เกร็ดความรู้ ทั่วไป ( ชุด 1 )

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร มิ.ย. 25, 2024 8:50 pm

( 1 )

# สิ่งที่จะต้องทำเมื่อคุณติดอยู่ในลิฟต์:
เหตุผลก็คือ เมื่อลิฟต์ตก คุณจะไม่รู้ว่าเมื่อไรที่มันจะกระแทกกับพื้น และอาจจะส่งผล
ให้กระดูกทั่วร่างแตกละเอียด

วันหนึ่ง ขณะที่ผมอยู่ในลิฟต์ มันก็หยุดกระทันหันและร่วงลงจากชั้น 13 ด้วยความเร็วสูง
โชคดีที่เคยจำได้จากทีวีที่สอนว่า คุณจะต้องกดปุ่มทุกปุ่มสำหรับทุกชั้นอย่างรวดเร็ว
ท้ายที่สุด ลิฟต์หยุดที่ชั้น 5 ขณะที่คุณกำลังเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย การตัดสินใจ
หรือการกระทำอะไรจะตัดสินความอยู่รอดของคุณ ถ้าคุณอยู่ในสถานะลิฟต์ตก สิ่งแรกในใจ
มักจะเป็น สวดมนต์รอความตาย แต่หลังจากที่ได้อ่านข้อความข้างล่างนี้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง
จะเปลี่ยนไปเมื่อคุณติดอยู่ในลิฟต์

ต้องจำเพื่ออยู่รอด

สิ่งแรก - ให้กดปุ่มให้ลิฟต์จอดทุกชั้นอย่างเร็วที่สุด
. หากเมื่อไฟฟ้าสำรองทำงาน มันจะหยุดลิฟต์จากการร่วงลงมา

สอง - จับที่จับให้แน่น (หากว่ามี)
. มันจะช่วยยึดตำแหน่งของคุณในสภาพไร้น้ำหนักจากการหล่น และป้องกันการบาดเจ็บ
ถ้าคุณเสียสมดุลหรือล้มลง

สาม - พิงหลังและศีรษะเข้ากับผนังให้เป็นเส้นตรง
. การพิงผนังจะช่วยป้องกันหลังและกระดูกสันหลังของคุณ

สี่ - งอเข่า ย่อตัวลงเล็กน้อย
. เส้นเอ็นข้อเข่าจะเป็นจุดเชื่อมต่อของกระดูกขาที่ยืดหยุ่น ดังนั้น การย่อเข่าลงเล็กน้อย
จะเป็นการป้องกันการบาดเจ็บ โดยลดโอกาสที่กระดูกหักจากการกระแทกของการร่วงหล่น

รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 29, 2024 7:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ มิ.ย. 26, 2024 7:14 pm

( 2 )

3อย่าง (Blue Kiss)💙 ที่ผ่านไปแล้วไม่คืนกลับมา
1. เวลา
2. ชีวิต
3. วัยเยาว์
3อย่าง (Blue Kiss)💙ที่ส่งผลทำลายชีวิตเรา
1. โมโห
2. โอหัง
3. ใจแคบ

3อย่าง(Blue Kiss)💙 ที่ทิ้งไม่ได้
1. ความเชื่อ
2. ความหวัง
3. ความรัก
3อย่าง (Blue Kiss)💙ที่ประมาณค่าไม่ได้
1. ความรัก
2. ความดี
3. มิตรภาพ

3อย่าง(Blue Kiss)💙ที่ไม่นิรันดร์
1. ความสำเร็จ
2. ทรัพย์สมบัติ
3. เกียรติยศ ชื่อเสียง

3อย่าง (Blue Kiss)💙 ที่ช่วยเราให้สำเร็จ
1. ความรู้
2. สติปัญญา
3. วินัย

3อย่าง (Blue Kiss)💙ที่ต้องถนอมรักษา
1. พ่อแม่
2. ครอบครัว
3. เพื่อนพ้อง

3อย่าง 💙(Blue Kiss)ที่ใช้ในการทำงาน
1. เป้าหมาย
2. วิธีการ
3. อุดมการณ์
3อย่าง(Blue Kiss)💙ที่ใช้ในการคบมิตร
1. สัจจะ
2. จริงใจ
3. น้ำใจ

3อย่าง (Blue Kiss)💙ที่ต้องรักษาไว้ให้ดี
1. โอกาส
2. ชีวิต
3. มิตรภาพ

(Blue Kiss)💙 ส่งต่อให้เพื่อนที่รัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 27, 2024 1:01 pm

( 3 )


ห้องเรียนนี้ไม่มียางลบ

ในห้องเรียนห้องหนึ่ง คุณครูได้กำหนดข้อตกลงกับเด็กๆ ทุกคนที่เข้ามาเรียนว่า

“ห้องเรียนของเราจะไม่มียางลบ เราจะไม่ใช้ยางลบกัน”

เด็กๆ ทุกคนถามคำถามกลับมาทันที “แล้วถ้าเราทำผิด เราจะใช้อะไรลบคะ”

คุณครู “เราไม่ต้องลบ หนูแค่ขีดกากบาท หรือ ทิ้งไว้และไปเขียนในส่วนอื่นของกระดาษแทน”

เด็กๆ ยังไม่หมดคำถาม

“ทำไมคุณครูถึงไม่อยากให้เราใช้ยางลบ ครูคนอื่นให้เราใช้ได้เลย ครูไม่อยากให้งานของเรา
สวยๆ เหรอคะ”

คุณครู “สำหรับครูงานสวยไม่ได้ดูแค่ร่องรอยที่เราวาด แต่ดูที่ความตั้งใจของเด็กๆ และครูอยาก
ให้เราได้เรียนรู้... รู้จักระวัง คิดก่อนทำ คิดก่อนเขียนหรือวาด ข้อผิดพลาดของเรา เพื่อครั้งหน้า
จะได้ไม่ทำพลาดแบบเดิม และให้ยอมรับในสิ่งที่ตนเองทำ"

เด็กๆ คนอื่นพยักหน้าอย่างเข้าใจและยอมรับในแนวทางที่คุณครูบอก

คาบเรียนนี้เป็นคาบเรียนแรกที่ห้องเรียนนี้ไม่มียางลบ ระหว่างที่เด็กๆ วาดภาพ
เด็กหญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมาทันทีว่า “ครูคะหนูอยากได้ยางลบ หนูวาดผิดค่ะ”
คุณครู “ไม่เป็นไร หนูวาดตรงอื่น หรือ หนูจะขีดกากบาททิ้งก็ได้นะ”
เด็กหญิง “ไม่เอา ภาพหนูไม่สวยพอดี งั้นหนูขอกระดาษแผ่นใหม่เลยได้ไหมคะ”
ภาพของเธอนั้นมีทั้ง “บ้าน” “ภูเขา” “ทะเล” แต่จุดที่เธอทำพลาดนั้นเล็กมากๆ มีเพียงแค่
เส้นยึกยือที่เธอตั้งใจนะวาดเป็นคลื่น แต่วาดโผล่พ้นเส้นที่แบ่งระหว่างทะเลกับท้องฟ้า
เท่านั้น ความผิดพลาดของเธอเล็กมากๆ

“ความสวยงาม” คือ สิ่งที่เด็กๆ ทุกคนให้ความสำคัญ แต่จุดเล็กๆ ที่ผิดพลาดสามารถ
ทำให้ทั้งภาพหมดความสวยงามได้เชียวหรือ?

คุณครู “ครูขอโทษนะ แต่ห้องเรียนนี้ไม่มียางลบ และครูคิดว่า หนูวาดมาตั้งเยอะแล้ว
น่าเสียดายที่ หนูจะทิ้งภาพนี้ไป หนูลองวาดเส้นนั้นให้เป็นอย่างอื่นดูไหม”
(แม้ว่า จุดผิดพลาดที่เธอทำจะเล็กมาก แต่คุณครูก็ไม่ได้ต้องการบอกว่า จุดนั้นมันเล็กน้อยนะ
เพราะสำหรับเธอมันคงยิ่งใหญ่มาก)
เด็กหญิงคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หนูจะวาดเป็นเรือต่อจากเส้นนี้ได้ไหม”
คุณครู “เป็นความคิดที่ดีนะ ลองวาดดูนะ”

ไม่นานเด็กหญิงก็วาดเส้นต่อเติมเส้นที่ผิดพลาดให้กลายเป็นเรืออย่างที่เธอบอกคุณครูไว้

ก่อนหมดชั่วโมงเรียน...
เด็กหญิงเดินมาหาคุณครูแล้วพูดว่า
“ต่อไปนี้หนูจะไม่ใช้ยางลบแล้ว ทั้งที่บ้านและโรงเรียน”

คุณครู “อะไรทำให้หนูเปลี่ยนใจ?”
เด็กหญิง “วันนี้หนูลองวาดแก้เส้นที่หนูวาดผิดไป กลายเป็นสวยกว่าเดิมอีก”
คุณครู “นั่นสินะ หนูทำให้สิ่งที่หนูทำพลาดกลายเป็นส่วนที่เติมเต็มภาพได้สวยงามมากๆ เลย”
เด็กหญิง “เติมเต็ม?”
คุณครู “ทำให้สมบูรณ์มากขึ้น”
เด็กหญิง “ครูรู้ไหมหนูวาดอะไร?”
คุณครูตอบอย่างเถรตรง “ภูเขา บ้าน เมฆ ทะเล มีปลา ปู สายรุ้ง เรือ มีคนบนเรือด้วย”
เด็กหญิง “มีอีกไหมคะ”
คุณครู “น้ำ? ท้องฟ้า?”
เด็กหญิง “ความสุขค่ะ หนูวาดทุกอย่างยิ้ม”
ฟังคำตอบแล้วถึงกับยิ้มตาม

วันนี้เด็กหญิงได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญในชีวิต

“ชีวิตจริงเราไม่มียางลบ ถ้าเราทำผิดพลาด ทางออกมีแค่....
เราจะเผชิญปัญหา และพยายามแก้มันอย่างเต็มที่ เมื่อเราทำเต็มที่แล้ว เราควรยอมรับ
แล้วก้าวข้ามผ่านมันไป สุดท้าย สิ่งที่เราควรมีในชีวิต คือ การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบน
ความไม่สบบูรณ์แบบนั่นเอง

แค่เพียงห้องเรียนไม่มียางลบ หรือ อุปกรณ์ลบคำผิด เด็กๆ ก็ได้เรียนรู้หลายอย่าง

(1) "คิดก่อนลงมือทำ"

ถ้าเรามียางลบ เราจะเขียน และวาดอย่างไม่ระมัดระวัง ถ้าเราไม่มีมัน เราจะตั้งใจ คิดก่อนทำ
และพยายามระวังในการเขียนและวาดในแต่ละครั้งมากขึ้น

(2) “แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า” และ “ฝึกความยืดหยุ่น"

ถ้าเรามียางลบ เราจะไม่มีโอกาสฝึกแก้ปัญหา เพราะเราจะลบมันทิ้ง แทนที่จะคิดว่าเราจะวาด
หรือเขียนปรับแก้เป็นอย่างไรแทน

(3) “เรียนรู้ข้อผิดพลาด และไม่ทำมันผิดซ้ำ"

ถ้าเรามียางลบ เราจะลบข้อผิดพลาดของเราไป แล้วเราไม่ได้กลับมาทบทวนข้อผิดพลาดของเรา
ในอนาคต เช่น ถ้าเราเขียนผิด แล้วเราลบมัน เมื่อมองกลับมา เราจะไม่รู้ว่า เรามักผิดพลาดที่
คำไหน หรือ วาดตรงไหน แต่ถ้าเราทิ้งร่องรอยเอาไว้ เราจะได้กลับมาทบทวนมันในอนาคต

(4) “ยอมรับในข้อผิดพลาด และก้าวต่อไป"

เพื่อให้เรายอมรับข้อผิดพลาดของตนเอง
จุดเล็กที่ทำผิดพลาดบนกระดาษ เราต้องเรียนรู้ข้อผิดพลาด แล้วมองภาพรวมมากกว่าจะ
จับจ้องแค่ข้อผิดพลาดนั้น

(5) “ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น และปัจจุบันที่เราอยู่"

ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ อ่านแล้วก็เก็บไปเรียนรู้และคิดให้ได้เช่นกัน

Cr.FB ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์
Photo: Stefan_hillinger
#คติธรรมคำคม
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ค. 27, 2024 4:21 pm

( 4 )

#ปลา153ตัวมีความหมายว่าอย่างไร
ยอห์น 21:11
"ซีโมน​เป​โตร​จึง​ลง​ไป​ใน​เรือ​แล้ว​ลาก​อวน​ขึ้น​ฝั่ง อวน​นั้น​เต็ม​ไป​ด้วย​ปลา​ตัว​ใหญ่ๆ
#มีหนึ่งร้อยห้าสิบสามตัว แม้​จะ​มี​มาก​ขนาด​นั้น​อวน​ก็​ไม่​ขาด"
กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เปโตรลากอวนซึ่งเต็มไปด้วยปลา 153 ตัวขึ้นมาจากทะเลสาบในขณะที่
พระเยซูปรากฏแก่เหล่าสาวกหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ ความหมายของจำนวน
ปลานี้ได้รับการตีความอย่างหลากหลายตลอดประวัติศาสตร์คริสเตียน

#การตีความตามตัวอักษร :
ความแม่นยำของประวัติศาสตร์ : การระบุจำนวนปลาที่แม่นยำเป็นการบ่งบอกถึงความถูกต้อง
และความน่าเชื่อถือของบันทึกในพระคัมภีร์ นักวิชาการบางคนเห็นว่านี่เป็นเพียงรายละเอียดเล็กๆ
ที่เสริมให้เรื่องราวดูสมจริงมากขึ้น

#การตีความตามเชิงสัญลักษณ์ :
จำนวนผู้เชื่อที่ครบถ้วน : นักวิชาการบางท่านเชื่อว่าจำนวน 153 อาจเป็นสัญลักษณ์ของจำนวน
ผู้เชื่อที่สมบูรณ์ เป็นการบอกว่าพระเยซูคริสต์จะดึงดูดผู้คนจากทุกชนชาติและทุกเผ่าพันธุ์ให้
มาเป็นสาวกของพระองค์

การอ้างอิงถึงทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ : นักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่าจำนวน 153 เป็นจำนวน
สามเหลี่ยมของ 17 (1+2+3+...+17 = 153) ซึ่งอาจมีนัยทางคณิตศาสตร์ที่สื่อถึงความสมบูรณ์หรือ
ความครบถ้วน

#การอ้างอิงถึงบิดาแห่งศาสนศาสตร์ในยุคแรก :
นักบุญเยโรม (St. Jerome) เชื่อว่าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีปลาทั้งหมด 153 ชนิด ดังนั้นการ
จับปลาจำนวนนี้แสดงถึงความครอบคลุมของข่าวประเสริฐที่สามารถจับใจทุกชนชาติทุกภาษา

#การอ้างอิงทางตัวเลขในภาษาฮีบรู :
มีการตีความว่าจำนวน 153 อาจสื่อถึงการคำนวณทางตัวเลขในภาษาฮีบรูที่มีความหมายเชิง
สัญลักษณ์อื่นๆ
ในเชิงสัญลักษณ์ผ่านภาษาฮีบรูเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากนักวิชาการและผู้เชื่อหลายท่าน
เนื่องจากในภาษาฮีบรู ตัวเลขมีความหมายพิเศษที่เชื่อมโยงกับคำต่าง ๆ ผ่านวิธีการคำนวณที่เรียกว่า
"Gematria" (เลขศาสตร์ในภาษาฮีบรู)
หนึ่งในการตีความที่สำคัญคือการเชื่อมโยง 153 กับคำว่า "אני אל" (Ani El) ซึ่งแปลว่า
"ฉันคือพระเจ้า" หรือ "I am God" โดยการใช้ Gematria คำนวณค่าของตัวอักษรฮีบรู :
א = 1
נ = 50
י = 10
א = 1
ל = 30
รวมกันแล้วค่า Gematria ของคำว่า "אני אל" เท่ากับ 153

#ข้อสรุป:
การตีความจำนวน 153 ตัวใน ยอห์น 21:11 มีหลายแง่มุมทั้งเชิงตัวอักษรและเชิงสัญลักษณ์ ไม่ว่า
จำนวนนี้จะมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ลึกซึ้งหรือเป็นเพียงรายละเอียดที่ทำให้เรื่องราวดูสมจริงมากขึ้น
ทุกการตีความมีจุดประสงค์เพื่อเน้นถึงความหมายสำคัญของการเป็นสาวกและการติดตามพระเยซู

#แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม :
- Bible Gateway - John 21:11
- Got Questions - What is the significance of the 153 fish in John 21:11?
- Learn Religions - Why Did John Note There Were 153 Fish?
.
22/06/2024
* * * * * * *
หากการนำเสนอข้อมูลครั้งนี้เป็นพระพรและหนุนใจท่าน โปรดแชร์ด้วยการส่งต่อพระพรไปยังผู้อื่น
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ค. 27, 2024 4:25 pm

( 5 )

ข้อคิดเตือนใจ..……

.1. อยู่ด้วยกันมานาน ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
2. ความผูกพันธ์นานหลายปี ไม่ได้การันตีว่าจะรักกันยาวนาน
3. และการเป็นแฟนที่ดี ก็ไม่ได้การันตีว่าจะรักกันยาวนานเช่นกัน
4. ความรักเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและไร้เหตุผลควบคุม ไม่มีอะไรการันตีความรักได้
5. เพราะความรักใช้ความรู้สึกนำทาง และเราเลือกคนจากสิ่งที่หัวใจบอกเสมอ
6. รักคือรักต่อให้เลวก็รัก
7. ไม่รักคือไม่รักต่อให้ดีแค่ไหนก็ไม่รัก การเป็นคนดี ผลลัพธ์คือเป็นคนดี แต่ความดีก็
ไม่ได้การันตีว่าจะได้ความรัก
8. แนวคิดนี้ใช้ได้เมื่อเรารักใครคนหนึ่ง จนถึงเมื่อมีใครคนหนึ่งมารักเรา คำตอบอยู่ในใจ
อะไรที่ไม่ใช่ก็ต้องยอมปล่อย อย่าฝืน อย่ายื้อ ยิ่งนานยิ่งทำร้ายกันทั้งคู่
9. คนที่ใช่อะไรก็ง่าย และคนที่ใช่ไม่ต้องวิ่งตามจนเหนื่อย
10. เพราะคนที่ใช่ จะไม่ปล่อยให้เราวิ่งเพียงคนเดียว เค้าจะเดินรอเรา ถอยมาหาเรา
สุดท้ายจะเดินข้างๆเรา และก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน
11. ความสัมพันธ์กับคนที่ใช่จึงเต็มไปด้วยความลื่นไหล ต่างคนต่างเข้าหาซึ่งกันและกัน
ต่างคนต่างอยากเรียนรู้กัน และต่างคนต่างช่วยพยุงกันไปให้ความสัมพันธ์นั้นเกิดขึ้นได้จริง
12. การวิ่งตามคนที่ไม่ใช่ ก็เหมือนการลงมาราธอนที่ไม่มีทางจบสิ้น
13. คนที่ไม่ใช่ จะวิ่งไปเรื่อยๆ มองนกมองไม้ มองทุกอย่างตามที่พอใจ มองไปเรื่อยยกเว้น
มองเราที่อยู่ข้างหลัง
14. บางครั้งความสัมพันธ์แบบนี้ยังโหดร้ายกว่าเดิม เพราะเค้าเองก็ดันรู้สึกดีที่มีเราวิ่งอยู่
ข้างหลัง และวันใดที่เราเหนื่อยตั้งใจจะหยุด เค้าก็จะเดินย้อนกลับมาหาเราพร้อมขนมหวาน
เล็กน้อยเพื่อให้เราได้มีกำลังวิ่งต่อ
15. บางคนแค่ชอบที่มีเราอยู่ตรงนั้น เป็นพื้นที่ปลอดภัยเวลาเค้าต้องการ เพราะถ้าเค้าเจ็บ
หรือล้มลงเมื่อไหร่ จะมีเราที่พุ่งเข้าไปเป็นเบาะรองเสมอ
16. แต่ในทางกลับกันพอเราล้ม เราเจ็บ เราเหงา หรือเราต้องการเค้า ไม่มีซักครั้งที่เค้าจะ
วิ่งหันกลับมาเพื่อเรา
17. คนบางคนแค่ชอบเรา แต่ก็ไม่ได้ชอบมากพอที่จะให้สถานะอะไร
18. ดังนั้นอย่าเสียเวลากับคนที่ไม่ได้รักเรา หรือคนที่เราไม่ได้รัก การตัดใจจากคนที่ไม่ใช่
คือการคืนเวลาชีวิตให้กัน
19. โตแล้วใครไม่ชอบเราเรามองออกอย่าหลอกตัวเอง ออกมาจากวังวนแห่งการวิ่งตามที่
ไม่มีวันสิ้นสุดให้ได้ จะพบว่าหัวโปร่งใจโล่งขึ้นมาก
20. ความรักที่ดีทำให้สุขภาพจิตดี
21. ความรักที่ดีทำให้เราสบายใจที่จะเป็นตัวเอง ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องเหนื่อย
22. ความรักที่ Toxic เหมือนการกินยาพิษทีละนิดทุกๆวัน แรกๆอาจทนไหว แต่นานๆไป
ตับไตอาจพัง
23. ดังนั้นความรักที่ไม่ดี อย่าไปเสี่ยงมีจะดีกว่า
24. อยากรักใครให้เป็น อันดับแรกลองฝึกรักตัวเองให้ดีก่อน
25. การมีความสุขด้วยตัวเองได้ ทำให้เราไม่ต้องไขว่ขว้าความสุขจากคนอื่น เติมตัวเองให้เต็ม
ความรักมีก็ดี แต่มันคือกำไรเท่านั้นอย่าเอามารวมทุน
26. ไม่มีอะไรตลอดไป อย่าเอาใครมาเป็นโลกทั้งใบของเรา ถ้าเราถูกเติมเต็มด้วยคนอื่น วันหนึ่ง
เมื่อขาดคนนั้นไปจิตใจเราจะพัง
27. อยู่กับตัวเองให้ได้ มีความสุขกับตัวเองให้ได้ อย่ายอมให้ใครมาลดทอนตัวเรา สุขภาพจิตดี
ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
28. ครูที่ดีที่สุดคือประสบการณ์ที่เจอด้วยตัวเอง เราไม่มีวันเข้าใจบางสิ่งได้ชัดเจนถ้าไม่เข้าไปอยู่
ในเรื่องนั้น
29. ดังนั้นทุกความสัมพันธ์ที่ผ่านไปจึงเป็นบทเรียนให้เราเสมอ วันเวลาจะทำให้เราเข้าใจ
ความสัมพันธ์มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่พลาดอีก
30. ดังนั้นกลับมาที่การรักตัวเอง ถ้าเรารักตัวเองมากพอ เกราะแห่งการป้องกันตัวเองจะแข็งแรงขึ้น
และเราจะเลือกคนที่เข้ามาในชีวิตได้ดีขึ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ค. 27, 2024 4:35 pm

( 6 )


#จำนวน_70_ในพระคัมภีร์ไบเบิล

ในพระคัมภีร์ไบเบิล จำนวน 70 มีความหมายและปรากฏในหลายบริบทต่างๆ
ซึ่งบางส่วนสำคัญมีดังนี้
.
70 ชาติ (The Table of Nations)
ในปฐมกาล บทที่ 10 มีการระบุ 70 ชาติที่เกิดจากลูกหลานของโนอาห์หลังน้ำท่วม
(ปฐมกาล 10:1-32) ชาติเหล่านี้แสดงถึงการกระจายของมนุษยชาติไปทั่วโลก
.
70 คนในครอบครัวของยาโคบ
ในปฐมกาล 46:27 กล่าวถึงจำนวนคนในครอบครัวของยาโคบที่ย้ายไปอียิปต์ว่ามี
ทั้งหมด 70 คน (รวมทั้งโยเซฟและลูกชายสองคนของเขาที่อยู่ในอียิปต์)
.
การแต่งตั้งผู้ช่วยของโมเสส 70 คน
ในกันดารวิถี 11:16-17 พระเจ้าสั่งให้โมเสสแต่งตั้งผู้อาวุโส 70 คนเพื่อช่วยเขา
ในการดูแลประชากรอิสราเอล
.
การถูกเนรเทศ 70 ปีของชาวยิวในบาบิโลน
เยเรมีย์ 25:11-12 และ 29:10 พยากรณ์ว่าชาวยิวจะถูกเนรเทศในบาบิโลน
เป็นเวลา 70 ปี ก่อนที่พระเจ้าจะนำพวกเขากลับมา
.
การส่งศิษย์ 70 คน
ในลูกา 10:1-24 พระเยซูส่งศิษย์ 70 คน (บางแหล่งอ้างว่าเป็น 72 คน) ออกไปเพื่อ
ประกาศพระกิตติคุณในเมืองต่างๆ
.
จำนวนสมาชิกของสภาแซนเฮดริน
สภาแซนเฮดรินสูงสุดของชาวยิวมีสมาชิก 70 คน รวมทั้งประธานซึ่งเป็นมหาปุโรหิต
ทำให้รวมเป็น 71 คน
.
จำนวน 70 มีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ในพระคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งมักแสดงถึงความสมบูรณ์
ความครบถ้วน และการครบวงจรของสิ่งต่างๆในบริบททางศาสนาและประวัติศาสตร์ของอิสราเอล
.
70x7
มาระโก 18:21-22 พระเยซูตรัสตอบเปโตรเมื่อเขาถามว่า "พี่น้องที่ทำผิดบาปกับข้าพเจ้าจะต้อง
อภัยถึงเจ็ดครั้งไหม?" พระเยซูตรัสตอบว่า "ไม่ได้ถึงเจ็ดครั้ง แต่ถึงเจ็ดสิบครั้งเจ็ด" (70x7) นี่เป็น
การสอนเกี่ยวกับการให้อภัยอย่างไม่มีขีดจำกัด พระเยซูเน้นว่าความรักและการให้อภัยควรเป็น
การกระทำที่ไม่มีขอบเขต
.
70 สัปตะ
ดาเนียล 9:24-27 พระเจ้าพยากรณ์ผ่านดาเนียลว่า "เจ็ดสิบสัปตะ (70 สัปดาห์) ได้ถูกกำหนดไว้
สำหรับประชากรและนครบริสุทธิ์ของเจ้า เพื่อยุติการละเมิด ทำให้บาปเสร็จสิ้น และไถ่บาป และ
นำความชอบธรรมชั่วนิรันดร์ และผนึกคำพยากรณ์ และเจิมองค์บริสุทธิ์ที่สุด"
.
การพยากรณ์นี้แสดงถึงช่วงเวลาประมาณ 490 ปี (70 สัปดาห์ x 7 ปี) และเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่
นำไปสู่การมาของพระเมสสิยาห์ และการทำความชอบธรรมและการฟื้นฟูของอิสราเอล
.
ความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์
จำนวน 70x7 และ 70 สัปตะมีความหมายในเชิงสัญลักษณ์และการพยากรณ์ ดังนี้
.
- การให้อภัยอย่างไม่มีขีดจำกัด : การใช้ 70x7 แสดงถึงการให้อภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่ควรกำหนดขอบเขตในการให้อภัยคนอื่น
.
- การพยากรณ์และการเตรียมการมาของพระเมสสิยาห์ 70 สัปตะในดาเนียลเป็นการพยากรณ์
ช่วงเวลาที่จะนำไปสู่การมาของพระเมสสิยาห์และการฟื้นฟูของอิสราเอล
.
ในเชิงศาสนาและประวัติศาสตร์, ตัวเลขเหล่านี้มีความหมายลึกซึ้งและเป็นสัญลักษณ์ที่มี
ความสำคัญในการทำความเข้าใจพระคัมภีร์
.
11/07/2024
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 07, 2024 2:14 pm

( 7 )


บางที...อาจหลงลืมไป คนสองคนที่อยู่ด้วยกันมาสักระยะ
จากคนไกลก็กลายมาเป็นคนใกล้ตัวได้ แต่บางทีก็อยู่ใกล้จนมองไม่เห็นว่า
เมื่อก่อนเคยพูดกันดีกว่านี้ เคยเกรงใจกันมากกว่านี้
เคยใส่ใจกันเยอะกว่านี้ ชินกันจนลืมให้เวลา ลืมให้คุณค่ากับอีกคน
เพราะคิดว่าตื่นมาพรุ่งนี้ก็เจอ กลับบ้านไปเขาก็ไม่ได้หายไปไหน
เลยมองอะไรที่มันไกลตัวไว้ก่อน มองว่างานมันต้องรีบทำ
มองว่า "คนอื่น" น่ะต้องเกรงใจ มองว่า รอให้ว่างหน่อย ค่อยหาเวลาให้ก็ได้
คนใกล้ๆ รู้สึกยังไง เครียดแค่ไหน ไม่ได้สังเกตเห็นเท่าไหร่เลย
ทั้งที่เราควรเกรงใจกับคนใกล้ตัวที่สุด ควรหยุดมองจอ แล้วมามองหน้ากันได้แล้ว
เงินทองที่หามายังไม่ทำให้หายเหนื่อยได้เท่า คำพูดง่ายๆ ว่า "เหนื่อยมากไหมวันนี้"
เพราะในวันที่เราทุกข์ เราไม่สบาย เรามองหาคนที่จะมารับฟังเรื่องราวของเรา
มันกลับไม่ใช่คนไกลตัวที่ไหน แต่เป็น คนใกล้ๆ ที่เราลืมให้คุณค่ากับเขามานาน
วันนี้ถ้ายังมีโอกาสก็กลับไปกอดเขาหน่อย กลับไปถามให้ชื่นใจสักหน่อยว่าเหนื่อยไหม
เพราะถ้าเรายังหลงลืมที่จะดูแลคนใกล้ๆ เขาก็อาจกลายเป็นคนไกลได้เหมือนกัน
มีกันอยู่แค่นี้ รักกัน ดูแลกันให้ดีนะ..🌻🤍
..................................................................................
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 07, 2024 2:19 pm

( 8 )

... #ชาติหน้า #จะไม่ได้พบกันอีก!
ลูกพ่อ : พ่อเขียนบันทึกช่วยจำนี้ให้ลูก
ด้วยเหตุผล 3 ข้อ
1. #ชีวิตคนเราโชคเคราะห์ไม่แน่นอน ไม่มีใครรู้ว่าจะอยู่ได้นานเพียงใด เรื่องบางเรื่อง
พูดเร็วสักหน่อยจะดีกว่า
2. #พ่อเป็นพ่อของลูก ถ้าพ่อไม่บอก ก็คงไม่มีใครบอก
3. #สิ่งที่พ่อบอกในบันทึกนี้ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่พ่อได้มาจากความพ่ายแพ้ จะช่วย
ให้ลูกเดินทางผิดพลาดน้อยลง

#ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ลูกควรจดจำในชีวิต

1. #คนที่ทำไม่ดีกับลูก ลูกอย่าได้ติดใจนัก ในชีวิตของลูก ไม่มีใครมีหน้าที่ต้องทำดีกับลูก
นอกจากพ่อกับแม่แล้ว ใครดีกับลูก ลูกต้องถนอมรัก รู้คุณ

2. #ไม่มีใครที่ทดแทนไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดที่จำต้องครอบครอง หากมองเรื่องนี้ได้ทะลุ ต่อไปถึงแม้
ลูกจะสูญเสียทุกอย่างที่รักที่สุดในโลกไป ก็ควรเข้าใจว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก

3. #ชีวิตสั้น วันนี้อาจจะยังใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย พรุ่งนี้จะรู้สึกว่าชีวิตทิ้งลูกไปไกล ดังนั้น
ถนอมชีวิตได้เร็วเท่าใด วันเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตก็จะมากเท่านั้น แทนที่จะหวังอายุยืน
ใช้ชีวิตให้เร็วจะดีกว่า

4. #ความรักเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง และความรู้สึกนี้จะเปลี่ยนได้ตามเวลาและสภาพจิตใจ
ถ้าคนที่ลูกรักที่สุดจากลูกไป ขอให้อดทนรอคอยสักหน่อย ให้เวลาค่อยๆ ชะล้าง ให้จิตใจค่อยๆ
นิ่งลง ความขมขื่นของลูกก็จะค่อยๆ จืดจาง อย่าได้ขยายความงดงามของความรักจนเกินงาม
อย่าได้ขยายความเศร้าของการเสียรักจนเกินควร

5. #แม้จะมีคนที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากไม่ได้รับการศึกษามากนัก แต่ไม่ได้หมายความว่า
ขี้เกียจเรียนแล้วจะประสบความสำเร็จได้ ความรู้ที่ลูกได้เรียน จะเป็นอาวุธที่ลูกมีติดตัว คนเราสร้างตัว
โดยไม่มีอะไรได้ แต่ไม่สามารถไม่มีแม้แต่เหล็กสักท่อนในมือ จงจำให้ดี!

6. #พ่อไม่ขอร้องให้ลูกเลี้ยงดูพ่อในบั้นปลายชีวิต ทำนองเดียวกัน พ่อก็ไม่สามารถเลี้ยงลูกในบั้น
ปลายชีวิต เมื่อลูกโตจนเลี้ยงตัวเองได้ หน้าที่ของพ่อก็สิ้นสุดลง จากนี้ไป ลูกจะนั่งรถเมล์หรือวิ่ง
จะกินหูฉลามหรือเส้นหมี่ ลูกต้องรับผิดชอบตัวเอง

7. #ลูกเรียกร้องให้ตัวเองรักษาคำมั่นสัญญาได้ แต่จะเรียกร้องให้คนอื่นรักษาคำมั่นสัญญาไม่ได้
ลูกเรียกร้องให้ตัวเองทำดีต่อคนอื่นได้ แต่ไม่อาจคาดหวังให้คนอื่นดีต่อลูก เราทำต่อคนอื่นอย่างไร
ไม่ได้แสดงว่าคนอื่นจะทำต่อลูกเช่นเดียวกัน ถ้าลูกมองไม่เห็นเรื่องนี้ รังแต่จะเพิ่มความทุกข์อัน
ไม่จำเป็นให้เท่านั้น

8. #พ่อซื้อล็อตเตอรีมา26ปี ยังคงยากไร้ แม้แต่รางวัลที่สามก็ไม่เคยถูก นี่ยืนยันว่า คนเราจะรวยได้
ต้องพากเพียรทำงานเท่านั้น ในโลกนี้ไม่มีอาหารกลางวันฟรี

9. #ญาติมีบุญมาพบกันได้เพียงครั้งเดียว ไม่ว่าชาตินี้พ่อจะอยู่กับลูกได้นานเพียงใด ลูกต้อง
ถนอมวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ชาติหน้า ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ ก็จะไม่ได้พบกันอีก

... จาก บันทึกที่เหลียงจี้จาง [梁继璋 หรือ Michael Leung] นักจัดรายการวิทยุยอดนิยมของฮ่องกง
เขียนให้ลูกชาย แพร่หลายมากในโลกออนไลน์ภาษาจีน

... ภาษาไทยโดย: วิภาดา กิตติโกวิท
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 07, 2024 2:25 pm

( 9 )

สมเพชตัวเอง!!!

มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านนึง ที่ผมกินประจำ กินจนสนิทกับลูกเจ้าของร้าน
กินจนแบบว่า จากลูกค้า กลายเป็นกินเที่ยวด้วยกัน ผมไปอยู่กรุงเทพนาน
ไม่ได้กลับมากินหลายปี มีปีนึงกลับไปกิน ผมกินเสร็จ
ผมรีบเดินไปกระซิบลูกเจ้าของร้านว่ารสชาติเพี้ยน ไม่อร่อยเหมือนเดิม
ลูกชายเจ้าของร้าน รีบเดินไปชิมน้ำซุยก๋วยเตี๋ยวในหม้อถึงสองรอบ
เขากลับมาบอกผมว่า...เหมือนเดิม!! สูตรนี้20ปีไม่เคยเปลี่ยน เขาพาผมเข้าหลังบ้าน
ไปดูอุปกรณ์ ไปดูสิ่งต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน
ตลอด20ปี เขา ชั่ง ตวง วัด วัตถุดิบมาโดยตลอด!!! พร้อมทั้ง ให้ดูกระดาษที่จดกรรมวิธี
ขั้นตอนในการทำสิ่งต่างๆอย่างละเอียด เย็นวันนั้น เขาชวนผมมากินเบียร์ที่ร้านเขา
เพื่อจะให้ผม เห็นขั้นตอนการทำ ที่ทำเหมือนกันทุกวัน20ปี เขา ชั่ง ตวง วัด ทุกขั้นตอน
อุณหภูมิน้ำ ปริมาณต่างๆ ตรงตามสูตร เสร็จแล้วเขาให้ผม...ชิม
ปรากฏว่ารสชาติอร่อยเหมือนเดิม รสชาติหอมกรุ่นเหมือนเคยกินแต่ก่อน
วันนั้นผมทบทวนตัวเองว่า ตอนกลางคืน ผมไปดื่มมาจนเมา
เช้ามาแฮงค์ ก็เลยทำให้ รสสัมผัสของผมเองที่เพี้ยนไป วันนั้นเองทำให้ผมคิดได้ว่า

#อย่าเอาลิ้นโง่ๆของเราไปตัดสินใคร!!!
และผม นำแนวคิดนี้ ไปใช้กับทุกเรื่องในชีวิต
ตั้งแต่นั้นมา
ผมไม่เคนเอาลิ้นกระจอกๆของผม ไปตัดสินรสชาติอาหารร้านไหน
ว่าอร่อยหรือไม่อร่อยอีกเลย
รวมไปถึง

ผมไม่เอาความคิดผม ไปยัดเยียดใส่หัวใคร ไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวผม
ไปตัดสินใคร มันดู....โง่ ลิ้นเราไม่ได้มีมาตรฐานขนาดนั้น
ความคิดเราไม่ได้ถูกต้องไปเสียทุกอย่าง บางวันเรายังอยากกินเผ็ด
บางวันเรายังอยากกินเปรี้ยวเลย และบางวัน เราก็มีคิดผิดได้

ผมอยากบอกว่า...
อย่าคิดไปเอง อย่าตัดสินคนอื่น โดยใช้ความรู้สึกเราด้านเดียว
อย่าเอาลิ้นเรา อย่าเอาความรู้สึกเราเพียงคนเดียว ไปตัดสินคนทั้งโลก!!

ขอบคุณบทความดีๆจาก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 07, 2024 2:31 pm

( 10 )

45 ข้อคิดดีๆ เพื่อสิ่งดีๆ ในชีวิต..

1. อย่า.. เก็บอดีตมาทำร้ายตัวเอง แต่.. จงหัดที่จะ '' เรียนรู้ '' จากมัน
2. ดูแลบิดา-มารดาให้ดี มีโอกาสรีบทำซะก่อน จะไม่มีท่าน
3. เมื่อมีเรื่อง จงหมั่น '' ปรึกษา '' ผู้อื่น และ.. จงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย
4. ร่างกาย.. ไม่ใช่ '' เครื่องจักร '' ให้มันพักผ่อนซะบ้าง
5. สิ่งที่.. แข็งที่สุด '' เอาชนะ '' ได้ด้วยสิ่งที่.. อ่อนที่สุด
6. เมื่อประตูบานหนึ่งปิด .. อีกบานหนึ่งก็เปิดแต่.. บ่อยครั้งที่เรามัวแต่.. จ้องประตูบานที่ปิด
จน.. ไม่ทันเห็นว่า.. มีอีกบานเปิดอยู่
7. '' กำลังใจ '' เป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่นแล้ว.. เขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง
8. '' อารมณ์ขัน '' เป็นสิ่งที่.. ยอดเยี่ยมที่สุดที่ ช่วย.. รักษาสิ่งอื่นได้ เพราะ.. ทันทีที่เกิดอารมณ์ขัน
ความรำคาญ และ.. ความขุ่นข้องจะจางหายไป กลับกลาย.. เป็นความแจ่มใส ของจิตใจเข้ามาแทนที่
9. อย่ากลัว ที่จะนั่งหยุดพัก.. '' เพื่อคิด ''
10. 1 นาทีที่คุณโกรธ เท่ากับว่า.. คุณได้สูญเสีย 60 วินาที แห่ง '' ความสงบในจิตใจ '' ไปแล้ว
11. หนทางเดียว.. ที่จะรักษาภาพพจน์ได้คือ.. #การซื่อสัตย์ตลอดเวลา
12. Oxygen สำคัญต่อ.. ปอดฉันใด ความหวัง.. ก็เป็นฉันนั้น ต่อ ความหมายของชีวิต
14. '' ความอดทน '' คือ.. เพื่อนสนิทของสติปัญญา
15. ในธรรมชาติไม่มีสิ่งใด.. ดีพร้อม แต่.. ทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบในตัวเอง .. ต้นไม้อาจบิดเบี้ยว
โค้งงออย่างประหลาด แต่.. ก็ยังคงความงดงาม
16. มักพูดกันว่า.. กาลเวลาเปลี่ยนทุกสิ่ง แต่.. จริงๆ แล้ว คุณ.. ต้องเปลี่ยนทุกสิ่งด้วยตนเอง
17. จงรู้ตัว.. อยู่เสมอว่า.. ตอนนี้กำลังทำอะไร ที่ทำอยู่มีผลดี-ผลเสีย มีประโยชน์ หรือ..ไร้ประโยชน์
18. อย่าปล่อยให้.. เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า
19. อย่าอ่านข้อความที่มี.. ประโยชน์เพียงผ่านๆ อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่น.. พัฒนาตนเอง
20. รู้จักแบ่งเวลาและ.. หน้าที่ ทำประโยชน์ .. ให้แก่ส่วนรวมบ้าง
21. อย่ารอคอย.. ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อย่า.. กลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้ หรือเปลี่ยนแปลงมันได้
22. อย่าเสียใจ.. กับสิ่งที่เลวร้าย หรือสูญเสียไปแล้ว มัน.. ไม่กลับมา แต่.. คุณสามารถทำมันใหม่
หรือ.. เรียนรู้จากมันได้
23. ให้อภัย แก่.. ตนเองและผู้อื่น คนไม่ผิด คือ.. คนที่ไม่เคยทำอะไร
24. อย่าเห็นแก่ตัว .. จงเป็นฝ่ายให้มากกว่ารับ
25. คำพูด.. ให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจได้ .. ยุให้ทะเลาะกันได้ ทำให้เสียความรู้สึกได้ จง.. รู้จักที่จะพูด
26. คุณซื้อนาฬิกาได้ แต่.. คุณซื้อเวลาไม่ได้ ตอนนี้.. มีใครคอยคุณอยู่หรือเปล่า..? ถ้ามีก็กลับไปหาซะ
27. อย่าคิดว่า.. ตนเองเป็นคนที่โชคร้ายที่สุด และ.. อย่าคิดว่าตนเอง เป็นคน.. ที่โชคดีที่สุด
28. ปริศนาในเกมคุณ.. แก้ได้ แล้วทำไม..? ปริศนาในชีวิต คุณ.. แก้ไม่ได้ ในเมื่อบทสรุป
ก็อยู่ในตัวคุณเอง..?
29. มีเรื่องราวอีกมากมาย.. ที่ไม่ได้เขียนลงในหนังสือ ลองค้นคว้าดูเอง แล้ว.. จะรู้
30. ลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจาก..คันธนู อันตรายน้อยกว่า.. หอกที่แทงมาจาก..ข้างหลัง
31. ตัวคุณ.. มีค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณ.. รู้จักดึงมันออกมาใช้ได้รึเปล่า..?
32. หา '' ความสุขของตัวเอง '' ให้เจอ หัดมี.. ความสุขซะบ้าง เรา.. ลืมอดีตไม่ได้ แต่.. เราเลิกคิดได้
33. บางครั้ง.. การอยู่คนเดียว ก็ไม่ได้ '' เลวร้าย '' เสมอไป..
34. สิ่งที่คุณ.. ปล่อยผ่านๆ ไปในชีวิต หรือ.. เรื่องที่คุณเห็นว่า.. ไม่สำคัญ ลองกลับมาดูแลตรงนั้นบ้าง.. ก็ดี
35. ไม่มีมิตรถาวร .. และศัตรูที่แท้จริง
36. จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อ.. ตัวเราเอง คนที่เรารัก และคนที่.. อยู่รอบกายเรา
37. เมื่อคิดจะทำอะไร .. หากคิดมากไป แล้วเมื่อใด .. จะได้ลงมือทำ
38. อย่า.. ปล่อยโอกาสให้ผ่านไป โดยที่.. ยังไม่พยายาม
39. หาก.. อยาก '' ประสบความสำเร็จ '' จงทำงาน.. ที่ตัวเองถนัด อย่าหวัง.. พึ่งพาผู้อื่น
40. งานหนักเพียงใด .. หากทำด้วยใจและ ความสุข เรา.. แทบจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
41. จิตจะสงบได้อย่างไร..? หากมัวแต่.. ใส่ใจคำพูดของคนอื่น
42. มองโลกในแง่ดี
.. ชีวิตจะมี '' ความสุข ''
43. ทำอะไร จง.. ทำให้ดี เพราะ.. จะไม่มีคำว่า.. เสียใจในสิ่งที่ทำ
44. ความกตัญญู คือ.. '' คุณค่า '' ของคนที่น่านับถือ
45. จงทำตัว.. ให้มี '' ประโยชน์ '' ต่อสังคมและแผ่นดิน...

ขอบคุณบทความที่ดีครับ
Cr : จากเพื่อนในไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 7:00 pm

( 11 )

"เก่ง 10 อย่าง" ของคนที่ทำอะไรก็สำเร็จ ::

1. เก่ง ในการชื่นชมผู้อื่น
2. เก่ง ในการหาข้อดี จุดเด่น ของผู้คนได้ แม้จุดเล็กๆ ก็ยังเห็น
3. เก่ง ในการให้กำลังใจคนอื่น เป็นต้นแบบที่ดี
4. เก่ง ในการให้พลังตัวเองทุกวัน ใส่ความเชื่อมั่นลงไป
5. เก่ง ในการแอบชื่นชมตนเอง และคิดแต่เรื่องดี ๆ
6. เก่ง ในการที่มีอะไรทำทันที ไม่เป็นโรคเดี๋ยวก่อน
7. เก่ง ในการมองหาคุณค่าของทุกอย่างที่อยู่รอบตัว มองเห็นเป็นแต่เรื่องดี
8. เก่ง ในการมองหาข้อดีให้ตัวเอง ยินดีกับสิ่งที่ตนมี และเอาออกมาเป็นจุดเด่น
เพื่อช่วยคนอื่นและสังคม
9. เก่ง ในการเห็นจุดบกพร่องของตนเอง ปรับปรุงตัวเอง คือ มองหาเรื่อง
ที่จะ Correct(แก้ไขให้ถูกต้อง)
10. เก่ง ในการขอบคุณคนให้เป็นนิสัย เป็นที่รักใคร่ของ ผู้พบเห็น...

- People Magazine -
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 7:16 pm

( 12 )

อย่าได้ "พยายาม" ปั้นลูกเราให้เหมือนลูกใคร
อย่าได้ "ขีดเส้น" ให้ลูกเราเดินตามลูกใคร
อย่าได้ "ตั้งเป้า" ให้ลูกเรามีจุดหมายแบบใคร
อย่าได้ "บังคับ" ให้ลูกเราเป็นอย่างใคร
เด็กทุกคนมี "สิ่งวิเศษ" ติดตัวมาทุกคน และ "สิ่งวิเศษ" เหล่านั้นก็ไม่ได้เหมือนกันทุกคน
เรามีหน้าที่เพียงเฝ้ามองและค้นหา "สิ่งวิเศษ" ในตัวลูกเราให้เจอ และสนับสนุน ส่งเสริม
"สิ่งวิเศษ" นั้น
อย่าพยายามกดลูกลงพิมพ์ ให้ออกมาเป็นบล็อคเดียวกัน
ลูกใครเรียนอันนี้แล้วดี ก็พยายามจะส่งลูกเราไปเรียนบ้าง
ลูกใครทำได้แบบนี้ ก็พยายามกระตุ้นให้ลูกเราทำได้แบบนั้นบ้าง
ลูกใครคิดแบบนั้น ก็พยายามจะบอกให้ลูกเราคิดแบบเดียวกับเขาบ้าง
แบบนั้นไม่ใช่การค้นหา "สิ่งวิเศษ" ในตัวลูกเรา
แต่เรากำลังพยายาม "ลบสิ่งวิเศษ" ที่ลูกเรามี
แล้วยัดอย่างอื่นที่ได้ดั่งใจเราเข้าไปแทนที่
ลูกเรา...ไม่ต้องเหมือนลูกใครก็ได้
ลูกเรา...ไม่ต้องเก่งเท่าลูกใครก็ได้
ลูกเรา...ไม่ต้องคิดเหมือนลูกใครก็ได้
ลูกเรา...ไม่ต้องมีเป้าหมายเดียวกับลูกใครก็ได้
หรือแม้แต่ ลูกเราไม่ต้อง "เหมือน" เรายังได้เลย
ขอแค่ให้เค้าเป็นในสิ่งที่เค้า "ตั้งใจจะเป็น" และอยู่ในขอบเขตของความดีงาม นั่นหละพอแล้ว...
เพราะเราคือผู้ให้ชีวิต เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตลูก
เรามีหน้าที่ประคับประคอง ไม่ใช่เอาเชือกผูกแล้วลากลูกให้เดิน
ชี้แนะ บอกทาง แต่ไม่ใช่ "สั่งให้เดิน"
เริ่มต้นเฝ้ามอง "สิ่งวิเศษ" ในตัวลูกของเรากันดีกว่า หยุดเฝ้ามอง "สิ่งวิเศษ" ในตัวลูกคนอื่น
แล้วพยายามจะนำสิ่งเหล่านั้นมาใส่ในตัวลูกเราให้หมดทุกอย่าง เพื่อให้เหมือนลูกคนอื่นเป็น
เด็กสวยงามเสมอ...ถ้าได้ยิ้มอย่างมีความสุข เชื่อไหม? 😊
.
ที่มา พลังใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 7:21 pm

( 13 )

"รองเท้าอีกข้างของ มหาตมะ คานธี"

วันหนึ่ง ท่านมหาตมะ คานธี ขึ้นรถไฟแล้วรองเท้าข้างหนึ่งของท่านหลุดออกจากเท้า
ขณะรถไฟ กำลังเคลื่อนตัวออกไป ท่านไม่สามารถจะลงรถไฟไปเก็บรองเท้าที่หลุดตกไปได้
ท่านมหาตมะ คานธี ก็ถอดรองเท้าอีกข้างหนึ่งโยนลงรถไฟไปให้อยู่ใกล้ ๆ กับรองเท้าข้างแรก
ที่หลุดไป คนถามท่านมหาตมะว่า... "ทำไมถึงโยนอีกข้างลงไป"
ท่านตอบว่า... "คนเก็บรองเท้าได้ เขาจะได้มีครบคู่ เอาไปใช้ประโยชน์ได้"

นี่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ให้ข้อคิดอะไรมากมาย ไม่ใช่เพียงความยิ่งใหญ่ของใจท่านอย่างเดียว
แต่หมายถึงการอยู่ร่วมกัน การไม่ยึดติดว่าสิ่งนี้คือ "ของเรา" - "ของเราคนเดียว" เพราะบางครั้ง
ขยะของเราอาจคือทองคำของคนอื่นก็ได้...

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ให้ด้วยใจที่แสนบริสุทธิ์ เช่นเดียวกับท่านมหาตมะ
ที่ให้ได้...แม้กระทั่งคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครจะมาเป็นเจ้าของรองเท้าคู่นั้น

ความสุขที่ได้ให้มักยิ่งใหญ่กว่าความสุขที่ได้รับเสมอ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 7:45 pm

( 14 )

*เรื่องสั้น*

การเลี้ยงดูลูกที่ได้ผล โดย จัดเซน คัลเบรท จากหนังสือสรรสาระ ฉบับเดือนพฤษภาคม 2549

รวบรวมโดย กอบกิจ ครุวรรณ

ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่ทำได้จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยเด็กทุกวัย

1. อย่าพยายามทำให้ลูกของท่านมั่นใจเกินไปในทุกเรื่อง ความสามารถรอบตัวมากเกินไป
“ทำให้เด็กมุ่งมั่นลงลึกเรื่องใดเรี่องหนึ่งได้ยากเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่”

ดังนั้น ควรค้นหาและส่งเสริมจุดแข็งเฉพาะด้านของลูก

2. ชมเชยอย่างเจาะจง ไม่ใช่กว้าง ๆ ระดับโลก การเปรียบเปรยบางอย่าง
“ลูกเป็นเด็กเยี่ยมที่สุดในโลก” เด็กจะตีความว่า “ฉันพิเศษอยู่เหนือกฎเกณฑ์ชีวิตทั่วไป” ควรพยายาม
ใข้คำพูดชมเชยที่ยึดติดกับความจริงและไม่เลิศเลอเกินไป เช่น “ลูกรู้เรื่องนกมากจริง ๆ ”

3. ช่องทางที่สมควรหยิบยกขึ้นมาชมเชยไม่ได้จำกัดแต่ความสามารถทางวิชาการและกีฬาเท่านั้น
ให้ใส่ใจกับจรรยาบรรณและทัศนะทางศีลธรรมของลูก คำชมอย่าง “แม่เห็นนะว่าลูกตั้งใจเรียนมาก
จนได้เกรด‘บี’ในวิชาการอ่าน” และ “ขอบใจที่บอกแม่เรื่องที่ลูกทำจานแตก”
เป็นการส่งสัญญาณความรักและความเกื้อกูลที่ถูกต้อง

*********************
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 7:51 pm

( 15 )


*เรื่องสั้น*

………อบอุ่นและเป็นมิตร ………
โดย Margaret Stockhill จากหนังสือสรรสาระ ฉบับเดือนกันยายน 2556

รวบรวมโดย กอบกิจ ครุวรรณ

ตอนนั้นเป็นเทศกาลอีสเตอร์ปี 2533 ครอบครัวของฉันกำลังจะเดินทางไปร่วมงาน
แต่งงานของน้องสาวที่หมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งในชีวิตหนึ่งคงจะไม่ได้ไปที่นี่ง่ายนัก

ฉันออกเดินทางพร้อมกับสามี ลูกชายวัย 4 ขวบ และลูกสาวซึ่งเกือบจะ 2 ขวบ เรารู้มาว่าที่
เกาะโซโลมอนอากาศร้อนมาก จึงจัดเสื้อผ้าฝ้ายบางเบาใส่กระเป๋าไปหลายตัว และใส่ชุดแบบ
เดียวกันไปด้วยเพราะเป็นช่วงฤดูร้อนที่นั่น ปัญหาข้อเดียวคือ เราต้องนอนบนรถประจำทางซึ่ง
ออกตอนเที่ยงคืนเพื่อจะได้ไปถึงสนามบินให้ทันขึ้นเครื่องบินเที่ยวเช้าไปยังเมืองโฮเนียรา (Honiara)

บนรถประจำทางปรับอากาศหนาวจับใจ! ฉันกับสามีพาลูกมาซุกใกล้ตัวให้มากที่สุดเท่าที่
จะทำได้เพื่อให้ร่างกายลูกอบอุ่นขึ้น รถจอดหลายครั้งขณะที่ผู้โดยสารขึ้นและลงจากรถ ลูก ๆ
ขยับตัวหยุกหยิกนอนไม่หลับเพราะความหนาว

แล้วพอรถจอดที่ป้ายหนึ่ง สุภาพสตรีสูงวัยคนหนึ่งเดินมาข้างหน้ารถและแวะหยุดที่เก้าอี้
ของเรา ฉันชะโงกตัวไปดูว่าเธอต้องการอะไร เธอยื่นผ้าห่มโครเชต์ผืนเล็ก ๆ ยาวแค่เข่ามาให้
ลูกสาวฉันรับมาด้วยความยินดีและรวบผ้ามาห่มกระชับรอบตัว

ป้าคนนั้นบอกว่าเธอถักผ้าห่มเอง เมื่อเห็นว่าพวกเราหนาวจึงอยากให้เราใช้มัน หลังจาก
เธอเดินกลับไปยังที่นั่ง ลูก ๆ ซึ่งตอนนี้อุ่นดีแล้วก็หลับคอพับคออ่อนตลอดทางจนถึงสนามบิน

ราว ๆ หนึ่งหรือสองป้ายก่อนเราจะถึงที่สนามบิน ป้าเจ้าของผ้าห่มก็เดินมาที่ประตูรถเพื่อ
เตรียมตัวลง ฉันพยายามดึงผ้าห่มออกจากตัวลูกเพื่อคืนให้ แต่ลูกไม่ยอม

“ไม่ต้องหรอก” เธอพูด “เก็บเอาไว้เถอะ ป้าถักใหม่อีกผืนได้”

ผ่านมาหลายปี ผ้าห่มผืนน้อยนั้นกลายเป็นสัญลักษณ์สำหรับฉันและลูก ๆ ถึงความมีน้ำใจ
จากคนแปลกหน้า ฉันเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแขวนผ้าผืนนั้นไว้ที่ปลายเตียงของ
ลูกสาวเพื่อที่เราจะได้มองเห็นบ่อยๆ

ผ้าผืนนั้นถักด้วยมือ ทุกตะเข็บถักร้อยเข้าด้วยกันอย่างงดงามและมีฝีมือ เลือกสีอย่างพิถีพิถัน
แต่เจ้าของต้องพรากจากผ้าเพื่อให้ครอบครัวเราได้อุ่นสบายหนึ่งคืน หากยังมีคนใจร้ายหรือ
ใจเหี้ยม ผ้าผืนนี้ก็เป็นเครื่องเตือนใจว่า ยังมีความดีงามบนโลก เป็นความดีงามที่แท้จริง
เป็นของจริงและ ไม่เห็นแก่ตัว

ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณผ้าผืนนี้ชั่วกาลนาน ตรงที่ไม่ใช่แค่ให้ความอบอุ่นในคืนนั้น
แต่ยังเป็น เครื่องเตือนให้นึกถึงความดีงามของคน เป็นผืนผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ชีวิตฉัน

************************
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 7:57 pm

( 16 )

ความสัมพันธ์ที่ได้เรียนรู้
---
1. ลดจำนวนผู้คนในชีวิตลงบ้าง เพราะจำนวนไม่ได้นำมาซึ่งความสุขเสมอไป
2. ผู้คนที่แวดล้อมตามมาด้วยความคาดหวัง เราอาจเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อนมากมาย แต่ช่วงเวลานั้น
กลับไม่ได้เป็นตัวเอง เอาแต่พยายามทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกดี
3. ให้เวลากับวงสนทนาเล็กๆ แต่ลึกซึ้ง อยู่กับคนที่เรารู้จักเขาเป็นอย่างดี และเขารู้จักเราเป็นอย่างดี
วงสนทนาเช่นนี้ย่อมมีความเห็นอกเห็นใจ มีเมตตา และมิตรภาพที่แท้จริง
4. วงสนทนาที่ดีคือวงสนทนาที่ให้ความสำคัญของการ "ฟัง" ในวงนั้นเรามักได้ฟังความทุกข์ของกัน
และกัน เรื่องที่หน่วงใจ เรื่องเช่นนี้ทำให้เรารู้จักกันดีขึ้น
5. วงสนทนาที่เน้นจำนวนคนเหมือนลูกโป่งที่พองตัวขยายใหญ่ แต่ผิวบาง พร้อมจะแตกโพละได้ทุกเมื่อ
ไม่เหนียวแน่น
6. ในวัยหนึ่งเราอาจต้องการมีเพื่อนมาก แต่เมื่อถึงอีกวัยหนึ่งเราจะพบว่า สิ่งที่ต้องการคือเพื่อนแท้-ซึ่งไม่
ต้องมากมายอะไร น้อยแต่ลึกมีคุณภาพกว่ากว้างแต่ว่างโหวง
7. เพื่อนที่แท้คือคนที่เรากล้าร้องไห้ต่อหน้าโดยไม่กลัวว่าเขาจะตัดสินเรา บอกความลับให้เขาฟังได้
กระทั่งเรื่องที่เราผิดพลาดหรือสามารถสารภาพบาปกับเขา
8. เพื่อนแบบนี้มีไม่มาก และเมื่อพบแล้ว เราเองก็มักจะเป็นเพื่อนแท้ของเขาเช่นกัน
9. ถึงเวลาหนึ่งจึงเข้าใจว่าเรามุ่งเน้นความต้องการผิดไป เรามุ่งเน้น "ปริมาณ" ของความรักจากคน
หลายคน แต่อันที่จริงเราอาจต้องการ "ปริมาณ" นั้นจากคนเพียงคนเดียว, หรือไม่กี่คน
10. เหมือนดอกไม้ปลอมทั้งช่อก็ไม่สวยเท่าดอกไม้จริงเพียงหนึ่งดอก มีเพียงดอกไม้จริงเท่านั้นที่มี
กลิ่นหอมตามธรรมชาติ
11. บ่อยครั้งที่หัวเราะเฮฮากับคนจำนวนมาก แล้วรู้สึกเงียบเหงาเมื่อต้องกลับบ้านตามลำพัง
12. ต่างกันกับวงสนทนาคุณภาพที่โอบอุ้มเราไว้แม้เราจะกลับไปอยู่ตามลำพังอีกหน แต่เรารู้สึก
เสมอว่ามีคนที่ห่วงใยเราและพร้อมจะปลอบโยนเราเสมอ
13. การคุยที่เนิ่นนานอย่างลึกซึ้งอาจมีเสียงหัวเราะน้อย แต่กลับทำให้เราเข้าถึงความสุขที่แท้--
ซึ่งไม่จำเป็นต้องหัวเราะ
14. อย่าได้กังวลว่ามีเพื่อนน้อย จงกังวลว่าไม่มีเพื่อนแท้
15. จะรู้ได้อย่างไรว่าใครเป็น "เพื่อนแท้" ไม่ยากเลย หากเรามีคนเช่นนั้นในชีวิต เราจะรู้สึกขอบคุณ
ที่มีเขา และเขาเองก็มักขอบคุณที่มีเรา ในชีวิตเราอาจพบคนเช่นนี้แค่ไม่กี่คน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
แจกันสวยๆ ไม่ได้ต้องการดอกไม้ทั้งทุ่งมาประดับ หากต้องการดอกไม้ที่เหมาะกับแจกันนั้นต่างหาก
เมื่อพบแล้ว ดอกไม้จะทำให้แจกันสวยขึ้น ขณะเดียวกัน-แจกันก็จะทำให้ดอกไม้สวยขึ้นเช่นกัน

Cr : นิ้วกลม
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 8:02 pm

. ( 17 )


*เรื่องสั้น*

……อาสาพาไปส่ง ……

โดย Amanda Medcalf จากหนังสือสรรสาระ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2555
รวบรวมโดย กอบกิจ ครุวรรณ

ตอนที่ฉันย้ายจากแคนเบอร์รา (Canberra) มาเมลเบิร์น (Melbourne) เมื่องใหม่ของฉัน
ช่างใหญ่โตและไม่เป็นมิตร มิหนำซ้ำการตรวจแมมโมแกรม (mammogram) ประจำปีก็พบเนื้อเยื่อ
น่าสงสัยในเต้านมข้างหนึ่ง ฉันต้องเดินทางไปที่แผนกมะเร็งวิทยาของโรงพยาบาลรอยัล เมลเบิร์น

นั่นเป็นความท้าทายเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ฉันกำลังเผชิญอยู่ (ฉันจะต้องตัดเต้านมทิ้งในที่สุด)
เรื่องตั้งท่าไม่ค่อยดีตั้งแต่เริ่มแรก ความที่ฉันไม่มีรถ ไม่รู้จักเมือง จึงต้องพึ่งรถประจำทางอยู่ 2 สาย
เพื่อเดินทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แม้ฉันจะเผื่อเวลาไว้มาก แต่ในไม่ช้าก็เห็นว่าฉันจะไปสายเพราะ
ขึ้นรถประจำทางผิด ฉันลงจากรถ ยืนบนทางเท้าโดยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จะไปที่ไหนต่อ ฉันมองไป
สบตาหญิงแปลกหน้าคนหนึ่งซึ่งกำลังจะเดินผ่านฉันไป น่าประหลาดนัก แทนที่เธอจะเดินต่อ กลับหยุด
ถามว่าฉันเป็นอะไรหรือไม่ ฉันตั้งต้นอธิบายสถานการณ์ของตัวเองให้เธอฟังและน้ำตาก็เริ่มไหล

ภายในไม่กี่นาที ปัญหาก็ยกออกจากอกฉัน เมื่อหญิงใจดีคนนั้นชี้ไปที่ป้ายรถฝั่งตรงข้าม
ซึ่งรถประจำทางจะพาฉันกลับเข้าเมืองไปถึงที่นัดหมาย

ระหว่างนั่งรอรถ ฉันรู้สึกซึ้งใจที่มีคนเต็มใจช่วย แล้วฉันก้ได้ยินเสียงแตรรถดังอยู่ใกล้ ๆ
พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นรถคันหนึ่งกับเพื่อนใหม่ของฉันกำลังกวักมือเรียกให้ขึ้นรถ เธอกลับมารับฉัน
ไปส่งที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่อีกฟากของเมือง

ฉันพูดอะไรไม่ออก ความเอื้อเฟื้อที่ไม่คาดคิดจากคนที่เดินผ่านช่างเป็นของขวัญน่าชื่นใจ
พอฉันลงรถหน้าโรงพยาบาลและหันไปขอบคุณ เธอยิ้มแล้วบอกฉันว่า อย่าสูญเสียความศรัทธา
เพราะทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น

**************************
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 8:05 pm

( 18 )

เขาโง่ .. ไม่ได้แปลว่า .. เขาตาบอด
เขาดี .. ไม่ได้แปลว่า .. จะยอมให้เธอ .. รังแก
คนเรา.. บางครั้งอาจคล้ายพริก สีสวยแต่มี .. โทสะ
เหมือน .. ผักกาดขาว ซับซ้อนกว่าจะ .. เข้าถึงใจ
เหมือน .. ดอกบัว กว่าจะเห็นเม็ดได้ก็ต้องรอให้กลีบร่วงหมดเสียก่อน
บางครั้ง .. แสร้งโง่บ้าง แสร้งงงบ้าง แสร้งไม่รู้เรื่องบ้าง .. ก็ไม่เป็นไร
อยู่ง่าย .. คิดง่าย .. อาจสบายกว่า .. คิดลึก
บางครั้ง ..
รู้มาก เค้นมาก เข้าใจมาก
อาจทำให้ยิ่งเจ็บปวด เสียใจ ท้อแท้
ไม่มีใคร .. โง่มากกว่าใคร
และไม่มีใคร .. ฉลาดไปมากกว่าใคร
เพราะบางครั้ง .. ที่เขาแสร้งโง่
เพราะเขาไม่อยากให้เรื่องบานปลาย
เพราะบางครั้ง .. ที่เขาแสร้งโง่
เพราะเขาไม่อยากบอกความจริงให้คุณอับอาย
เพราะบางครั้ง .. ที่เขาแสร้งโง่
เพราะเขาไม่อยากถือสาหาความ
เพราะบางครั้ง .. ที่เขาแสร้งโง่
เพราะเขายังอยากถนอมความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน ..
เพราะบางครั้ง .. ที่เขาแสร้งโง่
เพราะเขายังอยากให้ .. อภัย
ยังมี .. เยื่อใย
คนทำดี .. ย่อม .. ได้ดี
คนโง่ .. มักมี .. วาสนา

Cr. นุสนธิ์บุคส์
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 9:01 pm

( 19 )


บางที...อาจหลงลืมไป

คนสองคนที่อยู่ด้วยกันมาสักระยะ จากคนไกลก็กลายมาเป็นคนใกล้ตัวได้
แต่บางทีก็อยู่ใกล้จนมองไม่เห็นว่า เมื่อก่อนเคยพูดกันดีกว่านี้
เคยเกรงใจกันมากกว่านี้ เคยใส่ใจกันเยอะกว่านี้ ชินกันจนลืมให้เวลา
ลืมให้คุณค่ากับอีกคน เพราะคิดว่าตื่นมาพรุ่งนี้ก็เจอ กลับบ้านไปเขาก็ไม่ได้
หายไปไหน เลยมองอะไรที่มันไกลตัวไว้ก่อน มองว่างานมันต้องรีบทำ
มองว่า "คนอื่น" น่ะต้องเกรงใจ มองว่า รอให้ว่างหน่อย ค่อยหาเวลาให้ก็ได้
คนใกล้ๆ รู้สึกยังไง เครียดแค่ไหน ไม่ได้สังเกตเห็นเท่าไหร่เลย
ทั้งที่เราควรเกรงใจกับคนใกล้ตัวที่สุด ควรหยุดมองจอ แล้วมามองหน้ากันได้แล้ว
เงินทองที่หามายังไม่ทำให้หายเหนื่อยได้เท่า คำพูดง่ายๆ ว่า "เหนื่อยมากไหมวันนี้"
เพราะในวันที่เราทุกข์ เราไม่สบาย เรามองหาคนที่จะมารับฟังเรื่องราวของเรา
มันกลับไม่ใช่คนไกลตัวที่ไหน แต่เป็นคนใกล้ๆ ที่เราลืมให้คุณค่ากับเขามานาน
วันนี้ถ้ายังมีโอกาสก็กลับไปกอดเขาหน่อย กลับไปถามให้ชื่นใจสักหน่อยว่าเหนื่อยไหม
เพราะถ้าเรายังหลงลืมที่จะดูแลคนใกล้ๆ เขาก็อาจกลายเป็นคนไกลได้เหมือนกัน
มีกันอยู่แค่นี้ รักกัน ดูแลกันให้ดีนะ..🌻🤍
..................................................................................
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ จันทร์ ส.ค. 19, 2024 9:07 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ส.ค. 19, 2024 9:05 pm

( 20 )


“เฒ่าแล้วนะ”

เลิกทำตัว..เป็นเด็กเอาแต่ใจ อายุมากขึ้น.. ภาวะทางอารมณ์
ความคิด, สติ ก็..ต้องโตตาม เริ่มจาก..รับฟังความคิดคนอื่นบ้าง
แม้..สิ่งได้ยินอาจขัดหู ขัดใจ แต่..ถ้ามันจริง ก็ต้องรับให้ได้
แก่ขึ้นทุกวัน ... แต่.. ทำไม “ใจบางลง” ความอดทนต่ำ..เก็บความรู้สึกไม่ได้
ใช้อารมณ์, ใช้ความรุนแรง แก้ปัญหา แล้วคิดไปเองว่า ... ยิ่งแรง .. ยิ่งร้าย
แล้ว.. คนจะ “เกรงใจ” บอกเลย ไม่จริง..!! คนที่นิ่ง, ไม่แสดงออกว่า...
กำลังคิดอะไร..? ส่วนใหญ่คน.. จะเกรงใจมากกว่า …… เสียงที่ ”ดังที่สุด”
คือ..เสียงของ “ความเงียบ” ไม่ใช่..เสียงโวยวาย ใส่อารมณ์
เหมือน “คนมีปม” ที่พยายามปกปิด พอโดนสะกิด ก็..ทนไม่ได้

“โตแล้วนะ”

ผ่านโลกมามาก ...ยัง..“เก็บความรู้สึกไม่ได้” แล้ว.. จะอยู่ยังไง, ในสังคม
มีแต่..คนฉลาดน้อย เท่านั้น ที่คิดว่า ... ก้าวร้าว.. แปลว่า “เก่ง”
ปากจัด.. แปลว่า “กล้า” ตอบโต้.. ด้วยความรุนแรง แล้ว..จะดูเป็นคน “มั่นใจ”
“ตัวแม่” ของแท้..!! ต้อง...สตรอง, จากข้างใน ไม่ต้องเหวี่ยง, วีน, ให้เสียโปรไฟล์
ไม่แลก คือ “ไม่ให้ราคา” ไม่ตอบโต้ต่างหาก ... ที่แปลว่า ... ไม่แคร์.....!!!
ตอบกลับโพส