สารจากพระบิดา ถึงคุณพ่อมิเชล

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5975
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 18, 2024 9:24 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล
โรดริกย์ และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼

👉 ตอนที่ (1)👈

🔥--- คุณพ่อมิเชล อัครสาวกยุคสุดท้าย (1) ---🔥
📍คุณพ่อมิเชลเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณพ่อ📍
คุณพ่อมิเชลเป็นน้องคนเล็กสุด จากเด็กทั้งหมด 21 คนในครอบครัว ตอนที่คุณพ่ออายุสามขวบ
พระเป็นเจ้าพูดคุยกับท่านโดยใช้ภาษาและบทสนทนาทั่วไปในการพูดคุยกับเด็กที่มีอายุเพียงแค่สามปี
คุณพ่อมิเชลจำได้ว่า ตอนนั้นกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในไร่สวนของครอบครัวที่อยู่บริเวณหลังบ้าน และได้พุด
คุยกับพระเป็นเจ้าว่า "ใครเป็นคนสร้างต้นไม้หรอ"

พระองค์ตอบ "เราเป็นคนสร้าง" หลังพระเป็นเจ้าตอบว่าเป็นพระองค์เอง เด็กน้อยมิเชลก็ถามคำถาม
มากมายที่เกี่ยวกับโลก จักรวาล และตัวเอง จนเข้าใจว่าสิ่งต่างๆ ที่สร้างขึ้นและมีอยู่เกิดขึ้นจากพระเป็นเจ้า
เช่นเดียวกับเด็กน้อยนามว่า ฟรานซิสโก ฟอร์จิโน ที่ได้เติบโตเป็นนักบุญปีโอ คุณพ่อมิเชลในวัยเด็กคิดว่า
ใครๆ ก็ได้ยินเสียงพูดของพระบิดา จนกระทั่งคุณพ่ออายุหกขวบ พระเป็นเจ้าสอนเรื่องความเชื่อของชาว
คาทอลิก และสอนเรื่องเทววิทยาทุกอย่างให้กับคุณพ่อ พระเป็นเจ้ายังบอกกับคุณพ่อมิเชลในวัยสามขวบ
อีกว่า เขาจะได้เป็นพระสงฆ์ ตอนที่คุณพ่อมิเชลอายุหกขวบ ท่านได้รู้จักบาปและปีศาจเป็นครั้งแรก ท่านเห็น
ปีศาจควบคุมการกระทำของคนผู้หนึ่ง มันชักจูงความคิด การกระทำและการเคลื่อนไหวของเขา ท่านยัง
สามารถเห็นว่าคนๆ นั้นมีจิตใจเย็นชาปิดกั้นความรัก ท่านเห็นปีศาจตนนั้นขยับมือ ขา และใบหน้าของคนผู้นั้น
ท่านถามพระเป็นเจ้าด้วยความตกใจว่า "นี้มันอะไรกัน"
พระเป็นเจ้าตอบท่านว่า "นั่นคือปีศาจที่ควบคุมผู้ที่ตกอยู่ในบาป"
"บาปคืออะไร"
"มนุษย์ทำบาปทุกครั้งเมื่อพวกเขากระทำสิ่งที่ขุ่นเคืองพระทัยเรา ขุ่นเคืองต่อพี่น้องชายหญิง ขุ่นเคือง
ความตั้งใจทของเรา และไม่เชื่อฟังคำสอนของเรา"

คุณพ่อจำครั้งแรกที่คุณพ่อตั้งใจทำบาปได้ ด้วยความที่คุณพ่อมีญาติผู้ใหญ่ทั้งหมด 55 คน ทำให้ท่าน
กลายเป็นลุงก่อนที่คุณพ่อจะเกิดเสียอีก ในปี ค.ศ. 2004 คุณพ่อนับได้ว่าท่านมีปู่ยาตายายรวม 250 คน
วันหนึ่งคุณพ่อกำลังเล่นกับหลานชื่อว่า คลาวด์ (Claud) คุณพ่อของท่านชื่อว่า อีมิล อุ้ม Claud ให้ยืนอยู่บน
เท้าแล้วเต้นพร้อมกันและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จนทำให้คุณพ่อในตอนเด็กเกิดความอิจฉา หลังจาก
เขาปล่อย Claud ลง คุณพ่อมิเชล บอก Claud ว่า "ออกไปเล่นข้างนอกกัน" บริเวณรอบๆ ที่ดินครอบครัวของ
คุณพ่อจะมีสายไฟขึงกับรั้วเอาไว้เพื่อกันไม่ให้หมูวิ่งหนีออกไป คุณพ่อก็ทำทีผลัก Claud มั่วๆ ให้ไปชนกับ
สายไฟ เสียง Claud ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเป็นระยะ ทำให้คุณแม่ของคุณพ่อได้ยินและมองออกมาด้าน
นอกบ้านแล้วตะโกนออกมาว่า "มิเชล นั่นลูกทำอะไร"
"เล่นกันครับ" คุณพ่อตะโกนตอบกลับ คุณพ่อเล่าว่า "ครั้งนี้เป็นการทำบาปครั้งที่สองของพ่อ พ่อโกหกแม่"
คุณแม่ของท่านพาคุณพ่อมิเชลเข้ามาในบ้าน แล้วลงโทษให้ท่านคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง
"ทำไมลูกทำแบบนั้น มิเชล" แม่ของท่านถาม
"เพราะ Claud ได้ยืนบนเท้าของพ่อ และพ่อก็เต้นกับเขา ผมอยากทำแบบนั้นบ้าง"
"มิเชลลูกไม่รู้หรือ พ่อเขารักลูกนะ หนูเป็นลูกของพ่อ และพ่อก็รักเหลนเหมือนกัน" จากนั้นคุณพ่อก็ร้องไห้
ออกมาเสียงดัง หลังจากที่ได้ฟังว่าพ่อของท่านรักเด็กคนอื่นนอกจากตัวคุณพ่อเอง มันทำให้คุณพ่อเหมือน
โดนตีด้วยคำพูด เป็นครั้งแรกที่คุณพ่อรู้ว่าความรักนั้นไม่ได้มีให้แค่คุณพ่อคนเดียว แต่มีให้สำหรับทุกคน
"ตอนนั้นพ่อยังเด็กเกินไปที่จะแก้บาป พ่อเลยต้องรอให้ถึงวันนั้น พ่อรู้สึกผิดต่อพระบิดา แต่พระองค์ทรง
ใจดี พระองค์ยังคงตรัสกับพ่อ"

ตอนคุณพ่ออายุประมาณ 4-5 ปี ท่านได้รถบรรทุกของเล่น เป็นรถที่ทำจากบล็อกไม้มีล้อสี่ล้อที่ทำ
จากฝาขวด และคุณพ่อค่อนข้างจะชอบมากเลยทีเดียว มีวันหนึ่งคุณพ่อกำลังเล่นกับรถของเล่นพร้อมกับ
ทำเสียงรถบรรทุกอยู่ที่หน้าบ้าน ท่านได้ยินเสียงของพระเป็นเจ้าตรัสกับท่าน "มิเชล"
"ครับ" คุณพ่อขานรับแต่ยังคงจดจ่ออยู่กับรถของเล่น
"ลูกจะได้ออกเดินทางในวันหนึ่ง"
"เดินทางหรือ อะไรคือเดินทางหรอครับ"
"ลูกจะได้ไปที่อื่น"
"แม่ไม่ได้ไปด้วยหรอครับ"
"ใช่แล้ว"
"โอ้" และท่านก็กลับมาทำเสียงรถบรรทุกต่อ สารฉบับนี้ทำให้คุณพ่อสงสัย แต่ครู่เดียวท่านก็เลิกใส่ใจ
แต่แล้วคำพูดของพระบิดาเกิดขึ้นกับพ่อจริงๆ ในปี ค.ศ. 2017 - 2019 คุณพ่อมิเชลได้เดินทางไปยัง
ประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา เพื่อไปเทศน์และเข้าเงียบ โดยที่คุณแม่ของท่านไม่ได้ไปด้วย

ตอนที่คุณพ่อมิเชลอายุ 6 ปี คุณพ่อได้ยินคนเรียกชื่ออีกครั้งตอนที่เล่นอยู่นอกบ้าน "มิเชล มิเชล"
แต่ท่านไม่รู้ว่าเสียงนั้นมาจากพระเจ้า คุณพ่อหันไปมองรอบๆ ตัวเอง แต่ไม่มีใครอยู่แถวนั้น พวกพี่สาว
ของคุณพ่อไม่อยู่บ้าน และพี่น้องคนอื่นๆ ก็ออกไปทำงานที่ไร่ คุณพ่อเลยเดินกลับเข้าบ้านไปหาคุณแม่
"แม่ครับ เรียกผมหรือเปล่า"
"เปล่าจ้ะ"
"มีคนเรียกผมด้วย"
"ไม่มีใครเรียกเลยจ้ะ ออกไปเล่นข้างนอกเถอะ"
คุณพ่อก็เลยเดินออกมา แต่ก็ได้ยินคนเรียกชื่อคุณพ่ออีกแล้ว "มิเชล มิเชล"
เสียงนั้นอยู่ใกล้ๆ คุณพ่อ แต่ก็ดูเหมือนว่าเสียงนี้มีคนเรียกมาจากที่ไกลๆ
คุณพ่อเลยเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกรอบ
"แม่ครับ แม่เรียกผมหรือเปล่า ผมได้ยินเสียงคนเรียกนะแม่"
"ไม่มีหรอก ออกไปเล่นเถอะ"
ในตอนที่คุณพ่อกำลังเล่นอยู่ข้างนอกบ้าน เสียงนั้นเรียกชื่อคุณพ่อมิเชลเป็นครั้งที่สาม คุณพ่อเดินกลับ
เข้ามาในบ้านอีกครั้ง คุณแม่ของท่านเลยบอกว่า "ถ้าหากลูกได้ยินเสียงเรียกอีก ลูกก็ตอบไปว่า ข้าแต่
พระเจ้าโปรดตรัสมาเถิด ข้ารับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่"

ในเช้าวันอาทิตย์วันหนึ่ง สมาชิกครอบครัวของคุณพ่อมิเชลทุกคนไปร่วมพิธีมิสซา แต่พวกท่าน
ไม่ได้เดินทางไปพร้อมกัน และไม่มีรถขับ พวกท่านเดินทางบนหลังม้าเป็นระยะทาง 8 ไมล์ ด้วยเส้นทาง
ที่ขรุขระ วันนั้นพระวรสารบทแรกคือ ซามูเอล ฉบับที่ 1 บทที่ 3
"พระยาห์เวห์ตรัสเรียกอีกว่า 'ซามูเอล! ซามูเอลก็ลุกขึ้นไปหาเอลีถามว่า 'ท่านเรียกข้าพเจ้าหรือ
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว' เอลีตอบว่า 'ลูกเอ๋ย พ่อไม่ได้เรียกลูก กลับไปนอนเถอะ' "
ตอนที่พระเป็นเจ้าเรียกชื่อเป็นครั้งที่สามในพระคัมภีร์ คุณพ่อได้ยินประโยคหนึ่งของประกาศกที่เป็นที่
รู้จักกันดีว่า "กลับไปนอนเถอะ ถ้ามีเสียงเรียกลูกอีกก็จงตอบว่า "ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้
ของพระองค์กำลังฟังอยู่" คำพูดของเอลีเหมือนกับคำพูดของแม่ บทอ่านพระวาจาดำเนินต่อไปว่า
"ซามูเอลเจริญวัยขึ้น พระยาห์เวห์ทรงสถิตอยู่กับเขา และทรงทำให้คำพูดทุกคำของซามูเอลเป็นความจริง"
(ซามูเอล ฉบับที่ 1 3:19) คุณพ่อนั่งนิ่งฟังด้วยความตกตะลึง

ตอนที่คุณพ่ออายุ 6 ปี พระเป็นเจ้าชักชวนคุณพ่อให้ฟังเสียงของพระองค์ผ่านทางพระวาจา
แทนการสนทนาด้วยเสียงกับคุณพ่อเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ตอนที่พระบิดายังคงใช้เสียงในการสนทนา เสียง
ของพระองค์แตกต่างจากเสียงที่คุณพ่อมิเชลได้ยินตอนอายุสามขวบ ในปีนั้นคุณพ่อได้รู้จักกับความจริง
มิติใหม่
💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ตอบกลับโพส