รวมเรื่องสั้น คติสอนใจ ( ชุดที่ 3 )

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. พ.ย. 09, 2023 8:00 pm

( 1 )


เคยได้ยินว่า "กรรม" ติดจรวด

แต่เรื่องนี้บอกว่า "บุญ" ก็เช่นกัน

ให้สิ่งใด ได้สิ่งนั้น
(บุญกรรมไม่ไปไหน)

แม้ตะวันจะเริ่มโพล้เพล้ แต่ก็ยังไม่มืดเกินไปที่เขาจะสังเกตเห็นหญิงสูงอายุ
แต่แต่งกายดีคนนั้น ยืนอยู่ข้างทางรอความช่วยเหลือ

เขาเบี่ยงรถเข้าจอดหน้ารถเมอซีเดสเบ๊นส์คันงามของเธอ และลงจากรถ

ขณะที่เขาเดินเข้าไปหาเธอ รถปอนเตี๊ยกของเขาทั้งสั่นทั้งคราง
แม้เขาจะระบายยิ้มซะเต็มหน้า แต่ใบหน้าเธอยังคงเต็มไปด้วยแววกังวล

...ไม่มีใครยอมหยุดมาช่วยเราเลย ตั้งชั่วโมงกว่าแล้ว

เขาจะทำร้ายฉันไหมหนอ ...
เขาดูไม่น่าเชื่อถือเลย...
ดูซกมกและหิวโซอีกต่างหาก...”
เขาพอมองออกว่าเธอกลัวเขา
ยืนอยู่เดียวดายท่ามกลางความหนาวเย็น

เขาเข้าใจดีว่าเธอรู้สึกอย่างไร
มันเป็นความหนาวสั่นที่มาพร้อมกับความกลัวเชียวหละ

“ผมมาช่วยครับคุณผู้หญิง
ทำไมไม่เข้าไปนั่งสบายๆในรถที่อบอุ่นกว่าละครับ...

เออ! ผมชื่อ
ไบรอัน แอนเดอร์สัน ครับ”
ที่จริงรถเธอแค่ยางแตก
แต่นั่นก็หนักหนาพอแล้วสำหรับเธอ

ไบรอันก้มลงมองใต้รถหาที่สำหรับค้ำแม่แรง
ถลกแขนเสื้อและขยับแขน2-3ครั้ง
ในไม่ช้าเขาก็เริ่มเปลี่ยนยางได้
แต่ก็ต้องแลกกับความมอมแมมและเจ็บมือเล็กน้อย

ตอนที่เขาขันน๊อตล้อตัวสุดท้าย
เธอหมุนกระจกรถลงและเริ่มคุยกับเขา
เธอเล่าว่าเธอมาจากเซ็นต์หลุยส์และผ่านมาทางนี้
เธอไม่รู้จะขอบคุณเขาอย่างไรดี ที่อุตส่าห์มาช่วย
ไบรอันแค่ยิ้มให้แล้วปิดกระโปรงหลังรถหลังเก็บเครื่องมือเสร็จ

หญิงผู้สูงศักดิ์ถามว่าเธอต้องจ่ายให้เขาเท่าไหร่
เธอพร้อมจะจ่ายไม่ว่าเท่าไหร่
เพราะเธอตระหนักดีว่า หากเขาไม่มาช่วย
เหตุการณ์อาจจะเลวร้ายยิ่งกว่านี้ก็ได้

ไบรอันไม่เคยคิดถึงเรื่องเงินเลย
นี่ไม่ใช่งานหนักหนาอะไรสำหรับเขา
มันแค่เป็นการช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น
ที่ผ่านมา เขาก็เคยได้รับการช่วยเหลือเช่นนี้จากผู้อื่นเช่นกัน
เขาถือคติเช่นนี้เสมอมา และไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย

เขาบอกเธอว่า
หากเธอจะชดใช้ให้เขาจริงๆละก้อ
ครั้งหน้าที่เธอเห็นใครที่ต้องการความช่วยเหลือ
จงช่วยคนนั้นและ...

“ให้คิดถึงผมด้วยก็แล้วกันครับ”

เขายืนมองจนเธอติดเครื่องยนต์และขับหายไป

...มันช่างเป็นวันที่หนาวและห่อเหี่ยว
แต่เขากลับรู้สึก ดี และมีความสุข ขณะที่ขับรถกลับบ้าน
กลางแสงตะวันยามเย็น

ห่างมาไม่กี่ไมล์ หญิงผู้สูงศักดิ์เห็นข้างทางมีร้านกาแฟเล็กๆร้านหนึ่ง
เธอหวังเพียงแวะเข้าไปหาอะไรรองท้องและหลบหนาว
ก่อนที่จะเดินทางต่อ

ข้างในร้านทั้งมืด ทั้งสกปรก
ข้างนอกมีเพียงเครื่องเติมน้ำมันเก่าๆสองเครื่อง..
มันช่างเป็นภาพที่ไม่โสภาเลยสำหรับเธอ

สาวเสริฟคนหนึ่งเดินมาหาเธอ
ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดซับผมที่เปียกปอนให้เธอ

เธอคนนั้นยิ้มหวานมาก หวานซะจนความเมื่อยล้าจากการยืนมาแล้วทั้งวัน
ยังไม่สามารถลบรอยยิ้มนั้นออกได้

หญิงผู้สูงศักดิ์สังเกตเห็นเธอผู้นั้นน่าจะท้องได้แปดเดือนแล้ว
แต่เธอไม่เคยปล่อยให้ความเครียดและความเจ็บเมื่อยเหล่านั้นมาเปลี่ยนทัศนคติของเธอ

หญิงสูงศักดิ์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะมีคนที่มีต้นทุนเพียงน้อยนิด
แต่สามารถให้ผู้อื่นได้มากขนาดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนแปลกหน้าเช่นเธอ

...แล้วเธอก็นึกถึงไบรอัน หลังจากเธอรับประทานอิ่ม เธอจ่ายด้วยเงินใบละร้อยดอลล์
ขณะที่สาวเสิร์ฟเข้าไปเอาเงินมาทอน

หญิงผู้สูงศักดิ์ได้หลบออกนอกร้านไปทันที
เมื่อสาวเสิร์ฟกลับมาพร้อมตังค์ทอน จึงไม่เห็นเธอขณะที่กำลังฉงนใจ

เธอสังเกตเห็นมีบางสิ่งเขียนอยู่บนผ้ารองจานพอเธอได้อ่าน
นัยน์ตาเธอเอ่อไปด้วยน้ำตา

หญิงสูงศักดิ์เขียนว่า “เธอไม่ได้ค้างอะไรฉันเลย ฉันเคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน
มีบางคนเคยช่วยฉัน เหมือนที่ฉันกำลังช่วยเธอ
หากเธอจะตอบแทนจริงๆละก้อ
จงช่วยผู้อื่นต่อไป อย่าให้โซ่ของความรักนี้ขาดช่วงลงที่เธอนะ”

ใต้ผ้ารองจานผืนนั้น ยังมีใบละร้อยดอลล์อยู่อีกสี่ใบ

เอาละ
ยังมีโต๊ะที่ต้องเช็ด ถ้วยน้ำตาลที่ต้องเติม ลูกค้าที่ต้องบริการอีกมากมาย
เธอยังคงทำงานต่อไปจนดึก

คืนนั้น เธอกลับถึงบ้าน ปีนขึ้นเตียงนอน
พร้อมกับหวลคิดถึงเงินและสิ่งที่หญิงผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นเขียน

.....เธอรู้ได้อย่างไรนะ ว่าเราและสามีกำลังต้องการมันมากทีเดียว
อีกเดือนเดียวลูกก็จะคลอดแล้ว มันจะลำบากยิ่งขึ้น
หากเราไม่มีเงิน..

เธอทราบดีว่าสามีกลุ้มใจเรื่องนี้มาก
ดังนั้น ตอนที่สามีเธอล้มตัวลงนอนข้างเธอ
เธอจุมพิตเขาเบาๆ และกระซิบค่อยๆว่า

“ไม่ต้องกังวลอีกแล้วนะ ฉันรักคุณค่ะ
ไบรอัน แอนเดอร์สัน ที่รัก”

โบราณว่า “
ให้สิ่งใด ได้สิ่งนั้น”

วันนี้ฉันส่งเรื่องนี้ให้เธอ
ขอให้เธอส่งต่อไปให้เพื่อน เพื่อให้แสงสว่างแห่งความรัก ส่องแสงต่อไปเรื่อยๆ

(ไม่ใช่จดหมายลูกโซ่ครับ ไม่มีการคาดโทษใดๆ J) I just did.

เพื่อนที่ดีเหมือนดวงดาว...
คุณอาจไม่เห็นเขาตลอดเวลา
แต่คุณรู้ว่า เขาจะอยู่ที่นั่นเสมอ...

การให้ ยิ่งให้ยิ่งได้และยิ่งมี...
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ พ.ย. 11, 2023 10:09 pm

( 2 )

มองบวกก่อนพูด จะได้ไม่เสียใจ!!!

ได้รับข้อความนี้จากเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนคนนี้ได้เลือกไป แล้ว

เรื่องมีอยู่ว่า..... ชายคนหนึ่งเคยลงโทษลูกสาววัย 5 ขวบของเขา เพราะนำเงินไปซื้อกระดาษ
ห่อของขวัญสีทอง ม้วนหนึ่งซึ่งมีราคาแพง

ในขณะที่การเงินที่บ้านฝืดเคือง และเขาก็อารมณ์เสียอีกครั้ง เมื่อลูกสาวของเขานำกระดาษสีทอง
ราคาแพงนั้นมาห่อกล่องของขวัญเพียงเพื่อตกแต่งไว้ใต้ต้นคริสต์มาส

แต่กระนั้น...ลูกสาวตัวน้อยก็ได้มอบกล่องของขวัญนั้นให้พ่อของเธอในเช้าวันรุ่งขึ้น และพูดว่า
"ของขวัญนี่สำหรับพ่อค่ะ”

พ่อของเธอกระอักกระอ่วนกับอาการที่ได้แสดงออกไปก่อนหน้านี้ ||แต่แล้วความโกรธก็ได้
พล่งพล่านขึ้นอีกครั้งเมื่อ เขาพบว่าในกล่องของขวัญนั้น มันเป็นเพียงกล่องเปล่า
เขาพูดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดว่า

"ลูกไม่รู้จริง ๆ อย่างนั้นหรือว่า การจะให้ของขวัญใคร มันจะต้อง มีอะไรอยู่ในกล่องของขวัญด้วย ? "

เด็กน้อยมองไปที่พ่อของเธอด้วยน้ำตานองหน้า และพูดว่า

"โอ..พ่อจ๋า ! มันไม่ใช่กล่องเปล่าเลย หนูเป่าจูบเข้าไปจนเต็ม"

ชายคนนั้นสะอึก ตัวชาด้วยความเสียใจ เขาทรุดตัวลงแล้วโอบกอดลูกสาวไว้แน่น

เขาขอให้ลูกสาวยกโทษให้เขากับท่าทางโกรธเกรี้ยวเกินเหตุของเขา

ต่อมาไม่นานอุบัติเหตุก็ได้คร่าชีวิตลูกสาวของชายคนนั้นไป

และว่ากันว่าเขาเก็บกล่องของขวัญสีทองล้ำค่านั้นไว้ข้างเตียงนอนตลอดชีวิตของเขาเลยทีเดียว

และเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกท้อแท้ใจ หรือต้องเผชิญกับปัญหาที่ยากเย็นแสนเข็ญ เขาจะเปิดกล่องใบนี้

เพื่อหยิบจูบในจินตนาการขึ้นมาหนึ่งจูบ แล้วรำลึกถึงความรักของลูกน้อยที่ได้ใส่จูบนั้นไว้ให้เขา

ในความเป็นจริง ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง พวกเราทุกคนล้วนได้รับกล่องของขวัญสีทอง ซึ่งบรรจุด้วย
ความรักที่ปราศจากเงื่อนไข และรอยจูบจากลูก ๆ คนรัก ครอบครัว และเพื่อน ๆ

ไม่มีสมบัติใดล้ำค่าไปกว่านี้อีกแล้ว

ตอนนี้ คุณมี 2 ตัวเลือกแล้วละ คุณจะเลือก

1. ส่งข้อความนี้ต่อไปยังคนที่คุณรัก เพื่อนรัก และญาติ ๆ ของคุณ

หรือ

2. ลบมันทิ้งซะ

แล้วทำเหมือนกับว่า เมื่อได้อ่านข้อความนี้แล้วไม่มีอะไรกระทบใจคุณเลยแม้แต่น้อย

อย่างที่เห็นนี่ละ ฉันได้เลือกข้อ 1 ไป แล้ว

เพื่อนคือของขวัญผู้ซึ่งพยุงให้เรายืนขึ้นด้วยเท้า เมื่อปีกของเราไม่รู้ว่าจะบินอย่างไรต่อไปได้

มองโลกในแง่ดี และปฏิบัติดี ฉันขอขอบคุณสำหรับ…..

สำหรับสามีที่นอนกรนทั้งคืน เพราะนั่นหมายถึงเขากำลังหลับอยู่ที่บ้านกับฉัน ไม่ใช่กับผู้หญิงอื่น

สำหรับลูกสาววัยรุ่นที่กำลังบ่นเรื่องล้างจานอยู่ เพราะนั่นหมายถึงเธออยู่บ้าน ไม่ใช่ที่ตามท้องถนน

สำหรับภาษีที่ต้องเสีย เพราะนั่นหมายถึงฉันมีงานทำ

สำหรับข้าวของต่าง ๆ ที่ต้องคอยเก็บหลังงานปาร์ตี้ เพราะนั่นหมายถึงฉันถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนฝูง
คนที่รักฉัน และคนที่ฉันรัก

สำหรับเสื้อผ้าที่พอดีจนเกือบจะคับเกินไป เพราะนั่นหมายถึงฉันยังมีกิน

สำหรับเงาที่คอยมองดูฉันทำงาน เพราะนั่นหมายถึงฉันกำลังได้รับแสงแดด

สำหรับพื้นที่ต้องคอยขัดถู และหน้าต่างที่ต้องทำความสะอาด
เพราะนั่นหมายถึงฉันมีบ้านให้ดูแลรักษา

สำหรับคำบ่นต่าง ๆ ที่มีต่อรัฐบาล เพราะนั่นหมายถึงเรามีอิสระในการที่จะแสดงความคิดเห็น

สำหรับที่จอดรถที่อยู่ไกลสุดของลานจอดรถ เพราะนั่นหมายถึงฉันสามารถเดินได้ และฉันมีรถ

สำหรับผ้ากองโตที่รอการซักรีด เพราะนั่นหมายถึงฉันมีเสื้อผ้าสวมใส่

สำหรับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าทุกสิ้นวัน เพราะนั่นหมายถึงฉันสามารถทำงานหนักได้

สำหรับเสียงปลุกในทุก ๆ เช้า เพราะนั่นหมายถึงฉันยังมีชีวิตอยู่

และสุดท้าย.......

สำหรับคน ที่ส่งมาหาฉัน เพราะนั่นหมายถึงฉันมีคุณเป็นเพื่อนกันเสมอ...

ขอบคุณ คุณทุกคนที่เราต่างเห็นคุณค่าในมิตรภาพที่มีขึ้นระหว่างเรา

โชคดี มีความสุข
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ พ.ย. 11, 2023 10:14 pm

( 3 )


พระรูปหนึ่งถูกสัมภาษณ์โดยนักข่าวจากนครนิวยอร์ก..

นักข่าวเริ่มต้นสัมภาษณ์ด้วยคำถามที่เตรียมมา
"จากการเทศน์ครั้งล่าสุด ท่านพูดถึง
"ความสัมพันธ์" กับ "ความผูกพัน"
ผมสับสนระหว่างสองคำนี้ ขอคำอธิบายด้วยครับ.."

ท่านยิ้มพร้อมถามกลับ "มาจากนิวยอร์กใช่ไหม ?"
"ครับ" นักข่าวตอบ..

ท่านถามต่อ "ที่บ้านมีใครอยู่บ้าง ?"
นักข่าวรู้สึกท่านพยายามหลีกเลี่ยงคำถาม ด้วยการถามกลับในเรื่องส่วนตัว
ตอบว่า "มีพ่อกับน้องชายสามคน น้องสาวหนึ่งคน
ทุกคนแต่งงานแล้ว ส่วนแม่ล่วงลับไปแล้ว.."

พร้อมรอยยิ้มท่านถามต่อว่า
"ได้คุยกับพ่อบ้างไหม ?"

เห็นชัดว่านักข่าวเริ่มแสดงอาการรำคาญ..
ท่านถามต่อว่า "ครั้งสุดท้ายเมื่อไร ?"
"เมื่อเดือนที่แล้วมั้ง.." นักข่าวตอบ

"กับพี่น้องละ เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา ครั้งสุดท้ายเมื่อไร ?"
เหงื่อผุดบนหน้าผากนักข่าวที่ดูเหมือนจะโดนสัมภาษณ์แทน
"คริสต์มาสเมื่อ ๒ ปีที่แล้ว" นักข่าวตอบ..

"อยู่ด้วยกันกี่วัน ?" พระถาม..
นักข่าวปาดเหงื่อตอบว่า "๓ วัน"

"นั่งข้างๆ พ่อกี่ครั้ง ?" พระท่านถามต่อ
นักข่าวเริ่มงงงวย อึดอัด
ขีดเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษ..

ท่านถามต่อว่า
"ท่านเคยทานข้าวกับพ่อไหม
เคยถามพ่อไหมว่าท่าน เป็นอยู่อย่างไรหลังจากไม่มีแม่ ?"

นักข่าวเริ่มหลั่งน้ำตา
ท่านกุมมือนักข่าวพร้อมกล่าวว่า
"อาตมาเสียใจ ถ้าทำให้เธอเจ็บปวดโดยไม่ตั้งใจ
ไม่ต้องละอาย ไม่ต้องเสียใจ
และนี่คือคำตอบ
คุณสัมพันธ์กับพ่อ กับพี่น้อง
แต่ขาดความผูกพัน
ความผูกพันเป็นเรื่องของ "ใจสู่ใจ"
นั่งด้วยกัน ทานอาหาร ด้วยกัน ใส่ใจต่อกัน
สัมผัส กุมมือ สบตา ใช้เวลาร่วมกัน

นักข่าวกล่าว
"ขอบคุณสำหรับบทเรียนอันล้ำค่า​และยากที่จะลืม.."

นี่คือความจริงในปัจจุบัน
ทั้งในครอบครัว ในสังคม
ทุกคนต่างสัมพันธ์กันแต่ไม่ผูกพัน
ทุกคนต่างยุ่งอยู่กับเรื่องของตนเองและโลกส่วนตัว
ขอให้เรารักษาสัมพันธ์และความผูกพันใส่ใจต่อกัน
แบ่งปันและใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารัก ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
ให้มากที่สุด ตราบนานเท่านาน....
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ พ.ย. 11, 2023 10:29 pm

( 4 )

มารยาทสากลที่ควรประพฤติ

1. อย่าโทรหาใครเกินสองครั้งติดกัน ถ้าเขาไม่รับสาย ให้คิดว่าเขาติดธุระสำคัญอยู่

2. ยืมเงินหรือของใครมาต้องคืน ยิ่งคืนก่อนเขาทวงได้ยิ่งดี แสดงให้เห็นว่าคุณมีความซื่อสัตย์
และเป็นเครดิตให้ตัวเอง

3. ถ้ามีใครเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารเย็น อย่าสั่งเมนูที่แพง ๆ

4. อย่าถามคำถามที่น่าอึดอัด เช่น 'อ้าว ยังไม่แต่งงานอีกเหรอ', 'ทำไมยังไม่มีลูก',
ทำไมไม่ซื้อบ้าน, ทำไมไม่ซื้อรถ' เพราะไม่ใช่เรื่องของคุณ!

5. เปิดประตูเผื่อให้คนที่เดินตามหลังมาด้วย ไม่ต้องสนว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เป็นมารยาท
ที่ดีมากในการปฏิบัติต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ

6. ถ้าขึ้นแท็กซี่ไปกับใคร แต่ครั้งนี้เขาเป็นคนออกค่ารถ ครั้งต่อไปคุณควรจะเป็นคนจ่าย

7. เคารพความเห็นต่าง เพราะคุณอาจเห็นเป็นเลข 6 แต่อีกคนอาจเห็นเป็นเลข 9 เพราะ
ความคิดเห็นที่สอง อาจเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้

8. เวลาใครพูด อย่าขัดจังหวะ ปล่อยให้เขาได้พรั่งพรูออกมา หน้าที่ของคุณคือเลือกฟังในสิ่งที่ควรฟัง

9. ถ้าแหย่ใครเล่น แล้วเขาไม่ชอบ ก็เลิกเล่นซะ แล้วอย่าทำอีก

10. เวลามีใครช่วย อย่าลืมพูด "ขอบคุณ"

11. ชื่นชมใครต่อหน้าธารกำนัลได้ แต่ถ้าจะวิจารณ์ใคร ให้ไปพูดตัวต่อตัว

12. อย่าพูดถึงน้ำหนักตัวของใคร แค่บอกว่า เขาดูดี ถ้าเขาอยากคุยเรื่องลดน้ำหนัก เขาจะพูดเอง

13. ถ้าใครโชว์รูปในโทรศัพท์ให้คุณดู อย่าปัดหน้าจอ เพราะคุณย่อมไม่รู้ว่ามีรูปอะไรในนั้นอีกบ้าง

14. ถ้าเพื่อนร่วมงานบอกว่า วันนี้หมอนัด อย่าถามว่าเป็นอะไรต้องไปตรวจ? แค่บอกว่า ขอให้สบายดีนะ
อย่ากดดันให้เขาต้องบอกว่าเจ็บป่วยเป็นอะไร ถ้าเขาอยากให้คุณรู้ เขาจะบอกเองโดยไม่ต้องถาม...

15. ปฏิบัติกับแม่บ้านด้วยความสุภาพเหมือนที่ทำกับ CEO เพราะไม่มีใครรู้สึกดี ถ้าเห็นคุณ
หยาบคายหรือดูถูกคนอื่น มีแต่จะชื่นชมถ้าเขาเห็นคุณปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความเคารพ

16. ถ้าใครกำลังคุยด้วย อย่าเอาแต่ก้มหน้ามองโทรศัพท์ เพราะเสียมารยาทมาก

17. อย่าไปแนะนำอะไรใคร ถ้าเขาไม่ได้ถาม

18. ถ้าไม่เจอใครมานานหลายปี มาเจอกันอีกที อย่าถามเรื่องอายุและเงินเดือน

19. อย่ายุ่งเรื่องคนอื่น ถ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรา

20. ถอดแว่นกันแดดออกเวลาพูดคุยกับใครกลางแจ้ง เป็นการให้เกียรติกัน และการสบตาก็มีค่าพอ ๆ
กับคำพูด

21. อย่าพูดถึงความรวยของใครต่อหน้าคนที่ขาดแคลน และอย่าพูดถึงลูก ๆ ของคุณต่อหน้าคนที่มีลูกไม่ได้

Social Rules
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ พ.ย. 11, 2023 10:40 pm

( 5 )

สำคัญมาก !!!
สามารถช่วยชีวิตคุณได้ !!!
ขอให้อ่านจนจบ !!!

ใครที่หัวเราะเยาะพระเจ้า :

- จอห์น เลนนอน ( นักร้อง)

สองสามปีที่ผ่านมา ขณะที่ให้สัมภาษณ์นิตยสารของอเมริกาฉบับหนึ่ง เขาพูดว่า :

"ศาสนาคริสต์จะจบลงและจะสูญสลายไป ไม่ต้องโต้แย้งผมมั่นใจที่สุด

พระเยซูทรงดีจริงแต่คำสอนของพระองค์พื้นๆเกินไป แมัแต่พวกผมยังโด่งดังมีชื่อเสียง
มากกว่าพระองค์เสียอีกในวันนี้"( ค.ศ.1966)

หลังจากเลนนอนให้สัมภาษณ์ เขาถูกยิงเสียชีวิต

- ตันเกรโด แนวิส ( ประธานาธิบดีของประเทศบราซิล)

ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง เขาเคยกล่าวว่า ถ้าเขาได้รับคะแนนเสียง 500,000 แม้แต่พระเจ้าก็
ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้ แน่นอนว่า เขาได้รับคะแนนเสียงตามนั้น แต่เขาป่วยและเสียชีวิต
ในคืนก่อนที่จะขึ้นรับตำแหน่งประธานาธืบดี

- ผู้สร้างเรือ ไทแทนิค ( Titanic)

นักข่าวสัมภาษณ์เขาและถามว่า "คุณมั่นใจเรือของคุณขนาดไหน ?"

เขาตอบด้วยน้ำเสียงเยัยหยันว่า "แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถจะจมมันได้"

ทุกคนต่างรู้ดีว่า อะไรเกิดขึ้นกับเรือลำนี้

- มารีลิน มอนโรว์ ( นักแสดง )

บิลลี่ แกรม คนของพระเจ้าได้มาหาเธอบอกว่า พระจิตเจ้าทรงส่งเขาให้มาพูดกับเธอ
แต่เธอปฏิเสธว่า "ฉันไม่ต้องการพระเยซูของคุณ"

หนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น เธอถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ในอพาร์ทเมนท์ของตัวเอง

- ณ สถานที่ชื่อ แคมพีนัส ในเมือง เซาเปาโล ประเทศ บราซิล ( ในปี 2005 )

กลุ่มเพื่อนที่เมาเหล้าได้ขับรถไปชวนเพื่อนอีกคนหนึ่งที่บ้าน...

คุณแม่ได้ออกมาส่งลูกสาวด้วยความห่วงและกังวล เพราะเห็นเพื่อนๆของลูกสาว
เมามายกันหมด เธอบอกลูกสาวให้สวดภาวนา และพระเยซูทรงอยู่กับเธอแล้วในรถคันนี้

" ขอให้พระเจ้าอยู่กับลูกและดูแลตัวเองด้วย" ลูกสาวตอบว่า "ได้เลย ถ้าพระองค์จะนั่ง
ในกระโปรงหลัง เพราะในรถไม่มีที่ให้พระองค์ ที่นั่งเต็มหมดแล้ว"
สองสามชั่วโมงต่อมา มีข่าวว่ารถคันนี้เกิดอุบัติเหตุถูกชน และ ทุกคนเสียชีวิตหมด
สภาพรถพังยับเยินจนจำไม่ได้

สิ่งที่ตำรวจประหลาดใจและไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้ได้คือ กระโปรงหลังของรถยังอยู่ในสภาพดี
ไม่มีรอยบุบแต่อย่างใด ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น มีกล่องใส่ไข่วางอยู่ในนั้น
แต่ไม่มีไข่สักฟองเลยที่แตก

- คริสตีน โฮวิท ( นักเขียนและศิลปินชาวจาไมก้า )
ได้กล่าวว่า พระคัมภีร์ไบเบิ้ล ( พระคำของพระเจ้า) เป็นหนังสือที่เขียนได้แย่ที่สุด

ในปี 2006 เธอถูกเผาตายในรถของเธอ


หลายๆคนได้ลืมไปว่า ไม่มีชื่อใดจะมีอำนาจและศักดิ์สิทธิ์เท่าพระนามของพระเยซู

ทุกคนต้องจบชีวิตลง แต่พระเยซูทรงตายและกลับเป็นขึ้นใหม่ พระองค์ยังทรงมีชีวิตอยู่

“พระเยซู”

ถ้าคุณกล้าหาญพอ ช่วยส่งบทความนี้ต่อไปให้ทุกคน
ผมได้ทำแล้ว ดั่งที่พระเยซูทรงบอกไว้ว่า ถ้าเราไม่อายที่จะยืนยันถึงพระองค์
พระองค์ก็จะยืนยันให้เราต่อหน้าพระบิดา

ให้เราภาวนาว่า ลูกรักพระองค์ และต้องการพระองค์ ขอทรงมาสถิตในห้วใจของลูกและ
อวยพรลูก อวยพรทุกคนในครอบครัว เพื่อนๆ และผู้ป่วยโควิด ทุกคน ในพระนามของพระเยซู อาแมน

สดุดี 100:4 เขียนไว้ว่า พระเจ้าทรงรับรู้ความทุกข์ยากลำบากของเรา และมันกำลังจะหมดสิ้นไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ย. 20, 2023 8:31 pm

( 6 )


เด็กขายขนมปังกับคุณครูผู้เสียสละ......

ถ่ายทอดโดยศาสตราจารย์ ญัรญิซ วาญิฮ์ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสาธารณรัฐซูดาน

มีคุณครูท่านหนึ่งในเขตชนบทของเมืองอัล-มุนากิล เขาเป็นครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็น
โรงเรียนหญิงล้วนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ....

นอกหน้าต่างห้องเรียนเขาเห็นเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนหนึ่งแต่งตัวโกโรโกโส เธอขายขนมปัง
ในตอนเช้าทุกวัน เธอเข้าสู่วัยเรียนแล้ว แต่ไม่ได้เข้าโรงเรียน เนื่องจากฐานะครอบครัวไม่ค่อยดี
เธอมีน้องชาย 4 คน พ่อของพวกเธอเสียชีวิตไปแล้ว เธอช่วยแม่ด้วยการขายขนมปังที่โรงเรียน
เพื่อเป็นค่าอาหารและช่วยน้องๆ ให้ได้เข้าโรงเรียนทุกคน ...

วันหนึ่งขณะที่ครูอธิบายบทเรียนคณิตศาสตร์ให้นักเรียนในห้องฟัง เด็กหญิงที่ขายขนมปังนั่งมอง
จากหน้าต่างด้านนอกห้องเรียน ครูถามคำถามที่ยากแก่นักเรียนทุกคน และสัญญาจะมอบรางวัล
ให้ผู้ที่ตอบถูก ปรากฎว่าไม่มีนักเรียนคนใดตอบได้แม้แต่คนเดียว

คุณครูรู้สึกประหลาดใจที่เด็กหญิงที่ขายขนมปังส่งสัญญาณด้วยการชูนิ้วจากนอกหน้าต่างแล้ว
ตะโกนว่า.... คุณครู..คุณครูคะ ครูอนุญาตให้หนูตอบได้ไหมคะ? คุณครูหันไปตามเสียงเรียก
และอนุญาตให้เธอตอบ .. ปรากฏว่าเธอตอบได้และเป็นคำตอบก็ถูกต้อง ... !!

ตั้งแต่วันนั้นคุณครูจึงสนใจเด็กหญิงคนนี้เป็นพิเศษ และคิดจะดูแลเธอให้ได้มีโอกาสเรียนหนังสือ
เหมือนเด็กคนอื่น ด้วยการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในโรงเรียนด้วยเงินเดือนของเขาเอง...

คุณครูตกลงกับอาจารย์ใหญ่ว่า จะลงทะเบียนเด็กคนนี้ให้เป็นนักเรียนในโรงเรียน และอนุญาต
ให้เธอทำการสอบได้โดยไม่ต้องเข้าห้องเรียน และให้เธอเริ่มเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
และคุณครูขอความเห็นกับครูในวิชาอื่นๆ ให้เด็กหญิงคนนี้ฟังการสอนบทเรียนทุกวิชาจากด้าน
นอกหน้าต่าง...

ครูทุกคนเห็นด้วยกับความมุ่งมั่นของเขา เขาจึงไปบอกแม่ของเด็กผู้หญิงเกี่ยวกับเรื่องนี้
และขอร้องให้เด็กหญิงหยุดขายขนมปัง เพื่ออุทิศตัวให้กับการเรียนหนังสืออย่างทุ่มเท
และคุณครูขอร้อง ให้พี่ชายคนหนึ่งของเธอรับหน้าที่เป็นคนขายขนมปังแทน...

ความประหลาดใจคือ..เมื่อผลการสอบปรากฏออกมา เด็กผู้หญิงคนนี้สามารถสอบผ่านได้
หมดทุกวิชา ด้วยคะแนนที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากเป็นครั้งแรกในโรงเรียนที่มีเด็กนักเรียนลักษณะนี้
และอยู่ภายใต้การดูแลของครูท่านนี้ จนกระทั่งเขาสามารถนำเธอเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ..

ถึงตอนนั้นครูท่านนี้จำเป็นต้องออกจากซูดานไปทำงานในต่างประเทศ และในเวลานั้นไม่มีโทรศัพท์
เพื่อติดตามข่าวสารของเด็กหญิงคนนี้เลย...พี่ชายคนหนึ่งของเธอได้ทำงานเป็นคนส่งน้ำและดูแลเธอ
เรื่องค่าใช้จ่ายให้เธออย่างต่อเนื่อง....
.
ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณครูก็ถูกตัดขาดเป็นเวลาถึง 12 ปี ..

หลังจากห่างหายไป 12 ปี ครูก็กลับไปซูดาน เขามีเพื่อนร่วมงานในซูดาน...เพื่อนร่วมงานคนนี้
มีลูกชายคนหนึ่งเรียนที่มหาวิทยาลัยคาร์ทูมคณะแพทยศาสตร์ เพื่อนร่วมงานขอร้องให้เขาไปที่
มหาวิทยาลัย

ช่วงที่เขากำลังเข้าไปในมหาวิทยาลัยกับเพื่อนร่วมงาน และเข้าไปอยู่ในโรงอาหาร ครู่หนึ่ง...
มีหญิงสาวมองมาที่เขาด้วยความโหยหา เมื่อหญิงสาวเห็นเขา.. เขาไม่รู้ว่าทำไมหญิงสาวถึงจ้องมาที่
เขาด้วยความอ่อนโยนเพียงนี้ ...

เขาถามลูกชายของเพื่อนร่วมงานว่า..รู้จักหญิงสาวคนนี้หรือเปล่า? เขาตอบว่า..ใช่ รู้จัก เธอเป็น
ศาสตราจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ในชั้นปีที่ 6 และชั้นปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ...

ลูกชายเพื่อนร่วมงานถามเขาว่า คุณลุงรู้จักเธอไหม? เขาบอกว่า : เปล่า !.. แต่หญิงสาวกลับมองฉัน
แปลกๆ เหมือนเธอจะรู้จักฉันดี.....

ทันใดนั้นเอง..ไม่มีการแนะนำใดๆ หญิงสาวก็วิ่งเข้ามาหาเขาและสวมกอดเขา หญิงสาวร้องไห้ด้วย
เสียงที่แผดดัง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในโรงอาหารหันมาสนใจเธอ หญิงสาวสวมกอดเขาโดยไม่คิดอะไร
ทุกคนคิดว่าลุงเป็นพ่อของหญิงสาว

หญิงสาวน้ำตาไหลและมองไปที่ลุงและพูดว่า...
" จำฉันไม่ได้เหรอคะคุณครูของฉัน?

ฉันคือเด็กผู้หญิงที่แต่งตัวโกโรโกโสคนนั้น คุณครูคือผู้ที่ทำให้เด็กหญิงคนนั้นประสบความสำเร็จในวันนี้...

ฉันคือเด็กผู้หญิงที่คุณครูให้โอกาสเรียนหนังสือ และใช้เงินของคุณครู กระทั่งฉันมาถึงจุดนี้..

คุณครูเอาใจใส่ฉัน คุณครูห่วงใยฉัน และคุณครูมีจิตใจที่ดีงามไม่เหมือนใคร ฉันยังจำเหตุการณ์วันนั้น
ได้ไม่เคยลืม ..ฉันเป็นลูกสาวของคุณครู ฉันคือเด็กขายขนมปังคนนั้น....

หลังจากพูดคุยครู่หนึ่ง เธอได้เชื้อเชิญคุณครูและเพื่อนร่วมงานของเขามาที่บ้าน และแนะนำคุณแม่
ญาติพี่น้องของเธอเกี่ยวกับคุณครูผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาว่า...
"คุณครูท่านนี้เป็นผู้ที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขา"...จากนั้นคุณครูได้กล่าวถ้อยคำคำหนึ่งว่า ...

"เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าผมเป็นครูและเป็นคนที่สมบูรณ์" ...

تحية لكل معلم
وتحية لكل من علمني حرفاً
وزرع في قلبي معنى الحياة
والعطاء
แด่คุณครูทุกคน ....

ขออวยพรให้กับคุณครูทุกคนที่สอน แม้เพียงหนึ่งตัวอักษรและหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วย
ความรักและความเมตตาต่อลูกศิษย์ทุกคน ขอให้พบแต่สิ่งดีงาม มีความสุข ชีวิตพบแต่
ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ...

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ
แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กัน: Nathananda Vegavakyananda
November 14, 2023
.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 04, 2023 8:43 pm

( 7 )


ชีวิตโซเฟียเองก็ต้องดิ้นรนสุดขีด! เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกถึงสามคน วันหนึ่ง เธอถูก
รางวัล 200 ดอลลาร์จากสลากขูดในเมืองแวร์แฮม รัฐแมสซาชูเซตส์ - - เธอจึงตื่นเต้นมากกับ
'ความโชคดี'นี้ ที่ได้มอบรางวัลอันคาดไม่ถึงกับครอบครัวของเธอ!
.
ขณะที่โซเฟียขับรถออกมาจากปั๊มน้ำมัน เธอเห็นชายไร้บ้านผมเผ้ากระเซิงคนหนึ่ง ยืนอยู่ริมถนน
ท่ามกลางอากาศหนาวจัด... ชายคนนี้ชื่อ เกลนน์ เมื่อโซเฟียขับผ่านระยะใกล้ ถึงรู้ว่าเขากำลังตัวสั่น
และร้องไห้กลางลมหนาวที่พัดกรูเกรียวรอบตัว เธอเลื่อนกระจกหน้าต่างรถลงและเสนอว่าจะซื้อกาแฟ
ให้เขาสักถ้วย เขาลังเล แต่ก็ตกลงในที่สุด...
.
ระหว่างนั่งดื่มกาแฟร้อน ๆ ในร้านโดนัท พวกเขาได้สนทนากัน โซเฟียถามว่า คืนนี้หนาวมาก จะไปนอน
ที่ไหนหรือ? เกลนน์ตอบว่า เขายังไม่รู้ - - เขาเป็นคนไร้บ้านมาสามปีแล้ว และนอนข้างถนนในถุงนอนและ
เต็นท์ โซเฟียเลยโทรหาที่พักพิงสำหรับคนไร้บ้านในบริเวณนั้น แต่ไม่มีเลย...
.
“...ตอนนั้นเอง ที่ฉันรู้ว่าทำไมฉันถึงได้เงินรางวัลจากสลากขูด 200 เหรียญ พระเจ้ากำหนดให้เกลนน์มา
ยืนอยู่ตรงทางผ่านของฉันด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันจึงตัดสินใจพาเขาไปส่งที่โรงแรม จ่ายค่าที่พัก
ให้เขา 2 คืน!”
.
โซเฟียเล่าว่า เกลนน์ร้องไห้ สวดภาวนาให้เธอ พร่ำบอกว่าเธอเป็นนางฟ้า... หลายคนสงสัยว่า เงินรางวัล
ไม่ได้มากนัก ทำไมไม่เก็บไว้ใช้ให้ตัวเองมีความสุข ...รอให้ถูกรางวัลใหญ่เสียก่อน ค่อยช่วยคนอื่นก็ได้
แต่สำหรับโซเฟีย สิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุดโดยไม่ต้องรอ คือ “อย่างน้อยฉันรู้ว่า คืนนี้ เกลนน์เพื่อน
ใหม่ของฉันนอนหลับสบายอย่างอบอุ่น”
. . . . .
.
เด็กชายคาร์เทียร์ แคร์รีย์ วัย 11 ขวบคนนี้ก็เช่นกัน เมื่อเขาเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างโควิดระบาด
เมื่อสองปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้นิ่งเฉย ทั้งที่ไม่ใช่ธุระของเด็กอย่างเขาที่จะต้องกังวลหรือรับผิดชอบ แต่เขาคิด
หนักและลงมือทำโดยไม่ลังเลหรือรีรอ!
.
เมื่อเห็นว่าผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปในห้างร้านค้าต่าง ๆ ขาดแคลนหนัก เขาก็นึกถึงครอบครัวที่เพิ่งมีลูกน้อย
ว่าพวกเขาจะทำอย่างไร... ในช่วงฤดูร้อน คาร์เทียร์จึงตัดสินใจเริ่มกิจการแผงขายน้ำมะนาว และหาเงิน
ได้มากถึง 4,500 เหรียญ (ประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าบาท) ภายในเดือนแรก! เขาเอาเงินที่ได้ทั้งหมด
ไปซื้อผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปบริจาคทันที
.
แม้ในวันแรกที่เขาต้องกลับไปเรียนที่โรงเรียน (หลังจากเรียนทางออนไลน์หลายเดือน) คาร์เทียร์ยังคง
ทำงานอย่างหนักเพื่อขนผ้าอ้อมเด็กบริจาคกว่า 22,000 ชิ้นขึ้นรถบรรทุก! คุณแม่คนหนึ่งที่ได้รับบริจาค
ผ้าอ้อมเด็กชื่นชมคาร์เทียร์ว่าเป็นเด็กที่น่าทึ่ง แต่เขากลับตอบว่า “ใคร ๆ ก็ทำได้ ไม่มีใครเด็กเกินกว่า
ที่จะลงมือทำครับ”
. . . . .
.
วันนี้ วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2023 เป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสต์เจ้า
ก่อนถึงวันคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส) บทอ่านประจำวันนี้มาจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของ
นักบุญมาระโก (มก 13:33-37) เกี่ยวกับการเฝ้าระวังและเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการเสด็จมาครั้งที่
สองของพระเยซูเจ้า
.
พระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงระวัง จงตื่นเฝ้าเถิด เพราะท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าวันเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไร
เหมือนกับชายคนหนึ่งที่ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านได้มอบอำนาจให้กับผู้รับใช้ ให้แต่ละคนมีงาน
ของตนและยังสั่งคนเฝ้าประตูให้คอยตื่นเฝ้าไว้ ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงตื่นเฝ้าเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่าเจ้าของ
บ้านจะมาเมื่อไร อาจจะมาเวลาค่ำ เวลาเที่ยงคืน เวลาไก่ขัน หรือเวลารุ่งเช้า ถ้าเขากลับมาโดยไม่คาดคิด
อย่าให้เขาพบท่านกำลังหลับอยู่ สิ่งที่เราบอกท่าน เราก็บอกทุกคนด้วยว่าจงตื่นเฝ้าเถิด"

ใจความสำคัญของพระวาจาคือให้ “เฝ้าระวังและเตรียมพร้อม” - - ลองนึกภาพเมื่อแผ่นดินไหวใต้ทะเล
ณ จุดใดจุดหนึ่งไม่ไกลจากเรา ก็จะมีประกาศคำเตือนจังหวัดที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลให้ระวังสึนามิทันที!
จากนั้น ทุกคนก็เฝ้าระวังและเตรียมพร้อม เรือเล็กหลบจอดตรงที่ปลอดภัย ทดสอบ/ซ่อมแซมอุปกรณ์
สัญญาณเตือน อพยพของสำคัญขึ้นที่สูง เป็นต้น
.
น่าแปลกเมื่อมีการเตือนภัยเช่นนี้ ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดสึนามิก็ได้ แต่เราทกคนต่างเฝ้าระวังและ
เตรียมพร้อมเต็มที่! ครั้นเป็นคำเตือนจากพระเจ้า สำหรับ ‘ชีวิตนิรันดร์’ ที่สำคัญกว่า และเกิดขึ้นแน่นอน
กับทุกคน เรากลับละเลย หลับใหล แทนที่จะตื่นเฝ้าระวัง หรือเตรียมพร้อม - - การนอนหลับในที่นี้ หมายถึง
นอนหลับทางฝ่ายจิตวิญญาณ คือไม่ใส่ใจที่จะทำความดีหรือละเลยคำสอนของพระเจ้า เอาแต่ผัดวัน
ประกันพรุ่ง เดี๋ยวค่อยทำ มีข้ออ้างสารพัดที่จะไม่ทำ
.
จงดูตัวอย่างของโซเฟีย ที่ตัดสินใจจ่ายค่าที่พักอบอุ่นให้คนไร้บ้านอย่างเกลนน์ทันที โดยไม่ต้องรอ
ให้ถูกรางวัลที่ 1 เสียก่อน หรือ คาร์เทียร์เริ่มกิจการแผงขายน้ำมะนาว เพื่อหาเงินมาซื้อผ้าอ้อมเด็กบริจาค
ให้บรรดาคุณแม่ที่ขาดแคลน โดยไม่ต้องรอให้เป็นผู้ใหญ่เสียก่อนถึงจะลงมือทำ...
.
การ“เฝ้าระวังและเตรียมพร้อม”สำหรับพระเจ้า ก็เป็นเช่นนี้ อย่ารีรอ ลังเล หรือหลับใหล เพราะเราไม่รู้ว่า
พระองค์จะเสด็จมาเมื่อใด การเตรียมความดีตามคำสอนของพระองค์ เปรียบเสมือนเติมเต็มน้ำมันของ
ตะเกียงให้สว่างไสวตลอดเวลา
.
คริสต์มาสที่จะถึงนี้ จึงไม่ใช่แค่เตรียมแสงไฟกะพริบที่วิบไหว หากเป็นดวงไฟสว่างที่เจิดจ้าจากภายใน
ไม่เคยดับหรือหลับลืม!
.
ปะการัง
.
[ สุขสันต์วันพระเจ้า ]
.
* * * * * * * * * * * * * * * *
.
ขอแนะนำหนังสือเล่มพิเศษ ส่งท้ายปี รับชีวิตใหม่ ที่ดีกว่าเดิม!
.
“อย่ากลัว ที่จะยืนโดดเดี่ยว กลางแดดร้อนลมแรง” โดย ปะการัง
(ภาพปกหน้า-ปกหลัง ในคอมเมนต์แรก)
.
หนังสือเล่มนี้ เป็นบันทึกประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวดี ๆ ของคนทั่วไป ที่อ่านแล้วยิ้มมีความสุข มีความหวัง มีกำลังใจ โดยสะท้อนชีวิตคนเหล่านั้น ผ่านทางบทอ่านคำสอนของพระเจ้าที่เขียนทุกวันอาทิตย์ ด้วยภาษาแห่งความรัก-เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะคริสตชน และคาทอลิก เป็นของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส, ปีใหม่ และทุกเทศกาล
.
หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามที่สงสัยมานาน เช่น สวรรค์มีจริงไหม? นักวิทยาศาสตร์-นักบินอวกาศเชื่อในพระเจ้าหรือไม่? ทำไมโดนตบแก้มขวาต้องหันแก้มซ้ายให้, ทำไมมหาเศรษฐีอินเดียราทัน ทาทารวยล้นฟ้าแต่ไม่มีความสุข? หรือแม้แต่คำถาม ยังมีใครแข็งแกร่งกว่าเดอะ ร็อคและปาเกียวอีกหรือ? จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะรู้สึกอ่อนแอได้ แต่ต้องไม่ด้อยค่าตัวเอง!.
.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 10, 2023 8:50 pm

( 8 )


หนูน้อยเมเรดิธวัย 4 ขวบร้องไห้เสียงดังลั่นเมื่อแอบบีย์ สุนัขอายุ 14 ปี ของเธอจากไป เธอเสียใจ
และเป็นห่วงแอบบีย์มาก จึงถามคุณแม่ว่า เราจะเขียนจดหมายถึงพระเจ้าได้ไหม? คุณแม่ถามว่า
เขียนเรื่องอะไร? เมเรดิธตอบว่า เมื่อแอบบีย์ไปถึงสวรรค์ พระเจ้าจะได้จำได้ - - คุณแม่ตอบตกลง
เมเรดิธจึงบอกให้คุณแม่ช่วยเขียนสิ่งที่เธอต้องการจะพูดกับพระเจ้า - -
. . . .
พระเจ้า ที่รัก,

ขอพระองค์ช่วยดูแลสุนัขของของหนูได้ไหมคะ? เขาตายเมื่อวานและตอนนี้อยู่กับพระองค์บนสวรรค์แล้ว
หนูคิดถึงเขามากเลยค่ะ หนูดีใจที่พระองค์มอบให้เขาเป็นสุนัขของหนู ถึงแม้เขาจะป่วย หนูหวังว่าพระองค์
จะเล่นกับเขา เขาชอบว่ายน้ำและเล่นลูกบอลค่ะ หนูส่งรูปสุนัขของหนูมาด้วย เมื่อพระองค์เห็นจะได้รู้ว่าเขา
เป็นสุนัขของหนู หนูคิดถึงเขาจริง ๆ ค่ะ

ด้วยรัก,
เมเรดิธ
. . . . .
คุณแม่ใส่จดหมายฉบับนั้นลงในซอง พร้อมด้วยรูปของแอบบีย์กับเมเรดิธ จ่าหน่าซองถึง พระเจ้า
ที่อยู่ : สวรรค์ และใส่ที่อยู่ผู้ส่งไว้ด้วย เมเรดิธติดแสตมป์หลายดวงที่ด้านหน้าซองจดหมาย เธอบอกว่า
ต้องใช้แสตมป์จำนวนมาก จดหมายจึงจะไปถึงสวรรค์... บ่ายวันนั้น คุณแม่พาเธอไปหย่อนมันลงในตู้ไ
ปรษณีย์ของที่ทำการไปรษณีย์ - -ไม่กี่วันต่อมา เธอถามคุณแม่ว่า พระเจ้าจะได้รับจดหมายหรือยัง?
คุณแม่ตอบว่าน่าจะได้รับแล้วกระมัง...
.
หลังจากนั้นไม่นาน, มีพัสดุห่อด้วยกระดาษสีทองวางอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน จ่าหน้า 'ถึง เมเรดิธ'
ด้วยลายมือที่ไม่คุ้นเคย เมื่อเมเรดิธเปิดกล่องดู พบว่าข้างในเป็นหนังสือ ชื่อว่า 'When a Pet Dies'
(เมื่อสัตว์เลี้ยงเสียชีวิต) เขียนโดย มิสเตอร์โรเจอร์ (พิธีกรจัดรายการเด็กชื่อดัง) ปกหน้าด้านในแนบ
จดหมายที่เมเรดิธเขียนถึงพระเจ้าในซองที่เปิดอ่านแล้ว... หน้าตรงข้ามเป็นรูปภาพของเมอเรดิธกับ
สุนัขของเธอที่ส่งไป - พร้อมกับมีจดหมายเขียนตอบกลับมาดังนี้...

. . . . .
เมเรดิธ ที่รัก,

แอบบีย์มาถึงสวรรค์โดยปลอดภัยแล้ว หนูส่งรูปมาให้ช่วยได้มากทีเดียว ฉันเห็นแอบบีย์ก็จำได้ทันที
ตอนนี้ แอบบีย์ไม่เจ็บป่วยอีกต่อไป วิญญาณของเขาอยู่กับฉันที่นี่ เหมือนที่อยู่ในใจของหนู แอบบีย์
เองก็มีความสุขมากที่ได้เป็นสุนัขของหนู เนื่องจากตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องมีร่างกายบนสวรรค์แล้ว
ฉันไม่มีกระเป๋าที่จะเก็บรูปถ่าย จึงขอส่งกลับมาพร้อมหนังสือเล่มนี้ เพื่อให้หนูได้เก็บไว้ จะได้มีบางสิ่ง
ไว้ระลึกถึงแอบบีย์
.
ขอบคุณสำหรับจดหมายที่แสนงดงามฉบับนี้ และขอบคุณคุณแม่ของหนูด้วย ที่ช่วยหนูเขียนจดหมาย
และส่งมาให้ฉัน ช่างเป็นคุณแม่ที่วิเศษยิ่ง ฉันเลือกท่านเพื่อเป็นคุณแม่ของหนูโดยเฉพาะ แล้วฉันจะ
ส่งพระพรมาให้หนูทุกวัน และจำไว้ว่าฉันรักหนูมากนะ อีกอย่าง หนูจะพบฉันได้ง่ายมาก- -

ฉันอยู่ในทุกที่ที่มีความรัก
.
ด้วยรัก,
พระเจ้า
. . . . .
.
ไม่มีใครรู้แน่นอนว่า พัสดุห่อด้วยกระดาษสีทองจากสวรรค์นั้นเป็นฝีมือของใคร แต่ผมเดาว่ามาจาก
เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ - - เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ
.
หนูน้อยเจส วัย 7 ขวบ สูญเสียคุณพ่อไปหลายเดือนแล้ว แต่ยังคิดถึงท่านมาก เมื่อวันเกิดของคุณพ่อ
มาถึง เขาเลยเขียนการ์ดอวยพรวันเกิด ส่งไปให้ท่าน โดยจ่าหน้าซองง่าย ๆ ประสาซื่อว่า
.
คุณบุรุษไปรษณีย์ ช่วยนำส่งการ์ดนี้ไปสวรรค์ สำหรับวันเกิดคุณพ่อผม ได้ไหมครับ ขอบคุณครับ
.
ปรากฏว่า หนูน้อยเจส ได้รับจดหมายตอบกลับมาว่า
.
“เจส ที่รัก, ขณะนี้เราอยู่ในระหว่างปฏิบัติการนำส่งจดหมายของหนูไปสวรรค์ จึงขอถือโอกาสนี้
ติดต่อมายังหนูเพื่อรายงานว่าเราทำสำเร็จแค่ไหนแล้ว ขณะเดินทาง นับเป็นเรื่องท้าทายที่ยากยิ่ง
ในการหลบดวงดาวต่าง ๆ และวัตถุท้องฟ้าบนเส้นทางไปสวรรค์... แต่เราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้
ต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่า จดหมายฉบับนี้ไปถึงสวรรค์โดยปลอดภัยครับ!”
.
นั่นคือจดหมายตอบจากฌอน ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการของไปรษณีย์แห่งหนึ่งในอังกฤษนั่นเอง!
.
เจสกับคุณแม่ดีใจและรู้สึกตื้นตันมากในความใส่ใจของพนักงานไปรษณีย์คนนี้ - - “เขาไม่จำเป็นต้อง
สนใจเลย แต่ยังอุตส่าห์เสียเวลาตอบให้กับเด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เขาทำสิ่งที่น่ารักจริง ๆ”
. . . . .
.
การที่เราจะสร้างสังคมดี ๆ แบบที่ต้องการ ไม่ใช่เพียงแค่เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราเองเท่านั้น หากต้อง
ส่งต่อความคิดแบบนี้ให้คนรอบตัวด้วย - - โดยเฉพาะเด็ก ๆ เราไม่สามารถให้พวกเขาเติบโตมาด้วยจิตใจ
ที่ดีงาม ถ้าไม่สร้างบรรยากาศที่ดีงามแวดล้อมพวกเขาเสียก่อน - - และไม่ใช่เป็นเพียงหน้าที่ของครอบครัว
หากทั้งสังคมต้องช่วยกันดูแล...
.
เหมือนเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เหล่านั้น ที่บางครั้งต้องทำหน้าที่แทนพระเจ้า เพื่อให้เด็ก ๆ ของเรารู้ว่า - -

พวกเขาไม่โดดเดี่ยว ในทุกที่ที่มีความรัก!
.
ปะการัง
.

[ ขอพระเจ้าอวยพรให้เด็ก ๆ ทุกคนเติบโตอย่างดีด้วยความรักแสนงาม ]
.
.
* * * * * * * * * * * * * * * *
.
ขอแนะนำหนังสือเล่มพิเศษ ส่งท้ายปี รับชีวิตใหม่ ที่ดีกว่าเดิม!
.
“อย่ากลัว ที่จะยืนโดดเดี่ยว กลางแดดร้อนลมแรง” โดย ปะการัง
(ภาพปกหน้า-ปกหลัง ในคอมเมนต์แรก)
.
หนังสือเล่มนี้ เป็นบันทึกประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวดี ๆ ของคนทั่วไป ที่อ่านแล้วยิ้มมีความสุข
มีความหวัง มีกำลังใจ โดยสะท้อนชีวิตคนเหล่านั้น ผ่านทางบทอ่านคำสอนของพระเจ้าที่เขียน
ทุกวันอาทิตย์ ด้วยภาษาแห่งความรัก-เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะคริสตชน
และคาทอลิก เป็นของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส, ปีใหม่ และทุกเทศกาล
.
หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามที่สงสัยมานาน เช่น สวรรค์มีจริงไหม? นักวิทยาศาสตร์-นักบินอวกาศเชื่อ
ในพระเจ้าหรือไม่? ทำไมโดนตบแก้มขวาต้องหันแก้มซ้ายให้, ทำไมมหาเศรษฐีอินเดียราทัน ทาทา
รวยล้นฟ้าแต่ไม่มีความสุข? หรือแม้แต่คำถาม ยังมีใครแข็งแกร่งกว่าเดอะ ร็อคและปาเกียวอีกหรือ?
จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะรู้สึกอ่อนแอได้ แต่ต้องไม่ด้อยค่าตัวเอง!.
.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ธ.ค. 19, 2023 10:39 pm

( 9 )



ชายสูงวัยนั่งอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาบอกดีแลน-พนักงานเสิร์ฟหนุ่มว่า
ขอโทษด้วย ที่หูของเขาได้ยินไม่ถนัด เพราะลืมเอาเครื่องช่วยฟังมา เขาสูญเสียการได้ยินจาก
การรบในสงคราม... ระหว่างรับออเดอร์ ดีแลนจึงคุกเข่าลงข้างโต๊ะ เพื่อจะได้พูดคุยกับชายสูงวัย
แบบเห็นหน้าเห็นตา และช่วยให้เขาได้ยินชัดเจนขึ้น
.
ชายสูงวัยอายุ 91 ปีแล้ว จึงมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในชีวิต และดูเหมือนดีแลนเองก็ตั้งใจฟัง
เขาเล่าอย่างไม่มีท่าทีเบื่อหน่าย ในที่สุด เขาก็นึกได้ และขอโทษดีแลนที่พูดมากเกินไป
.
“ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียว” เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วบางและเศร้าสร้อย “และฉันไม่ค่อยมีใครคุยด้วย”
.
ดีแลนยิ้ม และบอกว่าไม่เป็นไรเลย เขาสนุกกับการฟังเรื่องราวทั้งหมดนั้น... จากนั้น ดีแลนก็ช่วยเขา
เลือกสั่งอาหารแล้วกลับเข้าไปในครัว
.
ใครคนหนึ่งที่นั่งโต๊ะใกล้กัน คงได้ยินและได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตลอดเวลาที่พวกเขาคุยกัน
ชายคนนั้นเลยบอกดีแลนว่า เขาจะขอจ่ายเงินให้ชายชราคนนั้น ดีแลนยิ้มกว้าง ตอบว่ามีคนจัดการ
จ่ายให้เขาเรียบร้อยแล้วครับ ดูเหมือนจะมีคนใจดีที่คิดตรงกันหลายคนในเย็นวันนั้น...
.
หลังจากที่ชายสูงวัยได้รับอาหารที่สั่งและกำลังนั่งทานเงียบ ๆ ดีแลนก็กลับมาอีกครั้ง บอกว่าเขากำลัง
อยู่ในช่วงพัก ขออนุญาตนั่งร่วมโต๊ะระหว่างที่เขาทานได้ไหม ชายสูงวัยตาโต ยิ้มกว้าง ด้วยความยินดี
และดีใจ ทั้งคู่นั่งสนทนากันเสียงดังอย่างออกรสชาติ พลอยทำให้ผู้ที่นั่งโต๊ะรอบตัวพวกเขาต่างยิ้มแย้ม
มีความสุขไปด้วย...
. . . . .
.
หญิงสูงวัยคนหนึ่งล้มลงขณะกำลังช็อปปิ้งในห้างวอลมาร์ต ดูเหมือนเธอหน้ามืดขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ
หลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว เธอก็ยังลุกยืนไม่ไหว จึงต้องรอให้รถพยาบาลกับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ
มาถึง ขณะนั่งรออยู่บนพื้น พนักงานหนุ่มผิวสีคนหนึ่ง ชื่อเจสัน ได้นั่งลงกับพื้นข้างหลังหญิงสูงวัยคนนั้นเพื่อ
ให้เธอได้พิงแผ่นหลังลงกับแขนของเขา ทำให้เธอรู้สึกสบายขึ้น- - ระหว่างนั้น ผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขาคุกเข่าลงอธิษฐานเผื่อให้ผู้หญิงสูงวัยคนนั้นด้วยใจกรุณา
.
ไม่มีใครสั่งให้เจสันทำ เขาตัดสินใจลงไปนั่งเอง... ไม่มีใครขอให้ชายคนนั้นทำ เขาตัดสินใจสวดภาวนาเอง...
เป็นภาพประทับใจของผู้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น
. . . . .
.
ไม่ว่าโลกข้างนอกจะพยายามแบ่งแยกมนุษย์ด้วยกันเองแค่ไหน หรือตอกย้ำความแตกต่างระหว่างรุ่นใหม่
กับรุ่นเก่าหรือสีผิวเพียงใด... แต่ก็ไม่สามารถขีดเส้นคั่น-แบ่งเขตแดนบนพื้นที่หัวใจของเราได้ - - หากเปิด
โอกาสเรียนรู้กันและกัน...
.
อย่างเช่น เด็กหนุ่มดีแลนที่เข้าใจถึงความโศกเศร้าของชายชราผู้เปลี่ยวเหงา เขายอมสละเวลาพักของ
ตัวเองมานั่งเป็นเพื่อนคุยระหว่างทานอาหาร- - วันนั้นของชายชราคงต่อลมหายใจสดชื่นให้ชีวิตเขายาว
นานขึ้น หรือเจสันที่ยอมสละไหล่ให้ผู้หญิงสูงวัยได้พักพิง, ชายเดินผ่านที่ภาวนาเพื่อปลอบประโลมใจ...
ทั้งหมดนี้คือคนธรรมดารอบตัวเรา ที่พยายามทำวันธรรมดาของใครบางคนให้เป็นวันพิเศษ
.
ขณะที่สื่อทั่วไปกระพือข่าวแห่งความเกลียดชัง... นี่จะเป็นหยดน้ำแห่งข่าวดีที่จะชโลมใจให้ชุ่มชื่น
เพื่อเราจะส่งต่อกันไปด้วยความรัก!
.
ปะการัง
.
[ ขอพระเจ้าอวยพรคนธรรมดาที่สร้างข่าวดีด้วยความรัก ]
.
* * * * * * * * * *
.
ขอแนะนำ ของขวัญแห่งชีวิตสำหรับคริสต์มาสนี้
หนังสือเล่มพิเศษ ส่งท้ายปี ตัอนรับการเริ่มต้นใหม่ ที่ดีกว่าเดิม!
.
“อย่ากลัว ที่จะยืนโดดเดี่ยว กลางแดดร้อนลมแรง” โดย ปะการัง
.
เป็นบันทึกประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวดี ๆ ของคนทั่วไป ที่อ่านแล้วยิ้มมีความสุข มีความหวัง มีกำลังใจ โดยสะท้อนชีวิตคนเหล่านั้น ผ่านบทอ่านคำสอนของพระเจ้าที่เขียนทุกวันอาทิตย์ ด้วยภาษาแห่งความรัก-เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะคริสตชน และคาทอลิก เป็นของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส, ปีใหม่ และทุกเทศกาล
.
หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามที่สงสัยมานาน เช่น สวรรค์มีจริงไหม? นักวิทยาศาสตร์-นักบินอวกาศเชื่อในพระเจ้าหรือไม่? ทำไมโดนตบแก้มขวาต้องหันแก้มซ้ายให้, ทำไมมหาเศรษฐีอินเดียราทัน ทาทารวยล้นฟ้าแต่ไม่มีความสุข? หรือแม้แต่คำถาม ยังมีใครแข็งแกร่งกว่าเดอะ ร็อคและปาเกียวอีกหรือ? จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะรู้สึกอ่อนแอได้ แต่ต้องไม่ด้อยค่าตัวเอง!
.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สั่งซื้อ 1 เล่ม ราคาเล่มละ 350 บาท (รวมค่าจัดส่ง)
สั่งซื้อ 2 เล่มขึ้นไป ราคาเล่มละ 320 บาท (ค่าส่งฟรี
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 25, 2023 8:51 pm

( 10 )


หากวันนี้คุณย่ำแย่ ใช่ว่าพรุ่งนี้จะไม่มีทางที่ดีกว่า ขอแค่มุ่งมั่นไขว่คว้า- ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลง!
. . . . .
.
โจเซฟ เก็บบ์ ซอนเนียร์ เป็นภารโรงที่โรงเรียนประถมศึกษาพอร์ต แบร์ ที่ลุยเซียนา เป็นเวลา
ยาวนานถึง 20 ปี จนเขาคิดว่านั่นคงจะเป็นทางที่ควรจะเป็นของเขาแล้ว - -
.
เมื่อตอนเรียนมัธยมปลาย พ่อแม่ของเขาแยกทางกัน ซอนเนียร์จึงไม่ได้เรียนต่อ ต้องออกมา
ทำงานหาเงินช่วยแม่ ซอนเนียร์เริ่มด้วยงานก่อสร้าง ร้านขายของชำ และโรงเลื่อย ก่อนจะมาเป็น
ภารโรงที่โรงเรียนประถมพอร์ตแบร์ ซึ่งเป็นงานที่พ่อของเขาทำมาเกือบตลอดชีวิต...
.
วันหนึ่ง เวสต์ลีย์ โจนส์ คุณครูใหญ่ของโรงเรียนได้คุยกับซอนเนียร์ถึงแผนการอนาคตของเขา
คุณครูใหญ่เกริ่นว่า “ภารโรงเป็นงานที่ดีและเป็นอาชีพที่สุจริต แต่ฉันจะสอนเธอให้รู้ถึงศักยภาพ
ของตัวเองที่ไร้ขีดจำกัด ฉันคิดว่าเธอจะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนได้ดีกว่าในฐานะนักการศึกษา
ฉันอยากเห็นเธอเป็นคนตรวจให้คะแนนข้อสอบ มากกว่าเป็นคนคอยเก็บกวาดเศษกระดาษอย่าง
ทุกวันนี้”
.
ขณะนั้น ซอนเนียร์อายุ 39 ปีแล้ว หลังจากที่รับฟังคำแนะนำของคุณครูใหญ่ เขาเก็บไปครุ่นคิด
และตัดสินใจกลับไปเรียนต่อในขณะที่ยังทำงานเต็มเวลา...
.
เขาพาตัวเองผ่านตารางงานที่แสนเหน็ดเหนื่อยเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้... ชีวิตของเขาเริ่มต้น
ตั้งแต่เช้ามืด - - ตี 5 มาถึงโรงเรียนประถมพอร์ตแบร์ ทำงานจนถึงเจ็ดโมงเช้า จากนั้นไปเข้าชั้นเรียน
ที่มหาวิทยาลัย หลังเลิกเรียนกลางคืน เขาจะกลับมาทำงานต่อที่โรงเรียน ทำความสะอาดจนเสร็จ
เรียบร้อย จึงได้เวลากลับบ้าน
.
"แทบไม่ได้พักผ่อนเลยครับ เพราะต้องทำการบ้านด้วย" ซอนเนียร์เล่าให้ฟังถึงความเหน็ดเหนื่อย
จากการทำงานหนัก แต่ความมุ่งมั่นของเขาในที่สุดก็ได้รับผลตอบแทน เขาสำเร็จการศึกษาระดับ
อนุปริญญา สาขาการศึกษาทั่วไปจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐลุยเซียนา ยูนิซ และอีกสองปีต่อมา
เขาได้รับปริญญาตรีสาขาการศึกษาระดับประถมศึกษาจากมหาวิทยาลัยลุยเซียนา แล้วก็ตามมา
ด้วยปริญญาโท...
.
ใครจะไปคาดคิด - - ในเดือนพฤศจิกายน 2013 ซอนเนียร์ได้กลายเป็นคุณครูใหญ่ของโรงเรียน
เดียวกับที่เขาเคยทำความสะอาดมาเป็นเวลา 27 ปี! (ทุกวันนี้ เขายังทำความสะอาดห้องทำงาน
ของเขาในตำแหน่งคุณครูใหญ่ด้วยตัวเอง!)
.
เขากล่าวว่า “อย่ายอมให้สถานการณ์(ที่ลำบาก)ในวันนี้ ชี้นำคุณว่าจะเป็นใครในวันพรุ่งนี้ ผมจะ
บอกพวกเขาเสมอว่า ไม่สำคัญหรอกว่าคุณเริ่มต้นที่ไหน มันอยู่ที่เราจะจบอย่างไรมากกว่า...”
. . . . .
.
คงไม่มีคุณครูใหญ่คนไหนที่สามารถสอนบทเรียนแห่งการอดทนพากเพียร มุ่งมั่นเอาจริงได้ดีเท่า
คุณครูใหญ่ซอนเนียร์ และคงไม่มีใครกล้าเถียงว่ามัน ‘เป็นไปไม่ได้’ ในเมื่อตัวอย่างจริงแท้ที่จับ
ต้องได้ ยืนหายใจอยู่ตรงหน้า
.
เทพนิยายซิลเดอเรลลาที่ทิ้งรองเท้าแก้วไว้ กลายเป็นเจ้าหญิงชั่วข้ามคืน ดูเหมือนจะไม่เหมาะกับ
ยุคสมัยนี้เสียแล้ว - - ในโลกแห่งการต่อสู้เพื่อความสำเร็จ เรื่องจริงของคุณครูใหญ่ซอนเนียร์ อดีต
ภารโรงผู้มุ่งมั่น น่าจะเป็นเรื่องอ่านก่อนนอนสำหรับเด็กทุกคนมากกว่า...
.
เพราะมันเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นได้จริง จากการลงมือทำของคนธรรมดาทั่วไปนี่เอง!
.
ปะการัง
.
[ ขอพระเจ้าอวยพรทุกปาฏิหาริย์แห่งความมุ่งมั่นด้วยสองมือเราเอง ]
.
* * * * * * * * * *
.
ขอแนะนำ ของขวัญแห่งชีวิตสำหรับคริสต์มาสนี้
หนังสือเล่มพิเศษ ส่งท้ายปี ตัอนรับการเริ่มต้นใหม่ ที่ดีกว่าเดิม!
.
“อย่ากลัว ที่จะยืนโดดเดี่ยว กลางแดดร้อนลมแรง” โดย ปะการัง
.
เป็นบันทึกประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวดี ๆ ของคนทั่วไป ที่อ่านแล้วยิ้มมีความสุข มีความหวัง มีกำลังใจ โดยสะท้อนชีวิตคนเหล่านั้น ผ่านบทอ่านคำสอนของพระเจ้าที่เขียนทุกวันอาทิตย์ ด้วยภาษาแห่งความรัก-เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะคริสตชน และคาทอลิก เป็นของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส, ปีใหม่ และทุกเทศกาล
.
หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามที่สงสัยมานาน เช่น สวรรค์มีจริงไหม? นักวิทยาศาสตร์-นักบินอวกาศเชื่อในพระเจ้าหรือไม่? ทำไมโดนตบแก้มขวาต้องหันแก้มซ้ายให้, ทำไมมหาเศรษฐีอินเดียราทัน ทาทารวยล้นฟ้าแต่ไม่มีความสุข? หรือแม้แต่คำถาม ยังมีใครแข็งแกร่งกว่าเดอะ ร็อคและปาเกียวอีกหรือ? จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะรู้สึกอ่อนแอได้ แต่ต้องไม่ด้อยค่าตัวเอง!
.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2023 10:03 pm

( 11 )


โลกทุกวันนี้ ดูเหมือนจะมีแต่ข่าวร้าย สงคราม ความขัดแย้ง ทำให้ใครต่อใครพากันหดหู่ สิ้นหวัง
แทบจะไม่อยากตื่นมาพบข่าวร้ายในทุกเช้าของแต่ละวัน - - จนอดคิดไม่ได้ว่า บางที, เราต้องลงมือ
สร้างเรื่องราวดี ๆ เป็นข่าวรื่นรมย์ใจบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เสียเอง...
. . . . . .
.
เช้าวันคริสต์มาสอีฟ ปี 1973, บอสประกาศว่า "ถ้าพวกเราเร่งปิดต้นฉบับ ส่งขึ้นแท่นพิมพ์ได้เร็วขึ้น
สักสองสามชั่วโมง เราจะได้กลับบ้านไปฉลองกับครอบครัวได้เร็วขึ้น!" ทุกคนตอบตกลงทันที
.
ขณะนั้น ดอน แลมเบิร์ต ยังเป็นนักข่าวมือใหม่ หน้าที่หลักของเขาต้องไปเช็คข่าวที่สถานีตำรวจ
เผื่อว่ามีเรื่องด่วนสำคัญที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบ เช่น มีการปล้นธนาคาร หรือนักโทษแหกคุก...

“ไม่มีอะไรแบบนั้นเลย” สารวัตรตอบพร้อมยักไหล่ “อากาศหนาวเกินไปสำหรับพวกโจรที่จะออกมา
เพ่นพ่าน” และเหมือนกับทุกเช้า สารวัตรยื่นสมุดบันทึกประจำวันให้ดอนดู เป็นลายมือจดเรื่องที่ร้องเ
รียนทางโทรศัพท์ ดอนไล่นิ้วตามรายการเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่น่าสนใจเช่นทุกครั้ง - -
แต่มีอยู่รายการหนึ่งที่ชวนสะดุดใจ - - โทรมาจากทางเหนือ ซึ่งเป็นย่านคนยากไร้ของเมืองนี้ แจ้งว่า
เสื้อผ้าทั้งหมดของครอบครัวได้ถูกขโมยไป!

“โอ ช่างน่าเศร้าจริง ๆ” ดอนนึกในใจ โดยเฉพาะเหตุเกิดในช่วงเทศกาลแห่งความสุข แถมยังหนาวเหน็บ
อีกด้วย - - แต่เมื่ออ่านบันทึกต่อ พบว่า เจ้าทุกข์คนเดิมได้แจ้งกลับมาอีกครั้งในเวลาต่อมาว่า เขาได้เสื้อผ้า
ทั้งหมดคืนแล้ว - - ดอนรู้สึกได้ว่าน่าจะมีเรื่องราวที่ชวนสนใจซ่อนอยู่ เขาจึงตัดสินใจขับรถขึ้นไปทางเหนือ
เพื่อตามหาครอบครัวนั้น เมื่อไปถึง ผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูรับ เธออุ้มเด็กน้อยในวงแขน โดยมีเด็กชาย
อีกสองคนยืนหลบอยู่ด้านหลัง

เธอเล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ครอบครัวของเธอกำลังแย่ สามีของเธอป่วยหนักและตกงาน เธอซักเสื้อผ้าทั้งหมด
เพื่อเตรียมต้อนรับคริสต์มาส เครื่องอบผ้าก็ดันมาเสียอีก เจ้าของบ้านเช่ายังไม่มาซ่อมให้ - - ตอนแรกเธอ
นึกโกรธตัวเอง... น่าจะหอบผ้าเปียกทั้งหมดไปที่ร้านซักอบ แต่มันก็อยู่ไกล และต้องเสียเงินเยอะ เธอจึง
ตากผ้าไว้ที่ราวหลังบ้านแทน...

แต่เมื่อกลับออกไปดูอีกครั้ง พบว่าเสื้อผ้าที่ตากอยู่หายไปหมดแล้ว เธอจึงได้โทรแจ้งตำรวจ แต่ไม่กี่ชั่วโมง
ต่อมา ก็มีคนมาเคาะที่หน้าประตู เมื่อเปิดออกไปดู เธอไม่พบใครเลย นอกจากกล่องใบใหญ่วางอยู่ที่พื้น - -
ในกล่องนั้น เป็นเสื้อผ้าทั้งหมดของเธอที่อบแห้ง รีด และพับไว้แล้วอย่างดี มีโน้ตแนบมาว่า “หวังว่าเราจะ
ทำได้มากกว่านี้ สุขสันต์วันคริสต์มาส”
.
เมื่อกลับถึงสำนักงาน ดอนรีบขอให้ชะลอการพิมพ์ก่อน - -บอสคำรามลอดไรฟัน “หวังว่า เรื่องที่เขียนต้อง
เยี่ยมยอดมากเลยนะ” คนจัดหน้าหนังสือพิมพ์บอกว่า เนื่องจากเรื่องมาช้า ทางเดียวที่ทำได้คือยัดใส่หน้า 7
แต่ดอนยืนกรานว่า ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องอยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์!
.
ปรากฏว่ากว่าจะได้ขึ้นแท่นพิมพ์ก็ล่าช้าไปเกือบชั่วโมง แต่เมื่อบอสเห็นข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
ที่พิมพ์เสร็จแล้ว เขาก็ยิ้มออกอย่างพึงใจ “เยี่ยมมาก!”
.
แม้จะเป็นแค่เรื่องราวเล็ก ๆ ของคนธรรมดา แต่ข่าวหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์เช้าวันนั้น ทำให้วันคริสต์มาส
ที่แสนหนาวเหน็บของชาวเมืองอบอุ่นใจยิ่งนัก!
. . . . .
.
เคยอ่านเรื่องเล่าของเด็กชายคนหนึ่งที่แคนาดา ในช่วงคริสต์มาสครูได้จัดให้เด็ก ๆ ในชั้นเรียนเล่นละคร
คริสต์มาส โดยเด็กชายคนนี้ได้รับบทเป็นเจ้าของโรงแรม ซึ่งตามบทของเรื่องเขาต้องปฏิเสธโยเซฟว่า
ที่พักเต็ม ทำให้โยเซฟต้องพานางมารีย์ไปอาศัยโรงนา และพระเยซูต้องประสูติในรางหญ้า- -
.
เมื่อถึงตอนแสดงจริงบนเวที เขากลับอ้ำอึ้ง แทนที่จะตะโกนขับไล่ว่า “จงไปเถิด เราไม่มีที่ว่าง” เขาเริ่มร้องไห้
ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของผู้ชม เขากลับพูดว่า “เข้ามาเถิด แม้จะไม่มีห้องว่าง แต่ท่านมาพักที่ห้องของข้าก็ได้...”

แทนที่จะพูดตามบทที่เกิดเหตุการณ์จริงเมื่อสองพันกว่าปีก่อน เขากลับพูดสิ่งที่ออกมาจากใจบริสุทธิ์...
.
ละครเวทีคืนนั้น จบลงด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปิติทั้งจากครูและผู้ชม- - ไม่มีใครตำหนิที่เขาพูดไม่ตรงบท
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เราควรได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ในอดีต ที่พระกุมารมาประสูติบนโลกเพื่อไถ่ถอนเราด้วย
ความรัก และเด็กชายคนนั้นก็ได้แสดงให้เรามองเห็นถึงประกายแห่งความรักที่แท้จริงนั้น
. . . . .
.
ขณะที่โลกของเรายังหมุนไปด้วยข่าวเศร้า ชวนหดหู่ใจ จงอย่าสิ้นหวัง หากยื่นมือออกไปช่วยเหลือซึ่งกัน
และกัน แบ่งปันในยามขาดแคลนเดือดร้อน เพื่อเป็นข่าวดี ๆ บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์แทนข่าวร้าย
ในแต่ละวัน อย่างที่ดอน แลมเบิร์ตทำบนหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่เมืองเล็ก ๆ ในแคนซัส ของเช้า
วันคริสต์มาสเมื่อเกือบ 50 ปีก่อน เพื่อให้สมค่าความหมายแห่งรักที่แท้จริงในการเสด็จมาของพระเยซู
.
ในบางค่ำคืนที่มืดมิด, เมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ผมถึงเข้าใจว่า...

ดาวงดงาม
ไม่ใช่เพราะแสงสวย
แต่เป็นเพราะส่องทางให้คนอื่น...
.
ขอให้ดวงดาวแห่งคริสต์มาสในค่ำคืนนี้
เป็นประกายแห่งความหวังสำหรับทุกคน

Merry Christmas
สุขสันต์วันคริสตสมภพ 2021
.
ปะการัง

24 ธันวา 2023
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2023 10:12 pm

( 12 )


พิเศษ
สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ ควรอ่านอย่างยิ่งครับ

คำพูด...สร้างพลัง
คน..เปราะบางยิ่งกว่าไข่ไก่ ไข่ไก่ต้องเคาะหนึ่งที่ถึงจะแตก
คน..กลับบ่อยครั้ง เพียงเพราะคำพูดคำๆเดียวของผู้อื่นซึ่งมองไม่เห็น หัวใจก็แหลกสลายแล้ว

ครั้งแรก..ที่เข้าร่วมการประชุมผู้ปกครอง คุณครูชั้นอนุบาลพูดว่า..." ลูกชายของคุณเป็นโรคอยู่
ไม่สุข ไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้ แม้เพียงสามนาที ให้ดีแล้ว ผมว่าคุณพาเขาไปตรวจเช็ก
ที่โรงพยาบาลดีกว่าไหม "

ตอนเดินทางกลับบ้าน ลูกชายถามเธอว่า คุณครูพูดอะไรบ้าง
เธอเจ็บปวดหัวใจ น้ำตาแทบจะไหลรินออกมา เพราะว่า..เด็กน้อยทั้งห้องสามสิบคน มีเพียงการกระทำ
การปฏิบัติตัวของเขาแย่ที่สุด คุณครูแสดงออกถึงความดูแคลน ทว่า.. เธอยังคงบอกกับลูกชายว่า
" คุณครูชื่นชมเธอ บอกว่า เดิมทีเธอไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้แม้แต่นาทีเดียว ตอนนี้สามารถนั่งได้
สามนาทีแล้ว ส่วนคุณแม่คนอื่นๆ ต่างก็อิจฉาแม่ เพราะว่า ทั้งห้องมีลูกเพียงคนเดียว ที่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น "

ค่ำวันนั้น ลูกชายของเธอกินข้าวหมดสองถ้วย ซึ่งเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งไม่ต้องให้เธอป้อน

ลูกชาย..ขึ้นชั้นประถมแล้ว การประชุมผู้ปกครอง คุณครูพูดว่า......
" นักเรียนทั้งชั้นห้าสิบคน ผลการสอบคณิตศาสตร์ครั้งนั้ ลูกชายของคุณได้อันดับที่สี่สิบเก้า พวกเราสงสัยว่า
สติปัญญาของเขาอาจจะมีปัญหา ให้ดีแล้วคุณพาเขาไปตรวจเช็กที่โรงพยาบาล นะ"

ระหว่างเดินทางกลับบ้าน น้ำตาเธอไหลรินออกมา ทว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว กลับพูดกับลูกชายว่า...
." คุณครูเชื่อมั่นในตัวเธอมาก เขาบอกว่า เธอไม่ใช่เด็กที่โง่เขลา ขอเพียงแต่เพิ่มความละเอียดรอบคอบ
มากขึ้น ก็จะเหนือกว่า คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันกับเธอ
ครั้งนี้..คนที่นั่งโต๊ะตัวเดียวกันกับเธอ เขาสอบได้อันดับที่ยี่สิบเอ็ด "

ตอนที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ เธอพบเห็นว่า......ดวงตาของลูกชายค่อยๆเปล่งประกายแสงยิ่งๆขึ้น
ใบหน้า ที่เศร้าสร้อยเมื่อครู่ก็ร่าเริงขึ้นมาทันที อีกทั้ง..เธอ
พบเห็นว่า ลูกชายอ่อนโยนจนทำให้เธอตกใจ คล้ายดั่งเขาได้เติบใหญ่ขึ้นมากในทันที วันรุ่งขึ้นไป
โรงเรียน ก็ไปเช้ากว่าปกติ

ลูกชาย..ขึ้นชั้นมัธยมต้น เป็นอีกครั้งของการประชุมผู้ปกครอง เธอนั่งอยู่ในที่นั่งเรียนของลูกชาย
รอคอยคุณครูขานชื่อของลูกชายเธอ เพราะว่าการประชุมผู้ปกครองทุกครั้งที่ผ่านมา รายชื่อของนักเรียน
ที่มีผลการเรียนย่ำแย่ จะมี รายชื่อของลูกชายเธอทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเธอ
จวบจนสิ้นสุดก็ไม่ได้ยินชื่อของลูกชายเธอ เธอเกิดความไม่เคยชิน ก่อนกลับจึงไปถามคุณครู คุณครูบอก
กับเธอว่า......" ดูจากผลการเรียนของลูกคุณในปัจจุบันแล้ว หากไปสอบเข้าเรียนโรงเรียน
มัธยมปลายที่มีชื่อเสียง ยังมีความเสี่ยงที่สูงอยู่ แต่เขาพัฒนาขึ้นมาก"

เธอเดินออกจากโรงเรียนด้วยความดีใจ ยามนี้เธอเห็นลูกชายยืนรอคอยเธออยู่ ระหว่างทางเธอจับไหล่
ของลูกชาย ภายในจิตใจรู้สึกหวานชื่นยิ่ง เธอบอกกับลูกชายว่า....." คุณครูประจำชั้น พอใจในตัวเธอมาก
เขาบอกแล้วว่า ขอเพียงลูกมีความพยายามก็จะมีหวังยิ่งขึ้น ที่จะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง "
จบมัธยมปลายแล้ว รายชื่อนักเรียนชุดแรก ที่ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งผลการสอบผู้คัดเลือกได้ ยามนั้น..
ทางโรงเรียนได้โทรศัพท์มา ให้ลูกชายเธอไปที่โรงเรียน

เธอมีลางสังหรณ์ว่า ลูกชายของเธอจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแน่ เพราะว่า..ตอนที่ไปสมัคร
สอบเธอได้พูดกับลูกชายว่า เธอเชื่อและมั่นใจว่า เขาต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้แน่นอน ลูกชายกลับมา
จากโรงเรียน นำจดหมายที่มีตราประทับ จากสำนักงานของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังยื่นให้เธอ
จากนั้นเขาเดินมากอดแม่และก็ร่ำร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ร้องไปก็พูดไปว่า " แม่..ผมรู้ว่าผมไม่ใช่เด็กที่
เฉลียวฉลาด แต่ว่า..บนโลกนี้ มีเพียงแม่เท่านั้นที่ดีกับผมเสมอและชื่นชมผมตลอดมา ขอบคุณครับแม่........
ที่ทำให้ผมเกิดมา ขอบคุณที่ทำให้ผมเป็นคนได้อย่างภาคภูมิ และอนาคต แม่จะต้องภูมิใจในตัวผม
."เขารู้แล้ว รู้เรื่องทั้งหมดจากที่ครูประจำชั้นเล่าให้ฟังว่าจริงๆแล้ว ท่านเคยพูดอะไรในตอนที่แม่ของเขา
ไปประชุมผู้ปกครองทุกครั้ง ครูรู้เพราะถามเขาว่าทำไมเขาถึงสอบได้ ถามว่าทำไมเขาเก่งขึ้น พอเขาเล่า
ให้ครูฟัง ครูเงียบไปพักใหญ่จากนั้น เรียกให้เขามานั่งใกล้ๆ แล้วจึงเล่าความจริงให้เขาฟัง นั่นยิ่งทำให้
เขารับรู้ความรักอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่เรียกว่าแม่...ผู้เป็นแม่ ยามนี้..เธอสุดแสนจะดีใจ ไม่สามารถกลั้นน้ำตา
ที่อัดอั้นมาสิบกว่าปีอีกต่อไปแล้ว จึงปล่อยให้ไหลรินร่วงลงบนซองจดหมายที่อยู่ในมือ
คำพูด..ที่ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุน สามารถแปรเปลี่ยนแนวคิด และพฤติกรรมของคนคนหนึ่ง แม้กระทั่ง
แปรเปลี่ยนโชคชะตาของคนคนหนึ่ง

คำพูด..เชิงลบ บั่นทอนกำลังใจ จะทิ่มแทงหัวใจและร่างกาย ของคนคนหนึ่ง จนบาดเจ็บชอกช้ำ จวบจน
กระทั่งทำลายอนาคต ของคนคนหนึ่ง
นี่คือการปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง อยากให้ทุกท่านแชร์มากๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2023 10:23 pm

( 13 )


เมื่อครั้งยังทำงานที่อเมริกา วันหนึ่ง ผมจำเป็นต้องเอารถเข้าอู่ซ่อม เพราะเกิดเสียงดังใต้ท้องรถ
อย่างน่ากลัว ผมไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เลย จึงจำเป็นต้องเลือกหาอู่ซ่อมที่วางใจได้ว่าจะไม่
ฉวยโอกาสคิดราคากับผมเกินจริง หลังจากที่ตระเวนหาร้านทางอินเตอร์เน็ทอยู่เป็นนานสองนาน
ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจเลือกอู่ซ่อมรถของจอห์น
.
เมื่อไปถึงสถานที่จริง ผมพบว่าอู่ซ่อมรถของเขาสะอาดสะอ้านกว่าอู่ซ่อมรถทั่วไป ตัวจอห์นเองดูเป็น
คนเงียบ ๆ พูดน้อย ไม่ได้พูดจาหว่านล้อมลูกค้ามากนัก ผมออกจะรู้สึกผิดหวังนิด ๆ เสียด้วยซ้ำ ที่
ไม่ได้ยินเขาพูดรับรองตัวเองว่า ฝีมือดีที่สุด หรือค่าซ่อมถูกที่สุดอะไรทำนองนั้น...
.
ผมลองให้จอห์นตรวจซ่อมอะไรเล็กน้อย เพื่อดูบริการของเขา ก่อนที่จะตัดสินใจให้ซ่อมงานใหญ่
ระหว่างนั่งรอ ผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เพราะเขาใช้เวลานานพอสมควร เมื่อถามว่าเสร็จหรือยัง ก็มักจะ
ได้คำตอบว่า จวนแล้ว หรืออีกไม่กี่นาที ปรากฏว่า ผมนั่งรออยู่ประมาณสามชั่วโมง!
.
ผมเริ่มลังเลใจที่จะใช้บริการของเขา แต่ในระหว่างที่นั่งรออยู่นั้น ผมสังเกตเห็นป้ายเล็ก ๆ ตรงหน้า
เคาน์เตอร์เป็นรูปรถนักเรียนสีเหลือง พร้อมด้วยข้อความที่ว่า “โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว กรุณาขับรถด้วย
ความระมัดระวัง” อืมม ความคิดดี ผมนึกในใจ...
.
ตรงมุมหนึ่งของห้อง มีกล่องของขวัญสี่ห้ากล่องและตุ๊กตาสองสามตัววางอยู่ มีป้ายกระดาษพิมพ์ข้อ
ความว่า “บริจาคของเล่นให้กับเด็ก ๆ เนื่องในวันคริสต์มาส จะได้รับส่วนลด $25 เหรียญสำหรับค่า
ซ่อมรถครั้งต่อไปของคุณ- - เราจะรวบรวมของเล่นทั้งหมดไปให้กับองค์กรเด็กยากไร้”
.
นั่นเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่พอ ที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกใช้บริการของช่างจอห์นทันที ความหงุดหงิด
ที่ต้องนั่งรอหลายชั่วโมงพลันหายไป ผมไม่สนใจว่าเขาทำงานช้า หรือคิดแพงเกินไปหรือเปล่า ผมรู้สึก
ดีในสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาทำ และมอบความวางใจในตัวเขา
.
ผมมาทราบในภายหลังอีกด้วยว่า เคยมีลูกค้าคนหนึ่งรถเสียกะทันหัน ต้องทิ้งรถไว้ที่อู่ของจอห์นเป็น
เวลาหลายวัน เธอจำเป็นต้องใช้รถเพื่อขับไปทำงาน และไม่มีเงินพอที่จะเช่ารถได้ จอห์นเลยให้เธอเอา
รถของเขาไปใช้ฟรี ๆ โดยไม่คิดเงิน เขาขอเพียงให้เธอเติมน้ำมันเต็มถัง ตอนที่นำรถมาส่งคืนเท่านั้นเอง
. . . . .
.
วันหนึ่งของฤดูหนาว สายลมพัดใบไม้แห้งร่วงพรูจากกิ่ง หล่นปลิวไปบนทางเท้าเสียงดังแกรกกราก- -
เด็กชายคนนั้นยืนอยู่ที่หน้าร้าน ตาทั้งคู่จับจ้องสินค้าในตู้กระจกอยู่เนิ่นนาน พนักงานขายเดินออกมาทำ
หน้าตาดุใส่ ขณะเดียวกันกับที่สุภาพสตรีแต่งกายดีท่านหนึ่งเดินผ่านมา พนักงานรีบปรับเปลี่ยนสีหน้า
เป็นยิ้มแย้ม ทักทายสุภาพสตรีท่านนั้นด้วยไมตรี ก่อนเดินนำเข้าไปในร้าน...
.
สุภาพสตรีหันมามองเด็กชาย ถามว่าทำอะไรอยู่หรือ เด็กชายตอบพาซื่อว่า
“เปล่าครับ ผมแค่ยืนดู... อธิษฐานขอรองเท้าสักคู่จากพระเจ้าเป็นของขวัญวันคริสต์มาสครับ”
.
สุภาพสตรีเพิ่งสังเกตเห็นว่าเท้าทั้งสองข้างของเด็กชายเปล่าเปลือย กำลังถูไปมาเพื่อขับไล่ความ
หนาวเหน็บ เธอยิ้มให้อย่างเมตตา แล้วกวักมือเรียกเด็กชายให้เดินตามเข้าไปในร้าน เธอให้เด็กชาย
เลือกรองเท้าคู่ที่เขาชอบ แล้วจ่ายเงินให้ เขารีบสวมรองเท้าคู่นั้นทันที
.
หลังจากที่จับจ้องรองเท้าคู่นั้นผ่านกระจกหน้าร้านมาหลายวัน เด็กชายแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า
บัดนี้ได้เกิดปาฏิหารย์ยิ่งใหญ่ในชีวิต เขาได้ยืนอยู่ในรองเท้าคู่นั้นแล้ว... พระเจ้าได้ยินคำอธิษฐาน
ของเขาจริง ๆ!
.
เขาก้มมองดูนิ่งเงียบเนิ่นนานราวกับกลัวว่า หากละสายตาไปจากมันเพียงแค่วินาทีเดียว สิ่งที่เห็นนั้น
จะกลายเป็นฝันลวงตา... ตราบเมื่อได้ยินเสียงสุภาพสตรีท่านนั้นถามว่า “เป็นอะไรไปจ้ะ ไม่ชอบหรือ?”
เด็กชายถึงได้เงยหน้าขึ้นตอบว่า “ชอบมากครับ ผมไม่เคยมีรองเท้าสวยอย่างนี้มาก่อน ขอบคุณมากครับ”
ขณะที่พูด น้ำตาของเขาไหลอาบแก้ม...
.
ก่อนที่สุภาพสตรีท่านนั้นจะเดินจากไป เด็กชายเอ่ยขึ้นว่า “ขอโทษครับ...”
สุภาพสตรีหันกลับมามอง ถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “มีอะไรหรือจ้ะ”

“คุณเป็นภรรยาของพระเจ้าหรือครับ?”
. . . . .
.
เมื่อเราให้ เราก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวของพระเจ้า หรือเป็นเหมือนพระเจ้าในสายตาของผู้อื่น...
นั่นคือความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาส พระเยซูทรงประสูติในวันนั้น ก็เพื่อสละพระองค์เองสำหรับ
การไถ่บาปของมวลมนุษย์ เป็นการ”ให้”ที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมด!
.
ลองจินตนาการดูสิว่า เมื่อทุกคน“ให้”กันและกัน โดยไม่หวังผลตอบแทน - - เหมือนอย่างช่างจอห์น
หรือสุภาพสตรีใจดีที่ซื้อรองเท้าให้เด็ก - -ใจเราจะมีความสุขแค่ไหน และโลกนี้จะงดงามเพียงใด...
.
นี่จึงเป็นเทศกาลแห่งการให้ ใส่ใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แบ่งปัน เติมความรักให้กับโลกที่แสนว้าเหว่นี้...
.
Merry Christmas
สุขสันต์วันคริสตสมภพ
ขอพระเจ้าอำนวยพร - ประทานความรักและสันติสุขแด่พี่น้องทุกคนครับ
.
ปะการัง
25 ธันวา 2023
.
* * * * * * * * * * * * * * *
.
การให้ คือ ของขวัญแห่งชีวิตสำหรับคริสต์มาสนี้...
ให้แสงสว่างแห่งความรักและความหวัง
ด้วยหนังสือเล่มพิเศษ ส่งท้ายปี ตัอนรับการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่าเดิม!
.
“อย่ากลัว ที่จะยืนโดดเดี่ยว กลางแดดร้อนลมแรง” โดย ปะการัง
.
หนังสือเล่มใหม่ล่าสุด-บันทึกประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวดี ๆ ของคนทั่วไป ที่อ่านแล้วยิ้มมีความสุข
มีความหวัง มีกำลังใจ โดยสะท้อนชีวิตคนเหล่านั้น ผ่านบทอ่านคำสอนของพระเจ้าที่เขียนทุกวันอาทิตย์
ด้วยภาษาแห่งความรัก-เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะคริสตชน และคาทอลิก เป็นของขวัญ
สำหรับวันคริสต์มาส, ปีใหม่ และทุกเทศกาล
.
หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามที่สงสัยมานาน เช่น สวรรค์มีจริงไหม? นักวิทยาศาสตร์-นักบินอวกาศเชื่อในพระเจ้า
หรือไม่? ทำไมโดนตบแก้มขวาต้องหันแก้มซ้ายให้, ทำไมมหาเศรษฐีอินเดียราทัน ทาทารวยล้นฟ้าแต่ไม่มี
ความสุข? หรือแม้แต่คำถาม ยังมีใครแข็งแกร่งกว่าเดอะ ร็อคและปาเกียวอีกหรือ? จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่
เราจะรู้สึกอ่อนแอได้ แต่ต้องไม่ด้อยค่าตัวเอง!
.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ อังคาร ก.พ. 06, 2024 5:52 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 29, 2023 10:37 pm

( 14 )


หัวหอมหั่นแช่เย็น~

ดร. Zheng Huiwen เป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยการแพทย์ไทเป และปัจจุบันทำหน้าที่เป็น
ตัวแทนของกลุ่มการแพทย์และสุขภาพในเบลเยียม

เตือนเพื่อนของฉันอีกครั้ง - หัวหอม - เสริมไขกระดูกเร็วกว่าแคลเซียมสิบเท่า อาหารเสริมกระดูก
อันดับ 1 (ฉันกินหัวหอมดิบทุกวันเป็นเวลาสองปี! – Yang Jianwu)

หัวหอมเป็นหนึ่งในผักไม่กี่ชนิดที่มีสารพรอสตาแกลนดิน เอ พรอสตาแกลนดิน เอ เป็นตัวขยาย
หลอดเลือดที่แข็งแรง ซึ่งสามารถทำให้หลอดเลือดอ่อนตัวลง ลดความหนืดของเลือด เพิ่มการไหล
เวียนของเลือดในหลอดเลือด และส่งเสริมการขับเกลือโซเดียมและสารอื่นๆ ที่ทำให้ความดันโลหิต
สูงขึ้น ดังนั้นจึงไม่เพียงควบคุมไขมัน ในเลือด แต่ยังช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันการเกิดลิ่มเลือด

หัวหอมช่วยเสริมไขกระดูกได้เร็วกว่าแคลเซียมถึงสิบเท่า อยู่ในอันดับหนึ่งในการเสริมกระดูก
【ปรากฎว่าหัวหอมมีพลังมาก!】

หัวหอมมีประสิทธิภาพมากกว่ายารักษาโรคกระดูกพรุน หัวหอมสามารถป้องกันอาการคัดจมูก
หัวหอมสามารถป้องกันคอเลสเตอรอลสูง และหัวหอมสามารถป้องกันโรคนอนไม่หลับ

ฉันไม่เคยรู้ว่าหัวหอมนั้นยอดเยี่ยมมาก นี่คือสูตรสำหรับหัวหอมเย็นแสนอร่อย

1. ล้างและหั่นหัวหอม
2. ใส่น้ำแข็งลงในภาชนะ แช่หัวหอมหั่นฝอยในน้ำน้ำแข็ง และเก็บไว้ในชั้นล่างของตู้เย็น
3.วันต่อมาเด็ดต้นหอมมาคลุกกับน้ำมันหอย ผักกาดหอม อร่อยแบบไม่เผ็ด

1. หัวหอมมีประสิทธิภาพมากกว่ายารักษาโรคกระดูกพรุน -----------
แม่บ้านไม่ชอบใช้หัวหอมทำอาหาร เวลาหยิบจับจะทำให้คนร้องไห้ และหลายคนก็กลัวกลิ่น
หัวหอมด้วย นอกเสียจากว่าจะเป็นอาหารจานเด็ดของหัวหอม ก็ยากที่จะหาคนรักหัวหอมจริงๆ

แต่ผู้ที่ต้องการสร้างกระดูกให้แข็งแรง สูงขึ้น และป้องกันโรคกระดูกพรุน ควรปิดจมูกและรับ
ประทาน หัวหอมอย่างเชื่อฟังจะดีกว่า

รายงานการวิจัยล่าสุดของวารสารชื่อดัง "เนเจอร์" ชี้ว่าหัวหอมเป็นผักที่สามารถป้องกันการสูญ
เสียมวลกระดูกได้ดีที่สุด ผลของหัวหอมต่อการป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก ดีกว่ายารักษาโรค
กระดูกพรุน "แคลซิโทนิน"

นักวิจัยให้หนูตัวผู้กินหัวหอมแห้ง 1 กรัมทุกวัน หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ มวลกระดูกของหนูตัวผู้
เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 13.5-18%
การทดลองอีกชุดหนึ่งพบว่าการให้หนูกินผักที่มีหัวหอมช่วยลดการสูญเสียมวลกระดูกด้วย

การทดลองกลุ่มที่สามคือให้หนูตัวเมียที่ตัดรังไข่ออกกินหัวหอม 1.5 กรัมต่อวัน และอัตราการสูญ
เสียกระดูกจะลดลง 25%

ยิ่งไปกว่านั้น ประโยชน์ของหัวหอมยังสามารถเห็นได้ภายใน 12 ชั่วโมง นักวิจัยเชื่อว่าผลของ
หัวหอม อาจมาจาก "การป้องกันการสูญเสียกระดูก" ดังนั้น ผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากหัวหอม
ในการดูแลสุขภาพอาจต้องกินหัวหอมวันละ 200-300 กรัม (10 ออนซ์) เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน

ยาและอาหารมีต้นกำเนิดเดียวกัน ในอาหารประจำวันของเรา ผักและผลไม้หลายชนิดมีฤทธิ์เป็นยา
เช่น หัวหอม ซึ่งเป็นเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ในอาหารตะวันตก มีประโยชน์ต่อร่างกายเกินจินตนาการ

ไข่คนกับหัวหอมหรือเนื้อผัดกับหัวหอมเป็นอาหารที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ หัวหอมยังสามารถ
รับประทานแบบดิบๆ หรือคั้นน้ำ ตามการทดลองทางการแพทย์พบว่ามันสามารถทำให้เกิดผลวิเศษ
ได้หลายอย่าง

หัวหอมสามารถป้องกันคอเลสเตอรอลสูง ------------
ดร. เคโดเกอร์วิช ศาสตราจารย์ด้านหทัยวิทยาแห่ง Harvard Medical School กล่าวว่า การกินหัวหอมดิบ
ครึ่งหัวต่อวันหรือการดื่มน้ำหัวหอมในปริมาณที่เท่ากันสามารถเพิ่มปริมาณ HDL ของผู้ป่วยโรคหัวใจได้
ประมาณ 30% โดยเฉลี่ย (HDL ย่อมาจาก สำหรับคอเลสเตอรอลที่มีไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง)
ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดหนึ่งที่คิดว่าช่วยป้องกันหลอดเลือดก็เป็นคอเลสเตอรอลที่ดีเช่นกัน)

กินหัวหอมดิบครึ่งหัวทุกวันหรือดื่มน้ำหัวหอมในปริมาณที่เท่ากันเพื่อปกป้องหัวใจ เดิมทีนี่เป็นวิธีการ
รักษา พื้นบ้าน ดร. เคโดะได้ทำการทดลองกับผู้ป่วยในคลินิกของเขาและพิสูจน์ว่าหัวหอมมีผล
ในการเพิ่ม คอเลสเตอรอลชนิดดี ยิ่งเป็นผู้ใหญ่มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพน้อยลงเท่านั้น

หัวหอมสามารถสลายไขมัน -------

ดร.เคโดะให้ผู้ป่วยโรคหัวใจในคลินิกกินหัวหอมทุกวัน และพบว่าสารประกอบที่มีอยู่ในหัวหอมยัง
สามารถป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดจับตัวเป็นก้อนและเร่งการละลายของลิ่มเลือด ดังนั้น เมื่อคุณทานอาหาร
ที่มีไขมันมาก ควรใส่หัวหอมเล็กน้อยลงไปด้วย ซึ่งจะช่วยต่อต้านการอุดตันของเส้นเลือดที่เกิดจากอาหาร
ที่มีไขมัน ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่สเต็กมักจะเสิร์ฟพร้อมหัวหอม?

หัวหอมสามารถป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหารได้ -----------
หัวหอม และกระเทียม, ต้นหอม, กระเทียมหอม, ผัก Allium มีสารเคมีต้านมะเร็ง จากการวิจัยของนักวิจัย
ในมณฑลซานตง ประเทศจีน ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีอุบัติการณ์ของมะเร็งกระเพาะอาหารสูง ยิ่งคุณกินหัวหอม
มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสเป็นมากขึ้นเท่านั้น จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารยิ่งมีโอกาสน้อย

หัวหอมสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืด --------
หัวหอมมีสารเคมีต้านการอักเสบตามธรรมชาติอย่างน้อยสามชนิดที่สามารถรักษาโรคหอบหืดได้ เนื่อง
จากหัวหอมสามารถยับยั้งฮีสตามีนซึ่งเป็นสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โรคหอบหืด จากการวิจัยของ
เยอรมัน พบว่าหัวหอมสามารถลดความน่าจะเป็นของการเกิดโรคหอบหืดได้ประมาณครึ่งหนึ่ง

หัวหอมรักษาเบาหวานได้ ---

นานมาแล้ว หัวหอมใช้รักษาโรคเบาหวาน นอกจากนี้ การแพทย์แผนปัจจุบันยังได้พิสูจน์แล้วว่าหัวหอม
สามารถลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างแท้จริง และทั้ง 2 ชนิดนี้ให้ผลเท่ากันไม่ว่าจะรับประทานดิบหรือปรุงสุก

ปรากฎว่ามีสารต้านเบาหวานในหัวหอมซึ่งคล้ายกับเมทาไมด์ตัวแทนฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดที่ใช้กันทั่วไป
ซึ่งสามารถกระตุ้นการสังเคราะห์และการปล่อยอินซูลิน

หัวหอมสามารถป้องกันโรคนอนไม่หลับ --------
สรรพคุณวิเศษของหัวหอมมีมากกว่าข้างต้น นอกจากนี้ ในชีวิตประจำวันยังสามารถใช้หัวหอมเพื่อป้องกัน
โรคนอนไม่หลับ: นำหัวหอมสับวางไว้ข้างหมอน

หัวหอมช่วยป้องกันอาการคัดจมูก ----------------
เมื่อคุณเป็นหวัด ให้ดื่มซุปมิโซะร้อนกับหัวหอม และคุณสามารถขับเหงื่อและลดไข้ได้อย่างรวดเร็ว
หากคุณมีอาการคัดจมูกให้วางหัวหอมชิ้นเล็กๆ ไว้ที่จมูก กลิ่นฉุนของหัวหอมจะทำให้จมูกของคุณโล่งทันที
------------- ผู้แต่ง / Zheng Huiwen (Doctor of Pharmacy, University of California, USA)

2. ลอกเปลือกสีน้ำตาลของหัวหอมออก ผ่าออก แช่ในไวน์แดง ใส่ในตู้เย็น แล้วดื่มหลังจากผ่านไป 1
สัปดาห์ คุณยังสามารถกินหัวหอมซึ่งมีประสิทธิภาพมากในการรักษาโรคเก๊าท์

★ ขอแนะนำเมนูหัวหอมเย็น นอกจากขั้นตอนข้างต้นในการแช่หัวหอมหั่นฝอยในน้ำเย็นแล้วใส่ในตู้เย็น
ล้างและหั่นพริกเขียว พริกแดง และพริกเหลือง ยิ่งมีดละเอียดเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น วางไว้ในตู้เย็นชั้นล่าง
เพื่อคงความเย็น รสชาติกรอบ นำออกจากตู้เย็นก่อนรับประทาน เสิร์ฟพร้อม หอมซอย ราดซีอิ๊วขาว
น้ำมันงา น้ำส้มสายชูดำ เติมน้ำตาลกรวดเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ แล้วโรยงาขาวบางๆ
โรยองุ่นแห้งออร์แกนิคสดๆ สีสวยจัง แต่ตัดแล้วเหนื่อยค่ะ

อย่าเพิ่งรีบซื้อ ''เครื่องฟอกอากาศ'' ในตอนนี้!

ผู้อำนวยการสถาบันแห่งมหาวิทยาลัยฝูโจวได้ถ่ายทอดวิธีการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีในการทำให้อากาศ
บริสุทธิ์โดยหวังว่าจะช่วยแบคทีเรียป้องกันอากาศในบ้าน บันทึกมีดังนี้:

ซื้อหัวหอมใหญ่มาปอกเปลือกสีเหลืองชั้นนอกออกให้มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ สีขาว ตัดมุมปลายแหลม
ใส่ภาชนะหรือจานโดยไม่ต้องเติมน้ำ หัวหอมจะ ปล่อยโมเลกุลที่ สามารถทำให้อากาศภายในอาคารบริสุทธิ์
และบรรลุผลในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสมาชิกในครอบครัวเป็นหวัด จนกระทั่งหัวหอม
ขึ้นเครา ถ้าคุณคิดว่ามันดูไม่ดี คุณสามารถเปลี่ยนเป็นอันอื่นได้

คุณอาจต้องการลองใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในบ้านของคุณ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ม.ค. 06, 2024 7:28 pm

( 15 )


Made My Day!
ทำวันนี้ของเรา ให้เป็น 'วันสุข' พิเศษกัน
. . . . .
.
อดัมเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาคนหนึ่ง ขณะนั่งทำงาน เขามองเห็นชายไร้บ้านคนนี้ใช้วอล์คเกอร์
(อุปกรณ์ช่วยเดิน)ที่มีสัมภาระพะรุงพะรังเดินผ่านบริษัทของเขาเกือบทุกวัน... เขาสังเกตเห็นว่า
วอล์คเกอร์นั้นเก่า ล้อชำรุดมากแล้ว น่าจะเข็นเดินลำบาก จึงตัดสินใจสั่งซื้ออันใหม่ที่ดีกว่า
และประกอบให้เรียบร้อย
.
รอจนเช้าวันหนึ่ง เขาเดินผ่านมา อดัมรีบเอาไปให้ แล้วยังช่วยเขาย้ายข้าวของมาใส่วอล์คเกอร์
ใหม่ด้วย - - เขากล่าวขอบคุณอย่างดีใจ แน่นอน นั่นทำให้วันเงียบเหงาธรรมดา ๆ วันหนึ่งของ
ชายไร้บ้านสดชื่นขึ้นมาทันที!
.
แต่สำหรับอดัม วันทำงานธรรมดา ๆ วันหนึ่งของเขา กลับดูพิเศษ มีความสุขมากยิ่งกว่า!
. . . . .
.
ขณะที่เซเรน่ากำลังเข็นรถลูกสาวตัวน้อยเดินเล่นอยู่ริมถนน - - ชายชราคนหนึ่ง เดินตรงเข้ามาหา-
ถามเธอว่า เก่งเรื่องโทรศัพท์ไหม เพราะเขากำลังหาทางเปิดดูภาพที่หลานสาวส่งมาให้ทางข้อความ...
.
เมื่อเซเรน่ารับโทรศัพท์ที่ชายคนนั้นยื่นมาให้ จึงรู้ว่าเป็นโนเกียรุ่นเก่า เธอบอกว่า เขาไม่สามารถเปิด
ดูได้จากเครื่องของเขา เพราะไม่ใช่โทรศัพท์รุ่นใหม่แบบสมาร์ทโฟน
.
ชายชราเสียใจมาก เล่าด้วยน้ำเสียงแผ่วบางว่า นั่นเป็นรูปของหลานสาวและลูกคนใหม่ของเธอที่เพิ่งเกิด
ซึ่งเขายังไม่เคยเห็น พวกเขาอาศัยอยู่ต่างเมือง... เซเรน่าคิดอยู่ชั่วครู่ จึงขออนุญาตส่งรูปนั้นมาที่โทรศัพท์
ของเธอ และในที่สุด ก็เปิดให้เขาดูรูปได้สำเร็จ - - จากแววตาที่เขาเพ่งดูรูปที่หลานสาวส่งมานั้นเต็มไปด้วย
ความรัก และซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหล...
.
ชายชรายืนยันที่จะให้เงินเซเรน่า 20 เหรียญเพื่อซื้อของเล่นให้ลูกสาวเธอ เป็นการตอบแทนน้ำใจดีที่ยอม
เสียเวลาช่วยเหลือ แต่เซเรน่าปฏิเสธ บอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย แล้วเธอก็นึกเสียดายแทนว่า
ชายชราจะไม่มีรูปของหลานสาวเก็บไว้ดูอีกเลย เพราะมันอยู่ในเครื่องของเธอ จึงบอกให้เขากรุณารอสักครู่...
.
เซเรน่าเดินไปที่ร้านแล้วพริ้นต์รูปของหลานสาวชายคนนั้น พร้อมทั้งซื้อกรอบรูปใส่มาเรียบร้อย เมื่อยื่น
มอบให้ คงไม่ต้องบอกว่าเขาดีใจมากมายแค่ไหน ที่เห็นรูปหลานสาวในกรอบสวยงาม - -
.
เซเรน่าบอกว่า “นี่ช่าง made my day จริง ๆ ที่ทำให้ใครคนหนึ่งมีความสุข” - - made my day แปลได้ว่า
ทำให้วันที่แสนธรรมดาของฉันกลายเป็นวันที่พิเศษสดใสขึ้นมาทันที!
. . . . .
.
อาจเป็นวันแห่งความสุขของชายไร้บ้านกับวอล์คเกอร์ใหม่ และชายชรากับรูปหลานสาว - - แต่สำหรับ
อดัมกับเซเรน่า นี่ก็เป็นวันที่มีความสุขมากเป็นพิเศษเช่นกัน การกระทำด้วยความรักกรุณาของคนสองคน
สามารถเปลี่ยนวันธรรมดาให้เป็นวันสวยงามสำหรับคนสี่คน! นี่คือความมหัศจรรย์ที่เสกได้จากหัวใจ
ของเราเอง!
.
เริ่มต้นเสกมนต์แห่งความรักเช้าวันนี้ ด้วยการทำให้วันของใครบางคนมีความสุขเป็นพิเศษ แล้วมันจะ
ทำให้วันของเราเองเป็น 'วันสุข'พิเศษยิ่งกว่า...
.
...กลายเป็นวันฟ้าใส, ดอกไม้บานในทุกที่ที่เราเดินไป - เป็นวันที่หัวใจสดชื่น แม้จะยืนอยู่กลางแดดร้อน!
.
ปะการัง
.
[ ขอพระเจ้าประทานพรให้วันนี้เป็น 'วันสุข' พิเศษของเราทุกคน ]
.
* * * * * * * * * * * * * * *
.
แนะนำหนังสือเล่มพิเศษพร้อมลายเซ็น ที่เป็นของขวัญแห่งชีวิตสำหรับปีใหม่นี้...
.
“อย่ากลัว ที่จะยืนโดดเดี่ยว กลางแดดร้อนลมแรง” โดย ปะการัง
.
หนังสือเล่มใหม่ล่าสุด-บันทึกประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวดี ๆ ของคนทั่วไป ที่อ่านแล้วยิ้มมีความสุข มีความหวัง มีกำลังใจ โดยสะท้อนชีวิตคนเหล่านั้น ผ่านบทอ่านคำสอนของพระเจ้าที่เขียนทุกวันอาทิตย์ ด้วยภาษาแห่งความรัก-เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะคริสตชน และคาทอลิก เป็นของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส, ปีใหม่ และทุกเทศกาล
.
หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามที่สงสัยมานาน เช่น สวรรค์มีจริงไหม? นักวิทยาศาสตร์-นักบินอวกาศเชื่อในพระเจ้าหรือไม่? ทำไมโดนตบแก้มขวาต้องหันแก้มซ้ายให้, ทำไมมหาเศรษฐีอินเดียราทัน ทาทารวยล้นฟ้าแต่ไม่มีความสุข? หรือแม้แต่คำถาม ยังมีใครแข็งแกร่งกว่าเดอะ ร็อคและปาเกียวอีกหรือ? จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะรู้สึกอ่อนแอได้ แต่ต้องไม่ด้อยค่าตัวเอง!
.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ม.ค. 06, 2024 7:30 pm

( 16 )


เรื่องสั้น (@)หาทางแก้แค้นหรือให้อภัย
Moral stories จาก Google เรื่อง Seek a Revenge or give Forgiveness -
- แปลและเรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายชราที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ทุกคนรู้จักกันทั่วไปว่าเขาเป็นผู้รอบรู้และสามารถแก้ปัญหาให้กับทุกคนที่มาขอคำปรึกษา

วันหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาขอคำแนะนำ และเล่าปัญหาของตนว่า “ผมมีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่งครับ
มีคนหนึ่งใส่ร้ายผม และผมอยากจะแก้แค้นเขา ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ?"

ชายชราผู้ชาญฉลาดตอบว่า “ก่อนที่คุณจะหาทางแก้แค้นเอาคืน คุณควรถามตัวเองก่อนว่า มันจะ
คุ้มค่าไหม เพราะการแก้แค้นของคุณอาจทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นในตอนที่ได้ตอบโต้ แต่มันจะทำให้คุณ
มีความสุขอย่างแท้จริงได้หรือเปล่า?”

ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “แต่ถ้าฉันไม่หาทางแก้แค้นนะ คนอื่นเขาจะไม่คิดว่าผม
เป็นคนอ่อนแอไม่ได้เรื่องนะครับ?”

ชายชราจึงตอบว่า “ความแข็งแกร่งที่แท้จริงนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ภายในและมองไม่เห็น และความสามารถ
ในการให้อภัยผู้อื่นต้องใช้ความกล้าหาญมากกว่าการแก้แค้นหลายเท่า ดังนั้นถ้าคุณสามารถ
ให้อภัยคนที่ทำผิดต่อคุณได้ คุณก็จะเป็นผู้กล้าที่แท้จริงและจะพบกับความสุขที่แท้จริงอย่างแน่นอน”

ชายหนุ่มคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเห็นด้วยและขอบคุณชายชราผู้ให้คำแนะนำที่ดีให้ เขากลับออกไป
ด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นราวกับเป็นคนละคน

คติพจน์ :การให้อภัยเป็นสัญญาณของความเข้มแข็งและความกล้าหาญที่แท้จริง
เพราะการให้อภัยต้องใช้ความกล้าหาญมากกว่าการแก้แค้น

*******************
จบบริบูรณ์
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ม.ค. 09, 2024 9:45 pm

(17)


……………เรื่องสั้น …………นักพรตกับแพะ
Moral stories จาก Google เรื่อง The Priest and the Goat -- แปลและเรียบเรียง
โดย กอบกิจ ครุวรรณ

ครั้งหนึ่ง มีนักพรตผู้เคร่งศาสนาคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ท่านเป็นผู้มี
จิตใจบริสุทธิ์ เรียบง่าย และเป็นผู้รอบรู้เกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนา ครั้งหนึ่ง ท่านได้รับแพะ
ตัวหนึ่งหลังจากได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่บ้านของเศรษฐีคนหนึ่ง ท่านดีใจมากและ
แบกแพะขึ้นบ่าออกเดินทางกลับที่พักอย่างมีความสุข ขณะเดียวกันก็มีหนุ่มเจ้าเล่ห์ 3 คน
สังเกตเห็นนักพรตท่านนี้กำลังเดินแบกแพะอยู่บนบ่า
ทั้งสามเป็นคนเกียจคร้านและวางแผนจะเอาแพะตัวนั้นให้ได้ จึงปรึกษากันว่า “แพะตัวนี้เป็น
อาหารชั้นเลิศของเราแล้ว ช่วยกันคิดวางแผนเร็วเข้า” ไม่นานพวกเขาก็วางแผนเสร็จ และแยก
ย้ายกันไปหาที่ซ่อนตามที่ตกลงกันที่อยู่บนเส้นทางเดินของนักพรตที่จะผ่านมา

เมื่อนักพรตเดินไปถึงบริเวณที่ค่อนข้างเปลี่ยว หนุ่มคนแรกก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อนแล้วถาม
นักพรตด้วยท่าทีตกใจว่า “ท่านครับ ท่านกำลังทำอะไรอยู่หรือ? ผมไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมคนเ
คร่งศาสนาอย่างท่านจึงแบกสุนัขไว้บนบ่า?”

นักพรตรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของเขา และตอบอย่างหนักแน่นว่า “เธอไม่เห็นเหรอว่ามันไม่ใช่
สุนัขแต่เป็นแพะต่างหาก เธอโง่หรือเปล่านี่”

หนุ่มคนแรกพูดอย่างนอบน้อมว่า “แต่ท่านครับ ผมต้องขอโทษจริงๆ แต่ผมก็พูดตามที่ผมเห็น
นะครับ ถ้าท่านไม่เชื่อผมก็ไม่เป็นไรครับ”

นักพรตรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่ได้ยินจากปากเด็กหนุ่ม และเดินทางต่อไป

นักพรตเดินต่อไปได้ไม่ไกลนัก ก็มีหนุ่มอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากที่ซ่อนแล้วถามท่านว่า

“ท่านครับ ท่านแบกลูกวัวที่ตายแล้วไว้บนบ่าทำไมหรือ? ท่านก็ดูเป็นคนฉลาดนะ แต่การแบก
ลูกวัวที่ตายแล้วก็ดูเป็นการกระทำที่คนฉลาดเขาไม่ทำกันนะครับ”

นักพรตร้องตอบว่า “อะไรนะ? เธอเห็นแพะกลายเป็นลูกวัวตายแล้วไปได้อย่างไรกัน”

หนุ่มคนที่สองจึงพูดตอบว่า “ท่านครับ ดูเหมือนท่านจะคิดผิดอย่างมากในเรื่องนี้ ผมก็แค่จะ
บอกท่านว่า ผมมองเห็นอะไรที่ท่านแบกอยู่เท่านั้นครับ " แล้วหนุ่มคนที่สองก็เดินจากไปพร้อมกับ
รอยยิ้ม ขณะที่นักพรตที่รู้สึกสับสนแต่ก็ยังคงก้าวเดินต่อไป

หลังจากเดินต่อไปได้ไม่ทันไร ท่านก็พบหนุ่มคนที่สามที่พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะว่า “ท่านครับ
ทำไมท่านจึงแบกลาไว้บนบ่า? ท่านดูเหมือนตัวตลกจริงๆ เลย” เมื่อได้ยินคำพูดที่แปลกประหลาด
ของหนุ่มทั้งสามเช่นนั้น นักพรตรู้สึกเป็นกังวลมาก และเริ่มคิดอย่างจริงจังว่า

“สงสัยไอ้ที่เราแบกอยู่มันไม่ใช่แพะ (goat : โก๊ท) จริงๆ นะ? แต่เป็นผี (ghost : โก๊ส์ท)
หรือเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่แพะจริงๆ ด้วย!”

ที่สุด นักพรตก็คิดว่าสัตว์ที่แบกอยู่บนบ่าน่าจะต้องเป็นผีร้าย เพราะมันแปลงร่างได้ ทีแรกก็เป็นสุนัข
จากนั้นก็เป็นลูกวัวตาย แล้วก็กลายเป็นลา ท่านเริ่มรู้สึกตกใจกลัวและเหวี่ยงแพะลงข้างถนนพร้อม
กับวิ่งแน่บตรงไปบ้านพัก ขณะที่หนุ่มทั้งสามหัวเราะขึ้นพร้อมกันและจับแพะได้อย่างง่ายดายไปทำ
อาหารเลี้ยงกันด้วยความยินดี

คติพจน์ : จงอย่าหลงกลไปกับคำพูดหว่านล้อมของผู้ที่คิดจะเอาเปรียบท่าน

--------------------------------
จบบริบูรณ์
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ม.ค. 09, 2024 9:52 pm

( 18 )


ชีวิตของเด็กหนุ่มบางคน ช่างน่าอัศจรรย์!
.
คริส แพรตต์ ในวัยหนุ่มไม่ได้สวยหรู เขาตามฝันไปถึงฮาวาย แล้วก็ล้มเหลวที่นั่น กลายเป็นคนไร้บ้าน
อาศัยหลับนอนในรถแวนกับเต๊นท์ริมชายหาด ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เงินก็เอาไปดื่มกิน ทั้งที่ยังไม่ถึง
วัยซื้อเบียร์กินเองได้ ต้องนั่งรออยู่หน้าร้านคอยฝากผู้ใหญ่ที่อายุถึงเกณฑ์ซื้อเบียร์ให้
.
วันหนึ่ง ขณะนั่งรอหาคนซื้อเบียร์ ชายชาวพื้นเมืองในวัยสี่สิบคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหา แนะนำตัวเองว่า
ชื่อ เฮนรี่ ถามคริสว่า “คืนนี้จะไปไหน... ไปปาร์ตี้เหรอ?” ยังไม่ทันตอบ เขาพูดต่อ “ดื่มเมาแล้วเสพยา?”

คริสยักไหล่ “คงงั้นมั้ง... ถามทำไมล่ะ?”
.
เฮนรี่ตอบว่า “พระเยซูบอกให้ฉันแวะพูดคุยกับคุณ พระองค์ให้ฉันบอกคุณว่า คุณถูกกำหนดมา
ให้ทำสิ่งยิ่งใหญ่กว่านี้...”
.
วัยรุ่นอย่างคริสน่าจะโกรธ หงุดหงิด หรือหัวเสียกับคำตอบนั้น แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรแบบนั้น
นั้นเลย คริสเล่าว่า “คืนนั้น แทนที่จะไปปาร์ตี้ ผมกลับตามชายคนนั้นไปโบสถ์ ตั้งแต่วินาทีนั้น
เป็นต้นมา ผมไม่เคยหันหลังกลับไปทางสายเดิม...” และ ไม่เคยเจอเฮนรี่อีกเลย!
.
มิเพียงเท่านั้น คริสยังทำให้เพื่อน ๆ ประหลาดใจ ด้วยการประกาศว่า “ผมจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม”
.
คริสเริ่มด้วยการทำตัวเองให้สะอาดจากสิ่งเสพติด แล้วไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหาร
ครั้งหนึ่ง เขาพบกับคนในแวดวงฮอลลีวู้ด พวกเขาชอบรูปร่างหน้าตาและทัศนคติของคริส
เลยชวนเข้าสู่วงการแสดง...
.
ไม่นานต่อมา คริสมีผลงานมากมายทั้งด้านโทรทัศน์และภาพยนตร์ หนึ่งในนั้นคือ จูราสสิค เวิลด์
และในปี ค.ศ. 2015 นิตยสารไทม์จัดให้คริสเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
. . . . .
.
วันนี้ วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2024 เป็นวันสมโภชพระคริสต์เจ้าทรงแสดงองค์ บทอ่านประจำวันนี้
มาจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 2:1-12) กล่าวถึง ในรัชสมัยกษัตริย์เฮโรด
พระเยซูเจ้าประสูติที่เมืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย โหราจารย์บางท่านจากทิศตะวันออกเดินทาง
มายังกรุงเยรูซาเล็ม สืบถามว่า “กษัตริย์ชาวยิวที่เพิ่งประสูติอยู่ที่ใด พวกเราได้เห็นดาวประจำ
พระองค์ขึ้น จึงพร้อมใจกันมาเพื่อนมัสการพระองค์”

เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงทราบข่าวนี้ พระองค์ทรงวุ่นวายพระทัย... ทรงเรียกบรรดาโหราจารย์มาเฝ้า
เป็นการส่วนพระองค์ ทรงซักถามถึงวันเวลาที่ดาวปรากฏ แล้วทรงใช้บรรดาโหราจารย์ไปที่เมือง
เบธเลเฮม ทรงกำชับว่า ไปสืบถามเรื่องพระกุมารอย่างละเอียด แล้วกลับมาบอกให้เรารู้ - - เมื่อบรรดา
โหราจารย์ได้ฟังพระดำรัสแล้วก็ออกเดินทาง ดาวที่เขาเห็นทางทิศตะวันออกปรากฏอีกครั้งหนึ่งนำทางให้
และมาหยุดนิ่งอยู่เหนือสถานที่ประทับของพระกุมาร เมื่อพบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา
จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ สามโหราจารย์เปิดหีบสมบัตินำทองคำ กำยาน และมดยอบออกมาถวาย
พระองค์... แต่หลังจากนั้น พระเจ้าทรงเตือนโหราจารย์ในความฝันมิให้กลับไปหากษัตริย์เฮโรด เขาจึง
กลับไปบ้านเมืองของตนโดยทางอื่น...
.
บทอ่านวันนี้ โป๊ปฟรานซิสได้บอกให้เราเพ่งความสนใจไปที่โหราจารย์-นักปราชญ์จากตะวันออกเหล่านี้
อย่างใกล้ชิด และพิจารณาการเดินทางของพวกเขาในสามลักษณะเด่น ดังนี้ ‘ดวงตา’ของพวกเขาแหงน
มองดูสวรรค์ ‘เท้า’ของพวกเขาท่องไปบนผืนดิน และ ‘หัวใจ’ของพวกเขาก้มกราบด้วยเคารพรัก - -
.
โหราจารย์กำลังสอนเราให้เงยหน้ามองสูงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่มองระนาบเดียวกับพื้นดิน ซึ่งจะ
จำกัดมุมมองของเราให้คับแคบ สนใจอยู่แต่ในเรื่องราวของตัวเอง ความสำเร็จ, ความล้มเหลว ถ้าเรา
กระหายแต่ความมั่งคั่งและความสะดวกสบายทางโลก ชีวิตของเราก็จะค่อยๆ สูญเสียแสงสว่างจาก
ดวงดาวที่นำทาง พลาดโอกาสที่จะเห็นการแสดงองค์ของพระผู้เป็นเจ้า
.
คริส แพรตต์โชคดี ที่มองเห็นพระเยซูและความรักของพระองค์ซึ่งแสดงผ่านชายชื่อเฮนรี่ แม้คริสใช้ชีวิต
ในความมืดมิดและเมามาย แต่เขากลับไม่ปฏิเสธพระองค์ - - ดวงตาของคริสจับจ้องมองไปยังสวรรค์
แม้เท้าจะท่องไปบนพื้นแผ่นดิน หัวใจนั้นพร้อมยอมก้มกราบแต่โดยดี...
.
ดาวสุกสว่างจึงนำทางคริสไปพบดวงดาวแห่งความสำเร็จ ในปี 2017 เขาได้รับเกียรติให้จารึกชื่อ
บนดาวใน Hollywood walk of fame (ทางเท้าบนถนนฮอลลีวูด ประดับด้วยแผ่นหินเป็นรูปดาว
จารึกชื่อของนักแสดงในวงการบันเทิงที่ประสบความสำเร็จ ถือเป็นเกียรติสูงสุด สำหรับผู้ได้รับคัดเลือก
ให้จารึกชื่อบนดวงดาวนั้น)
.
วันที่คริสได้รับเกียรติยิ่งใหญ่นี้ เขากล่าวถึงเพลงสดุดี 126:3 ที่ว่า “พระเจ้าทรงกระทำสิ่งยิ่งใหญ่เพื่อเรา
เราเปี่ยมด้วยความยินดี”
.
และขณะรับรางวัลจากงานประกาศผล ไม่ว่าทางภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ เขามักบอกกับผู้ชมเสมอว่า
"พระเจ้ามีจริง พระเจ้าทรงรักคุณ พระเจ้าทรงปรารถนาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ” และ “จงเรียนรู้ที่
จะสวดภาวนา มันไม่ยากเลย ดีต่อจิตวิญญาณของคุณมาก”
.
ในแวดวงฮอลลีวู้ด เป็นที่รู้กันดีว่าเต็มไปด้วยหมอกควันแห่งมายา เมามายและมืดมิด มีนักแสดง
เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่กล้าหยัดยืนประกาศถึงความรักของพระเจ้าอย่างชัดเจน-ไม่สะทกสะท้าน! -
- คริสเป็นหนึ่งในนั้น และดูเหมือนเขาจะรู้ดีว่า เมื่อเดินตามดวงดาวสุกใสที่นำทางมาพบพระองค์แล้ว
อย่าหวนกลับไปทางเดิม-ที่มุ่งหน้าไปยังเฮโรดแห่งทางโลกอีก ถ้าไม่อยากให้ชีวิตสิ้นหวัง!
.
ปะการัง
.
[ สุขสันต์วันพระเจ้า ]
.
* * * * * * * * * * * * * * *
.
แนะนำหนังสือเล่มพิเศษพร้อมลายเซ็น ที่เป็นของขวัญแห่งชีวิตสำหรับปีใหม่นี้...
.
“อย่ากลัว ที่จะยืนโดดเดี่ยว กลางแดดร้อนลมแรง” โดย ปะการัง
.
หนังสือเล่มใหม่ล่าสุด-บันทึกประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวดี ๆ ของคนทั่วไป ที่อ่านแล้วยิ้มมีความสุข มีความหวัง มีกำลังใจ โดยสะท้อนชีวิตคนเหล่านั้น ผ่านบทอ่านคำสอนของพระเจ้าที่เขียนทุกวันอาทิตย์ ด้วยภาษาแห่งความรัก-เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะคริสตชน และคาทอลิก เป็นของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส, ปีใหม่ และทุกเทศกาล
.
หนังสือเล่มนี้ตอบคำถามที่สงสัยมานาน เช่น สวรรค์มีจริงไหม? นักวิทยาศาสตร์-นักบินอวกาศเชื่อในพระเจ้าหรือไม่? ทำไมโดนตบแก้มขวาต้องหันแก้มซ้ายให้, ทำไมมหาเศรษฐีอินเดียราทัน ทาทารวยล้นฟ้าแต่ไม่มีความสุข? หรือแม้แต่คำถาม ยังมีใครแข็งแกร่งกว่าเดอะ ร็อคและปาเกียวอีกหรือ? จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะรู้สึกอ่อนแอได้ แต่ต้องไม่ด้อยค่าตัวเอง!
.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ม.ค. 09, 2024 9:55 pm

. ( 19 )

……เรื่องสั้น
………(@)แพะหัวรั้น (Stubborn Goats)
Moral stories จาก Google เรื่อง Stubborn Goats -- แปลและเรียบเรียง
โดย กอบกิจ ครุวรรณ

แพะสองตัวเดินมาเผชิญหน้ากันขณะกำลังเดินข้ามสะพานแคบๆ แห่งหนึ่ง แพะตัวหนึ่ง
จึงพูดขึ้นว่า “ แกถอยหลังไป ให้ฉันเดินผ่านไปก่อนสิ”

แพะอีกตัวหนึ่งตอบสวนทันควันว่า “ไม่ได้หรอก แกสิต้องหลีกทางให้ข้าเพราะข้าตัวโตกว่า”

จากนั้นแพะทั้งสองก็ถกเถียงกันเป็นพัลวัน จนเสียการทรงตัวและทั้งสองก็ลอยละลิ่วสู่ลำธาร
เบื้องล่างและจมน้ำตายด้วยกัน!

ไม่กี่วันต่อมา มีแพะอีกสองตัวเดินมาเผชิญหน้ากันกลางสะพานเดิมที่เกิดเรื่องในวันก่อน แต่แพะ
ทั้งสองตัวนี้ฉลาดและอดทน

พวกเขาค่อยๆ หลีกทางให้กันด้วยความระมัดระวัง และทั้งสองก็ทำได้สำเร็จกลับไปหาครอบครัวได้
โดยปลอดภัย

คติพจน์ : ยอมงอดีกว่าหัก

**********************
จบบริบูรณ์
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ม.ค. 09, 2024 9:58 pm

. (. 20 )


เรื่องสั้น
(@)สุนัขจิ้งจอกกับแพะ
Moral stories จาก Google เรื่อง The Fox and the Goat -- แปลและเรียบเรียง
โดย กอบกิจ ครุวรรณ

สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งวิ่งไปในความมืด และพลัดตกลงไปในบ่อน้ำ มันพยายามเต็มที่เพื่อจะอ
อกมาจากบ่อแต่ไม่สำเร็จ มันจึงจำต้องอดทนอยู่ในบ่อต่อไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ไม่นานก็มีแพะตัวหนึ่ง
เดินผ่านมาทางนั้น แพะมองลงไปในบ่อน้ำก็เห็นสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งตกอยู่ในนั้น แพะจึงถามว่า
“คุณจิ้งจอกลงไปทำอะไรในนั้นหรือครับ?”

สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตอบว่า “อ๋อ ฉันลงมาในบ่อนี้เพื่อดื่มน้ำน่ะ น้ำในบ่อนี้มีรสวิเศษสุดเลยละ ไม่เชื่อ
ก็ลงมาชิมดูเองก็แล้วกันนะ” แพะซึ่งกำลังหิวน้ำอยู่พอดี จึงไม่ได้คิดอะไรมากและกระโดดลงไปในบ่อน้ำ
เพื่อดื่มน้ำดับกระหาย จากนั้นก็เริ่มคิดหาทางออกจากบ่อ แต่ก็คิดไม่ออก

สุนัขจิ้งจอกซึ่งฉลาดกว่ามากจึงพูดขึ้นว่า “ฉันมีความคิดอย่างหนึ่งนะ คุณก็แค่ใช้สองขาหลังยืน จากนั้น
ฉันก็จะปีนขึ้นไปบนหัวของคุณแล้วก็กระโดดออกไป เสร็จแล้ว ฉันก็จะรีบช่วยดึงคุณออกจากบ่อไงล่ะ”

แพะผู้ไร้เดียงสาทำตามวิธีการของสุนัขจิ้งจอกด้วยความเต็มใจ สุนัขจิ้งจอกรีบปีนขึ้นยืนบนหัวแพะและ
กระโดดออกออกจากบ่อน้ำได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็เดินจากไปพร้อมกับหันมาพูดให้กำลังใจแพะว่า
“ถ้าคุณฉลาด คุณก็ไม่น่าจะกระโดดลงไปในบ่อน้ำก่อนที่จะคิดถึงวิธีที่จะออกจากบ่อให้ได้เสียก่อนนะครับ”

คติพจน์ : อย่าหลับหูหลับตาก้าวไปข้างหน้าโดยไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อน

----------------------------------
จบบริบูรณ์
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.พ. 06, 2024 5:57 pm

( 21 )


เมื่อหลายเดือนก่อน... เชลบีลินน์ จอดรถตรงสี่แยกไฟแดง เห็นชายคนหนึ่งถือป้าย
กระดาษเขียนข้อความ-ขอความช่วยเหลือ!
.
เธอตัดสินใจจอดรถข้างทาง - - ปกติเธอจะซื้ออาหารให้แทนที่จะเป็นเงินสด แต่ครั้งนี้
เธอกลับยื่นธนบัตร 20 เหรียญสามใบที่พับนามบัตรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเธอไว้
ข้างในให้เขา เผื่อว่าเขาอาจต้องการความช่วยเหลือในการหาที่อยู่อาศัย...
.
คำว่า “ต้องการความช่วยเหลือสักเล็กน้อย” ของชายคนนั้นที่เขียนบนป้ายกระดาษ ทำให้
เชลบี ลินน์ ไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนไร้บ้านหรือแค่มีปัญหายุ่งยากในชีวิตช่วงนี้เท่านั้น - -
.
เธอไม่เคยรู้ชื่อของเขา แต่จำหน้าเขาได้ เธอจำได้ทุกอย่าง – เสื้อผ้าเก่าสกปรกที่เขาสวมใส่,
สุนัขของเขาคลุมไว้ด้วยผ้าห่ม และสายตาที่เต็มไปด้วยความละอายใจที่ต้องรับเงินจากเธอ
.
เชลบีลินน์สวดภาวนาให้เขา แล้วขับรถจากไป...
. . . . .
.
หลายเดือนต่อมา เธอได้รับโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งที่ต้องการดูบ้าน และถามหาชื่อเชลบีลินน์
แล้วก็นัดเจอกัน - - ทันทีที่ขับเข้าไปในลานจอดรถตรงที่นัดหมาย สายตาของเธอก็ถูกดึง
ความสนใจไปที่สุนัขอ้วนท้วนสมบูรณ์ตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากหน้าต่างรถคันใหม่ สีหน้า
ท่าทางมันดูมีความสุข...
.
หลังจากนั้น ชายคนหนึ่งก็ก้าวลงมาจากรถ เธอจำเขาได้ทันที เขาคือคนที่เธอให้เงินเมื่อ
หลายเดือนก่อน แต่ครั้งนี้เขาแต่งตัวสะอาดสะอ้าน เสื้อเชิร์ต, กางเกงยีนส์ใหม่, รองเท้าบูธ
และใบหน้าที่เกลี้ยงเกลา...
.
ความคิดวูบแรกในใจ เธอนึกว่านี่คงเป็นเรื่องล้อเล่น ที่แต่งตัวซอมซ่อแกล้งขอเงินเพื่อลองใจ
แบบรายการทีวีที่ชอบเล่นกัน แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น พวกเขาต่างจำกันและกันได้ ชายคน
นั้นยื่นมือมาให้จับ ดวงตาของเขารื้นด้วยน้ำตาอ่อนโยน ขณะยื่นธนบัตรสามใบที่พับห่อนาม
บัตรยับย่นของเชลบีลินน์ไว้ข้างใน - -
.
นอกจากสับสนแล้ว เชลบีลินน์ยังพูดไม่ออก...
.
ชายคนนั้นอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังว่า อดีตภรรยาของเขาได้เอาทุกอย่างที่เขาเป็นเจ้าของ
ไปหมด ยกเว้นสุนัขของเขา แล้วหนีไปกับชายอีกคนหนึ่ง ตอนนั้นเขาไม่ต้องการสิ่งของใด
นอกจากความช่วยเหลือ - - และวันนั้น ความช่วยเหลือจากเชลบีลินน์เป็นแรงผลักดันสำคัญให้เขา...
แล้วในที่สุดทุกสิ่งร้ายก็กลายเป็นดี เขาได้งานใหม่เป็นวิศวกร, สุนัขที่มีความสุข, รถคันใหม่
และชีวิตใหม่
.
และตอนนี้ เขากำลังมองหาบ้านใหม่ให้เพื่อนของเขา ชายคนนั้นบอกเธอว่าถึงคราวของเขา
ที่จะจ่ายเงินคืนให้เธอ และจ่ายให้กับธุรกิจของเธอด้วย...
.
เชลบีลินน์สรุปสิ่งที่เธอเรียนรู้จากวันนั้น - - คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าชีวิตของใครคนหนึ่งกำลัง
เกิดอะไรขึ้น และมันง่ายมากที่เราจะตัดสินจากภายนอกโดยที่ไม่รู้สถานการณ์ที่เป็นจริงของเขา...
.
เชลบีลินน์สวดภาวนาให้เขา แล้วขับรถจากไป...
. . . . .
.
ในโลกที่ร้อนร้ายและวุ่นวายทุกวันนี้ เป็นเพราะเราเลือกที่จะตัดสินพิพากษากันและกัน, ทั้งที่
หลายครั้งเราไม่รู้จักกันเลย โดยเฉพาะในโลกยุคดิจิตอล ที่มองเห็นแค่มิติเดียว - - จำไว้ว่า
ก่อนที่จะเอ่ยแต่ละคำพูดหรือเลือกตัดสินใครสักคน ... ถามตัวเองก่อนว่าเราเข้าใจถูกไหม?
รู้เรื่องราวทั้งหมดหรือยัง? และบางครั้ง การเลือกนินทา,พูดร้าย หรือด่วนตัดสิน ก็เพื่อเป็นข้ออ้าง
ให้เราไม่วางใจ ไม่ช่วยเหลือ ไม่แบ่งปันนั่นเอง!
.
จงเลือกความมีน้ำใจกรุณาแทนการสรุปตัดสินว่าร้าย, จงเลือกความรักแทนการเกลียดชัง- -
.
เพราะทุกครั้งที่เราตัดสินใครสักคนหนึ่ง ไม่ได้กำหนด ‘ตัวตนเขา’ว่าเป็นคนอย่างไร
แต่กำหนด ‘ตัวตนเราเอง’ต่างหาก - ว่าเป็นคนอย่างไร!
.
ปะการัง
.
[ ขอพระเจ้าอวยพรให้เรามีดวงตามองลึกถึงจิตใจ-ใช่เพียงภายนอก ]
.
* * * * * * * * * * * * * * *
.
เปลี่ยนมุมมองชีวิต เปลี่ยนความคิดปีใหม่นี้...
แนะนำหนังสือเล่มพิเศษพร้อมลายเซ็น เป็นของขวัญที่เปิดอ่านได้ทุกวัน...
.
“อย่ากลัว ที่จะยืนโดดเดี่ยว กลางแดดร้อนลมแรง” โดย ปะการัง
.
หนังสือเล่มใหม่ล่าสุด-บันทึกประสบการณ์ส่วนตัวและเรื่องราวดี ๆ ของคนทั่วไป
ที่อ่านแล้วยิ้มมีความสุข มีความหวัง มีกำลังใจ โดยสะท้อนชีวิตคนเหล่านั้น ผ่านบท
อ่านคำสอนของพระเจ้าที่เขียนทุกวันอาทิตย์ ด้วยภาษาแห่งความรัก-เข้าใจง่าย
เหมาะกับผู้อ่านทั่วไป โดยเฉพาะคริสตชน และคาทอลิก เป็นของขวัญสำหรับ
วันคริสต์มาสและปีใหม่ หรือโอกาสอื่นๆ
ตอบกลับโพส