“ จิบชา “ โดย โอวตี๋ ( ตอนที่ 1 -12 )
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 14, 2024 12:21 am
โดย โอวตี๋
เนื้อหาทั้งหมด (35) ตอน
โดย โอวตี๋
ตอนที่ (1)
ซิสเตอร์สามรูปสามคณะถึงแก่กรรมโดยพร้อมเพรียง และทุกคนก็ได้ไปสวรรค์ แต่ทว่าหลังจาก
ได้ตรวจบัญชีอย่างถ้วนถี่แล้ว นักบุญเปโตรก็ขออภัยว่า โดยแท้จริงแล้ว ยังไม่ถึงเวลาที่ซิสเตอร์ทั้งสาม
จะถึงแก่กรรมและเข้าสวรรค์ ดังนั้น ท่านจึงขอให้ซิสเตอร์ทั้งสามลงไปเกิดใหม่ และเพื่อเป็นการไถ่โทษ
ความผิดพลาดของท่าน ท่านจึงอนุญาตให้ซิสเตอร์แต่ละรูปเลือกเกิดได้ตามใจ
"ซิสเตอร์จะเกิดเป็นอะไร" ท่านถามซิสเตอร์รูปแรก
"ดิฉันขอเกิดเป็นดอกไม้" เธอตอบ พลางช้อนสายตาสู่ที่ประทับของพระเป็นเจ้าที่แลเห็นอยู่ลิบ ๆ
โน้น "เพื่อว่าจะได้ส่งกลิ่นหอมอยู่ ณ แท่นบูชาของพระองค์ทุกวันคืน"
นักบุญเปโตรผงกศีรษะ อืม จิตตารมณ์น่าชมเชย เดี๋ยวต้องไปกล่าวชมนักบุญผู้ตั้งคณะเสียหน่อย
แล้วก็หันมาถามซิสเตอร์รูปที่สองว่า
"ซิสเตอร์ล่ะครับ อยากเกิดเป็นอะไร"
"ดิฉันขอเกิดเป็นตะเกียงตู้ศีล"
ซิสเตอร์รูปที่สองตอบ เธอพริ้มตาดุจเข้าสู่ห้วงภวังค์อันสุดลึก "เพื่อจะได้อยู่เฝ้าใกล้ชิดพระองค์ผู้เป็น
จอมใจของดิฉันอย่างไม่คลาดคลา"
นี่ก็น่าชม นักบุญเปโตรผงกศีรษะหงึกหงัก คณะนี้ก็มีจิตตารมณ์ไม่เบา ท่านหันไปถามซิสเตอร์
รูปสุดท้ายว่า "แล้วซิสเตอร์ล่ะครับ"
ซิสเตอร์รูปสุดท้าย (ซึ่งอยู่คณะที่ผู้น้อยมิอาจออกนามได้ มิกล้า มิกล้าเล่นจริง ๆ) ตอบด้วยทีท่า
เอียงอายว่า
"อยากเป็นพระคัมภีร์ค่ะ"
นักบุญเปโตรงง ท่านอึ้งไปพักใหญ่ ที่สุดก็ถามว่า "ทำไมล่ะ"
"คือ... " ซิสเตอร์เขิน ดึงแขนเสื้อตัวเอง
"พระสงฆ์ก็คือผู้แทนของพระเยซูเจ้าใช่ไหมคะ"
"ใช่" ท่านตอบ
"แล้วทีนี้.." ใบหน้าเธอแดงซ่าน "ก็....เวลาที่อ่านพระคัมภีร์เสร็จพระสงฆ์ก็...จูบพระคัมภีร์นี่คะ"
ขี้เมานายหนึ่งสิ้นใจและถูกส่งไปอยู่ในนรก แต่เขาพบว่านรกช่างเย็นสบายและอบอุ่นเหลือเกิน
เขาแปลกใจมาก คิดไปว่าตนเองคงถูกส่งมาอยู่ในสวรรค์แน่ ๆ แล้ว
"คุณแน่ใจหรือครับว่าที่นี่คือนรก?" เขาถามสมาชิกยมโลกผู้มาอยู่ก่อน
"คุณพ่อที่วัดผมก็พูดอยู่บ่อย ๆ ว่า นรกมันร้อน"
"เออ ใช่แต่ก่อนมันร้อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ร้อนแล้วล่ะ" สมาชิกเก่าตอบ
"เมื่ออาทิตย์ก่อนมีพวกอเมริกันถูกส่งมาที่นี่กลุ่มหนึ่ง พวกเขาเอาอุปกรณ์เครื่องทำความร้อนกับ
แอร์คอนดิชั่นมาติดไว้ทั่วเลย"
ชายคนหนึ่งทำความดีมาตลอดชีวิต เมื่อตาย เขาก็ได้เข้าสวรรค์ ที่นั้น นักบุญเปโตรยิ้ม
ต้อนรับด้วยทีท่าเหมือนกับว่ารอคอยเขาอยู่นานแล้ว ท่านถามเขาด้วยน้ำเสียงการุณย์ว่าต้องการ
อะไรบ้างไหม ชายคนนั้นตอบว่าเขาหิวมาก อยากจะทานอาหาร และอยากจะมองดูทิวทัศน์ให้ทั่ว ๆ
นักบุญเปโตรหายไปพักหนึ่ง ก็กลับมายื่นแซนด์วิชให้เขาคู่หนึ่ง พร้อมกับกล้องส่องทางไกลอีกอัน
เขารับแซนด์วิชมากัด รู้สึกว่ารสชาติไม่ค่อยอร่อยนัก ขณะที่เคี้ยวแซนด์วิชในปาก เขาก็ยกกล้องขึ้น
ส่องมองกวาดไปทั้งบนสวรรค์ บนโลก และในนรก และที่นรกนั่นเอง เขาเห็นว่ามีผู้คนเมืองแน่น ต่าง
นั่งล้อมรอบโต๊ะอาหารสรวลเสเฮฮากันครึกครื้น เขาซูมภาพให้มองเห็นชัดๆ ปรากฏว่าอาหารที่วาง
อยู่นโต๊ะเหล่านั้นล้วนแต่เป็นชนิดเลิศรส อย่างไข่ปลาคาเวียร์ หูฉลามตุ๋นน้ำแดง และมีกระทั่งยำ
ปลาดุกฟูของโปรดของเขาเสียด้วย เขารู้สึกฝืดคอกับแซนด์วิชในปากขึ้นมาทันใด หันไปถาม
นักบุญเปโตรว่า
"ทำไมพวกที่อยู่ในนรกมีอาหารอร่อย ๆ ทานกันมากมายอย่างนั้นล่ะครับ แต่ผมได้ขึ้นสวรรค์
ทั้งที มีแซนด์วิชให้แค่คู่เดียว"
นักบุญเปโตรยิ้มอย่างขอโทษขอโพย แล้วบอกเขาว่า
"แซนด์วิชนั่นฝีมือเราเอง คือว่า บนสวรรค์นี้มีเราแค่สองคน ก็เลยไม่ต้องจ้างแม่ครัว"
ซาตานได้เรียกประชุมปีศาจลูกน้องทั้งหมด เพื่อหาวิธีการที่จะล่อลวงมนุษย์ให้มาลงนรกมาก ๆ
เพราะว่าในระยะที่ผ่านมา ผู้คนที่ลงนรกร่อยหรอน้อยลงอย่างน่าตกใจ สมุนตนหนึ่งจึงยกมืออาสาว่า
"ผมจะไปล่อลวงให้พวกมนุษย์เชื่อว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง พวกเขาจะได้พากันทำความชั่วอย่าง
เบิกบานสำราญใจ"
"ไม่ได้ผลหรอก" จอมซาตานส่ายหน้า "วิธีนี้ลองมาแล้ว"
สมุนอีกตนยกมือพูด
"งั้นผมเอง ผมรู้ว่าพวกมนุษย์นี่ชอบเชื่อในสิ่งที่ตรงกันข้าม ผมจะไปโฆษณาป่าวประกาศ
ให้ทั่วเลยว่านรกมีอยู่จริง"
"ไม่ได้ผลหรอก" ซาตานส่ายหน้าเช่นกัน "นี่ก็ลองมาแล้ว"
เงียบงันกันไปทั้งนรก ในที่สุดก็มีสมุนตนหนึ่ง ลุกขึ้นยืน กล่าวว่า
"ผมรู้วิธีแล้ว"
ซาตานมองสมุนตนนั้นถามว่า "ทำยังไง"
สมุนตนนั้นยืดอก "ผมจะไปบอกพวกมนุษย์อย่างธรรมดาๆ นี่ล่ะว่า ที่อยู่ทุกวันนี้น่ะดีแล้ว
ไม่ต้องรีบร้อนที่จะเปลี่ยนอะไรหรอก"
ซาตานตาสว่างในทันที "เข้าท่ามาก" แล้วก็สั่งให้สมุนปีศาจอื่นช่วยกันขึ้นมายังโลก
เพื่อดำเนินแผนร้ายกาจดังกล่าว
และเป็นการบังเอิญที่เราได้ทราบแผนการนี้ จึงรีบนำมาบอกให้ทุกท่านได้ทราบทันที
โปรดติดตามตอนต่อไป