“วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่20 “ (ตอนที่ 46-60)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ค. 26, 2023 8:36 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ ( 46 )👈
🌼--- ความลับของลาซาแลตต์ ---🌼
        
  สาส์นเบื้องบนจากลาซาแลตด์
ก่อนที่จะกล่าวถึงสาส์นหรือความลับของแม่พระ จะขอเล่าประวัติความเป็นมาย่อๆ ดังนี้
ณ วันที่ 19 กันยายน 1846 แม่พระได้ปรากฏมาพบเด็ก 2 คน คือ เมลานี คาลวาต์ อายุ 15 ปี
และ มักซีแมง ชีโรด์ อายุ 12 ปี ณ ที่ราบสูงเชิงภูเขาลาซาแลตต์ ใกล้เมืองเกรอโนบล์ ฝรั่งเศส
แม่พระ ได้มอบสาส์นให้แก่ เมลานี ดังนี้
เมลานี ที่แม่มาบอกนี่ มิใช่ให้เก็บเป็นความลับไว้ตลอดไปดอกนะ ลูกเปิดเผยได้ในปี 1858
บรรดาสงฆ์ ข้าบริพารของพระบุตรของแม่ สงฆ์ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย ขาดความเคารพ
ขาดความศรัทธาในการถวายบูชามิสซา ปักใจอยู่แต่ในทรัพย์สมบัติ ยศถาบรรดาศักดิ์ และความ
รื่นเริงบันเทิงใจ สงฆ์ที่กลายเป็นแหล่งแห่งความไม่บริสุทธิ์ ใช่แล้ว พวกเขาวอนหาโทษ โทษทัณฑ์
กำลังแขวนอยู่เหนือศีรษะพวกเขา กรรมแก่สงฆ์และผู้ถวายตัวทั้งหลาย เพราะความไม่ซื่อและมีชีวิต
เหลวแหลกนี่แหละ พวกเขาตรึงพระ ลูกของแม่อีกครั้งหนึ่ง บาปของคนถวายตัวแด่พระ เจาะฟ้าขึ้นไป
ถึงเบื้องบน เรียกร้องอาญา และเดี๋ยวนี้มันมาอยู่แค่หน้าประตูบ้านของเขาแล้ว เพราะไม่มีคนวอนขอเมตตา
ขอโทษแทนประชาชน ไม่มีวิญญาณที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่มีใครคู่ควรที่จะถวายบูชาตลอดไปด้วยใจสะอาด
เพื่อประชาโลก พระจะทำโทษด้วยวิธีที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
กรรมของคนอยู่บนผิวโลก พระจะทำลายด้วยพระพิโรธ ไม่มีใครจะหนีรอดเงื้อมมือไปได้
ผู้นำ ผู้อภิบาลปวงประชาของพระ ได้เมินเฉยต่อคำภาวนา และการใช้โทษบาป ฉะนี้ ปีศาจมารร้าย
จึงบดบังปัญญาของพวกเขาไว้กลายเป็นดาวร่วง ซึ่งศัตรูคู่ปรับเอาหางของมันตวัดลากไปสู่ความพินาศ
พระจะอนุญาตให้เจ้างูคู่อรินั่นแหละ แบ่งพวกเจ้านาย สังคมและครอบครัวทั้งหมด ต้องทรมานทั้งกายใจ
พระจะปล่อยให้มนุษย์ตามยถากรรม และส่งโทษทัณฑ์มาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 35 ปี
สังคมจะต้องถูกลงโทษอย่างแสนสาหัส ภัยพิบัติจะเป็นดังแส้เหล็กหวดกระหน่ำ และจะดื่มน้ำขม
แห่งพระพิโรธจนเกลี้ยงถ้วย
ขอผู้แทนต่างพระเนตรพระกรรณของลูกแม่ โป๊ปปีโอที่ 9 อย่าได้ออกจากโรมอีกเลย หลังปี 1859
จงเข้มงวดและมีพระทัยกว้าง สู้รบด้วยอาวุธแห่งความเชื่อและความรัก แม่จะอยู่เคียงข้างพระองค์
อย่าหลงกล นโปเลียน เขาเป็นคนตีสองหน้า อยากเป็นทั้งโป๊ปและจักรพรรดิในวาระเดียว พระจะตีจากเขา
เขาคือนกอินทรีที่อยากบินสูงเสมอ จะต้องตกใต้คมดาบของผู้ที่เขาปรารถนาเอามารับใช้ตน เพื่อบีบบังคับ
ราษฎร์ให้ยกย่องตัวขึ้น
อิตาลีจะถูกโทษ เพราะใฝ่สูงอยากสลัดจากแอกของเจ้านายแห่งเจ้านายทั้งหลาย สงครามจะเกิด
เลือดนองไปทั่วแผ่นดิน วัดวาอารามจะปิด และถูกทำอนาจาร หลายคนจะทิ้งความเชื่อ พระสงฆ์และนักบวช
ซึ่งแยกจากพระศาสนา จะทวีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งสังฆราชด้วย
ให้พระสันตปาปา จงระวังคนที่สร้างอภินิหาร ถึงเวลาแล้วที่อภินิหารแปลกประหลาดจะปรากฏ
บนแผ่นดิน และในอวกาศ
ปี 1864 ลูซีเฟอร์ และมารจำนวนมากจากขุมนรกจะออกเพ่นพ่าน มันจะค่อยๆ ทำลายความเชื่อ
ให้อ่อนลง แม้กระทั่งในบุคคลที่ถวายตัวแด่พระ มันจะทำให้ตาเขาบอด หากไม่ได้พรพิเศษมาช่วยแล้ว
บุคคลประเภทนี้ จะสวมวิญญาณของเทวดาชั่วเหล่านี้ทีเดียว บ้านพระหลายแห่งจะเสียความเชื่อหมด
วิญญาณต้องเสียไปมาก
หนังสือลามกอนาจารจะล้นโลก จิตมืดให้โอนอ่อนผ่อนปรนแพร่ไปทั่ว แม้ในเรื่องเกี่ยวแก่การ
ปรนนิบัติพระ จะมีมากมายคอยรับใช้จิตลามกเหล่านี้ และจิตชั่วนี้จะนำคนจากที่หนึ่งไปที่อื่นได้ พระสงฆ์ก็ด้วย
เพราะเขาไม่ได้ประพฤติตนตามจิตตารมณ์ของพระวรสาร ซึ่งเป็นอารมณ์แห่งความสุภาพ ความรักและ
ความร้อนรน เพื่อมงคลของพระ
จะมีปาฏิหาริย์แปลกๆ เกิดขึ้นทั่วทุกแห่ง เพราะความเชื่อที่แท้จริงดับเสียแล้ว แสงกำมะลอจะส่องโลก
กรรมแก่พวกเจ้านายฝ่ายศาสนจักรที่ไม่คิดอะไร นอกจากกอบโกยทรัพย์สมบัติ คอยคุมแต่อำนาจ
บงการงานด้วยอำนาจบาตรใหญ่ ผู้แทนพระบุตรของแม่จะรับทุกข์หนัก เพราะในระยะหนึ่งพระศาสนจักร
จะถูกทอดทิ้ง ถูกเบียดเบียนข่มเหงรุนแรง จะเป็นคราวของภัยมืด พระศาสนจักรจะต้องพบวิกฤตการณ์สยองขวัญ
โป๊ปจะต้องทรมานหนัก แต่แม่จะอยู่กับพระองค์จนถึงวาระสุดท้าย รอรับพลีกรรมของพระองค์ อันธพาล
จะมุ่งปลงพระชนม์พระองค์หลายครั้ง แต่มันจะไม่ทำระคายวันของพระองค์ได้เลย ทั้งพระองค์และผู้สืบธรรมาสน์
จะไม่ได้เห็นชัยชนะของพระศาสนจักร
ผู้ปกครองทุกประเทศจะมีนโยบายเดียวกันหมด เลิกล้ม ทำลายหลักธรรมทุกประเภท เอาลัทธิวัตถุนิยม
อเทวนิยม ไสยศาสตร์ และทุกอย่างที่เป็นกิเลสเข้าแทน
ปี 1865 จะได้เห็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ถูกทุราจาร ในอารามดอกไม้บูชาพระจะเน่า และมารจะเข้าครองหัวใจ
ใครที่เป็นหัวหน้านักบวช จงระวังบุคคลที่ตัวรับไว้ เพราะปีศาจมันจะพยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมชักนำบุคคลหนา
ด้วยบาปเข้ามาสมัคร เพราะความยุ่งเหยิงและความรักสนุกทางเนื้อหนังจะแพร่ไปทั่วแผ่นดิน
ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และอังกฤษจะฆ่าฟันกันเอง จนเลือดนองถนน ฝรั่งเศสต่อฝรั่งเศส อิตาเลียนต่ออิตาเลียน
แล้วสงครามสยดสยองจะเกิดขึ้นทั่วไป ต่อจากนั้นจะมีสันติภาพมนุษย์คืนดีกับพระ พระเยซูจะได้รับการปรนนิบัติ
และถวายชัยมงคล กษัตริย์ใหม่ๆ จะเป็นแขนขวาของพระศาสนจักรซึ่งจะเข้มแข็งสุภาพ ศรัทธาร้อนรน แต่ยากจน
และแกะรอยบาทยุคลพระคริสตเจ้า พระวรสารจะแพร่ไปทั่ว มนุษย์จะเจริญในความเชื่อมั่นคง จะมีการสังคายนา
ระหว่างกรรมกรของพระกับมนุษย์ที่กลัวบาปเกรงพระ
สันติภาพท่ามกลางมนุษย์นี้จะยืนยาวไม่ถึง 25 ปี แล้วจะทำให้พวกเขาลืมว่า บาปนั่นแหละเป็นเหตุที่นำ
ความทุกข์ทั้งมวลมาสู่โลก
แผ่นดินจะเต็มไปด้วยทุกข์เข็ญนานาประการ นอกจากโรคระบาด ความอดอยากหิวโหยซึ่งมีอยู่ทั่วไปแล้ว
สงครามจะเกิดขึ้นสืบเนื่องกันจนถึงสงครามสุดท้าย เวลานั้นกษัตริย์ 10 องค์ของแอนตี้ไคร้สต์ จะรวมหัวกัน
ก่อตั้งองค์การร่วมยึดครองโลก ก่อนเรื่องนี้จะเกิดขึ้น จะมีสันติภาพจอมปลอมในโลก ผู้คนจะไม่กังวลอะไร
ทั้งหมด ขอแต่ให้ได้สนุกสนานสำราญบานใจกันเต็มเหนี่ยว คนชั่วจะทุ่มเทใจทำบาปทุกชนิด ส่วนบุตรของ
พระศาสนจักรลูกแห่งความเชื่อ ผู้แกะรอยแม่แท้ๆ จะก้าวหน้าในความรักต่อพระและในกุศล ซึ่งเป็นที่พอพระทัย
แม่มาก วิญญาณสุภาพเยือกเย็น สุขุมโดยการนำของพระจิตเจ้า แม่จะอยู่สู้เคียงข้างพวกเขา จนกาลเวลาแห่ง
ความสมบูรณ์พูนสุขมาถึง
เสียงพยาบาทร่ำร้องมนุษย์ด้วยความอาฆาตมาดร้าย ทำให้โลกซึ่งจมอยู่ในปลัก อาชญากรรม
ต้องสะดุ้ง หวาดผวารอคอยเหตุที่กำลังเกิดขึ้น
ระหว่างนี้แหละ แอนตี้ไคร้สต์ จะเกิดจาก นักบวชหญิงชาวยิวคนหนึ่ง เป็นพรหมจารีเก๊ ซึ่งมีสัมพันธ์กับ
งูตัวเก่า เจ้าแห่งความโสโครก พ่อของมันจะเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ พอเกิดมันก็สำรอกคำแช่งชักหักกระดูกออกมา
ได้แล้ว ฟันมันจะขึ้นเต็มปาก พูดให้ถูก เป็นผีมาผุดมาเกิดนั่นเอง มันจะแผดเสียงดังก้อง จนคนขวัญหนีดีฝ่อ
มันจะแสดงอกินิหารให้เห็น อาหารประจำคือสิ่งปฏิกูล มันยังมีพี่ๆ น้องๆ อีก ถึงไม่ใช่ผีมาผุดมาเกิดอย่างมัน
พวกมันก็เป็นลูกมารอยู่นั่นเอง
พออายุ 20 ปี มันจะแสดงฝีมือปราบศัตรูชนะอย่างยอดเยี่ยม ชั่วเวลาไม่เท่าไหร่ ทุกคนจะออกนำทัพร่วม
กับแสนยานุภาพนรก
ฤดูกาลจะเปลี่ยนไป แผ่นดินจะไม่ให้ผลผลิต นอกจากชนิดเลวๆ ดาวในท้องฟ้าจะเปลี่ยนวิถีโคจรดั้งเดิม
ของมัน แสงจันทร์จะไม่นวลแจ่ม จะปรากฏเป็นสีแดงช้ำๆ น้ำ ไฟ จะทำให้โลกหมุนอลเวง ผืนแผ่นดินไหวอย่าง
น่ากลัว จะทำให้ภูผา บ้านเมือง ฯลฯ พลอยพังพินาศล่มจมหมด
โรมจะเสียความเชื่อ และกลายเป็นศูนย์ของแอนตี้ไคร้สต์
ปีศาจในห้วงอวกาศ กับแอนตี้ไคร้สต์ จะแสดงปาฏิหาริย์ใหญ่บนโลกและในอากาศ มนุษย์ยิ่งทียิ่งชั่วช้า
เลวลงเรื่อยๆ พระจะคุ้มกันข้าบริพารที่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และคนมีน้ำใจไว้ พระวรสารจะแพร่ไปทุกซอกทุกมุม
ราษฎรและประเทศชาติจะได้รู้ความจริง ถึงเวลาที่พวกลูกจะต้องออกมาเป็นแสงสว่างส่องโลกแล้ว ไปเถิดลูก
ไปแสดงตัวเป็นคนโปรดของแม่ แม่จะอยู่กับพวกลูก ลูกแห่งแสงสว่างมีจำนวนน้อยก็จริงเท่าที่เห็น จงออกทัพ
เพราะมันถึงยุคสุดท้าย ที่สุดแห่งที่สุด
พระศาสนจักรจะหลบเข้ากลีบเมฆ โลกจะอยู่อย่างหวาดผวา นั่นเฮน๊อค กับ เอลียาห์ เปี่ยมด้วยพรของ
พระจิต จะป่าวประกาศด้วยอานุภาพของพระ คนที่มีน้ำใจจะเชื่อ วิญญาณหลายดวงจะได้รับความบรรเทาใจ
พวกเขาจะก้าวหน้าในคุณธรรมโดยแรงกุศลของพระจิต พวกเขาจะประนามคนชั่วช้าสามานย์ของแอนตี้ไคร้สต์
เคราะห์กรรมแก่คนอาศัยบนผืนแผ่นดิน จะเกิดสงครามนองเลือด อดอยาก ภัยทุกชนิด โรคระบาด สัตว์จะตก
จากฟ้าอย่างน่ากลัวเคล้ากับสายฝน ฟ้าร้องเสียงลั่นสนั่นเมือง แผ่นดินถล่ม กลืนกินทั้งประเทศ เสียงอึกทึกครึก
โครมมาในอากาศ คนจะเอาหัวชนกำแพงตายให้รู้แล้วรู้รอดไป อีกทางหนึ่งความตายจะกลายเป็นความทรมาน
ของพวกเขา ใครจะชนะได้ถ้าพระไม่ลดเวลามหาวิปโยคลง พระจะยอมสงบได้ก็ด้วยเลือด น้ำตา และคำภาวนา
ของคนดี เฮน็อคกับเอลียาห์จะถูกฆ่า โรมที่ไม่เอาพระจะสิ้นสูญไป ไฟจากฟ้าจะตกลงมาเผาสามเมือง ทั้งโลก
จะพากันตระหนกอกสั่น ถึงคราวแล้ว ดวงอาทิตย์จะอับแสง ความเชื่อเท่านั้นจะดำรงอยู่
เวลามาถึง ปากเหวนรกเปิดอ้า นั่นจอมกษัตริย์แห่งความมืด นั่นสัตว์ร้าย กับพวกลูกสมุน ซึ่งประกาศตัว
เป็นผู้ไถ่โลก จะเหาะทะยานขึ้นเหยียบเมฆอย่างทรนง แต่มันต้องสำลักแรงเป่าของเซนต์ไมเคิ้ล อัครเทพ
แล้วจะตกผลุงดิ่งพสุธา ซึ่งว้าวุ่นคุกรุ่นอยู่เรื่อยมาตั้งสามวันแล้ว แผ่นดินจะแยก ไฟพลุ่งขึ้น ดูดตัวมันกับลูกสมุน
ให้ทิ่มลงนรกก้นบึ้งนิรันดร
น้ำกับไฟจะมาชำระโลก ทำลายผลงานหยิ่งผยองของมนุษย์จนสิ้นซาก แล้วทุกอย่างจะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่
พระจะได้รับการปรนนิบัติและถวายชัยมงคล
_

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ค. 29, 2023 8:24 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (47)👈
🌼--- นอสตราดามุสแจงกำเนิดและอวสานของแอนตี้ไคร้สต์ [A] ---🌼
         
เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้หยิบยกคำทำนายของแม่พระปรากฏมาพบเด็ก 2 คน ที่ลาซาแลตต์
ฝรั่งเศส มีอยู่ตอนหนึ่งที่แม่พระพูดถึง กำเนิดของแอนตี้ไคร้สต์ ว่าเกิดจากแม่ที่เป็นนักบวชหญิง
ชาวยิว จากพ่อที่เป็นพระชั้นผู้ใหญ่
หากจะค้นคว้าจากพระคัมภีร์เก่า (ที่กล่าวถึงการสร้างโลก กระทั่งถึงพระเยซูพระบุตรของพระเจ้า
อวตารมาเป็นมนุษย์ เมื่อ ค.ศ. 1) ก็มีกล่าวไว้อยู่หลายตอนที่กล่าวถึงกำเนิดของแอนตี้ไคร้สต์ เช่น
คำพยากรณ์ของมหาบุรุษยาโคบ ที่กล่าวถึงบุตรทั้ง 12 คนต่างๆ กันใน ปฐมกาล บทที่ 49: 17 - 18 ว่า "
'ดาน' จะเป็นงูอยู่กลางถนน เป็นงูพิษที่อยู่ในหนทางที่กัดส้นเท้าม้า ทำให้คนขี่ตกหงายลง" ยาโคบ หรือมี
อีกชื่อหนึ่งว่า อิสราเอล มีบุตร 12 คน ซึ่งถือเป็นต้นตระกูลของชาวอิสราเอล ดังนี้
1. รูเบน 2. สิเมโอน 3. ยูดาห์ 4. เศบูลุน 5. อิสสาคาร์ 6. ดาน 7. กาด 8. อาเชอร์ 9. นัฟทาลี
10. เอฟราอิม 11. มนัสเสห์ 12. เบนยามิน
ข้อสังเกต ตามประเพณียิว ถ้าแม่เป็นยิว ลูกก็เป็นยิวด้วย โดยไม่คำนึงถึงพ่อว่าจะเป็นชาติใด
เช่น ถ้าพ่อเป็นยิว แต่แม่เป็นชาติอื่น เช่นโซมาเลีย ลูกก็เป็นโซมาเลีย ไม่ใช่ยิว ถ้าต้องการเข้าศาสนายิว
ก็ต้องทำพิธีเปลี่ยนศาสนาเป็นยิว ฉะนั้น ที่แม่พระบอกว่าแอนตี้ไคร้สต์เกิดจากนักบวชหญิงชาวยิว ตาม
ประเพณีแล้วก็ต้องเป็นยิวตามแม่ แล้วก็น่าจะมาจากเผ่าดาน (Dan) ตามบทปฐมกาล ที่กล่าวถึงดาน
จะเป็นงูพิษกลางถนน ที่กัดส้นเท้าม้า ทำให้คนขี่ตกหงายหลังลงจากหลังม้า หรือในวิวรณ์ บทที่ 7 ที่
กล่าวถึงเทวทูตจะประทับตราแก่ผู้รับใช้พระเจ้า รวมทั้งชนทุกเผ่าจากอิสราเอล ยกเว้น เผ่าดาน ไม่มี
กล่าวถึง นักศาสนศาสตร์ลงความเห็นว่า Antichrist ต้องมาจากเผ่าดาน
เยเรมีย์ บทที่ 8: 16 - 17 "เสียงคะนองแห่งม้าของศัตรูได้ยินจากดาน แผ่นดินทั้งสิ้นก็หวั่นไหว
ด้วยเสียงร้องของกองอาชาของเขา มันทั้งหลายมากินแผ่นดิน และสิ่งทั้งปวงที่อยู่บนนั้นจนหมดทั้งเมือง
และผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเพราะเรากำลังส่งงูเข้ามาท่ามกลางเจ้า คืองูทับทาง (งูพิษ) ซึ่งจะผูกด้วยมนต์ไม่ได้
และมันจะกัดเจ้าทั้งหลาย" พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
ลองมาดูกลอนของนอสตราดามุส บ้างว่าได้พูดถึงกำเนิดของแอนตี้ไคร้สต์อย่างไรบ้างใน บทที่ 10/9
Moyne Moynesse d'enfant mort expose,
Mourir par ourse & ravy par verrier,
Par Fois & Pamyes le camp sera pose,
Contre Toloze Carcas dresser fourier.
ทารกที่เกิดจากสงฆ์และนางชี ถูกนำไปทิ้งหวังให้ตาย
หมีตัวเมียคาบเอามาหมายจะขย้ำ แต่หมูป่าตัวผู้แย่งเอาไปได้
จะเกิดเมื่อกองทัพตั้งค่ายที่เมืองฟัวส์และปาเมียร์
เมืองโธโลสและการ์กัสเตรียมขุดสนามเพาะรับมือ
วิเคราะห์ บรรทัดที่ 1 ทารก (แอนตี้ไคร้สต์) เกิดจากสงฆ์และนางชี ตรงตามที่แม่พระบอกเด็ก 2 คน
ที่ลาซาแลตต์ ถูกนำไปโยนทิ้ง อย่างคนไทยเรียกกันว่า มารหัวขน "นักบวชคณะเบเนดิกติน ผู้ทรงคุณวุฒิ
ชื่อ Rabano Mauro กล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า: แม้ว่า แอนตี้ไคร้สต์ จะเกิดเหมือนๆ มนุษย์ทุกคนจากหญิง
คนหนึ่ง แต่ทว่าด้วยกระบวนการที่แปลกที่สุด คือ ท่านกล่าวเป็นภาษาลาตินว่า
totus in peccato concipietur, in peccato generabitur et in peccato nascetur แปลว่า: มันได้รับ
การปฏิสนธิในบาป กล่าวคือ พ่อเป็นสงฆ์ แม่เป็นชี ลักลอบได้เสียกัน เป็นการผิดคำสาบานต่อพระเจ้า
ที่จะถือพรหมจรรย์ เริ่มชีวิตในครรภ์มารดาในบาป หมายถึง มารสอดแทรกเข้าไปสิงในครรภ์มารดา
และ เกิดในบาป หมายถึง เมื่อเกิดเป็นทารกแล้วยังถูกยัดเยียด หรือถูกประคบประหงมด้วยความชั่วช้า
นานาประการ ดังนั้นจึงสามารถเรียกได้ว่า เป็นคนบาปหนา (man of sins) และ ลูกแห่งความพินาศ
(son of perdition)"
ยังมีนักศาสนศาสตร์อีกจำนวนหนึ่งตีความ แอนตี้ไคร้สต์ ที่มีกล่าวในพระคัมภีร์ว่าเป็นแค่นามธรรม
คือหมายถึง ความชั่วทั่วๆ ไป ไม่เป็นรูปธรรม คือไม่มีตัวตน
บรรทัดที่ 2 ทารก (แอนตี้ไคร้สต์) ที่ถูกโยนทิ้งคงจะเป็นบริเวณป่าปลอดผู้คน เกือบถูกหมีขย้ำ
แต่ถูกหมูป่าแย่งเอาไปได้ แล้วคงจะอยู่อย่างหมูอย่างหมา ดังที่แม่พระแห่งลาซาแลตต์กล่าวไว้ว่า
อาหารประจำของมันคือสิ่งปฏิกูล

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ค. 29, 2023 8:32 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ ( 4 8 )👈
🌼--- นอสตราดามุสแจงกำเนิดและอวสานของแอนตี้ไคร้สต์ ---🌼
       
บรรทัดที่ 3 - 4 ตามประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสระหว่างปี 1958 - 1962 เกิดวิกฤตการณ์แอลจีเรีย
ขณะนั้นนายพลเดอโกล เลิกยุ่งการบ้านการเมือง หันไปใช้ชีวิตเงียบๆ ในชนบท เกิดสถานการณ์
เลวร้ายลง ประธานาธิบดี โคตี ได้เชิญ เดอโกล เข้ามาจัดตั้งรัฐบาล เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางการเมือง
ระหว่างฝรั่งเศสและแอลจีเรีย ตอนนั้นกองทัพของฝรั่งเศสได้มาตั้งค่ายที่ทางภาคใต้ที่เมือง FOIX (FOIS)
เมือง PAMIERS (PAMYES) เมือง TOULOUSE (THOLOZE) และเมือง CARCASSONNE (CARCAS)
เตรียมพร้อมจะบุกแอลจีเรีย แต่เผอิญตกลงกันได้ ฝรั่งเศสยอมคืนอิสรภาพให้แก่แอลจีเรีย ในปี 1962
นอสตราดามุสบอกเหตุการณ์นี้เป็นการใบ้เวลาว่า ทารก (แอนตี้ไคร้สต์) นี้เกิดในปีไหน...นั่นก็คือ
ปี 1958 - 1962 ระหว่างเกิดกรณีพิพาทแอลจีเรีย ตัวเลขนี้จะไปตรงกับของนางจีน ดิกสัน ได้เห็นนิมิต
หนุ่มที่จะปฏิวัติโลก ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1962 และยังสอดคล้องกับกลอนของ นอสตราดามุส บทที่ 20/6
ในบรรทัดที่ 4 ที่ว่า Lors aura Rome un nouveau liepart. สมัยของพระองค์ (โป๊ป จอห์นที่ 23
ปี 1958 - 1963) กรุงโรมจะมี เสือดาวตัวใหม่ ฉะนั้นปี 1962 น่าจะเป็นปีเกิดของ Antichrist
ตอนนี้เรารู้กำพืดของแอนตี้ไคร้สต์แล้วว่ามาจากไหน ในโอกาสต่อไปคงจะได้พูดกันถึงบทบาท
ตอนสำคัญที่ แอนตี้ไคร้สต์ จะเป็นเจ้าครองโลกเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี ซึ่งจะเป็นอะไรที่ระทึกใจ
สยดสยอง และอำมหิตแบบสุดสุด ขนาดต้องหลบซ่อนใน กาตากอมบ์ (ที่หลบภัยใต้ดิน) เพื่อประกอบ
ศาสนกิจ เหมือนสมัยจักรพรรดิ เนโรยังไงยังงั้นทีเดียว แต่เพื่อเป็นการปลอบใจว่า ในบั้นปลายนั้นธรรมะ
จะต้องชนะอธรรมเสมอไป จึงขอเสนอกลอนของ นอสตราดามุส ที่กล่าวถึงอวสานของ แอนตี้ไคร้สต์
เพื่อความอุ่นใจไว้ก่อน ในบทที่ 96/10
Religion du nom des mers vaincra,
Contre la secte fils Adaluncatif,
Secte obstinee deploree craindra,
Des deux blessez par Aleph & Aleph
ศาสนาที่มีชื่อแห่งทะเลจะมีชัย
ต่อลัทธิอุบาทว์แห่งบุตร ADALUNCATIF
เจ้าแห่งลัทธิอุบาทว์ที่ดื้อรั้น จะตัวสั่นร้องขอเมตตา
พระเจ้าจะลงอาญาโทษแก่มัน 2 ครั้ง
วิเคราะห์ บรรทัดที่ 1 วลี des mers แปลว่า แห่งทะเล โปรดสังเกต นอสตราดามุส ใช้คำ mers
ซึ่งเป็นพหูพจน์ ในภาษาลาติน ทะเล คือ MARE หากเป็นพหูพจน์จะเป็น MARIA คำ MARIA ยังเป็นชื่อ
ของแม่พระด้วย คือพระนางมารีอา ศาสนาแห่ง มารีอา หรือศาสนาที่นับถือพระนาง มารีอา คือ ศาสนา
คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เพราะมีศาสนาคริสต์บางนิกายที่มิได้นับถือพระนาง มารีอา
เมื่อปี 1917 พระนางมารีอา ได้ปรากฏมาในนิมิตของเด็กเลี้ยงแกะ 3 คน ที่ฟาติมา ประเทศโปรตุเกส
(พฤษภาคม - ตุลาคม) ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 (1914 - 1918) โปรตุเกสกำลังบอบช้ำ เพราะเพิ่ง
โดนกระหน่ำจากการปฏิวัติเปลี่ยนจากระบบกษัตริย์สู่ระบบสาธารณรัฐ ซึ่งถูกครอบงำโดยลัทธิ ฟรีเมซัน
ซึ่งเป็น ลัทธิบูชาซาตาน แม่พระมองเห็นภัยใหญ่หลวง (มารหัวดำซึ่งจะกล่าวในโอกาสต่อไป) กำลังคืบ
คลานเข้าสู่โปรตุเกส ซึ่งเลื่อมใสศรัทธาในพระเจ้าอย่างแน่นแฟ้น กลับถูกบังคับจิตใจให้เลิกนับถือพระเจ้า
นอกจากนี้แล้ว แม่พระยังมองเห็นมหันตภัยอีกอย่างหนึ่ง (มารหัวแดง) กำลังจู่โจมยุโรป นั่นคือ
ลัทธิคอมมิวนิสต์ กำลังจะเกิดขึ้นในรัสเซีย ในเดือนพฤศจิกายน 1917 นั้นเอง แม่พระได้บอกล่วงหน้าไว้
ด้วยว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์จะแพร่เชื้อร้ายไปทั่วโลก แต่ให้ไว้ใจในแม่พระๆ จะทำให้รัสเซียกลับใจในที่สุด
ซึ่งข้อนี้เราต่างเป็นสักขีพยานได้เป็นอย่างดีว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์ ได้ล่มสลายไปแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ
ยังความงวยงงแก่นักวิเคราะห์การเมืองของโลกคอมมิวนิสต์จวบจนทุกวันนี้
บรรทัดที่ 2 ศาสนาคาทอลิกจะมีชัยเหนือบุตรของ Adaluncatif คำนี้เป็นคำปริศนา ซึ่งนอสตราดามุส
ซ่อนเงื่อนเอาไว้ เราจะต้องเอาคำทำนายจากพระคัมภีร์มาถอดรหัสคำปริศนานี้ ก็จะได้ DAN CALIFATU
คำ DAN ก็คือคนยิว เผ่าดาน คำ CALIFATU เป็นภาษาท้องถิ่นภาคใต้ของอิตาลี ซึ่งเป็นภาษาของบรรพ
บุรุษของนอส ตราดามุส แปลว่า ตำแหน่งกาหลิบ หรือ ตำแหน่ง สังฆราชทางตะวันออกกลางซึ่งเป็นทั้งพระ
และเจ้าครองนครในขณะเดียวกัน อย่างเช่นท่านสังฆราชมาการีออสแห่งไซปรัส หากเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส
ก็ต้องเขียนดังนี้ CALIFAT ใน 2 บรรทัดนี้มีใจความดังนี้ ศาสนาคาทอลิกจะมีชัยเหนือบุตร (แอนตี้ไคร้สต์)
คนยิวเผ่าดาน (จากพ่อ) ผู้มีตำแหน่งสังฆราช ข้อนี้ก็ตรงกับที่ แม่พระแห่งลาซาแลตต์ บอกไว้ว่า แอนตี้ไคร้สต์
จะเกิดจากแม่เป็นนักบวชหญิงชาวยิว และจากพ่อผู้เป็นพระชั้นผู้ใหญ่
บรรทัดที่ 3 คำ Secte ในบรรทัดที่ 2 และ 3 หมายถึงลัทธิอุบาทว์ หรือลัทธิบูชาซาตาน ตรงนี้ต้องขอ
อธิบายความรู้ทางศาสนาคริสต์นิดหน่อยเกี่ยวกับซาตาน คือ พระเจ้าก่อนที่จะสร้างมนุษย์ ได้ทรงสร้างเทวดา
เป็นจำนวนมาก มีลักษณะเป็นจิต ไม่มีกาย มีสติปัญญาและน้ำใจเหมือนมนุษย์ เพื่อรับใช้พระองค์ในสวรรค์
เทวดาเหล่านี้มีหัวหน้าชื่อ ลูซีเฟอร์ (Lucifer) แปลว่า ผู้นำความสว่าง หรือ เทพแห่งความสว่าง ได้ใช้อิสระเสรี
ที่พระเจ้าประทานให้ไปในทางที่ผิด กล่าวคืออยากเป็นใหญ่เท่าพระเจ้า จึงไปชวนเทพไมเคิล ให้ร่วมทำกบฏ
ต่อพระเจ้าด้วย แต่เทพไมเคิลไม่ยอมทำตาม พระเจ้าจึงทรงบัญชาให้ เทพไมเคิล ขับไล่ ลูซีเฟอร์และสมุน
ให้ออกจากสวรรค์สู่นรกอเวจี ซึ่งเราจะเรียกมันว่าซาตาน หรือปีศาจ หรือมาร ภารกิจของมันก็คือคอยล่อลวง
มนุษย์ให้ทำชั่ว เพื่อจะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนกับพวกมันในนรก
ขอย้อนกลับมาที่บรรทัดที่ 3 และที่ 4 คำ Aleph เป็นอักษรตัวแรกของภาษาฮีบรูหมายถึง แรกกำเนิด
คือ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงฟาดพระหัตถ์แห่งพระพิโรธครั้งที่ 1 ไปยัง ลูซีเฟอร์ เพราะมันเป็นกบฎต่อ
พระองค์เมื่อครั้งสร้างโลก แล้วพระองค์จะฟาดพระหัตถ์แห่งพระพิโรธเป็นครั้งที่ 2 ไปยัง แอนตี้ไคร้สต์
ซึ่งมี มารซาตานสิงในตัวมัน มันจะตัวสั่นงันงกร้องขอพระเมตตา ในยามที่มันจะต้องพ่ายแพ้แก่พระองค์
ในวาระสุดท้ายของโลก

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ค. 29, 2023 8:38 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (49)👈
🌼--- นิมิตของดาเนียล และนิมิตของเซนต์จอห์นเกี่ยวกับแอนตี้ไคร้สต์ [A] ---🌼
         
พระธรรมดาเนียล (เมื่อ 2,600 ปีมาแล้ว) คราวที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ บุกทำลายกรุงเยรูซาเล็ม
ดาเนียลก็ถูกจับไปเป็นเชลยในกรุงบาบิโลนด้วย ได้ทำงานในตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก สามารถ
ทำนายความฝันของกษัตริย์เป็นที่พอพระราชหฤทัย ด้วยความภาคภูมิใจในบารมีของพระองค์อย่างมาก
จึงได้ทรงบัญชาให้ปั้นรูปพระองค์เองสูงเก้าสิบฟุต กว้างเก้าฟุต เมื่อได้ยินสัญญาณ ทุกคนจะต้องก้มกราบ
นมัสการรูปปั้นนั้น ขณะที่ดาเนียลไปราชการนอกเมือง เพื่อนของเขา 3 คน ก็ถูกจับโยนเข้าเตาไฟ เพราะ
ไม่ยอมกราบไหว้รูปปั้นกษัตริย์ จะกราบไหว้เฉพาะพระเจ้าเท่านั้น แต่เพื่อนทั้งสามก็ไม่ได้รับอันตรายอะไร
จากไฟนั้น ดาเนียลเองก็เช่นกัน ทุกๆ วันจะคุกเข่าอธิษฐานต่อพระเจ้าวันละ 3 เวลา จนเป็นเหตุให้ข้าราชการ
ขี้อิจฉา พยายามสรรหาวิธีขจัดดาเนียล ด้วยการเสนอข้อกฎหมายใหม่ ให้อธิษฐานต่อกษัตริย์แต่ผู้เดียว
แต่ดาเนียลก็ยังคงอธิษฐานต่อพระเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียวเช่นเดิม จึงต้องโทษตามกฎหมายถูกโยนลงไป
ในถ้ำสิงโต แต่ดาเนียลก็มิได้รับอันตรายแต่ประการใดจากสิงโต กษัตริย์ดาริอัสทรงเห็นว่าพระเจ้าทรงดี
ต่อประชากรของพระองค์ จึงทรงบัญชาทุกคนในประเทศให้เคารพและนมัสการพระเจ้าของดาเนียล
ในสมัยกษัตริย์เบลซัสซาร์ ดาเนียลนิมิตเห็นลมทั้ง 4 ทิศจากฟากฟ้าปลุกปั่นทะเลใหญ่ แลเห็นสัตว์ใหญ่
4 ตัว ออกมาจากทะเลนั้น ตัวแรกเหมือนสิงห์ มีปีกนกอินทรี (หมายถึง อาณาจักรคัลเดีย) ตัวที่ 2 เหมือน
หมี (หมายถึง อาณาจักรเปอร์เซีย) ตัวที่ 3 เหมือนเสือดาว (หมายถึงอาณาจักรกรีก) ตัวที่ 4
(หมายถึงอาณาจักรโรมัน) เป็นสัตว์ร้ายกาจ น่ากลัว และแข็งแรงยิ่งนัก มันมีฟันเหล็กซี่ใหญ่โต ต่างกับ
สัตว์ตัวอื่นๆ มันมี 10 เขา และมีเขาเล็กงอกแซมออกมา มีหน้าตาเหมือนมนุษย์ มีปากคุยโวโอ้อวด
เขาแรกๆ 3 เขาใน 10 เขานั้นได้ถูกถอนรากออกไป ในนิมิตนั้นมีผู้หนึ่งให้คำอธิบายแก่ดาเนียลเกี่ยวกับ
เขา 10 เขาว่า จากราชอาณาจักรนี้ (โรมัน) จะมีกษัตริย์ 10 พระองค์เกิดขึ้น และมีกษัตริย์อีกองค์หนึ่ง
(เขาเล็กๆ งอกแซมออกมา) เกิดภายหลัง ผิดแผกแปลกกว่ากษัตริย์ที่มีมาก่อน กษัตริย์องค์สุดท้ายนี้
(แอนตี้ไคร้สต์) จะกล่าวร้ายต่อองค์ผู้สูงสุด จะก่อความปั่นป่วนในวงการนักบวช และจะเปลี่ยนแปลง
พระธรรมคำสอน และมนุษย์ทุกคนจะอยู่ใต้อำนาจของกษัตริย์องค์นี้ เป็นเวลาถึง 3 ปีครึ่ง แต่ผู้พิพากษา
จะขึ้นนั่งบัลลังก์ และจะทรงริบเอาราชอาณาจักรของกษัตริย์องค์นี้คืนไป เพื่อจะทรงเผาผลาญและทำลาย
เสีย แผ่นดินและราชอาณาจักร ความยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินโลก จะต้องถูกมอบไว้แก่วิสุทธิชนแห่งองค์ผู้
สูงสุด แผ่นดินเหล่านี้จะเป็นแผ่นดินนิรันดร์ ราชอาณาจักรทั้งสิ้นจะปรนนิบัติและเชื่อฟังพระองค์
(ดาเนียล 7:1 - 27)
พระธรรมวิวรณ์ (เซนต์จอห์นได้บันทึกนิมิตนี้ประมาณ ค.ศ. 90 ก็แปลว่า เกือบสองพันปีมาแล้ว)
"ครั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้เห็นสัตว์ร้ายตนหนึ่งขึ้นมาจากทะเล มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา แต่ละเขามีมงกุฎ
สวมอยู่ ที่หัวแต่ละหัวมีชื่อซึ่งล้วนแต่เป็นถ้อยคำหมิ่นประมาทพระเจ้าจารึกอยู่ สัตว์ร้ายตนนี้โดยทั่วๆ
ไปมีลักษณะคล้ายเสือดาว" แต่มีตีนคล้ายหมี และปากคล้ายสิงโต พญามังกรได้ให้ฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่
และบัลลังก์ของมันแก่สัตว์ร้ายตนนี้...พญามังกรยกย่องส่งเสริมสัตว์ร้ายนี้ ให้คุยโวโอ้อวดและกล่าวถ้อย
คำหยาบหยามดูหมิ่นพระเจ้า และสำแดงฤทธิ์อำนาจเป็นเวลาถึงสี่สิบสองเดือน มันกล่าวถ้อยคำหมิ่น
ประมาทพระเจ้า ดูแคลนพระนามของพระองค์และที่ประทับของพระองค์ ตลอดจนผู้ที่อยู่ในสวรรค์ทุกรูป
ทุกนาม พญามังกรได้ประสาทฤทธิ์เดชให้มัน เพื่อทำสงครามกับวิสุทธิชนของพระเจ้า...ครั้นแล้ว ข้าพเจ้า
ก็เห็นสัตว์ร้ายอีกตนหนึ่งออกมาจากแผ่นดินโลก สัตว์ร้ายตนนี้มีเขาเล็กๆ สองเขามองดูคล้ายลูกแกะ
แต่มีเสียงที่น่ากลัวประดุจเสียงของมังกร มันสำแดงฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของสัตว์ร้ายตนแรก อย่างครบ
ถ้วนทุกประการต่อหน้าสัตว์ร้ายตนแรกนั้น และบังคับให้มนุษย์ทุกคนที่อยู่ในโลก  ต้องกราบไหว้บูชา
สัตว์ร้ายตนแรกนั้น สัตว์ร้ายตนนี้ (ตัวที่ 2) ได้สำแดงมหานิมิต น่าอัศจรรย์หลายอย่าง เป็นต้นว่าบันดาล
ให้ไฟตกจากท้องฟ้าลงสู่พื้นโลก เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของมวลมนุษย์ มันอาศัยฤทธิ์อำนาจของสัตว์ร้าย
ตนแรกหลอกลวงมนุษย์บนแผ่นดินโลก โดยสำแดงความมหัศจรรย์ต่อหน้าสัตว์ร้ายตนแรกนั้น มันสั่งให้
พวกเขาสร้างรูปจำลองของสัตว์ร้ายตนแรกนั้น ซึ่งมีรอยแผลฉกรรจ์ถูกฟันด้วยดาบ และแผลนั้นได้หายสนิท
ดีแล้ว มันได้รับฤทธิ์สามารถทำให้รูปจำลองนั้นมีลมหายใจเพื่อว่าจะพูดได้ และใช้อำนาจเข่นฆ่าผู้ไม่ยอม
เคารพรูปจำลองนั้น นอกจากนั้นมันยังบังคับขู่เข็ญให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อย ไม่ว่าจะเป็นคน
ยากจนหรือมั่งมีศรีสุข ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เป็นไทหรือเป็นทาสก็ตาม ให้ยอมประทับเครื่องหมายไว้ที่มือขวา
หรือบนหน้าผากของเขา และกีดกันมิให้ผู้ใดทำการซื้อขาย เว้นแต่ว่าผู้นั้นจะมีรอยชื่อ หรือเครื่องหมายเลข
แทนชื่อของมันประทับไว้ดังกล่าวแล้วเท่านั้น เรื่องนี้พึงใคร่ครวญให้ดี ผู้ใดมีวิจารณญาณอันถ่องแท้
ย่อมสามารถตีความหมายของตัวเลขของสัตว์ร้ายนี้ออก เพราะหมายเลขนั้นใช้แทนชื่อคน
หมายเลขของมันคือ หกร้อยหกสิบหก (666) (วิวรณ์ 13:1 - 18)

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร พ.ค. 30, 2023 9:16 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (50)👈
🌼--- นิมิตของดาเนียล และนิมิตของเซนต์จอห์นเกี่ยวกับแอนตี้ไคร้สต์ ---🌼
         
วิคราะห์พระธรรมดาเนียล จะขอวิเคราะห์ถึงสัตว์ตัวที่ 4 ซึ่งมีเขา 10 เขา และเขาเล็กงอกแซมออกมา
หมายถึงอาณาจักรโรมัน แบ่งออกเป็น 10 ยุค ยุคที่ 1 นับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิ Augustus Caesar
ก่อน ค.ศ. 31 ไปจนถึงสมัย Augustus Romulus ในปี 476 ยุคที่ 2, 3, 4 เป็นยุคของอนารยชนครอง
คือ ยุค Vandali Eruli ยุค Ostrogoti ยุคที่ 5 ยุค Justinian ปี 554 เป็นยุคที่รัฐพระสันตะปาปาเป็น
ที่ยอมรับในยุโรปตะวันตก ยุคที่ 6 ยุคพวกแฟรงค์สมัยพระเจ้าชาร์เลอมาญ ปี 774 ยุคที่ 7 ยุคจักรวรรดิ
โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ สมัยพระเจ้า ออตโตมหาราช ปี 962 ยุคที่ 8 ยุคราชวงศ์ แฮปส์เบิร์ก แห่งออสเตรีย
พระเจ้าคาร์ลอสที่ 5 ปี 1520 ยุคที่ 9 ยุคราชอาณาจักรฝรั่งเศส สมัยพระเจ้า นโปเลียน ปี 1805 ยุคที่ 10
ยุคการีบัลดี ปี 1870 ไปสิ้นสุดในสมัย มุสโสลินี ปี 1945 ยุคสุดท้ายแห่งอาณาจักรโรมัน ฟื้นฟูใหม่
ก็คือยุคสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งจะมี แอนตี้ไคร้สต์ (เขาเล็ก) เป็นประมุข ดาเนียล บอกว่ามันจะกล่าวร้าย
ต่อองค์ผู้สูงสุด และจะก่อความปั่นป่วนในวงการศาสนา จะเปลี่ยนแปลงพระธรรมคำสอน และจะ
ครองอำนาจอยู่ถึง 3 ปีครึ่ง แต่จะพ่ายพระเยซูผู้จะเสด็จมาครั้งที่ 2 แล้วพระองค์จะนิมิตแผ่นดินขึ้นใหม่
แล้วให้วิสุทธิชนครอบครอง
วิเคราะห์พระธรรมวิวรณ์ ในบทที่ 13 มีเรื่องที่จะวิเคราะห์หลายตอน แต่ครั้งนี้ขอวิเคราะห์
หมายเลข 666 อันเป็นรหัสประจำตัวของแอนตี้ไคร้สต์ ในที่นี้จะขอวิเคราะห์ สัตว์ตัวที่ 4 ตามนิมิตของ
ดาเนียล ซึ่งร้ายกาจน่ากลัวและแข็งแรงที่สุด มีเขาถึง 10 เขา ซึ่งได้วิเคราะห์แล้วว่าหมายถึง อาณาจักร
โรมัน ซึ่งมี 10 ยุค (เขา) และในอาณาจักรโรมันนี้จะมีเขาเล็กๆ งอกแซมออกมาซึ่งหมายถึง แอนตี้ไคร้สต์
ในวิวรณ์บทที่ 13 นี้ ก็พูดถึง สัตว์ร้ายตนหนึ่งออกมาจากแผ่นดินโลก มันมีเขา 2 เขาเล็กๆ มองดูคล้าย
ลูกแกะ มันจะบังคับให้ทุกคนประทับเครื่องหมายไว้ที่ข้อมือขวา และกีดกันมิให้ผู้ใดทำการซื้อขายเว้น
แต่ผู้นั้นจะมีรอยชื่อ หรือเครื่องหมายเลขแทนชื่อของมัน หมายเลขของมันคือ 666 เซนต์จอห์นผู้บันทึก
พระธรรมวิวรณ์ เป็นภาษากรีกก็ให้รหัสชื่อของ แอนตี้ไคร้สต์ ซึ่งจะเป็นประมุขโรมัน ในยุคจักรวรรดิ
โรมันฟื้นฟูใหม่ (EU) ว่า LATEINOS คือ ลาติน ซึ่งหมายถึงโรมัน นั่นเอง หากเอาอักษร LATEINOS
มาแทนค่าเป็นตัวเลขตามแบบฉบับของชาวกรีกก็จะได้
L=30, A=1, T=300, E=5, I=10, N=50, O =70, S=200 ผลลัพธ์ก็คือ 666 อันเป็นชื่อสัตว์ร้ายตัวนี้
หลังจากที่รวบรวมข้อมูลของตัว แอนตี้ไคร้สต์ ก็พอจะสรุปได้ดังนี้ มันจะเกิดจากแม่ยิวเผ่าดาน
พ่อเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ มันมีสมญาว่า สัตว์ร้าย มีรหัสประจำตัวคือ 666 มันจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประมุข
แห่งสหภาพยุโรป (EU) และโดยอาศัยตำแหน่งอันสูงส่งของ แอนตี้ไคร้สต์นี้เอง พญามังกรหรือซาตาน
ก็จะกลายเป็นวาทยากรของวงออร์เคสตร้าไปทันที คอยควบคุมและบงการตามที่มันต้องการ งานสำคัญ
ที่มันอยากทำยิ่งนักคือ เบียดเบียนข่มเหงชาวคริสต์ที่ไม่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย มันจะมีอำนาจทั้งทาง
การเมืองและทางศาสนา ทางเศรษฐกิจ ใครไม่มีเครื่องหมายของมัน หรือชื่อของมัน หรือหมายเลขของมัน
คือ 666 ก็ไม่สามารถจะซื้อขายอะไรได้และที่สำคัญที่สุด แอนตี้ไคร้สต์ ต้องการให้ทุกคนกราบไหว้มันเป็น
พระเจ้าเหมือนกับที่จักรพรรดิ์ Augustus Caesar บีบบังคับให้ชาวเปอร์กามัม กระทำในยุคแรกเริ่มแห่ง
อาณาจักรโรมัน ในปี 29 ก่อน ค.ศ. หรือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งกรุงบาบิโลน บังคับ
ให้ผู้คนกราบไหว้นมัสการรูปปั้นของพระองค์
ขอบคุณพระที่อำนาจมืดนี้จะคงอยู่แค่ 3 ปีครึ่ง
สุดยอดของแผนร้ายของมันก็คือ มันจะบังคับให้ตั้งรูปปั้นของสัตว์ร้ายตัวที่ 1 เพื่อให้ผู้คนมากราบไหว้
และจะบังคับทุกคนให้มีเครื่องหมายของมัน คือ หมายเลข 666 ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก
เราลองมาวิเคราะห์คำในพระคัมภีร์ตอนนี้ซิว่า แอนตี้ไคร้สต์จะสามารถบังคับให้ทุกคนให้มีเครื่องหมาย
ของมันนั้น จะมีทางเป็นไปได้จริงหรือไม่ คำตอบก็คือ เป็นไปได้แน่นอน โดยอาศัยเครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่ในยุค
โลกานุวัตรของเราจะขาดเสียมิได้ก็คือ คอมพิวเตอร์ COMPUTER ซึ่งถ้าเราแทนค่าตัวอักษร COMPUTER
ในภาษาอังกฤษตามจำนวนก้าวหน้าทางเลขคณิต ก็จะได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งแบบสุดสุดดังนี้ C=18+O=90+M=78+P=96+U=126+T=120+E=30+R=108=666 ซึ่งเป็นเครื่องหมายของ แอนตี้ไคร้สต์
ที่ในวิวรณ์เรียกว่า เครื่องหมายของสัตว์ร้าย MARK OF BEAST แล้วลองแทนค่าตัวอักษรเหล่านี้ตามสูตร
ตัวเลขก้าวหน้าทางเลขคณิต ก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนกันคือ 666=M=78+A=6+R=108+K=66+O=90+F=36+B=12+E=30+A=6+S=114+T=120
ลองมาดูองค์กรต่างๆ ของโลกต่างก็ใช้หมายเลข 666 เช่น
1. ธนาคารโลกใช้หมายเลข 666
2. ในอิสราเอลหมายเลขโทรศัพท์ระหว่างประเทศ คือ 666
3. ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท OLIVETTI อิตาลี ซึ่งประธานบริษัทเป็นยิวชื่อเสียงโด่งดังมี
นามสกุล DE BENEDETTI ใช้เลขนำ คือ 666
4. EAN 666 (european article numbering) เป็นรหัสตัวเลขของยุโรปเพื่อเอาไปใช้ในการจำแนก
ผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือจำแนกแยกแยะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เป็นเครื่องหมายที่จะต้องพิมพ์หรือสลัก
ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ก็จะใช้ระบบ EAN 666 และจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ ยี่ห้อ
ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ EAN 666
ในอิตาลีเมื่อไม่นานมานี้ Dr. Di Biaggio เล่าให้ฟังว่า มีหนุ่มคนหนึ่งจบทางคอมพิวเตอร์ได้
คะแนนดีมาก ไปสมัครงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แต่ต้องผิดหวังไม่อยากทำงาน เพราะทุกแห่งใช้
คอมพิวเตอร์นำด้วยหมายเลข 666 ซึ่งหนุ่มผู้นี้ถือว่า เป็นหมายเลขของซาตาน จึงต้องผิดหวังดังกล่าว

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 03, 2023 5:03 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (51)👈
🌼--- คอมพิวเตอร์ สัตว์ร้าย แอนตี้ไคร้สต์ 666 [A] ---🌼
         
ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของตลาดร่วมยุโรปในกรุงบรัสเซลล์มีเครื่องคอมพิวเตอร์ยักษ์ ที่สามารถบรรจุ
ตัวเลขถึงสองพันล้านหมายเลข จุดมุ่งหมายของโปรแกรมเมอร์ของหมายเลขเหล่านี้ก็คือ เพื่อจะให้ข้อมูล
แก่ทุกคนที่อยู่ในโลกอุตสาหกรรม นี่ก็หมายความว่าทุกๆ คนจะมีหมายเลขประจำตัวพร้อมข้อมูลต่างๆ
เครื่องคอมพิวเตอร์ยักษ์นี้มีชื่อเรียกว่า "สัตว์ร้าย" (Beast) หมายเลขที่มีบรรจุในเครื่องคอมพิวเตอร์
ยักษ์จะมีหมายเลขนำ 3 ตัว สำหรับข้อมูลระดับนานาชาติ คือ หมายเลข 666 ซึ่งเป็นชื่อของ สัตว์ร้าย หรือ
หมายเลขชื่อของมัน นั่นก็หมายความว่า เจ้าโลก หรือ ประมุข สภาพยุโรปในอนาคตสามารถรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ของบุคคลหนึ่ง โดยใช้หมายเลข 666 นำ แล้วใช้หมายเลข (แทน) ชื่อของคนๆ หนึ่งพร้อมรายละเอียดประจำตัว
ของเราเช่น เพศ อายุ ศาสนา อาชีพ ฯลฯ
บุคคลสำคัญที่น่าจะรู้จักก็คือ Dr. Henrick Eldemann ผู้อำนวยการ MEC ตลาดร่วมยุโรป แห่งบรัสเซลล์
เป็นผู้ดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้เนื้อที่ถึง 3 ชั้นติดตั้งในอาคารตลาดร่วมยุโรปนี้
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1975 ข่าวการติดตั้งคอมพิวเตอร์ยักษ์นี้ ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดย
Charles Ducombe จากศูนย์แถลงข่าวแห่งกรุงเยรูซาเล็ม และให้ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ยักษ์นี้ว่า "สัตว์ร้าย"
ซึ่งจะสามารถบอกหมายเลขของทุกคนในโลก
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1975 หนังสือพิมพ์อเมริกัน "San Jose Mercury" กล่าวว่า "สัตว์ร้าย ก็คือเครื่อง
คอมพิวเตอร์ยักษ์ ซึ่งต้องใช้เนื้อที่ถึง 3 ชั้นของอาคารของตลาดร่วม นักวิทยาศาสตร์ซึ่งมีความคิดเกี่ยวกับ
เครื่องคอมพิวเตอร์ยักษ์นี้ ได้ทำงานหนักเพื่อให้แผนการณ์ใหญ่เป็นความจริงขึ้นมา กล่าวคือ เพื่อจะให้ทุกคน
ในโลกมีหมายเลขที่สามารถใช้ในการซื้อและขาย หากใครไม่มีเครื่องหมายที่มือขวาและที่หน้าผาก

เป็นอันหมดสิทธิ์ เครื่องหมายของมันก็คือ หมายเลข 666"
ยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์ยักษ์ในยุโรป ที่ใหญ่กว่าที่เบลเยี่ยมก็คือ เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่ง
ลักเซมเบิร์ก ตั้งอยู่ในอาคาร "Monet" เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้  มีจุดประสงค์ที่จะบรรจุหมายเลขทุกชนิด
ของประชากรโลก ไม่มีใครรอดพ้นไปจากการควบคุมนี้ได้
รู้สึกว่าพวกเรากำลังมีชีวิตเป็นไปตามคำทำนาย ซึ่งยังไม่มีใครเคยประสบมาก่อนในประวัติศาสตร์
คอมพิวเตอร์ยักษ์ในตลาดร่วมยุโรปเป็นก้าวแรกสู่ยุคแห่ง "เครื่องหมายของสัตว์ร้าย" นั่นก็คือ ตรา หรือ
บัตรประจำตัวของประชากร ของสหภาพยุโรปในอนาคตอันใกล้
โปรแกรมเมอร์ของคอมพิวเตอร์ยักษ์แห่งยุโรป ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว จะบันทึกหมายเลขประจำตัว
ของแต่ละคน มิใช่บันทึกลงบนบัตรประจำตัว (ประชาชน) ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ยังบันทึกที่
มือขวาหรือที่หน้าผากด้วย ลองมาดูวิวรณ์ บทที่ 13:16 - 17 "มันยังบังคับขู่เข็ญให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่
หรือผู้น้อย ไม่ว่าจะเป็นคนยากจนหรือมั่งมีศรีสุข ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เป็นไทหรือเป็นทาสก็ตาม ให้ยอมประทับ
เครื่องหมายไว้ที่มือขวา หรือบนหน้าผากของเขา และกีดกันมิให้ผู้ใดทำการซื้อขาย เว้นแต่ผู้นั้นจะมีรอยชื่อ
หรือเครื่องหมายเลขแทนชื่อของมัน ประทับไว้ดังกล่าวแล้วเท่านั้น"
คงไม่มีอะไรชัดไปกว่านี้แล้วใช่ไหมครับ!
ผู้ตั้งโปรแกรมของคอมพิวเตอร์ยักษ์แห่งจักรวรรดิโรมันฟื้นฟูใหม่ (EU) นี้ เมื่อบันทึกเครื่องหมาย
หรือหมายเลขด้วยแสงเลเซอร์บนผิวหนังแล้ว ก็จะไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า จะไม่สามารถลบออกได้
เครื่องหมายนั้นจะคงอยู่ตลอดไปชั่วชีวิต แต่อาศัยรังสีอินฟราเรดจะสามารถรู้ได้ว่าเป็นหมายเลขเท่าไร
โดยใช้ปากกาอิเล็คทรอนิกส์ (scanner) สัมผัส ปี1984 ในประเทศออสเตรเลีย ก็มีการพูดกันถึงเรื่องการ
บันทึกเครื่องหมาย หรือพิมพ์หมายเลขของแต่ละคนด้วยวิธีการที่น่าทึ่งดังนี้ หนังสือพิมพ์แห่งซิดนีย์
"The Sydney Morning Herald" ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1984 รายงานด้วยความตื่นเต้น โดยลงรูปวาด
ของชายหนุ่มคนหนึ่ง มีหมายเลขและเครื่องหมายบนหน้าผากพร้อมคำบรรยายว่า "อย่าออกจากบ้านโดย
ไม่มีเครื่องหมาย" โดยมีเนื้อหาดังนี้ "ปี 1984 จะมาถึงแล้ว ไม่ต้องใช้บัตรเครคิต ไม่ต้องใช้สมุดออมทรัพย์
ไม่ต้องใช้เช็ค ไม่ต้องใช้เงินสด ใช้แต่เครื่องหมายที่มองไม่เห็น ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก เป็นวิธีที่สมบูรณ์
แบบจริงๆ ที่จะเริ่มต้นปี 1984 ได้เริ่มทดลองใช้แล้วในสวีเดนในเดือนมีนาคม 1983 มีถึง 6000 คน ได้รับ
เครื่องหมายพิเศษบันทึกโดยรังสีลงบนส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยไม่เจ็บปวดแม้แต่น้อย เมื่อบันทึกเครื่อง
หมายไปแล้ว จะไม่สามารถเอาออกได้ไปตลอดชีวิต
เครื่องหมายนี้ถูกบันทึกลงในคอมพิวเตอร์กลาง ซึ่งควบคุมทุกหน่วยปฏิบัติการของธนาคาร หรือของ
ร้านค้า ซึ่งบุคคลหนึ่งที่มีเครื่องตัดสินใจที่จะซื้อสินค้า พนักงานขายเพียงแต่ใช้ปากกาอิเล็กทรอนิกส์
(scanner) สัมผัสไปบนเครื่องหมายของบุคคลนั้น มันก็จะส่งหมายเลขของเขาไปยังคอมพิวเตอร์กลาง
แล้วมันจะส่งข้อมูลต่างๆ เช่น จำนวนเงินที่ใช้จ่าย ฯลฯ ต่อไปยังธนาคารของผู้นั้น และทุกอย่างที่กระทำไปนี้
ไม่จำเป็นต้องแตะเงินสดแม้แต่น้อย การใช้เครื่องหมายบนมือขวา หรือบนหน้าผาก ได้ขยายไปอย่างรวดเร็ว
แทบไม่น่าเชื่อ ดร.จูเซปเป ดีบีอัสโจ ได้มีโอกาสเดินทางไปออสเตรเลียเมื่อปี 1986 ได้ไปเยี่ยม
"Old Sydney Town" ก็ได้ไปพบสิ่งที่ว่ามานี้คือ เครื่องหมายที่มือขวาและที่หน้าผาก"
ระบบเงินตราระหว่างนานาชาติแบบใหม่และบัตรแถบแม่เหล็ก
- ระบบใหม่นี้ก็เช่นกันเป็นการใช้หมายเลขบันทึกลงบนมือ และบนหน้าผาก
- เรื่องการเงินระดับใหญ่ๆ ในอดีตก็มีภาระทั้งให้ผลดีและผลเสียควบคู่กันไปเสมอมา
และในปัจจุบันก็ไม่มี อะไรแตกต่างกันสักเท่าไหร่
- ครอบครัว Rothchild ในยุโรป และครอบครัว Rockefeller ในอเมริกา เป็นผู้ครอบครองระบบธนาคาร
ระหว่างนานาชาติ ทั้งสองครอบครัวนี้มีเชื้อสายยิว มีความสัมพันธ์กับสมาคมลับยิว - มาโซนิก (ฟรีเมซัน)
เหมือน B'nai B'rith (เป็นชื่อขององค์การสำคัญของชาวยิว ชื่อนี้ในภาษาฮีบรูหมายความว่า
"บุตรแห่งพันธสัญญา" องค์การนี้ตั้งขึ้นในกรุงนิวยอร์กเมื่อปี 1843 งานของ B'nai B'rith เพื่อสอดส่อง
ดูแลชาวยิวว่า ได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมหรือไม่ และสอดส่องดูว่า ผู้คนในทุกแห่งได้รับการบอกเล่า
เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และประเพณีที่ถูกต้องหรือไม่ โดยการแสดงปาฐกถา และการพิมพ์เอกสาร สาขา
สำคัญขององค์การ B'nai B'rith ก็คือสันนิบาตต่อต้านการทำลายชื่อเสียง ซึ่งจะต่อสู้ผู้มีอคติทั้งทางศาสนา
และทางเผ่าพันธุ์ มีสมาชิกประมาณ 500,00 คน ในหลายประเทศ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แต่ผู้หญิงจะรวมกับ
กลุ่มที่เป็นสาขาของเด็กๆ ใช้ชื่อว่า Hillel ซึ่งเป็นชื่อของรับไบที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่ง มีชีวิตก่อนพระเยซูเล็กน้อย)
และแน่นอนที่สุด ปฏิบัติการยิ่งใหญ่ระดับโลกเช่นนี้ ก็คงจะต้องมีบุคคลสองครอบครัวนี้รวมอยู่ด้วย
อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 03, 2023 5:09 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (52)👈
🌼--- คอมพิวเตอร์ สัตว์ร้าย แอนตี้ไคร้สต์ 666 ---🌼

- นักการธนาคารที่ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ ที่ประสบผลสำเร็จในการปฏิวัติรัสเซีย และสามารถควบคุม
และผลักดันสงครามโลกทั้งสองครั้ง ไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเงิน ในปัจจุบันก็จะสามารถเก็งกำไร
ทางการเงิน ซึ่งมีการลอยตัวและเคลื่อนไหวไปตามกระแส ซึ่งจะมีผลไปถึงหุ้นต่างๆ คุณค่าแห่งความ
ร่ำรวย ถูกกำหนดโดยทองคำ และพวกเราก็ตระหนักกันดีทุกคนว่า ทองคำส่วนใหญ่อยู่ในมือของคนยิว
- ในยุคของเราที่มีการพัฒนาทางอิเล็กทรอนิกส์ บทบาทของเช็คดูเหมือนจะลดลงไปถนัด บัตรแถบ
ระบบบัตรต่างๆ ถูกนำมาใช้อย่างสนุกมือ แต่ระบบแม่เหล็กดูเหมือนจะแก้ปัญหาค่อนข้างได้ผล ฉะนั้น
ทุกกระแสจะมุ่งมาทางนี้ วิกฤตการณ์ทางเงินตราระหว่างนานาชาติ เป็นปมหนึ่งที่เต็มไปด้วยหนาม เป็น
ลางบอกเหตุมาตั้งแต่ปี้ 1945 จึงเกิดองค์กรสำคัญสององค์กรที่จะมาเผชิญปัญหา คือ ธนาคารโลกและ
IMF ประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารจากสมาชิก 129 ประเทศ ทั้งสององค์กรนี้ได้ปฏิบัติ และเตรียม
งานมาอย่างดีที่สุดในวันที่ 31 มี.ค. 1969 จึงได้ประกาศระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราแบบใหม่ โดยไม่
ผูกกับธนบัตร หรือทองคำ แต่ไปผูกกับระบบเครดิตใหม่โดยใช้ตัวเลข เรียกว่า
ระบบ S.D.R (Special Drawing Rights)
ในปี 1976 S.D.R ได้เริ่มดำเนินการโดยใช้ทองคำสำรองฐานะการเงิน ระบบนี้ประกอบขึ้นโดย
ใช้หมายเลข ซึ่งในหนังสือคอมพิวเตอร์ระหว่างนานาชาติ จะกำหนดเดบิต และเครดิตของสมาชิกแต่
ละชาติ หมายเลขหนึ่งจะมีค่าเท่ากับหนึ่งดอลลาร์
- ระบบเงินตราระหว่างนานาชาติแบบใหม่ เพื่อจะใช้ได้ในระดับส่วนบุคคล มีความจำเป็นที่จะต้อง
ประกอบไปด้วย
1) รหัสระหว่างนานาชาติของผลิตภัณฑ์ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดจะต้องมีเครื่องหมายของ
คอมพิวเตอร์ นั่นก็คือ เส้นขาวหรือดำซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเลขที่ได้กำหนดไว้ ตรงกับรหัสระหว่างนานา
ชาติเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งจัดวางไว้สำหรับขายก็มีรหัสเหล่านี้ ซึ่งสามารถถอดรหัสว่า เป็นสินค้า
ประเภทไหน พร้อมรายละเอียด โดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ตัวเล็กๆ ขนาดปากกา
2) เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะซื้อเข้าหรือขายออกจำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
3) S.D.R. จำเป็นที่ S.D.R จะต้องถูกนำมาใช้มิใช่แต่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น แต่ในระดับ
ส่วนบุคคลด้วยและใช้ได้ทั่วโลก
4) หมายเลขบัญชีประจำตัว แต่บุคคลต้องได้รับหมายเลขประจำตัว หมายเลขบัญชีเฉพาะตัว เข้ากับ
ระบบของคอมพิวเตอร์ระดับนานาชาติ
5) หมายเลขที่ประทับลงบนมือขวา หรือบนหน้าผาก เป็นเรื่องจำเป็น ที่หมายเลขบัญชีนี้เอง ต้องประทับ
ลงบนมือขวาและหน้าผากโดยแสงเลเซอร์ ซึ่งจะไม่เจ็บและมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
ระบบนี้เป็นการเตรียมทางสู่หมายเลข สัตว์ร้าย แอนตี้ไคร้สต์ ปราศจากหมายเลข 666 ของ
สัตว์ร้าย และของแอนตี้ไคร้สต์ จะไม่มีผู้ใดซื้อและขายได้
ใครที่ควบคุมระบบเงินตราระหว่างนานาชาติแบบใหม่ โดยยึดหมายเลขเป็นหลักนี้ ก็จะสามารถ
ทำเงินทองของใครก็ได้ ที่เขาต้องการให้สูญไปในชั่วพริบตา
- มีข้อเสนอเช่นนี้มาแล้วในอดีต ในปี 1948 เมื่อเงินมาร์คเยอรมันเฟ้อขนาดหนัก นักเศรษฐศาสตร์
ได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกระบบเงินภายในชาติแบบเก่าอย่างกระทันหัน
- ประชาชนยังไม่รู้ระแคะระคาย เมื่อเงินมาร์คถูกยกเลิก คนเป็นล้านๆ ก็ได้สูญเสียเงินออมทั้งสิ้น
จะได้รับเงินคนละ 40 มาร์คใหม่จากรัฐบาลเยอรมัน เศรษฐีหลายรายได้ฆ่าตัวตาย
- ในปี 1929 เมื่อหุ้นในนิวยอร์คพัง เหตุการณ์ก็เหมือนๆ กับในเยอรมนีนั่นแหละ
อย่างไรก็ตามระบบเงินตราแบบใหม่ จะไม่มีทางที่จะเสนอนำมาใช้ แต่จะถูกนำออกมาบังคับใช้
โดยไม่มีทางเลี่ยง และจะมาแบบสายฟ้าแลบ มิฉะนั้นนักออมทรัพย์คงจะวิ่งถอนเงินกันจ้าละหวั่น นอกจาก
จะเกิดความวุ่นวายแล้ว เศรษฐกิจจะล่มสลายไปอย่างมิต้องสงสัย
รวมความแล้ว ธนาคารระดับบิ๊กได้แลเห็นความสำเร็จของบัตรเครดิต จึงได้วางแผนและดำเนินงาน
ระบบใหม่ของ บัตรเครดิต (หมายถึง บัตรที่เราใช้ซื้อของได้ทั่วโลกโดยยังไม่มีเงินในบัญชี) และแล้ว
บัตรเดบิต (หมายถึงบัตรที่เราสามารถเบิกเงินสด หรือจ่ายผ่านคอมพิวเตอร์เข้าบัญชีผู้ขายได้ทั่วโลก
แต่ต้องมีเงินในบัญชีก่อน) ก็จะตามมา เป็นบัตรแถบเหล็กที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้
ในพริบตา โดยอาศัยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์อันทันสมัย ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลสักเท่าใดก็ตาม โดยไม่ต้อง
ใช้เช็คหรือเอกสารทางธนาคารแต่อย่างใด
ในปี 1981 สหรัฐอเมริกา เพื่อจะไถ่ตัวนักโทษชาวอเมริกัน 52 คนที่ถูกยึดเป็นตัวประกันจากอิหร่าน
สมัยโคโมนี ได้จ่ายเงินค่าไถ่โดยการโอนเงินระบบดังกล่าวผ่านธนาคารในลอนดอน โดยใช้เวลาไม่กี่
นาทีทางเครื่องคอมพิวเตอร์
ผู้ริเริ่มนำระบบนี้มาใช้ก่อนใคร คือ ธนาคารใหญ่แห่งกรุงนิวยอร์ก ธนาคารเชสแมนแฮตตัน
ของตระกูลร้อคกี้เฟลเลอร์ (เชื้อสายยิว)
ระบบการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์นี้ชาวอเมริกันเรียกว่า "Electronic Fund Transfer" เป็นก้าวไป
ข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งของ สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ซึ่งเป็นความปรารถนาของนักการธนาคาร
ใหญ่ระดับอินเตอร์
เมื่อไม่กี่วันมานี้ลูกชายเอาบัตร "บัวหลวงพรีเมียร์" มาอวดคุยว่าบัตร ATM นี้เบิกถอนเงินสดได้
ทั่วโลก ก็เป็นบัตรเดบิตที่ว่านั่นเอง พอหยิบดูเกิดอาการขนลุก แต่พอพิจารณาดูดีๆ ก็เห็นเลขนำ 3 ตัว
เป็นเลข 999 ไม่ใช่หมายเลขอย่างที่ใจระแวง หากในอนาคต เกิดเหตุไม่ชอบมาพากล ตัวเลข 3 ตัวนำ
นี้มีอันต้องตีลังกา ก็ตัวใครตัวมันครับ

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 03, 2023 5:15 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (53)👈
🌼--- สัตว์ร้ายแห่งวิวรณ์ : 666 [A] ---🌼
         
เมื่อไม่นานมานี้ได้รับวารสารราย 2 เดือน ประเภทแทบลอยด์ ชื่อ "Michael" Journal จากประเทศ
แคนาดา พูดถึงเรื่องบัตรเครดิต บัตรเดบิต สอดคล้องกับบทวิเคราะห์พระธรรมวิวรณ์ช่วงนี้พอดี
จึงขอนำเสนอแด่แฟนสยามโพสต์อีกทีหนึ่ง
สัตว์ร้าย แห่ง วิวรณ์ ถูกตั้งขึ้นในกรุง บรัสเซลล์ เบลเยี่ยมแล้ว มันเป็นคอมพิวเตอร์ยักษ์ ซึ่ง
ทำโปรแกรมขึ้นมาเองโดยใช้หมายเลข 6 สามตัวเป็นตัวนำ ประชากรแต่ละคนของโลกจะได้รับ
บัตรเครดิตต่างๆ กัน แต่จะมีตัวเลขหก 3 ตัวเป็นตัวนำ คือ 666
วิวรณ์ของเซนต์จอห์นได้กล่าวถึง สัตว์ร้าย 2 ตัว คือ สัตว์ร้ายจากทะเล และ สัตว์ร้ายจากแผ่นดิน
อันได้แก่ แอนตี้ไคร้สต์ สัตว์ร้ายทั้งสองนี้จะมาตอนสิ้นยุค ผู้วิเคราะห์หลายท่านกล่าวว่า สัตว์ร้ายจาก
ทะเล คือ อำนาจทางการเมือง พันธมิตรที่น่ากลัวของซาตาน และ สัตว์ร้ายจากแผ่นดิน คือ อำนาจ
ทางการเงิน
"มันยังบังคับขู่เข็ญให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อย ไม่ว่าจะเป็นคนยากจนหรือมั่งมีศรีสุข
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เป็นไทหรือเป็นทาสก็ตาม ให้ยอมประทับเครื่องหมายไว้ที่มีอขวาหรือบนหน้าผากของเขา
และกีดกันมิให้ผู้ใดทำการซื้อขาย เว้นแต่ผู้นั้นจะมีรอยชื่อ หรือเครื่องหมายเลขแทนชื่อของมัน ประทับไว้
ดังกล่าวแล้วเท่านั้น เรื่องนี้พึงใคร่ครวญให้ดี ผู้ใดมีวิจารณญาณอันถ่องแท้ ย่อมสามารถตีความหมาย
ของสัตว์ร้ายนี้ออก เพราะหมายเลขนั้นใช้แทนชื่อคน หมายเลขของมันคือหกร้อยหกสิบหก"
(วิวรณ์ 13:16 - 18)
หมายเลข 666 ไม่ใช่เรื่องลึกลับอีกแล้ว เรารู้ว่ามันหมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ยักษ์ ซึ่งจะเป็นตัว
ควบคุมมนุษย์ทุกคนบนโลกในการซื้อและขาย
ในการติดตามจากต้นฉบับของแมกกาซีน Moody ซึ่งได้เปิดเผยให้เรารู้ว่า นักการเงินระหว่าง
นานาชาติได้นำผู้คนไปไกลแค่ไหน และพวกเขากำลังพันธนาการผู้คนไปสู่ความเป็นทาสแบบไหน
Dr. Henrick Eldemann ผู้อำนวยการตลาดร่วมยุโรปในบรัสเซลล์ได้เปิดเผยว่า หมายเลขหกสามตัว
ที่เป็นหมายเลขนำนั้น มนุษย์ทุกคนจะได้รับคือบัตรเครดิต ซึ่งจำนวนหมายเลขของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป
เจ้าหน้าที่อื่นๆ ของตลาดร่วมเชื่อว่าความวุ่นวายและความยุ่งเหยิงในปัจจุบัน เนื่องมาจากสาเหตุลึกลับ
แสดงว่าขาดเงินตราของโลก ขาดสิ่งพิมพ์ระดับนานาชาติ ซึ่งสามารถยุติการใช้เงินที่เป็นกระดาษและที่
เป็นเหรียญ จะต้องมีบัตรเครดิตที่จะมาแทนที่ โดยวิธีการเช่นเดียวกับทางธนาคารใช้สถานที่สำหรับเคลียริ่ง
จะไม่มีสมาชิกคนใดสามารถซื้อหรือขาย โดยปราศจากการรับการประทับตราของหมายเลขเสียก่อน
ผู้จัดการหลายๆ ฝ่ายของตลาดร่วมเดี๋ยวนี้กำลังมั่นใจว่า ระเบียบของโลกเรียกร้องให้มีระบบการค้า
และการนับทั่วโลกใหม่หมด
มนุษย์แต่ละคนควรมีหมายเลขของทุกคนบนโลก นี่สามารถเป็นทั้งเครื่องมือแห่งสันติภาพ หรือเป็น
อาวุธของเผด็จการก็ได้
Henry Speak ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งตลาดร่วมยุโรป และเป็นเลขาธิการ Nato ในสุนทรพจน์ครั้งหนึ่ง
กล่าวว่า : เราไม่ต้องการคณะกรรมการอีกคณะหนึ่ง เรามีมากพอแล้ว สิ่งที่เราต้องการก็คือ บุคคลที่
มีศักดิ์ศรี ซึ่งสามารถได้มาซึ่งความรักภักดีต่อสันติภาพ และการเมืองอย่างแท้จริง เพื่อจะได้ฉุดพวกเรา
ออกไปจากความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ ซึ่งเรากำลังจมดิ่งไปในความวุ่นวายนี้ ขอให้ส่งบุคคลผู้นี้มา
ให้เราเถิด จะเป็นเทพหรือมารก็ได้เราจะยอมรับเขา
ทุกวันนี้ โดยอาศัยการควบคุมทางเศรษฐกิจของพวกนักการเงิน กำลังเตรียมควบคุมทางการเมือง
โลกอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
พวกเขาจะครองทั้งจักรวาล จะถีบตัวขึ้นมาสู่สุดยอดของอำนาจ ทั้งทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ
ตลาดร่วมยุโรปดูเหมือนจะเป็นก้าวแรกไปสู่รัฐบาลโลก และเครื่องคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นบุรุษแห่งศักดิ์ศรี เขาอาจประกาศิต เฝ้ามอง บันทึก ตรวจตรา สอดส่อง ลงโทษมนุษย์ทุกคนทุกชาติ
มนุษย์แต่ละคนบนโลก เครื่องคอมพิวเตอร์นี้มันเป็นอะไรที่มากกว่าบุรุษผู้หนึ่ง เป็นซูเปอร์แมนที่ไม่มีหัวใจ
แต่มีสติปัญญาเยี่ยงปีศาจ
นักการเงินระดับนานาชาติรู้ดีว่า พวกเขาเองนั่นแหละที่ควบคุมเงินของโลกทั้งหมด ยังมีหน้ามาพูด
ถึงสาเหตุลึกลับแห่งความวุ่นวายความยุ่งเหยิงในปัจจุบัน พวกเขาทำให้เชื่อว่า พวกเขากำลังมองหาวิธี
ที่จะฉุดผู้คนออกจากความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ ซึ่งพวกเรากำลังจมดิ่งอยู่ในนั้น นักการธนาคารนั่นแหละ
เป็นตัวการแห่งความวุ่นวายโดยการควบคุมเงิน โดยการเล่นกระแสเงินตราสกุลต่างๆ การเล่นที่ทำให้
หลายๆ ประเทศสั่นสะเทือน
เงินดอลลาร์แคนาดากำลังดิ่งลง เงินดอลลาอเมริกันก็เช่นเดียวกัน เมื่อเทียบกับเงินสกุลอาเซียน
และยุโรป แต่เงินดอลลาร์แคนดาตกมากกว่าของอเมริกัน ธนาคารแห่งแคนาดากำลังกอบกู้เงินดอลลาร์
แคนาดาอยู่ แต่นั่นยังไม่พอ
ทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นเกมของนักการธนาคารระดับนานาชาติ เป็นเกมเก็งกำไรในทางการเงิน
เป็นเกมต้มตุ๋นดีๆ นี่เอง และที่ร้ายยิ่งกว่านั้น มันเป็นเกมของผู้ควบคุมชีวิตมนุษย์ เกมของเผด็จการ เกม
ของทรราชต่อประชาชนตาดำๆ
นักการธนาคารที่ขี้โกงเป็นคนโกหก พวกเขาได้ซ่อนความลึกลับของระบบงานมาเป็นเวลานานแล้ว
และพวกเขายังต้องการให้เรากลืนความปลิ้นปล้อนของพวกเขาต่อไป บุญนะที่ Social Creditors ได้มอง
เห็นอย่างจะแจ้งถึงเกมปีศาจเหล่านี้ ซึ่งจะนำโลกทั้งโลกไปสู่ความเป็นทาส ซึ่งไม่มีใครเคยประสบมาก่อน
ในประวัติศาสตร์
และ Social Credirors ที่แท้จริงยังรู้มากกว่านี้อีกว่า หากพวกเขาวางใจในพระบิดานิรันดร
พระผู้เป็นเจ้าผู้นี้ จะปลดปล่อยโลกจากกับดักของซาตานได้
ขอให้ไว้ใจพระผู้เป็นเจ้า และในสายประคำของแม่พระผู้นิรมล แสงสว่างของ Social Creditors
จะเปิดประตูให้พวกเรา ประตูแห่งความไว้ใจและศรัทธา ใน Michael Journal ได้ให้กำลังใจที่จะสู้ทน
ทุกสิ่งในขณะที่ยังมีความหวัง

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 03, 2023 5:22 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (5 4 )👈
🌼--- สัตว์ร้ายแห่งวิวรณ์ : 666 ---🌼
         
โดย บัตรเดบิต คือ ก้าวสุดท้ายไปสู่ "เครื่องหมายของสัตว์ร้าย" "Globe and Mail" นิตยาสารแห่ง
Toronto รายงานโดย Mary Gooderham เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 1990 ด้วยการพาดหัวว่า
"ธนาคารเรียกเก็บเงินล่วงหน้าในโครงการบัตรเดบิต"
ชาวธนาคารกล่าวว่ายังไม่ถึงกาลอวสานของเงินสด แต่ธนาคารกำลังใช้เล่ห์เพื่อจะได้ชัยชนะ
ในการแข่งขันเรื่องบัตรเดบิต ในกรุงออตตาวา ซึ่งพวกเขาต่างก็หวังกันว่า พวกเขาสามาถผลักดัน
สมาคมนิยมเงินตราที่เป็นกระดาษได้ระดับหนึ่ง
ร้านรวงต่างๆ ในเมืองหลวงต่างก็ติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นใหม่ นอกเหนือเครื่องคิดเงินที่ใช้กันทั่วไป
ซึ่งจะให้ลูกค้าเลือกได้ จะจ่ายเงินสด หรือหักเงินจากบัญชีของเรา เอาเข้าธนาคารของร้านค้าได้ในทันที
จนถึงบัดนี้ก็ถือว่ายังหอมหวลอยู่ เทคโนโลยีของบัตรเดบิตเข้าไปแทนที่ธนบัติ หรือเหรียญ ด้วยระบบ
คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่พูดระหว่างร้านขายปลีก ลูกค้า และธนาคาร
ธนาคารเป็นผู้สนับสนุน "สมาคมไร้เงินสด" ทั้งนี้เพราะภาระอันหนัก เช่นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
การนับ การคุ้มครองเงินสด และกระบวนการใช้เช็ค ฯลฯ ผู้บริโภคสนับสนุน สมาคมผู้บริโภคแห่งแคนาดา
ไม่เห็นด้วยในการใช้บัตร กล่าวว่าพวกเขาจะต้องเสียค่าโอนเงิน ราคาก็จะต้องเพิ่มขึ้น แล้วยังมีปัญหาเกี่ยว
กับสเตรเมนต์ของธนาคารอีก ที่สุดไม่อยากให้ใครมารู้เรื่องส่วนตัวในเรื่องเงินๆ ทองๆ
Roy Fithern รองประธานอาวุโส แผนกบริการบัตรและจุดขายแห่ง Royal Bank ได้กล่าวว่า หากการ
ทดลองในออตตาวาในหนึ่งปีประสบผลสำเร็จ บริการจ่ายตรงระดับชาติจะเป็นไปได้ระหว่างปี 1993 ถึง 1995
ภายในสิ้นทศวรรษนี้ จุดขายของบัตรเดบิตจะเปิดบริการไปทั่วโลก จริงๆ แล้ว ในปี 1993 ร้านค้าย่อยส่วนใหญ่
ร้านชำ ร้านขายยา และธุรกิจอื่นในบ้านของเรา ก็จะติดตั้งระบบการจ่ายตรงในการซื้อด้วยบัตรเดบิต แทนที่จะ
ใช้ธนบัติ บัญชีธนาคารของผู้ซื้อก็จะถูกหักไปโดยอัตโนมัติในจำนวนเท่ากับที่ซื้อของ ขณะเดียวบัญชีของผู้ขาย
ก็จะเพิ่มขึ้นในจำนวนเท่ากัน ธนาคารจึงกล่าวว่าในไม่ช้าระบบนี้จะใช้กันทั่วโลก
บทความของ Daird Grane เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1990 ในนิตยสาร "The Toronto Star" ได้ให้ข้อมูล
มากกว่าในโครงการบัตรเดบิต ซึ่งเดี่ยวนี้ได้กลายเป็นความจริงแล้วดังนี้
เครื่องคอมพิวเตอร์และผู้เชี่ยวชาญของ Royal Bank กำลังวางโครงการที่จะรับบัตรเดบิตมาใช้ในการ
โอนเงินมากกว่า 100 ล้าน ต่อปี ภายในปี 1995 ระบบของ Royal Bank ได้ถูกออกแบบที่จะดำเนินการโอนเงิน
ถึง 2000 ครั้งต่อหนึ่งวินาที...
กระนั้นก็ดีในยุคข่าวสาร ธนาคาร Royal ผู้มีประสบการณ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ระดับชาติ อาจสามารถ
ประสานงานกับองค์กรของรัฐ หรือผู้ประกอบการอื่นๆ ที่มีความจำเป็นในการโอนเงิน เช่น การจ่ายค่าประกัน
สุขภาพ ต่ออายุใบขับขี่ จ่ายค่าสวัสดิการสังคม และจ่ายเบี้ยบำนาญ
แล้วอะไรต่อไป ขณะนี้รัฐบาลแคนาดา กำลังวางแผนรณรงค์ จะเริ่มในฤดูใบไม้ผลิ 1994 เป็นการจ่าย
ค่าประกันสังคมทั้งหมดด้วยบัตรเดบิต ดังนั้นขั้นต่อไปก็จะเป็นบัตรเดบิตและบัตรประชาชนในเวลาเดียวกัน
จะมีรูปถ่ายบนบัตรนั้นด้วย ซึ่งจะมีหมายเลขประกันสังคมเช่นเดียวกัน เพื่อจะแสดงว่าท่านเป็นเจ้าของบัตรเดบิต
ที่แท้จริง เทคโนโลยีได้พัฒนาแถบรหัส กว้างครึ่งนิ้ว ยาว 3 นิ้ว ซึ่งสามารถแบกข้อมูล 5 ล้านชิ้น หรือคอมพิวเตอร์
ซึ่งจะรวบข้อมูลต่างๆ เช่น บันทึกเรื่องยารักษาโรคการเงิน เรื่องเชื้อโรค การรักษาโรค หรือทุกอย่างที่คุณซื้อ
ซื้อที่ไหน? เมื่อไร? โทรไปหาใคร มีเงินเท่าไร ฯลฯ
รัฐบาลคงจะสนใจมากทีเดียว ในสังคมไร้เงินสด เพราะจะไม่มีการเลี่ยงภาษี รัฐบาลจะรู้อย่างแน่นอนว่า
เรามีเงินเท่าไหร่ และจะรู้ทุกครั้งที่ท่านโอนเงิน (แต่เมื่อท่านจ่ายเงินสดจะไม่มีการบันทึกการโอนเงิน รัฐบาล
จะไม่มีทางรู้ได้เลย) ผู้ส่งเสริมสมาคมไร้เงินสดนี้จะกล่าวด้วยว่า มันจะขจัดโจรกรรมและการโอนเงินที่ผิด
กฎหมาย เช่น การลักลอบขนยาเสพติด เป็นต้น
แน่นอน มีการเสี่ยงที่บัตรเดบิตอาจสูญหายได้ หรือยิ่งกว่านั้น มีคนที่จำหมายเลขประจำตัวของเขา
ไม่ได้ ซึ่งการทำบัตรเดบิตนี้ จำเป็นต้องบันทึกหมายเลขประจำตัว มีบางคนเล่นเขียนหมายเลขประจำตัวลงไป
ในบัตรโจ่งแจ้งเลยก็มี และเมื่อบัตรนี้หายหรือถูกขโมย พวกก็จะกวาดไปเรียบจากบัญชีธนาคาร..
ฉะนั้นจึงมีการแก้ปัญหาล่าสุด โดยการมัดบัตรนั้นไว้กับเจ้าของซึ่งจะไม่มีวันพรากจากกัน สิ่งนั้นก็คือ
ฝังไมโครชิพคอมพิวเตอร์ได้ผิวหนังของท่าน แล้วก็จะสามารถอ่านข้อมูลสำคัญๆ โดยใช้ปากกาอิเล็กทรอนิกส์
(เราคงจะคุ้นเรื่องนี้ดีในห้างสรรพสินค้า) หรือไม่ก็เลขหกสามตัวลงบนผิวหนังของคุณ "เครื่องหมายของ
สัตว์ร้าย" (วิวรณ์บทที่ 13) ทุกสิ่งจะอยู่ที่รัฐบาลต้องการควบคุมการเคลื่อนไหวของทุกคน เพราะรัฐบาลจะรู้
ทุกสิ่งเกี่ยวกับตัวท่าน
นี่เป็นอันตรายของบัตรเดบิต ตราบเท่าที่ท่านยังสามารถถอนเงินที่เป็นกระดาษ โดยใช้บัตรเหล่านี้
รู้สึกว่ามันก็สะดวก ใช้ได้เพราะไม่ต้องเงินสดไปกับตัว แต่ทว่าบรรดาธนาคารจะบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า
ธนบัตรจะถูกขจัดไปในระยะเวลาไม่นาน และเงินอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นจะถูกนำมาใช้ ในกรณีนี้ ระบบบัตร
เดบิตจะกลายเป็นเครื่องมือควบคุมชนิดเบ็ดเสร็จเด็ดขาดต่อมนุษย์ ตัวอย่างเช่น หากว่าจะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่
ท่านถูกจัดอยู่ในจำพวก "คนไม่พึงปรารถนา" หรือเป็น "ศัตรูของรัฐบาล" จากทางราชการ พวกเขาก็จะลบ
หมายเลขประจำตัวของท่านจากคอมพิวเตอร์กลาง แล้วก็จะไม่สามารถซื้อและขายได้
(และเช่นนี้ก็เหมือนถูกสาปให้หายสาบสูญไปเลย)
ในวิวรณ์บทที่ 13 ของเซนต์จอห์น บอกว่าคนที่ปฏิเสธที่จะกราบไหว้สัตว์ร้ายและรูปจำลองของมันจะ
ถูกฆ่า (แต่ใครที่กราบไหว้สัตว์ร้ายจะถูกลงโทษชั่วนิรันดร)
ความจริง ใครปฏิเสธ คำสั่งของเจ้าโลกในอนาคตคนนี้ (แอนตี้ไคร้สต์ หรือสัตว์ร้าย) จะถูกลบ
หมายเลขประจำตัว ซึ่งก็หมายถึงตายนั่นเอง
ทุกอย่างที่พูดมานี้ดูค่อนข้างจะร้ายกาจใช่ไหมครับ? ครับ! วิธีเดียวเท่านั้นที่จะหยุดมันได้คือส่งเสริม
ระบบที่ซื่อสัตย์โดยไม่เป็นหนี้ใคร ระบบ Social Credit สนับสนุนโดย "Michael Journal" โดย Alain Pilote
รู้สึกชื่นชมกับธนาคารกรุงเทพที่ใช้หมายเลข 999 เป็นตัวนำในบัตรบัวหลวงพรีเมียร์ หวังว่าคงจะยืนหยัด
ใช้หมายเลขนี้ไปจนถึงที่สุด

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2023 1:53 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (55 )👈
🌼--- บัตรเดบิตจะนำไปสู่ระบบเผด็จการทางการเงิน ---🌼
         
ขอถ่ายทอดบทความจาก "Michael Journal" แทบลอยด์ของแคนนาดาว่า มีความคิดเห็นในเรื่อง
บัตรเครคิตและบัตรเดบิตอย่างไร
"หากแผนการณ์ของเจ้าพ่อทางการเงินเป็นจริงขึ้นมา ในไม่ช้าประชาชนทุกคนในโลกจะต้อง
มีบัตรเดบิต เพื่อที่จะสามารถซื้อและขายได้ บัตรเดบิตคือบัตรพลาสติกฝังไมโครชิพอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งบันทึกข้อมูลของตัวท่านในทุกเรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลาง จะสามารถสอดส่องการ
โอนเงินทุกครั้งของท่าน รวมไปถึงกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของท่าน ก็จะไม่พ้นการควบคุม ยิ่งกว่านั้น
ผู้ส่งเสริมสนับสนุนบัตรเดบิตนี้ จะไปเยี่ยมตามโรงเรียน จะให้เด็กๆ หลงใหลได้ปลื้มกับความคิดไฮเทค
เหล่านี้ ก่อนพ่อแม่ของพวกเขา"
ต่อไปนี้เป็นการรายงานของเจ้าหน้าที่ทั้งสองของเรา คือ Francois Cright และ Franck Kret
"Franck และผมเดินไปตามบ้าน ในเดือนมิถุนายนในเขต Temixcouata, Quebec ในค่ำวันหนึ่ง
ในการไปเยี่ยมบ้านหลังหนึ่งก็ได้พูดคุยถึงเรื่อง "666" คุณผู้หญิงเจ้าของบ้านบอกว่า มีผู้ชาย 2 คนมาที่
โรงเรียนเมื่อไม่นานมานี้ และได้พูดถึงเรื่องนี้ พวกเขาทั้งสองบอกว่าไม่ต้องวิตก นั่นเป็นความก้าวหน้า
เป็นเทคโนโลยี เป็นการหลีกเลี่ยงการโจรกรรม เราไม่ต้องพกเงินสดอีกแล้ว แล้วพวกเขาก็อธิบายถึงเรื่อง
ไมโครชิพ เราจะเห็นว่ามันกำลังมาแล้ว ในเดือนกันยายน (1994) พวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวที่จะไม่ให้มี
ธนบัตรหมุนเวียนเอามาใช้อีก นี่เป็นแผนทดลองใช้ใน Quebec เท่านั้น จากนี้ไปภายในหนึ่งปี จะไม่มี
เงินสดหมุนเวียนอีกแล้ว เมื่อนั้นแหละทุกคนก็จะต้องวิ่งหาบัตร และหลังจากนั้น Francois Cright กล่าว
ก็จะถึงคราว "666" มันกำลังมา เราจะได้เห็นมันแน่ๆ
ไมโครชิพถูกติดตั้งแล้ว มีผู้ขายปลีกหลายรายได้ดำเนินการในโครงการนี้แล้ว พวกเขาติดตั้งเครื่องไม้
เครื่องมือต่อเข้ากับเครื่องคิดเงิน ซึ่งสามารถรับบัตรเดบิต ลูกค้าเพียงแต่กดหมายเลขประจำตัวของเขาเข้าไป
ในเครื่องนั้น ขณะที่พนักงานเก็บเงินสอดบัตรเข้าไปในเครื่อง และในชั่วพริบตาเงินจำนวนนั้น  จะถูกหักออก
จากบัญชีธนาคารของลูกค้า แล้วนำเข้าบัญชีธนาคารของร้านนั้นด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
มีหลายบริษัทการค้า ที่ไม่ยอมรับเงินสด เช่น Mr. Frank Kyburz แห่ง Calgary, Alberta ถูกปฏิเสธ 2 ครั้ง
เพราะเขาพยายามจะจ่ายเงินสดเป็นค่าโทรศัพท์แก่บริษัทโทรศัพท์แห่งหนึ่ง

🔹เผด็จการเต็มรูปแบบ
ธนาคารเป็นผู้สนับสนุนเรื่องบัตรเดบิตนี้ จริงๆ แล้วธนาคารไม่มีสิทธิ์เอาระบบบัตรเดบิต ซึ่งสามารถ
ควบคุมเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมาแทนที่ระบบเงินตราของโลก บัตรเดบิตนี้จะนำเราไปสู่ระบบเผด็จการแบบเบ็ดเ
สร็จเด็ดขาดทั่วทั้งจักรวาล
ทุกวันนี้ เงินสดหรือธนบัตร ให้อิสรภาพแก่เรามากทีเดียว เราไม่ต้องถูกบังคับ แต่บัตรเดบิตนั้นจะเป็น
ไปในลักษณะตรงกันข้าม เพราะในบัตรเดบิตจะมีข้อมูลต่างๆ ของตัวเรา จะไปซื้อข้าวของหรือบริการอะไร
จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป
เป็นรัฐบาลเองที่ให้อำนาจแก่ธนาคาร ที่จะสร้างเงินตราขึ้นมา และให้อำนาจที่จะจำหน่ายจ่ายแจก
นี่เป็นสิ่งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ อีกทั้งรัฐบาลก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะให้อำนาจแก่ธนาคาร ในการเปลี่ยนระบบการ
จ่ายเงิน ตามความเห็นของเรา บัตรเดบิตขัดกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญ และเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย
ธนาคารแย่งชิง อำนาจในการสร้างเงินของชาติของเรา และปฏิรูปวิธีการแลกเปลี่ยน นั่นก็แปลว่าธนาคาร
ลิดรอนอำนาจของเราไป ตลอดจนทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีไปด้วย

🔹อย่ารับบัตร
ปัจจุบันธนาคารกำลังรณรงค์ให้ประชาชนกลัวการโจรกรรม และพยายามให้คำแนะนำสารพัด
เพื่อให้ประชาชนหันมานิยมบัตรเดบิต
วิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องบัตรของท่านก็คือ การไม่มีบัตรนั้นเอง หากบัตรของท่านตกไปอยู่ในมือขโมย
มันก็จะกวาดเงินของท่านไปจนหมดบัญชี แต่หากขโมยจิ๊กระเป๋าเงินของท่านไป มันก็เอาไปได้เฉพาะทึ่มีอยู่
ในกระเป๋าเท่านั้น ไม่ใช่เอาไปหมดที่มีในบัญชี

🔹ไมโครชิพในมือ
ธนาคารพยายามปลุกเร้าให้กลัวขโมย เพราะมีเหตุผลข้อหนึ่งว่า : พวกเขาต้องการให้สาธารณชน
ยอมรับ การฝังไมโครชิพในมือของคน แทนที่บัตรเดบิต ซึ่งมีไมโครชิพเช่นกัน
ในขณะที่เราฝังไมโครชิพเข้าไปร่างของสัตว์ เช่น ม้า แมว สุนัข ปลา ฯลฯ ไมโครชิพที่เราฝังไว้ในตัวปลา
เวลาที่ปลาอพยพทวนกระแสน้ำ เราก็สามารถรู้ความเคลื่อนไหวของมันอย่างไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย ฉะนั้น
หากไมโครชิพนี้เอามาฝังในคน เราก็สามารถรู้ความเคลื่อนไหวของผู้นั้นได้
เมื่อเร็วๆ นี้นักกฎหมายได้เผยถึงการทดลอง ในการฝังไมโครชิพนี้แก่พวกอาชญากร เพื่อจะได้สอดส่อง
ความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ นั่นก็หมายความว่าต่อไปอีกไม่นาน มนุษย์ทุกคนก็จะได้รับไมโครชิพฝังไว้ใต้ผิวหนัง
ต่อไปนี้เป็นข่าวสารบางส่วนที่ได้มาจากหนังสือ "La fin de temps" (อวสานแห่งยุค) โดย Paco Robanne:
666 เบอร์ของสัตว์ร้ายในหนังสือของผม "Trajectoire" ผมได้กล่าวถึงอาการช็อกของผม เมื่อคราวไปเยือน
นครนิวยอร์กเป็นครั้งแรก ในทศวรรษที่ 60 ในการชมตึกระฟ้าก็ไปเห็นเครื่องหมายประดับไฟสว่างไสวคือตัว
เลข 6 สามตัว หรือ 666 ซึ่งชื่อรหัสที่เซนต์จอห์นเขียนในวิวรณ์ว่า "สัตว์ร้าย" จากชื่อนี้ก็มีปัญหาให้ถามกันมากมาย
ผมยังคงอยู่ที่เดิม ยืนตรงหน้าหมายเลขนั้น ยังไม่เข้าใจหมายเลข 666 ที่อยู่บนกำแพงนั้นหมายถึงอะไร
บางคนบอกว่าเป็นตัวเลขบอกถึงความถี่เป็นกี่กิโลเฮิรตซ์ (HERTZ) ซึ่งถูกเลือกมาใช้เป็นรายการแรกของวิทยุ
ผมรู้สึกขึ้นมาทันทีว่า ทุกอย่างถูกยัดเข้าสมองของผมหมดแล้ว สำหรับผมแล้วไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีกแล้วว่า
คลื่นเฮิรตซ์มีชื่อว่า "สัตว์ร้าย" เป็นสัญลักษณ์ของวิธีโฆษณาชวนเชื่อของสัตว์ร้ายตัวนี้นี่แหละ ทีแรกก็วิทยุก่อนแล้ว
ที่สุดก็โทรทัศน์ "มันได้รับฤทธิ์อำนาจสามารถทำให้รูปจำลองนั้นมีลมหายใจ เพื่อว่าจะพูดได้ และจะใช้อำนาจ
เข่นฆ่าผู้ไม่ยอมเคารพบูชารูปจำลองนั้น" (วิวรณ์ 13:15) นี่ไม่ใช่รูปจำลองที่เคลื่อนไหวและพูดได้ โทรทัศน์และ
ภาพยนตร์ถูกถ่ายทอด โดยอาศัยเครือข่ายการสื่อสารระบบคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้หรือ?
เรามิได้ระแวดระวังเพียงพอกับสัตว์ร้าย ซึ่งในการที่จะชักจูงเราอย่างสะดวกสบายก็ต้องสวมหน้ากาก และ
โดยอาศัยความอ่อนแอของมนุษย์ ก้าวแรกสำหรับสัตว์ร้าย คือทำให้มนุษย์ชาติตกต่ำจนถึงเป็นทาสสัตว์ร้าย
ประสบผลสำเร็จค่อนข้างมากในก้าวแรก ทุกวันนี้รายการโทรทัศน์ และข้อมูลของธนาคาร ก็เป็นเหมือนแมงมุม
ตัวใหญ่ที่ชักใยข้ามไปข้ามมาทั่วโลก ไม่มีใครจะสามารถหนีรอดไปได้ "ใครเล่าจะเทียบสัตว์ร้ายตนนี้ได้?
ใครจะหาญสู้กับสัตว์ร้ายตนนี้" (วิวรณ์ 134) พญามังกรได้ประสาทฤทธิ์เดชให้มัน เพื่อทำสงครามกับวิสุทธิชน
ของพระเจ้า เพื่อชนะคนเหล่านั้น และได้ให้อำนาจการปกครองของมนุษย์ ทุกพงศ์เผ่า ทุกชนชาติ ทุกภาษา
(วิวรณ์ 13:7)
ถึงกระนั้นก็ดี เราไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะกลัว เมื่อเราเห็นสิ่งที่กำลังเกิดต่อหน้าต่อเรากระนั้นหรือ?
เช่นเรารู้ว่าเราเองถูกคอมพิวเตอร์บันทึกเกี่ยวกับตัวเราหลายครั้งหลายหนมาแล้ว และพาสปอร์ตก็ได้กลาย
เป็นบัตรเครดิตแถบแม่เหล็กไปแล้ว โดยปราศจากรหัส เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย เราอ่านพบอะไรบ้าง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ในวิวรณ์ของเซนต์จอห์น? นอกนั้นมันยังบังคับขู่เข็ญให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือผู้น้อย
ไม่ว่าจะเป็นคนยากจนหรือมั่งมีศรีสุข ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เป็นไทหรือเป็นทาสก็ตาม ให้ยอมประทับเครื่องหมาย
ไว้ที่มือขวา หรือบนหน้าผากของเขา และกีดกันมิให้ผู้ใดทำการซื้อขาย เว้นแต่ว่าผู้นั้นจะมีรอยชื่อหรือเครื่อง
หมายเลขแทนชื่อของมัน ประทับไว้ดังกล่าวแล้วเท่านั้น" (วิวรณ์ 13:16 - 17) โดยที่มีโจรกรรมบัตรเครดิต
ทวีขึ้นเรื่อยๆ ธนาคารโลกกำลังศึกษาโครงการไมโครชิพ ซึ่งสามารถฝังไว้ที่มือ จะทำให้แต่ละคนสามารถ
ไปซื้อของ หรือเปิดประตูรถ หรือประตูบ้านได้อย่างสะดวกสบาย บัตรเครดิตจะกลายเป็นส่วนหนึ่ง
ของชีวิตไปเสียแล้ว

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ มิ.ย. 05, 2023 1:50 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ ( 56 )👈
🌼--- วันนี้ท่านยังมีเสรีภาพที่จะรับหรือปฏิเสธบัตรเดบิต ---🌼
         
ได้รับเชิญให้ไปท่องอิสราเอล โดยสายการบิน EL AL แห่งอิสราเอล หวังว่าคงจะมีอะไรที่ไม่เครียด
เหมือนขณะนี้ ที่กำลังพูดถึงอาถรรพ์หมายเลข 666 เอามาฝากแฟนหน้า 5 แต่ยังไงก็ต้องว่ากันให้สิ้น
กระแสความ นี่ก็เหลือตอนสุดท้ายแล้ว เป็นการถ่ายทอดจากแทบลอยด์แคนาดา "Michael Journal"
ล้วนๆ เพื่อจะได้เข้าใจว่าสิ่งที่เขียนใน วิวรณ์ เกือบสองพันปีมานั้นใกล้เป็นจริงแล้ว ผมขอสารภาพว่า
เคยอ่าน วิวรณ์ บทที่ 13 นี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เข้าใจเลย จนกระทั่งมาอ่านพบในวารสารแคนาดา
"Michael Journal" จึงเริ่มเข้าใจและตกใจระคนกัน เพราะเหตุการณ์ช่างใกล้ตัวเข้ามาทุกที ตามที่มี
เขียนไว้ในวิวรณ์บทที่ 13:17 - 18 "และกีดกันมิให้ผู้ใดทำการซื้อขาย เว้นแต่ผู้นั้นจะมีรายชื่อหรือ
เครื่องหมายเลข แทนชื่อของมันประทับไว้ดังกล่าวแล้วเท่านั้น...หมายเลขของมันคือ "666"
จะขอถอดความจาก Therese Tardif ต่อไปครับ...

🔹เผด็จการโลก
ท่านพอจะจินตนาการได้แล้วว่า เผด็จการแบบไหนที่การเงินระดับอินเตอร์ จะบังคับทุกคนทุกชาติ
ด้วยไมโครชิพเหล่านี้ ที่จะเชื่อมเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ยักษ์ ซึ่งมีอยู่แล้วที่กรุงบรัสเซลล์ เครื่อง
คอมพิวเตอร์นี้สามารถสอดส่องความเคลื่อนไหวของทุกคน ที่มีไมโครชิพในบัตรเดบิต หรือฝังไว้
ใต้ผิวหนัง ก็เหมือนปลานั้นแหละ ในไม่ช้า ตามที่มีเขียนไว้ในวิวรณ์ ไม่มีใครสามารถซื้อหรือขายโดย
ปราศจากเครื่องหมายของสัตว์ร้ายที่มือ วันนี้ท่านยังมีเสรีภาพที่จะรับหรือปฏิเสธบัตรเดบิตและบัตรเครดิต
แต่ธนาคารเท่านั้นจะต้องเป็นผู้สั่งให้ใช้ไมโครชิพ เป็นวิธีเดียวเท่านั้นในการจ่ายเงิน และระบบเผด็จการ
ก็จะเข้ามาแทนที่อย่างแน่นอน เราก็จะต้องถูกสอดแนม ถูกปกครอง ถูกควบคุม และถูกจับตา โดยสัตว์ร้าย
ให้เราฉลาดพอที่จะไม่ตกในกับดักของธนาคารอีก! เราได้ถูกตรวจสอบมามากพอแล้ว เมื่อพวกเขา
ยึดระบบเงินของเราโดยการสร้างเงินตรา ตามความปรารถนาของพวกเขา ซึ่งเงินนี้อยู่บนพื้นฐานของ
ทรัพย์สินของเราเอง แล้วพวกเขาก็มายืมเงินจากเราไป และไปคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าคนปล่อยกู้หน้า
เลือดเสียอีก ฉะนี้เองเราจึงจมดิ่งจนไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ และเงินจำนวนน้อยนิดที่เรามีก็ยังลดค่าลงไปอีก
พวกเขาเป็นนักตุ๋นตัวฉกาจ ซึ่งควรจะถูกจับเข้าตะรางตลอดชีวิต มากกว่าที่จะมาเล่นงานคนจน ที่จำต้อง
ลักเล็กขโมยน้อยเพื่อความอยู่รอด เพราะถูกบีบคั้นจากระบบการเงินปัจจุบัน
ธนบัตรหรือเงินสด ใช้ในการโอนเงินได้สะดวกมาก ในสังคมเสรี เราสามารถใช้มันด้วยเสรีภาพ
สมบูรณ์แบบ เงินของสัตว์ร้าย ไมโครชิพเป็นเงินที่ชั่วร้ายมาก เพราะมันจะควบคุมทุกคนบนโลก และแล้ว
เราก็จะต้องกล่าวว่า ลาก่อนเสรีภาพที่พระเจ้าประทาน

🔹ต่อต้านบัตร
เพื่อที่จะทำให้ทุกคนยอมรับบัตรเดบิต ธนาคารจะบอกเราว่า สำหรับความปลอดภัยของเรา
ลดการคดโกง กระนั้นก็ดี พวกเขาต้องการให้เราสนับสนุนการฉ้อฉลที่ "ใหญ่โตกว่าหมด" กล่าวคือ
ระบบธนาคารปัจจุบัน ซึ่งสร้างเงินจากดอกเบี้ย
อย่าให้ชื่อของท่านแก่สิ่งนี้เลย มันเป็นระบบนรกดีๆ นี่เอง บางบริษัทไปไกลมาก ขนาดยอม
ส่งบัตรเครดิตให้ท่านทางไปรษณีย์ แม้ว่าท่านมิได้ร้องขอด้วยซ้ำไป อย่ารับมันเลย ขอให้ทำลายมันเสีย
ตัดเป็นชิ้นๆ เพื่อว่าไม่มีใครเอาไปใช้ เพราะมันจะกวาดเอาเงินของท่านไปเกลี้ยงธนาคารทีเดียว
ทางที่ดีที่สุด จะลดการคดโกงอย่างได้ผลก็คือ ให้สอนพระบัญญัติของพระเจ้าแก่เด็กๆ ให้พวกเขา
นำไปปฏิบัติทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน การปั้นด็กให้เป็นคนซื่อสัตย์ ก็เป็นการขจัดการคดโกงนั่นเอง ให้เรา
ใช้ความรู้ของเรา และความมานะบากบั่นของเรา ในการปั้นเยาวชนของเรา ฝึกให้พวกเขาเคารพทรัพย์
สมบัติของผู้อื่น เพื่อความดีของสังคมทั้งมวล
ให้เราบอยคอตระบบบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้าไม่มีใครยอมรับ
บัตรเหล่านี้ ระบบของสัตว์ร้ายก็จะพังไปเอง
และให้เราร่วมมือกับกลุ่ม "White Berets" เพื่อช่วยพวกเขาให้ยอมรับการใช้ของ Social Credit
ซึ่งจะก่อให้เกิดความยุติธรรมในโลก
พระนางมารีย์จะมีชัย และพวกเราจะอยู่เคียงข้างพระนาง ให้เราสวดลูกประคำทุกๆ วันในครอบครัว
ของเรา โดย Therese Tardif
ด่วน! ด่วนมาก ธนาคารจะต้องถูกลดอำนาจในการสร้างเงิน บัตรเครดิต บัตรเดบิต จะต้องถูกห้าม
ทุกวันนี้บรรดาธนาคารในโลกกำลังขอความร่วมมือจากรัฐบาล เพื่อที่จะตั้งรัฐบาลโลก เป็นรัฐบาลหนึ่ง
เดียวสำหรับทั้งโลก รัฐบาลนี้จะมีอำนาจเด็ดขาด เหนือมนุษย์ทุกคนบนโลก รัฐบาลนี้จะเป็นเจ้าของโลก
ทั้งโลก เป็นเจ้าของมนุษย์แต่ละคน ตลอดจนทรัพย์สมบัติของพวกเขาด้วย และท้ายที่สุด ก็จะเป็นเจ้าของ
แห่งเสรีภาพของพวกเขาอย่างมิต้องสงสัย เพราะฉะนั้นนายธนาคาร และรัฐบาลโลกจะสามารถประกาศิต
ให้แต่ละคนบนโลกกระทำตามแผนของลูซีเฟอร์ (Lucifer) ซึ่งจะทำให้คำทำนายในวิวรณ์สำเร็จไป
ปัจจุบันบัตรเครดิต บัตรเดบิตเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในหลายประเทศแล้ว เป็นไอเดีย
กว้างๆ เกี่ยวกับเทคนิคที่ถูกนำมาใช้โดยนายธนาคาร เพื่อจะทำให้คำทำนายในวิวรณ์สำเร็จไปดังนี้
1.) ผู้ขายปลีกจะต้องยอมรับการจ่ายเงินด้วยบัตรเหล่านี้ และจะต้องปฏิเสธที่จะรับเงินสดและเช็ค
2 ). ผู้บริโภค ผู้ออมทรัพย์ และฝากไว้ในธนาคารจะต้องถูกลดค่าเงิน หรือ ถูกยกเลิกไปเลย
3.) บัตรเครดิตและบัตรเดบิตจะต้องให้ข้อมูลต่างๆ แก่ธนาคารขณะที่ฝากเงิน ข้อมูลข่าวสารต่างๆ
เหล่านี้ จะถูกบันทึกด้วยคอมพิวเตอร์ และจะเป็นที่ล่วงรู้แก่ทุกคน เป็นสปายชัดๆ
4. )ข้อมูลข่าวสารเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในกรณีต่างๆ ฉะนั้นผู้ฝากเงินในธนาคาร ก็จะกลายเป็นทาส
เต็มตัวของรัฐบาลโลก
5. )นายธนาคารจะคุยว่า ในไม่ช้าพวกเขาจะขจัดธนบัตรไปได้ ท่านก็จะเข้าใจว่า นายธนาคารจะ
สามารถเปลี่ยนตัวเลข ที่เขียนไว้ในบัญชีธนาคารของท่าน พวกเขาจะสามารถเปลี่ยนบัญชีธนาคาร
ของท่านไปเป็นบัตรเดบิต แทนที่จะเป็นเงินสด พวกเขาจะบอกว่าจะช่วยลดการคดโกง พวกเขาลิดรอน
ธนบัตรของท่าน ซึ่งท่านเคยใช้มาอย่างสะดวกสบาย แต่แล้วพวกนายธนาคารเอาบัตรมาให้แทน
แล้วบันทึกหมายเลขของท่านลงในคอมพิวเตอร์ พร้อมกับรูปถ่าย และข้อมูลต่างๆ อันเป็นส่วนตัว
ของท่าน ตำรวจทุกนายจะสามารถไล่ล่าท่านจะกระดิกตัวไม่ได้ พวกท่านแต่ละคนจะถูกโซ่ล่ามจาก
รัฐบาลโลก จากนายธนาคาร และจากเจ้าพ่อทางการเงิน ไม่มีอิสรภาพ ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์
สมบัติใดๆ เหมือนนรกดีๆ นี่เอง
6. )ใครๆ ก็รู้ว่านายธนาคารจะบังคับ ให้บันทึกรูปจำลองของสัตว์ร้ายแห่งวิวรณ์ไว้บนหน้าผาก
หรือไว้ที่มือด้วยหมายเลขประจำตัวของแต่ละคน วิวรณ์บอกว่า ชาวคริสต์ทุกคนจะต้องปฏิเสธ
เครื่องหมายนี้ เพื่อแสดงว่ายังคงซื่อสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้า
7. )ลูซีเฟอร์เองเป็นคนตั้งชื่อสัตว์ร้ายนี้ว่า "666" ตั้งแต่ครั้งพระเจ้าสร้างโลก ลูซีเฟอร์ได้ปฏิเสธ
พระเจ้าหนึ่งเดียว แบ่งออกเป็น 3 พระองค์ ซึ่งลูซีเฟอร์เรียกทั้ง 3 พระองค์ว่า "333" ลูซีเฟอร์ประชด
ด้วยหมายเลขของมัน "666" ดังนั้นใครที่ยอมรับเครื่องหมายของสัตว์ร้าย 666 ที่ถูกบันทึกในตัวผู้ใด
ผู้นั้นก็ปฏิเสธพระตรีเอกภาพ (Trinity) อย่างเช่นลูซีเฟอร์ เขาผู้นั้นจะอยู่ข้างลูซีเฟอร์ และจะไปนรกชั่ว
นิรันดร ฉะนั้นพวกเราต้องไม่ยอมรับเครื่องหมายนี้ และนั่นก็คือ ต้องไม่ยอมรับบัตรเครดิตและบัตรเดบิต

🔹สงครามใหญ่
สรุปก็คือ ทุกคนที่ได้รับการเตือนไว้ล่วงหน้าแล้วนี้ จะต้องทำสงครามขับเคี่ยวกับระบบมหาวายร้าย
แห่งวิวรณ์ จะต้องไม่ยอมให้ระบบนี้ดำเนินต่อไป แต่ละประเทศจะต้องรักษาอธิปไตยของตัวเอง
ในแคนาดา รัฐบาลสหพันธ์ได้สร้างธนาคารแห่งแคนาดาในปี 1934 เพื่อว่าธนาคารนี้จะได้สร้างเงิน
แทนที่จะเป็นนายธนาคารในปัจจุบัน ธนาคารแห่งแคนาดาจะต้องสร้างเงินสำหรับประชาชน เกี่ยวกับ
สิ่งของและบริการต่างๆ ที่จะให้บริการต่างๆ ทางการตลาดธนาคารแห่งแคนาดา ยังไม่ได้ทำให้หน้าที่
การงานให้สำเร็จไป เพราะฉะนั้นประเทศแคนาดาจะยังอยู่ในสถานการณ์เหมือนกับประเทศอื่นๆ ภายใต้
การควบคุมของ IMF ซึ่งเป็นหัวขบวนของบรรดาธนาคาร และกฎระเบียบต่างๆ ของโลก
พวกเราขอเรียกร้องอย่างแข็งขันต่อรัฐบาล ที่จะนำเอาอำนาจในการสร้างเงินสำหรับประชาชน
กลับมาอย่างเดิม อำนาจนี้เป็นของรัฐบาลแห่งชาติโดยชอบธรรม พวกเรายังขอเรียกร้องให้รัฐบาล
แจกจ่ายส่วนแบ่งรายได้ประจำเดือนแก่ชาวแคนาดาทุกๆ คน ด้วยเงินที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้คือ Social Credit

🔹ไปโลด
IMF กำลังเดินหน้าตามโครงการอย่างรวดเร็ว เป็นการบังคับพวกเราให้ทำทุกอย่าง
ที่จะให้ประชาชนรู้ข่าวสารข้อมูล ฉะนั้นก็ขอให้พวกเราเร่งทำงานให้รวดเร็ว แบบรู้เท่าทันรัฐบาลด้วย

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ มิ.ย. 07, 2023 10:08 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (57)👈
🌼--- จะมืด 3 วัน 3 คืน [A] ---🌼
         
ไปฟิลิปปินส์คราวที่แล้ว ได้รับแจกแผ่นพับเกี่ยวกับเหตุการณ์ "มืด 3 วัน 3 คืน"
(The three days of total darkness) เป็นการเผยแสดง (Revelation) ของพระเยซูแก่บาทหลวง
ปีโอ พระสงฆ์ชาวอิตาเลียน ผู้มีรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ (หมายถึงรอยแผลที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้าและสีข้าง
เช่นเดียวกับที่พระเยซูได้รับตอนถูกตรึงบนไม้กางเขน) ท่านเกิดที่เมือง Pietrelcina ภาคใต้ของ
อิตาลีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1887 และได้รับศีลบรรพชาเป็นพระสงฆ์ฟรังซิสกัน
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1910 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 1918 ท่านหายตัวไป เพื่อนๆ ในอารามต่าง
ตามหากันจ้าละหวั่น ที่สุดไปพบท่านอยู่ในวัด นอนจมในกองเลือด ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และสีข้าง มี
รอยแผลเลือดไหลโชก ซึ่งมีกลิ่นหอมประหลาด นำความงุนงงแก่คุณหมอ Amico Bignam ยิ่งนัก
ท่านได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับเซนต์ฟรันซิส แห่งอัสซีซี และเซนต์คัทเธอลีน แห่งซีเอนา
ท่านสิ้นชีวิตเมื่อวันที่ 23 กันยายน 1968
ในปี 1962 โป๊ปจอห์น พอลที่ 2 ขณะยังดำรงตำแหน่งเป็นพระอัครสังฆราชแห่งคราโคฟ
ได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงบาทหลวง ปีโอ ขอคำภาวนาเป็นพิเศษสำหรับสตรีคนหนึ่ง
ชื่อวานดา โปลาตาสกา นางเป็นจิตแพทย์ เป็นมารดาของบุตร 4 คน กำลังจะตายด้วยโรคมะเร็ง
เล่ากันว่า บาทหลวง ปีโอ ได้พูดกับคนใกล้ชิดว่า "รายนี้ปฏิเสธไม่ได้" 2 - 3 วันก่อนการผ่าตัด
คณะแพทย์พบว่า วานดา ได้หายจากโรคมะเร็งอย่างปาฏิหาริย์ ปัจจุบันแพทย์หญิง วานดา ทำงานอยู่
ที่วาติกัน ทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่คู่สมรส
ต่อไปนี้เป็นคำแปลจดหมายของบาทหลวง ปีโอ ที่มีไปถึงคณะกรรมการ Heroldsbach แต่งตั้ง
โดยวาติกัน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเผยแสดงที่พระเยซูมีต่อบาทหลวง ปีโอ
คืนวันสิ้นปี 1949 พระเยซูตรัสแก่ท่านบาทหลวงปีโอ "ลูกรัก เราปรารถนามาเป็นเวลานานแล้ว
ที่จะให้ถึงชั่วโมงนี้ ซึ่งเราจะเผยความรักอันยิ่งใหญ่จากหัวใจของเราที่มีต่อลูก ความรักของเราต่อมนุษย์
เป็นความรักอันยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อบุคคลซึ่งได้ถวายตัวเขาเองแก่เรา พวกเขาเป็นที่พักพิง
ของเรา และเป็นที่บรรเทาใจเรา ทดแทนคนมากมายที่ขาดความเคารพอย่างไม่น่าให้อภัย ซึ่งเราต้องรับทน
ในศีลแห่งความรักของเรา (หมายถึงผู้ที่ใจไม่บริสุทธิ์รับศีลมหาสนิท ซึ่งถือเป็นพระกายของพระเยซู
พระเยซูก็จำยอมอยู่กับผู้ที่ไม่คู่ควร)"
จงพร่ำสวดภาวนาและทำกิจใช้โทษบาป แนะนำและตักเตือนคนอื่นๆ ให้กระทำเช่นเดียวกัน
เพราะเวลามาใกล้แค่เอื้อมแล้ว เราจะมาพบคนที่ไม่ซื่อสัตย์ เพราะพวกเขาไม่ได้เอาใจใส่เวลาแห่ง
พระหรรษทาน (Grace) ของเรา จงสวดภาวนาอย่าได้หยุดหย่อน เพื่อว่าศัตรูของลูกจะไม่สามารถมาเป็น
เจ้าเหนือลูก จงบอกให้ผู้คนเตรียมพร้อมทุกขณะ เพราะว่าการพิพากษาของเขาจะมาถึงพวกเขาอย่าง
ไม่รู้เนื้อรู้ตัว และในเวลาที่มีไม่มีใครคาดคิดมาก่อน จะไม่มีใครสามารถหนีรอดมือไปได้ เราจะมาพบ
พวกเขาทุกคนไม่เว้นใคร เราจะปกป้องคนชอบธรรม ให้สังเกตดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวบนท้องฟ้า
เมื่อมันปรากฏมีอาการผิดปกติในการโคจร จงรู้ไว้เถิดว่าวันนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว จงรวมตัวกันเป็นกลุ่มแล้ว
สวดภาวนา แล้วเฝ้าคอยจนกว่าเทวทูตแห่งการทำลาย จะผ่านประตูบ้านของลูก จงสวดขอให้วันเหล่านี้
สิ้นสุดในเร็ววัน
ลูกที่รัก จงวางใจเถิด เราอยู่กับพวกลูก อาณาจักรของเราจะรุ่งโรจน์ และนามของเราจะได้รับ
การสรรเสริญ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตก และอาณาจักรของเราจะไม่มีสิ้นสุด
23 มกราคม 1950 "จงสวดภาวนา และทำกิจใช้โทษบาป มีใจกระตือรือร้นในการปรนนิบัติต่อพระ
และกระทำพลีกรรม ในรูปแบบต่างๆ เช่น งดเหล้า บุหรี่ หรืออาหารบางมื้อ พวกลูกกำลังอยู่ในอันตราย
อย่างใหญ่หลวง มนุษย์กำลังวิ่งสู่อเวจีอย่างสนุกสนานสำราญบานใจ ประหนึ่งว่ากำลังไปงานรื่นเริง หรือ
งานฉลองแต่งงานของพวกปีศาจงั้นแหละ จงช่วยเราในการช่วยวิญญาณให้รอด บาปของมนุษย์มากเกิน
มาตรวัดเสียแล้ว วันแห่งการลงโทษอยู่ใกล้แล้ว ใกล้เกินกว่าที่ลูกจะคาดคิด และโลกกำลังหลับในความ
ปลอดภัยกำมะลอ การพิพากษาของพระจะกระหน่ำพวกเขาประดุจสายอสุนีบาต คนที่ไม่มีพระ คนชั่วช้า
จะถูกทำลายอย่างไร้ความปรานี เช่นเดียวกับชาวโซโดม และโกโมราห์ในอดีต เราขอบอกกับลูกว่า ไม่มี
ครั้งใดที่ความชั่วช้าจะใหญ่เท่าของมนุษย์ทุกวันนี้"
28 มกราคม 1950 "จงปิดหน้าต่างให้มิดชิด อย่าได้มองออกไปข้างนอก แต่ให้จุดเทียนเสก ซึ่งจะติด
ได้หลายวัน แล้วสวดสายประคำ และอ่านหนังสือบำรุงศรัทธา ให้รับศีลด้วยใจ (ปรารถนา) และหมั่นประกอบ
กิจแห่งความรักฉันพี่น้อง ซึ่งนำความพอใจแก่เราเป็นอย่างยิ่ง จงกางแขนสวด หรือหมอบราบกับพื้นสวด
เพื่อวิญญาณจะได้รอด อย่าออกไปจากบ้าน ให้จัดหาอาหารไว้กับบ้าน พลังแห่งธรรมชาติจะทำเสียงครืนครัน
แล้วฝนเป็นสายไฟจะทำให้ผู้คนสั่นสะท้านด้วยความกลัว แต่จงเข้มแข็ง เราจะอยู่กับลูก"

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ มิ.ย. 07, 2023 10:13 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (58 )👈
🌼--- จะมืด 3 วัน 3 คืน ---🌼
        
  7 กุมภาพันธ์ 1950 "ให้ดูแลฝูงสัตว์ในวันเหล่านี้ให้ดี เราเป็นผู้สร้างและผู้รักษาสรรพสัตว์
เช่นมนุษย์เหมือนกัน เราจะให้สัญญาณบางอย่างแก่ลูก ก่อนเหตุการณ์จะเกิด เพื่อว่าลูกจะได้จัดเตรียม
อาหารไว้มากกว่าเดิมสำหรับพวกมัน เราจะรักษาทรัพย์สินของคนดี รวมทั้งฝูงสัตว์ด้วย เพื่อลูกจะได้
ใช้ประโยชน์ในคราวจำเป็นต่อไป อย่าให้มีผู้ใดข้ามทุ่งไปไหนเลย แม้เพื่อจะไปเลี้ยงสัตว์ก็ตาม ใครที่
ย่างก้าวออกไปจะตาย! ปิดหน้าต่างให้มิดชิด คนที่ได้รับเลือก หมายถึงคนประพฤติตัวดี จะไม่เห็น
พระพิโรธของเรา จงวางใจในเราเถิดแล้วเราจะคุ้มครองลูก ความวางใจของลูกบังคับเรา ให้ต้องมาหา
เพื่อช่วยลูก"
"เวลาของเราเข้ามาใกล้แล้ว แต่เราจะแผ่เมตตา การลงโทษอันเจ็บปวดจะเป็นสักขีพยานในวัน
เหล่านั้น เทวดาของเรา ซึ่งจะเป็นผู้ดำเนินงานนี้ พร้อมที่จะลงดาบแล้ว พวกเขาจะจัดการบดขยี้คนที่
ดูหมิ่นเรา และไม่เชื่อในการเผยแสดงของเรา พายุไฟจะกระหน่ำลงมาจากหมู่เมฆ และแผ่ปกคลุมทั้งโลก
พายุ อากาศวิปริต สายอสุนีบาต และแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นอยู่สองวันเต็มๆ ไฟจะตกลงมาดังสายฝน
แล้วจะเริ่มเย็นลง เย็นลง ทั้งหมดนี้เพื่อแสดงว่าพระเจ้า คือเจ้าแห่งจักรวาล"
"ใครที่หวังในเรา และเชื่อในคำของเรา ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะเราจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา หรือคน
ที่อยู่ในสถานะเปี่ยมด้วยหรรษทาน (บุญ) ซึ่งร้องขอความคุ้มครองจากแม่ของเรา ก็ไม่ต้องกลัวเช่นกัน"
"การที่ลูกเตรียมพร้อมกับสิ่งเหล่านี้ เราจะให้สัญญาณและคำแนะนำแก่ลูกดังต่อไปนี้ : ในตอน
กลางคืนจะหนาวมาก ลมจะพัดแรง ทำเสียงหวีดหวิว หลังจากนั้นจะได้ยินเสียงฟ้าผ่า ให้ลูกปิดประตูและ
หน้าต่าง อย่าได้พูดกับใครนอกบ้าน แต่ให้คุกเข่าลงต่อหน้าไม้กางเขน ให้เป็นทุกข์เสียใจที่ได้ทำบาป
และขอความคุ้มครองจากแม่พระ อย่าได้มองอะไรขณะเกิดแผ่นดินไหว เพราะเทวดาของพระศักดิ์สิทธิ์
พระเยซูก็ไม่ต้องการให้พวกเราดูพระพิโรธของพระ เพราะพระโรธของพระเจ้าจะต้องนำมารำพึงด้วย
ความยำเกรง"
"คนที่ไม่ถือตามคำแนะนำนี้จะถูกปลิดชีวิตในทันที ลมจะพาแก๊สพิษมา ซึ่งจะแพร่กระจายไปทั่วโลก
ใครที่ทรมาน และตายไปโดยไม่มีบาปติดตัว ก็จะเป็นนักบุญมรณสักขี เขาจะไปอยู่กับเราในสวรรค์"
"ซาตานจะมีชัย แต่ในชั่วเวลา 3 คืน แผ่นดินจะหยุดไหว และไฟจะไม่ตก และในวันต่อมาพระอาทิตย์
จะฉายแสงดังเดิม บรรดาเทวทูตจะร่อนลงมาจากฟากฟ้า และจะแผ่จิตแห่งสันติสุขบนแผ่นดินโลก ความรู้สึก
แห่งกตเวทิตาที่มิอาจวัดได้ จะเกิดแก่คนเหล่านั้นที่รอดชีวิตมาจากลงโทษ และการฝันร้ายอันแสนจะน่ากลัว
ตั้งแต่สร้างโลกมา แล้วพระเจ้าก็จะเสด็จเยี่ยมโลก"
"เราได้เลือกวิญญาณในประเทศอื่นด้วย เช่นเบลเยี่ยม สวิตเซอร์แลนด์ สเปน ซึ่งได้รับการเผยแสดงนี้
เพื่อว่าประเทศอื่นๆ ด้วย จะได้เตรียมตัว จงสวดสายประคำ แต่สวดด้วยความตั้งใจ เพื่อให้คำภาวนาไปถึง
สวรรค์ ในไม่ช้าหายนะที่น่ากลัวกว่านี้ จะมาสู่โลกอีกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นการลงโทษที่น่ากลัว ที่ไม่มี
ใครพานพบมาก่อนเลย"
"จะมีคนที่ไม่สนใจใยดีกับเรื่องเหล่านี้ แต่พอเหตุการณ์เกิดขึ้นก็จะร้องว่า ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย พวกเขา
จะไม่อีนังขังขอบในการเตรียมเนื้อเตรียมตัว ในเหตุการณ์ที่ไม่เคยได้ยิน แต่แล้วพวกเขาก็ต้องเผชิญกับ
เหตุการณ์ในเร็ววัน
น้ำหนักตราชูของพระเจ้าได้มาถึงโลกแล้ว พระพิโรธของพระบิดาของเราจะหลั่งบนโลกทั้งมวล
เรากำลังเตือนโลกอีกครั้งหนึ่ง ผ่านลูกที่เป็นเครื่องมือของพระองค์ ดังที่ได้เคยทำกับลูกมาก่อน"
"บาปของมนุษย์ได้ทวีขึ้นเกินมาตรวัดจะรับไหวแล้ว ขาดความเคารพในโบสถ์ เสแสร้งทำศาสนกิจ
ขาดความรักฉันพี่น้อง แต่งกายไม่เรียบร้อย โดยเฉพาะที่รีสอร์ตหน้าร้อน โลกเต็มไปด้วยความชั่วช้า
หายนะจะเกิดแก่โลกประหนึ่งสายฟ้าแลบ ชั่วขณะที่แสงตอนเช้าของดวงอาทิตย์จะกลับเป็นความ
มืดมิด ไม่มีใครสามารถออกจากบ้าน หรือมองออกไปที่หน้าต่าง และในขณะนั้นเป็นต้นไป เราเองจะมา
ท่ามกลางเสียงฟ้าคำรามและสายฟ้าแลบ คนชั่วจะมองดูพระหฤทัยของเรา จะเกิดความสับสนวุ่นวาย
ครั้งใหญ่ เพราะเกิดความมืดไปทั่วโลก และหลายคนจะตายไป เพราะความกลัวและความสิ้นหวัง
ใครที่ได้ต่อสู้เพราะเห็นแก่เราจะได้รับพระหรรษทาน (อานิสงส์) จากพระหฤทัยของเรา และเสียงร้อง
ที่ว่า "ใครหรือจะใหญ่เท่าพระเจ้า" (มีคาแอล) จะเป็นประหนึ่งเครื่องมือแห่งความคุ้มครองแก่หลายคน
อย่างไรก็ดี หลายคนจะไหม้เกรียมในสนามกว้างใหญ่ เหมือนหญ้าที่ร่วงโรย คนที่ไม่มีพระจะถูกบดขยี้
แล้วคนชอบธรรมก็จะสามารถเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่"
"ในวันนั้น ทันทีที่ความมืดได้คืบคลานเข้ามาเต็มที่ ไม่มีใครที่จะออกจากบ้านได้ หรือจะมองออกไป
ทางหน้าต่าง ความมืดจะคงอยู่หนึ่งวันและหนึ่งคืน และตามมาด้วยหนึ่งวันและหนึ่งคืน และอีกหนึ่งวันแต่
ในคืนถัดไป ดวงดาวจะเริ่มส่องแสง และในวันรุ่งขึ้นพระอาทิตย์ก็มาอีก และจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ
(ไม่ใช่ฤดูหนาวนิวเคลียร์)"
"ในวันที่มืดนั้น ลูกที่ได้รับเลือกจะไม่หลับเหมือนศานุศิษย์ในสวนมะกอก พวกเขาจะต้องสวดอย่าง
ไม่หยุดยั้ง และพวกเขาจะไม่ผิดหวังในตัวเรา เราจะรวบรวมคนที่ถูกเลือกสรร นรกจะเชื่อว่ามันสามารถได้
โลกทั้งโลก แต่เราจะบอกว่าเป็นของเราต่างหาก
จงสวดภาวนา จงสวดภาวนา เราปรารถนาจะฟังคำภาวนาของลูก "พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ
นักบุญเอลีซาเบท นักบุญคอนราด นักบุญไมเคิล นักบุญปีเตอร์ นักบุญเทเรซาน้อย และบรรดาเทวดา
ของลูกๆ จะเป็นผู้เสนอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าเพื่อลูก จงเป็นทหารที่กล้าหาญของพระคริสต์ เมื่อแสง
หวนกลับมาส่องสว่างตามเดิม ให้ทุกคนจงขอบคุณพระตรีเอกภาพ ในการที่พระองค์ได้ปกปักรักษาพวกลูก
การทำลายล้างจะหนักหนาสาหัส แต่เราจะอยู่กับพวกลูก ไว้ใจเถิดลูก"
เราได้เตือนมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่า และบ่อยครั้งทีเดียว เราได้ให้โอกาสที่ให้กลับมาเดินในทางที่
ถูกต้อง แต่เดี๋ยวนี้ความชั่วได้ไปถึงสุดยอดเสียแล้ว ถึงกระนั้นก็ดี ดวงใจของเราระทมทุกข์แทบจะหลั่งเป็น
สายเลือด เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราต้องดูแลการลงโทษนี้ จงบอกให้มนุษย์ทุกคนรู้ว่า เวลามาถึงแล้ว
ที่ทุกสิ่งจะต้องสำเร็จสมบูรณ์ไป"

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ มิ.ย. 12, 2023 1:28 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (59)👈
🌼--- ได้รับเชิญให้ไปเที่ยวอิสราเอล [A] ---🌼
         
ผมเป็นแขกรับเชิญจากสายการบิน EL AL แห่งอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 11 - 17 ต.ค. พอดีวันที่ 18 - 26
คุณวิไล สารธรรม เจ้านายของผม นำคณะทัวร์จากเมืองไทยไปท่องตุรกี และแสวงบุญที่อิสราเอล ผม
เลยถือโอกาสอยู่ต่อช่วยคุณวิไล ในฐานะช่างภาพประจำคณะ
ในวันนี้จะขอพูดถึงเรื่องเป็น "แขก" ของรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวอิสราเอล สายการบิน
เอลอัล สมาคมโรงแรมและบริษัทนำเที่ยวแห่งอิสราเอล อันดับแรกที่ได้สัมผัส ก็คือ สายการบิน เอลอัล
ซึ่งเริ่มเปิดบินมากรุงเทพฯ ได้เกือบหนึ่งปีแล้ว เที่ยวบินที่ไปครั้งนี้เขาใช้เครื่องบินใหม่ถอดด้าม เพิ่งบิน
เป็นเที่ยวแรก เป็นเครื่องแบบ 747 - 400 ทุกอย่างดูหรูหรากว่าที่เคยเห็น เช่น TV MONITOR ทุกที่นั่ง
ซึ่งติดตั้งที่พนักหลัง จะให้ความบันเทิงทั้งสองระบบ ทั้ง AUDIO คือ ฟังเพลงหลากรส และ VIDEO คือ
ดูหนังหลากเรื่อง ผมไม่ได้ใช้ความบันเทิง 2 ระบบนี้ แต่ผมใช้ระบบ LEGO คือ อ่านหนังสือหลากเล่ม
เพื่อจะเปิดโฉมหน้าแอนตี้ไคร้สต์ มาเสนอแฟนหน้า 5 ตอนพักสายตาก็หยิบแมกกาซีนประจำเครื่องมาดู
พอเปิดหน้าแรกก็พบภาพสะดุดตา คือ ภาพนกพิราบ 2 ตัว ที่ประดิษฐ์จากตัวอักษรภาษาฮีบรู เป็นบทสวด
สำหรับผู้เดินทาง ทำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของชาวยิวที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างเหนียวแน่นเสมอมา
ตั้งแต่ห้าพันปีมาแล้วอย่างมิมีเสื่อมคลาย
แขกรับเชิญทั้งหมดมีถึง 248 คน จาก 27 ประเทศ อิสราเอลต้องการประชาสัมพันธ์ให้โลกรู้ว่า
พวกเขามีความจริงใจที่จะใฝ่หาสันติภาพอย่างแท้จริง แม้จะมีอุปสรรครอบด้าน เย็นวันที่ 13 ต.ค. ในพิธี
เลี้ยงรับรองแขกทั้ง 27 ประเทศ กระทำกันที่โรงแรม Kinarot Garden ที่แสนจะหรูหรา มีบริเวณสวนใหญ่โต
สะพรั่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ใช้เป็นที่เลี้ยงรับรองแขกเกือบ 300 คน อาหารก็เป็นประเภทบาร์บีคิว ที่เห็น
แปลกตาก็คือเนื้อแกะและไก่งวงตัวโต จุดเด่นของงานนี้อยู่ที่การแสดงบนเวที ซึ่งเป็นการเต้นระบำพื้นเมือง
ของยิว และอาหรับสลับกันไป ทำให้เห็นบรรยากาศของความเป็นมิตรต่อกัน เพื่อล้างภาพลักษณ์เก่าๆ แห่ง
ความเป็นอริให้มลายไป จบท้ายรายการด้วยระบำหน้าท้อง รู้สึกจะทำให้บรรยากาศม่วนซื่น ไม่ว่ายิวอาหรับ
รวมทั้ง "แขก" จาก 27 ประเทศ ก็กลับโรงแรมไปฝันหวานเอาราวตีสอง
วันรุ่งขึ้นที่ 14 ต.ค. มีพิธีเปิดสัมมนาอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้อำนวยการท่องเที่ยว MR. ELI GONEN
เป็นประธาน มีวงดุริยางค์ทหารบกบรรเลงเพลงมาร์ช AQUILA พร้อมขบวนหนุ่มสาว 27 คน เชิญธงชาติของ
27 ประเทศ เข้าห้องประชุม ทำให้บรรยากาศในห้องประชุมดูคึกคักมีชีวิตชีวา หลังจากนั้นก็เป็นรายการ นำชม
โรงแรมต่างๆ แถวกาลิลี โดยเฉพาะโรงแรมของคิบบุตส์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอิสราเอล คิบบุตส์คือ
หมู่บ้านสหกรณ์อย่างหนึ่ง ตั้งขึ้นครั้งแรกในอิสราเอล ในปี 1909 จากชาวยิวผู้อพยพมาจากยุโรปตะวันออก
โดยเฉพาะจากสภาพโซเวียต โดยได้ความคิดมาจากระบบคอมมูน ของลัทธิคอมมิวนิสต์ เป็นการอยู่รวมกัน
ในหมู่บ้านเดียวกัน แบ่งงานกันทำตามถนัด และหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันไปในการให้บริการ เช่น มีเวร ทำครัว
ล้างจาน เมื่อมีรายได้ก็เข้ากองกลาง หากต้องการซื้ออะไรพิเศษ ก็เบิกจากกองกลางไปซื้อได้ เมื่อถึงสิ้นปีก็แบ่ง
กำไรเท่าๆ กัน โดยทั่วไปจะทำการเกษตร แต่หากสามารถขยับขยาย ก็สามารถประกอบการอะไรก็ได้ รวมไป
ถึงการโรงแรม ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวบางประเภท ที่ชอบประหยัด หรืออาจมาดูงานเรื่องคิบบุตส์
โดยเฉพาะ
ช่วงบ่าย ก็มีนำชมโดยรถโค้ช ทางตะวันตกสู่ฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน โดยผ่านที่ราบเจสเซรีล ที่ถือว่าเป็น
ดินแดนที่อุดมที่สุดของอิสราเอล แล้วยังผ่านเมือง เมกิดโด ซึ่งมีระบุไว้ในพระธรรมวิวรณ์ว่า จะเกิดสงครามโลก
ครั้งสุดท้าย อาร์มาเกดโดน ARMAGEDDON เป็นศัพท์ที่เพี้ยนมาจาก HAR MEGIDDO HAR เป็นภาษาฮีบรู
แปลว่าเนินเขา เป็นเมืองที่มีเส้นทาง จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปเมโสโปเตเมีย ที่เมืองเมกิดโด ในพระธรรม
วิวรณ์ ระบุว่าจะมีสงครามโลกครั้งสุดท้ายที่อาร์มาเกดโดน ซึ่งแอนตี้ไคร้สต์จะเป็นผู้นำพลโลกมาปะทะกับ
กองทัพของกษัตริย์แห่งกษัตริย์คือ พระเยซู ผู้จะปราบมันด้วยลมพระโอษฐ์ของพระองค์
วันนี้เขาเลี้ยงพวกเราที่เมืองเก่าของพวกครูเสดคือ เมืองเอคโค (ACRE) มีพนักงานต้อนรับ แต่งตัว
เหมือนอัศวินขี่ม้า คอยต้อนรับที่ห้องโถงใหญ่ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของพวกอัศวินครูเสด อาหารก็เป็น
จำพวกเนื้อวัวย่าง เนื้อแกะย่าง และไก่งวงย่าง กลั้วคอด้วยไวน์หลากชนิด เนื่องจากอาหารกลางวันมื้อนี้เริ่มเอา
ราวบ่ายสองโมง จึงมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารหลายอย่างโดยไม่สน DRUZE PITA BREAD
อีกทั้ง KING RICHARD'S POTATOES ก็ไม่สน
หลังอาหารกลางวันก็มีรายการทัวร์พิเศษสุด เรียกว่า ARKIA "HALLELUYAH"
AERIAL PILGRIMAGE FLIGHT "ฮัลเลลูยาห์" จาริกแสวงบุญทางเวหาโดย อาร์เกีย
เป็นการบินชมสถานที่สำคัญๆ ทางศาสนาคริสต์ โดยเครื่องบิน DASH 7 แห่งสายการบินเอกชน
ชื่อ ARKIA 3 ลำ บรรจุผู้โดยสารได้ลำละ 54 คน สำหรับแขกต่างประเทศเท่านั้น ขณะเครื่องทะยานสู่ท้องฟ้า
เหนือเมืองไฮฟาไปนิดหน่อย  ไกด์ที่นั่งติดกับกัปตันก็เปิดหน้าต่างมาแนะนำตัวแก่ผู้โดยสาร จำชื่อไม่ได้เ
สียแล้ว เป็นหนุ่มใหญ่ อายุราว 35 - 40 ปี ศีรษะล้าน รูปร่างกำยำล่ำสัน สิ่งแรกที่ไกด์บรรยายก็คือ ถ้ำเอลียาห์
แห่งคาร์เมล เป็นถ้ำโบราณอายุเกือบสามพันปี ที่มหาบุรุษเอลียาห์เคยอาศัยในถ้ำนี้ เอลียาห์เป็นคนของพระเจ้า
ณ ที่นี้เคยพนันกับพระสงฆ์บาอัล 450 รูปว่า พระของใครจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน โดยฆ่าสัตว์วางบนแท่น แล้วให้
ต่างคนต่างสวดขอให้พระของตน บันดาลให้เกิดไฟมาเผาเครื่องบูชาบนแท่นนั้น พระสงฆ์ของพวกบาอัลสวด
กันทั้งวันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอเอลียาห์สวดขอพระแห่งอิสราเอล พระเจ้าเที่ยงแท้พระองค์เดียวก็บันดาล
ให้เกิดมีไฟลุกขึ้นเผาเครื่องบูชาบนแท่นนั้น อยู่มาวันหนึ่งเอลียาห์ผู้นี้ก็มีรถเพลิงไฟมารับหายไปในท้องฟ้า
พระคัมภีร์กล่าวว่าท่านผู้นี้กับมหาบุรุษอีกผู้หนึ่งชื่อเฮน็อค จะมาปรากฏบนโลกตอนจะสิ้นยุค เมื่อแอนตี้ไคร้สต์
ผู้เป็นเจ้าโลกจะเอาคำสอนผิดๆ มายัดเยียดให้มนุษย์ มหาบุรุษทั้งสองนี้จะมาเป็นพยานให้พระเยซูโดยยืนยันว่า
พระองค์เป็นบุตรของพระเจ้าอวตารมาเป็นมนุษย์ ได้ทรงสิ้นพระชนม์ ได้ทรงฟื้นคืนชีพ และจะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่ง
ในไม่ช้า เมื่อแอนตี้ไคร้สต์รู้เข้าจึงสั่งให้ฆ่าเสีย แล้วทิ้งศพไว้ข้างถนน หลังจากนั้นสามวันครึ่ง มหาบุรุษทั้งสองก็
ฟื้นคืนชีพมาใหม่ แล้วเหาะขึ้นสวรรค์ เพื่อสำแดงให้เห็นถึง ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ที่สามารถทำได้ทุกอย่าง
แล้วแอนตี้ไคร้สต์ก็จะอวดศักดาว่าตนก็เหาะได้ พอตัวลอยขึ้นไปได้ไม่เท่าไร ก็ถูกอัครเทพไมเคิลเป่าหัวทิ่ม
ลงอเวจีไปในบัดดล

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ มิ.ย. 12, 2023 1:37 pm

🧐~ วิเคราะห์ก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 ผ่านพระคัมภีร์และนอสตราดามุส ~🧐
โดย สนธิ สารธรรม 👉 ตอนที่ (60)👈
🌼--- ได้รับเชิญให้ไปเที่ยวอิสราเอล ---🌼
         
จุดที่ 2 ที่ไกด์ชี้ให้ชมคือ เมือง นาซาเร็ท ว่าปัจจุบันเป็นเมืองที่มีชุมชนชาวอาหรับที่นับถือศาสนา
คาทอลิกราว 3 หมื่นคน ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณสองพันปีมาแล้ว เป็นตำบลที่พระเยซู พระนางมารีอา และ
ท่านโยเซฟเคยอาศัยอยู่อย่างน้อยก็ 30 ปี ก่อนที่พระเยซูออกเทศนาแถวๆ นั้น ใกล้ๆ นาซาเร็ท ก็มีตำบล
หนึ่งชื่อ กานา ที่แม่พระกับพระเยซูได้เคยไปร่วมพิธีแต่งงาน เจ้าภาพซึ่งเป็นญาติของแม่พระรู้สึกไม่สบายใจ
ที่ไวน์เกิดหมดกลางคัน แม่พระจึงขอร้องให้พระเยซูช่วย เพื่อไม่ให้เจ้าภาพต้องเสียหน้า แต่พระเยซูก็บอก
ยังไม่ถึงเวลา (ที่พระองค์แสดงปาฏิหาริย์) แม่พระไม่พูดพล่ามทำเพลงสั่งให้คนใช้ตักน้ำใส่ไหให้เต็ม แล้ว
พระเยซูก็ไม่อยากขัดใจแม่ จึงโปรดให้น้ำในไหกลายเป็นไวน์ จนแขกเหรื่อพากันแปลกใจว่า ทำไมจึงเอา
ไวน์ดีมาเลี้ยงตอนสุดท้าย
          จุดที่ 3 ชายริมทะเลสาบกาลิลี ที่ตำบล ทับกา เมื่อพระเยซูเสด็จคืนพระชนมชีพแล้ว ได้เสด็จมาพบ
สาวก 7 คน รวมทั้งเปโตรด้วย กำลังจับปลากัน แต่ไม่ได้ปลาเลย พระองค์ทรงแนะนำให้พวกเขาโรยอวน
ไปทางกราบขวา พวกเขาก็จับปลาได้มากมาย แล้วพระองค์ก็ร่วมรับประทานอาหารพร้อมกับพวกเขา
พระองค์ทรงบิขนมปังแล้วแจกให้พวกเขา แล้วทรงหยิบปลาแจกให้พวกเขา เป็นการบอกใบ้ว่าพระองค์คือ
ใคร แล้วตรัสถามเปโตรถึง 3 ครั้งว่า "เจ้ารักเราหรือ" "ใช่แล้วพระเจ้าข้า" เปโตรตอบ พระองค์จึงตรัสว่า
"จงดูแลลูกแกะของเราเถิด" นั่นเป็นการมอบหมายให้เปโตรหรือปีเตอร์เป็นหัวหน้าพระศาสนาจักร และที่
ใกล้ๆ กันนั้นเองก็เป็นบริเวณที่พระเยซูเคยแสดงปาฏิหาริย์ หลังจากที่มีผู้คนติดตามพระองค์ไปฟังพระองค์
เทศน์สอนประมาณห้าพันคน พระองค์เสก ขนมปัง 5 ก้อน และ ปลา 2 ตัว ให้พอเลี้ยงคน 5 พันคนนั้น แล้ว
ยังมีขนมปังเหลืออีกหลายตะกร้า
จุดสุดท้ายที่ไกด์ร่างใหญ่ชี้ให้ชมก็คือ Mount of Beatitudes ภูเขาแห่งบรมสุข สถานที่พระเยซูทรง
เลือกศิษย์เอกทั้ง 12 คน และได้เทศน์กัณฑ์สำคัญว่าด้วยเรื่องบรมสุข 8 ประการ ดังนี้ ผู้ที่สำนึกว่าตนมีความ
บกพร่องในด้านจิตวิญญาณ ย่อมเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาแล้ว ผู้มีความเศร้าโศก ย่อมเป็นสุข
เพราะพระเจ้าจะปลอบประโลมเขา ผู้ที่มีความสุภาพนอบน้อม ย่อมเป็นสุข เพราะโลกทั้งโลกจะเป็นของเขา
ผู้ที่ใฝ่หาความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับอย่างแน่นอน ผู้ที่มีความเมตตากรุณา ย่อมเป็นสุข
เพราะเขาจะได้รับความเมตตากรุณาเป็นการตอบแทน ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่อง ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้
เห็นพระเจ้า ผู้ที่มุ่งมั่นก่อให้เกิดสันติสุข ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า ผู้ที่ถูกข่มเหง
คะเนงร้าย เพราะเหตุแห่งการทำคุณงามความดีตามครรลองของพระเจ้า ย่อมเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์
เป็นของเขาแล้ว
แล้วนกเหล็ก DASH 7 ก็ร่อนลงริมทะเลสาบกาลิลีอย่างปลอดภัย
ค่ำวันนี้ ทางเจ้าภาพก็พาพวกเราไปเลี้ยงบริเวณสวนสัตว์ใหญ่ ขับกล่อมด้วยนักร้องยอดนิยมแห่งกาลิลี
ร้องได้ทั้งภาษายิว อังกฤษ สเปน และโปรตุเกส
วันที่ 15 ต.ค. ช่วงเช้าเป็นรายการแข่งรถ RALLY แล้วเลี้ยงอาหารทะเล เนื่องจากรู้สึกเจียมตัวในสังขาร
จึงไม่หาญสู้กับหนุ่มนักซิ่งทั้งหลาย เลยถือโอกาสชวนคุณเปรมจิต บุญวงศ์ แห่ง THAI Star Air Co. Ltd. และ
คุณ Alma Flor INGALLA ตัวแทนบริษัทนำเที่ยวแห่งฟิลิปปินส์ไปทานอาหารไทยที่ร้าน Pagoda ซึ่งบริการ
โดยคนไทย ทั้งนี้เพราะเอียนอาหารฝรั่งเหลือทน พอตกเย็นตัวแทนชาวเกาหลี ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ต่างมา
เล่าถึงการแข่ง RALLY ว่า มิใช่การแข่งจริงจังอะไรนัก เพียงแต่เป็นการไปชมเมืองเท่านั้น นับเป็นการพลาด
โอกาสชมไปหลายเมืองทีเดียว
ตอนค่ำวันนี้ ก็มีรายการ Work Shops ที่บริษัทนำเที่ยวต่างๆ ของอิสราเอล จัดบูธเล็กๆ เพื่อเผยแพร่
ประชาสัมพันธ์ให้แขกทั้งหลายได้รู้รายละเอียดว่า เขามีอะไรที่ให้บริการแก่เราได้บ้าง รายการนี้นับว่าได้รับ
ของแจกเพียบ เช่น ทีเชิ้ต หมวก ปากกา แผนที่ โปสเตอร์ ปฏิทิน ฯลฯ
แล้วจบวันนี้ด้วยการเลี้ยงบริเวณสนามของโรงแรม GAI Beach ริมทะเลสาบกาลิลี โดยสมาคมโรงแรม
และบริษัทนำเที่ยวด้วยอาหารทะเลสมบูรณ์แบบ
วันสุดท้ายที่ 16 ต.ค. รายการซาฟารีหลากรส เริ่มด้วยลงเรือท่องทะเลสาบกาลิลี ชมการสาธิตจับปลา
แบบเดียวกับที่เซนต์ปีเตอร์ เคยจับแถวทะเลสาบนี้ ภายในเรือก็มีการร้องรำทำเพลงกันเป็นที่สนุกสนาน แล้ว
จู่ๆ ก็เกิดพายุ ฟ้าร้อง และฝนตกอย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติในทะเลสาบกาลิลี เช่น ครั้งหนึ่ง
พระเยซูนั่งเรือกับสาวกแล้วม่อยหลับไป ได้เกิดพายุจะพาเรือล่ม พวกสานุศิษย์จึงร้องเรียกอาจารย์เสียงขรม
พอพระองค์ตื่นก็บังคับลมให้สงบได้ในทันใด แล้วพระองค์จึงตำหนิพวกสาวกว่า "พวกเจ้าช่างมีความเชื่อน้อย
เหลือเกิน! (อาจารย์อยู่ทั้งคน)" เมื่อขึ้นจากเรือแล้ว ก็ไปขึ้นรถจี๊ปบุกป่าขึ้นเขา ไปชมต้นน้ำของแม่น้ำจอร์แดน
ก่อนไหลลงสู่ทะเลสาบกาลิลี แล้วไปชมที่ราบสูงโกลาน ซึ่งมีข่าวว่าอิสราเอลยินดีจะยอมคืนให้ซีเรีย
ตามที่ซีเรีย เรียกร้องก่อนเจรจาสันติภาพ แต่จะขอให้อเมริกาเป็นผู้ดูแล
ช่วงบ่ายของวันนี้ พวกเราได้ไปร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพระหว่างจอร์แดนกับ
อิสราเอลเป็นการล่วงหน้า พิธีเปิดจริงเป็นทางการจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยมีรัฐมนตรีกระทรวง
การท่องเที่ยว MR. Uzi Baram เป็นประธาน การที่ได้จัดให้มีพิธีเปิดสะพานมิตรกาพครั้งนี้ ก็เพื่อประชา
สัมพันธ์ให้โลกรู้ โดยผ่านตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจากทั่วโลก จะได้ไปเผยแพร่ให้รู้ว่า เดี๋ยวนี้ยิวเป็นมิตร
กับจอร์แดนแล้ว
ปิดท้ายรายการด้วย Farewell Party สุดหรู ที่โรงแรม River Jordan มีรายการเต้นรำเบิกโรง
แบบโมเดิร์นแดนซ์ของเด็กๆ หน้าตาน่ารัก อาหารมีหลาย Courses เหลือเกิน ที่แปลกก็คือก่อนจะถึง
จานหลัก จะเสิร์ฟ ซุป แล้ว ตับบด แล้วเสิร์ฟไอศครีมก่อนจานหลัก แล้วตบท้ายด้วยเค้กและผลไม้ระหว่าง
รับประทานอาหาร ก็มีการยืดเส้นยืดสายด้วยลีลาศ สำหรับหนุ่มใหญ่ สาวใหญ่วัยตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปก็มีพวก
วอลซ์ แทงโก้ ไปจนถึงช่าช่าช่า แล้วรายการสัมมนาก็จบลงด้วยสุนทรพจน์ของเจ้าภาพและตัวแทน "แขก"
จาก 27 ประเทศด้วยความชื่นมื่น
เพื่อนร่วมสัมมนาที่พักโรงแรมเดียวกันก็มี เกาหลี 1 คน อินเดีย 4 คน ฟิลิปปินส์ 2 คน การพูดคุยกัน
ระหว่างรับประทานอาหารส่วนใหญ่ก็มักจะคุยกันถึงเรื่องธุรกิจ การงานต่างๆ แล้วผมจะวกเข้าเรื่องศาสนา
ในความเชื่อของการสิ้นยุคของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร
MR. WON KYOUNGSIK แห่ง SEOUL TRAVEL นับถือศาสนาคริสต์ (โปรเตสแตนต์) เชื่อว่าจะถึง
กาลสิ้นยุคอีกราว 30 ปี เป็นเรื่องของมนุษย์ที่สร้างปัญหาให้โลก เช่น ปล่อยให้เกิด Pollution ชิงความเป็น
ใหญ่ทางเศรษฐกิจ แล้วสงครามใหญ่ก็จะตามมา
MR. Padmajah Asher แห่ง Omni Trade นับถือศาสนาฮินดู บอกว่าเรากำลังอยู่ในกลียุค
วันสิ้นยุคควรจะอยู่ปี ค.ศ. 2000
MR. Eduardo Samonte แห่ง Christhink Int นับถือศาสนาคริสต์ (ที่เพิ่งปฏิรูปใหม่จากนิกายคาทอลิก)
เคยเป็นคอมมิวนิสต์มาก่อน แต่ได้กลับใจแล้ว ได้พบสัจธรรมในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ บอกว่า
เราทุกคนสามารถแก้ปัญหาชีวิตทุกอย่าง ด้วยพระวรสารของพระเยซูคริสต์ เชื่อว่าวันที่พระเยซูจะเสด็จมา
ครั้งที่ 2 จะเลยปี 2000 เล็กน้อย
MR. Judar Samuel เป็น Marketing Manager สายการบินเอลอัล บอมเบย์ อินเดีย นับถือศาสนายิว
เขาเล่าว่า บรรพบุรุษของเขาอพยพจากอิสราเอล คราวถูกเนรเทศไปอยู่บาบิโลน เมื่อ 2500 ปีที่แล้ว เรือเกิดล่ม
แล้วขึ้นบกตั้งรกรากที่บอมเบย์ เชื่อว่าพระเมสสิอาห์ จะปรากฏตัวตอนโลกสับสนวุ่นวาย แล้วท่านจะนำสันติภาพ
มาสู่มนุษยชาติ คนยิวที่ดีที่เสียชีวิตไปแล้วจะฟื้นคืนชีพ แล้วท่านจะครองราชย์อย่างสันติตลอดไป

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ตอบกลับโพส