ที่มาของ...(ลองอ่านดูๆ)
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 01, 2005 8:20 pm
จากแฟ้มคดีประวัติศาสตร์........ ของกรมตำรวจที่กล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้
เรื่องราวของสองผู้ยิ่งใหญ่ ในวงการธุรกิจที่ต่อสู้หักเหลี่ยมกันมา
ตั้งแต่ชั้นอนุบาลทั้งเรื่องเรียน
ดช.ทองชุบ สอบได้ที่1 และ ที่ 2 สลับกันกับ ดช.ทองเปาในแต่ละปี
เรื่องกีฬาดช.ทองเปา ได้ ตำแหน่ง ดาว ซัลโว
แต่ ดช.ทองชุบ ได้นักเตะยอดเยี่ยม
ตอนชั้นประถม เรื่องรักนายทองเปา มีแฟนชื่อ บรีส
ส่วนทองชุบ มีแฟนชื่อ โอโม ขาว สวยสะอาดและ หอมไม่แพ้กัน
ในตอนมัธยมปลาย หลังเรียนจบ ออกมา ก็ทำธุรกิจแข่งขันกันมาโดยตลอด
เริ่มต้นจาก นายทองชุบ ก่อตั้งโรงงานผลิต ดินสอ
ส่วน นายทองเปา ก็ก่อตั้ง โรงงานผลิต ยางลบ
นายทองชุบ เห็นว่า ยางลบ ขายดีกว่า ดินสอ มาก
เพราะ คนชอบ ลบ และเขียนใหม่อยู่เสมอ
นายทองชุบ จึงหยุด ผลิต ดินสอ และ หันมาผลิต กระดาษ
ทำให้ มีกระดาษ มากพอไม่ต้องลบ เพื่อ นำมาใช้ใหม่ ทำให้ ยางลบ เลยขายไม่ออก
ทองเปา ต้อง แก้เกมส์ โดยหันมาผลิต กรรไกร
เพราะเห็นว่า กระดาษ ของ นายทองชุบ ใหญ่เกินไป
จึงใช้กรรไกรตัดกระดาษแบ่งได้หลายแผ่น โดยไม่ต้องไปซื้อใหม่
กรรไกรของนายทองเปาขายดีมาก ส่วนกระดาษ ก็ ขายได้น้อยลง
นายทองชุบวางแผนขั้นสุดท้าย เปิดโรงงานรับซื้อของเก่า
และโรงงานผลิตค้อนไปพร้อมๆกันและ ปิดกิจการกระดาษไว้ชั่วคราว
ทำให้กระดาษในท้องตลาดหมดลง กรรไกรของนายทองเปา ก็ไม่มีประโยชน์
คนจึงไปซื้อค้อนของนายทองชุบ มาทุบกรรไกร และนำไปขายเป็นของเก่ากับนายทองชุบ
แผนการขั้นสุดยอดครั้งนี้ ถึงขั้นนายทองเปาหมดตัว
แต่นายทองเปาไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ นายทองเปาดัดแปลงกรรไกรชิ้นสุดท้าย
ให้เป็นปืนสั้นแล้วนำมายิงนายทองชุบจนถึงแก่ความตาย
สุดท้าย นายทองเปา ก็ถูกตำรวจจับเข้าตารางพร้อมอาวุธคามือ
เป็นปืนพกที่ดัดแปลงมาจากกรรไกร นั่นเอง
เรื่อง ของนายทองเปา ยิง นายทองชุบ ถูกเล่าขาน
และใช้ในการฝึกทักษะ การชิงไหวพริบมาจนถึงปัจจุบัน
แต่คนสมัยใหม่มักเรียกสั้น ๆ ว่า
"เปายิงชุบ" จนถึงทุกวันนี้เอย
เรื่องราวของสองผู้ยิ่งใหญ่ ในวงการธุรกิจที่ต่อสู้หักเหลี่ยมกันมา
ตั้งแต่ชั้นอนุบาลทั้งเรื่องเรียน
ดช.ทองชุบ สอบได้ที่1 และ ที่ 2 สลับกันกับ ดช.ทองเปาในแต่ละปี
เรื่องกีฬาดช.ทองเปา ได้ ตำแหน่ง ดาว ซัลโว
แต่ ดช.ทองชุบ ได้นักเตะยอดเยี่ยม
ตอนชั้นประถม เรื่องรักนายทองเปา มีแฟนชื่อ บรีส
ส่วนทองชุบ มีแฟนชื่อ โอโม ขาว สวยสะอาดและ หอมไม่แพ้กัน
ในตอนมัธยมปลาย หลังเรียนจบ ออกมา ก็ทำธุรกิจแข่งขันกันมาโดยตลอด
เริ่มต้นจาก นายทองชุบ ก่อตั้งโรงงานผลิต ดินสอ
ส่วน นายทองเปา ก็ก่อตั้ง โรงงานผลิต ยางลบ
นายทองชุบ เห็นว่า ยางลบ ขายดีกว่า ดินสอ มาก
เพราะ คนชอบ ลบ และเขียนใหม่อยู่เสมอ
นายทองชุบ จึงหยุด ผลิต ดินสอ และ หันมาผลิต กระดาษ
ทำให้ มีกระดาษ มากพอไม่ต้องลบ เพื่อ นำมาใช้ใหม่ ทำให้ ยางลบ เลยขายไม่ออก
ทองเปา ต้อง แก้เกมส์ โดยหันมาผลิต กรรไกร
เพราะเห็นว่า กระดาษ ของ นายทองชุบ ใหญ่เกินไป
จึงใช้กรรไกรตัดกระดาษแบ่งได้หลายแผ่น โดยไม่ต้องไปซื้อใหม่
กรรไกรของนายทองเปาขายดีมาก ส่วนกระดาษ ก็ ขายได้น้อยลง
นายทองชุบวางแผนขั้นสุดท้าย เปิดโรงงานรับซื้อของเก่า
และโรงงานผลิตค้อนไปพร้อมๆกันและ ปิดกิจการกระดาษไว้ชั่วคราว
ทำให้กระดาษในท้องตลาดหมดลง กรรไกรของนายทองเปา ก็ไม่มีประโยชน์
คนจึงไปซื้อค้อนของนายทองชุบ มาทุบกรรไกร และนำไปขายเป็นของเก่ากับนายทองชุบ
แผนการขั้นสุดยอดครั้งนี้ ถึงขั้นนายทองเปาหมดตัว
แต่นายทองเปาไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ นายทองเปาดัดแปลงกรรไกรชิ้นสุดท้าย
ให้เป็นปืนสั้นแล้วนำมายิงนายทองชุบจนถึงแก่ความตาย
สุดท้าย นายทองเปา ก็ถูกตำรวจจับเข้าตารางพร้อมอาวุธคามือ
เป็นปืนพกที่ดัดแปลงมาจากกรรไกร นั่นเอง
เรื่อง ของนายทองเปา ยิง นายทองชุบ ถูกเล่าขาน
และใช้ในการฝึกทักษะ การชิงไหวพริบมาจนถึงปัจจุบัน
แต่คนสมัยใหม่มักเรียกสั้น ๆ ว่า
"เปายิงชุบ" จนถึงทุกวันนี้เอย