สู่สงครามมหาประลัย ( 1–20 )
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 02, 2022 8:31 pm
~ สู่สงครามมหาประลัย ~
เขียนโดย คุณสนธิ สารธรรม
(เนื้อเรื่องโดยประมาณ 108 ตอน)
ตอนที่ (1)
~ สู่สงครามมหาประลัย (A) ~
สู่สงครามมหาประลัย ชื่อหนังสือที่ผมตั้งใจจะให้ออกมาอวดโฉมในโอกาสที่วันสิ้นยุค
ใกล้จะมาถึง เนื้อหาที่เข้มข้นเกี่ยวกับวันสิ้นยุค ซึ่งผมจะเฟ้นบทความที่ได้เขียนมาตั้งแต่ปี 2000
มารวมไว้ในหนังสือเล่มนี้
ถือโอกาสนี้ชี้แจงความเป็นมาย่อๆว่า ทำไมผมจึงได้มาเป็นคอลัมนิสต์ให้คุณเปลว ตั้งแต่
อยู่ นสพ. "สยามโพสต์" เป็นเพราะคุณเปลวเกิดพิสมัยในหนังสือ "นอสตราดามุส" ของผม ซึ่งถือ
เป็นอุบัติเหตุที่ได้บังอาจแปลหนังสือที่ค่อนข้างยาก ทั้งนี้เพราะมีเหตุจูงใจอยู่ 2 ข้อ คือ
ข้อ 1 ขณะเกาะติดข่าวทีวี "สงครามอ่าวเปอร์เซีย" ที่บุชผู้พ่อยกทัพไปตีอีรัก ทำท่าจะบานปลาย
กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 เพราะอ่านพบในคำทำนายของ "นอสตราดามุส" ที่กล่าวว่า
สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเป็นสงครามที่ชาวอาหรับกระชับมือกับชาวตะวันออก คงจะหมายถึงจีน
และรัสเซียจะยกโขยงไปบดขยี้ชาวตะวันตก คือ E.U. กับ U.S.A เหตุผลข้อที่ 2 ในคำพยากรณ์
ของนอสตราดามุสนั้นเองว่า "จะมีโป๊ปท่านหนึ่งจะต้องหนีไปจากกรุงโรม" ด้วยเหตุผล 2 ข้อนี้
จึงได้ตัดสินใจแปลคำทำนายของนอสตราดามุส ขณะที่กำลังแปลอยู่นั้น ยังมีแรงกระตุ้นให้เร่ง
แปลให้เสร็จทันเวลาที่นอสตราดามุสได้ทำนายไว้ว่า "ลัทธิคอมมิวนิสต์จะล่มสลาย" หลังเกิดมา
ได้ 73 ปี 7 เดือน ซึ่งก็ได้เป็นจริงตามนั้นใน เดือน มิถุนายน ปี 1991 ทั้งนี้ เพราะได้ล้มระบบกษัตริย์
มาเป็นระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 1917 เป็นเวลา 73 ปี 7 เดือน พอดี
แต่หนังสือ "นอสตราดามุส" ของผมพิมพ์เสร็จในเดือนกันยายน 1991 เป็นคอลัมนิสต์ให้คุณเปลว
ตั้งแต่ปี 1992 เขียนไปได้ 2 - 3 ปี คุณเปลวออกจาก "สยามโพสต์" จะไปเป็นเถ้าแก่เสียเองผมก็ตั้งใจ
จะแปล "นอสตราดามุส" ภาค 2 ต่อ แต่ได้รับเชิญให้ไปเขียนที่ "กรุงเทพธุรกิจ" ในทันที จนถึงตอนที่
คุณทักษิณจะลงเลือกตั้ง ผมจึงถูกขอร้องให้หยุดเขียนสัก 1 เดือน ก็เป็นจังหวะที่นิวยอร์กถูกพวก
บินลาดินถล่ม เมื่อปี 2001 คุณเปลวจึงดึงผมไปอยู่กับ "ไทยโพสต์" จนถึงปัจจุบัน
ในช่วงแรกๆ ที่อยู่กับ "ไทยโพสต์" ก็ได้รับของฝากจากบาทหลวงเตนุสโซ ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียน
หนังสือมาด้วยกันที่อิตาลีเมื่อกว่าห้าสิบปีก่อน เพิ่งกลับจากเยี่ยมบ้านเกิด ปัจจุบันท่านเป็นอธิการ
Camillian Social Center ที่เชียงราย ของฝากของท่านก็คือ "หนังสือแห่งความหวัง"
(Libro Della speranza) เป็นหนังสือที่ตีความพระคัมภีร์เล่มสุดท้ายชื่อ "พระธรรมวิวรณ์"
(Apocalypse) เป็นหนังสือขายดีในช่วงก่อนปี 2000 ซึ่งมาถูกจังหวะทีเดียว หลังจาก "นอสตราดามุส"
หมดความเข้มข้นลงไปบ้าง จึงขยับมาเขียนคำทำนายโบราณของชาวคริสต์ แล้วก็มาถึง "พระธรรมวิวรณ์"
ซึ่งก็ทราบคร่าวๆ ว่าเป็นการพยากรณ์ถึงพระศาสนจักรคาทอลิกตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงสิ้นยุค แบ่งออกเป็น
7 ยุค ยุคละ 300 ปี "พระธรรมวิวรณ์นี้ชาวคาทอลิกทั่วๆ ไปไม่ค่อยได้อ่าน เพราะอ่านแล้วไม่เข้าใจ
เพราะใช้ภาษาสัญลักษณ์เป็นส่วนใหญ่" หนังสือแห่งความหวังนี้เรียบเรียงโดย บาทหลวงมาร์ตีโน
เปนาซา (Rev.Martino Penasa) ถือเป็นหนังสือตีความ "พระธรรมวิวรณ์" แต่ไม่ใช่อ่านแล้วจะเข้าใจ
ได้ทะลุปรุโปร่ง ต้องไปขอคำอธิบายจากท่านหลายครั้ง ที่เมืองปาดัว อิตาลี ครั้งยังดำรงตำแหน่ง
พระอธิการ ประจำมหาวิหารเซนต์แอนโทนี แต่ภายหลังถูกย้ายไปอยู่ที่หลังเขาที่หมู่บ้าน Arsio
เมืองเตรนโต คงถูกพวกนักเขียน (โดยเฉพาะนักเขียนต๊อกต๋อยอย่างผม) บรรดาบาทหลวง
แม้พระสังฆราชไปรบกวนเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับหนังสือของท่าน
จากการอ่านหนังสือของท่านก็ได้ความรู้ใหม่ๆ และใหญ่ๆ เช่น สมาคมลับฟรีเมซอน
(Freemasonry) ไปถึง "ระเบียบโลกใหม่" (New World Order) ซึ่งพวกเราในปัจจุบันใกล้จะได้สัมผัสแล้ว
โดยสรุป "พระธรรมวิวรณ์เป็นการทำนายถึงพระศาสนจักรคาทอลิก ตั้งแต่แรกเริ่มไปจนถึงสิ้น
ยุคราวศตวรรษที่ 20 ส่วนศตวรรษที่ 21 คือ ยุคสันติสุขพันปี ณ ฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่ แล้วจะถึงวันสิ้นโลก"
ถ้ามองย้อนหลังไป 25 ปี ก็เพราะความอยากรู้อยากเห็นว่าอะไรเป็นต้นเหตุให้เกิดสงครามโลก
ครั้งที่ 3 ? ทำไมโป๊ปจึงต้องหนีไปจากกรุงโรม? แล้วที่สุดอยากจะรู้ "พระธรรมวิวรณ์" มีเนื้อหาสาระอะไร?
เพราะเคยอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ เพราะเป็นภาษาสัญลักษณ์ จึงอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
เช่นสงครามอาร์มาเกดดอน หรือ สงครามล้างโลก ซึ่งมาสอดคล้องกับความลับฟาติมาข้อที่ 3 ซึ่งควรจะ
ถูกเปิดเผยในปี 1960 แต่โป๊ปไม่ยอมเปิดเผย ที่สุด โป๊ป จอห์น พอลที่ 2 ในปี 2000 ก็ยอมเปิดเผย
แต่ไม่หมด จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ยอมเปิดเผยส่วนที่เหลือ จึงต้องสันนิษฐานว่า คงจะเป็นเรื่องใหญ่และ
ร้ายแรงจริงๆ
โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้
เขียนโดย คุณสนธิ สารธรรม
(เนื้อเรื่องโดยประมาณ 108 ตอน)
ตอนที่ (1)
~ สู่สงครามมหาประลัย (A) ~
สู่สงครามมหาประลัย ชื่อหนังสือที่ผมตั้งใจจะให้ออกมาอวดโฉมในโอกาสที่วันสิ้นยุค
ใกล้จะมาถึง เนื้อหาที่เข้มข้นเกี่ยวกับวันสิ้นยุค ซึ่งผมจะเฟ้นบทความที่ได้เขียนมาตั้งแต่ปี 2000
มารวมไว้ในหนังสือเล่มนี้
ถือโอกาสนี้ชี้แจงความเป็นมาย่อๆว่า ทำไมผมจึงได้มาเป็นคอลัมนิสต์ให้คุณเปลว ตั้งแต่
อยู่ นสพ. "สยามโพสต์" เป็นเพราะคุณเปลวเกิดพิสมัยในหนังสือ "นอสตราดามุส" ของผม ซึ่งถือ
เป็นอุบัติเหตุที่ได้บังอาจแปลหนังสือที่ค่อนข้างยาก ทั้งนี้เพราะมีเหตุจูงใจอยู่ 2 ข้อ คือ
ข้อ 1 ขณะเกาะติดข่าวทีวี "สงครามอ่าวเปอร์เซีย" ที่บุชผู้พ่อยกทัพไปตีอีรัก ทำท่าจะบานปลาย
กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 เพราะอ่านพบในคำทำนายของ "นอสตราดามุส" ที่กล่าวว่า
สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเป็นสงครามที่ชาวอาหรับกระชับมือกับชาวตะวันออก คงจะหมายถึงจีน
และรัสเซียจะยกโขยงไปบดขยี้ชาวตะวันตก คือ E.U. กับ U.S.A เหตุผลข้อที่ 2 ในคำพยากรณ์
ของนอสตราดามุสนั้นเองว่า "จะมีโป๊ปท่านหนึ่งจะต้องหนีไปจากกรุงโรม" ด้วยเหตุผล 2 ข้อนี้
จึงได้ตัดสินใจแปลคำทำนายของนอสตราดามุส ขณะที่กำลังแปลอยู่นั้น ยังมีแรงกระตุ้นให้เร่ง
แปลให้เสร็จทันเวลาที่นอสตราดามุสได้ทำนายไว้ว่า "ลัทธิคอมมิวนิสต์จะล่มสลาย" หลังเกิดมา
ได้ 73 ปี 7 เดือน ซึ่งก็ได้เป็นจริงตามนั้นใน เดือน มิถุนายน ปี 1991 ทั้งนี้ เพราะได้ล้มระบบกษัตริย์
มาเป็นระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 1917 เป็นเวลา 73 ปี 7 เดือน พอดี
แต่หนังสือ "นอสตราดามุส" ของผมพิมพ์เสร็จในเดือนกันยายน 1991 เป็นคอลัมนิสต์ให้คุณเปลว
ตั้งแต่ปี 1992 เขียนไปได้ 2 - 3 ปี คุณเปลวออกจาก "สยามโพสต์" จะไปเป็นเถ้าแก่เสียเองผมก็ตั้งใจ
จะแปล "นอสตราดามุส" ภาค 2 ต่อ แต่ได้รับเชิญให้ไปเขียนที่ "กรุงเทพธุรกิจ" ในทันที จนถึงตอนที่
คุณทักษิณจะลงเลือกตั้ง ผมจึงถูกขอร้องให้หยุดเขียนสัก 1 เดือน ก็เป็นจังหวะที่นิวยอร์กถูกพวก
บินลาดินถล่ม เมื่อปี 2001 คุณเปลวจึงดึงผมไปอยู่กับ "ไทยโพสต์" จนถึงปัจจุบัน
ในช่วงแรกๆ ที่อยู่กับ "ไทยโพสต์" ก็ได้รับของฝากจากบาทหลวงเตนุสโซ ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียน
หนังสือมาด้วยกันที่อิตาลีเมื่อกว่าห้าสิบปีก่อน เพิ่งกลับจากเยี่ยมบ้านเกิด ปัจจุบันท่านเป็นอธิการ
Camillian Social Center ที่เชียงราย ของฝากของท่านก็คือ "หนังสือแห่งความหวัง"
(Libro Della speranza) เป็นหนังสือที่ตีความพระคัมภีร์เล่มสุดท้ายชื่อ "พระธรรมวิวรณ์"
(Apocalypse) เป็นหนังสือขายดีในช่วงก่อนปี 2000 ซึ่งมาถูกจังหวะทีเดียว หลังจาก "นอสตราดามุส"
หมดความเข้มข้นลงไปบ้าง จึงขยับมาเขียนคำทำนายโบราณของชาวคริสต์ แล้วก็มาถึง "พระธรรมวิวรณ์"
ซึ่งก็ทราบคร่าวๆ ว่าเป็นการพยากรณ์ถึงพระศาสนจักรคาทอลิกตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงสิ้นยุค แบ่งออกเป็น
7 ยุค ยุคละ 300 ปี "พระธรรมวิวรณ์นี้ชาวคาทอลิกทั่วๆ ไปไม่ค่อยได้อ่าน เพราะอ่านแล้วไม่เข้าใจ
เพราะใช้ภาษาสัญลักษณ์เป็นส่วนใหญ่" หนังสือแห่งความหวังนี้เรียบเรียงโดย บาทหลวงมาร์ตีโน
เปนาซา (Rev.Martino Penasa) ถือเป็นหนังสือตีความ "พระธรรมวิวรณ์" แต่ไม่ใช่อ่านแล้วจะเข้าใจ
ได้ทะลุปรุโปร่ง ต้องไปขอคำอธิบายจากท่านหลายครั้ง ที่เมืองปาดัว อิตาลี ครั้งยังดำรงตำแหน่ง
พระอธิการ ประจำมหาวิหารเซนต์แอนโทนี แต่ภายหลังถูกย้ายไปอยู่ที่หลังเขาที่หมู่บ้าน Arsio
เมืองเตรนโต คงถูกพวกนักเขียน (โดยเฉพาะนักเขียนต๊อกต๋อยอย่างผม) บรรดาบาทหลวง
แม้พระสังฆราชไปรบกวนเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับหนังสือของท่าน
จากการอ่านหนังสือของท่านก็ได้ความรู้ใหม่ๆ และใหญ่ๆ เช่น สมาคมลับฟรีเมซอน
(Freemasonry) ไปถึง "ระเบียบโลกใหม่" (New World Order) ซึ่งพวกเราในปัจจุบันใกล้จะได้สัมผัสแล้ว
โดยสรุป "พระธรรมวิวรณ์เป็นการทำนายถึงพระศาสนจักรคาทอลิก ตั้งแต่แรกเริ่มไปจนถึงสิ้น
ยุคราวศตวรรษที่ 20 ส่วนศตวรรษที่ 21 คือ ยุคสันติสุขพันปี ณ ฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่ แล้วจะถึงวันสิ้นโลก"
ถ้ามองย้อนหลังไป 25 ปี ก็เพราะความอยากรู้อยากเห็นว่าอะไรเป็นต้นเหตุให้เกิดสงครามโลก
ครั้งที่ 3 ? ทำไมโป๊ปจึงต้องหนีไปจากกรุงโรม? แล้วที่สุดอยากจะรู้ "พระธรรมวิวรณ์" มีเนื้อหาสาระอะไร?
เพราะเคยอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ เพราะเป็นภาษาสัญลักษณ์ จึงอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
เช่นสงครามอาร์มาเกดดอน หรือ สงครามล้างโลก ซึ่งมาสอดคล้องกับความลับฟาติมาข้อที่ 3 ซึ่งควรจะ
ถูกเปิดเผยในปี 1960 แต่โป๊ปไม่ยอมเปิดเผย ที่สุด โป๊ป จอห์น พอลที่ 2 ในปี 2000 ก็ยอมเปิดเผย
แต่ไม่หมด จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ยอมเปิดเผยส่วนที่เหลือ จึงต้องสันนิษฐานว่า คงจะเป็นเรื่องใหญ่และ
ร้ายแรงจริงๆ
โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้