Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ยิ่งใหญ่ ท่านออกเดินทางจาก Princeton ด้วยรถไฟ
เมื่อคนตรวจตั๋วเดินมาตรวจถึงที่นั่ง ท่าน Albert Einstein รีบหาตั๋วแต่หาไม่พบ เขาหาในกระเป๋ากางเกง
กระเป๋าเสื้อ กระเป๋าเดินทาง แต่ไม่พบ เขามองหาไปรอบ ๆ เพื่อมองหาอีกครั้งแต่ก็ไม่เจอ สีหน้าเป็นกังวล
อย่างมาก คนตรวจตั๋วเห็นอย่างนั้นจึงพูดว่า "ด็อกเตอร์ครับ ผมจำท่านได้ ทุกคนจำท่านได้ รู้ว่าท่านเป็นใคร
ไม่ต้องกังวลเรื่องตั๋วหรอกครับ เราเชื่อว่าท่านจ่ายค่าตั๋วแล้ว" Albert Einstein ยิ้มและกล่าวขอบคุณพูดว่า
"ผมไม่ได้กังวลเรื่องการชำระค่าโดยสาร ที่ผมหาตั๋วไม่ใช่เพราะกังวลว่าชำระค่าโดยสารหรือยัง ที่ผมกังวล
ก็เพราะว่า ในตั๋วบอกว่าผมกำลังเดินทางไปไหน"
โอกาสฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จะมีการลดราคาครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปี
50-70 เปอร์เซนต์ทีเดียว พร้อมทั้งแจกของขวัญพิเศษเป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้าด้วย เพราะฉะนั้นจึงมีลูกค้า
มากมายมายืนรอ เพื่อเข้าห้างรับของสมนาคุณและซื้อของราคาถูก มีลูกค้าคอยอยู่หน้าห้างตั้งแต่ประตูห้าง
ถึงลานจอดรถเลยทีเดียว ห้างเปิด 10.00 น. แต่ลูกค้ามารอตั้งแต่ 06.00 น. เลย เมื่อถึงเวลาประมาณ 10.00 น.
มีชายคนหนึ่งเดินแทรกขึ้นมาบริเวณหน้าห้าง พยายามแทรกแถวที่ผมรออยู่ขึ้นมา แต่ไม่เป็นผล เพราะเวลา
ที่เข้ามาแทรก ก็จะถูกคนเตะ ตบ ด่า และบอกว่าเป็นมนุษย์ป้า ไม่มีมารยาท อยู่ดี ๆ ก็มาแซงคนอื่นได้อย่างไร
พ่อแม่ไม่สั่งสอน ชายคนนั้นล้มลงแต่ไม่โกรธอะไร ลุกขึ้นปัดทำความสะอาดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เมื่อเรียบ
ร้อยแล้ว ก็เดินหลีกคนแถวนั้นไป ขึ้นไปด้านหน้าอีกหน่อย ขณะที่แทรกเข้าไปในแถวเพื่อไปด้านหน้าห้างก็
โดนเช่นเดิม ถูกผลัก ถูกด่า ถูกตบ ถูกเตะ พร้อมทั้งคำด่าหยาบ ๆ คาย ๆ สารพัด ชายคนนั้นล้มลง จัดเสื้อผ้า
ให้เรียบร้อยอีกครั้ง
ในชนบทแห่งหนึ่ง ลิงถูกจับด้วยกับดักไม้ไผ่ที่มีเนื้อมะพร้าวอยู่ตรงกลางเป็นเหยื่อล่อ ลิงจะเอามือล้วง
มะพร้าว จึงเอามือล้วงมะพร้าวเข้าไปในกับดัก แต่เอามือออกไปไม่ได้เพราะติดกับดัก เพราะลิงไม่ยอมปล่อย
เนื้อมะพร้าวที่กำอยู่ มันไม่สามารถดึงมือออกมาได้
ลิงจะเป็นอิสระทันทีแค่ปล่อยมือจากเนื้อมะพร้าวเท่านั้นเลย แต่ลิงไม่ต้องการปล่อย มันเลยถูกมนุษย์
ซึ่งเป็นคนใส่เนื้อมะพร้าวในกับดักจับโดยง่าย
ลิงไม่สามารถเป็นอิสระได้ถ้ามันไม่เลือกจะปล่อยมือจากมะพร้าวที่มันกำอยู่ มันต้องเลือกเอง
นักประดิษฐ์ดินสอ นำดินสอมาวางต่อหน้าก่อนบรรจุกล่อง เขาพูดกับดินสอทั้งหลายว่า "มี 4 สิ่งที่
ดินสอทุกแท่งต้องรู้ไว้ก่อนที่จะไปทำประโยชน์แก่โลก ต้องจำไว้ดี ๆ อย่าลืม ดินสอทุกแท่งจะได้เป็นดินสอที่ดีที่สุด"
1. ดินสอทุกแท่งสามารถทำสิ่งใหญ่ได้หลายอย่าง แต่ต้องอยู่ในมือมนุษย์
2. ดินสอทุกแท่งจะมีประสบการณ์ที่เจ็บปวด ถูกเหลาให้คมเสมอ ดินสอทุกแท่งต้องยอมใช้เหลา เพื่อเป็นดินสอที่ดี
3. ดินสอทุกแท่งอาจเขียนผิดหรือถูกก็ได้
4. ดินสอทุกแท่งอย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไส้ดินสอ ดูแลไส้ดินสออย่างดี เพราะเป็นเงื่อนไขที่จะเขียนได้ดีตลอดไป
ดินสอทุกแท่งจงจำไว้ สัญญาจะทำตามทั้ง 4 ข้อนี้ จะกลายเป็นดินสอที่ดีที่สุด
มีพี่น้อง 2 คนอาศัยอยู่บนตึกสูง 80 ชั้น วันหนึ่งทั้ง 2 กลับบ้าน เผอิญลิฟท์เสียจำเป็นต้องใช้บันได หลังจาก
เดินมาได้ 20 ชั้น ทั้ง 2 หอบและเหนื่อย เขาทั้ง 2 ตัดสินใจทิ้งกระเป๋าไว้ที่บันไดแล้วเดินต่อไป เมื่อทั้ง 2 เดินมาถึง
ชั้นที่ 40 เขาเริ่มโกรธ โมโห และทะเลาะกัน ทั้ง 2 ฝืนเดินต่อไปจนถึงชั้นที่ 60 เขาทั้ง 2 คิดว่าอีก 20 ชั้นเท่านั้นที่
จะถึงจุดหมาย เขาหยุดทะเลาะกันและเดินต่อไปเงียบๆ
ในที่สุดทั้ง 2 ก็มาถึงประตูหน้าห้องชั้นที่ 80 ทั้ง 2 มองหน้ากัน เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเปิดประตูห้อง
แต่ไม่มีใครเปิดประตู และพูดพร้อมกันว่าลืมกุญแจไว้ในกระเป๋าชั้นที่ 20
ชายชราขายตุ๊กตาในตลาดที่กรุงแบกแดด มีคนมาซื้อตุ๊กตาและให้เหรียญปลอมเขา ชายชราเห็นแล้ว
ไม่ได้โกรธ และว่าอะไร พร้อมกับภาวนาขอพระเจ้าให้อภัยคนที่ให้เหรียญปลอมด้วย เขาคิดว่าบางทีเขาอาจ
ไม่มีเงินมากพอ บางทีเขาอยากได้ตุ๊กตาไปให้หลาน ๆ ก็ได้
ต่อมาคนขายตุ๊กตาตายไปยืนอยู่หน้าประตูสวรรค์ เขาสวดว่า
"ข้าแต่พระเจ้าผมเป็นคนบาป ผมทำผิดมากมาย ผมไม่ดีไปกว่าคนที่เอาเหรียญปลอมมาให้ผม
ผมขออภัยพระองค์ด้วย"
ทันใดนั้นสวรรค์ก็เปิดออก และมีเสียงออกมาจากสวรรค์ว่า
"เราควรอภัยให้เจ้าดีมั้ย เราจะตัดสินคนไม่เคยตัดสินคนอื่นได้อย่างไร ไปสวรรค์ได้"