หน้า 1 จากทั้งหมด 1

“ จิบชา “ โดย โอวตี๋ ( ตอนที่ 1 -12 )

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 14, 2024 12:21 am
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋
เนื้อหาทั้งหมด (35) ตอน

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋
ตอนที่ (1)

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : ทำไมล่ะ 💠
ซิสเตอร์สามรูปสามคณะถึงแก่กรรมโดยพร้อมเพรียง และทุกคนก็ได้ไปสวรรค์ แต่ทว่าหลังจาก
ได้ตรวจบัญชีอย่างถ้วนถี่แล้ว นักบุญเปโตรก็ขออภัยว่า โดยแท้จริงแล้ว ยังไม่ถึงเวลาที่ซิสเตอร์ทั้งสาม
จะถึงแก่กรรมและเข้าสวรรค์ ดังนั้น ท่านจึงขอให้ซิสเตอร์ทั้งสามลงไปเกิดใหม่ และเพื่อเป็นการไถ่โทษ
ความผิดพลาดของท่าน ท่านจึงอนุญาตให้ซิสเตอร์แต่ละรูปเลือกเกิดได้ตามใจ
"ซิสเตอร์จะเกิดเป็นอะไร" ท่านถามซิสเตอร์รูปแรก
"ดิฉันขอเกิดเป็นดอกไม้" เธอตอบ พลางช้อนสายตาสู่ที่ประทับของพระเป็นเจ้าที่แลเห็นอยู่ลิบ ๆ
โน้น "เพื่อว่าจะได้ส่งกลิ่นหอมอยู่ ณ แท่นบูชาของพระองค์ทุกวันคืน"
นักบุญเปโตรผงกศีรษะ อืม จิตตารมณ์น่าชมเชย เดี๋ยวต้องไปกล่าวชมนักบุญผู้ตั้งคณะเสียหน่อย
แล้วก็หันมาถามซิสเตอร์รูปที่สองว่า
"ซิสเตอร์ล่ะครับ อยากเกิดเป็นอะไร"
"ดิฉันขอเกิดเป็นตะเกียงตู้ศีล"
ซิสเตอร์รูปที่สองตอบ เธอพริ้มตาดุจเข้าสู่ห้วงภวังค์อันสุดลึก "เพื่อจะได้อยู่เฝ้าใกล้ชิดพระองค์ผู้เป็น
จอมใจของดิฉันอย่างไม่คลาดคลา"
นี่ก็น่าชม นักบุญเปโตรผงกศีรษะหงึกหงัก คณะนี้ก็มีจิตตารมณ์ไม่เบา ท่านหันไปถามซิสเตอร์
รูปสุดท้ายว่า "แล้วซิสเตอร์ล่ะครับ"
ซิสเตอร์รูปสุดท้าย (ซึ่งอยู่คณะที่ผู้น้อยมิอาจออกนามได้ มิกล้า มิกล้าเล่นจริง ๆ) ตอบด้วยทีท่า
เอียงอายว่า
"อยากเป็นพระคัมภีร์ค่ะ"
นักบุญเปโตรงง ท่านอึ้งไปพักใหญ่ ที่สุดก็ถามว่า "ทำไมล่ะ"
"คือ... " ซิสเตอร์เขิน ดึงแขนเสื้อตัวเอง
"พระสงฆ์ก็คือผู้แทนของพระเยซูเจ้าใช่ไหมคะ"
"ใช่" ท่านตอบ
"แล้วทีนี้.." ใบหน้าเธอแดงซ่าน "ก็....เวลาที่อ่านพระคัมภีร์เสร็จพระสงฆ์ก็...จูบพระคัมภีร์นี่คะ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠
ขี้เมานายหนึ่งสิ้นใจและถูกส่งไปอยู่ในนรก แต่เขาพบว่านรกช่างเย็นสบายและอบอุ่นเหลือเกิน
เขาแปลกใจมาก คิดไปว่าตนเองคงถูกส่งมาอยู่ในสวรรค์แน่ ๆ แล้ว
"คุณแน่ใจหรือครับว่าที่นี่คือนรก?" เขาถามสมาชิกยมโลกผู้มาอยู่ก่อน
"คุณพ่อที่วัดผมก็พูดอยู่บ่อย ๆ ว่า นรกมันร้อน"
"เออ ใช่แต่ก่อนมันร้อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ร้อนแล้วล่ะ" สมาชิกเก่าตอบ
"เมื่ออาทิตย์ก่อนมีพวกอเมริกันถูกส่งมาที่นี่กลุ่มหนึ่ง พวกเขาเอาอุปกรณ์เครื่องทำความร้อนกับ
แอร์คอนดิชั่นมาติดไว้ทั่วเลย"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : คนน้อย 💠
ชายคนหนึ่งทำความดีมาตลอดชีวิต เมื่อตาย เขาก็ได้เข้าสวรรค์ ที่นั้น นักบุญเปโตรยิ้ม
ต้อนรับด้วยทีท่าเหมือนกับว่ารอคอยเขาอยู่นานแล้ว ท่านถามเขาด้วยน้ำเสียงการุณย์ว่าต้องการ
อะไรบ้างไหม ชายคนนั้นตอบว่าเขาหิวมาก อยากจะทานอาหาร และอยากจะมองดูทิวทัศน์ให้ทั่ว ๆ
นักบุญเปโตรหายไปพักหนึ่ง ก็กลับมายื่นแซนด์วิชให้เขาคู่หนึ่ง พร้อมกับกล้องส่องทางไกลอีกอัน
เขารับแซนด์วิชมากัด รู้สึกว่ารสชาติไม่ค่อยอร่อยนัก ขณะที่เคี้ยวแซนด์วิชในปาก เขาก็ยกกล้องขึ้น
ส่องมองกวาดไปทั้งบนสวรรค์ บนโลก และในนรก และที่นรกนั่นเอง เขาเห็นว่ามีผู้คนเมืองแน่น ต่าง
นั่งล้อมรอบโต๊ะอาหารสรวลเสเฮฮากันครึกครื้น เขาซูมภาพให้มองเห็นชัดๆ ปรากฏว่าอาหารที่วาง
อยู่นโต๊ะเหล่านั้นล้วนแต่เป็นชนิดเลิศรส อย่างไข่ปลาคาเวียร์ หูฉลามตุ๋นน้ำแดง และมีกระทั่งยำ
ปลาดุกฟูของโปรดของเขาเสียด้วย เขารู้สึกฝืดคอกับแซนด์วิชในปากขึ้นมาทันใด หันไปถาม
นักบุญเปโตรว่า
"ทำไมพวกที่อยู่ในนรกมีอาหารอร่อย ๆ ทานกันมากมายอย่างนั้นล่ะครับ แต่ผมได้ขึ้นสวรรค์
ทั้งที มีแซนด์วิชให้แค่คู่เดียว"
นักบุญเปโตรยิ้มอย่างขอโทษขอโพย แล้วบอกเขาว่า
"แซนด์วิชนั่นฝีมือเราเอง คือว่า บนสวรรค์นี้มีเราแค่สองคน ก็เลยไม่ต้องจ้างแม่ครัว"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : แผนร้ายกาจ 💠
ซาตานได้เรียกประชุมปีศาจลูกน้องทั้งหมด เพื่อหาวิธีการที่จะล่อลวงมนุษย์ให้มาลงนรกมาก ๆ
เพราะว่าในระยะที่ผ่านมา ผู้คนที่ลงนรกร่อยหรอน้อยลงอย่างน่าตกใจ สมุนตนหนึ่งจึงยกมืออาสาว่า
"ผมจะไปล่อลวงให้พวกมนุษย์เชื่อว่าสวรรค์ไม่มีอยู่จริง พวกเขาจะได้พากันทำความชั่วอย่าง
เบิกบานสำราญใจ"
"ไม่ได้ผลหรอก" จอมซาตานส่ายหน้า "วิธีนี้ลองมาแล้ว"
สมุนอีกตนยกมือพูด
"งั้นผมเอง ผมรู้ว่าพวกมนุษย์นี่ชอบเชื่อในสิ่งที่ตรงกันข้าม ผมจะไปโฆษณาป่าวประกาศ
ให้ทั่วเลยว่านรกมีอยู่จริง"
"ไม่ได้ผลหรอก" ซาตานส่ายหน้าเช่นกัน "นี่ก็ลองมาแล้ว"
เงียบงันกันไปทั้งนรก ในที่สุดก็มีสมุนตนหนึ่ง ลุกขึ้นยืน กล่าวว่า
"ผมรู้วิธีแล้ว"
ซาตานมองสมุนตนนั้นถามว่า "ทำยังไง"
สมุนตนนั้นยืดอก "ผมจะไปบอกพวกมนุษย์อย่างธรรมดาๆ นี่ล่ะว่า ที่อยู่ทุกวันนี้น่ะดีแล้ว
ไม่ต้องรีบร้อนที่จะเปลี่ยนอะไรหรอก"
ซาตานตาสว่างในทันที "เข้าท่ามาก" แล้วก็สั่งให้สมุนปีศาจอื่นช่วยกันขึ้นมายังโลก
เพื่อดำเนินแผนร้ายกาจดังกล่าว
และเป็นการบังเอิญที่เราได้ทราบแผนการนี้ จึงรีบนำมาบอกให้ทุกท่านได้ทราบทันที

โปรดติดตามตอนต่อไป

Re: “ จิบชา “

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 14, 2024 12:26 am
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (2)

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠
เมื่อชายชราแสนตระหนี่สิ้นชีวิตลง และพบว่าวิญญาณของตนนั้นถูกนำตัวไปนรก เขาร้อง
อุทธรณ์ว่าตนเองนั้นสมควรจะได้ไปสวรรค์
"เจ้ากระทำคุณความดีอะไรมาบ้างถึงสมควรจะได้ไปสวรรค์?"
เทวดาถาม
"คุณความดีหรือ?" ชายชราร้องขึ้น "โอ้ย...ข้าฯทำไว้มากมาย ในปี 2520 ข้าฯบริจาคเงิน
ให้สภากาชาด 1 บาท และในปี 2528 ข้าฯก็ถวายเงินใส่ถุงทานสำหรับสร้างโบสถ์ 1 บาท ส่วนใน
ปี 2534 ข้าฯก็บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 1 บาท"
"แค่นั้นเรอะ?" เทวดาถาม
"ใช่...นั่นแหละทั้งหมดที่ข้าฯทำ" ชายชราตอบด้วยความภาคภูมิใจ "ท่านคิดยังไง?"
"เราคิดว่าเจ้าเอาเงินสามบาทของเจ้าคืนไป และไปลงนรกดีกว่า"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠
(คุณเคยได้ยินเรื่องนายเกี๊ยมโทรศัพท์ทางไกลบ้างไหม?)
"โอเปอเรเตอร์... จากกรุงเทพฯโทรไปเชียงใหม่คิดนาทีละเท่าไหร่?"
"นาทีละสิบห้าบาทค่ะ" โอเปอเรเตอร์ส่งเสียงหวาน
"อะไรนะ นาทีละสิบห้าบาท อย่างงี้ให้โทรไปนรกซะยังดีกว่า" นายเกี๊ยมหัวเสีย
"ถ้าโทรไปนรก ใช้โทรทางใกล้ได้เลยค่ะ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠
มิสชันนารีท่านหนึ่งเดินทางเข้าไปแพร่ธรรมในท่ามกลามเผ่ามนุษย์กินคน ซึ่งท่านสอนพวกมันว่า
มันเป็นการไม่ถูกต้องที่จะกินเนื้อมนุษย์ด้วยกัน
"ถ้ายังกินเนื้อมนุษย์" มิสชันนารีพูด
"พวกเธอจะไม่ได้ไปสวรรค์"
"เราไม่สนใจว่าจะได้ไปสวรรค์หรือไม่" หัวหน้าเผ่าตอบ
"และเราก็ไม่อาจจะเลิกกินเนื้อมนุษย์ได้"
"ถ้าอย่างนั้นพวกเธอก็จะต้องตกนรก" มิสชันนารีขู่เสียงแข็ง
หัวหน้าเผ่าหันไปปรึกษากับสมาชิกในเผ่าสักครู่หนึ่ง และหันมาถามว่า
"แล้วท่านจะได้ไปสวรรค์หรือไม่?"
"แน่นอน...เราจะไปสวรรค์" มิสชันนารีตอบ
"ถ้าเช่นนั้น พวกเราจะกินท่าน" หัวหน้าเผ่าพูด
"เพราะเมื่อท่านอยู่ในเรา พวกเราก็จะได้ไปสวรรค์ด้วย"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : ตอบหน่อย 💠
หลังจากพูดเรื่องสวรรค์มาตลอดชั่วโมง ซิสเตอร์ก็ถามว่า
"เอาละ ตอบให้ซิสเตอร์ชื่นใจหน่อยสิคะว่า เราต้องทำอย่างไรก่อนถึงจะได้ไปสวรรค์"
"ตายก่อน"

สวรรค์อยู่ในอก
💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠
พระคุณเจ้าได้ขึ้นดอยไปเทศน์ให้ชาวเขาในหมู่บ้านหนึ่งฟัง ท่านเทศน์ถึงเรื่องสวรรค์ว่า
ที่นั่นเป็นที่มีแต่ความสุข และเมื่อเทศน์ถึงนรกก็ว่าที่นั่นเป็นจุดจบของคนบาป ท่านให้สัญลักษณ์
ของสวรรค์ว่าเป็นที่เย็นสบาย ส่วนนรกเป็นที่ร้อนรุ่ม
"เอาล่ะ" พระคุณเจ้าสรุปบทเทศน์
"ไหนบอกพ่อสิว่าพวกลูกอยากไปสวรรค์กันไหม?"
ท่านรู้สึกแปลกใจมาก เมื่อไม่มีใครยกมืออยากไปสักคน
"นี่แสดงว่าพวกลูกอยากไปนรกกันยังงั้นเรอะ?" ท่านร้อง
"ครับ" มีบางเสียงร้องขึ้นมาจากกลุ่มชาวเขา
"ทำไมล่ะ?" พระคุณเจ้าถาม
"นรกมันร้อนจะตายไป"
"ก็เพราะมันร้อนสิครับ พวกเราจึงอยากไป" ชาวดอยคนหนึ่งตอบ
"ถ้าคุณพ่อมาอยู่บนดอยเหมือนพวกเรา คุณพ่อจะเข้าใจครับ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ: ไม่น่าห่วง 💠
หญิงสาวคนหนึ่งมาปรึกษาคุณพ่อเจ้าวัด
"สุรศักดิ์เค้าเรียนคำสอนเตรียมแต่งงานกับหนูจนจะจบคอร์สแล้ว เเต่เค้าไม่ยอมเชื่อ
เรื่องนรกค่ะ"
คุณพ่อมองแล้วตอบ "ไม่ต้องห่วงหรอก ลูกแต่งงานกับเค้าได้ หลังจากแต่งงานแล้ว
เขาก็จะเชื่อเรื่องนี้เองแหละ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠
( ชาถ้วยนี้มิได้มีเจตนาจะเสียดแทงผู้ใด )
คนพุทธกับคนฮินดูเป็นเพื่อนรักกัน เมื่อทั้งสองเสียชีวิตลง ก็ได้ไปสวรรค์ด้วยกัน แต่คนพุทธ
ไปถึงสวรรค์ก่อน เขาจึงบรรยายสวรรค์ให้คนฮินดูฟัง คนฮินดูรู้สึกประทับใจมาก จึงไต่ถามคนพุทธ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น และเมื่อทั้งคู่เดินผ่านห้องโถงนรก คนพุทธก็สั่งคนฮินดูว่า อย่าส่งเสียงดัง
และค่อยๆ ย่องผ่านไป
"ทำไมต้องห้ามส่งเสียงเวลาเดินผ่านนรกด้วยล่ะ?" คนฮินดูถาม
"เอ่อ ก็กันไม่อยากให้พวกนั้นเห็นเราน่ะซิ" คนพุทธอธิบาย
"นรกแห่งนี้เป็นของคนคริสต์ พวกเขาตู่เอาว่า พวกเขาเป็นพวกเดียวที่อยู่ในสวรรค์ ฉันคิดว่า
อย่าให้พวกเขาเห็นเราเลยดีกว่า เดี๋ยวพวกเขาจะเสียใจ"

โปรดติดตามตอนต่อไป

Re: “ จิบชา “

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 17, 2024 8:04 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (3)

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : เหตุเกิดในสวรรค์ 💠

นักบุญเปโตรต้องรับภาระหนักหนาสาหัสอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้พระเป็นเจ้ามีพระประสงค์
ให้จดทะเบียนรายชื่อทุกคนที่อยู่ในสวรรค์ โดยเรียงลำดับก่อนหลังให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
แน่นอนบุคคลแรกที่ท่านเปโตรร้องประกาศหาคืออาดัม แต่ปรากฏว่ามีชายชราหนวดเครายาว
ถึงตาตุ่มสิบคนเห็นจะได้ ก้าวอย่างงก ๆ เงิ่น ๆ ออกมาจากกลุ่มผู้คน แล้วแต่ละคนต่างก็อ้างว่า
ตัวเองคือ อาดัม เปโตรเกาหัวพิจารณาอยู่นาน ก็ไม่รู้ว่าคนไหนกันแน่ที่จะเป็นอาดัมตัวจริง
เพราะต่างก็แก่หง่อม หนวดเคราขาวโพลน มีทีท่าว่าจะเป็นอาดัมกันได้ทั้งนั้น จนปัญญาของ
นักบุญเปโตร
ในที่สุด นักบุญเปโตรจึงหันไปถามนักบุญโทมัส อาไควนัส เพราะเห็นว่าฉลาดปราชญ์เปรื่อง
เขียนหนังสือหนังหาให้นักศึกษาแสงธรรมต้องท่องสอบไว้หลายเล่ม แต่โทมัสก็ส่ายหัวบอกไม่รู้
เหมือนกัน ดังนั้น ท่านนักบุญเปโตรจึงหันไปถามนักบุญอัลฟอนโซ ท่านนักบุญอัลฟอนโซก็บอกไม่รู้
เหมือนกัน และเมื่อนักบุญเปโตรได้ถามใครต่อใครอีกหลายคนก็ไม่รู้ เปโตรแทบจะร้องไห้ เพราะ
เพียงแต่จดชื่อคนแรกยังไม่สามารถจดได้เลย แล้วในสวรรค์มีคนอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ มิโดน
พระเป็นเจ้าดูแย่หรือนี่ แล้วในบัดนั้นเอง นักบุญยวง วีอานเนย์ ก็ขี่ม้าขาวมาช่วย ท่านเดินอาดๆ
ไปหาชายทั้งสิบที่อ้างตัวว่าเป็นอาดัม เลิกหนวดเคราขึ้นดูทีละคนๆ จนครบแล้ว ก็ชี้ไปยังคนที่อยู่
ท้ายแถว บอกนักบุญเปโตรว่า
"คนนี้แหละคืออาดัมตัวจริง"
"ท่านรู้ได้อย่างไร"
นักบุญเปโตรถามด้วยความสงสัย และงงเป็นที่สุด
"ผมเปิดดูพุงทุกคนแล้ว คนนี้ไม่มีสะดือ"
ทั่วทั้งสวรรค์ถึงกับร้อง "อ้อ" ออกมาพร้อมกัน
(มิทราบว่าท่านจะอ้อด้วยหรือไม่...?)

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : ญาติกัน 💠

ศัลยแพทย์นายหนึ่งเกิดหัวใจล้มเหลวขณะกำลังปฏิบัติงาน เขาจึงต้องเข้าสวรรค์ไปทั้ง ๆ ที่
ยังสวมเสื้อกาวน์และมีผ้าคลุมหน้า นักบุญเปโตรจึงบอกเขาว่า
"นี่ คุณ ไปเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อขาวธรรมดาก็พอ ที่นี่ไม่อนุญาตให้ใครมาใส่ชุดหมออย่างนี้"
ศัลยแพทย์จึงเปลี่ยนชุด และออกเดินชมสวรรค์ ขณะนั้น เขาเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่ง
สวมเสื้อกาวน์ และมีผ้าคลุมหน้า
เขาจึงถามนักบุญเปโตรว่า
"นั่นใครครับ ทำไมมีสิทธิ์ใส่เสื้อ กาวน์ ?"
ท่านนักบุญบอกว่า
"อ๋อ นั่นน่ะพระเจ้า พระองค์ท่านแต่งชุดเล่นเป็นหมออย่างนี้มาได้อาทิตย์กว่า ๆ แล้ว"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : ญาติกัน 💠

ศาสนาจารย์ท่านหนึ่งได้ขึ้นสวรรค์ และนักบุญเปโตรได้ให้รถเฟี้ยตท่านคันหนึ่ง ท่านศาสนาจารย์
ดีใจมาก ขับรถคันนั้นท่องสวรรค์อย่างเพลิดเพลิน แต่เพียงชั่วประเดี๋ยว ท่านก็เห็นว่า มีพระสงฆ์คาทอลิก
ผู้หนึ่งขับรถเบนซ์แซงหน้าท่านไป ท่านรีบไปหานักบุญเปโตรและต่อว่าท่าน
ท่านนักบุญเปโตรอธิบายว่า
"พระสงฆ์คาทอลิกยอมสละการมีลูกเมียเมื่ออยู่ในโลก ดังนั้น จึงควรได้รถที่ค่อนข้างหรูหราบ้าง"
ท่านศาสนาจารย์พยักหน้าเข้าใจ และออกไปขับรถท่องสวรรค์ต่อ แต่แล้วท่านก็เห็นอีกว่ารถของ
ท่านถูกแซง คราวนี้เป็นรถโรสรอยด์คันมหึมา และผู้ขับเป็นรับไบชาวยิว
ท่านกระหืดกระหอบไปหานักบุญเปโตรอีก
"ผมเข้าใจนะที่พระสงฆ์คาทอลิกสละการมีลูกเมียแล้วได้ขับรถเบนซ์ แต่รับไบนั่นนะ ตอนอยู่ใน
โลกเขามีทั้งลูกทั้งเมียแล้วยังได้ขับโรสรอยด์อีก..."
ท่านนักบุญเปโตรอธิบายอย่างใจเย็นว่า
"ก็จริง เเต่ท่านอย่าลืมซิว่าเขาเป็นญาติกับนายเรานะ"
"...?"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠

ณ นรกภูมิชั้นใต้ดิน จอมซาตานขึ้นว่าความวิญญาณของบักเถิง จอมซาตานอ่านบัญชีแล้วบอกว่า
"บักเถิง เจ้าตายด้วยอุบัติเหตุตกจากดาดฟ้าคอนโดฯ เพราะแอบปีนดูสาว ๆ อาบน้ำ แต่ไม่เป็นไร
ชะตาเจ้ายังไม่ถึงฆาต ข้าจะให้เจ้ากลับไปเกิดใหม่อีกรอบหนึ่ง อยากเกิดเป็นอะไรล่ะ?"
"รอบนี้ขอผมเกิดเป็นจิ้งจกแล้วกันท่านซาตาน แล้วดูซิว่า หนนี้มันจะตกตึกอีกหรือเปล่า" บักเถิงตอบ

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠

คุณนายแม้นศรีชอบโทรฯ มากวนคุณพ่อดุ่ยขอตอนดึก ๆ เล่าให้ฟังว่าฝันเห็นพระเยซูและแม่พระ
เป็นประจำ นำความเซ็งมาให้คุณพ่อดุ่ยเป็นอันมาก คืนนี้คุณนายแม้นศรีก็โทรฯมาอีกเช่นเคย
"คุณพ่อคะ"เสียงเธอละล่ำละลัก "อิชั้นได้รับการดลใจอีกแล้วค่ะ แม่พระบอกว่าอยากให้อิชั้นไปอยู่
กับพระนางในสวรรรค์ อิชั้นจะทำอย่างไรดีคะ?"
"คุณนายครับ" พ่อดุ่ยตอบด้วยความละเหี่ยใจว่า "ผมว่าแม่พระต้องการเช่นนั้นแน่นอน และถ้าเป็น
ไปได้ ขอให้เป็นคืนนี้เลยก็ยิ่งดีครับ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠

ดำกับขาวเป็นเกลอกัน แต่ทั้งสองนิสัยต่างกันเหมือนชื่อ ขาวเป็นคนดีไม่มีที่ติ ขณะที่ดำเกกมะเรกเกเร
จนหาที่ชมไม่ได้ ทั้งสองมีอันต้องตายไปพร้อมๆ กัน ขาวได้ไปสวรรค์ ขณะที่ดำต้องตกนรก
ดำรู้สึกว่างานในนรกสบายกว่าที่คิด ทุกวันดำจะตื่นแต่เช้า ทำงานแค่ 3 ชั่วโมงแล้วนอนตีพุงสบายไป
วันหนึ่งดำเกิดคิดถึงขาวขึ้นมา จึงหมุนโทรศัพท์ไปเซย์ฮัลโหล
ขาวโอดมาตามสายโทรศัพท์ว่า "อั๊วเหนื่อยจัง ทุกเช้าต้องเข็นพระอาทิตย์ขึ้นฟ้า ตอนเย็นก็ไปดึงลงมา
แล้วโยนดาวขึ้นไปแทน ต้องจับเมฆให้ลอยไป แล้วเทน้ำลงเป็นฝน งานแบบนี้ไม่มีหยุดพักเลย อั๊วเหนื่อยจริงๆ"
ดำฟังเพื่อนบ่นดังนั้น เลยถามว่า "งานมากมายอย่างนี้ แกทำคนเดียวหรือ?"
"ก็ไม่เชิงหรอก แต่บนนี้มีคนแค่สองคนเท่านั้นแหละ" ขาวตอบ
ดำได้ฟังก็ดีใจที่ได้อยู่นรกซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คน

Re: “ จิบชา “

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 17, 2024 8:08 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (4)

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : เหตุเกิดในนรก 💠

ชายคนหนึ่งทำบาปไว้มากมาย ตายลงก็ต้องไปนรกซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ปีศาจในนรกก็ใจดี
ไม่ใช่ย่อย นำตัวเขาเดินชมห้องลงทัณฑ์เเต่ละห้อง เพื่อให้เขาได้เลือกเอาโดยสมัครใจว่าจะอยู่ห้องไหน
ห้องแรกเป็นห้องน้ำเเข็ง ทุกคนที่อยู่ในนั้นตัวแข็งกันหมด นานๆ ที ปีศาจที่เป็นพนักงานประจำห้อง
จะกดปุ่ม "ละลายน้ำแข็ง" แล้วน้ำแข็งก็ละลายจากตัวทุกคน ทุกคนก็คลายจากอาการตัวสั่น ตัวเขียว หายใจ
สะดวกได้พักหนึ่ง แล้วเครื่องทำความเย็นก็จะทำงานต่อไปใหม่ ชายคนนี้มองความเป็นไปทางกระจกหน้า
ห้องแล้วส่ายหัวบอกว่า
"ผมไม่เลือกห้องนี้" ปีศาจจึงพาเขาไปชมอีกห้อง
ห้องที่สองนี้ร้อนราวกับอยู่ในเตาอบ ทุกคนเปลือยเปล่าผิวเกรียมไหม้เหมือนขนมปังที่ถูกปิ้งเกิน 5 นาที
แต่ครั้นถึงช่วงเวลาหนึ่งจะมีเสียงดัง "ปิ๊ง" เหมือนเวลาขนมปังสุกได้ที่แล้วห้องจะเปิดออก ความเย็นจะเคลื่อน
เข้ามาทำให้ทุกคนสดชื่นกันพักหนึ่ง แล้วห้องจะถูกปิด และทุกคนถูกอบต่อไป ชายคนนี้มองแล้วก็ส่ายหน้าแล้ว
บอกกับปีศาจว่า
"ผมไม่เลือกห้องนี้" ปีศาจจึงพาเขาไปห้องสุดท้าย
ห้องนี้เป็นห้องที่ส่งกลิ่นเหม็นมาแต่ไกล ภายในห้องมีน้ำโสโครกซึ่งมีสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ นานาลอยฟ่อง
ผสมปนเปเหม็นเน่าน่าขยะแขยง น้ำเน่านี้สูงเกือบถึงเพดาน ทุกคนที่อยู่ในห้องต้องยืนเขย่งเท้า เชิดคางกัน
เต็มที่ จมูกจึงพ้นจากผิวน้ำได้หวุดหวิด ชายผู้เคราะห์ร้ายมองแล้วสั่นหน้า แต่ก็ไม่มีทางเลือก เขาหันไปสบตา
กับปีศาจแล้วกล่าวด้วยเสียงอ่อยว่า
"ผมอยู่ห้องนี้ก็แล้วกันครับ!"
เขาถูกหย่อนตัวจากเพดานให้ลงไปร่วมกับคนอื่น ๆ
"ก็แค่เมื่อยหน่อยเท่านั้น" เขาคิดอย่างกระหยิ่ม ขณะที่เขย่งเท้ายื่นคอให้พ้นน้ำ
"ดีกว่าห้องที่เป็นน้ำแข็งเป็นเตาอบไม่รู้เท่าไร"
แล้วสักพักต่อมาก็มีเสียงดังมาจากเพดานว่า
"เอาล่ะ นักโทษทั้งหลาย ได้เวลาพักแล้ว ทุกคนนั่งลงได้"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠

(เรื่องนี้เพิ่งเกิดในนรกเมื่อไม่นานมานี้)
สมุน : "มีวิญญาณไม่ยอมถอดเสื้อผ้าปีนต้นงิ้วครับท่าน เราจะทำยังไงดี"
ซาตาน : "มันเป็นใคร ถึงบังอาจขัดคำสั่งข้า"
สมุน : "เธอเป็นนางแบบนู้ดครับ เธอจะยอมถอดเสื้อผ้าก็ต่อเมื่อได้เงินค่าตัวเท่านั้น ให้ถอดฟรี ๆ
เธอไม่ยอมหรอกครับ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠

สัตบุรุษคนหนึ่งถามพ่อเจ้าวัดถึงวิธีการเดินทางในชีวิตหลังความตาย
"การเดินทางในชีวิตหลังความตายเป็นอย่างนี้ คือคนที่ไปสวรรค์จะได้เดินทางนั่งรถเก๋งไป"
พ่อเจ้าวัดอธิบาย
"คนที่ไปไฟชำระจะได้นั่งจักรยานไป ส่วนคนที่ตกนรกต้องเดินไปเอง"
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสัตบุรุษคนนั้นและคุณพ่อเจ้าวัดก็ตายไปในเวลาใกล้เคียงกัน มีรถยนต์
คันงามมารับสัตบุรุษนั้นไปสวรรค์ ระหว่างทางเขาก็เห็นคุณพ่อเจ้าวัดกำลังปั่นจักรยานอยู่
"คุณพ่อครับ ไม่ต้องคิดมากนะครับที่ผมได้นั่งรถยนต์ แต่คุณพ่อต้องปั่นจักรยาน" เขาร้องทัก
"พ่อไม่คิดมากหรอก" คุณพ่อเจ้าวัดหัวเราะเบา ๆ
"มีจักรยานก็ดีแล้ว เพราะเมื่อกี้พ่อเพิ่งปั่นจักรยานผ่านพระสังฆราชที่กำลังเดินตามมา"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : เส้นใหญ่ 💠

พระเยซูเจ้า เคยมอบรายนามผู้ไม่มีสิทธิ์เข้าสวรรค์ไว้กับเปโตร แต่ต่อมาภายหลัง พระองค์สังเกต
เห็นว่า พวกที่มีชื่อในแบล็คลิสต์เดินกันขวักไขว่ในสวรรค์ทั่วไปหมด พระองค์จึงเรียกเปโตรเข้ามาถาม
"เราบอกแล้วไงว่า เจ้าพวกที่มีชื่อในนั้นน่ะ ไม่ให้เข้าสวรรค์ ทำไมถึงไม่เชื่อฟังคำสั่ง ฮึ?"
เปโตรตอบเสียงอ่อย "พระอาจารย์ ผมทำตามที่ท่านสั่งอย่างเคร่งครัด ผมปิดประตูทางเข้า
ลงกลอนไว้แน่นหนา แต่แม่ของพระองค์สิครับ เล่นเปิดหน้าต่างให้พวกนั้นเข้ามา"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠

คนสวนของวัดเป็นคนขี้เมา เขาเสียชีวิตลงและได้ไปสวรรค์
"เจ้าทำงานอะไรเมื่ออยู่บนโลกมนุษย์?" นักบุญเปโตรถาม
"ผมเป็นคนสวนที่วัดครับ"
"แต่เจ้าขี้เหล้าเมายา เจ้าเข้าสวรรค์ไม่ได้หรอก" เปโตรตอบเสียงเข้ม แล้วส่งเขาไปนรก
"เจ้าทำงานอะไรเมื่ออยู่บนโลกมนุษย์?" ปีศาจถาม
"ผมเป็นคนสวนที่วัดครับ"
"ถ้างั้นเจ้ามาอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก" ปีศาจตะคอกใส่ พร้อมปิดประตูนรกใส่หน้า
"เเย่ละสิ" คนสวนถอนใจ "นี่เราต้องกลับไปอยู่กับพ่อเจ้าวัดขี้เหนียวเหมือนเดิมละสิ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠
"เธอทำความดีอะไรมาบ้างล่ะ"
นักบุญเปโตรถามหญิงที่มาเคาะประตูสวรรค์ด้วยความกลัว
"อิฉันทำได้ดีอย่างเดียว คือ อิฉันเป็นแม่ครัวฝีมือเยี่ยมเชียวค่ะ" หญิงชราตอบด้วยความมั่นใจ
"ดีมาก งั้นเข้ามา" นักบุญเปโตรผายมือเชื้อเชิญให้เข้าประตู
"แม่ครัวฝีมือดีคนหนึ่ง ช่วยมนุษย์ให้รอดมากกว่ามิสชันนารีสักโหลซะอีก"

Re: “ จิบชา “

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 17, 2024 8:12 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (5)

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : จดหมายจากสวรรค์ 💠
นักบุญเปโตรได้รับมอบหมายภารกิจอีกประการหนึ่ง ท่านเรียกเทวดากาเบรียลมามอบงาน
"จงลงไปยังโลกมนุษย์ และจดรายชื่อผู้ที่ทำตัวซุกซนเหลวไหลมาให้หมด"
เทวดากาเบรียลหายไปเดือนกว่า แล้วบินโผเผกลับมา ท่านทรุดฮวบหมดเรี่ยวแรงที่หน้าโต๊ะ
ทำงานของนักบุญเปโตร "ไม่ไหวละครับ มนุษย์ซุกซนเหลวไหลกันเหลือเกิน ผมจดชื่อไม่ไหวหรอก
ท่านต้องให้คนมาช่วยผม"
"ราฟาแอลมานี่" นักบุญเปโตรร้องเรียก "ไปช่วยกาเบรียลที่ซิ"
ราฟาแอลปรากฏตัวออกมา ยิ้มฉลาดๆ "เอางี้ดีกว่านะ ผมว่าเราเลือกจดชื่อเฉพาะคนที่ทำตัวดี
ไม่ซุกซน ไม่ดื้อ ไม่เหลวไหลดีกว่า"
"เห็นด้วย" กาเบรียลร้องรับ
ดังนั้นกาเบรียลและราฟาแอลจึงลงมายังโลกมนุษย์ และทำการจดชื่อผู้ที่ทำความดี แล้วนำรายชื่อ
ไปให้เปโตร นักบุญเปโตรนำหน้ารายชื่อเหล่านี้ขึ้นเสนอตามลำดับขั้น แล้วก็ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนลงมา
ให้เขียนจดหมายชมเชยบรรดาคนดีเหล่านี้
ท่านผู้อ่านรู้หรือไม่ว่า จดหมายนั้นเขียนความว่ากระไร?
(อ้าว ไม่รู้เรอะ... นี่แสดงว่าท่านไม่ได้รับจดหมายนั้นน่ะสิ!)

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : กลัวเหงา 💠

วันที่คุณพ่อเทศน์เรื่องนรกสวรรค์อย่างดุเดือดเร้าใจ สัตบุรุษฟังแล้วต่างรู้สึกเลือดพล่านไปตาม ๆ กัน
"เอาละ" คุณพ่อร้องจากธรรมมาสน์ "ใครอยากขึ้นสวรรค์ ขอให้ยืนขึ้น"
ทุกคนในวัดลุกขึ้นยืนพรึบโดยพร้อมเพรียง คุณพ่อแอบยิ้มปีติ ทำสัญญาณให้นั่งลง และเพื่อตอกย้ำ
อีกครั้ง คุณพ่อจึงประกาศว่า
"ทีนี้ใครอยากลงนรกบ้าง ยืนขึ้นซิ"
นิ่งสงัดอยู่อึดใจ แล้วสัตบุรุษท่านหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ คุณพ่อประหลาดใจมาก ถามว่า
"ลูกอยากไปนรกจริงๆ น่ะหรือ"
"ความจริงก็ไม่อยากหรอกครับ เเต่ผมไม่อยากให้พ่อยืนคนเดียว"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ 💠
ในชั้นเรียนคำสอน ครูอรทัยสอนเรื่องสวรรค์เสร็จแล้ว ก็ถามนักเรียนว่า
"ใครอยากไปสวรรค์บ้าง ยกมือ"
ทุกคนยกมือ เว้นแต่เจ้าหนูตัวเปี๊ยกคนหนึ่ง ครูจึงถามว่า
"ทำไมล่ะ นายบุญชู เธอไม่อยากไปสวรรค์หรือ"
นายบุญชูตอบว่า "แม่ผมสั่งว่า เลิกเรียนแล้ว ห้ามเถลไถล ให้กลับบ้านทันทีฮับ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : สาเหตุการตาย 💠
ชาย 3 คนมาออกันอยู่หน้าประตูสวรรค์ นักบุญเปโตรจึงไต่ถามความประสงค์ ครั้นทราบว่า
ทั้งหมดต้องการเข้าสวรรค์ ท่านจึงพลิกหาชื่อพวกเขาในสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์ เอ๊ย ผู้มีสิทธิ์เข้า
สวรรค์ ระหว่างนั้นท่านก็หาเรื่องชวนคุยไปพลาง
"เป็นอะไรถึงตายล่ะ?" ท่านถามคนแรก
"ผมกลับมาถึงบ้านตอนดึก" ชายคนแรกตอบด้วยสีหน้าเครียดขมึง "พบเจ้าหนุ่มคนหนึ่งอยู่ใน
ห้องนอนกับเมียผม พอมันเห็นผม มันก็กระโดดผลุงลงหน้าต่าง ผมบันดาลโทสะ ลืมตัวยกตู้เสื้อผ้า
ขว้างตามมันไป กะจะทับมันให้แบนเลยเชียว แต่สงสัยเพราะผมยกของหนักเกินไป หัวใจจึงหยุด
ทำงานฉับพลัน"
"แล้วเธอล่ะ เป็นอะไรถึงตาย?" นักบุญเปโตรถามอีกคน
"ผมตกจากที่สูง และโดนของหนักทับซ้ำครับ" คนนั้นตอบเสียงอ่อย ขยับตัวถอยห่างจากชายคนแรก
"เธอล่ะ?" ท่านหันไปถามคนสุดท้าย
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน" เขาตอบ
"ผมแค่นั่งอยู่ในตู้เฉยๆ"

💠 สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ : สิทธิสตรี (Women's Lib) 💠
คน 3 คนตายในเวลาเดียวกัน ทั้งสามได้ขึ้นสวรรค์ และที่ประตูเข้าก็พบกับนักบุญเปโตร
(อีกเช่นเคย) คนแรกซึ่งเป็นผู้ชายกล่าวกับท่านนักบุญว่า "ผมต้องการเข้าสวรรค์ครับท่าน"
"ได้ แต่มีการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ ก่อนนะ เธอต้องสะกดคำว่า GOD"
"G-O-D" เขาสะกด
"ดีมากๆ" ท่านนักบุญชม "เข้ามาได้"
คนที่สองก็เป็นชาย เขากล่าวว่า "ผมต้องการเข้าสวรรค์ครับ"
"เธอต้องผ่านการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ ก่อน สะกดคำว่า GOD ซิ"
"G-O-D" เขาสะกด
"ดีมาก ดีมาก เข้ามาได้"
คนที่สามเป็นผู้หญิง เธอเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจมาก
"ดิฉันต้องการเข้าสวรรค์ค่ะ"
"ได้ แต่เธอต้องผ่านการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ ก่อน"
"ฟังนะคะ ท่านนักบุญเปโตร" เธอกล่าว "ชีวิตของดิฉันน่ะ ต้องต่อสู้อยู่ตลอด ต้องสู้เพื่อให้ได้เลื่อน
ตำแหน่ง สู้เพื่อให้ได้ค่าจ้างเท่าเทียมกับพวกผู้ชาย สารพัดสารพันที่ต้องผจญมา แล้วนี่ท่านยังจะให้ดิฉัน
ต้องพบกับอะไรที่ลำบากอีกหรือ"
"เป็นเพียงการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นแหละ"
ท่านนักบุญยืนกราน "เอาล่ะ สะกดคำว่า Czechoslovakia ซิ!"

Re: “ จิบชา “

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 17, 2024 8:16 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (6)

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

ในห้องเรียนคำสอนยังมีคำตอบพิลึกๆ ของเด็กๆ เยอะแยะ ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ
ข้อความเชื่อที่พวกเขาเรียนเลย แต่เราเชื่อว่า พระเจ้ากำลังมองพวกเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมความรักอยู่เสมอ
ถาม : โรคระบาดอะไรที่พระเจ้าส่งลงมาลงโทษคนที่กดขี่ข่มเหงคนอื่น?
ตอบ : โรคระบาดสมัยนี้มันไม่ค่อยมีอะไรร้ายแรงแล้วละฮะ ยิ่งช่วงนี้พระเจ้าก็แก่ลงมากแล้ว ยิ่งพระองค์
แก่ลง พระองค์ก็ยิ่งใจดีขึ้น
ถาม : เรื่องดาวิดปราบยักษ์โกไลแอท สอนอะไรแก่เราบ้าง?
ตอบ : เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ขอแค่เรามีใจสู้กับก้อนหินดีๆ ซักสองสามก้อนก็พอ
ถาม : ทำไมพระเจ้าเลือกทดสอบใจโยบ?
ตอบ : บางทีโยบอาจเหลือบไปสบตาพระเจ้าก็ได้ นี่เป็นวิธีที่พวกคุณครูชอบใช้กัน ครูแกจะเลือกคนที่
เผลอไปสบตาแกเสมอ
ถาม : ถ้าเจอซาตาน หนูจะบอกอะไรมันบ้าง?
ตอบ : คุณอยู่ในนรกจริงหรือเปล่าคะคุณซาตาน หรือว่าคุณใช้นรกเป็นแค่ออฟฟิศเท่านั้น
ตอบ : คุณนี่ชั่วร้ายมาก ผมสงสารคุณนะ อยู่นรกนั่นคุณคงเหงามากสิ แล้วคุณเคยคิดอยากไปเที่ยว
สวรรค์บ้างหรือเปล่า ผมพนันได้เลยว่าคุณเคยไปมาแล้ว
ถาม : ทำไมพระเจ้าถึงรักพวกเด็กๆ
ตอบ : เพราะพวกเราทำให้ท่านได้หัวเราะ โดยเฉพาะเวลาที่พวกเราพยายามพูดถึงเรื่องของพระองค์
(คำตอบสุดท้ายนี่คงเป็นสาเหตุของคำถามและคำตอบทั้งหลายที่ว่ามา)

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

ซิสเตอร์เองเจล่าตระเตรียมพวกเด็กๆ ที่จะรับศีลกำลัง
"พวกเธอต้องทำทุกอย่างตามที่พระสังฆราชบอกนะ ถ้าท่านบอกว่ายืน ทั้งๆ ที่พวกเราเตรียมกันว่า
คุกเข่า พวกเธอก็ต้องเชื่อท่าน ยืนตามที่ท่านบอก ให้ทุกคนคอยฟังว่าท่านจะสั่งอะไรแล้วทำตาม"
แล้ววันพิธีก็มาถึง ทุกอย่างดำเนินไปเรียบร้อย จนกระทั่งถึงตอนที่พระสังฆราชกล่าวว่า
"คุกเข่าลงนะ พ่อจะอวยพรให้"
เด็กๆ คุกเข่า พระคุณเจ้ายกมือขึ้นและเริ่มสวดว่า
''Sit nomen domini..."
เด็กทุกคนทรุดตัวลงนั่งอย่างพร้อมเพรียง

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : ส่งกลับไปให้พระเจ้า 💠

หลังจากไปร่วมพิธีฝังศพ หมวย หลานสาวตัวน้อย ซึ่งได้ไปร่วมพิธีฝังศพเป็นครั้งแรกบอกกับ
ยายของตนว่า
"คุณยายรู้มั้ยคะ...เมื่อมีใครตาย เขาก็จะใส่คนนั้นลงในหีบ และส่งกลับไปให้พระเป็นเจ้า"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : เหตุเกิดเพราะ "จอมราชันย์" 💠

เด็กหญิงอายุหกขวบดูวีดีโอเทปเรื่อง "จอมราชันย์" พร้อมกับพี่ชายอายุเจ็ดขวบ เด็กหญิงรู้สึก
ซาบซึ้งไปกับภาพยนตร์และเริ่มร้องไห้เมื่อมาถึงฉากสุดท้าย ที่พระคริสต์เจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขน และ
ถูกผู้คนด่าว่าประณาม พี่ชายจึงเข้าไปโอบไหล่พร้อมกับปลอบน้องสาวว่า
"ไม่ต้องร้องไห้หรอก เดี๋ยวคริสต์มาสพระองค์ก็กลับมาอีก"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
พระสังฆราชกำลังประกอบพิธีโปรดศีลกำลังเด็กๆ จำนวนมาก เมื่อมาถึงเด็กชายคนหนึ่ง
ท่านคลับคล้ายคลับคลาว่าจะได้เจิมน้ำมันโปรดศีลให้ไปแล้ว แต่ท่านเองก็เกรงว่าตัวจะจำผิด
จึงได้เจิมให้เขาอีกครั้งหนึ่ง
แล้วอีกสักพัก เด็กชายผู้นั้นก็มาคุกเข่าต่อหน้าท่านอีก คราวนี้ท่านจำได้ถนัด จึงกระซิบกับเขาว่า
"พ่อเจิมน้ำมันให้ลูกแล้วไม่ใช่หรือ?"
"ใช่ฮะ" เด็กชายตอบ แล้วชี้ไปที่พระสงฆ์ ซึ่งยืนช่วยพิธีอยู่ข้างๆ
"แต่คุณพ่อองค์นั้นเช็ดออกหมดเลย"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

แม่ถาม
"หนูจ๋า วันนี้ที่วัด หนูทำตัวเป็นเด็กดีหรือเปล่า?"
หนูจ๋าตอบ
"หนูเป็นเด็กดีค่ะ แม่ มีคนเอาถุงเงินใบใหญ่อื่นให้หนู หนูยังบอกเขาเลยว่า 'ไม่ค่ะ ขอบคุณ' "

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
"ไหนนกน้อย บอกซิสเตอร์สิว่า พระเจ้าได้ทดสอบความศรัทธาของอับราฮัมอย่างไร?"
ซิสเตอร์จุ๋ม ถามนกน้อยก่อนหมดชั่วโมงคำสอน นกน้อยนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบด้วยความมั่นใจว่า
"พระเจ้าบอกให้อับราฮัมต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ไอแซคครับ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า เขารักลูกมากแค่ไหน"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
ในชั่วโมงคำสอน ซิสเตอร์ถามเด็กนักเรียนขึ้นว่า
"บุคคลในพระคัมภีร์ ใครที่ถือว่าเป็นผู้ที่มีความเชื่อ และความวางใจในพระเป็นเจ้ามากที่สุด?"
นักเรียนทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
"อับราฮัม" ยกเว้นเด็กชายโต้งที่แหกคอกออกมาว่า "โนอาห์"
ซิสเตอร์หันขวับไปหาเด็กชายโต้ง พร้อมกับถามถึงเหตุผลที่เขาตอบเช่นนั้น
"โนอาห์มีความเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้า ก็เพราะว่าเขากล้าเอาปลวกคู่หนึ่งขึ้นไปบนเรือของเขาครับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
ลูกชาย : พ่อฮะ พ่อเซ็นชื่อตัวเองเวลาปิดไฟได้หรือเปล่า?
พ่อ : คิดว่าได้นะ ทำไมเหรอ?
ลูกชาย : งั้นพ่อปิดไฟแล้วเซ็นชื่อในสมุดพกให้ผมหน่อยดิ

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
เด็กชายสองคนกำลังพูดคุยกันเรื่องของสวรรค์ เด็กคนแรกบอกเพื่อนของตนว่า
"ถ้าเธอเป็นเด็กดี เธอก็จะได้ไปสวรรค์"
เด็กคนที่สองจึงถามต่อว่า "แล้วถ้าเป็นเด็กไม่ดีล่ะ จะต้องไปที่ไหน?"
"ก็ถูกครูใหญ่เรียกไปพบนะสิ" เด็กคนแรกตอบด้วยความมั่นใจ

Re: “ จิบชา “

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 17, 2024 8:19 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (7)

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

เด็กน้อยเข้าไปในร้านตัดผม เมื่อเขาขึ้นนั่งบนเก้าอี้แล้ว เขาตะโกนด้วยเสียงอันดังว่า
"ผมอยากได้ทรงผมเดียวกับพ่อของผม แบบที่มีรูตรงกลาง"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : ที่มาของกระแสเรียก 💠
"แม่ฮะ ผมคิดว่าผมอยากจะบวชเป็นพระสงฆ์"
"โอ้... " คุณแม่อุทานอย่างปีติ
"ทำไมลูกถึงคิดอยากจะเป็นล่ะจ้ะ?"
"คืออย่างนี้ครับ ไหนๆ ผมก็จะต้องไปวัดทุกวันอาทิตย์อยู่แล้ว ผมว่าการนั่งอยู่เฉยๆ
และไม่ได้ พูดอะไรเลย สู้การได้เดินไปเดินมาและส่งเสียงเอ็ดตะโรไม่ได้หรอกครับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

เด็กชายป๋อง อายุ 4 ขวบ ไปร่วมมิสซาในวันอาทิตย์พร้อมกับพ่อของเขา เมื่อถึงภาคเสกศีล
พ่อก็หันมาบอกกับ ป๋องว่า
"ตอนนี้ลูกต้องเงียบที่สุดเลยนะ เพราะคุณพ่อเขาจะชูพระเป็นเจ้าให้ทุกๆ คนดู"
หลังจากที่พระสงฆ์เสกศีลเสร็จแล้ว พ่อก็หันมาถามป๋องว่า
"ลูกเห็นพระเป็นเจ้าหรือเปล่า?"
"ไม่ครับ" ป๋องตอบค่อยๆ "แต่ผมได้ยินพระองค์ไอ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : วิวัฒนาการ 💠

ในชั่วโมงสังคมศึกษา คุณครูก้านได้สอนเรื่องเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ว่า
"พวกเธอรู้หรือเปล่าว่ามนุษย์นั้นมีวิวัฒนาการมาจากไหน?"
"ไม่รู้ครับ !" นักเรียนตอบด้วยความพร้อมเพรียง
"พวกนักโบราณคดีและสังคมศาสตร์สอนว่า มนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิง ครูเองก็คิดว่า
มนุษย์น่าจะมีวิวัฒนาการมาจากลิงเช่นกัน" ครูก้านตอบด้วยความมั่นใจ
ทันใดนั้น ก็มีนักเรียนคนหนึ่งยกมือขึ้นถามด้วยความสงสัยว่า
"จริงเหรอครับครู ! แล้วคุณครูเคยอยู่ที่สวนสัตว์ไหนล่ะครับ !"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

ปุ้มปุ้ย อายุห้าขวบ มาพักอยู่กับลุงและป้าในช่วงฤดูร้อน ค่ำวันหนึ่ง พอคุณลุงกลับบ้าน ปุ้มปุ้ย
ก็บอกลุงว่า มีคนโทรมาหาเมื่อสักครู่นี้เอง
"ปุ้ยเลยบอกว่า เดี๋ยวจะให้ลุงโทรกลับ"
"แล้วคนที่โทรมาชื่ออะไรล่ะ?" ลุงถาม
"ผมจำได้แค่นิดเดียวครับ" ปุ้มปุ้ยว่า
"นายอะไรสักอย่างนี่แหละ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
ต๋อมแต๋มกลับไปเยี่ยมคุณตาที่บ้านนาในช่วงคริสต์มาส เผอิญเหลือบไปเห็นสายล่อฟ้า
บนหลังคาโรงนา เลยบอกกับคุณตา
"โอ้โห คุณตาคงรวยมากเลยใช่ไหมคะ ขนาดวัวยังมีโทรทัศน์ดูเลย"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
คุณพ่อก่ายหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องเรียนชั้นป.ห้า ฟังนักเรียนตัวน้อยๆ กำลังซ้อมเพลงที่จะใช้ร้อง
ในมิสซาฉลองวัด พ่อก่ายปลาบปลื้มเป็นอันมาก เมื่อเห็นบรรดานักเรียนต่างตั้งใจร้องเพลงกันทุกคน
แต่เผอิญเหลือบไปเห็นนายโต้งกำลังนั่งเท้าคางเฉยๆ ไม่ยอมร้องเพลง
"ทำไมไม่ยอมร้องเพลงกับเพื่อนๆ ล่ะ นายโต้ง" พ่อก่ายถาม
"เเหม คุณพ่อครับ มีคนร้อง ก็ต้องมีคนฟังด้วยสิครับ" นายโต้งว่า

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

อาจารย์หัวเสียเป็นอันมากกับการอ่านผิดๆ ถูกๆ ของนักเรียน
"เวลาไม่แน่ใจหรือสงสัยในคำที่เราอ่าน ก็ให้เปิดในพจนานุกรมดู"
อาจารย์แนะนำ
"แต่... " นักเรียนว่า
"แต่ผมไม่ได้สงสัยนี่ครับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
หลังจากแม่คลอดน้องสาวแล้ว พ่อก็พาแม่กลับมาจากโรงพยาบาล และอุ้มให้บอยลูกชาย
วัยสี่ขวบดู บอยเหลือบดูหน้าน้องแวบหนึ่ง แล้วส่งเสียงเบื่อๆ ว่า
"ไว้น้องพูดได้ก่อน ค่อยมาเรียกผมนะฮะ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

สมพร : ครูแกถามผมว่า เทือกเขาหิมาลัยอยู่ที่ไหน ผมจำไม่ได้นี่ครับ
แม่ : แกนี่สอนเท่าไหร่ไม่จำ ชอบลืมของไว้ที่โน่นที่นี่อยู่เรื่อย

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

ครอบครัวของเราถือเป็น "ครอบครัวผสม" เพราะฉันเป็นคาทอลิก แต่สามีของฉันเป็น
แบ๊บติส จอนนี่ ลูกชายวัยหกขวบของเราเป็นห่วงพ่อของแกมาก เพราะเขากำลังป่วยหนัก ฉันบอก
แกว่า จะสวดขอให้กับคุณพ่อก็คงไม่ได้ เพราะพ่อไม่มีนักบุญอุปถัมภ์เหมือนกับคาทอลิกเรา
แต่จอนนี่ไม่ยอมเข้าใจ เขาบอกว่าพ่อจะหายป่วยได้ ก็ต้องสวดขอจากนักบุญอุปถัมภ์เท่านั้น
เย็นวันหนึ่งหลังจากกลับมาจากโรงเรียน เขาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้อง บอกกับพ่อว่า
"พ่อฮะ ไม่ต้องห่วงแล้วฮะ ผมหานักบุญที่ไม่ได้เป็นคาทอลิกให้พ่อได้แล้ว" ฉันและสามีรู้สึกงงๆ
"ครูผมบอกว่า อย่างพ่อต้องนักบุญยอห์น แบ๊บติส ฮะ"

Re: “ จิบชา “ ( ตอนที่ 1 -10 )

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 21, 2024 6:15 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (8)

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

คุณพ่อหนุ่มเพิ่งบวชมาหมาดๆ ยังกรุ่นไอทั้งปรัชญาและเทวศาสตร์ ท่านเข้าไปสอนคำสอน
เด็ก ป.3 ซึ่งมีซิสเตอร์ดูแลอยู่ด้วย
"เราเป็นสัตว์" คุณพ่อพูด "มนุษย์ทุกคนเป็นสัตว์"
พวกเด็กนั่งเงียบ ซิสเตอร์อึกอัก กำลังคิดว่าจะอธิบายให้พวกเด็กฟังอย่างไร ก็พอดีมี
เด็กน้อยคนหนึ่งชูมือขึ้นมา พูดว่า
"ใช้ฮับ พวกเราเป็นลูกแกะของพระเยซูเจ้า"
ซิสเตอร์ถอนใจโล่งอก

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

ณ วัดบ้านห้วยฯ บักหำเข้าไปปรับทุกข์กับพ่อโก่ยที่ฝาแก้บาปว่า "แม่ผมจู้จี้จริงๆ เลยฮะ
ชอบให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้อยู่เรื่อย เสื้อผ้าต้องแขวนให้ดีมั่งละ นั่งต้องตัวตรงๆ เวลาพูด ห้ามพูดรัว
เป็นปืนกล เวลาดูทีวีให้เปิดเสียงค่อยๆ พ่อว่าผมจะทำยังไงดีฮะ"
พ่อโก่ยเงียบไปแป๊บหนึ่งจึงว่า "กิจใช้โทษบาป ให้แขวนเสื้อผ้าดีๆ นั่งตัวตรงๆ ห้ามพูดรัว
เป็นปืนกล และหรี่เสียงเวลาดูทีวีเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

ณ กลางหุบเขาสูง ครูคำสอนหนุ่มไฟแรงร้องถามเด็กๆ เกี่ยวกับคำสอนที่เพิ่งอธิบายไป
"รู้ไหม อะไรคือบาปที่เก่าแก่ที่สุดในโลก?" ครูหนุ่มถาม
"บาปขโมยแอปเปิ้ลคร๊าบ" เด็กๆ ร้องตอบอย่างพร้อมเพรียง

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
ซิสเตอร์เล็กเข้ามาปรับทุกข์กับคุณแม่อธิการว่า "เด็กๆ ที่หนูสอนอยู่มีความคิดแบบผู้ใหญ่กัน
หลายคน ทำให้หนูกลุ้มใจมากค่ะ"
"ซิสเตอร์น่าจะดีใจที่เด็กๆ คิดแบบผู้ใหญ่ แสดงว่าพวกแกเป็นเด็กฉลาดเกินตัว เออ! ว่าแต่ว่า
เด็กๆ คิดเรื่องอะไรกันล่ะ"
"พวกเด็กๆ คิดอยากมีสามี อยากมีภรรยาค่ะ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
ในชั่วโมงคำสอนคาบหนึ่งของนักเรียนชั้น ป.4
"พระเจ้าทรงอยู่ทุกแห่ง พระองค์ทรงอยู่กับเราตลอดเวลา ฉะนั้น หนูๆ ควรหมั่นทำความดี และ
สวดภาวนามากๆ" พ่อดุ่ยว่า
"แล้วเราจะคุยกับพระองค์ได้ไหมฮะ?" ตุ๊ดตู่ถาม
"ได้สิ" พ่อดุ่ยนิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ แล้วอธิบายว่า "เหมือนตอนที่หนูคุยโทรศัพท์นั่นแหละจ้ะ
หนูอาจ อยู่ที่บ้าน แต่ก็สามารถคุยกับอีกคนหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปได้ โดยที่ไม่ต้องเห็นหน้าเขา"
พวกเด็กๆ พยักหน้าเข้าใจ แต่ตุ๊ดตู่งัดเอาสมุดบันทึกเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋า เงยหน้าถาม
พ่อดุ่ยว่า "งั้นช่วยบอกเบอร์โทรฯของพระองค์ด้วยฮะ?"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

ลูก : แม่ครับ ผมขอเงินห้าบาท จะเอาไปให้ชายชราน่าสงสารที่หน้าบ้านครับ
แม่ : ได้สิลูก ลูกเป็นเด็กดีมากเลย เขาน่าสงสารมากใช่มั้ยลูก เขาพูดว่าอะไรล่ะ?
ลูก : เขาพูดว่า ไอติมหวานเย็นแท่งละห้าบาทครับ

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

เด็กชายโหน่งถูกจับได้ว่าโกหกและโกงเพื่อน ถึง 10 ครั้งภายในวันเดียว แม่ของโหน่งจึง
ถามเขาด้วยท่าทีเบื่อหน่ายว่า
"แม่ไม่รู้จริงๆ ว่าโหน่งจะทำอย่างไรเพื่อเข้าสวรรค์?"
"ง่ายจะตายไปครับแม่" เจ้าโหน่งจอมโกงคุยโต
"ผมก็แค่วิ่งเข้าวิ่งออกกลับไปกลับมา จนกว่านักบุญเปโตรทนไม่ได้ และบอกว่า เห็นแก่พระเจ้า
เถิดโหน่ง เธอจะเข้ามาหรือจะออกไปกันแน่"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

ต่อไปนี้คือบทภาวนาค่ำของเด็กหญิงตุ๊กตา
"พระเจ้าคะ โปรดอวยพรคุณพ่อคุณแม่ พี่ชาย พี่สาว โปรดปกปกรักษาในหลวงของเราด้วย
และที่สำคัญดูแลสุขภาพของท่านเองให้ดีนะคะ เพราะเราไม่รู้เลยว่า ท่านอยู่สุขสบายดีหรือเปล่า?"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠

เมื่อคุณพ่อเจ้าวัดจะมาเยี่ยมนักเรียนคำสอน ครูคำสอนได้จัดคำถามสำหรับคุณพ่อเจ้าวัด
และเตรียมเด็กไว้เพื่อจะตอบคำถามเหล่านั้นไว้เรียบร้อย
คำถามแรกที่คุณพ่อเจ้าวัดถามก็คือ "ใครสร้างมนุษย์และสรรพสิ่งในโลกนี้?"
บังเอิญเด็กที่จะต้องตอบคำถามนี้ในวันนั้นขาดเรียน เด็กอีกคนหนึ่งจึงลุกขึ้นตอบว่า "เด็กที่
จะต้องตอบเรื่องการสร้างของพระเจ้าไม่ได้มาเรียนวันนี้ครับ เขาเป็นไข้หวัด"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
"หลานเอ้ย อยู่ที่วัดเอ็งทำอะไรบ้างล่ะ?" คุณปู่ถามหลานชายที่เพิ่งกลับมาจากมิสซาวันอาทิตย์
"เยอะแยะเลยฮะ ปู่" หลานชายตอบ
"เพราะผมได้ยินคนนั่งข้างหลังเขาพูดกันว่า ไม่เคยเห็นเด็กคนไหนทำแบบนี้ในวัดมาก่อนเลย"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
พ่อลูกคู่หนึ่งนั่งคุยกัน
"คนเราอยู่โดยไม่มีศาสนาได้ไหมฮะ?" ลูกชายถาม
พ่อนิ่งไปพักใหญ่ แล้วตอบว่า
"ลูกเอ๋ย คนเราอยู่โดยไม่มีตาก็ได้ แต่เขามองไม่เห็นนะ"

Re: “ จิบชา “ ( ตอนที่ 1 -10 )

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 21, 2024 6:20 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (9)

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
บรรณารักษ์ห้องสมุดเดินมาดเข้มเข้าไปหาเด็กชายต๋อย
"เงียบหน่อยได้มั้ย" เธอตะคอกเบาๆ "เธอทำเสียงดัง คนอื่นเขาอ่านหนังสือไม่ได้"
"เขาอ่านหนังสือไม่ได้?" เด็กชายต๋อยถามงงๆ
"แล้วเขามาห้องสมุดทำไมล่ะครับ?"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : บาปถูกขโมย (เอ๊ะ...ชื่อเรื่องแปลก) 💠
พรุ่งนี้จะเป็นวันรับศีลมหาสนิทครั้งแรก แต่ตั้งแต่เช้า ซิสเตอร์สังเกตว่า นักเรียนหญิงตัวน้อย
คนหนึ่งวุ่นวายอยู่กับการค้นของในโต๊ะเรียนของตน แม่หนูพลิกหน้าหนังสือแต่ละเล่มไปมาเหมือน
จะหาของอะไรสักอย่าง น้ำตาเอ่อคลอเบ้าตา ที่สุดเธอก็วางหนังสือลง เดินเข้ามาหาซิสเตอร์ ระเบิด
เสียงร้องไห้ออกมา พูดด้วยอาการสะอึกสะอื้นว่า
"ฮือๆ หนูเอาบาปของหนูใส่ไว้ในโต๊ะเรียน แต่มันหายไปแล้ว มีคนขโมยบาปของหนูไปค่ะ ฮือๆ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
ในชั่วโมงคำสอน ซิสเตอร์ดวงจันทร์ถามเด็กๆ ว่า
"กฎบัญญัติของพระเจ้าข้อไหนสำคัญที่สุดคะ?'
นายต่วยยกมือขึ้นขอตอบ ซิสเตอร์เลยอนุญาตให้เขาตอบ
"บัญญัติที่สำคัญที่สุดคือ ห้ามพูดปดฮะ เพราะถึงยังไงพระเจ้ากับคุณแม่ก็จับได้ว่าเราพูดปดอยู่ดี"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : ยามจำเป็น 💠
เด็กชายสายันต์ขี่จักรยานคันใหม่เอี่ยมมาอวดเพื่อนๆ ที่หน้าวัด พอดีเจอหน้าบราเดอร์ดุ่ยศักดิ์
บราเดอร์ดุ่ยศักดิ์จึงเรียกเด็กชายสายันต์เข้าไปสวดด้วยกันในวัด
"ไม่เอาหรอกครับ ผมกลัวจักรยานผมหาย"
"ไม่เป็นไรหรอก เธอขอพระจิตเจ้าเฝ้าไว้สิ"
บราเดอร์ดุ่ยศักดิ์เสนอ
เด็กชายสายันต์จึงยอมเข้าไปสวดด้วยกัน ขณะที่เริ่มสวด เขาก็ทำสำคัญมหากางเขน
"เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร...อาแมน"
"อ้าว แล้วพระจิตหายไปไหนล่ะ" บราเดอร์ดุ่ยศักดิ์ถาม
เด็กชายสายันต์หันมาทำหน้าเหรอหรา ถามกลับว่า
"ก็พระองค์เฝ้าจักรยานผมอยู่ข้างนอกไม่ใช่หรือฮะ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : นบนอบ 💠
ในชั่วโมงคำสอน ซิสเตอร์สอนเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 7 เมื่อมาถึงศีลอนุกรม ซิสเตอร์ถาม
นักเรียนว่า ศีลนี้หมายความว่าอย่างไร เด็กชายกุ๊กลุกขึ้นตอบว่า "ศีลนี้จะมีความหมายก็ต่อเมื่อ
พระสังฆราชหรือพระสงฆ์สั่งให้ซิสเตอร์ทำงานครับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : ไม่มีห้องว่าง 💠
ระหว่างที่ทำการซ้อมละครเพื่อแสดงในคืนวันคริสต์มาส เด็กชายกบ ที่ได้รับบทเป็นเจ้าของโ
รงแรมรู้สึกอึดอัดใจกับบทของตน เพราะมันขัดกับบุคลิกจริงของเขา การที่จะให้ขับไล่แม่พระกับ
นักบุญโยเซฟนั้นดูจะโหดร้ายอยู่ไม่น้อย ทุกครั้งที่ถึงฉากนี้ เด็กชายกบแทบจะร้องไห้ แต่ครูก็พยายาม
อธิบายว่า มันเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น
เมื่อถึงวันคริสต์มาส เด็กชายกบแสดงได้สมบทบาทมาก เมื่อแม่พระและนักบุญโยเซฟมาเคาะประตู
เขาก็ตอบไปว่า "ไม่มีห้องว่างแล้ว" แต่เขารู้สึกเสียใจกับคำตอบนั้น รีบวิ่งไปเปิดประตู ตะโกนว่า
"เข้ามาก่อนเถอะ ดื่มอะไรสักหน่อยก่อนสิ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
ซิสเตอร์ไก่บอกให้เด็กๆ เล่าเรื่องในครอบครัวของตนให้ฟัง ส่วนใหญ่ก็บอกกันว่า คุณพ่อเป็น
ฝ่ายกลัวแม่กันทั้งนั้น ยกเว้นนายตุ่มกลับบอกว่า "พ่อผมไม่กลัวแม่หรอกฮับ แกพูดแค่สองคำ แม่ผม
จะหยุดทันทีเลย"
เพื่อนในห้องร้องโอ้โห ซิสเตอร์ไก่เลยถามนายตุ่ม "แล้วพ่อเธอพูดอะไรล่ะ แม่เธอถึงได้หยุด"
"อ๋อ ก็พ่อแกพูดว่า กลัวแล้ว กลัวแล้ว เท่านั้นเองฮับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : จุ๊ย...จุ๊ย...เรื่องในที่แก้บาป 💠
พ่อเจ้าวัดให้รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก เมื่อเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่งมาแก้บาปกับท่าน ต่างสารภาพ
เหมือนกันว่า "โยนถั่วลงน้ำ" เมื่อเด็กคนที่ห้า ที่ได้สารภาพอย่างเดียวกันออกไปจากที่แก้บาปแล้ว
ท่านก็ตกลงใจว่า จะถามเด็กคนต่อไปว่ามันเป็นเรื่องของการโยนอาหารทิ้งเปล่า หรืออะไรกันแน่
เด็กคนหนึ่งเดินเข้ามาคุกเข่าในที่แก้บาป ท่านถามเขาทันที
"ลูกโยนถั่วลงน้ำหรือเปล่า"
เด็กคนนั้นนิ่งไป แล้วตอบแบบสะอื้น "ผมนี่แหละครับถั่ว ผมชื่อถั่ว"

Re: “ จิบชา “ ( ตอนที่ 1 -10 )

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 21, 2024 6:24 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (10)

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม 💠
เด็กหญิงติ๋มเดินไปที่ถ้ำพระกุมารพร้อมกับคุณย่า เพื่อจูบพระกุมาร ในถ้ำเธอเห็นพญาสามองค์
แม่พระ นักบุญโยเซฟ และพระกุมารนอนอยู่ในรางหญ้า ติ๋มจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า พระกุมาร
เคยโตบ้างไหมคะ หนูเห็นตัวเล็กเท่านี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : หัวอกเดียวกัน 💠
เด็กๆ ชั้น ป.ห้า ไม่ยอมทำตามคำสั่งของซิสเตอร์ที่ลงโทษให้ยืนกางแขน แต่กลับวิ่งหนีออก
นอกห้อง และปืนขึ้นไปบนห้องใต้หลังคา ซิสเตอร์จึงไปรายงานคุณพ่อให้ทราบ
คุณพ่อบอกว่า "ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง"
คุณพ่อปีนตามเด็กๆ ขึ้นไป เมื่อพวกเด็กเห็นเช่นนั้น จึงร้องถามคุณพ่อว่า "คุณพ่อก็หนีซิสเตอ
ร์ขึ้นมาเหมือนกันหรือครับ?"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : ลูกนักเขียน 💠
ในชั่วโมงคำสอน คุณครูถามนักเรียนชั้นป.หนึ่งว่า "พระเยซูรู้พระคัมภีร์ดีเพราะอะไร? ใครรู้บ้าง"
ส้มจืดยกมือพรึบ ตอบอย่างมั่นใจว่า "ง่ายนิดเดียว ก็พ่อพระองค์เป็นคนเขียนพระคัมภีร์นี่ฮับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : ใบไม้ของเธอ 💠
เด็กชายจ่องถือใบไม้แห้ง ดูเหมือนจะถูกเก็บรักษามามานมาก วิ่งไปหาคุณแม่ พร้อมตะโกน
อย่างดีใจว่า "ผมพบใบไม้นี่ในพระคัมภีร์ครับแม่" จ่องหยุดหายใจแล้วพูดต่อว่า "บางทีอาจจะเป็น
ของเอวาก็ได้นะครับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : พระเจ้าขา 💠
"พระองค์ตั้งที่ทำการไปรษณีย์บนสวรรค์ได้ไหมคะ คุณย่าจะได้ส่งขนมที่มีเงินสอดอยู่ข้างใน
มาให้พวกเราเหมือนอย่างเคย"
ด.ญ.เหมียว

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : คำถามสำคัญ 💠
คุณแม่กำชับหนูจุ๋มอย่างหนักแน่นว่า มิให้แสดงกิริยาไม่สุภาพในมื้ออาหารที่จะพาไปร่วมด้วยนี้
ครั้นถึงเวลา ปรากฏว่าเจ้าของบ้านลืมเสิร์ฟอาหารให้หนูจุ๋ม หนูจุ๋มทนอยู่นาน แต่ที่สุดก็อดไม่ไหว
ยื่นมือไปสะกิดคุณแม่ ถามด้วยเสียงดังขนาดได้ยินชัดเจนทั้งโต๊ะอาหารว่า "เด็กที่ตายเพราะ
อดอาหาร จะได้ขึ้นสวรรค์ไหมคะ คุณแม่"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : ไม่พลาด 💠
คุณครูบอกให้เด็กๆ วาดรูปพญาสามองค์ขี่อูฐเดินทางติดตามดาว เมื่อเด็กๆ วาดเสร็จ
คุณครูจึง เรียกมาตรวจให้คะแนน พอมาถึงเด็กชายเก๋ย ก็เห็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมมีเสาอากาศ
ยื่นออกมา ติดอยู่ตรง หลังอูฐตัวหนึ่ง ครูจึงถาม "นี่อะไรกันจ๊ะ"
เด็กชายเก๋ยตอบ "ทีวีเล็กครับ คือผมไม่อยากให้พวกเขาพลาดรายการ 'ชิงร้อยชิงล้าน' น่ะครับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : เหตุผล 💠
เพื่อทดสอบความรู้ด้านคำสอนของเด็กประถม พระสังฆราชซึ่งได้เข้าไปเยี่ยมในห้องเรียน
ถาม เด็กชายคนหนึ่งว่า "หนูบอกพ่อหน่อยได้ไหมว่า ทำไมกษัตริย์โซโลมอนถึงฉลาด"
คำตอบอย่างมั่นอกมั่นใจของเด็กชาย คือ
"เพราะเขามีภรรยาหลายคนคอยช่วยเหลือฮับ"

💠 ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม : เผื่อคุณยาย 💠
ในคืนที่คุณยายมาพักด้วยนั้น หนูปิ๋งสวดก่อนนอนด้วยเสียงดังลั่นว่า "ขอพระองค์
โปรดประทานตุ๊กตาตัวใหญ่ๆ ที่ลืมตาได้ให้หนู....ขอให้หนูได้เสื้อผ้าไปเที่ยวชุดใหม่...
และ..."
คุณแม่ขัดขึ้น "ทำไมจึงสวดเสียงดังนักละลูก พระไม่ได้หูตึงหรอกนะ"
"พระไม่หูตึง แต่คุณยายหูตึงนี่คะ" หนูปิ๋งตอบ

Re: “ จิบชา “ ( ตอนที่ 1 -10 )

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 22, 2024 5:36 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (11)

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : นับไก่ 💠

สงฆ์หนุ่มขี้ตื่นต้องเทศน์ต่อหน้าพระสังฆราชของตนเป็นครั้งแรก เขาเลือกบทเทศน์เกี่ยวกับ
การปฏิเสธพระคริสต์เจ้าของนักบุญเปโตร
ด้วยความประหม่า เมื่อมาถึงตอนที่จะต้องบอกจำนวนครั้งที่ไก่ขัน เขาก็เกิดไม่แน่ใจขึ้นมา
ดูเหมือนว่ามันจะสับสนกับเรื่องราวตอนอื่นในพระคัมภีร์ เรื่องจำนวนครั้งที่เราจะต้องให้อภัยแก่ผู้ที่
กระทำผิดต่อเรา
เขาบอกว่า "เปโตรปฏิเสธพระคริสต์เจ้า แล้วไก่ก็ขัน 2 ครั้ง"
แล้วเขาก็หยุดไปครู่ใหญ่ ก่อนจะเสริมว่า
"ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึง 3 ครั้ง" เขาเงียบไปอีก แล้วต่อว่า
"ไม่ใช่สิ เปโตรปฏิเสธพระเยซู แล้วไก่ก็ขันเจ็ดครั้งเจ็ดสิบหน"
"เเสดงว่าต้องมีไก่อยู่เป็นเล้าเลยทีเดียว" พระสังฆราชพึมพำเบาๆ

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

พ่อสมดุ่ยเป็นสงฆ์นักวิชาการที่เทศน์ได้น่าเบื่อที่สุด สัตบุรุษคนหนึ่งแอบมาวิจารณ์คุณพ่อ
ให้ผมฟังว่า
"ในบทเทศน์ของพ่อสมดุ่ยนั้น คุณพ่อจะดำดิ่งลงไปถึงแก่นที่ลึกซึ้งที่สุด แล้วโผล่ขึ้นมาด้วย
โดยที่ไม่เปียกเลย เรียกได้ว่า อย่างแห้งที่สุดเท่าที่เราเคยได้ยินนักเทศน์เขาเทศน์กันมาทีเดียว"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : ไม่ต้องห่วง 💠

"พ่อขอเตือนพวกลูกทุกคน" คุณพ่อเทศน์มาจากธรรมาสน์ด้วยเสียงค่อนข้างดุดัน
"เมื่อเวลานั้นมาถึง จะมีแต่เสียงร่ำไห้และเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเท่านั้น"
ทันใด คุณยายคนหนึ่งก็ยกมือขึ้น
"แต่ว่าลูกไม่มีฟันแล้วค่ะคุณพ่อ"
คุณพ่ออึ้งไปสักครู่ ก่อนที่จะตอบกลับว่า
"เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง เมื่อเวลานั้นมาถึง ฟันจะถูกจัดหามาให้เอง"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : เทศน์ได้ผล 💠

พ่อองค์หนึ่งเทศน์ในวัดว่า
"แม้แต่ใบไม้ใบหญ้าก็สามารถเป็นบทเทศน์ให้เราได้"
หลังจากนั้น 2-3 วัน ลูกวัดคนหนึ่งเห็นคุณพ่อกำลังยุ่งอยู่กับการตัดหญ้าในสนามหน้าบ้านพ่อ
เขาโฉบผ่านเข้าไป แล้วกระซิบว่า
"ดีแล้วล่ะครับ คุณพ่อ ที่ตัดบทเทศน์ของพ่อให้สั้นลง"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

สุภาพสตรีผู้หนึ่ง มักจะใส่เนื้อของเธอในตู้อบก่อนจะไปร่วมมิสซาเช้าวันอาทิตย์กับสามี เป็นที่รู้กัน
ดีว่า คุณพ่อเจ้าวัดจะเทศน์ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น แต่ทว่า วันอาทิตย์นี้เป็นวันพิเศษ เมื่อสองสามีภรรยา
มาถึงวัด ปรากฏว่าที่นั่งเต็มเกือบหมด เนื่องจากว่า มีคุณพ่อนักเทศน์ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นผู้เทศน์ใน
วันนี้ สุภาพสตรีของเราได้ที่นั่งแถวหลังสุด ส่วนสามีเธอได้นั่งแถวหน้าชิดกับธรรมาสน์เลยทีเดียว
การเทศน์ของคุณพ่อจับใจคนทั้งวัด เวลาผ่านไปโดยแทบไม่รู้ตัว จนเมื่อการเทศน์กำลังจะดำเนินไป
สู่ชั่วโมงที่สอง สุภาพสตรีของเราจึงนึกได้ถึงเนื้ออบที่อยู่ในเตา เธออยากจะฟังเทศน์ต่อ จึงเขียนโน้ตสั้นๆ
ส่งให้ผู้ดูแลวัด โดยชี้ให้เขานำไปส่งสามีของเธอผู้นั่งอยู่ชิดธรรมาสน์ แต่ผู้ดูแลวัดเข้าใจผิด เขาส่งโน้ตนั้น
ให้กับคุณพ่อผู้เทศน์ คุณพ่ออ่านโน้ตแล้วหน้าแดง ท่านพูดต่อไปอีกไม่กี่คำ ก็จบการเทศน์ทันที
หลังมิสซา คุณพ่อเจ้าวัดรีบตรงดิ่งไปหาคุณพ่อผู้เทศน์ ถามท่านว่า
"ทำไม่จึงจบการเทศน์อย่างห้วนๆ เสียเช่นนั้น"
"ก็เพราะโน้ตที่ส่งมานี่น่ะสิ" คุณพ่อนักเทศน์ว่าด้วยทีท่าเคืองๆ
"โน้ต โน้ตเขียนว่าอะไรครับ"
คุณพ่อนักเทศน์ส่งโน้ตให้โดยไม่พูดอะไร
ในโน้ตนั้นมีข้อความว่า
"กลับบ้านไปปิดแก๊สซะ"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

ยอดนักพูดของเราขึ้นบนแท่นปาฐกถาเป็นคนที่สาม หลังจากที่สองคนแรกพูดเสร็จสิ้นไปแล้ว
เขาเริ่มว่า
"นักพูดคนแรกพูดจาฉะฉานเก่งกาจ นักพูดคนที่สองก็พูดอย่างฉลาดรอบรู้ แต่ไอ้ผมนี่ทั้งไม่เก่ง
และไม่ฉลาดเลย ดังนั้นผมจะพูดให้สั้นที่สุดก็แล้วกัน"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

สงฆ์หนุ่มรู้สึกตื่นเต้นมากกับพิธีมิสซาแรกของตัวเอง เขากลัวว่าจะทำอะไรป้ำๆ เป๋อๆ ออกไป
หรือพอขึ้นบนธรรมาสน์ เขาอาจยืนบื้อ เทศน์ไม่ออกเลยก็ได้ คิดดังนี้จึงไปปรึกษากับพระคุณเจ้าว่า
ควรทำอย่างไรดี
พระคุณเจ้าแนะนำว่า "ถ้าผมรู้สึกกังวลว่า จะตื่นเต้นเวลาเทศน์ละก็ ผมจะใช้วอดก้าสักกรึ๊บ
แล้วตามด้วยน้ำ แต่ถ้าผมเริ่มตื่นเต้นละก็ จิบแค่สองสามจิบก็พอ"
อาทิตย์ต่อมา สงฆ์หนุ่มก็ทำตามคำเเนะนำของพระคุณเจ้า
ก่อนเริ่มพิธีเขารู้สึกตื่นเต้น จึงดื่มวอดก้าไป จากนั้นก็เริ่มเทศน์เป็นพายุเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี พอกลับไปที่บ้านพักเจ้าอาวาส สงฆ์หนุ่มก็พบแผ่นกระดาษติดอยู่ที่ประตู เขียนไว้ว่า
1. ให้จิบ ไม่ใช่ดวด
2. พระบัญญัติมี 10 ประการ ไม่ใช่ 12
3. อัครสาวกมี 12 ไม่ใช่ 10
4. พระเยซูเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ไม่ใช่พระเยซูผู้ท้องผูก
5. ยากอบไปเอาลา ไม่ใช่ไปเอาขี้ลา
6. ชื่อพระเยซู ห้ามใช้คำย่อ ย.ซ.
7. ห้ามเรียก พระบิดา พระบุตร พระจิต ว่า "ป๊ะป๋า ไอ้ลูกชาย กับผีน้อยแคสเปอร์"
8. ดาวิดเหวี่ยงหินฆ่าโกไลแอธ ไม่ใช่เตะขี้หมาใส่โกไลแอธ
9. อย่าเรียกไม้กางเขนว่า "Big C"
10. ในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย พระเยซูบอกว่า "จงรับนี่ไปกินให้ทั่วกัน นี่เป็นกายของเรา ที่จะมอบเพื่อท่าน"
ไม่ใช่ "ฟาดให้เรียบเลยพวกเรา"

Re: “ จิบชา “ ( ตอนที่ 1 -12 )

โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 23, 2024 7:30 pm
โดย rosa-lee
🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (12)

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : ทดสอบดู 💠

คุณพ่อองค์หนึ่งมีลูกเล่นในการเทศน์เสมอๆ มีครั้งหนึ่งท่านไปเทศน์ตรีวารให้กับสัตบุรุษ
วัดนักบุญอันนา ท่านก็ขึ้นต้นว่า
"พ่อยินดีมากที่ได้มาเทศน์ให้กับสัตบุรุษวัดนักบุญมาร์ธา"
"อันนาครับ อันนาค่ะ"
มีเสียงบอกจากหมู่สัตบุรุษอย่างเกรงอกเกรงใจ
"พ่อรู้ พ่อรู้" คุณพ่อยิ้ม
"พ่อเพียงเเต่อยากจะลองดูว่า ทุกคนสนใจฟังกันรึเปล่า"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠
การเข้าเงียบสามวันที่ผ่านมา ทุกครั้งที่คุณพ่อเข้ามาเทศน์ ทุกคนจะดื่มกาแฟกันก่อนเข้า
ห้องอบรม เพราะกลัวง่วงเหงาหาวนอนเวลาฟังเทศน์ แต่ในวันที่สี่นี้ มีคุณพ่อดุ่ยเป็นผู้เทศน์อบรม
จึงไม่มีใครแตะกาแฟเลย
เพราะว่า กลัวนอนไม่หลับ!

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠
นี่ก็สงฆ์หนุ่มอีกคน ที่จะต้องขึ้นเทศน์ครั้งแรกต่อหน้าพระสังฆราชของตน พระคุณเจ้าเห็นว่า
สงฆ์หนุ่มดูกระวนกระวายไม่น้อย จึงแนะนำให้ดื่มไวน์สักเล็กน้อยก่อนขึ้นทำพิธี
"มันจะทำให้เธอกล้าขึ้น" พระคุณเจ้าแนะนำเหมือนที่เคยมา
"ขอบคุณครับพระคุณเจ้า" สงฆ์หนุ่มตอบ
แต่ด้วยความตื่นเต้นนั่นเอง ทำให้สงฆ์หนุ่มดื่มไวน์จนหมดขวดก่อนขึ้นทำพิธี ผลก็คือ สงฆ์หนุ่ม
ผู้นั้นเทศน์ได้อย่างเร้าใจ และยาวนานเป็นพิเศษ เต็มไปด้วยข้ออ้างจากพระคัมภีร์ สงฆ์หนุ่มรู้สึกพอใจ
กับการเทศน์ของตัวเองมาก พอเสร็จพิธี เขารีบตรงไปถามความเห็นจากพระสังฆราชว่าเป็นอย่างไรบ้าง
"ดีมาก ดีจริงๆ" พระคุณเจ้าตอบ
"เเต่มีบางอย่างที่พ่ออยากจะเตือนเธอ คือ ไม่ใช่โมเสสที่เข้าไปในเรือ แต่ที่ถูกควรจะเป็นโนอาห์
และไม่ใช่โนอาห์ที่รับพระบัญญัติจากพระเป็นเจ้า แต่เป็นโมเสส แล้วก็ไม่ใช่ยูดาสที่ถูกปลาวาฬกลืนไว้
แต่เป็นโยนาห์ และก็ไม่ใช่ทิโมธีที่ทรยศพระเยซู แต่เป็นยูดาส และที่พ่อบอกว่าให้ดื่มไวน์แค่แก้วเดียว
ไม่ใช่ให้ดื่มเข้าไปทั้งขวด"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : ยินดีสละที่นั่งให้ 💠

ในหมู่บ้านคริสตังแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพระสงฆ์หนุ่มเพิ่งย้ายมาประจำอยู่ และทุกๆ คนในหมู่บ้านต่างก็
รู้กันดีว่า พระสงฆ์หนุ่มคนนี้ชอบเทศน์ยืดยาว ทุกๆ ครั้งที่สงฆ์หนุ่มคนนี้เทศน์ เขามักจะหยิบยกตั้งแต่
หนังสือปฐมกาลไปจนถึงหนังสือวิวรณ์
หลังจากที่พระสงฆ์หนุ่มได้เทศน์ในมิสซาวันอาทิตย์มาเป็นเวลาร่วมชั่วโมงครึ่งแล้ว เขาก็ได้พูดขึ้นว่า
"ขณะนี้เรามาถึงประกาศกเยเรมีย์แล้ว...พี่น้องคิดว่าเราควรจะทำอย่างไรกับเขาดี ?"
ทันใดก็มีชายคนหนึ่งยกมือขึ้น และพูดด้วยเสียงอันดังว่า
"คุณพ่อครับ ให้เขามานั่งแทนที่ของผมก็ได้ครับ เพราะผมกำลังจะกลับบ้านแล้วครับ"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : วิจารณ์บทเทศน์ 💠

สัตบุรุษย่อมถือว่า บทเทศน์วันอาทิตย์ของคุณพ่อเจ้าวัดเป็นบทเทศน์ที่ดี
ถ้าบทเทศน์นั้นไม่มีอะไรพาดพิงถึงพวกเขา

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠
สัตบุรุษขี้บ่นคนหนึ่ง (วัดไหนไม่บอก) มาบรรยายสรรพคุณเจ้าอาวาสของตนให้ผมฟังว่า
แกว่า "ในหนึ่งสัปดาห์ หกวันแรก พ่อแกจะเป็นมนุษย์ล่องหน ส่วนอีกวันหนึ่ง แกจะเป็นมนุษย์
ต่างดาวที่พูดภาษาประหลาด"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

ในงานเยาวชนหนหนึ่ง เยาวชนจากสองวัดมาเจอกัน จึงคุยทับกันถึงฝีปากอันเก่งกาจของ
เจ้าอาวาสที่วัดตน
"คุณพ่อที่วัดผมนะ เวลาเทศน์ แกไม่เคยใช้โพยเลยละ แล้วจะหาว่าคุย" คนแรกว่า
"พ่อวัดผมไม่ถึงขนาดนั้นหรอก" คนที่สองถล่มตัว
"แต่เวลาแกเทศน์น่ะ แกไม่เคยคิดเลยสักครั้ง"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠
"มีคนบอกว่า คุณพ่อนี่เป็นยอดนักเทศน์ทีเดียว"
"เฮ้อ จริงเรอะ ทำไมเขาว่าอย่างนั้นล่ะ?"
"แหม ก็ใกล้เวลาที่พ่อจะเทศน์จบทีไร พ่อสามารถปลุกพวกที่หลับอยู่ได้หมดเลยน่ะสิครับ"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠
ครั้งหนึ่งคุณพ่อช้าง นักเทศน์ผู้โด่งดัง ได้ไปเทศน์เข้าเงียบให้กับสามเณรใหญ่ของสังฆมณฑล
สารขัณฑ์ บรรดาสามเณรทำหน้าตาน่าเบื่อหน่ายเป็นอย่างยิ่ง คุณพ่อช้างจึงเริ่มเทศน์ว่า
"เมื่อพวกเราพูดถึงสวรรค์ ขอให้หน้าตาของเราสดใสเปล่งปลั่งไปด้วยรัศมีแห่งสวรรค์
แต่ถ้าจะพูดถึงนรกแล้วละก็ ขอให้ทำหน้าเหมือนที่ทำอยู่ทุกวันนี่แหละ"