“วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรที่20 นอสตราดามุส” (ตอน1-15)
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 30, 2023 8:25 pm
: หนังสือเรื่อง"วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส"
เนื้อเรื่องทั้งหมด 78 ตอน
~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~
โดย สนธิ สารธรรม
ตอนที่ (1)
--- คำนำของผู้เขียน [A] ---
หนังสือ "ชนวนสงครามล้างโลก" (พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ) เป็นหนังสือที่ผมเรียบเรียง มาจากคำ
ทำนายต่างๆ ของนอสตราดามุส ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย คงมีอะไรบางอย่างที่ไปสะกิดใจ
คุณเปลว สีเงิน ผู้เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ "สยามโพสต์" จึงได้เชิญผมไป
เขียนสัปดาห์ละครั้งในหัวข้อ "วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส"
ที่ว่าสะกิดใจคุณเปลว สีเงินนั้น จริงๆ แล้ว มันสะกิดใจผมก่อน จนนำไปสู่การค้นคว้าคำทำนาย
ของนอสตราดามุส และพระคัมภีร์ ที่สุดก็ถูกกลั่นกรองออกมาเป็นหนังสือ "ชนวนสงครามล้างโลก"
(พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ)
การที่ซัดดัมบุกยึดคูเวต ร้อนถึงสหรัฐอเมริกาต้องนำพันธมิตรไปถล่มอิรัก เป็นสงครามอ่าวเ
ปอร์เซียนั้น ทำให้ผมหันมาเจาะลึกคำทำนายของนอสตราดามุส จนมั่นใจว่าจะเกิดสงครามโลก
ครั้งที่ 3 ซึ่งมีชนวนมาจากสงครามอ่าวเปอร์เซีย แล้วจะลงเอยด้วยสงครามอาวุธชีวภาพ และหลัง
จากได้ค้นคว้าทางพระคัมภีร์ก็พบว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย หรือสงครามล้างโลก
ตามนัยแห่งพระคัมภีร์ หลังจากสงครามครั้งนี้ มนุษย์จะเหลือรอดน้อยมาก ถือเป็นการเปลี่ยนยุค หรือ
สิ้นยุค สิ้นโลกมนุษย์ที่ยึดวัตถุเป็นสรณะ แต่คำสิ้นโลก หรือ สิ้นพิภพที่ว่านี้ มิได้หมายความว่า โลกที่
เป็นวัตถุนี้จะแตกสลายไป ตรงกันข้าม โลกนี้จะถูกเนรมิตขึ้นมาใหม่ให้สวยงามกว่าเก่า แล้วมนุษย์ที่
รอดเหลือนี้ จะตระหนักดีว่า บาปได้นำหายนะมาสู่มนุษยชาติอย่างไร จึงมุ่งแต่ยกระดับจิตวิญญาณ
ให้สูงขึ้น โดยหวังแต่เพียงอย่างเดียวว่า เมื่อต้องผ่านชีวิตนี้ไปแล้ว วิญญาณจะได้ไปเสวยสุขในวิมานสวรรค์
อาชญากรสงคราม หรือทรราช ซึ่งเป็นชนวนแห่งสงครามล้างโลกนี้คือผู้ใด? คำตอบ คือ แอนตี้ไคร้สต์
หรือ ปรปักษ์พระคริสต์ซึ่งก็คือ มนุษย์ผู้หนึ่งที่ถูกมารชาตานครอบงำ จะผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำโลก ทั้งทาง
การเมือง ทางศาสนา และทางเศรษฐกิจ เป็นระยะเวลาสามปีครึ่ง ตามพระคัมภีร์เมื่อถึงช่วงเวลาที่
แอนตี้ไคร้สต์ครองโลก ก็แปลว่า เรากำลังอยู่ในยุคสุดท้าย หมายถึง โลกกำลังจะสิ้น แต่มิใช่โลกจะแตก
เพียงแต่สิ้นมนุษยชาติที่กำลังเจริญเฟื่องฟูทางวัตถุขั้นสุดยอด หรือพูดอีกนัยหนึ่ง สิ้นยุควัตถุนิยม
บริโภคนิยม หรือยุคเห็นแก่ตัว ซึ่งจะนำมนุษยชาติไปสู่จุดจบ
คำถามมีอยู่ว่า : "ทำไมจึงรู้ว่าเราอยู่ใกล้สงครามล้างโลก อันเป็นสัญญาณว่าจะเป็นการสิ้นสุด
แห่งยุค" คำตอบ : ก. โดยอาศัยการอ่านสัญญาณต่างๆ ที่มีระบุในพระคัมภีร์ซึ่งแบ่งเป็น 2 ภาค
ภาคที่ 1 พันธสัญญาเดิม (Old Testament) ถือเป็นพระวาจาของพระเจ้าตรัสผ่านบรรดาประกาศก
เริ่มตั้งแต่การสร้างโลก จนถึง ค.ศ. 1 ภาคที่ 2 ภาคพันธสัญญาใหม่ (New Testament) คือศิษย์ของ
พระเยซูบันทึกคำสั่งสอนของพระเยซู ซึ่งพระองค์ตรัสสอนต่อสาธารณชนที่ประเทศอิสราเอลราว 2000 ปี
ที่แล้ว
ข. อาศัยการเปิดเผยเป็นการส่วนตัว (Private revelation) จากพระเยซู หรือจากพระแม่มารีย์
ผ่านผู้ได้รับพรพิเศษ (Charismatic) หรือ ผู้มีฌานญาณ (Mystic) ในสมัยของเรานี้เอง
สำหรับนอสตราดามุสนั้น ผมเชื่อว่าท่านมีพรสวรรค์ในการทำนายจริง แต่ในยุคของท่าน ทางกรม
การศาสนาเคร่งครัดในเรื่องทำนายทายทักมาก เพราะเข้าข่ายพ่อมดหมอผี ท่านจึงใช้วิธีเขียนเป็นกลอน
บางตอนก็เป็นกลบท ใช้ศัพท์ยากๆ โบราณๆ เอาหลายๆ ภาษามายำ จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับผิด
ท่านได้ กลอนการทำนายของท่านจึงยังเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ ผู้ที่สามารถตีความได้ถูกต้องจะต้อง
รอบรู้ทั้งในเรื่องภาษา และประวัติศาสตร์ อัจฉริยภาพในการทำนายของท่าน จึงยังคงเป็นที่ยอมรับนับถือ
มากว่า 400 ปี เพราะข้อนี้เอง จึงมีหลายคนฉกฉวยเอาความมีชื่อเสียงของท่านมาอ้างว่า นอสตราดามุส
ทำนาย ทั้งๆ ที่เป็นคำทำนายของผู้เขียนผู้นั้นเอง โดยมิได้หยิบยกคำทำนายที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่า
นอสตราดามุสทำนายเป็นภาษาฝรั่งเศสว่าอย่างไร สำหรับผมนั้นอาศัยอ่าน คำทำนายนอสตราดามุสที่
ถูกวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญหลายสิบท่าน ทั้งภาษาอิตาลี สเปน และอังกฤษ ผมซื้อมาจากทั่วโลกมาก
กว่า 40 ฉบับ พยายามอ่านจากหลายแหล่ง และจะเลือกการตีความที่เห็นว่าดีที่สุดผสมกับการวินิจฉัย
ของผมเองเป็นบางส่วน
ผมเริ่มเขียนบทความใน "สยามโพสต์" ตั้งแต่ปลายปี 1993 สามารถรวมเป็นเล่มได้ราว 5 เล่ม
แต่คิดที่จะรวบรวมเอาแค่ 3 เล่ม เล่มแรกให้ชื่อเรื่องว่า "วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์
และนอสตราดามุส" รวบรวมระหว่างปี 1993 - 1996 เล่มที่ 2 ชื่อ "เกาะติดวิกฤตโลก ผ่านพระคัมภีร์
และนอสตราดามุส" รวบรวมระหว่างปี 1995 - 1996 และเล่มที่ 3 ชื่อ "ฝ่ามหาวิปโยคสู่โลกใหม่
ผ่านพระคัมภีร์ และนอสตราดามุส" รวบรวมระหว่างปี 1996 - 1998
โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้
เนื้อเรื่องทั้งหมด 78 ตอน
~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~
โดย สนธิ สารธรรม
ตอนที่ (1)
--- คำนำของผู้เขียน [A] ---
หนังสือ "ชนวนสงครามล้างโลก" (พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ) เป็นหนังสือที่ผมเรียบเรียง มาจากคำ
ทำนายต่างๆ ของนอสตราดามุส ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย คงมีอะไรบางอย่างที่ไปสะกิดใจ
คุณเปลว สีเงิน ผู้เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ "สยามโพสต์" จึงได้เชิญผมไป
เขียนสัปดาห์ละครั้งในหัวข้อ "วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส"
ที่ว่าสะกิดใจคุณเปลว สีเงินนั้น จริงๆ แล้ว มันสะกิดใจผมก่อน จนนำไปสู่การค้นคว้าคำทำนาย
ของนอสตราดามุส และพระคัมภีร์ ที่สุดก็ถูกกลั่นกรองออกมาเป็นหนังสือ "ชนวนสงครามล้างโลก"
(พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ)
การที่ซัดดัมบุกยึดคูเวต ร้อนถึงสหรัฐอเมริกาต้องนำพันธมิตรไปถล่มอิรัก เป็นสงครามอ่าวเ
ปอร์เซียนั้น ทำให้ผมหันมาเจาะลึกคำทำนายของนอสตราดามุส จนมั่นใจว่าจะเกิดสงครามโลก
ครั้งที่ 3 ซึ่งมีชนวนมาจากสงครามอ่าวเปอร์เซีย แล้วจะลงเอยด้วยสงครามอาวุธชีวภาพ และหลัง
จากได้ค้นคว้าทางพระคัมภีร์ก็พบว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย หรือสงครามล้างโลก
ตามนัยแห่งพระคัมภีร์ หลังจากสงครามครั้งนี้ มนุษย์จะเหลือรอดน้อยมาก ถือเป็นการเปลี่ยนยุค หรือ
สิ้นยุค สิ้นโลกมนุษย์ที่ยึดวัตถุเป็นสรณะ แต่คำสิ้นโลก หรือ สิ้นพิภพที่ว่านี้ มิได้หมายความว่า โลกที่
เป็นวัตถุนี้จะแตกสลายไป ตรงกันข้าม โลกนี้จะถูกเนรมิตขึ้นมาใหม่ให้สวยงามกว่าเก่า แล้วมนุษย์ที่
รอดเหลือนี้ จะตระหนักดีว่า บาปได้นำหายนะมาสู่มนุษยชาติอย่างไร จึงมุ่งแต่ยกระดับจิตวิญญาณ
ให้สูงขึ้น โดยหวังแต่เพียงอย่างเดียวว่า เมื่อต้องผ่านชีวิตนี้ไปแล้ว วิญญาณจะได้ไปเสวยสุขในวิมานสวรรค์
อาชญากรสงคราม หรือทรราช ซึ่งเป็นชนวนแห่งสงครามล้างโลกนี้คือผู้ใด? คำตอบ คือ แอนตี้ไคร้สต์
หรือ ปรปักษ์พระคริสต์ซึ่งก็คือ มนุษย์ผู้หนึ่งที่ถูกมารชาตานครอบงำ จะผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำโลก ทั้งทาง
การเมือง ทางศาสนา และทางเศรษฐกิจ เป็นระยะเวลาสามปีครึ่ง ตามพระคัมภีร์เมื่อถึงช่วงเวลาที่
แอนตี้ไคร้สต์ครองโลก ก็แปลว่า เรากำลังอยู่ในยุคสุดท้าย หมายถึง โลกกำลังจะสิ้น แต่มิใช่โลกจะแตก
เพียงแต่สิ้นมนุษยชาติที่กำลังเจริญเฟื่องฟูทางวัตถุขั้นสุดยอด หรือพูดอีกนัยหนึ่ง สิ้นยุควัตถุนิยม
บริโภคนิยม หรือยุคเห็นแก่ตัว ซึ่งจะนำมนุษยชาติไปสู่จุดจบ
คำถามมีอยู่ว่า : "ทำไมจึงรู้ว่าเราอยู่ใกล้สงครามล้างโลก อันเป็นสัญญาณว่าจะเป็นการสิ้นสุด
แห่งยุค" คำตอบ : ก. โดยอาศัยการอ่านสัญญาณต่างๆ ที่มีระบุในพระคัมภีร์ซึ่งแบ่งเป็น 2 ภาค
ภาคที่ 1 พันธสัญญาเดิม (Old Testament) ถือเป็นพระวาจาของพระเจ้าตรัสผ่านบรรดาประกาศก
เริ่มตั้งแต่การสร้างโลก จนถึง ค.ศ. 1 ภาคที่ 2 ภาคพันธสัญญาใหม่ (New Testament) คือศิษย์ของ
พระเยซูบันทึกคำสั่งสอนของพระเยซู ซึ่งพระองค์ตรัสสอนต่อสาธารณชนที่ประเทศอิสราเอลราว 2000 ปี
ที่แล้ว
ข. อาศัยการเปิดเผยเป็นการส่วนตัว (Private revelation) จากพระเยซู หรือจากพระแม่มารีย์
ผ่านผู้ได้รับพรพิเศษ (Charismatic) หรือ ผู้มีฌานญาณ (Mystic) ในสมัยของเรานี้เอง
สำหรับนอสตราดามุสนั้น ผมเชื่อว่าท่านมีพรสวรรค์ในการทำนายจริง แต่ในยุคของท่าน ทางกรม
การศาสนาเคร่งครัดในเรื่องทำนายทายทักมาก เพราะเข้าข่ายพ่อมดหมอผี ท่านจึงใช้วิธีเขียนเป็นกลอน
บางตอนก็เป็นกลบท ใช้ศัพท์ยากๆ โบราณๆ เอาหลายๆ ภาษามายำ จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับผิด
ท่านได้ กลอนการทำนายของท่านจึงยังเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ ผู้ที่สามารถตีความได้ถูกต้องจะต้อง
รอบรู้ทั้งในเรื่องภาษา และประวัติศาสตร์ อัจฉริยภาพในการทำนายของท่าน จึงยังคงเป็นที่ยอมรับนับถือ
มากว่า 400 ปี เพราะข้อนี้เอง จึงมีหลายคนฉกฉวยเอาความมีชื่อเสียงของท่านมาอ้างว่า นอสตราดามุส
ทำนาย ทั้งๆ ที่เป็นคำทำนายของผู้เขียนผู้นั้นเอง โดยมิได้หยิบยกคำทำนายที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่า
นอสตราดามุสทำนายเป็นภาษาฝรั่งเศสว่าอย่างไร สำหรับผมนั้นอาศัยอ่าน คำทำนายนอสตราดามุสที่
ถูกวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญหลายสิบท่าน ทั้งภาษาอิตาลี สเปน และอังกฤษ ผมซื้อมาจากทั่วโลกมาก
กว่า 40 ฉบับ พยายามอ่านจากหลายแหล่ง และจะเลือกการตีความที่เห็นว่าดีที่สุดผสมกับการวินิจฉัย
ของผมเองเป็นบางส่วน
ผมเริ่มเขียนบทความใน "สยามโพสต์" ตั้งแต่ปลายปี 1993 สามารถรวมเป็นเล่มได้ราว 5 เล่ม
แต่คิดที่จะรวบรวมเอาแค่ 3 เล่ม เล่มแรกให้ชื่อเรื่องว่า "วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์
และนอสตราดามุส" รวบรวมระหว่างปี 1993 - 1996 เล่มที่ 2 ชื่อ "เกาะติดวิกฤตโลก ผ่านพระคัมภีร์
และนอสตราดามุส" รวบรวมระหว่างปี 1995 - 1996 และเล่มที่ 3 ชื่อ "ฝ่ามหาวิปโยคสู่โลกใหม่
ผ่านพระคัมภีร์ และนอสตราดามุส" รวบรวมระหว่างปี 1996 - 1998
โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้