกชาติทั่วโลก เมื่อประชาชนได้ยิน
เสียงนี้ จึงมาชุมนุมกันจำนวนมาก รู้สึกฉงนสนเท่ห์เพราะแต่ละคนได้ยินคนเหล่านี้พูดภาษาของตน
และประหลาดใจอย่างยิ่ง กล่าวว่า “ ทุกคนที่กำลังพูดอยู่นี้เป็นชาวกาลิลีมิใช่หรือ แล้วทำไมเราแต่ละคน
จึงได้ยินเขาพูดภาษาท้องถิ่นของเราเล่า เราชาวปาร์เธีย ชาวมีเดีย และชาวเอลาม บางคนอาศัยอยู่
ในเขตเมโสโปเตเมีย แคว้นยูเดีย แคว้นคัปปาโดเซีย แคว้นปอนทัสและแคว้นเอเชีย แคว้นฟรีเจียและ
แคว้นปัมฟีเลีย บางคนมาจากประเทศอียิปต์และเขตของประเทศลิเบีย รอบ ๆ เมืองไซรีน บางคนมาจาก
กรุงโรม ทั้งชาวยิวและผู้กลับใจเข้านับถือลัทธิยิวบางคนเป็นชาวเกาะครีตและชาวอาหรับ พวกเราได้ยิน
คนเหล่านี้ประกาศกิจการอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเป็นภาษาของเรา” ทุกคนประหลาดใจและฉงนสนเท่ห์
พูดกันว่า “นี่หมายความว่าอย่างไร”
โดยปรกติ เฉพาะผู้ที่ใช้ภาษาอิตาเลียนได้คล่องแคล่วเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้แก้บาปกับคุณพ่อปีโอ
แม้จะเป็นที่รู้จักทั่วไปว่าคุณพ่อปีโอมี “พระพรด้านภาษา” สามารถเข้าใจสิ่งที่ชาวอเมริกันและรัสเซียซึ่ง
ไม่พูดภาษาอิตาเลียนสื่อสารได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ บางครั้งจึงมีชาวอเมริกันและรัสเซียมาแก้บาปกับคุณพ่อปีโอด้วย
ปลายปี ค.ศ. ๑๙๒๐ มารีอา ไพล์ ได้รบเร้า เซเน ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ให้มาแก้บาปกับคุณพ่อปีโอ ครั้งแรกเธอ
ไม่ยินยอมเพราะเกรงว่าจะสื่อความหมายไม่เข้าใจเธอแสดงความรู้สึกหลังจากได้แก้บาปกับคุณพ่อปีโอว่า
“ดิฉันพูดภาษาอังกฤษและคุณพ่อพูดภาษาอิตาเลียน แต่เราต่างเข้าใจกันและกันได้ดี ดิฉันเดินออกจากห้อง
ฟังแก้บาปด้วยความงงงวย” บางครั้งคุณพ่อปีโอยังพูดภาษาบางภาษาเป็นวลี ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนภาษานั้น
ดังเช่นที่ได้ฟังแก้บาปพระสงฆ์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งใช้ภาละติน
อย่างไรก็ตามคุณพ่อปีโอมักจะฟังแก้บาปเฉพาะผู้ที่ใช้ภาษาอิตาเลียน หากมีผู้ที่ใช้ภาษาละตินมา
ขอแก้บาปคุณพ่อจะขอให้พวกเขาไปแก้บาปกับพระสงฆ์ผู้มีการศึกษาสูงกว่าตน
แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าเป็นความตั้งใจจริงที่จะสารภาพบาป และเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า
คุณพ่อปีโอก็ยินดีจะฟังแก้บาป อเดลเลียเด ไพล์ เป็นคริสตศาสนิกชนที่ไม่ใช่คาทอลิก เมื่ออเดลเลียเด
ได้เปรยกับลูกสาวว่า “แม่อยากจะคุกเข่าในที่ฟังแก้บาปเพื่อสารภาพความผิดจัง! แต่แม่พูดภาษาอิตาเลียน
ไม่เป็น!” เมื่อมารีอา ไพล์ ได้เล่าเรื่องนี้ให้คุณพ่อปีโอฟังคุณพ่ออุทานว่า “หากเธอประสงค์จะแก้บาป
ภาษาไม่เป็นปัญหาพ่อช่วยดูแลเรื่องนี้ได้!”
🕊 การหยั่งรู้ถึงสภาพวิญญาณของผู้มาสารภาพบาปอย่างน่าอัศจรรย์
ฮีบรู 4:12
พระวาจาของพระเจ้าเป็นพระวาจาที่มีชีวิตและบังเกิดผล คมยิ่งกว่าดาบ สองคมใด ๆ แทงทะลุเข้าไป
ถึงจุดที่วิญญาณและจิตใจแยกจากกัน ถึงเส้นเอ็นและไขกระดูก วินิจฉัยความรู้สึกนึกคิดภายในใจได้
จึงไม่มีสรรพสิ่งใด ๆ ซ่อนเร้นไว้เฉพาะพระพักตร์ แต่ทุกสิ่งเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อสายพระเนตรของ
พระผู้ซึ่งเราจะต้องทูลถวายรายงาน
คุณพ่อปีโอ ได้รับพระพรในการหยั่งรู้สภาพจิตใจและวิญญาณของผู้ที่มาสารภาพบาป หรือแม้แต่
รายละเอียดในบาปที่ตั้งใจปิดบังซ่อนเร้นก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ได้ช่วยให้ผู้มาสารภาพบาป
ได้สารภาพบาปและสำนึกบาปอย่างสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง
ตัวอย่างเช่นในกรณีของ คลาริเช บรูโน ซึ่งใช้เวลาแก้บาปไม่ถึง ๒ นาที ทันทีที่เธอเข้าไปในที่ฟัง
แก้บาป คุณพ่อปีโอจะกล่าวว่า “เดี๋ยวพ่อจะเป็นคนพูดเอง” จากนั้นคุณพ่อก็เริ่มท่องปากเปล่าถึงบาปต่างๆ
ของเธอตามลำดับ โดยจะหยุดชั่วขณะเพื่อให้เธอได้ตอบรับหรือปฏิเสธว่า ได้ทำบาปนั้นๆ หรือไม่? ซึ่งเธอ
ก็ตอบว่า “ค่ะ คุณพ่อ (ลูกได้ทำบาปนี้)” มีครั้งหนึ่งคุณพ่อปีโอพูดว่า “ลูกไม่อดทนและมักอารมณ์เสีย...
แต่ลูกก็สำนึกผิดในทันที” บรูโนจำได้ดีว่าเมื่อวันก่อนเธออารมณ์เสียกับบริกรในร้านอาหารและได้พึมพำ
กับตัวเองว่า “ฉันหวังว่าฉันได้สำนึกผิดที่ได้โมโหบริกรคนนี้” คุณพ่อปีโอย้ำว่า “พ่อบอกว่าลูกได้สำนึกผิด
ทันทีที่ได้โมโห” บรูโน บรรยายว่า “คุณพ่อปีโอไม่ได้ตั้งคำถาม แต่คุณพ่อเล่าให้ดิฉันฟังว่าดิฉันได้ทำบาป
อะไรไว้บ้าง!” มีครั้งหนึ่ง “ระหว่างที่กำลังสารภาพบาป ก่อนที่ดิฉันจะได้มีโอกาสเอ่ยปากขอคำแนะนำ
คุณพ่อปีโอก็ได้เตือนใจในสิ่งที่ตรงกับที่ดิฉันคิดว่าจะถาม” จากนั้นคุณพ่อก็โปรดบาปและปิด
“ช่องหน้าต่าง” ในห้องฟังแก้บาปและหันไปฟังแก้บาปรายต่อไปทันที เมื่อสารภาพบาปเรียบร้อยแล้ว
บรูโนออกจากวัด และรู้สึกว่า “ตัวเบา” และ “พบสันติสุขในพระเป็นเจ้าอย่างแท้จริง”
คุณพ่อปีโอ จะไม่ยินยอมฟังข้อแก้ตัวในการทำบาปของผู้มาสารภาพบาป และคุณพ่อจะรู้สึกหงุดหงิด
ทันทีหากผู้ใดจะอ้างว่า “สำหรับดิฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะ...” โดยไม่ยืนยันว่าตั้งใจจริงที่จะหลีกหนี
โอกาสบาป หรือหากผู้ใดพยายามแก้ตัวว่า “ผมทนไม่ไหว” คุณพ่อจะตบมือดังและกล่าวว่า
“ก่อนที่พระเป็นเจ้าจะอภัยบาปของลูก ลูกควรต้องเป็นทุกข์ถึงบาปและเสียใจอย่างแท้จริงก่อน...”
CR. :
http://www.belongtothetruth.com/Miracle/padre_pio01.htm