ประวัตินักบุญ อย่างย่อเดือน ตุลาคม (วันที่1-15)
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 04, 2022 7:50 pm
ฉลองนักบุญ วันที่ ๑ ตุลาคม
นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
St. Thérèse of the Child Jesus
นักบุญเทเรซาเกิดเมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๑๘๗๓ ในเมือง Alencon ประเทศฝรั่งเศส บิดามารดา
ของเธอเป็นคาทอลิกใจศรัทธา (ภายหลัง พระสันตะปาปาฟรังซิสได้สถาปนาหลุยส์และเซลีเป็น
นักบุญในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๐๑๕) มารดาเสียชีวิตเมื่อเทเรซาอายุ ๔ ขวบ บิดาและพวกพี่สาว
ช่วยกันอบรมเลี้ยงดูเธอ
ในวันคริสต์มาสปี ๑๘๘๖ เทเรซามีประสบการณ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าอย่างแนบแน่น ซึ่งเธอ
บรรยายว่าเป็น "การกลับใจอย่างสมบูรณ์" ต่อมา เมื่อเธอร่วมคณะจาริกแสวงบุญไปโรม และ
ได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาเลโอ ที่ ๑๓ เธอทูลขอพระองค์อนุญาตให้เธอเข้าอารามคาร์เมไลท์ได้
แม้อายุเพียง ๑๕ ปี
เมื่อเทเรซาเข้าอยู่ในอารามคณะคาร์เมไลท์ เธอพยายามดำเนินชีวิตศักดิ์สิทธิ์ เธอทำทุกอย่างด้วย
ความรักและไว้วางใจอย่างเด็กๆ ในพระเจ้า เธอต้องปรับตัวกับการดำเนินชีวิตกลุ่มในอาราม เธอ
ตัดสินใจกระทำทุกอย่างด้วยความรัก โดยเฉพาะกับคนที่เธอไม่ชอบ เธอทำสิ่งต่างๆ โดยไม่เลือกว่า
จะเล็กน้อยหรือใหญ่โต กิจการเหล่านี้ช่วยให้เธอเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อกระแสเรียกของเธอ
เธอเขียนในอัตชีวประวัติว่าเธอใฝ่ฝันอยากเป็นธรรมทูต เป็นอัครสาวก เป็นมรณสักขี แต่เธอเป็นเพียง
ชีลับคนหนึ่งในอารามเงียบสงัดในฝรั่งเศส แล้วความปรารถนานี้จะเป็นจริงได้อย่างไร?
"ความรักมอบกุญแจไขกระแสเรียกของฉัน ฉันเกิดความเข้าใจว่าพระศาสนจักรมีหัวใจและหัวใจนี้ลุกไหม้
ด้วยความรัก ฉันรู้ว่าความรักผลักดันให้สมาชิกของพระศาสนจักรออกกระทำกิจการดีต่างๆ ถ้าความรักนี้
มอดดับ อัครสาวกก็จะไม่ประกาศพระวรสารอีกต่อไป มรณสักขีจะไม่หลั่งเลือดอีกต่อไป ฉันเข้าใจว่า
ความรักเป็นที่มาของกระแสเรียกทั้งหลาย ความรักเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่สวมกอดทุกแห่งแหล่งที่และ
ทุกกาลเวลา ...กล่าวอีกอย่าง นั่นเป็นนิรันดร ดังนั้นด้วยความเบิกบานจนสุดจะข่มกลั้น ฉันร้องออกมาว่า
โอ้พระเยซูความรักของฉัน กระแสเรียกของฉัน ในที่สุด ฉันพบแล้วกระแสเรียกของฉันคือความรัก"
เทเรซาถวายตัวเธอเป็นพลีบูชาแด่ความรักของพระเจ้าในวันที่ ๙ มิถุนายน ๑๘๙๕ ในวันฉลองพระตรีเอกภาพ
แล้วปีต่อมา ในคืนระหว่างวันพฤหัสฯ ศักดิ์สิทธิ์และศุกร์ศักดิ์สิทธิ์เธอก็พบอาการแรกของวัณโรค ซึ่งเป็น
ความเจ็บป่วยที่จะนำไปสู่ความตายของเธอ เทเรซาตระหนักว่าความเจ็บป่วยของเธอคือการเชื้อเชิญอย่าง
ลึกลับของการเป็นเจ้าสาวของพระเจ้า และเธอยินดีต้อนรับความทุกข์ทรมานในฐานะเป็นคำตอบรับสำหรับ
การถวายตัวของเธอเมื่อปีก่อน
เธอได้พบการทดสอบด้านความเชื่อ ซึ่งคงอยู่จนกระทั่งถึงวันที่เธอสิ้นใจ คำพูดสุดท้ายของเธอคือ
"พระเจ้าของลูก ลูกรักพระองค์"
ภายหลังการสิ้นใจด้วยวัยเพียง ๒๔ ปีของเธอ คริสตชนนับล้านได้รับแรงบันดาลใจจาก "ทางสายน้อย"
ในการแสดงความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ของเธอ มีอัศจรรย์เกิดขึ้นมากมายจากผู้วอนขอ เธอ
เคยกล่าวไว้ว่า "ชีวิตในสวรรค์ของฉันจะถูกใช้เพื่อกระทำสิ่งดีๆ ในโลก"
ในปี ๑๙๙๗ อันเป็นวาระ ๑๐๐ ปีการเสียชีวิตของเธอ นักบุญเทเรซาได้รับประกาศเป็นนักปราชญ์ของ
พระศาสนจักร โดยพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ ๒ เธอเป็นสตรีคนที่สามที่ได้รับประกาศเป็นนักปราชญ์
ของพระศาสนจักร ต่อจากนักบุญแคทเธอรีนแห่งซีเอนา และนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา
นักบุญเทเรซาเคยเขียนไว้ว่า "พระเจ้าไม่ได้มองการกระทำของเราว่ายิ่งใหญ่หรือ
ต้องประสบทุกข์ยากลำบากเพียงใด แต่ทรงมองที่ความรักของเราในการกระทำสิ่งนั้น"
CR. : Sinapis
1 ตุลาคม
ระลึกถึงนักบุญเทเรซา แห่งพระกุมารเยซู
พรหมจารี และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร
(St Thérèse of the Child Jesus, Virgin & Doctor, memorial)
มารี ฟร็องซัวส์ เทแรส (Marie Francoise Thérèse) เกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1873 เป็นลูก
คนสุดท้องในจำนวนทั้งหมด 9 คน จากครอบครัวที่ศรัทธาแห่งอะลังซอง (Alencon) ประเทศฝรั่งเศส
ทั้งคุณพ่อ Louis และคุณแม่ Zelie Martin ของท่านนักบุญเคยคิดที่จะเจริญชีวิตเป็นนักบวชมาก่อน
แต่พระเจ้าทรงทดแทนให้ท่านทั้งสองโดยรับลูกๆของพวกท่านถึง 5 คนให้ได้ไปเป็นนักบวช หนูน้อย
เทเรซาตั้งแต่อายุ 9 ขวบเป็นต้นมาได้พยายามตามบรรดาพี่ๆของเธอไปที่อารามคณะคาร์เมไลท์
ไม่สวมรองเท้าที่เมือง ลีซีเออซ์ (Lisieux) ขณะที่เธอมีอายุได้ 14 ปี พระสังฆราชก็ยังพิจารณาเห็นว่า
เธอยังเด็กไปที่จะเข้าอาราม ดังนั้นในปีศักดิ์สิทธิ์เธอได้เดินทางไปที่กรุงโรม และได้ร้องขอเป็นการ
ส่วนตัวต่อสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 13 ให้อนุมัติแก่เธอเป็นพิเศษเพื่อจะได้เข้าอาราม ในที่สุด
ท่านก็ได้รับการต้อนรับให้เข้าอารามได้จาก Mother Prioress ในขณะที่อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น
ซิสเตอร์เทเรซา แห่งพระกุมารเยซู ซึ่งใครๆก็เรียกเธอด้วยชื่อนี้ ได้รับคำชื่นชมโดยเห็นได้ชัดว่าเป็น
ผลิตผลแห่งพระหรรษทาน เธอได้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงและรวดเร็วในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์
จนกระทั่งเมื่ออายุ 22 ปีก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนวกจารย์ - ความซื่อแบบเด็กๆ ความสุภาพที่ปรากฏ
ออกมาภายนอก การเสียสละอุทิศตนอย่างสม่ำเสมอ และความรักต่อพระเจ้าอย่างไม่มีขอบเขต
รวมถึงความไว้วางใจในพระองค์โดยสิ้นเชิง สิ่งเหล่านี้คือคุณธรรมที่โดดเด่นในชีวิตของเธอ
"ไม่มีใครจะวอนขอมากเกินไปจากพระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพและทรงเมตตาสงสาร เขาจะได้รับจาก
พระองค์จริงๆตามสัดส่วนของความไว้วางใจที่เขามีต่อพระองค์" แต่โดยผ่านทาง "หนทางเล็กๆ"
(Little Way) ของเธอ ในการกระทำหน้าที่เล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันอย่างครบครันด้วยความรัก
ต่อพระเจ้า ก็ได้กลายเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจสำหรับคนธรรมดาอย่างมากมายนับไม่ถ้วน
ซึ่งเธอได้เปิดเผยในหนังสืออัตชีวประวัติที่มีชื่อเสียงของเธอที่ชื่อว่า "เรื่องเล่าของวิญญาณดวงหนึ่ง"
(The Story of a Soul) ซึ่งเธอได้เขียนเพราะความนบนอบ "อย่าทำตนให้เด่นในทุกสิ่ง อย่าบ่นว่า
อย่าบอกว่าตนไม่สบาย จงแสดงความเป็นมิตรอย่างพิเศษกับคนเหล่านั้นที่ใจจืดใจดำกับเรา
จงให้คำตอบอย่างหลักแหลมด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ" - เหล่านี้คือ สิ่งที่เธอปฏิบัติจริง
ในช่วงระยะเวลาเก้าปีครึ่งในการใช้ชีวิตอยู่ในอารามเธอไม่ได้ทำตัวโดดเด่น แต่กลับวางตัวเป็น
ธรรมชาติมากจนว่าเธอสามารถผ่านเวลานี้ไปโดยไม่เป็นที่สังเกต สิ่งที่เธอตั้งใจทำเป็นพิเศษ คือเธอ
รู้สึกว่าจะต้องช่วยบรรดาพระสงฆ์และบรรดามิชชันนารีของพระศาสนจักร ดังนั้น เธอจึงสวดภาวนา
และทำพลีกรรมเพื่อพวกเขา และหลังจากการตายต่อตนเองทั้งร่างกายและจิตใจ
(เธอเคยใฝ่ฝันจะเป็นมรณสักขีตั้งแต่วัยเด็ก) เธอได้มอบถวายตนด้วยความอ่อนหวานและความอดทน
ขั้นวีรกรรม ให้เป็นเสมือนเชลยของความรักเปี่ยมเมตตาของพระเจ้า เธอได้สิ้นชีพเพราะวัณโรค
เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ.1897 เมื่อมีอายุ 24 ปี "มีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องทำเมื่อเราอยู่ในโลกข้างล่างนี้
คือรักพระเยซูเจ้า และช่วยวิญญาณต่างๆ ให้รอด เพื่อพระองค์จะทรงได้รับความรักมากขึ้น"
ได้รับแต่งตั้งเป็นบุญราศี ในปี ค.ศ. 1923 และได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นนักบุญเมื่อ
วันที่ 17 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1925 โดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ชื่อของท่านนักบุญที่ว่า
"ดอกไม้น้อยๆ" (the Little Flower) กลายเป็นชื่อที่คนรู้จักกันอย่างกว้างขวาง ท่านเป็นองค์อุปถัมภ์
ของบรรดานักบิน ของประเทศรัสเซีย และพร้อมกับนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ ของประเทศมิสซังทั้งหลาย
และท่านยังได้รับการประกาศเป็นนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักรในปี ค.ศ.1997
โดย นักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระสันตะปาปา
(ถอดความโดย คุณพ่อวิชา หิรัญญการ
จากหนังสือ Saint Companions For Each Day
เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)
นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู
St. Thérèse of the Child Jesus
นักบุญเทเรซาเกิดเมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๑๘๗๓ ในเมือง Alencon ประเทศฝรั่งเศส บิดามารดา
ของเธอเป็นคาทอลิกใจศรัทธา (ภายหลัง พระสันตะปาปาฟรังซิสได้สถาปนาหลุยส์และเซลีเป็น
นักบุญในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๐๑๕) มารดาเสียชีวิตเมื่อเทเรซาอายุ ๔ ขวบ บิดาและพวกพี่สาว
ช่วยกันอบรมเลี้ยงดูเธอ
ในวันคริสต์มาสปี ๑๘๘๖ เทเรซามีประสบการณ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าอย่างแนบแน่น ซึ่งเธอ
บรรยายว่าเป็น "การกลับใจอย่างสมบูรณ์" ต่อมา เมื่อเธอร่วมคณะจาริกแสวงบุญไปโรม และ
ได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปาเลโอ ที่ ๑๓ เธอทูลขอพระองค์อนุญาตให้เธอเข้าอารามคาร์เมไลท์ได้
แม้อายุเพียง ๑๕ ปี
เมื่อเทเรซาเข้าอยู่ในอารามคณะคาร์เมไลท์ เธอพยายามดำเนินชีวิตศักดิ์สิทธิ์ เธอทำทุกอย่างด้วย
ความรักและไว้วางใจอย่างเด็กๆ ในพระเจ้า เธอต้องปรับตัวกับการดำเนินชีวิตกลุ่มในอาราม เธอ
ตัดสินใจกระทำทุกอย่างด้วยความรัก โดยเฉพาะกับคนที่เธอไม่ชอบ เธอทำสิ่งต่างๆ โดยไม่เลือกว่า
จะเล็กน้อยหรือใหญ่โต กิจการเหล่านี้ช่วยให้เธอเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อกระแสเรียกของเธอ
เธอเขียนในอัตชีวประวัติว่าเธอใฝ่ฝันอยากเป็นธรรมทูต เป็นอัครสาวก เป็นมรณสักขี แต่เธอเป็นเพียง
ชีลับคนหนึ่งในอารามเงียบสงัดในฝรั่งเศส แล้วความปรารถนานี้จะเป็นจริงได้อย่างไร?
"ความรักมอบกุญแจไขกระแสเรียกของฉัน ฉันเกิดความเข้าใจว่าพระศาสนจักรมีหัวใจและหัวใจนี้ลุกไหม้
ด้วยความรัก ฉันรู้ว่าความรักผลักดันให้สมาชิกของพระศาสนจักรออกกระทำกิจการดีต่างๆ ถ้าความรักนี้
มอดดับ อัครสาวกก็จะไม่ประกาศพระวรสารอีกต่อไป มรณสักขีจะไม่หลั่งเลือดอีกต่อไป ฉันเข้าใจว่า
ความรักเป็นที่มาของกระแสเรียกทั้งหลาย ความรักเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่สวมกอดทุกแห่งแหล่งที่และ
ทุกกาลเวลา ...กล่าวอีกอย่าง นั่นเป็นนิรันดร ดังนั้นด้วยความเบิกบานจนสุดจะข่มกลั้น ฉันร้องออกมาว่า
โอ้พระเยซูความรักของฉัน กระแสเรียกของฉัน ในที่สุด ฉันพบแล้วกระแสเรียกของฉันคือความรัก"
เทเรซาถวายตัวเธอเป็นพลีบูชาแด่ความรักของพระเจ้าในวันที่ ๙ มิถุนายน ๑๘๙๕ ในวันฉลองพระตรีเอกภาพ
แล้วปีต่อมา ในคืนระหว่างวันพฤหัสฯ ศักดิ์สิทธิ์และศุกร์ศักดิ์สิทธิ์เธอก็พบอาการแรกของวัณโรค ซึ่งเป็น
ความเจ็บป่วยที่จะนำไปสู่ความตายของเธอ เทเรซาตระหนักว่าความเจ็บป่วยของเธอคือการเชื้อเชิญอย่าง
ลึกลับของการเป็นเจ้าสาวของพระเจ้า และเธอยินดีต้อนรับความทุกข์ทรมานในฐานะเป็นคำตอบรับสำหรับ
การถวายตัวของเธอเมื่อปีก่อน
เธอได้พบการทดสอบด้านความเชื่อ ซึ่งคงอยู่จนกระทั่งถึงวันที่เธอสิ้นใจ คำพูดสุดท้ายของเธอคือ
"พระเจ้าของลูก ลูกรักพระองค์"
ภายหลังการสิ้นใจด้วยวัยเพียง ๒๔ ปีของเธอ คริสตชนนับล้านได้รับแรงบันดาลใจจาก "ทางสายน้อย"
ในการแสดงความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์ของเธอ มีอัศจรรย์เกิดขึ้นมากมายจากผู้วอนขอ เธอ
เคยกล่าวไว้ว่า "ชีวิตในสวรรค์ของฉันจะถูกใช้เพื่อกระทำสิ่งดีๆ ในโลก"
ในปี ๑๙๙๗ อันเป็นวาระ ๑๐๐ ปีการเสียชีวิตของเธอ นักบุญเทเรซาได้รับประกาศเป็นนักปราชญ์ของ
พระศาสนจักร โดยพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ ๒ เธอเป็นสตรีคนที่สามที่ได้รับประกาศเป็นนักปราชญ์
ของพระศาสนจักร ต่อจากนักบุญแคทเธอรีนแห่งซีเอนา และนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา
นักบุญเทเรซาเคยเขียนไว้ว่า "พระเจ้าไม่ได้มองการกระทำของเราว่ายิ่งใหญ่หรือ
ต้องประสบทุกข์ยากลำบากเพียงใด แต่ทรงมองที่ความรักของเราในการกระทำสิ่งนั้น"
CR. : Sinapis
1 ตุลาคม
ระลึกถึงนักบุญเทเรซา แห่งพระกุมารเยซู
พรหมจารี และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร
(St Thérèse of the Child Jesus, Virgin & Doctor, memorial)
มารี ฟร็องซัวส์ เทแรส (Marie Francoise Thérèse) เกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1873 เป็นลูก
คนสุดท้องในจำนวนทั้งหมด 9 คน จากครอบครัวที่ศรัทธาแห่งอะลังซอง (Alencon) ประเทศฝรั่งเศส
ทั้งคุณพ่อ Louis และคุณแม่ Zelie Martin ของท่านนักบุญเคยคิดที่จะเจริญชีวิตเป็นนักบวชมาก่อน
แต่พระเจ้าทรงทดแทนให้ท่านทั้งสองโดยรับลูกๆของพวกท่านถึง 5 คนให้ได้ไปเป็นนักบวช หนูน้อย
เทเรซาตั้งแต่อายุ 9 ขวบเป็นต้นมาได้พยายามตามบรรดาพี่ๆของเธอไปที่อารามคณะคาร์เมไลท์
ไม่สวมรองเท้าที่เมือง ลีซีเออซ์ (Lisieux) ขณะที่เธอมีอายุได้ 14 ปี พระสังฆราชก็ยังพิจารณาเห็นว่า
เธอยังเด็กไปที่จะเข้าอาราม ดังนั้นในปีศักดิ์สิทธิ์เธอได้เดินทางไปที่กรุงโรม และได้ร้องขอเป็นการ
ส่วนตัวต่อสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 13 ให้อนุมัติแก่เธอเป็นพิเศษเพื่อจะได้เข้าอาราม ในที่สุด
ท่านก็ได้รับการต้อนรับให้เข้าอารามได้จาก Mother Prioress ในขณะที่อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น
ซิสเตอร์เทเรซา แห่งพระกุมารเยซู ซึ่งใครๆก็เรียกเธอด้วยชื่อนี้ ได้รับคำชื่นชมโดยเห็นได้ชัดว่าเป็น
ผลิตผลแห่งพระหรรษทาน เธอได้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงและรวดเร็วในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์
จนกระทั่งเมื่ออายุ 22 ปีก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนวกจารย์ - ความซื่อแบบเด็กๆ ความสุภาพที่ปรากฏ
ออกมาภายนอก การเสียสละอุทิศตนอย่างสม่ำเสมอ และความรักต่อพระเจ้าอย่างไม่มีขอบเขต
รวมถึงความไว้วางใจในพระองค์โดยสิ้นเชิง สิ่งเหล่านี้คือคุณธรรมที่โดดเด่นในชีวิตของเธอ
"ไม่มีใครจะวอนขอมากเกินไปจากพระเจ้า ผู้ทรงฤทธานุภาพและทรงเมตตาสงสาร เขาจะได้รับจาก
พระองค์จริงๆตามสัดส่วนของความไว้วางใจที่เขามีต่อพระองค์" แต่โดยผ่านทาง "หนทางเล็กๆ"
(Little Way) ของเธอ ในการกระทำหน้าที่เล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันอย่างครบครันด้วยความรัก
ต่อพระเจ้า ก็ได้กลายเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจสำหรับคนธรรมดาอย่างมากมายนับไม่ถ้วน
ซึ่งเธอได้เปิดเผยในหนังสืออัตชีวประวัติที่มีชื่อเสียงของเธอที่ชื่อว่า "เรื่องเล่าของวิญญาณดวงหนึ่ง"
(The Story of a Soul) ซึ่งเธอได้เขียนเพราะความนบนอบ "อย่าทำตนให้เด่นในทุกสิ่ง อย่าบ่นว่า
อย่าบอกว่าตนไม่สบาย จงแสดงความเป็นมิตรอย่างพิเศษกับคนเหล่านั้นที่ใจจืดใจดำกับเรา
จงให้คำตอบอย่างหลักแหลมด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ" - เหล่านี้คือ สิ่งที่เธอปฏิบัติจริง
ในช่วงระยะเวลาเก้าปีครึ่งในการใช้ชีวิตอยู่ในอารามเธอไม่ได้ทำตัวโดดเด่น แต่กลับวางตัวเป็น
ธรรมชาติมากจนว่าเธอสามารถผ่านเวลานี้ไปโดยไม่เป็นที่สังเกต สิ่งที่เธอตั้งใจทำเป็นพิเศษ คือเธอ
รู้สึกว่าจะต้องช่วยบรรดาพระสงฆ์และบรรดามิชชันนารีของพระศาสนจักร ดังนั้น เธอจึงสวดภาวนา
และทำพลีกรรมเพื่อพวกเขา และหลังจากการตายต่อตนเองทั้งร่างกายและจิตใจ
(เธอเคยใฝ่ฝันจะเป็นมรณสักขีตั้งแต่วัยเด็ก) เธอได้มอบถวายตนด้วยความอ่อนหวานและความอดทน
ขั้นวีรกรรม ให้เป็นเสมือนเชลยของความรักเปี่ยมเมตตาของพระเจ้า เธอได้สิ้นชีพเพราะวัณโรค
เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ.1897 เมื่อมีอายุ 24 ปี "มีเพียงสิ่งเดียวที่ต้องทำเมื่อเราอยู่ในโลกข้างล่างนี้
คือรักพระเยซูเจ้า และช่วยวิญญาณต่างๆ ให้รอด เพื่อพระองค์จะทรงได้รับความรักมากขึ้น"
ได้รับแต่งตั้งเป็นบุญราศี ในปี ค.ศ. 1923 และได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นนักบุญเมื่อ
วันที่ 17 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1925 โดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ชื่อของท่านนักบุญที่ว่า
"ดอกไม้น้อยๆ" (the Little Flower) กลายเป็นชื่อที่คนรู้จักกันอย่างกว้างขวาง ท่านเป็นองค์อุปถัมภ์
ของบรรดานักบิน ของประเทศรัสเซีย และพร้อมกับนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ ของประเทศมิสซังทั้งหลาย
และท่านยังได้รับการประกาศเป็นนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักรในปี ค.ศ.1997
โดย นักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระสันตะปาปา
(ถอดความโดย คุณพ่อวิชา หิรัญญการ
จากหนังสือ Saint Companions For Each Day
เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)