“สู่สงครามมหาประลัย” ตอนที่ (101-108)
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 12, 2023 6:20 pm
~ สู่สงครามมหาประลัย ~
เขียนโดย คุณสนธิ สารธรรม ตอนที่ (101 )
~ สงครามมหาประลัยครั้งสุดท้าย (C) ~
: สำหรับเหตุการณ์ในวันนี้ ณ สถานที่ที่แม่ได้ปรากฏมาพบเด็กทั้ง 3 คนนั้น แม่ต้องการเผย
ความลับของแม่แก่พวกลูกว่า ความลับของแม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระศาสนจักรคาทอลิก :
การละทิ้งความเชื่อ (Apostasy) ครั้งมโหฬารจะถูกนำเข้ามาอย่างครบถ้วนในพระศาสนจักร
แล้วจะแพร่กระจายไปทั่วโลก สังฆเภท (การแตกแยก) จะสำเร็จเสร็จสิ้นไปสู่การก้าวห่างออกไป
ครั้งใหญ่จากพระวรสาร (พระธรรมคำสอนของพระเยซูที่บันทึกจากบรรดาสานุศิษย์ของพระองค์)
และจากความเชื่อที่แท้จริง มนุษย์อสัตย์อธรรมจะเข้าไปในพระศาสนจักร มันจะเป็นปฏิปักษ์ต่อ
พระคริสต์ มันจะนำความบัดสีบัดเถลิง ความชั่วช้าอนาจารอันน่าสะอิดสะเอียนเข้าสู่พระศาสนจักร
ดังนี้ มันก็จะทำให้การทำนายของมหาบุรุษดาเนียลที่กล่าวถึงการทุราจารขั้นอุกฤษฏ์สำเร็จไป
(มัทธิว 24 : 15)
ความลับของแม่เกี่ยวกับมนุษยชาติ : มนุษยชาติจะบรรลุถึงขั้นสุดยอดแห่งความเสื่อมเสีย
และความชั่วร้าย และถึงสุดยอดของการเป็นกบฏต่อพระผู้เป็นเจ้า และแห่งการอยู่ตรงข้ามอย่าง
เปิดเผยต่อบัญญัติแห่งความรักของพระองค์ มนุษยชาติจะสำเนียกถึงช่วงเวลาแห่งการลงทัณฑ์
ครั้งใหญ่ของตัวเอง ซึ่งถูกทำนายไว้โดยประกาศก (เศคาริยาห์ 13 : 7 - 9) ใจความดังนี้ : พระเจ้า
ทรงมหิทธิเดชานุภาพตรัสว่า "ดาบเอ๋ย จงตื่นขึ้นต่อสู้เมษบาล (คนเลี้ยงแกะ หมายถึงชนชั้นปกครอง)
ของเรา จงต่อสู้ผู้ที่สนิทกับเรา จงตีเมษบาลและฝูงแกะนั้นจะกระจัดกระจายไป เราจะกลับมือของเรา
ต่อสู้กับตัวเล็กตัวน้อย พระเจ้าตรัสว่า "ทั่วทั้งแผ่นดินจะต้องกำจัดเสียให้พินาศสองในสาม
และเหลือไว้หนึ่งในสาม"
บาทหลวงอีวานลงความเห็นว่า แม่พระกำลังพูดถึง "ความลับข้อที่ 3" นั่นก็คือ ยุคแอนตีไครสต์
และการชำระล้างครั้งใหญ่แห่งมนุษยชาติด้วยไฟ ดังสารของแม่พระ
บาทหลวงกอบบี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1994 ว่า : พระเพลิงจะลงมาจากฟากฟ้า และมนุษยชาติก็พร้อมที่
จะต้อนรับพระเยซู ซึ่งจะเสด็จมาในความรุ่งเรือง"
ตอนจบของความลับข้อที่ 3 เราเห็นเทวดา 2 องค์ ถือโถน้ำเสกเป็นแก้วใสอยู่ในมือ เพื่อรองรับ
โลหิตบรรดาผู้พลีชีวิตเพื่อศาสนา และด้วยพระโลหิตนี้เทวดาก็ประพรมบรรดาวิญญาณซึ่งกำลังลอยขึ้น
หาพระผู้เป็นเจ้า
นี่เป็นการเปิดใหม่ : ผลพวงของความทุกข์ทรมานของบรรดาผู้พลีชีพเพื่อศาสนา
"Semen est sanguis christianorum" (Tertulliano) มิติแรก : เน้นกัลวาริโอ พระเยซูถูกตรึงบน
ไม้กางเขน แม่พระ ณ เชิงกางเขน การปะทะระหว่างพระเยซูกับแอนตีไครสต์ พระศาสนจักรถูกตรึงกางเขน
พระสันตะปาปาตรัสว่า ท้องฟ้าเดิมและแผ่นดินเดิมจะผ่านไป : "กางเขนบนเนินกอลโกธา คือ กางเขน
แห่งการไถ่บาป ในกางเขนประวัติศาสตร์ของมนุษย์ทั้งหมดจะถูกแสดงออกมา ประวัติศาสตร์ของ
มนุษยชาติในเวลาเดียวกันคือ ประวัติศาสตร์ของบาปและความทุกข์ทรมาน เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 1991
พระสันตะปาปาทรงเผยมิติที่ 2 ด้วยมิตินี้พระองค์ทรงขยายความไปถึงขอบฟ้าของความลับข้อที่ 3"
โดยอาศัยกางเขนของพระบุตรของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าย้ำมาทุกๆ ชั่วคนว่า ดูซิ : เราทำทุกสิ่งขึ้นมาใหม่
ฟ้าและแผ่นดินเดิมจะผ่านพ้นไปเรื่อยๆ...โดยอาศัยกางเขนบนเนินกอลโกธา นครศักดิ์สิทธิ์ เยรูซาเล็มใหม่
จะเลื่อนลอยลงมาจากพระเจ้าในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและของโลก
กางเขนอันมลังเมลือง ซึ่งจะปรากฏบนท้องฟ้าตอนสิ้นสุดการชำระล้างและมหาวิปโยคครั้งใหญ่
จะเป็นประตูที่เปิดสู่หลุมฝังศพของมนุษยชาติที่มืดมิดในอุโมงค์ลึก ประตูที่ว่านี้จะนำมนุษยชาติไปสู่อาณาจักร
ใหม่แห่งชีวิต ซึ่งพระเยซูจะเป็นผู้นำในวันที่พระองค์จะเสด็จกลับมา
การเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าในเปลวเพลิง : เปลวเพลิงเป็นเครื่องหมายแห่งการแสดงองค์พระผู้เป็นเจ้า
(Theophany) ขอให้ดูพระคัมภีร์อิสยาห์บทที่ 66 : 15 "ดูซิ พระเจ้าจะเสด็จมาด้วยไฟและรถรบของพระองค์
เหมือนลมพายุ เพื่อสนองเขาด้วยความกริ้วของพระองค์อย่างเกรี้ยวกราด และด้วยการขนาบของพระองค์
พร้อมด้วยเปลวเพลิง" จะมีการชำระล้างโลกครั้งใหญ่ เมื่อวันอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจะทอแสงเจิดจ้า นักบุญ
อิเรเนโอยังกล่วถึงทะเลเพลิงมหาวินาศ ซึ่งพระเยซูจะใช้ชำระล้างโลกทั้งหมด เพื่อจะสถาปนาอาณาจักรอัน
รุ่งโรจน์บนโลกนี้ นักบุญอาโกสติโนได้กล่าวไว้ในกิจการลือชื่อของท่าน "นครของพระเจ้า" พรรณนาถึงการ
เบียดเบียนพระศาสนจักรในยุคของ Antichrist จะมาจากภายนอกและภายในเอง แล้วหยิบพระวิวรณ์
บทที่ 20 : 9 "ไฟจะลงมาจากฟากฟ้าและเผาผลาญบรรดาศัตรูที่โหดร้ายของพระศาสนา" "องค์พระผู้เป็นเจ้า
จะทรงทำลายแอนตีไครสต์ด้วยลมจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง และจะปราบมันจนสิ้นซาก คราวที่พระองค์
เสด็จมา" (2 ธส 2 : 8)
สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ทรงแสดงสุนทรพจน์ประวัติศาสตร์ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์
ไม่นาน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 1985 พระองค์ทรงพลิ้วทางจิตวิญญาณได้สูงส่งเหนือกาลเวลา รู้สึกพระองค์
เคลื่อนไปในทางแห่งความลับฟาติมาข้อที่ 3 ทีเดียว พระองค์ทรงพยากรณ์ว่า หลังจากฤดูหนาวอันยืดยาว
ของปัจจุบัน ก็จะมาถึงฤดูร้อนที่สดใส และอุดมสมบูรณ์ : "ฤดูร้อนใกล้เข้ามาแล้ว" (มัทธิว 24 : 32) พระองค์
ทรงบอกใบ้ถึงฤดูหนาว ปัจจุบันนี้คือ ฤดูหนาวแห่งวิวรณ์ (คือ มหาวิปโยคก่อนสิ้นยุค) ซึ่งจะเดินมาก่อนการ
เสด็จมาอย่างรุ่งเรืองของพระองค์ แล้วโป๊ปได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "ความผิดสมัยใหม่พันๆ ข้อได้ถูกลงโทษจาก
ความล้มเหลวของพวกเขาเอง...ความผิดอื่นๆ ก็ควรจะต้องหายไป และตำแหน่งสูงๆ ก็ควรจะต้องตกลงมาด้วย...
ความพินาศจะสั่นสะท้านมากน้อยแค่ใดก็ขึ้นกับว่าความกล้าที่จะแข่งกับพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน ฤดูร้อนจะ
มาถึงแน่ๆ แผ่นดินที่อาบน้ำตาจะยิ้มกับไข่มุกแห่งความรัก และแผ่นดินที่ชุ่มด้วยเลือดของผู้พลีชีพ
เพื่อศาสนาจะแตกรากแตกใบคริสตชน" บาทหลวงอีวาน โปยาฟนิค 26 มิถุนายน 2001
โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ ขอบคุณ
เขียนโดย คุณสนธิ สารธรรม ตอนที่ (101 )
~ สงครามมหาประลัยครั้งสุดท้าย (C) ~
: สำหรับเหตุการณ์ในวันนี้ ณ สถานที่ที่แม่ได้ปรากฏมาพบเด็กทั้ง 3 คนนั้น แม่ต้องการเผย
ความลับของแม่แก่พวกลูกว่า ความลับของแม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระศาสนจักรคาทอลิก :
การละทิ้งความเชื่อ (Apostasy) ครั้งมโหฬารจะถูกนำเข้ามาอย่างครบถ้วนในพระศาสนจักร
แล้วจะแพร่กระจายไปทั่วโลก สังฆเภท (การแตกแยก) จะสำเร็จเสร็จสิ้นไปสู่การก้าวห่างออกไป
ครั้งใหญ่จากพระวรสาร (พระธรรมคำสอนของพระเยซูที่บันทึกจากบรรดาสานุศิษย์ของพระองค์)
และจากความเชื่อที่แท้จริง มนุษย์อสัตย์อธรรมจะเข้าไปในพระศาสนจักร มันจะเป็นปฏิปักษ์ต่อ
พระคริสต์ มันจะนำความบัดสีบัดเถลิง ความชั่วช้าอนาจารอันน่าสะอิดสะเอียนเข้าสู่พระศาสนจักร
ดังนี้ มันก็จะทำให้การทำนายของมหาบุรุษดาเนียลที่กล่าวถึงการทุราจารขั้นอุกฤษฏ์สำเร็จไป
(มัทธิว 24 : 15)
ความลับของแม่เกี่ยวกับมนุษยชาติ : มนุษยชาติจะบรรลุถึงขั้นสุดยอดแห่งความเสื่อมเสีย
และความชั่วร้าย และถึงสุดยอดของการเป็นกบฏต่อพระผู้เป็นเจ้า และแห่งการอยู่ตรงข้ามอย่าง
เปิดเผยต่อบัญญัติแห่งความรักของพระองค์ มนุษยชาติจะสำเนียกถึงช่วงเวลาแห่งการลงทัณฑ์
ครั้งใหญ่ของตัวเอง ซึ่งถูกทำนายไว้โดยประกาศก (เศคาริยาห์ 13 : 7 - 9) ใจความดังนี้ : พระเจ้า
ทรงมหิทธิเดชานุภาพตรัสว่า "ดาบเอ๋ย จงตื่นขึ้นต่อสู้เมษบาล (คนเลี้ยงแกะ หมายถึงชนชั้นปกครอง)
ของเรา จงต่อสู้ผู้ที่สนิทกับเรา จงตีเมษบาลและฝูงแกะนั้นจะกระจัดกระจายไป เราจะกลับมือของเรา
ต่อสู้กับตัวเล็กตัวน้อย พระเจ้าตรัสว่า "ทั่วทั้งแผ่นดินจะต้องกำจัดเสียให้พินาศสองในสาม
และเหลือไว้หนึ่งในสาม"
บาทหลวงอีวานลงความเห็นว่า แม่พระกำลังพูดถึง "ความลับข้อที่ 3" นั่นก็คือ ยุคแอนตีไครสต์
และการชำระล้างครั้งใหญ่แห่งมนุษยชาติด้วยไฟ ดังสารของแม่พระ
บาทหลวงกอบบี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1994 ว่า : พระเพลิงจะลงมาจากฟากฟ้า และมนุษยชาติก็พร้อมที่
จะต้อนรับพระเยซู ซึ่งจะเสด็จมาในความรุ่งเรือง"
ตอนจบของความลับข้อที่ 3 เราเห็นเทวดา 2 องค์ ถือโถน้ำเสกเป็นแก้วใสอยู่ในมือ เพื่อรองรับ
โลหิตบรรดาผู้พลีชีวิตเพื่อศาสนา และด้วยพระโลหิตนี้เทวดาก็ประพรมบรรดาวิญญาณซึ่งกำลังลอยขึ้น
หาพระผู้เป็นเจ้า
นี่เป็นการเปิดใหม่ : ผลพวงของความทุกข์ทรมานของบรรดาผู้พลีชีพเพื่อศาสนา
"Semen est sanguis christianorum" (Tertulliano) มิติแรก : เน้นกัลวาริโอ พระเยซูถูกตรึงบน
ไม้กางเขน แม่พระ ณ เชิงกางเขน การปะทะระหว่างพระเยซูกับแอนตีไครสต์ พระศาสนจักรถูกตรึงกางเขน
พระสันตะปาปาตรัสว่า ท้องฟ้าเดิมและแผ่นดินเดิมจะผ่านไป : "กางเขนบนเนินกอลโกธา คือ กางเขน
แห่งการไถ่บาป ในกางเขนประวัติศาสตร์ของมนุษย์ทั้งหมดจะถูกแสดงออกมา ประวัติศาสตร์ของ
มนุษยชาติในเวลาเดียวกันคือ ประวัติศาสตร์ของบาปและความทุกข์ทรมาน เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 1991
พระสันตะปาปาทรงเผยมิติที่ 2 ด้วยมิตินี้พระองค์ทรงขยายความไปถึงขอบฟ้าของความลับข้อที่ 3"
โดยอาศัยกางเขนของพระบุตรของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าย้ำมาทุกๆ ชั่วคนว่า ดูซิ : เราทำทุกสิ่งขึ้นมาใหม่
ฟ้าและแผ่นดินเดิมจะผ่านพ้นไปเรื่อยๆ...โดยอาศัยกางเขนบนเนินกอลโกธา นครศักดิ์สิทธิ์ เยรูซาเล็มใหม่
จะเลื่อนลอยลงมาจากพระเจ้าในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและของโลก
กางเขนอันมลังเมลือง ซึ่งจะปรากฏบนท้องฟ้าตอนสิ้นสุดการชำระล้างและมหาวิปโยคครั้งใหญ่
จะเป็นประตูที่เปิดสู่หลุมฝังศพของมนุษยชาติที่มืดมิดในอุโมงค์ลึก ประตูที่ว่านี้จะนำมนุษยชาติไปสู่อาณาจักร
ใหม่แห่งชีวิต ซึ่งพระเยซูจะเป็นผู้นำในวันที่พระองค์จะเสด็จกลับมา
การเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าในเปลวเพลิง : เปลวเพลิงเป็นเครื่องหมายแห่งการแสดงองค์พระผู้เป็นเจ้า
(Theophany) ขอให้ดูพระคัมภีร์อิสยาห์บทที่ 66 : 15 "ดูซิ พระเจ้าจะเสด็จมาด้วยไฟและรถรบของพระองค์
เหมือนลมพายุ เพื่อสนองเขาด้วยความกริ้วของพระองค์อย่างเกรี้ยวกราด และด้วยการขนาบของพระองค์
พร้อมด้วยเปลวเพลิง" จะมีการชำระล้างโลกครั้งใหญ่ เมื่อวันอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจะทอแสงเจิดจ้า นักบุญ
อิเรเนโอยังกล่วถึงทะเลเพลิงมหาวินาศ ซึ่งพระเยซูจะใช้ชำระล้างโลกทั้งหมด เพื่อจะสถาปนาอาณาจักรอัน
รุ่งโรจน์บนโลกนี้ นักบุญอาโกสติโนได้กล่าวไว้ในกิจการลือชื่อของท่าน "นครของพระเจ้า" พรรณนาถึงการ
เบียดเบียนพระศาสนจักรในยุคของ Antichrist จะมาจากภายนอกและภายในเอง แล้วหยิบพระวิวรณ์
บทที่ 20 : 9 "ไฟจะลงมาจากฟากฟ้าและเผาผลาญบรรดาศัตรูที่โหดร้ายของพระศาสนา" "องค์พระผู้เป็นเจ้า
จะทรงทำลายแอนตีไครสต์ด้วยลมจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง และจะปราบมันจนสิ้นซาก คราวที่พระองค์
เสด็จมา" (2 ธส 2 : 8)
สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ทรงแสดงสุนทรพจน์ประวัติศาสตร์ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์
ไม่นาน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 1985 พระองค์ทรงพลิ้วทางจิตวิญญาณได้สูงส่งเหนือกาลเวลา รู้สึกพระองค์
เคลื่อนไปในทางแห่งความลับฟาติมาข้อที่ 3 ทีเดียว พระองค์ทรงพยากรณ์ว่า หลังจากฤดูหนาวอันยืดยาว
ของปัจจุบัน ก็จะมาถึงฤดูร้อนที่สดใส และอุดมสมบูรณ์ : "ฤดูร้อนใกล้เข้ามาแล้ว" (มัทธิว 24 : 32) พระองค์
ทรงบอกใบ้ถึงฤดูหนาว ปัจจุบันนี้คือ ฤดูหนาวแห่งวิวรณ์ (คือ มหาวิปโยคก่อนสิ้นยุค) ซึ่งจะเดินมาก่อนการ
เสด็จมาอย่างรุ่งเรืองของพระองค์ แล้วโป๊ปได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "ความผิดสมัยใหม่พันๆ ข้อได้ถูกลงโทษจาก
ความล้มเหลวของพวกเขาเอง...ความผิดอื่นๆ ก็ควรจะต้องหายไป และตำแหน่งสูงๆ ก็ควรจะต้องตกลงมาด้วย...
ความพินาศจะสั่นสะท้านมากน้อยแค่ใดก็ขึ้นกับว่าความกล้าที่จะแข่งกับพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน ฤดูร้อนจะ
มาถึงแน่ๆ แผ่นดินที่อาบน้ำตาจะยิ้มกับไข่มุกแห่งความรัก และแผ่นดินที่ชุ่มด้วยเลือดของผู้พลีชีพ
เพื่อศาสนาจะแตกรากแตกใบคริสตชน" บาทหลวงอีวาน โปยาฟนิค 26 มิถุนายน 2001
โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ ขอบคุณ