(4)”ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส “ (46-60 )ตอนจบ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 4:57 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ ( 46 )👈

🔥--- คำทำนายของบรรดานักบุญตอนสิ้นโลก [A] ---🔥

หลังจากที่เราได้เห็นคำทำนายของนอสตราดามุสผู้เป็นมนุษย์ปุถุชนมามากต่อมากแล้ว ตอนนี้ให้
เรามาดูคำทำนายของบรรดานักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ว่า ในการบำเพ็ญภาวนาติดต่อกับพระเจ้า ก็คงจะอยู่
ในญาณสมาธิชั้นสูงส่ง จนกระทั่งสามารถมองเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคตในญาณนิมิตของท่าน
เพราะอย่างน้อยคงได้รับพรพิเศษจากพระเจ้ามากกว่านอสตราดามุส คำทำนายต่าง ๆ จากบรรดานักบุญ
ซึ่งท่านได้รับการดลใจจากพระเจ้า หรือได้เห็นใน "ญาณนิมิต" ซึ่งถ้าเราสังเกตดี ๆ ส่วนใหญ่จะตรงกับ
คำทำนายของนอสตราดามุส
ค.ศ. 235 ฮิปโปลีทุส กล่าวว่า มหาราชฝรั่งเศสซึ่งจะปราบตะวันออกกลางจะมาราวตอนสิ้นโลก
ค.ศ. 500 นักบญคาทาลาดุส เมืองทาเรนทีโน ว่ามหาราชระรบจนถึงอายุ 40 ปี กษัตริย์เชี้อพระวงศ์
ดอกลิลลี่จะรวมทัพพลังใหญ่ขับไล่พวกทรราชไปจากอาณาจักร แล้วปราบดาภิเษกที่นั่น พระองค์จะปราบ
โคลซิส, ไซปรัส, เตอรกี และพวกป่าเถื่อน ต่อมาทั้งหมดจะหันมานมัสการผู้ตรึงกางเขนองค์เดียวเท่านั้น
ที่สุดพระองค์จะถอดมงกุฎออกที่เยรูซาเล็ม
ค.ศ. 469 - 542  นักบุญซีซาร์ เมืองอาร์เลส เมื่อทั้งโลกโดยเฉพาะฝรั่งเศส ในจังหวัดต่าง ๆ ทาง
ภาคเหนือ ตะวันออก ที่หนักกว่าเพื่อนก็ที่ลอเรนซ์รับชัมปันจะต้องอดอยากทุกข์ระทม แล้วเจ้าชายองค์หนึ่ง
ซึ่งถูกเนรเทศตั้งแต่สมัยยังเด็กจะยื่นมือมาช่วย และกู้มงกุฎดอกลิลลี่ไว้ เจ้าชายนี้จะขยายอาณาเขตไปทั่ว
แผ่นภพ ขณะเดียวกันจะมีโป๊ปอัจฉริยะเยี่ยมยอดสมบูรณ์ทุกด้าน โป๊ปนี้จะได้มหาราชบุรุษศรัทธา แตกหน่อ
จากกษัตริย์ฝรั่งเศสเชื้อพระวงศ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นคู่คิดปฏิรูปโลก ร่วมกับเจ้านายจำนวนมาก และประเทศที่ดำเนิน
ชีวิตผิด ๆ พลาด ๆ ทารุณเหี้ยมโหดจะกลับใจ สันติภาพจะครองมนุษย์ได้อยู่หลายปี พระเจ้าทรงระงับพิโรธ
เพราะการสำนึกผิด ประพฤติชอบ กอบความดี หลายประเทศจะออกกฎหมายร่วม มีความเชื่อเดียว ศาสนาเดียว
ทุกประเทศจะรับรู้สันตะสำนักในโรม และนับถือพระสันตะปาปา แต่จากนั้นชั่วเวลาไม่เท่าไรคนจะถอยศรัทธา
ใจยิ่งโหดร้าย ศีลธรรมเสื่อม รุนแรงกว่าเก่า แอนตี้ไคร้สต์จะกดขี่ข่มเหงมนุษย์อย่างทารุณ ในที่สุด...ก็สิ้นโลก
ค.ศ . 856 บุญราศี ราบานุส เมารุส บรรดาปราชญ์ชั้นยอดของเรา ลงความเห็นประกาศว่า ตอนปลาย
อายุขัยของโลก หน่อกษัตริย์ฝรั่งเศสองค์หนึ่งจะครองอาณาจักรโรมัน และบอกว่าจะเป็นองค์สุดท้ายของฝรั่งเศส
ค.ศ. 992 มุนี อัดโซ อาจารย์บางท่านสอนว่ากษัตริย์ชาติแฟรงค์จะครองอาณาจักรโรมัน ผู้นี้จะเป็นคนสำคัญ
และสุดท้าย หลังจากครองอาณาจักรรุ่งเรืองมาแล้ว จะไปจบชีวิตที่เยรูซาเล็ม พระองค์จะวางคทา ถอดมงกุฎไว้
บนยอดเขามะกอก นั่นก็คืออวสานของอาณาจักรโรมัน จากนั้นปรปักษ์พระคริสต์จะมาทันที
มีเขียนไว้ในบันทึกของนักบุญซีริลโล (Cirllo) ในปี ค.ศ. 869 ว่า "ก่อนที่พระศาสนจักรจะได้รับการฟื้นฟู
พระเป็นเจ้าจะยอมให้ตำแหน่งของพระสันตะปาปาว่างลง และจักรพรรดิองค์หนึ่งของเยอรมันจะนำ
พระสันตะปาปาองค์หนึ่งมานั่งในตำแหน่ง ครั้นแล้วหลังจากที่กลุ่มคนชั่วร้ายถูกถอดเขี้ยวเล็บแล้ว ผู้ศักดิ์สิทธิ์
ผู้หนึ่งจะเกิดขึ้น เพื่อสงบศึกระหว่างนกอินทรีและพระศาสนจักร"
และในทำนองเดียวกัน นักบุญบริจิต ก็ได้บันทึกไว้ว่า "พระศาสนจักรจะถูกเหยียบย่ำ จะเกิดมหันตภัย
กับนาวาของนักบุญเปโตรและคณะสงฆ์ ขนาดที่ว่าเปโตร (พระสันตะปาปา) จะต้องหนี เพื่อจะได้ไม่ตกในความไ
ม่บริสุทธิ์ และในความเป็นทาส" แล้วท่านนักบุญก็กล่าวต่อไปว่า ในบริเวณใกล้ ๆ เมืองเรโน (Reno) และบริเวณ
ชายทะเลตะวันตก จะมีการกระทำอันโง่เขลาของหัวหน้าใหม่ของพระศาสนจักร เมื่อเขาจะประณามพระสันตะปาปา
ในขณะเดียวกันที่พวกเขาจะบุกพระราชสำนัก และชาวกรุงโรมกำลังโงนเงนในความเชื่อศรัทธา ซึ่งในอดีตที่
ผ่านมาไม่มีใครเคยได้ยินสิ่งเหล่านี้เลย จะเป็นช่วงเวลาที่พระศาสนจักรของนักบุญเปโตร และพระชั้นผู้ใหญ่
จะประสบภยันตรายใหญ่หลวง"
"จักรพรรดิเยอรมันจะทำให้พระศาสนาและพระศาสนจักรคาทอลิกต้องทุกข์ทรมาน จะทำให้อิตาลีอยู่
ในภาวะคับขัน และจะรื้อปราสาทอัครเทวคามีคาเอล (Catel Sant' Angelo) ฝรั่งเศสจะทุกข์หนัก พระจักรพรรดิ
จะผูกมิตรกับพวกตะวันออกและพวกใต้ ด้วยความทุกข์เข็ญเช่นนี้ พระสันตะปาปาจะสิ้นพระชนม์ และแล้ว
ชุมพาบาลเทวดา (พระสันตะปาปา) จะปรากฏโฉม และจักรพรรดิเยอรมันจะถูกสยบโดย "อัศวินม้าขาว" -
มหาราชผู้เกรียงไกร
นักบุญเชซาเร ซึ่งเกิดในปี ค.ศ. 1013 ได้ทำนายไว้ว่าวันหนึ่งจะเกิดสงครามใหญ่ กรุงปารีส เมืองบอรโด
เมืองมาเซย์จะถูกทำลายอย่างแหลกลาญ แล้วจะมีมหาราชผู้หนึ่งกับพระสันตะปาปา จะร่วมกันปฏิรูปศาสนา
และบ้านเมืองให้คงสภาพเดิม
โหราจารผู้มีชื่อชาวอังกฤษผู้หนึ่งชื่อ เมอร์ลีน ได้ทำนายไว้ว่า จะมีมหาราชชาวแฟรงค์จะทรงนำองค์
พระสันตะปาปากลับคืนสู่อำนาจ และยังทำนายต่อไปว่า หลังสงครามใหญ่ ประเทศฝรั่งเศสจะเปลี่ยนแปลง
การปกครองไปเป็นระบบกษัตริย์อีกครั้งหนึ่ง
ศตวรรษที่ 12 จดหมายเหตุ มัคเดบรูค : เลือดของชาร์ลส์มหาราชจะเถลิงราชย์เป็นจักรพรรดิชื่อ
ชาร์ลส์ ครองทั่วยุโรป ทรัพย์สินที่พระศาสนจักรสูญเสียไปจะได้กลับคืนมาหมด ราศีของอาณาจักรโบราณ
จะรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง
ศตวรรษที่ 12 เอสทิงเกอร์ เยอรมัน : ในวาระสุดท้าย เจ้าชายองค์หนึ่งจากหน่อจักรพรรดิชาร์ลส์จะ
กู้แผ่นดินสัญญาคืนมา และปฏิรูปพระศาสนจักร พระองค์จะเป็นจักรพรรรดิของยุโรป
ศตวรรษที่ 12 สังฆราชคริสตีอานอส อาเจดา : ในศตวรรษที่ 20 สงครามจะเกิด ทั้งรุนแรงและยืดเยื้อ
หลายจังหวัดไม่มีผู้คนอาศัย ประเทศต่าง ๆ ต้องตกอยู่ในความสับสนอลเวง ผืนแผ่นดินจะรกร้างว่างเปล่า
ชนชั้นสูงจะถูกสังหารเป็นการใหญ่ มือขวาของโลกจะกลัวมือซ้าย เหนือชนะใต้
ศตวรรษที่ 14 นักบุญจอห์น แห่งเคลฟต์ร้อค ท่านว่า 20 ศตวรรษหลังจากพระเยซูประสูติ ถึงเวรของ
อ้ายสัตว์ร้ายมาเกิดเป็นคน ราวปีคริสตศักราช 2000 แอนตี้ไคร้สต์จะประกาศตัวให้โลกรู้
ศตวรรษที่ 19 ซิสเตอร์บูกียอง : อวสานของโลกไม่สิ้นในศตวรรษที่ 19 แต่จะจบลงในศตวรรษที่ 20 แน่
นักบุญอันนา มารีอา ไทจิ เสียชีวิตเมื่อปี 1837 เธอพยากรณ์ว่า ในศตวรรษของเราจะเกิดสงครามโลก 2 ครั้ง
อีกครั้งจะมาราวใกล้อวสานของโลก เธอว่าฟ้าจะลงโทษมนุษย์ให้โลกมืด 3 วัน 3 คืน
คราวยังมีชีวิตบรรดาคาร์ดินัล สังฆราช เจ้านายใหญ่โต ตลอดจนราชินีหลายพระองค์ เสด็จมาเยี่ยม
บ้านกระจอก ๆ ของเธอถ่อมตัวขอคำปรึกษา
ขอนำพยากรณ์ของเธอพาดพิงถึงยุคของเรามาให้ขบคิดกันดังนี้ "พระเจ้าจะทำโทษมนุษย์สองวิธี
: หนึ่ง ด้วยน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง คือ สงคราม ปฏิวัติ จลาจล และอาเพศเหตุภัยนานัปประการ
:สอง จากฟากฟ้า : ความมืดจะครอบคลุมโลกมืดสามวันสามคืน มองอะไรไม่เห็น อากาศเป็นพิษ ระหว่างมืดนี้
ไฟประดิษฐ์ทุกชนิดจะใช้การไม่ได้หมด นอกจากเปลวเทียนเสกอย่างเดียว ตลอดสามวันสามคืน ให้ทุกคน
อยู่แต่ในบ้านสวดสายประคำ ขอเมตตาจากพระเป็นเจ้า คนชั่ว คนอันธพาล ศัตรูศาสนาจะตายเป็นเบือ
เมื่อมืด 3 คืนผ่านไปแล้ว นักบุญเปโตร และนักบุญเปาโลจากสวรรค์ลงมาเทศนาประชาโลก แต่งตั้งโป๊ปองค์ใหม่
โดยฉายรัศมีของท่านทั้งสองพุ่งไปยังคาร์ดินัลองค์ที่จะเป็น พระศาสนาคาทอลิกก็จะแพร่ไปทั่วโลก ประเทศ
ทั้งหลายหันมารวมเข้ากับพระศาสนจักรแต่ชั่วระยะสั้น ก่อนแอนตี้ไคร้สต์จะครองโลก การกลับเข้าอ้อมอก
เป็นที่ปลื้มปีติยิ่ง คนรอดตาย (จากภัยมืดสามวันนั้น) จะผันชีวิตปฏิบัติถูกศีลธรรม พวกรัสเซีย อังกฤษ จีน
จะเข้ามารู้จักพระเป็นเจ้านับจำนวนไม่ถ้วน
บุญราศีภคินีแอมเมอริก เป็นชีคณะออคัสตีเนียน เกิดในประเทศเยอรมัน ปี 1774 ตายในปี 1824 เธอ
กล่าวว่า : ฉันได้เห็นองค์การลับวางแผนค่อย ๆ ทำลายพระวิหารนักบุญเปโตรอีกครั้งหนึ่ง ขณะพายุโหมพัด
เอาพังพินาศ เมื่อทุกข์ภัยถึงขีดสุดแล้วฉันยังเห็นความช่วยเหลือตามมาด้วย ฉันเห็นพระแม่มารีพรหมจารีย์
ประจักษ์มา ณ วิหาร กางเสื้อของท่านคลุมมันไว้ และทันทีได้เห็นโป๊ปองค์หนึ่ง สุภาพ หนักแน่นมาก
มีการสร้างวิหารขึ้นใหม่สูงเทียมฟ้า
12 กรกฎาคม 1820 : ฉันได้นิมิตถึงจักรพรรดิที่ศักดิ์สิทธิ์ เฮนรี ฉันเห็นเขาคุกเข่าอยู่คนดียวที่เชิงแท่น
กลางของวัดใหญ่ สวยงาม เวลากลางคืน และเห็นพระแม่มารีเสด็จมาองค์เดียว ทรงปูพระแท่นด้วยผ้าผืนแดง
บุลินินขาว แล้ววางหนังสือฝังอัญมณีเล่มหนึ่งบนนั้น ทรงจุดเทียน สักครู่ พระผู้ไถ่เอง ในอาภรณ์สงฆ์ถือกาลิกส์
คลุมผ้าออกมา มิสซาสั้นนิดเดียว พอเสร็จ แม่พระก็เข้ามาใกล้เฮนรี (จักรพรรดิ) ยื่นพระหัตถ์ขวาออกรับรู้ใน
ความบริสุทธิ์ของเขา แล้วทรงเตือนอย่าได้เปลี่ยนใจ ต่อนั้นก็เห็นเทวดาองค์หนึ่งมาจับเส้นบั้นเอวเขา เหมือน
ทำแก่ยากอบ เฮนรี ร้องโอดโอย เขาเลยต้องเดินกะโผลกกะเผลก ตั้งแต่นั้นมา
วิจารณ์ : เฮนรี นี้คือมหาราชซึ่งพระเลือกไว้ให้ฟื้นฟูทุกอย่างในพระศาสนจักร คำทำนายแห่งอื่นยังบอก
ด้วยว่า เขาจะเป็นคนพิการ พระแม่มารีทรงเตือนเขาไม่ให้เปลี่ยนใจ เพราะจะต้องเอาชนะศัตรูของพระศาสนา
สิงหาคม ถึง กันยายน 1820 : ฉันได้เห็นมาร์ตีร์มากมายไม่ใช่เดี๋ยวนี้ แต่ในอนาคต เห็นองค์การลับกำลัง
มุ่งทำลายพระวิหารใหญ่อย่างไปลดละ และเห็นสัตว์ร้ายขึ้นจากทะเลอยู่เคียงข้างพวกเขา ทั่วโลกไม่ว่าคนดี
คนศรัทธา เป็นต้น พระสงฆ์องค์เจ้าพากันอกสั่นขวัญแขวน โดนรวบตัวยัดเข้ากรงขัง รู้สึกว่าสักวัน พวกเขาต้อง
เป็นมาร์ตีร์
เมื่อพระวิหารส่วนใหญ่ ถูกองค์การลับโค่นลง เหลือไว้แต่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์กับแท่น แล้วฉันเห็นคนของมัน
พาสัตว์ร้ายเข้ามา พอดีเจอกุลสตรีท่าทางกำลังท้องแก่ เพราะดูเธอเดินอุ้ยอ้าย พวกนั้นตกใจ อ้ายสัตว์ร้ายก้าว
ขาไม่ออก มันยืดคอหมายขย้ำเธอ สตรีกลับหลังหัน กราบพระแท่นจนศีรษะจรดพื้น ทันทีอ้ายสัตว์ร้ายรีบเผ่น
ลงทะเล ส่วนศัตรูหนีกันอุตลุด แล้วฉันเห็นกองทัพใหญ่เคลื่อนรี้พลมาแต่ไกล ชายคนหนึ่งขี่ม้าขาวออกนำหน้า
ปลดปล่อยพวกนักโทษให้เข้ามาสมทบตามล่าศัตรู แล้วเร่งสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ทันที งามสง่ากว่าเก่า
วิจารณ์ : การบรรยายถึงสัตว์ร้ายจากทะเล สตรีตั้งครรภ์นี้ ตรงตามที่หนังสือวิวรณ์พูดไว้ คนสนิทของ
ซิสเตอร์เอมเมอริกยืนยันว่า เธอไม่เคยได้อ่านหนังสือวิวรณ์เลย ตอนนี้ สตรี หมายถึงพระศาสนจักร ท้องแก่
จวนคลอดบุตร บุตรคือโป๊ป (ผู้รับเลือก) จะปกครองด้วยแส้เหล็ก (วิวรณ์ 12:5) และอาการปวดของเธอ ได้แก่
การถูกรังแก ข่มเหง ขั้นสุดท้ายก่อนมีสันติภาพ กองทัพเป็นของเฮนรี เจ้าชายคาทอลิกผู้ยิ่งใหญ่ คำทำนาย
หลายแห่งว่า เขาขี่ม้าขาว อาจเข้าใจตามคำได้เพราะเวลานั้นยุโรปจะพังพินาศหมด ไม่มีพาหนะอื่นใช้
7 ตุลาคม 1820 : ขณะนักบุญฟรังซิสกับนักบุญอีกองค์เดินผ่านโรม เห็นไฟไหม้พระราชวังหลังหนึ่ง
ตั้งแต่ยอดจนสุดราก ฉันตกใจมาก คนในนั้นคงต้องตายหมดแน่เพราะไม่มีใครช่วยดับ พอมาใกล้ ๆ ไฟสงบ
เห็นตึกเกรียมทั้งหลัง เราเข้าไปในห้องโถงจำนวนหนึ่ง (ไม่ไหม้ไฟ) แล้วที่สุดก็เจอพระสันตะปาปา พระองค์ประทับ
ในเงามืด บรรทมบนเก้าอี้ท้าวแขนตัวใหญ่ ทรงพระประชวรมาก พลังอ่อนเปลี้ย ไปไหนไม่ไหว บรรดาสงฆ์วงใน
ดูไม่น่าไว้วางใจ ขาดความเลื่อมใส ฉันไม่ชอบเอาเสียเลย ฉันทูลโป๊ปถึงบรรดาสังฆราชซึ่งจะต้องเลือกขึ้นเร็ว ๆ นี้
และบอกพระองค์จะต้องไม่ไปจากโรม ขืนไปเรื่องจะยุ่งกันใหญ่ ฝ่ายพระองค์คิดว่าเลี่ยงไม่ได้ควรไปดีกว่า
จะกู้อะไรไว้ได้หลายอย่าง เว้นแต่พระองค์เอง พระองค์เลือกเอาทางไป เพราะถูกบังคับอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
พระวิหารถูกตัดเชือกเด็ดขาด รกร้างเงียบเหงา เห็นแล้วสังเวชใจนักหนา มีแต่เกลียด ทรยศ หักหลัง
ขึ้งเคียด อลเวงและบอดมืดทุกหนทุกแห่ง โอ นคร! นคร! อะไรมาขู่เข็ญเจ้า? ระวัง ! วาตภัยกำลังมา

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 9:24 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 7:26 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (47)👈

🔥--- คำทำนายของบรรดานักบุญตอนสิ้นโลก ---🔥
          นักบุญโทมัส เด อากวิโน นักปราชญ์ของพระศาสนจักรอธิบายอรรถรสในจดหมายฉบับที่ 2 ของ
เปาโลถึงชาวเทสะโลนิก ทำนายถึงสาเหตุของการทิ้งศาสนาว่าจะเป็นการปฏิวัติทั่ว ๆ ไป เพื่อค้าน
การเมืองและศาสนา จะมีขึ้นก่อนปรปักษ์พระคริสต์มาเล็กน้อย
นักบุญเมโธดิอุส (ค.ศ. 885) : โบสถ์วิหารจะถูกแปรเป็นซ่องโจร คอกสัตว์ ส้วม ชี สงฆ์ นักบวชจะ
ถูกข่มขืน ละเมิดวินัย ทรมาน สังหารโหด พระแท่นจะถูกทุบวินาศ พระธาตุจะสูญหาย สังฆาภรณ์จะถูก
รื้อออกใช้เต้นงิ้ว เล่นละคร ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นก่อนแอนตี้ไคร้สต์มา
นักบุญปีโอที่ 10 (ค.ศ. 1903 - 1914) : เราเห็นผู้สืบธรรมาสน์ของเราเดินข้ามศพพี่น้องหนีไป
พระองค์จะหลบซ่อนตัวอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง พอได้พักผ่อนชั่วเวลาเล็กน้อยแล้ว ต่อมาจะถูกทำทารุณจนสิ้น
พระชนม์ เดี๋ยวนี้ความชั่วในโลกเริ่มฟักตัว มันจะนำทุกข์ระทมมาให้ ก่อนที่โลกจะสิ้น
โป๊ปปีโอที่ 12 (ค.ศ. 1939 - 1958) : เราเชื่อว่าเวลานี้โลกกำลังเดินเข้าสู่เหตุการณ์ที่น่ากลัวหลายอย่าง
ตามพระคริสตเจ้าทำนายไว้ ดูเหมือนความมืดกำลังมาเยือน มนุษยชาติจะต้องตกอยู่ในวิกฤติการณ์ชั้นสุดยอด
ผู้เข้าทางในของทูรส์ (The Ecstatic of Tours) ศตวรรษที่ 19 เป็นแม่ชีอยู่ในเมืองทูรส์ (Tours)
ในปี 1882 ผู้แนะนำชีวิตทางวิญญาณของเธอ ได้นำการเผยนี้ออกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ในหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ
"วันก่อนชัยชนะของพระคริสตเจ้า : On the Eve of victory of Christ" โดยใช้นามปากกาว่า ผู้เข้าทางใน
ของทูรส์ เป็นคำทำนายจากปี 1872 และ 1873
"สงครามโลกจะระเบิดอีกครั้งหนึ่ง อาหารจะขาดแคลน และราคาสูง กรรมกรจะมีงานทำน้อย บรรดา
พ่อแม่จะได้ยินเสียงลูกร้องหิวข้าวกันระงม จะเกิดแผ่นดินไหว และมีสัญญาณปรากฏในดวงอาทิตย์ ใกล้จบ
ความมืดจะปกคลุมทั่วแผ่นดิน
เมื่อทุกคนต่างเชื่อว่า สันติภาพมาแน่ เหตุการณ์ใหญ่จะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด จลาจลจะปะทุในอิตาลี
เกือบพร้อม ๆ กันกับในฝรั่งเศส พระศาสนจักรจะปราศจากพระสันตะปาปาชั่วระยะหนึ่ง ประเทศอังกฤษด้วย
จะต้องเผชิญชะตากรรมหนัก การจลาจลจะแผ่ไปทั่วฝรั่งเศส นักฆ่ารับจ้างจะเกิดขึ้น การจลาจลเช่นนี้จะคงอยู่
ไม่กี่เดือน แต่สยองขวัญยิ่ง เลือดจะไหลนองไปทั่วทิศ เพราะความต่ำช้าสามานย์ของคนชั่ว เหยื่อฆาตกรจะ
มีนับไม่ถ้วน ปารีสจะเป็นดังโรงฆ่าสัตว์ การข่มเหงพระศาสนจักรจะทวีความรุนแรงยิ่ง แต่จะไม่นานนัก โบสถ์
ทุกแห่งปิดเงียบ ตามตำบลที่มีการกระทบกระเทือนน้อย จะถูกปิดเพียงชั่วระยะสั้น พระสงฆ์จะพากันหนี
หัวซุกหัวซุน อันธพาลพยายามทำลายปูชนียวัตถุให้สิ้น แต่มันจะไม่มีเวลาพอ
อันธพาลจะครองอำนาจหนึ่งปีกับไม่กี่เดือน ในวันเหล่านี้ฝรั่งเศสจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมนุษย์
หน้าไหนเลย จะถูกทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยววังเวง ตอนนี้ฝรั่งเศสจะร้องหาพระ อ้อนวอนงอนง้อดวงหทัยของ
พระเยซูเจ้าและแม่พระนิรมล ที่สุด พวกเขาจะยอมรับว่าพระองค์เท่านั้นสามารถประทานสันติภาพ และความสุข
ให้กลับคืนมาได้
ประชาชนฝรั่งเศสจะขอให้มีกษัตริย์ขึ้นโดยพระองค์เองทรงเลือก ผู้กู้ที่มานี้ พระเจ้าได้เหลือเชื้อไว้
ให้ฝรั่งเศส กษัตริย์ซึ่งพลเมืองไม่พึงประสงค์คราวแรกนี้ เป็นหัวแก้วหัวแหวนของพระหฤทัยของพระเป็นเจ้า
พระองค์จะเถลิงราชย์ และจะให้พระศาสนจักรเป็นอิสระ และจัดสิทธิ์ของพระสันตะปาปาเสียใหม่
หลังชัยชนะ จะเปิดสังคายนาสากลอีกครั้งหนึ่ง มนุษย์จะยอมอ่อนน้อม แกะจะมีเพียงฝูงเดียว และ
ชุมพาบาลก็คนเดียว ชาวโลกจะรับรู้พระสันตะปาปาเป็นบิดาสากล ราชาของประชาโลก เช่นนี้ มนุษยชาติ
ก็เท่ากับเกิดใหม่"
มุนี ฮีลารีออน (ศ.ต. ที่ 15) : "ก่อนที่คริสตชนนิกายต่าง ๆ จะมารวมกันและปรับปรุงใหม่ พระเจ้าจะ
ใช้นกอินทรีบินเข้ายุโรป นำความดี ความผาสุกยิ่งใหญ่มาให้ บุรุษวิเศษจะแผ่สันติ ระหว่างพวกเถระกับอินทรี
และอาณาจักรของพระองค์จะยืนยงอยู่ 4 ปี หลังมรณกรรม พระเข้าจะส่งบุรุษทรงปรีชาวุฒิ และเพียบพร้อม
กุศลสามท่านมาแทน พวกเขาจะแพร่พระธรรมไปทุกมุมโลก เวลานั้นแหละจะมีแกะฝูงเดียว ชุมพาบาลผู้เดียว
ความเชื่อ กฎหมาย ชีวิต และศีลล้างบาปเดียวกันหมด
ประชาชนของแผ่นดินแหลมในยุโรป จะต้องทนทรมานจากภัยสงครามที่ไม่พึงปรารถนา จนกระทั่ง
บุรุษผู้วิเศษนั้นมา สิงห์จะลงมาจากภูเขาสูงในประเทศจรัสแสง แล้วชนของพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เผ่าอาคาร์จะ
บุกเข้าประเทศต่างๆ ในยามดึกเข่นฆ่าประชาชีด้วยความทารุณเหี้ยมโหด พวกเขาจะจองผลาญทุกอย่างเป็น
เวลา 3 ปี ปีที่ 3 อินทรีไม่มีใครปราบลงตัวหนึ่ง ซึ่งครองประเทศระหว่างแม่น้ำไรน์ และทะเลเหนือ จะกรีฑาทัพ
ลงมาปะทะกับพวกนั้นตรงปากแม่น้ำไรน์ จะปราบเสี้ยนหนามจนเกือบราบ ด้วยสงครามสะเทือนขวัญ"
วิจารณ์ : คำทำนายนี้ จุสัญลักษณ์ไว้มาก แต่ก็พอตีความหมายให้กระจ่างได้ ส่วนย่อยบางประการที่ผุด
ขึ้นมา อาศัยนำไปเทียบเคียงกับคำทำนายอื่น ๆ อาจแปลได้ดังนี้ นกอินทรีซึ่งมักเรียกสิงห์ด้วยนั้นคือ มหาราช
แต่ก่อน ๆ พวกเถระไม่สู้ชอบขี้หน้านัก พระสันตะปาปากลับสนับสนุน เกี่ยวแก่พระสันตะปาปาองค์นี้ในที่อื่น ๆ
บอกว่าเป็นองค์ศักดิ์สิทธิ์มาก (ถึงกับได้สมญาว่าผู้วิเศษ) ทรงพระทัยหนักแน่น เด็ดเดี่ยว เปรียบได้กับ แส้เหล็ก
พระองค์จะปรับปรุงแก้ไขทุกอย่าง ให้เข้าระเบียบหมด พระองค์จะลงโทษบรรดาพระสังฆราช (BISHOP) ซึ่ง
ไม่ยอมอ่อนน้อมต่อระเบียบที่วางไว้ภายใต้การนำของพระองค์ พระศาสนจักรจะเกิดใหม่ แล้วจะมีองค์อื่น
ตามมา สมตามที่พระวรสารว่า "แกะฝูงเดียว โป๊ปองค์เดียว ความเชื่อเดียว"
ก่อนรัชสมัยของผู้วิเศษ ยุโรป โดยเฉพาะอิตาลีจะต้องโดนมรสุมสงครามหนัก พวกอาหรับจะฉวยโอกาส
ละเลงเลือดนองแผ่นดิน (พยากรณ์ส่วนใหญ่ลงคำเดียวกัน) แต่พวกเขาจะถูกมหาราช ซึ่งมาจากเมืองอาร์เดนส์
ในประเทศเบลเยี่ยมตีถอยตกทะเล
มารีอา สไตเนอร์ ศ.ต. ที่ 19 : ฉันห็นพระเจ้าเวลาพระองค์กำลังลงโทษล้างโลกด้วยวิธีน่ากลัวจนว่า
มีชายหญิงเหลืออยู่น้อย พวกฤาษี นักพรต จะต้องออกจากอาศรม และพวกชีถูกไล่จากอาราม เป็นต้น ในอิตาลี
พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์จะถูกเบียดเบียน และโรมจะขาดนายชุมพา
แวร์แดง โอ ตรังต์ ศ.ต. ที่ 13 : มหาราชและอัจฉริยะโป๊ป จะมาก่อนแอนตี้ไคร้สต์ ประเทศทั้งหลาย จะอยู่
ในสงคราม 4 ปี โลกส่วนใหญ่จะถูกทำลาย โป๊ปจะข้ามน้ำข้ามทะเล แบกเครื่องหมายการไถ่บาปที่พระนลาฏ
(หน้าผาก) มหาราชจะมาจรรโลงสันติภาพ พระสันตะปาปาจะมีส่วนในชัยชนะ แล้วสันติภาพจะครองโลก
บุญราศี ยวง อามาเดโอ เคซิลวา ศ.ต. ที่ 15 : วันท้าย ๆ จะเกิดสงครามนองเลือด น่ากลัว ผืนแผ่นดินจะ
ถูกฉกชิง ทอดทิ้ง บ้านเมืองจะรกร้างว่างเปล่า ขุนนางจะถูกสังหาร และคนมีอิทธิพลจะถูกทำลาย
เพราะเปลี่ยนกษัตริย์ จักรภพ และผู้บริหารกันบ่อย
เยอรมัน และสเปนจะรวมอยู่ใต้เจ้านายใหญ่ที่พระทรงเลือกให้ แต่เพราะเยอรมันไม่ซื่อ สงครามจะยืดเยื้อ
ไปจนกว่า ผู้ครองยิ่งใหญ่จะได้รวมทุกประเทศไว้แล้ว หลังจากการรวมนี้ แทนที่พระบังคับ จะมีการกลับใจหมู่
สันติภาพ ความก้าวหน้าก็ติดตามมา
มารีย์ เดอ ลา โฟแตส์ ศ.ต. ที่ 19 : โลกจะมืดมิดสามวัน เทียนเสกทำด้วยขี้ผึ้งเท่านั้นจะจุดไฟติด ระหว่าง
ความมืดน่าสะพรึงกลัวนี้ เทียนเล่มเดียวจุดได้สามวัน แต่มันจะไม่ให้แสงในบ้านของคนขาดพระ ถึงฟ้าผ่า ลมพัด
พายุจัด แผ่นดินไหวก็ไม่สามารถดับเทียนเสกนั้นได้ เมฆแดงสีเลือด จะลอยตามอากาศ ฟ้าร้อง ฟ้าคำราม
หวาดเสียว น้ำทะเลขึ้น คลื่นซัดกลบแผ่นดิน ทั้งโลกจะกลายเป็นป่าช้า คนดี คนชั่ว ตายกันเกลื่อน ความอดอยาก
ที่ตามมาจะยิ่งร้ายแรงกว่าอีก พืชพันธุ์เสียหายสามส่วนสี่ เช่นเดียวกับชาติมนุษย์ วิกฤติการณ์นี้จะมาอย่างปุบปับ
และทั่วโลกต้องได้รับโทษนี้
เคาน์เตส ฟรังซิสกา เดอ บิลญันต์ ศ.ต. ที่ 20 : ฉันเห็นนักรบ ทั้งเหลือง ทั้งแดง รุกเข้ายุโรป ยุโรปเต็มไป
ด้วยควันเหลือง สังหารสัตว์ในนาเกลี้ยง ประเทศที่ทรยศต่อบัญญัติของพระจะอันตรธานไปในไฟ แล้วยุโรป
จะกว้างใหญ่เกินไปสำหรับคนที่อยู่ ขอพระคุ้มครองลูก ๆ หลาน ๆ ของฉันให้ยึดมั่นในพระองค์ไว้
คำทำนาย อเมริกัน ศ.ต. ที่ 20 : กองทัพเหลืองของอาทิตย์อุทัย และของอาณาจักรกลาง
จะทุ่มความเคียดแค้นต่อประเทศชาติของประเทศเกาะ ซึ่งมีแต่สร้างสมบัติไว้จากการค้า
เฮเลน วอลรัฟ ศ.ต. ที่ 19 : สักวันหนึ่ง โป๊ปจะออกจากโรม กับพระคาร์ดินัล 4 องค์ จะไปที่เมืองโคลอญ
(Köln) เยอรมันนี
สังฆราช (Bishop) ยอร์ช ม. วิทแมน ศ.ต. ที่ 19 : เวลาเศร้าสลดยิ่งแห่งพระศาสนาของพระเยซูเจ้ากำลังมา
พระจะถูกทรมานอีกหนอย่างแสนเจ็บปวด ในพระศาสนจักร และในองค์ผู้นำสูงสุดของพระองค์ มือสกปรก
จะวางลงบนองค์พระสันตะปาปา บรรดาสมาคมลับจะเที่ยวบ่อนทำลาย และกุมอำนาจการเงินไว้หมด
ไอดา เปียรเดอร์มัน ศ.ต. ที่ 20 : ฉันเห็นแผ่นดิน อิตาลี ข้างหน้ามันเหมือนมรสุมร้ายแรงกำลังระเบิด
ฉันถูกบังคับให้ฟัง และได้ยินคำ เนรเทศ"
บุญราคี คัสปาร์ เดล บุฟาโล ศ.ต. ที่ 19 : คนข่มเหงพระศาสนา ไม่ยอมกลับใจ จะตายระหว่างมืด 3 วัน
ใครรอดชีวิตจากความมืดและความกล้วมาได้ จะนึกว่าตัวอยู่โดดเดี่ยวในโลก มองไปทางไหน
เจอแต่ซากศพเกลื่อนไปหมดหมด
ยาชินทา แห่งฟาติมา ค.ศ. 1920 : หนูเห็นพระสันตะปาปาในบ้านใหญ่ คุกเข่า เอามือปิดหน้า ร้องไห้
ที่หน้าโต๊ะ ข้างนอกมีคนเยอะแยะ บ้างขว้างหินใส่ บ้างสบประมาท ใช้คำหยาบทนฟังไม่ได้
ภคินี เฟาสตีนา โกวัลส์กา แห่งคาโคฟ โปแลนด์ อ้างคำของพระเยซูเจ้า ซึ่งตรัสแก่เธอ
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1931 ว่า : ก่อนที่ข้าจะมาอย่างมหาตุลาการผู้ทรงยุติธรรม ข้าจะให้สัญญาณในท้องฟ้า
และบนแผ่นดินคือ กางเขน แสงจะพุ่งจากรอยแผลที่มือและที่เท้าของข้าลงมายังโลก สว่างไสวอยู่สองสามนาที

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 7:32 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (48)👈

🔥--- ผู้ศักดิ์สิทธิ์ทำนายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ---🔥

        นักบุญ เจโรม (ค.ศ. 420) : แอนตี้ไคร้สต์จะเกิดใกล้บาบิโลน มันจะได้รับการสนับสนุนทั้งทางข้าวของ
และเงินทอง มันจะขายตัวให้กับซาตาน เพราะฉะนั้น มันจะไม่มีเทวดารักษาตัว และไม่มีมโนธรรม
นักบุญ เบเนดิก (ค.ศ. 543) : ในระหว่างเวลา 3 ปีครึ่งที่แอนตี้ไคร้สต์เป็นจ้าวโลก พระเจ้าจะส่งมหาบุรุษ
เฮน็อคและเอริอัสมาช่วยชาวคริสต์ และในระหว่างวันท้าย ๆ ก่อนสิ้นพิภพ ชาวคณะ "เบเนดิกติน" จะรับใช้
พระศาสนจักรอย่างเต็มที่ และจะทำให้ผู้คนมากมายเข้มแข็งในความเชื่อศรัทธา
นักบุญ เกรโกรี ผู้ยิ่งใหญ่ (ค.ศ. 604) : กล่าวว่าในวันใกล้สิ้นพิภพ อาจจะมีสังฆราชบางองค์ก็เป็นได้
แต่ที่แน่ ๆ จะมีกองทัพของพระสงฆ์ และชาวคริสต์ 2 ใน 3 จะร่วมสังฆเภท (แยกนิกาย)
บุญราศี ยออากิม (ค.ศ. 1202) : ตอนใกล้สิ้นโลก แอนตี้ไคร้สต์จะแย่งชิงพระอาสน์ของโป๊ป
เบอร์นาร์ดิน ฟอน บุสโต (ค.ศ. 1490) กล่าวว่า :
1.เมื่อแอนตี้ไคร้สต์มีอายุประมาณ 20 ปี ชาวโลกส่วนใหญ่จะเสียความเชื่อ (ไม่ศรัทธาในพระเจ้า)
2. แอนตี้ไคร้สต์ จะสืบเชื้อสายจากยิว ตระกูลดาน (DAN) ผู้คนในช่วงนั้นจะเสื่อมศีลธรรม แอนตี้ไคร้สต์
จะเทศน์ให้ผู้คนฟัง แล้วจะเหาะเหินเดินอากาศอวดศักดา
3. ชาวบ้านจะไม่เหลียวแลพระสงฆ์และนักบวช แต่พระเจ้าจะช่วยเหลือเจือจานไม่ให้พวกเขาขาดแคลน
อย่างอัศจรรย์ บางท่านจะยังคงไปมาหาสู่ชาวบ้านอย่างคงเส้นคงวา เพื่อให้กำลังใจในยามยาก เพื่อว่า
พวกเขาจะได้มั่นคงในความเชื่อ
ฤาษีฟรันซิสกันแห่งเขาซีไน (ค.ศ. 1840) ทำนายว่า :
1. สงครามอันน่ากลัวจะระเบิดทั่วยุโรป พวกเขาจะฉีกกันเป็นชิ้น ๆ และเลือดจะไหลเป็นสายน้ำ
2. สเปนและโปรตุเกส ทั้งสองประเทศนี้จะต้องล้างหนี้เลือด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาพิชิตอเมริกา
อย่างไร้มนุษยธรรม โดยการฆ่าฟันผู้คนอย่างเหี้ยมโหด ทั้งนี้เพราะอยากได้ทอง และอีกส่วนหนึ่งเพราะ
ไปจับชาวอัฟริกันผู้บริสุทธิ์เอาไปขายเป็นทาสเยี่ยงสัตว์ ผู้มีอำนาจของทั้งสองประเทศนี้จะถูกสังหาร
แล้วทั้งสองประเทศนี้จะรวมกันเป็นประเทศเดียว ประชาชนจะกลับมาสู่สันติภาพและความสงบเรียบร้อย
แต่ผู้ครองทรัพย์สมบัติของคนต่างชาติจะปลีกตัวและตัดขาดจากสองประเทศนี้ ศาสนาคาทอลิกจะรุ่งเรือง
เหมือนแต่ก่อนอีกครั้งหนึ่ง
3. ฝรั่งเศส จะถูกดึงเข้าไปพัวพันในสงคราม เมื่อสงครามสิ้นสุด ประชาชนจะปฏิวัติและจะฆ่าประธานาธิบดี
การหลั่งเลือดอันน่ากลัวจะตามมา กว่าครึ่งหนึ่งของนครปารีสจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
4. อังกฤษ ประเทศนี้เต็มไปด้วยพ่อค้าที่แสวงหาความร่ำรวยด้วยความไม่เป็นธรรม จะได้รับผลกรรมอย่าง
น่าหดหู่ ไอร์แลนด์และสก็อตแลนด์จะบุกอังกฤษ และทำลายเสียยับเยิน พระราชวงศ์จะถูกขับ และครึ่งหนึ่ง
ของประชาชนจะถูกสังหาร ความยากจนข้นแค้นจะตามมา และอาณานิคมจะแยกตัวออกจากอังกฤษ
5. อิตาลี อิตาลี เจ้าช่างเป็นประเทศแสนงาม ฉันกำลังคร่ำครวญถึงเจ้า ส่วนหนึ่งของบรรดานครอันรุ่งเรือง
ของเจ้าจะต้องถูกทำลาย ณ ที่นี้ ชาวเยอรมันมากมายจะพบหลุมฝังศพของเขา
ริชาร์ต โรลล์ แห่งแฮมโพล (ค.ศ. 1349) : มหาบุรุษเฮน็อคและมหาบุรุษเอริอัสระเทศน์ต่อต้าน
แอนตี้ไคร้สต์อย่างรุนแรง ซึ่งมันจะทำลายท่านทั้งสองหลังจากท่านเทศน์ได้ 1,260 วัน หลังจากถูกฆ่า
ตาย 3 วันครึ่ง ท่านทั้งสองก็เหาะขึ้นสวรรค์ แอนตี้ไคร้สต์จะเป็นจ้าวโลกอยู่ 3 ปีครึ่ง ใน 15 วันแรกที่
มันแสดงตัวเป็นจ้าวโลก จะทำให้ผู้คนสะท้านสะเทือนด้วยความกลัว เมื่อมันมีอายุ 32 ปีครึ่ง มันจะถูก
สังหารที่ภูเขามะกอกโดยเซนต์ไมเคิ้ล ความภาคภูมิใจของสมุนของมันจะหดลงทันที และจะถูกฆ่าหมู่
ตายตกตามไปอย่างน่าอนาถ พระให้เวลากลับใจ 45 วัน ก่อนการพิพากษาครั้งสุดท้าย
หลังจากกรุงโรมถูกทำลายแล้ว แอนตี้ไคร้สต์จะปรากฏตัว และยกย่องตัวเองเหนือพระทั้งหลาย
รวมทั้งพระตรีเอกภาพ (พระเจ้าของชาวคริสต์ ซึ่งแยกเป็น 3 พระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต)
ด้วย ชื่อของมันแปลว่า ปรปักษ์พระคริสต์ เกิดจากชายและหญิงใจบาป ปรปักษ์พระคริสต์ผู้นี้จะเกิดจาก
ตระกูลดาน (DAN) ในเมืองโกโรซาอิม Corozaim เทวดาที่ถูกกำหนดมาให้เป็นเทวดารักษาตัวตอนเกิด
จะถูกบังคับให้หนีไปจากตัวมัน เพราะถูกความชั่วร้าย มนต์ดำเข้ามาสิงแทน มันจะได้รับการศึกษาในเมือง
เบทไซดา Bethsaida แล้วมายังกรุงเยรูซาเล็ม แล้วมันจะประกาศตัวเป็นพระคริสต์ แล้วปั้นหน้าว่าตัวเอง
เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ มันจะหลอกลวงผู้คนด้วยการเทศน์ทั้งปลอบทั้งขู่ แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ เรียกคนตายให้ฟื้น
ทำให้ฝนตก ให้รูปหินพูดได้ และอื่น ๆ อีกตามที่ซาตานจะบันดาลให้มันได้ ซึ่งเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น
โดยให้ซาตานเข้าในร่างของผู้ตาย ทำเสมือนว่าปลุกคนตายให้ฟื้น เป็นต้น แอนตี้ไคร้สต์จะเป็นจอมทรราช
เหนือชั้นกว่าทรราชใด ๆ ในโลก สาวกของมันจะสักเครื่องหมายของมันไว้กับตัว ปีศาจร้ายจะถูกปล่อยจาก
ขุมนรก และพวกยิวจะต้อนรับมัน
ผู้ควรเคารพ* บาร์โธโลมิว โฮลร์เฮาเซอร์ (ค.ศ.1658) :
1. ชัยชนะของพระศาสนจักรจะสั้น จนกระทั่งลูกแห่งความพินาศจะมา
2. แอนตี้ไคร้สต์จะมาเหมือนหนึ่งพระเมสสิยาห์จากแผ่นดินระหว่าง 2 ทะเลในตะวันออก
3. มันจะเกิดในทะเลทราย แม่มันเป็นหญิงโสเภณี หากินกับพวกยิวและพวกฮินดู จะเป็นประกาศก
จอมปลอม จะเหาะขึ้นสวรรค์เหมือนเอริอัส
4. มันจะเริ่มทำงานในตะวันออก เป็นทหาร เป็นนักสอนศาสนา เมื่ออายุ 30 ปี
5. แอนตี้ไคร้สต์และกองทัพของมันจะพิชิตโรม และยึดพระอาสน์ของโป๊ป
6. มันจะฟื้นฟูระบอบการปกครองของตุรกีที่ถูกทำลายโดยมหาราช พวกยิวรู้จากพระคัมภีร์ว่า กรุงเยรูซาเล็ม
จะเป็นสำนักของพระเมสสิยาห์ พวกยิวจะอพยพมาจากทุกสารทิศ และจะรับแอนตี้ไคร้สต์เป็นพระเมสสิยาห์
7. มันสามารถเหาะได้ มันจะเหาะจากเขากัลวารีโอ แล้วมันจะบอกกับฝูงชนว่า มันจะเหาะตามมหาบุรุษเฮน็อค
และมหาบุรุษเอริอัส (ซึ่งได้เหาะไปสวรรค์ก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากที่ถูกฆ่าตาย และถูกทิ้งไว้ข้างถนนถึง 3 วันครึ่ง)
มันอวดศักดาจะเหาะตามไปฆ่าท่านทั้งสอง
8. ปรปักษ์พระคริสต์ จะมีอายุแค่ 55 ปีครึ่ง นั่นก็คือ 666 เดือน (ให้นับถอยหลังกันได้แล้ว)
* ในพระศาสนจักรคาทอลิก ผู้ที่จะได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ (Saint) จะต้องผ่านขั้นตอน หรือลำดับชั้นมา
3 ชั้น คือ 1. ข้ารับใช้ของพระเจ้า (Servant of God) 2. ผู้ควรเคารพ (Venerable) 3. บุญราศี (Blessed)
รวบรวมจากหนังสือพันธุสาส์น โดย บาทหลวงประชุม มินประพาฬ

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 7:41 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (49)👈

🔥--- คำทำนายสด ๆ ร้อน ๆ [A] ---🔥

          ผู้เขียนได้รับเอกสารชิ้นหนึ่งจากเพื่อนชาวต่างประเทศสด ๆร้อน ๆ เป็นอัตชีวประวัติของชาวโ
ปแลนด์ชื่อ Wladyslaw Biernacki เกิดที่เมือง Wolyn เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 1922 เคยเป็นทหาร
ผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการศึกษาแค่ชั้นมัธยมปีที่ 2 เป็นชาวไร่มันฝรั่งธรรมดา ๆได้รับพระพรพิเศษ
(Charisma) จากพระเจ้า 2 อย่างคือ การรักษาโรคและการทำนาย เขากลายเป็นคนของประชาชนไปทันที
ถูกห้อมล้อมด้วยฝูงชนที่พากันมาให้เขารักษาโรค และขอทราบเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต นอกจากจะ
ปรากฏตัวตามเมืองต่าง ๆ ในโปแลนด์แล้ว เขายังได้รับเชิญไปยังประเทศอังกฤษเมื่อปี 1986 ด้วย ดังจะ
ได้หยิบยกคำทำนายของเขาที่นำไปแพร่ในอังกฤษ คำทำนายนี้ได้รับการเห็นชอบจากพระสังฆราชทุกองค์
ของประเทศโปแลนด์ นอกจากนี้ เขายังนำคำทำนายฉบับนี้มอบให้โป๊ปจอห์น พอลที่ 2 ในปี 1984 ซึ่งพระองค์
ถือเขาเป็นสหายสนิท เมื่อพระองค์รับมอบคำทำนายจากเขาแล้ว ก็ทรงจุมพิตอย่างตั้งอกตั้งใจช้า ๆ
📍~ คำทำนายโดยย่อของ Wladyslaw Biemnacki ~📍
1. ตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา แม่พระได้ปรากฏมาบนโลกหลายครั้งหลายหนเพื่อเตือนใจมนุษย์ว่า พระเจ้า
ไม่พอพระทัยอย่างมากที่มนุษย์ทำบาป มัวเมาในความชั่วทุกรูปแบบ ถ้ายังไม่กลับตัว ก็ต้องถูกลงโทษอย่าง
แสนสาหัส แม่พระย้ำเตือนทุก ๆ แห่ง ให้เลิกทำชั่ว ใช้โทษบาป และสวดลูกประคำ เพราะว่าการเฆี่ยนของพระ
ใกล้ถึงแล้ว แต่เป็นที่น่าเสียใจว่าคำเตือนของแม่พระเป็นที่เย้ยหยันของคนจำนวนมาก รวมไปถึงพวกพระสงฆ์
และสังฆราชด้วย
2. คำทำนายนี้ถือเป็นเรื่องฮือฮาในโปแลนด์ ได้มีการแพร่เทปบันทึกเสียงไปกว่า 700,000 ตลับ
และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยในอัตรา 5,000 ตลับต่อสัปดาห์
3. คำทำนายนี้ได้รับการเผยตั้งแต่ปี 1973 จากพระเยซู แม่พระ และพระสังฆราช Bilewicz
(ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 1937)
4. โลกจะได้รับการทำลายอย่างหนักจากภัยธรรมชาติ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ แผ่นดินไหว อดอยาก จะไม่มีจุดไหน
ในโลกที่ไม่เดือดร้อน สงครามโลกครั้งที่ 3 นี้จะก่อความยุ่งยากทางการเมืองและทางทหาร และจะมีการใช้
อาวุธนิวเคลียร์ในขอบเขตจำกัดในบางพื้นที่ ในช่วงสุดท้ายของสงครามครั้งนี้ (ปี 1994) ประชากรโลกจะ
ลดเหลือแค่ 1 ใน 4
5. โป๊ปจอห์น พอล ที่ 2 ผู้ได้รับเลือกให้เป็นลูกของแม่พระมารีอา จะเป็นผู้ชนะของพระศาสนจักร แต่กระนั้นก็ดี
เราจะต้องสวดให้พระองค์มาก ๆ เพราะพระองค์มีภารกิจที่ยุ่งยากสาหัสสากรรจ์ ในโรม พระองค์จะถูกห้อมล้อม
ด้วยคนใกล้ชิด แต่จริง ๆ แล้วเป็นศัตรูของพระศาสนจักร และพวกเขากำลังทำลายความงามของพระศาสนจักร
ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้รับการสถาปนาจากพระเยซูเอง โป๊ปจะอยู่ในตำแหน่ง 16 ปี (พระองค์รับตำแหน่งเมื่อปี 1978)
จะมีการลอบทำร้ายพระองค์ถึง 6 ครั้ง
6. กอร์บาชอพ ยังหนุ่ม แต่ก็จะเสียชีวิตในไม่ช้า
7. ราชวงศ์อังกฤษจะไม่ปลอดภัย ประเทศอังกฤษจะถูกน้ำท่วมใหญ่ เกาะบางเกาะตามชายฝั่งจะถูกกลืนหายไป
ลอนดอนจะถูกทำลายด้วยไฟและแผ่นดินไหว ประชาชนอังกฤษหลังจากหายนะนี้ จะเหลือแค่ 1 ใน 4
8. อิสราเอล เป็นเผ่าพันธุ์ที่ได้รับพรพิเศษจากพระเจ้า ซึ่งทำให้พวกเขา
รบชนะศัตรูครั้งใหญ่ ๆ ถึง 3 ครั้งอย่างเหลือเชื่อ พวกเขาจะต้องถูกกวาดไปจากผิวโลก และจะต้องไปเป็นทาส
ของพวกอาหรับ จะเหลือชาวยิวแค่หยิบมือ ที่จะกลับมายอมรับนับถือศาสนาคริสต์
9. จะมีอีกหลายประเทศที่จะถูกกวาดไปจากแผ่นดินโลก เช่น สวีเดน ฮอลแลนด์ และโปรตุเกส
📍~ สงครามโลกครั้งที่ 3 ~📍
จะเป็นเหมือนนรก ถึงแม้จะดุเดือดแต่ก็จะคงอยู่แค่ 3 เดือนครึ่ง สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเริ่มที่อิตาลี
จะเป็นการปฏิวัติที่นองเลือดครั้งใหญ่ จะเริ่มจากวาติกันก่อน รัฐบาลคอมมิวนิสต์จะถูกตั้งขึ้น และพวก
คอมมิวนิสต์จะทรมานและฆ่านักบวช
ระหว่างความวุ่นวายนี้ โป๊ปจอห์น พอล ที่ 2 จะตกอยู่ในท่ามกลางกองศพของบรรดาพระเถระชั้น
ผู้ใหญ่ที่ยังซื่อสัตย์ต่อพระองค์ พระองค์จะหนีไปจากสันตะสำนัก ไปสู่ฝรั่งเศสก่อน แล้วก็โปแลนด์ พระองค์
จะอยู่ต่อไปในโปแลนด์ ที่เมืองเชสโตโชวา Czestochowa หรือที่อื่น จนกระทั่งสงครามจะสิ้นสุด ในระหว่างนี้
พระองค์อยู่ในทำนองมนุษย์ล่องหน มองไม่เห็นพระองค์ อาจจะหลบซ่อนก็ได้
นับเป็นเวลาทั้งหมด 3 ปีครึ่งที่พระองค์จะลี้ภัย ระหว่างนี้พวกคอมมิวนิสต์จะดูหมิ่นเหยียดหยามพระองค์
และทำให้สันตะสำนักเสื่อมเสีย
เป็นไปได้ที่ช่วงนี้ทหารโซเวียตจะจู่โจมยุโรปตอนใต้ แต่ที่แน่ ๆ การปฏิวัติจะเริ่มจากอิตาลีก่อน
แล้วต่อไปยังฝรั่งเศสและสเปน แต่อย่างไรก็ตาม การปฏิวัตินี้จะกินเวลาสั้นมากทระหว่าง 40 ถึง 46 วันก็จะพัง
เยอรมันรู้สึกว่าถูกคุกคามอย่างหนักจากเหตุการณ์เหล่านี้ ก็จะถือโอกาสรวมกันกับฝ่ายตะวันออก
แล้วจะโอบล้อมกองทัพแดง แล้วจะเคลื่อนทัพเข้าเชคโกสโลวาเกีย จากเชคโกสโลวาเกีย เยอรมันจะยาตรา
ทัพเข้าโปแลนด์
ในช่วงที่สองของสงคราม แล้วเยอรมันก็จะร่วมกับกองทัพจีน โจมตีสหภาพโซเวียต ขณะเดียวกันก็
จะเกิดปฏิวัติเป็นการต่อต้านคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย จีนจะยาตราทัพเข้ารัสเซียอย่างเหี้ยมหาญ นายพลบางคน
ของโซเวียตจะทรยศบ้านเมือง แปรพักตร์ไปเข้าข้างจีน
ในช่วงที่ 3 ของสงคราม จะมีผู้หนึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์แก่ชาวโปแลนด์ จะฟื้นฟูสันติภาพ ทุกคนจะเ
ชื่อฟังเขา และยกให้เขาเป็นผู้นำ แล้วเขาจะถูกยกขึ้นบนบัลลังก์ของโปแลนด์ และจะได้รับแต่งตั้งให้เป็น
ผู้บัญชาการทหารบกของโปแลนด์
ในรัสเซียจะมีความวุ่นวายอย่างไม่น่าเชื่อ ประมาณ 60% ของประชาชนจะถูกฆ่าหมู่ ลูกต่อสู้กับพ่อ
พ่อจะต่อสู้กับลูก
หลังจาก 6 สัปดาห์ในการฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อย โซเวียตก็จะถึงกาลดับสูญ กำลังทองทัพแดง
ที่ไปติดค้างที่เชคโกสโลวาเกีย จะรังควานประชาชนย่านนั้นชั่วขณะหนึ่ง แล้วก็ล่าถอยไปยังฮังการี แล้วเลย
เข้าไปยังรัฐยูเครน
ฝ่ายพวกยูเครนรักชาติต่างก็มีจุดประสงค์จะเรียกร้องอิสรภาพอยู่แล้ว ก็จะไล่กองทัพของรัสเซียออกไป
แต่มันไม่ง่ายอย่างคิด จึงต้องเข้าพึ่งโปแลนด์ซึ่งก็มีพันธมิตรอยู่หลายประเทศ เช่น สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์
ฮังการี และรูมาเนีย ฝรั่งเศสก็จะช่วยโปแลนด์ทั้งทางเศรษฐกิจและทางทหาร เมื่อตีรัสเซียกระเจิงไปแล้ว
โปแลนด์ก็รุกคืบหน้าเข้าไปจนถึงแม่น้ำดนีเปอร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์
ช่วงสุดท้ายของสงคราม กองทัพของจีนจะบุกคืบหน้าเข้ามายังโซเวียต รัสเซีย ซึ่งกำลังร่อแร่เต็มที
เพื่อกันมิให้จีนครองทั้งโลก อเมริกาก็จะเข้าฉากกับเขาด้วย แล้วก็จะมีแคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย อินเดีย
อินโดนีเซีย อัฟริกาบางรัฐ ก็ค่อย ๆ ทยอยตามมา กองทัพร่วมประสานของโลกเสรี ก็จะเคลื่อนกำลังเข้ามายัง
เอเชียอาคเนย์ แล้วจะเทคโอเวอร์อย่างรวดเร็วในเวียดนาม กัมพูชา ประเทศไทย และเกาหลีเหนือ
สหรัฐและพันธมิตรจะบุกตะลุยเข้ายังแผ่นดินจีน ซึ่งไม่ทันเตรียมเนื้อเตรียมตัว ก็จะถูกอเมริกันยึดไป
เกือบครึ่งประเทศ
ขณะที่เหตุการณ์คับขันอยู่นี้ พวกนายพลจีนก็ล่าถอยจากแม่น้ำวอลก้า ระยะไกล 70 ก.ม. กำลังสั่งให้
ใช้ระเบิดนิวเคลียร์กับโปแลนด์ แต่ผู้บัญชาการทหารบกโปแลนด์ โดยเครื่องมือที่ทันสมัยกว่า ก็สามารถ
เปลี่ยนทิศทาง แล้วทำให้มันย้อนกลับตกยังฝ่ายจีนเสียเอง จะเกิดเวลา 10:30 น. เข้าตำรา "ดาบนั้นคืนสนอง"
และขณะเดียวกันนั้นเอง หัวรบนิวเคลียร์ของจีนก็แผดเสียงกัมปนาทไปทั่วโลก แรงระเบิดจะมีพลังมหาศาล
อย่างคิดไม่ถึง และก่อให้เกิดการระเบิดกึกก้องไปทั่วทุกแห่งโดยไร้จุดหมายเป็นเวลาถึง 3 วัน 3 คืน
และในทันทีนั้นเอง ก็จะเกิดแผ่นดินไหว เสียงฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ทำให้กระจกของบ้านเรือนแตก
กระจัดกระจาย คนที่สวดลูกประคำจะรอดชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ รู้สึกว่าโลกกำลังเสียพลังในการดึงดูด คนจะ
ไม่สามารถยืนตรงได้อย่างปกติ ได้แต่นอนลงพื้น หรือนั่งเฉย ๆ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โลกเราก็คืบเข้าใกล้
ความมืดมิด ผู้คนต่างตระหนกอกสั่น ต่างก็คิดว่ากำลังจะสิ้นโลกแล้ว แต่โลกจะยังไม่สิ้น มันเป็นแค่ทุกข์เข็ญ
ทั้งโลก แล้วจะมืด 3 วัน 3 คืน ในระหว่างนี้ต้องอยู่ในบ้าน ปิดประตูลงกลอนให้ดี แล้วสวดลูกประคำ อย่าเปิด
ประตูให้ใคร เทียนเสกเท่านั้นจึงจะจุดติด และจะอยู่ได้ถึง 3 วัน
หลังจากมืด 3 วัน 3 คืน สงครามจะยุติ คนชั่วจะตายหมดระหว่าง 3 วันนั้น จะต้องใช้เวลาพอสมควรก่อน
ที่ตั้งรัฐบาลสำเร็จ อเมริกาจะเป็นเหมือนหมู่บ้าน ฟลอริดาจะอันตรธานไป วอซิงตัน นิวยอร์กจะถูกทำลายโดย
แผ่นดินไหว รัฐต่าง ๆ ก็แยกกัน ต่างคนต่างอยู่ จะไม่รวมเป็นสหรัฐอีกแล้ว
ในฝรั่งเศสจะมีผู้นำที่ศรัทธาในศาสนา จะฟื้นฟูบ้านเมืองให้เข้าระบบ ปารีสจะถูกทำลายไปอย่างราบเรียบ
แต่จะสร้างขึ้นมาใหม่ โรมและมาดริดก็เช่นเดียวกัน อังกฤษจะอยู่ในภาวะบ้านแตกสาแหรกขาดเป็นเวลา
ถึง 2 ปี แล้วฝรั่งเศสจะยื่นมือเข้ามาช่วยตั้งรัฐบาลให้

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 7:49 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (50)👈

🔥--- คำทำนายสด ๆ ร้อน ๆ ---🔥

📍~ เปิดโฉมแอนตี้ไคร้สต์ และ อวสานของโลก ~📍
หลังจากการลงโทษครั้งใหญ่ (สงครามโลกครั้งที่ 3) ผ่านไปแล้ว จะมีช่วงเวลาแห่งสันติสุข 20 ปี
จะเป็นยุครุ่งโรจน์ของพระศาสนจักร ทั่วทั้งยุโรปจะมีความเชื่อในศาสนาเหมือนกันหมด และทุก ๆ ประเทศ
จะปฏิรูปกฎหมายของตนให้เข้ากับพระบัญญัติของพระเยซูพระมหาไถ่ เช่น การหย่าร้างซึ่งพระองค์ทรง
ห้ามจะไม่มีอีก
รัสเซียจะกลับใจมาเป็นคริสตชน และจีนก็เช่นเดียวกัน ชาวคริสต์ทั้งโลกจะยอมรับนับถือโป๊ป
หลังจากที่โป๊ปสิ้นพระชนม์แล้ว โป๊ปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งจะถูกเลือก หลังจากพระองค์แล้ว จะมี
อีกองค์หนึ่ง จะเป็นองค์สุดท้าย
โป๊ปทั้งสองพระองค์นี้จะเป็นโป๊ปสององค์สุดท้ายที่แท้จริง พระองค์ทั้งสองจะปกครองช่วงเวลา
สันติสุข 20 ปี ด้วยความโชติช่วงชัชวาล ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่ยาวนานก็ตาม
และแล้วแอนตี้ไคร้สต์ ลูกแห่งความพินาศก็จะมา มันเกิดแล้วที่ตะวันออกกลาง ใกล้ชายแดนระหว่าง
อิสราเอลกับอียิปต์ในปี 1977 แม่ของมันเป็นโสเภณีชาวยิว ค่อนข้างจะมีอายุ ขณะนี้มันหลบซ่อนอยู่ ยังไม่ถึง
เวลาของมัน ปัจจุบันมันใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เช่น ในปี 1984 มันก็เดินทางมา
โปแลนด์กับแม่ของมัน
หลังจากสงครามมหันตทุกข์นั้นแล้ว โลกจะเหลือแค่หนึ่งพันล้านคนจากสี่พันล้าน ส่วนใหญ่จะเป็น
ชาวจีน และในช่วงปลาย ๆ ของยุคสันติสุข 20 ปีนั้น มันจะผงาดขึ้นมามีอำนาจในตะวันออกไกล ระหว่าง
ประชาชนคนจีน พอมันขึ้นมาเป็นผู้นำแล้ว มันจะแผ่อำนาจของมันไปทั่วโลก มันจะตั้งตัวมันเองเป็นโป๊ป
หรือพูดให้ชัดลงไป เป็น Anti Pope คือ ปรปักษ์โป๊ป มันจะกดขี่ข่มเหงพวกคริสตชนอย่างไร้ความปรานี
ก่อความเดือดร้อนไปทั่ว ใส่ยาพิษลงในน้ำ และก่ออาชญากรรมอื่น ๆ นับไม่ถ้วน
แต่ด้วยความเมตตาของพระเจ้า ยุคของแอนตี้ไคร้สต์จะถูกทำให้สั้นลง มันจะเป็นจ้าวโลกพร้อมด้วย
สมุนชาวจีนของมันเป็นเวลาเพียง 4 ปี
📍~ การพิพากษาครั้งสุดท้าย ~📍
คำทำนายของนาย Wladyslaw Biernacki ผู้เขียนได้หยิบยกมาข้างต้นนี้อย่างย่นย่อมาก แต่ในการ
พรรณนาถึงการพิพากษาครั้งสุดท้ายของเขา ผู้เขียนเห็นว่าน่าสนใจ จึงขอนำมาทั้งหมด เพราะคำพรรณนา
ของเขาอาจช่วยให้ชาวบ้านอย่างเรา ๆ ที่ไม่มีความรู้ในคำสอนอย่างลึกซึ้ง จะได้เห็นเป็นรูปธรรม อันจะช่วย
น้อมนำเราให้มุ่งแต่ประพฤติชอบ ปฏิบัติชอบ เพื่อว่าสักวันหนึ่งจะได้ถูกคัดไว้ทางเบื้องขวาของพระองค์
ในวาระสุดท้ายของมนุษยชาติ กฎธรรมชาติต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไป เช่น คนที่อยากตายก็ไม่ตาย
สมใจ นอกจากนี้ยังมีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้น คือจะไม่มีคนเกิดมาอีกเลย
ในระหว่างเวลาเดียวกันนี้ พระเจ้าจะปล่อยให้เกิดโรคระบาดครั้งสุดท้าย มีทั้งตั๊กแตน สัตว์เลื้อยคลาน
และอื่น ๆ อีก เช่น พวกหนอน สิ่งเหล่านี้จะเป็นประหนึ่งเครื่องชำระผิวโลกให้สะอาด และเป็นประหนึ่งเครื่อง
ทดสอบความอดทนของมนุษย์ บางคนทนโรคระบาดรังควานไม่ไหว ก็แช่งด่าพระเจ้า แต่บางคนจะยอมสู้ทน
การทดลองนี้เหมือนท่านโยบ คนพวกหลังนี้จะได้สวรรค์เป็นบำเหน็จ
และแล้วพระคริสต์จะเสด็จมาในหมู่เมฆ ห้อมล้อมด้วยบรรดาทูตสวรรค์ เต็มด้วยสง่าราศีเรืองรอง
มนุษย์ทุก ๆ คนทั้งโลก ไม่เว้นใครเลย ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว จะเห็นพระองค์เสด็จมา ในขณะที่คนดีจะยินดีปรีดา
และพากันโมทนาคุณพระเจ้า แต่ทว่าคนชั่วจะพากันอกสั่นขวัญแขวนด้วยความหวาดกลัว
พี่น้องที่รัก ท่านซึ่งกำลังอ่านเรื่องนี้ หรือให้คนอื่นอ่านให้ฟังก็ตาม ผมอยากจะขอร้องสักอย่างหนึ่ง
ถ้าหากท่านบังเอิญอยู่ ณ ที่นั้น ในวันอันน่าตื่นเต้นนั้น ได้โปรดก้มลงกราบพระมหาไถ่ของเรา และคารวะ
พระองค์ในนามของผมด้วย เพราะจะเป็นการดีที่ท่านจะต้องอยู่ที่นั่นด้วยตัวของท่านเอง แต่สำหรับผมแล้ว
ผมรู้ว่าตอนนั้นผมคงหลับสบายในสุสานแล้ว
สามวันหลังจากที่พระเยซูเสด็จลงมาอย่างรุ่งเรือง ทั้งโลกจะได้ยินเสียงแตรของทูตสวรรค์ เสียงแตรนี้
จะทำให้โลกแตกออก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะผ่านพ้นชีวิตนี้ไปอย่างศักดิ์สิทธิ์
และแล้วพระบิดาเจ้าจะเสด็จลงมาจากสวรรค์ เพื่อจะเตรียมบัลลังก์สำหรับพระองค์เอง จากบัลลังก์นั้น
พระองค์จะปลุกคนตายทั้งหมดให้ฟื้นขึ้นมาใหม่
บัลลังก์นี้ ตามที่ผมเห็น จะตั้งอยู่บนเวทีแห่งหนึ่ง มีความสูงขนาดหัวไหล่ และมีความยาว 600 เมตร
กว้าง 6 เมตร สูง 1 เมตร จะมีสีเงินสุกใส และพระบิดาเจ้าจะประทับอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์ และเทวดา
ทั้ง 4 องค์ จะอยู่บนเวทีนั้น ต่างก็ช่วยกันแบกหนังสือเล่มใหญ่ซึ่งมีความยาว 8 เมตร กว้าง 5 เมตร และหนา
ครึ่งเมตร ผมเห็นว่าเทวดาพลิกหน้าหนังสือซึ่งเป็นทอง
และแล้วก็มีเสียงแตรครั้งที่สอง แล้วพระเจ้าจะเริ่มเรียกบรรดาวิญญาณของผู้ตายไปแล้ว โดยอ่านชื่อ
ของพวกเขาจากหนังสือเล่มใหญ่ บรรดาวิญญาณแรก ๆ จะถูกปลุกขึ้นมา เป็นบรรดาวิญญาณของคน
ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ซึ่งจะกลับเป็นขึ้นมาใหม่ พวกเขาจะอยู่เคียงข้างบรรดาอัครสาวก และบรรดานักบุญ
แล้วที่เหลือจะเป็นบรรดาวิญญาณธรรมดา ๆ แต่มั่นคง ท้ายสุด บรรดาวิญญาณของคนบาป
การฟื้นคืนชีพนี้จะดำเนินไปเรื่อย ๆ โดยไม่หยุดเลยชั่วระยะเวลาหนึ่ง ผมได้รับอนุญาตให้เห็นนิมิต
ในการกลับเป็นขึ้นมาของตัวผมเองด้วย ผมออกมาจากหลุมฝังศพ แล้วก็มองไปรอบ ๆ เพื่อมองหาแม่ของผม
แต่ผมไม่สามารถเห็นเธอเลย แต่ในทันใดนั้น ผมก็แว้บไปเห็นน้องเลี้ยงของผม อีเรนา (lrena) ซึ่งถูกเลื่อย
เป็น 2 ท่อนในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยพวกทหารกองโจรชาวยูเครน
แล้วผมก็เข้าไปใกล้ ๆ เธอ และพูดด้วยความประหลาดใจว่า "อีเรนา เธอไปอยู่ที่ไหนมาน่ะ ?"
เธอตอบว่า เธอรู้สึกเหมือนเพิ่งหลับไปสักครู่หนึ่งเท่านั้น
ดังนั้นเราก็เดินไปสัก 2 - 3 ก้าว แล้วก็ตัดสินใจว่าจะไปมองหาพ่อแม่ (อีเรนาและผมมีแม่เดียวกัน
แต่คนละพ่อ) และเมื่อเราเดินไปรอบ ๆ บริเวณนั้นด้วยกัน เพื่อจะมองหาพ่อแม่ในระหว่างคนซึ่งกำลังฟื้น
ขึ้นมาใหม่ ๆ จริง ๆ แล้วมันค่อนข้างยากที่จะบอกถึงความแตกต่างระหว่างคน 2 พวกนี้ เว้นแต่ว่าคนเพิ่ง
ฟื้นขึ้นมาใหม่ ๆ นั้นยังส่งกลิ่นแรงของดิน
เราหาพ่อแม่ของเราไม่พบ และในที่สุด ถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจนัก ผมก็ตกลงใจที่จะถามพระเจ้า
พระบิดาของเราว่า พระองค์ทรงทราบที่ซ่อนของพ่อแม่ของเราหรือเปล่า อย่างน้อยของแม่เราก็ยังดี และดังนั้น
ผมจึงถามพระองค์ว่า "ข้าแต่พระเจ้า ข้าแต่พระบิดาเจ้า แม่ของเราจะฟื้นขึ้นมาเหมือนคนเหล่านี้หรือไม่?"
พระบิดาเจ้าตอบว่า "แน่นอน เธอจะกลับมีชีวิตใหม่ แต่ยังไม่ถึงเวลา ผู้คนจะไม่ฟื้นขึ้นมา
ในเวลาเดียวกัน การฟื้นคืนชีพของคนเหล่านี้จะกินเวลาหลาย ๆ ปี
ระหว่างการเห็นภาพนิมิตนี้ ผมได้สังเกตว่ามีหลายคนยืนอยู่แถวนั้น ดูท่าทางจะหวาด ๆ เพราะยัง
ไม่มั่นใจว่าจะได้รับเลือกสรรสู่ชีวิตนิรันดรหรือไม่ และก็มีบางคนที่มั่นใจอย่างสิ้นสงสัย จึงลิงโลดด้วย
ความยินดี จนเอ่อล้นบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
และอีกสิ่งหนึ่งซึ่งแปลก ที่ยังเห็นพวกเขาแต่งตัวอย่างที่พวกเขาเคยแต่งในสมัยของพวกเขา
ดังนั้น มนุษย์ทุกคนที่เคยมีชีวิต ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จะฟื้นชีพขึ้นมาใหม่ จะมีคนเป็นจำนวน
มหาศาลบนโลก จะเป็นเหมือนศูนย์สรรพสินค้า เว้นแต่ว่าจะไม่มีการเบียดเสียดเยียดยัด และไม่มีใคร
แสดงอารมณ์ขุ่นมัวเลย และในขณะเดียวกันนั้นเอง จะมีการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์อย่างเห็นได้ชัด
เช่น ทะเลจะค่อย ๆ ถอยห่างไปทีละน้อยจากแผ่นดิน จนกระทั่งอันตรธานไปสิ้น
และแล้วก็จะมีช่วงที่ทุก ๆ คนจะจำคนอื่น ๆ ได้หมด และจะพบเพื่อนเก่า และญาติพี่น้องกันอีก
ผู้คนจะลุกขึ้นมาพบหน้าค่าตากันทุกหนทุกแห่ง แล้วต่างก็ทักทายปราศัย และพูดคุยกัน จะเป็นเวลาฟื้น
ความหลังต่อกันและกัน
และแล้วจะถึงเวลาแห่งความเจริญงอกงาม ทุก ๆ คนจะฟื้นจากความตายมาในสภาพเดียวกันกับ
ที่ได้ตาย จะมีอายุเท่าเดิม และมีลักษณะภายนอกเหมือนเดิม แต่สิ่งที่จะเกิดขณะนี้ก็คือ คนมีอายุจะกลับดู
หนุ่มสาว และคนหนุ่มสาวจะเปลี่ยนเป็นมีอายุมากขึ้น ทุก ๆ คนจะค่อย ๆ เปลี่ยนรูปไปในทางที่ดีกว่า
สวยงามกว่า กระฉับกระเฉงกว่า ในเสี้ยวนาทีนั้นเอง จนกระทั่งทุกคนจะเปลี่ยนโฉมมาเป็นมีอายุเท่าพระเยซูที่
เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว นั่นก็คือราว 30 ปี
และแล้วเมื่อมนุษย์ทุก ๆ คน ถูกเปลี่ยนโฉมเป็นคนสวยงาม และครบเครื่องแล้ว ทูตสวรรค์จะเป่าแตร
เป็นครั้งที่สามไปยังสี่มุมโลก และต่อไปนี้จะถึงเวลารวมตัวกัน และเวลาแยกจากกัน บางคนจะได้ที่ทางซ้าย
ของบัลลังก์ บางคนจะได้ที่ทางขวาของบัลลังก์ แล้วแต่ว่าได้ใช้ชีวิตบนโลกนี้ดีหรือชั่ว จริง ๆ แล้ว แต่ละคนจะ
รู้อยู่แก่ใจตนเองว่า ตนควรจะอยู่ตรงไหน โดยไม่จำเป็นจะต้องมีใครมาจัดให้
หลังจากนั้น พระเยซูคริสตเจ้าเอง จะเสด็จมาถึงพร้อมด้วยบรรดาอัครสาวกของพระองค์ และเมื่อ
พระเยซูเจ้าและบรรดาอัครสาวกเข้านั่งประจำที่แล้ว การพิพากษาก็จะเริ่มขึ้น ผู้คนทางซ้ายของบัลลังก์จะ
ตระหนักว่าพวกเขาจะไปไหน ก็เริ่มจะร้องคร่ำครวญอย่างเอ็ดอึง แต่มันจะช่วยอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ในบรรดาวิญญาณที่ถูกลงโทษนี้ ผมเห็นในนิมิต มีทั้งพระสงฆ์ รับไบ และบุคคลที่มีเกียรติอื่น ๆ อีก  ส่วนผู้คน
ทางด้านขวาของบัลลังก์ ณ จุดนี้ พวกเขาจะกลายเป็นที่ชิงชังแก่คนเหล่านั้นซึ่งระหว่างมีชีวิตอยู่ พวกเขาได้
ชิงชังและปฏิเสธพระคริสต์
และดังนั้น พระคริสต์จะหันไปยังผู้ชอบธรรม และกล่าวว่า "ลูก ๆ สุดที่รัก ไปเถิด ไปยังอาณาจักรสวรรค์
ซึ่งได้คอยพวกเธอตั้งแต่สร้างโลก" แต่พระองค์จะตรัสกับพวกที่อยู่ทางพระหัตถ์ซ้ายของพระองค์ว่า
"เจ้าพวกถูกสาปแช่ง จงไปยังไฟนิรันดร์ ซึ่งได้เตรียมไว้สำหรับปีศาจและพลพรรคของมัน"
จากเวลานั้นเป็นต้นไป จะมีเหวลึก จะแยกคนดีจากคนชั่ว และพวกเขาจะไม่เห็นกันอีกเลย ตลอดไป

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 8:16 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (51)👈

🔥--- นักวิเคราะห์ชื่อดังตีความ ---🔥

          นักวิเคราะห์งานของนอสตราดามุสชื่อดัง Mr. M. Ruir ได้ตีความไว้อย่างน่าสนใจ โดยวิเคราะห์
จากคำโคลงของนอสตราดามุส พระวิวรณ์ และจากคำทำนายของ เซนต์มาลาคี ดังนี้
1. ระหว่างปี 1938 - 1940 จะเกิดสงครามและการปฏิวัติ โดยชี้ลงไปว่าวันที่ 22 กรกฎาคม จะเริ่ม
สงคราม แต่จริง ๆ แล้ว สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1939 เมื่อเมือง Danzic
ถูกเยอรมันยึด เขาตีความผิดไป 1 ปี
2 . ตีความโคลงบทที่ 95/5 ว่า โป๊ปปีโอที่ 11 จะครองอาสน์ 17 ปี ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น
คือพระองค์ครองอาสน์อยู่ 17 ปี 4 วัน
3. ในระหว่างปี 1988 - 1995 จะมีโป๊ป 2 องค์ คือโป๊ปที่มีสมญาว่า De labore solis และ
De Gloriae Olivae และขณะพระองค์กำลังครองอาสน์ ชาวอาหรับจะเปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์
4. ระหว่างปี 1995 - 2023 จะเป็นรัชสมัยของโป๊ปที่มีสมญาว่า Petrus Romanus จะมีการ
เบียดเบียน พระศาสนจักร ซึ่งพระอาสน์ของโป๊ปจะต้องย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัย
5. ในระหว่าง 3 ปี (1995 - 1999) แห่งการบุกยุโรปของชาวเอเชียในเดือนกันยายน 1994
จอมมหากาฬ จะเป็นผู้นำไร้เทียมทานแห่งเอเชีย หลังจากได้ฆ่าหมู่ผู้วิเศษแห่งอินเดีย ทิเบต และ
ชาวมุสลิมแล้ว เขาจะรุกคืบหน้ามายังบริเวณฝั่งทะเลดำ เขาผู้มีพลังมหัศจรรย์ จะสยบผู้คนได้อย่าง
เหลือเชื่อ แล้วกองทัพของเขาจะผงาด อยู่บนแม่น้ำดานู้บในปี 1996
6. ณ เดือนมีนาคม 1998 ในมหาสมุทรแปซิฟิค ชาวอเมริกันจะทำให้ชาวเอเชียเป็นจุลไปด้วย
กองทัพเรือและกองทัพอากาศ และจะบดขยี้ชาวเอเชียในยุโรป บนเขาแอลป์ และบนแม่น้ำดานู้บ
7. ระหว่างเกิดคราสดวงจันทร์ในวันที่ 28 กรกฎาคม และคราสดวงอาทิตย์
ในวันที่ 11 สิงหาคม 1999 จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แล้ว Mr. M. Ruir ก็สรุปว่า การขยับเขยื้อนวิถี
โคจรของโลกไปสู่ยุคใหม่ จะเริ่มในวันที่ 23 ตุลาคม 2023 เมื่อพระจันทร์จะถูกบดบังจากหมู่เมฆ และฝุ่น
คอสมิค และจะเริ่มปรากฎโฉมใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม และใกล้โลกกว่า ฤดูกาลจะเปลี่ยนไป และทวีปใหม่
จะโผล่ขึ้นมา และทะเลก็จะเผยโฉมหน้าใหม่ เป็นการประเดิมยุคใหม่
🔥--- อวสานของมนุษยชาติ ---🔥
          นอสตราดามุสทำนายเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เขายังได้ทำนายถึงอวสาน
ของโลก และ ปรปักษ์พระคริสต์ หรือแอนตี้ไคร้สต์ตัวจริงไว้ด้วย ในบทก่อน ๆ ได้กล่าวถึง นโปเลียน และ
ฮิตเลอร์ ความโหดร้ายของบุคคลทั้ง 2 เป็นเพียงเงาเลือนลางของแอนตี้ไคร้สต์ตัวจริง ปรปักษ์พระคริสต์
ตัวจริงมีศักดาภินิหารมากกว่า โหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งกว่า
มีโคลงอยู่ 2 บทที่นอสตราดามุสกล่าวถึงปรปักษ์พระคริสต์ตัวจริงในโคลงบทที่ 10/9 ดังนี้
Moyne moynesse d'enfant mort exposé,
Mourir par ourse & ravy par verrier,
Par Fois & Pamyes le camp sera posé
Contre Tholoze Carcas dresser fourier
ทารกที่เกิดจากสงฆ์และนางชี ถูกนำไปทิ้งหวังให้ตาย
หมีตัวเมียคาบเอามาหมายจะขย้ำ แต่หมูป่าตัวผู้แย่งเอาไปได้
เหตุนี้จะเกิดเมื่อกองทัพตั้งค่ายที่เมืองฟัวส์และปาเมียร์
เมืองโธโลสและคาร์กัสเตรียมขุดสนามเพลาะรับมือ
โคลงบทที่ 96/10
Religion du nom des mers vaincra
Contre la secte fils Adaluncatif
Secte obstinee deploree craindra
Des deux blessez par Aleph & Aleph.
ศาสนาที่มีชื่อแห่งทะเลจะมีชัย
ต่อองค์การอุบาทว์ของโอรสของอาดาลุนกาทีฟ
เจ้าแห่งองค์การอุบาทว์ที่ดื้อรั้นมันจะตัวสั่นร้องของความเมตตา
พระเจ้าลงอาชญาโทษมัน 2 ครั้ง
🔥--- ปรปักษ์พระคริสต์ (คนที่ 3) ตัวจริงคือใคร ---🔥
          โคลงบทที่ 10/9 บรรทัดแรก มันจะเป็นบุตรชายของสงฆ์และนางชี มันจะเกิดเมื่อเกิดความตึงเครียด
ที่เมือง FOIS ปัจจุบันคือเมือง FOIX เมือง PAMYES ปัจจุบันคือเมือง PAMIERS เมือง THOLOZE ปัจจุบัน
คือเมือง TOULOUSE เมือง CARCAS ปัจจุบันคือเมือง CARCASSONNE เมืองตูลุสมีอุตสาหกรรมต่อ
เครื่องบินแอร์บัส เมืองการ์กัสโซนเป็นเมืองใหญ่ ส่วนเมืองฟัวส์และเมืองปาร์เมียร์เป็นเมืองเล็ก ๆ ทั้งสี่เมือง
อยู่ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส ปรปักษ์พระคริสต์จะเกิดเมื่อมีความตึงเครียดของสงคราม มีการระดมพลครั้ง
สำคัญของฝรั่งเศส ตามประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสระหว่างปี 1958 - 1962 เกิดวิกฤติการณ์แอลจีเรีย ขณะนั้น
นายพลเดอโกลลาออกจากการเมืองไปใช้ชีวิตเงียบ ๆ อยู่ในชนบทแล้ว สถานการณ์เลวร้ายลง ประธานาธิบดี
โคตีได้เชิญเดอโกลเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาทางการเมืองระหว่างฝรั่งเศสและแอลจีเรีย
ตอนนั้นทัพของฝรั่งเศสได้มาตั้งค่ายที่ทางภาคใต้ที่เมืองทั้งสี่ที่ระบุชื่อไว้ข้างต้น เตรียมพร้อมจะบุกแอลจีเรีย
แต่เผอิญตกลงกันได้ ฝรั่งเศสคืนอิสรภาพให้แก่แอลจีเรียในปี 1962 ดังนั้น ปรปักษ์พระคริสต์จะถือกำเนิด
ระหว่างปี 1958 - 1962
ในโคลงบทที่ 96/ 10 คำว่า ALEPH เป็นอักษรตัวแรกของภาษายิว หมายถึง แรกกำเนิด คือ พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์ทรงฟาดพระหัตถ์แห่งพระพิโรธไปยังลูซิเฟอร์ (Lucifer) เทพแห่งแสงสว่าง เพราะมันเป็นกบฏต่อ
พระองค์เมื่อครั้งสร้างโลก อีกครั้งหนึ่งพระองค์จะทรงฟาดพระหัตถ์แห่งพระพิโรธไปยังปรปักษ์พระคริสต์ มัน
จะตัวสั่นงันงกขอพระเมตตา ในยามที่มันต้องพ่ายแพ้แก่พระองค์เมื่อถึงอวสานของโลก ปรปักษ์พระคริสต์
จะเป็นหัวหน้าของขบวนการอุบาทว์ มันเป็นโอรสของอาดาลุน กาทิฟ (ADALUN CATIF) ถ้าเราแยกตัวอักษร
จะได้คำว่า DAN กับ CALIFATU
DAN คือ ชนเผ่าหนึ่งในสิบสองตระกูลของอิสราเอล ดังนี้คือ
1. รูเบน 2. สิเมโอน 3. ยูดาห์ 4. เศปูลูน 5. อิสสาคาร์ 6. ดาน 7.กาด 8. อาเธอร์ 9. นัฟทาลี
10. เอฟราอิม 11. มนัสเสท์ 12. เบนยามิน
CALIFATU เป็นภาษาท้องถิ่นของเกาะซีซิลีในอิตาลี คำนี้ถ้าเป็นภาษาอิตาเลียน ปัจจุบันจะลงท้าย
O ภาษาฝรั่งเศสปัจจุบันใช้คำว่า CALIFAT แปลว่า ตำแหน่งผู้นำทางศาสนาและการปกครองของชน
ในตะวันออกกลาง ภาษาไทยใช้คำว่ากาหลิบ
ตามตำนาน 12 ตระกูลของอิสราเอลจะต้องได้รับการเจิมจากพระสงฆ์ยกเว้นเผ่าดาน นักบุญยวง
อัครสาวกไม่ได้กล่าวถึงตระกูลนี้ในพระวิวรณ์เลย นักบุญอีเรเนโอและคนอื่น ๆ เชื่อว่าปรปักษ์พระคริสต์
ตัวจริงจะเกิดจากตระกูลนี้
พรของยากอบที่อวยพรให้ลูกทั้ง 12 คน สำหรับดานมีดังนี้ ดานจะ
เป็นทนายของประชาชนของตน ดานจะเป็นผู้อยู่กลางถนน เป็นงูพิษที่อยู่ในหนทางที่กัดส้นเท้าม้า
ให้คนขี่ตกหงายหลัง (เยเนซิส 49:16-17)

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 8:24 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (52)👈

🔥--- ข่าวใหญ่ของแม่พระ ---🔥

          มาดูเอกสารประกอบอีกชิ้นหนึ่งคือสารของแม่พระ เมื่อพระนางปรากฏมาพบเด็กเลี้ยงแกะ 2 คน
ชื่อ มักซิมัง จิโรต์ อายุ 11 ปี กับ เมลานี คัลวัต อายุ 15 ปี ที่ตำบลลาซาแลต แขวงอิสาร์ ประเทศฝรั่งเศส
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 1846 เอกสารนี้พระสันตะปาปาปีโอ ที่ 9 ทรงอ่านเมื่อปี 1852 ส่งผ่านต่อมายัง
พระคาร์ดินัลเปกซี (PECCI) ต่อมาทรงเป็นพระสันตะปาปาเลโอที่ 13
ปี 1860 เมลานีได้เขียนรายงานอีกฉบับหนึ่งเสนอพระสังฆราชเปตาญา แห่งเมืองกาสเตลลามาเร
ปี 1879 พระสังฆราชเปตาญาประชวร จึงสั่งให้พระสังฆราชเมืองเลจเชลูอิจีโชลา จัดพิมพ์เป็นเล่ม
โดยขออนุมัติชื่อ "ข่าวใหญ่ของแม่พระ"
ข่าวใหญ่ของแม่พระมี 33 ข้อ ล้วนเป็นคำตักเตือนให้ประพฤติตนเป็นคนดี บทลงโทษสำหรับคนชั่ว
อวสานของยุคนี้ และปรปักษ์พระคริสต์
ข้อที่ 26 ในข่าวใหญ่ของแม่พระระบุว่าปรปักษ์พระคริสต์ จะเกิดจากนางชีชาวยิวคนหนึ่ง เป็นพรหมจารีเก๊
มันเป็นสาวกของซาตาน บ้ากาม บิดาของปรปักษ์พระคริสต์เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ พอเกิดมันก็สำรอกคำแช่ง
ด่าออกมาได้ ฟันขึ้นเต็มปาก เป็นผีมาเกิด มันจะแผดเสียงก้องจนคนขวัญหนีดีฝ่อ มันแสดงอภินิหารให้เห็น
อาหารประจำคือ สิ่งปฏิกูล มันยังมีพี่น้องอีกถึงมิใช่เป็นผีมาเกิดอย่างมัน แต่พวกมันก็ชาติชั่วอยู่นั่นเอง
วิเคราะห์ : ตามประเพณียิว ถ้าแม่เป็นยิว ลูกก็เป็นยิวด้วย ไม่สนใจว่าพ่อเป็นชาติใด ถ้าพ่อเป็นยิว
แต่แม่เป็นชาติอื่น เช่น รัสเซีย ลูกก็เป็นรัสเซียไม่ใช่ยิว ถ้าต้องการเข้าศาสนายิวก็ต้องทำพิธีเปลี่ยนศาสนา
เป็นยิว ฉะนั้นแอนตี้ไคร้สต์ที่เกิดจากแม่ชีชาวยิว ตามประเพณีมันก็ต้องเป็นยิวจากเผ่าดาน
(แต่ไม่ได้ทำพิธีเข้าสุหนัตเช่นชาวยิวทั่วไป - นี่เป็นข้อมูลซึ่งผู้เขียนเพิ่งค้นคว้าได้มา)
ในหนังสือ "ข่าวใหญ่ของแม่พระ" โดยเมลานี คัลวัต ยังได้กล่าวถึงอวสานของยุคไว้หลายข้อ ดังนี้
1. พระสงฆ์ นักบวช จะประพฤติตนไม่เหมาะสม ฝักใฝ่ในทางโลกมากกว่าในทางธรรม
2. ขอให้ระวังคนที่สร้างอภินิหารแปลกประหลาดในท้องฟ้าและบนแผ่นดิน
3. หนังสือลามกจะล้นโลก ซาตานจะเป็นเจ้าครอบครองจิตลามกหยาบช้าทั้งหลาย
4. พระสันตะปาปาจะมีทุกข์หนัก เพราะระยะหนึ่งพระศาสนจักรจะถูกเบียดเบียนข่มเหงอย่างรุนแรง มันเป็น
เวลาที่ภัยมืดครองโลก พระศาสนจักรจะเกิดวิกฤติการณ์น่าสยอง
5. คนชั่วจะมุ่งทำลายพระชนม์พระสันตะปาปาหลายครั้ง
6. ก่อนหน้าที่ปรปักษ์พระคริสต์ตัวจริงจะแสดงตัว บางประเทศจะจับกลุ่มรวมกันต่อสู้ต้านพระคริสต์
มนุษย์ต้องการยกตัวเป็นพระเจ้าเสียเอง
7. จะเกิดโรคระบาด ความอดอยากหิวโหย สงครามจะเกิดสืบเนื่องติดต่อกันจนถึงสงครามใหญ่
ครั้งสุดท้าย กษัตริย์ 10 องค์ สาวกของปรปักษ์พระคริสต์ จะร่วมมือกันก่อตั้งองค์กรเพื่อยึดครองโลก
8. ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ประชาชนโลกจะอยู่ในสันติสุขจอมปลอม มนุษย์จะหาความ
สนุกสนาน เสพสุขกันอย่างเต็มที่ หยาบช้าลามกอย่างไม่มีที่เปรียบ แต่จะมีชนอีกพวกหนึ่งใฝ่ธรรมะ เขาเดิน
ตามเราอย่างซื่อสัตย์ เขาทำให้พระเป็นเจ้าพอพระทัย ในวาระสุดท้ายพระองค์จะอยู่เคียงข้างพวกเขา
9. ฤดูกาลจะเปลี่ยนไป แผ่นดินไม่ให้ผลผลิต นอกจากชนิดเลว ดวงดาวในท้องฟ้าจะเปลี่ยนวิถีโคจร
แสงจันทร์จะเป็นสีแดงช้ำไม่นวลแอร่ม น้ำ - ไฟ จะทำให้โลกหมุนอลวน แผ่นดินไหวน่ากลัว
ภูเขาถล่มทลาย บ้านเมืองพังพินาศ
10. โรมจะเป็นศูนย์กลางของปรปักษ์พระคริสต์
11. ซาตานและปรปักษ์พระคริสต์จะแสดงอำนาจอิทธิฤทธิ์ทั้งในท้องฟ้าและบนแผ่นดิน
แต่ข่าวดีของพระเจ้าจะแพร่หลายไปทุกซอกทุกมุม
12. เมื่อเวลานั้นมาถึงซาตานเจ้าชายแห่งความมืด ปรปักษ์พระคริสต์ และบรรดาสาวกทั้งหลายของมัน
จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างทรนง แต่เพียงแรงเป่าของอัครเทพมีคาแอล ก็จะทำให้มันสำลักตัวสั่นเทา
ตกดิ่งลงพื้นพสุธา ซึ่งขณะนั้นกำลังอลเวง คุกรุ่น อยู่เป็นเวลา 3 วัน แล้วขุมนรกก็จะเปิดกว้าง ไฟนรกจะ
พลุ่งขึ้น ลากตัวซาตานและสมุนของมันให้หมกไหม้อยู่ในนรกชั่วนิรันดร
13. น้ำกับไฟจะชำระล้างโลก ทำลายผลงานหยิ่งผยองของมนุษย์จนสิ้นซาก แล้วทุกอย่างจะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่
พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการสรรเสริญแซ่ซ้องถวายชัยมงคลจากมนุษย์ทุกคน
ยังมีรายงานของซิสเตอร์ยีน เดอ รัวเยร์ แห่งคณะพระกุมารประสูติ เธอเกิดในปี 1731 เข้ามาบวช
เป็นนางชีเมื่อปี 1755 เธออ่าน - เขียนไม่ได้ แต่เธอได้รับการเผยแสดงจากพระผู้เป็นเจ้า เธอเห็นจาก
ณานนิมิตของเธอ เธอเล่าให้ที่ปรึกษาฝ่ายวิญญาณของเธอฟัง เขาได้จดบันทึกคำบอกเล่าของเธอไว้
ต่อมาเขาเกิดลังเล เพราะคำบอกเล่านั้นล้วนเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้ เขาจึงเผาทิ้ง อีก 30 ปีต่อมา ปี 1790
ภายหลังปฏิวัตินองเลือดในฝรั่งเศส สิ่งที่เธอได้บอกแล้วเกิดเป็นความจริงทั้งหมด ที่ปรึกษาฝ่ายจิตวิญญาณ
คนใหม่ คุณพ่อเจเนตต์ได้ขอให้เธอเล่าสิ่งที่เธอได้รับการเผยแสดงอีกครั้ง คราวนี้เขาจดบันทึกไว้ในหนังสือ
ถึง 4 เล่ม ซิสเตอร์ยีน เดอ รัวเยร์ ถึงแก่มรณภาพในปี 1798 จะขอหยิบยกเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับยุคสมัย
ของเราเท่านั้น
ศตวรรษที่เริ่มในปี 1800 ยังไม่ใช่ศตวรรษสุดท้าย อาณาจักรของปรปักษ์พระคริสต์ใกล้เข้ามาแล้ว
ไอหนาจากใต้บาดาลบดบังแสงอาทิตย์จนมืดมิด คือคติพจน์หลอกลวงของคนอธรรม และได้รับการสมยอม
ให้คละเคล้าเข้ากับหลักธรรมแท้ ๆ แพร่ไปทุกแห่งหน เหมือนความมืดเข้ามาบดบังความเชื่อมั่นต่อพระเจ้า
และปัญญา
วิจารณ์ : ปี 1790 คติพจน์หลอกลวงซึ่งเธอพูดถึง พวกก่อการปฏิวัติได้นำมาใช้แล้ว ปรัชญาเมธี
เรียกว่า "ห้องภาพ" แนวความคิดนี้ได้แพร่หลายอย่างรวดเร็วและเสรี ตั้งแต่รัชสมัยของกษัตริย์หลุยส์ที่ 15
นักปรัชญาเหล่านี้เรียกตัวเองว่า "ฟรีเมซอน"
ซิสเตอร์ยีนเล่าต่ออีกว่า
มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ ลุกขึ้นต่อสู้พระศาสนจักร มันปล้น ทำลาย เป็นเหตุให้ไร่องุ่นของพระเจ้าเกิด
อลเวงยุ่งเหยิง มันทำให้ประชาชนเหยียบย่ำดูหมิ่นพระศาสนจักร มันบังอาจริบสมบัติของพระศาสนจักร
และยึดอำนาจพระสันตะปาปา
จะเกิดสงครามนองเลือดหลายครั้ง ประชาชนจะเข่นฆ่ากันเอง สงครามระหว่างประเทศต่อประเทศ
โลกจะเกลื่อนด้วยศพของคนที่ถูกฆ่า แผ่นดินไหวน่ากลัว ภูเขาทั้งลูกแตกแยกเป็นเสี่ยง ๆ เสียงคำรณกึกก้อง
จนขวัญหนีดีฝ่อ ลมพายุหมุนพ่นควันพ่นไฟพิษกำมะถันน้ำมันดินออกจากปล่องเขา ภัยพิบัติทั้งหมดนี้จะมา
ก่อนปรปักษ์พระคริสต์
วิจารณ์ : นี่คือที่เรียกกันว่า มหาภัยพิบัติ หรือกลียุค จุดของสงครามนองเลือด ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย
ทั่วไป ครั้นแล้วสันติภาพที่สมบูรณ์จะตามมา ทุกประเทศจะปรองดองกัน ปลายยุคนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะเข้ามา
ประเทศอิสราเอลจะรับมันไว้เป็นพระเมสสิยาห์เป็นกษัตริย์ของตน แล้วมันจะครองโลก แต่ก่อนการมาของมัน
มันจะปลุกผู้ทำนายจอมปลอมสาวกของมันให้ป่าวประกาศว่า ปรปักษ์พระคริสต์คือพระเมสสิยาห์ ยิ่งใกล้เวลา
ที่ปรปักษ์พระคริสต์จะมาถึง ความชั่วช้าหลงผิดจะแผ่ไปทั่วโลก สมุนของมันจะเพิ่มความพยายามหลอกลวงคนดี ๆ
ให้หลงเชื่อมันมากเพิ่มขึ้น จะเกิดศาสนาจอมปลอม ปฏิเสธเอกภาพของพระเจ้า การต่อต้านพระศาสนจักร
ความหลงผิดจะเป็นสาเหตุให้เกิดการทำลายล้างอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เหล่าสาวกของซาตานเตรียมปูทางให้แก่ปรปักษ์พระคริสต์ อาศัยการคอรัปชั่น การติดสินบน
ความหยิ่งผยองของมนุษย์ มันฉีดพิษภัยเข้าสมองคน พิษร้ายก็แพร่ไปในหมู่มนุษย์ราวกับเชื้อโรคระบาด
พิษแห่งความชั่วร้ายจะแผ่กระจายไปทั่วโลก พายุร้ายจะเริ่มที่ฝรั่งเศส ฝรั่งเศสจะเป็นประเทศแรกที่ต้องวายวอด
เพราะเป็นที่พักพิงของมัน (ปรปักษ์พระคริสต์) ฝรั่งเศสจะถูกคว่ำบาตรจากพระศาสนจักร

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 8:30 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (53)👈

🔥--- อวสานของโลกตามพระธรรมวิวรณ์ ของนักบุญยวง อัครสาวก ---🔥

          ในอดีตมีหลายบุคคลที่ครอบครองอาณาจักร มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล แต่เป็นเพียง
ส่วนหนึ่งของแผ่นดินโลกเท่านั้น เช่น เจงกิสข่าน อเล็กซานเดอร์มหาราช นโปเลียน ฯลฯ แต่บุคคล
ดังกล่าวจะเทียบไม่ได้เลยกับปรปักษ์พระคริสต์ที่จะมา
พระธรรมวิวรณ์โดยนักบุญยวงอัครสาวก กล่าวถึงสัตว์ร้ายตัวที่หนึ่งดังนี้ ครั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้
เห็นสัตว์ร้ายตนหนึ่งขึ้นมาจากทะเล มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา แต่ละเขามีมงกุฎสวมอยู่ ที่หัวแต่ละหัวมีชื่อ
ล้วนแต่เป็นถ้อยคำหมิ่นประมาทพระเป็นเจ้าจารึกอยู่ สัตว์ร้ายตนนี้โดยทั่ว ๆ ไปมีลักษณะคล้ายเสือดาว
มีตีนคล้ายหมี ปากคล้ายสิงโต พญามังกรได้ให้ฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่และบัลลังก์แก่สัตว์ร้ายตนนี้
ข้าพเจ้าสังเกตว่าที่หัวหัวหนึ่งของมันมีรอยแผลฉกรรจ์ ซึ่งทำให้มันถึงแก่ชีวิตได้ แผลนี้หายสนิทแล้ว
คนทั้งโลกได้ติดตามสัตว์ร้ายตนนี้ด้วยความพิศวงยิ่ง พวกเขาพากันกราบไหว้บูชาพญามังกร เพราะเห็นว่ามัน
ให้ฤทธิ์อำนาจแก่สัตว์ร้ายดังกล่าว นอกจากนั้นพวกเขายังกราบไหว้บูชาสัตว์ร้ายตนนี้ด้วย ต่างอ้างว่า
"ใครเล่าจะเทียบสัตว์ร้ายตนนี้ได้ ใครจะหาญสู้กับสัตว์ร้ายตนนี้ได้?" วิวรณ์ 13:1-4
วิจารณ์ : ปรปักษ์พระคริสต์คือสัตว์ร้าย เพราะนั่นเป็นทั้งชื่อและลักษณะของมันจริง ๆ มันขึ้นมาจากทะเล
ทะเลในพระคัมภีร์หมายถึงนานาชาติที่กำลังปั่นป่วน วิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ กฎหมายขาดความศักดิ์สิทธิ์
ประชาชนกำลังมองหาคนที่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ เขาผู้นั้นจะเป็นวีรบุรุษ เขาจะเป็นผู้นำของประชาชาติ
10 เขาและ 10 มงกุฎเป็นสัญลักษณ์หมายถึงผู้นำของ 10 ลัทธิที่จะมารวมกลุ่มกัน สำหรับ 7 หัวนั้น
หมายถึงบาปต้นเจ็ดประการ (ความชั่วสำคัญ ๆ อันเป็นต้นเหตุแห่งความชั่วอื่น ๆ) คือ 1. ความจองหอง
2. ความตระหนี่ 3. ความลามก 4. ความโลภอาหาร 5. ความอิจฉา 6. ความโมโห 7. ความเกียจคร้าน
เขาจะได้รับการช่วยเหลืออุ้มชูจากซาตาน แล้ววันหนึ่งเขาจะได้รับบาดเจ็บปางตาย แต่แผลนั้นก็จะ
ได้รับการรักษาให้หายอย่างอัศจรรย์ ทำให้ฝูงชนเป็นจำนวนมากเลื่อมใสศรัทธาเขาทวีขึ้น
สัตว์ร้ายตัวนี้จะพูดจาหยาบคายต่อพระนามของพระเจ้าถึง 3 ปีครึ่ง หลังจากนั้นมันจะกระทำสิ่งน่า
สะอิดสะเอียนในพระวิหาร นั่นคือมันจะประกาศตนเองเป็นพระเจ้าในพระวิหาร
มนุษย์ในโลกจะตกอยู่ภายใต้การบงการของสัตว์ร้ายตัวนี้ถึง 7 ปี เป็นกลียุคที่มนุษย์จะถูกเบียดเบียน
รังแกข่มเหงสุดจะบรรยาย หากพระเจ้าไม่ทรงเมตตาให้วันนั้นสั้นเข้า จะไม่มีใครรอดชีวิตเลย
พระธรรมวิวรณ์13:11-18 บรรยายถึงสัตว์ร้ายตัวที่สอง ผู้ช่วยของสัตว์ร้ายตัวแรก สัตว์ร้ายตัวที่สองจะ
ผุดขึ้นมาจากแผ่นดิน คำว่าแผ่นดิน บ่อยครั้งที่พระคัมภีร์หมายถึงอาณาเขตในตะวันออกกลาง ผู้เชี่ยวชาญ
พระคัมภีร์บางท่านเชื่อว่า สัตว์ร้ายตัวที่สองหรือผู้เผยพระวจนะเท็จผู้นี้น่าจะเป็นชาวยิว สัตว์ร้ายตัวที่สองจะสั่ง
ให้มนุษย์สร้างรูปจำลองของสัตว์ร้ายตนแรก แล้วบังคับให้มนุษย์กราบไหว้ ผู้ใดขัดขืนจะถูกมันฆ่าตาย
สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้มีอำนาจมาก มันสามารถกระทำให้ไฟตกลงมาจากฟ้าสู่แผ่นดินโลกประจักษ์แก่ตา
มนุษย์ทั้งหลาย มันล่อลวงคนทั้งโลกด้วยหมายสำคัญนั้น มันยังสามารถทำให้รูปจำลองของสัตว์ร้ายตัวแรก
พูดได้ มันบังคับให้คนทั้งหลายให้รับเครื่องหมายไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก เป็นชื่อของสัตว์ร้ายตัวนั้นหรือ
เลขชื่อของมัน เลขของมันคือหกร้อยหกสิบ
🔥--- กลียุค ---🔥
          พระคัมภีร์ทำนายไว้ว่า ในอนาคตโลกจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่งซึ่งเต็มด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก
ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่เรียกว่ากลียุค 7 ปี
ในครั้งนั้น มีคาเอล (ไมเคิ้ล) เทพผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีความยาก
ลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้
คือ ทุกคนที่มีชื่อไว้ในหนังสือ และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็จะเข้าสู่
ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายขายหน้านิรันดร์ (ดาเนียล 12:1-2)
พระคัมภีร์กล่าวว่าในช่วงนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะปรากฏโฉม ชาวโลกจำนวนมากจะมองดูผู้นำคนใหม่
อย่างมีความหวัง เขาอาจมีส่วนในการนำชาติอิสราเอลและอาหรับเข้าหากัน และอนุญาตให้ยิวสร้างวิหาร
ขึ้นใหม่ จะมีการตกลงสันติภาพกับอิสราเอล ต่อจากนั้นสามปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญานั้น
แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหารประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า
ใน 7 ปีแห่งกลียุคนี้จะเป็นเหตุการณ์โหดร้ายทารุณสยองขวัญ พรั่นพรึงอย่างน่ากลัวที่สุด จะไม่มีช่วง
ใดเลยในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบันที่จะมีความสยดสยองเท่ากลียุค 7 ปี พระเยซูตรัสว่า
จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาวหรือในวันสะบาโต ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิด
ความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และในเบื้องหน้าจะไม่มีต่อไปอีก
ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านี้ย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้
วันเหล่านี้ย่นสั้นเข้า (มัทธิว 24 : 20-22)
จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึงตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด
ขันทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายดังต่อไปนี้
ตราที่ 1 วิวรณ์ 6:1 หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ซึ่งจะบันดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
ตราที่ 2 วิวรณ์ 6:3 สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วโลก
ตราที่ 3 วิวรณ์ 6:5 ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
ตราที่ 4 วิวรณ์ 6:7 มนุษยชาติตาย 1 ใน 4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
ตราที่ 5 วิวรณ์ 6:9 ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
ตราที่ 6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง ดวงจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน
บางคนเชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าหากัน
ตราที่ 7 วิวรณ์ 8:1 ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่วโมง ตราดวงนี้จะขยายให้เห็นแตรอีก
7 อันข้างหน้า
ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)
แตรที่ 1 ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1 ใน 3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้หมดสิ้น
แตรที่ 2 ทะเลถูกทำลายลง 1 ใน 3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลายลง 1 ใน 3
แตรที่ 3 คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
แตรที่ 4 ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1 ใน 3 เป็นเหตุให้อุณหภูมิผันแปรอย่างมาก
แตรที่ 5 ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมันทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้าหรือคนที่ไม่ได้รับความรอด
แตรที่ 6 มนุษยชาติ 1 ใน 3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคนด้วย
แตรที่ 7 ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะครอบครอง
เป็นนิจนิรันดร์
ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวเข้ามาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษยชาติต่างเกรงกลัว
ฤทธิ์เดชานุภาพของมัน ยอมตัวเป็นบริวาร เป็นทาสรับใช้มัน มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลส
ตัณหา และความชั่วร้ายสุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบเทบนโลก
ความหมายของขันทั้งเจ็ดมีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)
ขันที่ 1 เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วตัว
ขันที่ 2 สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
ขันที่ 3 น้ำจืดกลายเป็นเลือด มนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
ขันที่ 4 ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
ขันที่ 5 มนุษย์ได้รับทรมานแสนสาหัสฉกรรจ์ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัวแต่พวกเขา
ยังไม่สำนึกผิด
ขันที่ 6 การเตรียมตัวของซาตานมารร้ายเพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน
มันจะเข้าไปหาผู้นำประเทศต่าง ๆ เพื่อขอร้องแกมบังคับให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ
50 กิโลกรัม คนจำนวนมากจะเสียชีวิต ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ เกาะทั้งเกาะจะจมหายไป

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 8:37 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (54)👈

🔥--- สงครามอาร์มาเกดอน ---🔥

          อาร์มาเกดโดนเป็นชื่อที่พระคัมภีร์ใช้เรียกสงครามโลกครั้งสุดท้าย ซึ่งปรปักษ์พระคริสต์จะเป็น
ผู้นำพลโลกเข้าถล่มกันที่อิสราเอล ในวาระสุดท้ายเพื่อต่อสู้กษัตริย์แห่งกษัตริย์คือพระเยซูคริสต์
พระวิวรณ์ 16:14 เรียกการรบครั้งนี้ว่า "สงครามในวันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด"
สนามรบของสงครามอาร์มาเกดโดนอยู่ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนกลาง
ของอิสราเอล มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเรียกว่าที่ราบเอสดราเอลลอน (Esdraelon) เป็นหุบเขา
ใกล้เมืองเมกิดโด (Megiddo)
สงครามนี้จะเกิดขึ้นตอนปลายของกลียุค 7 ปี
สาเหตุของสงครามโลกครั้งสุดท้าย สงครามอาร์มาเกดโดน คือกิเลสตัณหาความชั่วช้าของมนุษย์
สถานการณ์ของสงครามที่จะเกิดขึ้นมีทำนายไว้ในพระคัมภีร์ ตีความหมายได้ดังนี้
ขั้นที่ 1 เริ่มด้วยการโจมตีของสหพันธชาติอาหรับต่ออิสราเอล ตามพระธรรมดาเนียล (11:40) พอถึง
วาระสุดท้าย พระราชาแห่งถิ่นใต้จะมาสู้กับเขา และพระราชาแห่งถิ่นเหนือจะพุ่งเข้าใส่ท่านอย่างลมบ้าหมู
พร้อมด้วยรถรบ พลม้า และเรือรบเป็นจำนวนมาก เขาจะเข้ามาในประเทศต่าง ๆ แล้วไหลท่วมและผ่านไป
พระราชาแห่งถิ่นใต้ ได้แก่ อียิปต์ และชาติอาหรับอื่น ๆ ที่อยู่ทางใต้ของประเทศอิสราเอลขณะที่
กลุ่มชาติอาหรับเปิดสงคราม รัสเซียจะส่งกองทัพบุกเข้ามาสมทบ ในพระคัมภีร์เรียกรัสเซียว่ากษัตริย์เหนือ
กองทัพรัสเซียมีความเข้มแข็ง อียิปต์ ลิเบีย เอธิโอเปีย ตกอยู่ใต้อำนาจของรัสเซีย
ขั้นที่ 2 ขณะที่รัสเซียยึดครองอัฟริกา กองทัพใหญ่จากชาติตะวันออก (จีน) ก็เตรียมบุกตะวันออกกลาง
เช่นกัน มีข่าวลือการระดมพลครั้งใหญ่ของจีน ข่าวจากทิศตะวันออกและทิศเหนือจะทำให้เขาตกใจ
(ดาเนียล 11:40)
ขณะที่รัสเซียได้ข่าวการฟื้นตัวของอาณาจักรโรมัน หมายถึง ประเทศประชาคมยุโรปที่เตรียมตัวจะ
เข้ายุ่งเกี่ยวในสงครามตะวันออกกลาง อาณาจักรโรมันจะมีผู้นำคนหนึ่งจะยกทัพเข้าป้องกันอิสราเอล ให้พ้น
จากการโจมตีของชาติอาหรับและรัสเซีย ปรปักษ์พระคริสต์จะทำสัญญาป้องกันอิสราเอล "ท่านจะทำ
พันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปดาห์ ผู้ที่จะกระทำให้เกิดความวิบัตินั้นจะมาบนปีกของ
สิ่งน่าสะอิดสะเอียน จนความอวสานที่ได้กำหนดไว้จะถูกเทลงเหนือผู้กระทำให้เกิดความวิบัตินั้น"
(ดาเนียล 9 : 27)
รัสเซียจะยาตราทัพจากอียิปต์บุกเข้าอิสราเอลอย่างรวดเร็ว เพื่อรวบรวมแสนยานุภาพ กองทัพอัน
เกรียงไกรของโซเวียตจะตั้งอยู่บริเวณกรุงเยรูซาเล็ม (ดาเนียล 11:40-45)
ขั้นที่ 3 ในการต่อสู้ครั้งนี้ รัสเซียจะถูกทำลายโดยกองทัพของโรมันใหม่ (ดาเนียล 11:45)
(เอเสเคียล 38:18-39) เศคาริยาห์กล่าวถึงทหารเหล่านี้ว่าจะติดโรคระบาดในลักษณะที่ว่า เนื้อของเขา
จะเน่าไปเมื่อขายังยืนอยู่ได้ ตาของเขาจะเน่าคาเบ้าตา และลิ้นของเขาจะเน่าคาปาก (เศคาริยาห์ 14:12)
นับเป็นเวลาหลายร้อยปีทีเดียว ที่ผู้ศึกษาพระคัมภีร์ไม่อาจตีความหมายของโรคที่เศคาริยาห์พูดถึง
แต่การที่ญี่ปุ่นถูกระเบิดปรมาณูที่เมืองนางาซากิ และเมืองฮิโรชิมา ในสงครามโลกครั้งที่สองนั้น ผู้เชี่ยวชาญ
พระคัมภีร์จึงเข้าใจความหมายของคำพยากรณ์บทนี้ได้ดีขึ้น
ขั้นที่ 4 กษัตริย์ทางทิศตะวันออกหมายถึงประเทศต่าง ๆ ในเอเซีย อาทิ จีนจะกรีฑาทัพยกพลถึง
200 ล้านคนมาถึงแม่น้ำยูเฟรติส เพื่อเข้าโจมตีปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอิสราเอล (วิวรณ์ 16:12)
ขั้นที่ 5 เพราะการเคลื่อนทัพของชาติตะวันออก ปรปักษ์พระคริสต์ระดมพลทั่วโลก กองทัพทั้งสองฝ่าย
จะเผชิญหน้ากันในแผ่นดินอิสราเอล พร้อมที่จะบดขยี้อีกฝ่ายให้แหลกลาญไป และที่นี่คือสนามรบของ
สงครามอาร์มาเกดโดน (วิวรณ์ 16:13-14)
ในที่สุดสงครามก็ถึงจุดระเบิด การปะทะกันอย่างรุนแรงรอบกรุงเยรูซาเล็ม และมณฑลยูเดีย ทหารถูก
ฆ่าตายถึง 200 ล้านคน เลือดมนุษย์จะท่วมถึงบังเหียนม้าเป็นระยะทางถึง 100 กิโลเมตร (วิวรณ์ 14:20)
ขณะที่สงครามอาร์มาเกดโดนเกิดขึ้น เมืองอื่น ๆ ในโลกจะพังพินาศราบเป็นหน้ากลองจากแผ่นดินไหว
หรือเกิดจากระเบิดนิวเคลียร์ที่คู่ศึกยิงอาวุธมหาประลัยโจมตีกัน
"บรรดาอาวุธทั้งหลายที่ถูกทิ้งหลังสงคราม ชาวยิวจะเก็บมาใช้เผาไฟแทนเชื้อเพลิงได้นานถึง 7 ปี
และซากศพของเหยื่อสงครามจะถูกฝังไว้ในสุสานที่หุบเขาฮาโมนโกก พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะฝังเขาทั้งหลาย
อยู่ถึง 7 เดือน"
วิจารณ์ : อาวุธของรัสเซียนั้นสร้างขึ้นด้วย Lignostone ซึ่งเป็น Compressed Wood Product
จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ถูกพัฒนาเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่าอาวุธของรัสเซียมี
ความแข็งเหมือนเหล็กเบา อ่อนตัวได้ และเรดาร์ไม่สามารถจับได้ คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งคือ การเผาไหม้
ที่อุณหภูมิสูงมาก สามารถใช้ทดแทนเป็นเชื้อเพลิงได้ และนี่ก็คือคำพยากรณ์ที่เขียนไว้ประมาณ 2,600 ปี
มาแล้ว! และแล้วพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาครั้งที่สอง พระบาทแตะลงยอดเขามะกอกตรงข้าม
กรุงเยรูซาเล็ม ภูเขามะกอกจะแตกแยกเป็น 2 ซีก ซีกเหนือและซีกใต้ (เศคาริยาห์ 14:4)
* อาร์มาเกดโดน Armageddon เป็นศัพท์ที่เพี้ยนมาจาก Har Megiddo Har เป็นภาษาฮีบรูแปลว่า เนินเขา
เป็นเมืองที่มีเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญตัดกันนั่นคือ เส้นทางจากอียิปต์ไปดามัสคัส และเส้นทางจากทะเล
เมดิเตอร์เรเนียนไปเมโสโปเตเมีย ที่เมือง Megiddo นี้ได้มีสงครามสำคัญ 2 ครั้ง คือ ระหว่างกษัตริย์ทัทโมซิส
Thutmosis ที่ 3 กับบรรดากษัตริย์ของคานาอันไน้ท์ปี 1484 ก่อน ค.ศ. และระหว่างกองทัพอียิปต์กับกษัตริย์
โยซีอาห์ Josiah แห่งยูดาห์ในปี 609 ก่อน ค.ศ.
เมกิดโดเป็นเมืองที่สร้างตั้งแต่สี่พันปีก่อน ค.ศ. ช่วงที่มีความสำคัญที่สุดคือ ยุคของคานาอันไน้ท์
คือ 3,000 ปี ถึง 1,200 ปีก่อนค.ศ. และในยุคของอิสราเอล กษัตริย์โซโลมอนก็เคยสร้างพระราชวัง 2 หลัง
และประตูเข้าเมือง หลังจากอาณาจักรอิสราเอลล่มสลายในปี 1712 ก่อนค.ศ. เมกิดโดก็เป็นแค่จังหวัดหนึ่ง
อาณาจักรอัสซีเรีย หลังจากนั้นก็ถูกทอดทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าจนถึงปัจจุบัน แต่ตามพระธรรมวิวรณ์ เมกิดโด
หรืออาร์มาเกดโดน จะเป็นสมรภูมิใหญ่ในสงครามโลกครั้งสุดท้าย

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 8:42 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (55)👈

🔥--- กลียุคของชาวเพนเตคอส ---🔥

          ผู้เขียนได้อ่าน "อวสานยุคสุดท้าย" ของคุณธีระชัย สราญรมย์ ผู้ปกครองแห่งคริสตจักรร่มเย็น
และได้ฟังเทปเรื่อง "พระเยซูจะเสด็จกลับมาในปี 2000 หรือ" ของศ.จ. วีรชัย โกแวร์ รู้สึกว่าน่าสนใจ
ท่านทั้งสองได้พูดถึง "นิมิตเจ็ดสิบสัปตะ (1 สัปตะ = 7 ปี) ของดาเนียล บทที่ 9 ข้อที่ 24 ตั้งแต่ถ้อยคำนั้น
ออกไปให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มใหม่ จนถึงผู้ถูกเจิมไว้ผู้เป็นประมุขก็เป็นเวลา 7 สัปตะ (นับตั้งแต่ชาวอิสราเอล
ได้รับบัญชาจากพระเจ้า, ปี 445 ก่อนค.ศ., ทางโปรเฟทให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มใหม่ กินเวลา 40 ปี) แล้ว
เยรูซาเล็มจะถูกสร้างขึ้นพร้อมด้วยลานและคูเป็นเวลา 62 สัปตะ รวมทั้งสองระยะ 69 สัปตะ (นับถึงวันที่
พระเยซูทรงลาถือกิ่งมะกอกเข้ากรุงเยรูซาเล็มประกาศตัวเป็นพระเมสสิยาห์ - 6 เม.ย. ค.ศ. 32) ส่วนที่เหลือ
อีก 1 สัปตะ ได้ถูกเลื่อนไปโดยไม่มีกำหนด เมื่อชาวยิวปฏิเสธไม่ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า และได้ผ่านมา
เกือบ 2,000 ปีแล้ว ตามคำของดาเนียลที่ว่า "ท่านผู้หนึ่งถูกเจิมไว้ (พระเยซู) จะต้องถูกตัดออกและไม่มีอะไร
สำหรับท่าน (ถูกฆ่า)
สัปตะสุดท้ายหรือกลียุคจะเริ่มเมื่อไร ? คุณธีระชัย ตั้งคำถามแล้วสรุปว่า Grant Jeffrey ผู้เขียน
Armageddon Appointment With Destiny ได้ศึกษาหลายแนวทางแล้วปรากฏว่า วันสุดท้าย
ของทุกทฤษฎีจะจบลงในปี ค.ศ. 2000 ดังนั้น สัปจะสุดท้ายน่าจะเริ่มต้นปลายปี 1993 หรือต้นปี 1994
🔥--- การเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระคริสต์ ---🔥
          เมื่อสงครามโลกครั้งสุดท้าย สงครามอาร์มาเกดโดนจวนจะสิ้นสุดลง ซาตาน, ปรปักษ์พระคริสต์,
ผู้เผยพระวจนะเท็จ, และบรรดาสมุนของมัน จะถูกจับโยนเข้าไปในนรกอเวจี จองจำอยู่ที่นั่นชั่วนิรันดร
แล้วก็ถึงเวลาที่พระเยซูคริสต์เสด็จมาสู่โลกเป็นครั้งที่สอง แต่คราวนี้พระองค์มิได้มาในรูปของทารกน้อย
ยากจนค่นแค้น ประสูติในถ้ำเลี้ยงสัตว์เฉกเช่นเมื่อกาลก่อน แต่จะเสด็จมาด้วยความรุ่งโรจน์และฤทธานุภาพ
ของพระเจ้า มิใช่เสด็จมาเพื่อความรักหรือเพื่อปลอบประโลม แต่เสด็จมาในฐานะพระตุลาการผู้ทรงยุติธรรม
เฉียบขาด เพื่อพิพากษามนุษย์ทุกคน คนที่ตายไปแล้วจะถูกปลุกให้ฟื้น มาให้การต่อพระตุลาการร่วมกับ
บรรดาผู้มีชีวิตรอด คนดีกับคนชั่วจะถูกแยกจากกัน คนชั่วจะไปอยู่ในนรก ไปรับมรดกของเขาในบึงไฟ
และกำมะถันที่กำลังไหม้อยู่นั้น นั่นคือความตายครั้งที่สองของเขา (วิวรณ์ 21) ความตายที่ไม่มีวันสูญสิ้น
ส่วนคนดีที่ถูกรังแก พระเป็นจ้าจะปลอบขวัญเขา เช็ดน้ำตาให้เขา และประทานรางวัลให้อยู่ในสวรรค์พร้อม
กับพระองค์ชั่วนิรันดร
พระวิวรณ์ยังกล่าวอีกว่า "ทูตสวรรค์องค์นั้นยังบอกข้าพเจ้า (ยวง) ว่า" ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์ซื่อ
และสัตย์จริง และองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งจิตวิญญาณของผู้เผยพระวจนะ ได้ทรงใช้ให้ทูตสวรรค์
ของพระองค์สำแดงแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อให้รู้เหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งจะอุบัติในไม่ช้านี้ และดูเถิด
เราจะมาในเร็ว ๆ นี้ ผู้ใดที่ถือรักษาคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ก็เป็นสุข (วิวรณ์ 22)
และท่าน (ทูตสวรรค์ บอกข้าพเจ้าว่า "อย่าประทับตราไว้ปิดคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ เพราะว่าใกล้จะ
ถึงเวลานั้นแล้ว คนที่เป็นคนอธรรมก็ให้เขาประพฤติอธรรมต่อไป ผู้ที่เป็นคนลามกให้เขาลามกต่อไป ผู้ที่เป็น
คนชอบธรรมก็ให้เขากระทำการชอบธรรมต่อไป และผู้ที่เป็นคนบริสุทธิ์ก็ให้เขาเป็นคนบริสุทธิ์ต่อไป (วิวรณ์ 22:11)
"ดูเถิด เราจะมาเร็ว ๆ นี้ และนำบำเหน็จของเรามาด้วย เพื่อตอบแทนการกระทำของทุกคน
เราคือัลฟาและโอเมกา เบื้องต้นและเบื้องปลาย เป็นปฐมและเป็นอวสาน (วิวรณ์ 22:12)
นับตั้งแต่เริ่มประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ สงครามเป็นปัญหาใหญ่ที่มนุษย์พยายามแก้ไขหรือหลีกเลี่ยง
แต่ไม่ว่าจะใช้ความพยายามสักเท่าไร สันติภาพก็หาเกิดขึ้นได้ยืนนานไม่ "เขาทั้งหลายได้รักษาแผลแห่ง
ประชากรของเราแต่เล็กน้อยกล่าวว่า สวัสดิภาพ สวัสดิภาพ เมื่อไม่มีสวัสดิภาพเลย" (เยเรมีย์ 6:14)
บางคนตั้งคำถามว่ามนุษย์เราจะอยู่กันอย่างสันติไม่ได้หรือ? ทำไมมนุษย์ต้องฆ่าฟันกันด้วย การที่มนุษย์
ไม่อาจหลีกเลี่ยงสงครามได้ ก็เพราะสาเหตุขั้นพื้นฐานที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "อะไรเป็นสาเหตุของสงคราม
และอะไรเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาทกันในพวกท่าน มิใช่กิเลสตัณหาของท่านหรือที่ทำให้ท่านต่อสู้กัน
ท่านทั้งหลายอยากได้ แต่ไม่ได้ ท่านก็ฆ่ากัน ท่านโลภแต่ไม่ได้ท่านก็ทะเลาะและทำสงครามกัน ท่านไม่มีเพราะ
ท่านไม่ได้ขอ ท่านขอและท่านไม่ได้รับเพราะท่านขอผิด หวังได้ไปเพื่อสนองกิเลสตัณหาของท่าน" (ยากอบ 4:1-4)
สงครามการสู้รบเกิดขึ้นทั่วไป สงครามภายในประเทศ สงครามระหว่างประเทศ สงครามที่ใช้อาวุธเช้า
ต่อสู้ประหัตประหารกันนี้ป็นสงครามร้อน ยังมีสงครามเย็น สงครามเศรษฐกิจ ช่วงชิงผลประโยชน์ตั้งแต่ระดับ
ประเทศต่อประเทศเรื่อยลงมาถึงระดับคนต่อคน สังคมมนุษย์ขาคความเห็นอกเห็นใจ ขาดเมตตาธรรม
ขาดความรัก กิเลสตัณหาความโลภความเห็นแก่ตัวของมนุษย์นับวันยิ่งทวีขึ้น
ชาติมหาอำนาจต่างก็เสริมสร้างแสนยานุภาพให้แก่กองทัพของตัว มีข้ออ้างที่เหมือนกันก็คือเพื่อใช้
ป้องกันประเทศ อาวุธนิวเคลียร์ซึ่งนานาชาติต่างขวนขวายมีไว้ แรก ๆ มีเพียง 5 ประเทศเท่านั้นคือ สหรัฐ
อังกฤษ ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต และจีน แต่ปัจจุบัน อินเดีย ปากีสถาน ก็มีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้สังเกตุการณ์
ตะวันออกกลางบางคนเชื่อว่า อิสราเอลก็มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่รักษาไว้เป็นความลับ จากการสร้างสมอาวุธ
นิวเคลียร์ของหลายประเทศ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า สงครามล้างโลกมีความเป็นไปได้สูง
แต่เมื่อไรนั้นยังไม่มีใครตอบได้

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 8:47 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (56)👈

🔥--- นอสตราดามุสกล่าวถึงยุคแอนตี้ไคร้สต์ตัวจริง ---🔥

          บทที่ 30/2
Un qui les dieux d'Annibal infernaux,
Fera renaistre, effrayeur des humains :
Oncq' plus d' horreur ne plus dire journanx,
Qu'avint viendra par Babel aux Romains.
ชายผู้หนึ่งผู้เกิดมาใหม่จากอันนิบัลเจ้านรกอเวจี
จะก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อมนุษยชาติ
ไม่เคยมีความกลัวอันไหนหรือใบปลิวอันใดน่ากลัวเท่า
มันเคยเกิดขึ้นกับบาเบล*อย่างไรก็จะเกิดกับโรมอย่างนั้น
* บาเบล เป็นชื่อหอคอยที่ชาวนครบาบิโลนช่วยกันสร้างให้สูงถึงฟ้า เพื่อจะได้ไปพบพระเจ้าทุกครั้งที่
ตนต้องการ โดยนึกว่า พระเจ้าประทับเหนือขอบโค้งของฟ้า พระเจ้าจึงลงโทษความยโสโอหังของพวกเขา
โดยให้พวกเขาสับสนในการสื่อภาษาระหว่างก่อสร้าง บาเบล จึงเป็นสัญลักษณ์ของความสับสนวุ่นวาย
บทที่ 59/8
Par duex fois hault, par deux fois mis à bas
O'rient aussi l'occident foiblira
O on adversaire apres plusieurs combats,
Par mer chasse' au besoing faillira.
จะขึ้นสองครั้งและจะลงสองครั้ง
ทั้งพวกตะวันออกและพวกตะวันตกจะอ่อนแอลงทั้งคู่
หลังจากการปะทะกันหลายครั้ง ฝ่ายตะวันออก
จะประสบความปราชัยในภาวะคับขัน
🔥--- กัปตันนาวาถูกจับใส่ใต้ท้องเรือ ---🔥
          บทที่ 93/2
Bien près du Tymbre presse la Lybitine,
Un peu devant grand inondation :
Le chef du nef prins, mis à la sentine,
Chasteau, palais en conflagration.
ณ บริเวณใกล้แม่น้ำไทเบอร์แค่เอื้อม ตายกันเป็นเบื่อ
ก่อนที่จะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่
กัปตันนาวาถูกจับใส่ใต้ท้องเรือ
ปราสาทและราชวังถูกเผาวอด
🔥--- ปี 1999 ---🔥
          บทที่ 72/10
L'an MIL NEUF CENS NONANTE NEUF sept mois,
Du ciel viendra un grand Roy d'effrayeur :
Resusciter le grand Roy d' Angolmois,
Avant apres Mars regner par bon heur.
ณ ปีหนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าเดือนเจ็ด
จอมมหากาฬจะมาจากฟากฟ้า
เพื่อปลุกวิญญาณอันยิ่งใหญ่แห่งเจ้า "อองกูมัวส์" (มองโกล)
ก่อนที่จะปรากฏและหลังการมาปรากฏ สงครามที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว
จะเป็นไปอย่างรุนแรงสุดขีด
🔥--- จ้าวโลกอเมริกาปะทะจ้าวโลกน้องใหม่ ---🔥
          บทที่ 50/4
Libra verra regner les Hesperies,
De ciel & terre te nir la Monarchie,
D'Asie forces nul ne verra peries,
Que sept ne tiennent par rang la hierarchie.
ราศีตุลย์จะครองโลกตะวันตก
จะเป็นเจ้าทั้งทางบกและทางอากาศ
ไม่มีผู้ใดจะเห็นแสนยานุภาพของเอเชียอ่อนแอลงได้
จนกว่าจะถึงองค์ที่ 7 แห่งหัวหน้าศักดิ์สิทธิ์
วิเคราะห์ : หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ฝรั่งเศสควรจะได้รับเกียรติให้เป็นจ้าวโลก แต่หลังสงคราม
ครั้งที่ 2 ตำแหน่งจ้าวโลกจะต้องได้แก่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะครองตำแหน่งนี้ไปเรื่อย ๆ จนถึงองค์ที่ 7 แห่ง
พระฐานานุกรม (hierarchie) หรือหัวหน้าศักดิ์สิทธิ์ ตรงนี้ขออธิบายลำดับอาวุโสของพระทางศาสนา
คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกก่อน คือ 1. สัง ฆานุกร (Diacon) 2. พระสงฆ์หรือบาดหลวง (Prics)
3. พระสังฆราช (Bishop) และในลำดับชั้นนี้ยังขยายเป็น พระอัครสังฆราช (Archbishop) พระคาร์ดินัล
(Cardinal) และพระสันตะปาปา (Holy Father, Pope, Pontiff) อันดับของฐานันดรศักดิ์สงฆ์ เราเรียกว่า
พระฐานานุกรม (hierachy) โป๊ปก็มีลำดับชั้นสูงสุดของพระฐานานุกรม เมื่อเข้าใจศัพท์พระฐานานุกรมแล้ว
ก็ขอย้อนไปกล่าวถึงสหรัฐอเมริกาที่เป็นจ้าวโลกนั้น เรานับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นก็คือปี 1945
ซึ่งเป็นรัชสมัยของโป๊ปปีโอที่ 12 เราก็นับเป็นโป๊ปองค์ที่ 1 (หัวหน้าศักดิ์สิทธิ์องค์ที่ 1) ช่วงที่อเมริกา
ครองความเป็นจ้าวโลก แล้วก็นับต่อรัชสมัยของโป๊ปองค์ต่อไปจนถึงโป๊ปองค์ที่ 7 ฉะนั้นให้เราลองมานับว่า
อเมริกาเริ่มเป็นจ้าวโลกในรัชสมัยของโป๊ปปีโอที่ 12 (1945) รัชสมัยต่อมาก็คือโป๊ปจอห์นที่ 23 (1959 - 1963)
ซึ่งถือเป็นองค์ที่ 2 องค์ที่ 3 คือโป๊ปพอลที่ 6 (1963 - 1978) องค์ที่ 4 คือ โป๊ปจอห์น พอลที่ 1
(1978 - 1978 สามสิบสามวัน) องค์ที่ 5 คือโป๊ปจอห์น พอลที่ 2 (1978 - ? ) อาจเป็นได้ว่าตั้งแต่นี้ต่อไป
คงจะมีจ้าวโลกคนใหม่เกิดขึ้น และจะมาทาบรัศมีสหรัฐ ซึ่งในคำโคลงบรรทัดที่ 3 นั้น นอสตราดามุสบอกว่า
จะไม่มีผู้ใดมาทำให้แสนยานุภาพของเอเชียอ่อนแอลงไปได้ นี่ก็แสดงว่าตั้งแต่ปลายรัชสมัยของโป๊ปองค์ที่ 5
(องค์ปัจจุบัน) และในรัชสมัยของโป๊ปองค์ที่ 6 จะมีจ้าวโลกคนใหม่มาจากเอเชียขึ้นมาทาบรัศมีสหรัฐเป็นแน่
กว่าจะโค่นจ้าวโลกน้องใหม่ได้ก็ตัองรอถึงโป๊ปองค์ที่ 7 (ซึ่งเซนต์มาลาคีได้ทำนายว่าจะมีชื่อ PETRUS
ROMANUS) ตามที่นอสตราดามุสได้กล่าวไว้ในโคลงบรรทัดที่ 4 แสดงว่า อีกไม่ช้าไม่นานสหรัฐอเมริกา
คงจะได้ออกกำลังอีกครั้งหนึ่ง และคู่ปรับคงจะหนังเหนียวกว่าซัดดัมเป็นสิบเท่า เพราะรู้สึกว่าจะเหาะเหิน
เดินอากาศได้เสียด้วยซิ ไม่รู้ใครจะมีบุญ (หรือกรรมเสียมากกว่า) ที่จะได้เห็นจ้าวโลกน้องใหม่ประมือกับ
สหรัฐในจอโทรทัศน์ ซึ่งจะมีอะไรที่เหนือยุคไฮเทคของเราเป็นแน่นอน

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 8:54 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (57)👈

🔥--- หนุ่มจะปฏิวัติโลกของนางจีน ดิกสัน ---🔥

          หลังจากที่นอสตราดามุสให้ข้อมูลต่างๆ ว่า ใครคือแอนตี้ไคร้สต์ตัวจริงแล้ว บัดนี้เรามีข้อมูลจาก
ภาพนิมิตของนางจีน ดิกสัน ซึ่งเห็นเด็กน้อยผู้หนึ่งเกิดในตะวันออกกลางในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1962 นั้น
นางจีนก็ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นใคร ผู้เขียนใคร่หยิบยกข้อเขียนของนางจีนเกี่ยวกับเด็กน้อยผู้นี้ว่า
น่าจะเป็นแอนตี้ไคร้สต์ได้หรือไม่
ภาพนิมิตที่นางจีนถือว่ามีความสำคัญยิ่งยวดที่สร้างความระทึกใจให้แก่เธอมากก็คือ เธอได้เห็น
นิมิตนี้ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นของวันที่ 5 ก.พ. 1962 เวลา 7:00 นาฬิกา วันนี้อาจจะมีความสำคัญพิเศษ ถึงแม้
นางจีนจะไม่รู้มาก่อนถึงความจริงที่ว่า หลายเดือนก่อนหน้านี้ นักพยากรณ์หลายท่านได้ทำนายว่าจะเกิด
แผ่นดินไหวในวันที่ 5 ก.พ. 1962 บางคนถึงกับกล่าวว่าจะถึงกาลสิ้นโลกด้วยซ้ำไป เพราะเป็นการโคจร
มาทาบกันอย่างประหลาดของดวงดาวนพเคราะห์ เหมือนครั้งที่พระคัมภีร์กล่าวไว้เมื่อสองพันปีก่อนว่า
มีดาวสุกใสทอแสงทางตะวันออกทำให้คนเลี้ยงแกะลานตาไป แล้วยังนำ 3 นักปราชญ์มายังถ้ำเลี้ยงสัตว์
เมืองเบทเลเฮม เพื่อพบองค์เยซูที่บังเกิดจากนางมารีอา
3 คืนก่อนที่นางจีนเห็นภาพนิมิตนี้ เธอกำลังนั่งวิปัสนาในห้องของเธอ มารู้ตัวก็ต่อเมื่อแสงได้มัวลง
แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้น และเห็นดวงไฟเล็ก ๆ ห้าดวงในโคมระย้าดับลง ยกเว้นดวงกลางซึ่งยังส่องสว่างจ้าอยู่
เธอประหลาดใจ เธอจึงวิ่งไปยังห้องของสามีเธอ และบอกเขาเรื่องไฟดับในขณะที่ไฟที่บ้านของคนอื่นยัง
สว่างไสวอยู่ นายดิกสันคะเนเอาว่าบ้านเธอฟิวส์คงขาด แต่พอลงไปข้างล่างเพื่อหาสาเหตุแล้ว เขาก็สังเกตว่า
โคมระย้าของภรรยาของเขาก็ลุกสว่างดีเป็นปกติ
คืนต่อมาขณะเธอกำลังนั่งวิปัสนา เหตุการณ์ก็ได้เกิดขึ้นเหมือนเดิมอีก แต่คราวนี้ธอยังคงอยู่ในห้อง
ของเธอ แล้วดวงไฟเล็ก ๆ ก็เริ่มดับลงอีก และในเวลาประมาณ 10 วินาที เธอก็กล่าวว่าเธอได้ยินเสียงแตก
เบา ๆ แล้วเส้นลวดเล็กในหลอดไฟก็เริ่มคุแสงขึ้นทีละน้อยจนลุกเต็มที่ เมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นซ้ำอีกเป็น
ครั้งที่ 3 นางจีนจึงรู้ว่ามันก็คือลางบอกเหตุบางอย่างจะเกิดขึ้น เธอไม่ทราบว่ามันจะเกิดที่ไหนและเมื่อไร
เช้าวันรุ่งขึ้น เธอนอนตื่นสายผิดปกติแต่พระอาทิตย์ก็ยังไม่ขึ้น เธอเดินไปยังหน้าต่างที่เปิดสู่อ่าว
ของห้องนอนของเธอซึ่งหันไปทางตะวันออก
ขณะที่เธอกำลังจ้องไปข้างนอก เธอได้เห็นไม่ใช่ต้นไม้ใบโกร๋นและถนนในเมืองตามปกติ แต่เธอเห็น
ท้องฟ้าสีครามอันสุกใสเหนือทะเลทรายอันแห้งแล้ง เหนือขอบฟ้าเธอเห็นพระอาทิตย์ส่องแสงสุกใสเป็นพิเศษ
ซึ่งเธอไม่เคยพบมาก่อน มันลุกโชนเหมือนลูกไฟสีทอง มันจะฉายแสงจากดวงกลมของพระอาทิตย์ แผ่ออกไป
ทุกทิศด้วยรัศมีอันเฉิดฉาย ซึ่งดูเหมือนถูกวาดจากโลกไปยังพระอาทิตย์เหมือนกับแม่เหล็ก แล้วก็เห็นบุคคล
ทั้งสองจับมือกันเดินออกมาจากแสงอาทิตย์ ทั้งคู่คือฟาโรห์และ พระราชินีเนแฟร์ตีติ (Nefertiti) มีเด็กน้อย
นอนอยู่ในวงแขนของพระราชินี เด็กนั้นพันกายด้วยผ้าขี้ริ้วสกปรก ซึ่งตรงข้ามกับฟาโรห์และพระราชินีที่
ประดับกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา ดวงตาทั้งสองข้างของเด็กน้อยดูทีจะรู้ไปเสียทุกอย่าง นางจีนกล่าว
ข้าง ๆ พระราชินีเนแฟร์ตีติ นางจีนสามารถมองเห็นปิรามิดลูกหนึ่ง ขณะที่นางจีนเฝ้ามองทั้งคู่เข้ามา
แล้วยื่นเด็กมาให้เธอเหมือนว่าจะให้ทั้งโลก ภายในลูกกลมของดวงอาทิตย์ นางจีนก็เห็นโจเซฟเป็นผู้จัดฉาก
ละครเหมือนคนเชิดหุ่นกระบอกที่ดึงเชือกผ้าม่าน ขณะนี้รัศมีของแสงทอแสงจากเด็กน้อยไปกระทบกับแสง
ของดวงอาทิตย์ จึงทำให้ภาพของฟาโรห์เลือนหายไปจากสายตา นางจีนสังเกตเห็นราชินีเนแฟร์ตีติกำลัง
เดินห่างออกไป "เป็นพันไมล์ในอดีต" พระราชินีหยุดอยู่ข้าง ๆ เหยือกน้ำใหญ่สีน้ำตาล ขณะที่พระนางหยุด
แล้วรินน้ำใส่ถ้วยที่เธอถือในมือเพื่อยกขึ้นดื่ม พระนางก็ถูกแทงด้วยกฤชทางข้างหลัง นางจีนกล่าวว่าได้ยิน
เธอร้องกรีดก่อนตายแล้วอันตรธานหายไป
นางจีนหันกลับมามองเด็กน้อย ตอนนี้เขาโตเป็นหนุ่ม เธอเห็นผู้คนทุกชาติทุกภาษาทั้งชนทุกผิวสี
(ดำ, เหลือง, แดง, น้ำตาล และขาว) ต่างก็คุกเข่าและยกแขนทั้งสองขึ้นกราบไหว้แล้วล้อมรอบเขา แล้วห้อง
ก็กลับมืดขึ้นอีก ถึงแม้เธอยังอยู่ในภวังค์อยู่ แต่เธอก็หันไปดูนาฬิกาปลุกของเธอโดยอัตโนมัติ นั่น
เป็นเวลา 7:17 นาฬิกา
มันหมายถึงอะไร ? การเยี่ยมของคนแปลกหน้ามีความสำคัญอย่างไร ? เธอเดินทางรอบโลกครั้งที่ 3
จากอียิปต์ ? นางจีนรู้สึกว่าเธอรู้คำตอบแล้ว เธออธิบายช้า ๆ ว่า "เด็กคนหนึ่งเกิดที่ใดที่หนึ่งในตะวันออกกลาง
หลัง 7:00 นาฬิกาเล็กน้อย ก่อนจะสิ้นศตวรรษนี้ เขาจะปฏิวัติโลก" นางดิกสันเสริมว่า "มนุษยชาติจะเริ่มรู้สึก
ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของเด็กคนนี้ในทศวรรษที่ 80 และหลังจากนั้นเขาจะสำแดงให้โลกรู้จักถึงพลานุภาพของเขา
ในปี ค.ศ. 1999 เมื่อนั้นแหละ ผู้คนถึงจะตระหนัก หรือเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งถึงภาพนิมิตอันนี้ของเธอ
แต่สำหรับ โจเซฟนั้น มีความเกี่ยวพันอย่างไรกับเรื่องนี้ เธอสารภาพว่า "จนปัญญา" เธอทราบแต่เพียงว่า
โจเซฟถูกพี่ ๆ น้อง ๆ 11 คน ขายไปเป็นทาสในอียิปต์เพราะความริษยา ส่วนพระราชินี เธอว่าเป็นราชินี
เนแฟร์ตีติ เพราะเธอเคยเห็นรูปปั้นในพิพิธภัณฑ์คราวไปท่องเที่ยวไคโร พระราชินีผู้นี้เป็นพระมเหสีของ
ฟาโรห์ อาเมนโฮเทพที่ 4 หลังจากเลิกนับถือ อามอน แล้ว ได้หันไปนับถือเทพ อาทอน (Aton) แล้วพระองค์
ได้สร้างเมืองหลวงใหม่เพื่ออุทิศในการนมัสการพระอาทิตย์ ณ ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ พระราชินีเนแฟร์ตีติ ก็เป็น
ผู้สนับสนุนอันร้อนรนในการนับถือหรือนมัสการเทพอาทอน (Aton) เช่นเดียวกัน
"เทพแห่งพระอาทิตย์ - เทพแห่งแสงสว่าง" นางดิกสันรำพึงในใจ
วิเคราะห์ : ถ้าเด็กคนนี้คือแอนตี้ไคร้สต์ ในปี 1991 เขาก็จะมีอายุ 29 ปี ตามที่นางดิกสันว่าเขาเกิด
ในปี 1962 ซึ่งก็ตรงกับที่นอสตราดามุสกล่าวไว้ในโคลงของเขาที่ว่า มารหัวขนของชีและสงฆ์ที่ถูกโยน
ทิ้งนั้น เกิดตอนที่เมืองทั้งสี่ของฝรั่งเศสอยู่ในภาวะตึงเครียด กรณีแอลจีเรีย ระหว่างปี 1958 - 1962 และ
ในโคลงบทที่ 20/6 ที่ว่าในสมัยของโป๊ปจอห์นที่ 23 คือระหว่างปี 1958 - 1963 กรุงโรมจะมีเสือดาวเกิดมา
คำ"เสือดาว" ตามพระธรรมวิวรณ์หมายถึง แอนตี้ไคร้สต์ ส่วนเด็กน้อยจากภาพนิมิตของนางดิกสัน จะเกิด
ในตะวันออกกลาง ซึ่งนางดิกสันที่อยู่ในอเมริกาบอกว่าเป็นเวลา 7:00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ปี 1962 ฉะนั้น
ถ้าเด็กนี้เกิดในตะวันออกกลาง ก็จะเป็นเวลา 14:00 น. ของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1962 ฉะนั้นก็สรุปได้ว่า
แอนตี้ไคร้สต์เกิดที่ตะวันออกกลาง (ตามนิมิตของนางดิกสัน ที่ได้รับมอบเด็กน้อยจากพระหัตถ์ของ
พระราชินีและฟาโรห์ที่ประทับข้าง ๆ ปิรามิดอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอียิปต์หรือตะวันออกกลาง)
ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 1962

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 9:00 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (58)👈

🔥--- ศาสนาที่มีชื่อแห่งมารีอาจะมีชัย ---🔥

          โคลงบทที่ 96/10 ของนอสตราดามุสกล่าวถึงปรปักษ์พระคริสต์ตัวจริงซึ่งจะอุบัติขึ้นในโลก
มันจะเป็นผู้นำของประชาชาติ ทำสงครามขับเคี่ยวกับพระคริสต์ในสงครามโลกครั้งสุดท้าย ผลก็คือซาตาน
และปรปักษ์พระคริสต์จะพ่ายแพ้ มันและบรรดาสาวกของมันจะล่วงหล่นลงสู่อเวจีชั่วนิรันดร์ โคลงบทนั้น
ยังกล่าวถึงว่าศาสนาหนึ่งที่มีชื่อแห่งทะเลจะมีชัย ในโคลงบทที่ 96/10 ในบรรทัดแรก RELIGION DU NOM
DES MERS VAINCRA คำว่าทะเล ภาษาละตินเรียกว่า MARE เป็นเอกพจน์ พหูพจน์ก็คือ MARIA MARIA
ยังเป็นชื่อของพระมารดาของพระเยซูเจ้า ศาสนาที่จะมีชัยต่อปรปักษ์พระคริสต์คือ ศาสนาคาทอลิกซึ่ง
นับถือพระแม่มารีอาตามคำทำนายของนอสตราดามุส
เมื่อปี 1917 เด็กเลี้ยงแกะ 3 คน ได้เห็นภาพประจักษ์ของพระแม่มารีอาที่หมู่บ้านฟาติมา ประเทศ
โปรตุเกส แม่พระรับสั่งว่าถ้ามนุษย์ยังไม่ประพฤติตัวดีขึ้น สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังจะตามมา และก็เป็น
เช่นนั้นจริง ปี 1939 เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง โลกทั้งโลกเสียหายย่อยยับ ประเทศรัสเซีย ซึ่งขณะนั้น
กองทัพบอลเซวิกกำลังต่อสู้ เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบบคอมมิวนิสต์ ยังไม่ทราบผลแพ้ชนะ
แม่พระตรัสว่า "เพื่อป้องกันภัยร้ายแรงที่กำลังจะมีมา ขอให้ถวายโลกแก่เรา ถ้าเชื่อเราโลกจะมีสันติ
รัสเซียจะกลับใจ ถ้าไม่เชื่อ รัสเซียจะแพร่ความหลงผิดไปทั่วโลก จะทำให้เกิดสงคราม การทำลาย
ศาสนา หลายชาติ จะสูญไป แต่ที่สุดเราจะมีชัย"
เหตุการณ์นี้เกิดก่อนชัยชนะของกองทัพบอลเซวิก ในเดือนพฤศจิกายน 1917 คำทำนายเป็นจริง
ทุกอย่าง รัสเซียแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ทั่วโลก ก่อให้เกิดการจลาจลสู้รบระหว่างคนในชาติ ความสามัคคี
ถูกทำลาย โลกมีแต่ความเกลียดชัง พี่น้องจับอาวุธเข่นฆ่ากัน และประเทศสูญสิ้นชื่อ
เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นพระแม่ มารีอา พระมารดาของพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ประจักษ์มาจริงเมื่อถูก
ขอร้องให้แสดงปาฏิหาริย์ยืนยัน ก็ได้เกิดอัศจรรย์ดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์หมุนเป็นไฟพะเนียงเข้ามา
ใกล้โลก มีแสงสีรุ้ง สาดแสงจ้า มองได้ด้วยตาเปล่า ดวงอาทิตย์หมุนจี๋ตรงเข้ามาใกล้ ประชาชนประมาณ
50,000 คนได้เห็นเหตุการณ์นี้เหมือนกันหมด ต่างหวีดร้องด้วยความตกใจกลัว ปาฏิหาริย์ครั้งนั้นนานราว
10 นาที จึงยุติลง ดวงอาทิตย์ถอยกลับสู่ตำแหน่งเดิม ประชาชนที่อยู่ไกลออกไปนับสิบกิโลเมตรก็เห็น
เหมือนกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 1917
คำทำนายของแม่พระที่ว่ารัสเซียจะกลับใจ ระบอบคอมมิวนิสต์กำลังล่มสลายนั้นเป็นความจริงขึ้น
มาแล้ว เมื่อพวกอนุรักษ์ขวาจัดได้ก่อรัฐประหารขึ้นในวันที่ 19 สิงหาคม 1991 และได้ยอมจำนนต่อ
พลังประชาชน หรือพลังจากเบื้องบน ใน 3 วันต่อมา
ที่สุดพระแม่มาเรียตรัสว่า "ในที่สุดเราจะมีชัย" ตรงกับคำโคลงของนอสตราดามุสบทนี้พอดี ทั้ง ๆ
ที่เวลาห่างกันถึง 400 ปี

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 9:11 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (59)👈

🔥--- แอนตี้ไคร้สต์ในจินตทัศน์ของผู้เขียน ---🔥

          กำเนิด : หลังจากที่เราได้ข้อมูลต่าง ๆ จากนอสตราดามุส จากนางจีน ดิกสัน จากสาส์นของแม่พระ
แห่งลาร์ซาแลต จากคำทำนายของนักบุญบางท่าน และจากพระคัมภีร์บางตอน เราก็พอจะประมวลได้ว่า
แอนตี้ไคร้สต์ เป็นมารหัวขน เกิดจากแม่ เป็นนางชี ชาวยิวตระกูลดาน พรหมจารีเก๊ จากพ่อ เป็นพระชั้น
ผู้ใหญ่ หลังจากเกิดได้ไม่กี่วัน ก็ถูกโยนทิ้ง แล้วจะถูกหมีขย้ำ แต่หมูป่าตัวผู้แย่งไว้ได้ จึงเอาไปเลี้ยงตาม
ภาษาสัตว์ จึงมีคำกล่าวบางตอนว่า มันชอบบริโภคสิ่งปฏิกูล
วันเดือนปีเกิด : ตามภาพนิมิตของนางจีน ดิกสัน มันจะเกิดในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1962 ซึ่ง
ก็ตรงกับที่นอสตราดามุสได้กล่าวไว้ในโคลงบทที่ 10/9 ที่กล่าวว่าเมื่อ 4 เมืองของฝรั่งเศสกำลังตึงเครียด
และเตรียมพร้อม กรณีแอลจีเรีย ซึ่งเกิดระหว่างปี 1958 - 1962 และในโคลงอีกบทหนึ่งคือ บทที่ 20/6 ที่
ว่าจะมีเสือดาว (แอนตี้ไคร้สต์) เกิดมา ในรัชสมัยของโป๊ปจอห์นที่ 23 คือ ปี 1958 - 1963
เมื่อได้วัน เดือน ปีเกิดของ แอนตี้ไคร้สต์ คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1962 เราก็รู้ความหมายของอาถรรพ์
หมายเลข 666 ซึ่งมีเขียนไว้ในธรรมวิวรณ์ว่า เป็นหมายเลขที่ แอนตี้ไคร้สต์ ต้องการให้ทุกคนมีไว้ที่มือหรือ
ที่หน้าผาก ถ้าต้องการจะทำมาค้าขายด้วย หรือผู้ที่ต้องการบัตรปันส่วนอาหาร ก็จะต้องมีหมายเลขนี้ไว้ที่มือ
มิฉะนั้นจะต้องอดตาย ฉะนั้นชาวคริสต์ที่รู้เรื่องอาถรรพ์หมายเลข 666 นี้ จะไม่ยอมมี และจะไม่ยอมกราบไหว้
มันเป็นพระเจ้าตามที่มันต้องการเป็นอันขาด ถึงแม้จะตายก็ยอม
ต่อไปนี้จะขอวิเคราะห์หมายเลข 666 นี้หมายถึงอะไร เลข 6 ตัวแรกคือวันเกิดของ แอนตี้ไคร้สต์
ในวันที่ 6 เลข 6 ตัวที่สองคือเดือนที่ 6 เพราะตามปฏิทินยิว เขานับเดือนกันยายนเป็นเดือนที่ 1 ฉะนั้นเดือน
กุมภาพันธ์ก็คือเดือนที่ 6 เลข 6 ตัวที่สามก็คือปีที่ 6 เพราะศักราชของยิวในขณะที่ปฏิทินสากลเป็นปี 1962
ก็คือ 5722 ซึ่งชาวยิวจะเรียกว่ารอบพันปีที่ 6 เหมือนอย่างที่เราเรียกปี 1962 ว่า ศตวรรษที่ 20 ฉะนั้น
ศักราชของยิวปี 5000 ถึง 5999 เขาก็เรียกกันว่ารอบพันปีที่ 6 และตั้งแต่ปี 6000 - 6999 ก็เรียกว่ารอบ
พันปีที่ 7 เช่นเดียวกันปี ค.ศ .1900 - 1999 เราเรียกว่าศตวรรษที่ 20 และปี ค.ศ. 2000 - 2099 ก็เรียกว่า
ศตวรรษที่ 21 ฉะนั้น จึงขอสรุปว่าหมายเลข 666 ก็คือ วัน เดือน ปีเกิดของ แอนตี้ไคร้สต์ นั่นเอง
ฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ให้เราจับตามองเด็กหนุ่มซึ่งจะมีบทบาทเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ย ตามคำโคลง
บทที่ 75/10 และตามจดหมายที่นอสตราดามุสได้มีไปถึงพระเจ้าอังรีที่ 2 ว่าถิ่นกำเนิดของ แอนตี้ไคร้สต์
คือบริเวณที่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ ตุรกี, อาร์เมเนีย และอาเซอร์ไบจาน (Arda) สรุปก็คือประเทศที่เป็นมุสลิม
หลังจากที่ได้แสดงความสามารถในการพูดเจรจาไกล่เกลี่ยแล้ว ที่สุดก็ได้เป็นผู้นำสันนิบาตชาติ 10 ลัทธิ
และจะมีชื่อเสียงโด่งดังในความกล้าหาญ และมีวาทะที่เฉียบแหลม สามารถกล่อมผู้คนได้อย่างเหลือเชื่อ
นอกจากนี้ยังสามารถแสดงปาฏิหาริย์ได้ด้วย คืออาจจะได้รับบาดแผลฉกรรจ์ แต่ในที่สุดก็จะหายอย่าง
ปาฏิหาริย์ จนชาวโลกรู้สึกอัศจรรย์ใจ และจะพากันยกย่องเชิดชูกราบไหว้มัน เขาทั้งหลายจะบูชาพญานาค
เพราะพญานาคได้ให้อำนาจแก่สัตว์ร้าย (แอนตี้ไคร้สต์นั้น) เขาได้บูชาสัตว์ร้ายนั้นกล่าวว่า ใครจะเปรียบปาน
สัตว์นี้ได้ และใครจะสู้รบกับสัตว์ร้ายนี้ได้ (วิวรณ์ 13:4) เมื่อทั่วโลกต่างพากันมากราบไหว้ ยกย่อง บูชาผู้นำ
ผู้เกรียงไกรนี้ พวกยิวก็คิดว่า ผู้นำผู้นี้ก็คือพระเมสสิยาห์ (Messiah) เพราะชาวยิวรอคอยพระเมสสิยาห์
หรือผู้กู้ชาติมาเป็นพัน ๆ ปีแล้วจะปลงใจเชื่อว่าผู้นำนี้คือพระเมสสิยาห์ของตน ยอมสวามิภักดิ์ให้เป็นผู้นำ
ของตนด้วย ตามที่พระเยซูได้กล่าวตัดพ้อพวกยิวไว้ในพระธรรมของท่านจอห์น บทที่ 5 ข้อที่ 43 ว่า เรามาใน
นามของพระบิดา แต่ท่านทั้งหลายไม่ยอมรับเรา ขณะเดียวกันท่านทั้งหลายกลับพร้อมที่จะต้อนรับผู้ซึ่ง
พระบิดาเจ้ามิได้ส่งมา หากแต่มาในนามของตนเอง
เมื่อแอนตี้ไคร้สต์จะเป็นจ้าวโลกอยู่นั้น สิ่งที่มันต้องการมากที่สุดคือ ต้องการให้ผู้คนมากราบไหว้และ
ถือมันว่าเป็นพระเจ้า เพราะเจ้านายที่บงการ แอนตี้ไคร้สต์ อีกทีหนึ่งก็คือ ซาตาน ซึ่งครั้งหนึ่งได้ถูกขับออก
จากสวรรค์ เพราะความมักใหญ่ใฝ่สูงอยากเป็นใหญ่เท่าพระเจ้า ฉะนั้น มันจึงพยายามอย่างสุดฤทธิ์ ที่สร้าง
สมบารมีโดยให้อำนาจทุกอย่างแก่ แอนตี้ไคร้สต์ ในที่สุดมันก็ทำสำเร็จ คือได้ผงาดขึ้นมาเป็นถึงจ้าวโลก
บงการให้ทุกคนที่จะมาติดต่อ ยอมก้มกราบมันเป็นพระเจ้า มันจึงจะยอมเสวนาด้วย มิฉะนั้น มันก็ฆ่าตาย
ฉะนั้นช่วงเวลานี้ ชาวคริสต์เรียกว่า กลียุค หรือก่อนสิ้นพิภพ หรือก่อนสิ้นโลก จะมีความทุกข์เข็ญนานาประการ
พระเยซูเองได้พูดถึงความทุกข์ยากในยุคนี้ไว้อย่างชัดเจนว่า "ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ลำบาก
ใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และในเบื้องหน้าจะไม่มีต่อไปอีก ถ้ามิได้ทรงให้วัน
เหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า"
(มัทธิว 24:21-22)
ปรปักษ์พระคริสต์นี้จะสำแดงเดชอยู่ 3 ปีครึ่ง งานชิ้นโบแดงของมันก็คือ การปะทะกับอัศวินม้าขาว
ผู้ร่วมงานกับพระสันตะปาปา นักบุญที่จะร่วมกันทำนุบำรุงพระศาสนาซึ่งอยู่ในภาวะระส่ำระสาย และปลด
ปล่อยยุโรปซึ่งถูกชาวมุสลิมบุกตะลุยเสียราบคาบ เมื่ออัศวินม้าขาวปลดปล่อยยุโรปแล้ว ก็ดาหน้ามายัง
ตะวันออกกลางเพื่อจะปราบจ้าวโลกให้ได้ แต่ก็ต้องมาเพลี่ยงพล้ำให้แก่เจ้าปรปักษ์พระคริสต์ขณะอายุ
แค่ 40 ปี พอ แอนตี้ไคร้สต์ รบชนะอัศวินก็พิศวงใจ ก็รู้ตัวว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์ของซาตานเจ้านายของมัน
จึงมีใจฮึกเหิม บังอาจเข้าไปนั่งในพระวิหารเยรูซาเล็ม แล้วประกาศตนว่าเป็นพระเจ้า มันจะแผลงฤทธิ์เต็มที่
ได้แค่ 3 ปีครึ่งตามพระคัมภีร์ กล่าวไว้ แล้วมันจะนำทัพอันเกรียงไกรของอิสราเอลไปปะทะกับสิงห์เหนือเสือใต้
และวายร้ายตะวันออกในยุทธภูมิอาร์มาเกดโดน ดังได้กล่าวมาแล้วในตอนก่อน และในช่วงสุดท้ายของมันนั้น
จะมีมหาบุรุษเฮน็อคและเอริอัส ในอดีตกาลปรากฏมาเป็นพยานพระเยซู และมาเทศน์ตักเตือนผู้คน ให้กราบ
ไหว้พระเจ้าเที่ยงแท้แต่ผู้เดียว และให้ประพฤติอยู่ในทำนองคลองธรรม มันก็ใช้สมุนของมันฆ่าท่านทั้งสองเสีย
แล้วให้ปล่อยศพทั้งสองทิ้งไว้ข้างถนน หลังจากนั้น 3 วันครึ่ง มหาบุรุษเฮน็อคและเอริอัสก็ฟื้นคืนชีพมาใหม่
แล้วก็เริ่มเทศน์ของท่านไปเรื่อย ยังความประหลาดใจให้ชาวบ้านเป็นอันมาก และเริ่มจะตระหนักถึงสิ่งซึ่งมี
กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ แล้วท่านก็เรียกร้องให้ผู้คนปฏิบัติตามที่พระเยซูทรงสั่งสอน แล้วท่านทั้งสองก็เหาะขึ้น
สวรรค์ต่อหน้าต่อตาฝูงชน แอนตี้ไคร้สต์ จึงอวดศักดาว่ามันก็เหาะขึ้นสวรรค์ได้ แล้วมันก็เชิญชวนให้ผู้คนมาดู
มันเหาะขึ้นสวรรค์ ครั้นวันกำหนดมาถึง มันก็ใช้อิทธิฤทธิ์ของซาตานเหาะขึ้นฟ้าต่อหน้าฝูงชนซึ่งพากันมาแน่นขนัด
แล้วมันก็เหาะได้จริง ๆ ด้วย แต่ในบัดดลนั่นเอง อัครเทวดาไมเคิ้ลก็ปรากฏองค์ เป่าพรวดเดียวทำให้เจ้า
แอนตี้ไคร้สต์ หัวปักดิ่งพสุธา ซึ่งเปิดอ้าอยู่พร้อมเปลวไฟพลุ่งขึ้นมา แล้วก็สูบตัวมันพร้อมกับเจ้านายของมันคือ
เจ้าซาตาน สู่นรกอเวจี
หลังจากนี้ชั่วเวลาหนึ่ง พระเยซูเจ้าก็จะเสด็จลงมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย คนชอบธรรมจะถูกจัดให้อยู่
ทางขวาของเนินเขามะกอกของกรุงเยรูซาเล็ม ส่วนคนอธรรมก็จะถูกคัดไปอยู่ด้านซ้าย ซึ่งจะต้องตกนรกอเวจี
ชั่วกัปชั่วกัลป์ ส่วนคนชอบธรรมก็จะเสวยสุขในสวรรค์ตลอดชั่วนิรันดร
ผู้ที่ไม่เคยอ่านพระคัมภีร์อาจรู้สึกเหมือนฟังเรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ แต่สำหรับผู้ที่เชื่อในพระคัมภีร์จะไม่
แปลกใจอะไรเลย เพราะต่างตระหนักดีว่า สิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นสักวันหนึ่งข้างหน้า เพียงไม่มีใครรู้ว่าวัน
และเวลานั้นว่าเป็นเมื่อไร ดังพระธรรมมาร์โกบทที่ 13 ข้อ 32 ว่า "แต่วันนั้น โมงนั้น ไม่มีใครรู้ ถึงแม้บรรดา
ทูตสววรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว"
วิเคราะห์ : เกี่ยวกับเลขรหัส 666 ของ แอนตี้ไคร้สต์ ที่มีกล่าวไว้ในพระธรรมวิวรณ์บทที่ 13 ข้อ 18 นั้น
ยังมีนักศาสนศาสตร์ตีความกันออกมาเป็นอีกหลายรูปแบบดังนี้
1. ทั้งศาสนายิว และศาสนาคริสต์ถือเลข 7 เป็นเลขที่สมบูรณ์ เป็นเลขมงคล เช่น พระเจ้าสร้างโลกใน 7 วัน
(วาระ) ฯลฯ ส่วนเลข 6 เป็นเลขไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นมงคล
2. รหัสเลข 666 คือรหัสของคำ Nero Caesar ที่เขียนเป็นภาษาฮีบรู
3. ชาวยิวตั้งตาคอยพระเมสสิยาห์ ซึ่งพวกเขาหมายถึงผู้นำที่จะฟื้นฟูอิสราเอลให้รุ่งเรือง พวกเขาปฏิเสธ
พระเยซู เพราะไม่ได้ให้ในสิ่งที่พวกเขาหวัง เพราะพระเมสสิยาห์ของชาวยิว มิใช่เป็นแค่กษัตริย์ธรรมดา ๆ
แต่เป็นกษัตริย์ผู้เกรียงไกรด้วย คอนเซปต์อันนี้ถ้าเขียนเป็นภาษาฮีบรูก็คือ Hammelck I' Yisrael
ซึ่งมีค่าเป็นตัวเลข 666
4. DICLVX เป็นภาษาลาตินแปลว่า "เทพแห่งแสงสว่าง จงตรัสแก่ข้าเถิด" ในขณะเดียวกัน อักษรแต่ละ
ตัวถ้าใช้เป็นตัวเลข ก็มีค่าดังนี้ D = 500 I = 1 C = 100 L = 50 V = 5 X = 10 รวมกันได้ 666
เทวดาของพระเจ้านำรถเพลิงไฟมารับมหาบุรุษเอริอัสไปอยู่สวนสวรรค์ แล้วในวันใกล้สิ้นพิภพ
ท่านผู้นี้กับมหาบุรุษเฮน็อค (ซึ่งพระเจ้ารับตัวไปแล้วเช่นกัน) จะกลับมายังโลกเรา เพื่อเป็นพยานของพระเยซู
โดยการเทศน์ฟื้นฟูคำสอนของพระองค์ เพราะขณะนั้น แอนตี้ไคร้สต์ จะมาชวนให้คนหลงผิด มันจะฆ่าท่าน
ทั้งสองนี้แล้วทิ้งไว้ข้างถนน แต่หลังจากนั้นสามวันครึ่ง ท่านทั้งสองจะฟื้นคืนชีพ แล้วเหาะขึ้นสวรรค์ต่อหน้า
ต่อตา ผู้คนจึงตระหนักถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ต่างก็พากันมาเชื่อศาสนาของพระเยซู รวมทั้งชาวยิวก็
จะยอมรับว่า พระเยซูคือพระเมสสิยาห์ ซึ่งพวกเขาได้รอมาเป็นพัน ๆ ปีแล้ว
จากนั้นไม่นานพระเยซูมหาตุลาการก็จะเสด็จลงมาพิพากษามนุษย์ทุกคน

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 03, 2023 9:18 pm

🥸~ ชนวนสงครามล้างโลก นอสตราดามุส และบรรดานักบุญ พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ ~🥸
โดย สนธิ สารธรรม
👉 ตอนที่ (60)(ตอนจบ)👈

🔥--- บทส่งท้าย ---🔥

          ผู้เขียนรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสแบ่งปันความรู้ เกี่ยวกับเหตุการณ์ตอนสิ้นพิภพ แต่ก็อดกังวลใจ
ไม่ได้ที่ให้คอนเซปต์ต่าง ๆ ในฉากสุดท้ายของมนุษยชาติ โดยไม่ได้ให้ความกระจ่างในช่วงแรก ๆ
เลยว่า มีความเกี่ยวพันหรือสอดคล้องกับฉากสุดท้ายของมนุษยชาตินี้อย่างไร จึงใคร่ขอทำความเข้าใจ
ฉากแรก ๆ ของมนุษยชาติโดยสังเขป อาศัยความรู้ที่ได้เรียนมาสมัยเรียนชั้นประถม โดยจะใช้คำพูด
เรียบง่ายเหมือนเด็กเรียน เว้นจากการกล่าวให้ลึกซึ้ง สุขุม คัมภีร์ภาพใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนี้ พระเจ้าทรงสร้าง
สรรพสิ่งในจักรวาลรวมทั้งโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ด้วย หลังจากนั้นได้ทรงสร้างเทวดาเป็นจำนวนมาก
มีลักษณะเป็นจิต ไม่มีกาย มีสติปัญญา และน้ำใจเหมือนมนุษย์ เพื่อรับใช้พระองค์ในสวรรค์ เทวดาที่
พระสร้างมีถึง 9 ชั้น ดังนี้คือ
1. ชั้นเซราฟิม 2. ชั้นเกรูบิม 3. ชั้นบัลลังก์ 4. ชั้นนาย 5. ชั้นเจ้า 6. ชั้นอำนาจ 7. ชั้นฤทธิ์
8. ชั้นอัครเทวทูต 9. ชั้นเทวทูต
เทวดามีหัวหน้าชื่อ ลูซีเฟอร์ (Lucifer) แปลว่าผู้นำความสว่าง หรือเทพแห่งความสว่าง ได้ใช้อิสระเสรี
ที่พระเจ้าประทานให้ไปในทางที่ผิด กล่าวคืออยากเป็นใหญ่เท่าพระเจ้า จึงไปชวนเทพไมเคิ้ลให้ร่วมทำกบฏ
ต่อพระเจ้าด้วย แต่เทพไมเคิ้ลไม่ยอมทำตาม พระเจ้าจึงให้เทวดาไมเคิ้ลขับไล่ลูซีเฟอร์ และสมุนให้ออกจาก
สวรรค์สู่นรกอเวจี ซึ่งเราจะเรียกมันว่าปีศาจหรือซาตาน มิใช่เทพหรือเทวดาอีกต่อไป และภารกิจของพวก
มันก็คือ คอยล่อลวงมนุษย์ให้ทำชั่ว เพื่อว่าเมื่อตายไปแล้ว จะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนกับพวกมัน
ครั้นแล้ว พระเจ้าก็ทรงสร้างมนุษย์ชายหญิงคู่แรก ชื่อ อาดัมและอีฟ ให้อยู่ในสวนสวรรค์ซึ่งเต็มไปด้วย
พืชพรรณนานาชนิด พร้อมด้วยสัตว์สารพัดชนิด อย่างมีความสุข ฝ่ายปีศาจเจ้าเล่ห์ แปลงตัวเป็นงูมาล่อลวง
มนุษย์คู่แรกให้ขัดขืนคำสั่งของพระเจ้า อาดัมและอีฟหลงเชื่อ ได้ฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้า พระองค์จึงกล่าวโทษ
กับอีฟว่า "เมื่อเจ้ามีครรภ์และคลอดบุตร ถึงกระนั้นเจ้ายังปรารถนาสามี" (ปฐก 3:16) และตรัสแก่อาดัมว่า
"เจ้าจะต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้า จนเจ้ากลับไปเป็นดินไป" (ปฐก 3:19) แล้วพระองค์ก็กล่าวโทษกับงูว่า
"พงศ์พันธ์ุ (พระเยซู) ของหญิงผู้หนึ่ง (นางมารีอา) จะเหยียบหัวเจ้า เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน"
(ปฐก 3:15) นั่นก็หมายความว่า พระเจ้ามีแผนการที่จะส่งพระบุตร (พระเยซู) ของพระองค์มาอวตาร
ในครรภ์ของหญิงผู้นี้ (พระแม่มารีอา) เพื่อจะได้มาไถ่บาปของมนุษย์นั่นก็คือ มนุษย์เราหลังจากหลงลืมพระเจ้า
จะได้หันกลับมารู้จัก และรักพระองค์เสียใหม่ โดยการสั่งสอนจากพระบุตร คือ พระเยซู เพื่อจะได้เหมาะสมหรือ
คู่ควรที่จะเข้าไปอยู่สวรรค์กับพระองค์ได้
นับเป็นเวลาพัน ๆ ปีที่มนุษย์รอคอยการเสด็จมาของพระผู้ไถ่ ด้วยการอ่านพระคัมภีร์ เพราะพระคัมภีร์
ก็คือพระวาจาของพระเจ้า ซึ่งดลใจให้บรรดาประกาศก หรือโปรเฟท (Prophet) เป็นผู้เขียนว่า พระเจ้าจะส่ง
พระบุตรมากู้มนุษยชาติจากความบาปนั้น จะมีลักษณะอย่างไร ? จะมาเมื่อไร ? จะเกิดจากตระกูลอะไร ?
เช่นจะบอกว่า จะเกิดจากชนชาติอิสราเอล เพราะเป็นชนชาติเดียวที่ยังเชื่อในพระเจ้า (องค์เดียว) อย่าง
เหนียวแน่น แต่ครั้นพระเยซูไปเทศนาให้ชาวยิวว่า พระองค์คือพระบุตร ซึ่งพระบิดาส่งมา ชาวยิวผู้มีใจ
กระด้างก็จะไม่ยอมรับ ตรงข้ามหาว่าพระเยซูบังอาจยกตนเท่าพระเจ้า จึงพร้อมใจกันประหารพระองค์
ส่วนพระเยซูเจ้าก็ได้นอบน้อมพระบิดาเจ้า โดยให้เหตุการณ์เป็นไปตามแผนการไถ่บาปของพระเจ้าทุกประการ
พระเยซูหลังจากถูกนำไปฝังแล้ว ในวันที่สามก็ฟื้นคืนชีพ แล้วก็เสด็จขึ้นสวรรค์โดยสัญญากับสาวกว่า
จะส่งพระจิต (องค์ความสว่าง, พละกำลัง) ปรากฏบนศีรษะของพวกเขาทุกคน เป็นรูปเปลวไฟ ซึ่งบันดาลให้
สาวกของพระเยซูเกิดมีกำลังใจเร่าร้อนที่จะไปเผยแพร่พระธรรม (ข่าวดี) ของพระเยซู นอกจากนี้ ยังได้รับ
พระพรจากพระจิตที่สามารถพูดภาษาแปลก ๆ ภาษาต่างถิ่นได้อย่างน่าอัศจรรย์
การแพร่ข่าวดีของพระเยซูได้กระทำมาเกือบครบสองพันปีแล้ว มีประชากรชาวคริสต์เกือบสองพันล้านคน
ในจำนวนประชากรทั้งโลกประมาณห้าพันล้านคน
พระเยซูได้เคยกล่าวไว้ว่า พระองค์จะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่งในฐานะตุลาการ เพื่อพิพากษามนุษย์ โดยจะ
แยกคนดีไว้ทางด้านขวา คนชั่วไว้ทางด้านซ้าย จะบำเหน็จคนดีให้ไปสวรรค์ และลงโทษคนชั่วให้ไปนรกตลอด
ชั่วนิรันดร มีศิษย์ผู้หนึ่งถามพระองค์ว่า "พระองค์จะเสด็จมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อไร ?" พระองค์ตอบว่า "เรื่องนี้
พระบิดาเจ้าแต่ผู้เดียวเท่านั้นทรงทราบ" ฝ่ายซาตานเมื่อมันเห็นสัญญาณบางอย่างที่เกิดในโลกว่า
ใกล้สิ้นพิภพ หรือใกล้วันที่พระเยซูเจ้าจะเสด็จลงมาครั้งที่สอง มันก็จะพยายามสุดเหวี่ยงที่จะให้มนุษย์ทำชั่ว
มากที่สุด เพราะมันรู้ว่าเวลาของมันเหลือน้อยเต็มทีแล้ว มันจึงใช้อิทธิฤทธิ์ของมันเชิด แอนตี้ไคร้สต์
ให้ผงาดมาเป็นจ้าวโลก ที่สุดก็บรรลุยอดปรารถนาของมัน คือสามารถดึงผู้คนบางส่วนให้มากราบไหว้มัน
ในพระวิหารเยรูซาเล็ม ได้สำเร็จ แล้วอวสานของโลกก็มาถึง ดังได้กล่าวไว้ในบทก่อน
และแล้วพระเยซูเจ้า มหาตุลาการก็จะเสด็จมาพิพากษามนุษย์ ผู้เขียนอธิษฐานขอให้ผู้อ่านทุกท่าน
ถูกคัดไว้ทางด้านขวาของพระเยซู จะได้ร่วมเสวยสุขกับพระบิดา พระบุตร พระจิต และพระแม่มารีอา
ตลอดชั่วนิรันดร

---🔹--- จบบริบูรณ์ ---🔹---
ตอบกลับโพส