เกาะติดวิกฤติโลกผ่านพระคัมภีร์และนอสตาดามุส (21-30)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 19, 2025 4:33 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 21 )

✴️ ฉลองครบรอบ​ 17​ ปี​ วันคล้ายวันสมณาภิเษกของโป๊ป​ จอห์น​ พอล​ ที่​ 2 (B) ✴️
2. ความคิดเห็นจากนักเทววิทยารุ่นใหม่
โดยทั่วไปแล้วบรรดานักเทววิทยารุ่นใหม่มักจะมีความเห็นว่า​ “ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์”​ ควรจะเจาะจง
ลงไปเพียง “เฉพาะบุคคล” และพิจารณาเป็นกรณีๆ​ ไป
คำว่า “ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์”​ ถูกนำมากล่าวขานบ่อยๆ กับบรรดานักเทศน์ทั้งหลายใน ศตวรรษที่
14-15 พวกกลุ่มนี้เทศน์สั่งสอนศาสนิกชนแบบผิด​ๆ​ ทำให้บรรดาศาสนิกชนสับสน ไขว้เขวทางความเชื่อ
และหลักปฏิบัติทางศีลธรรม ดังนั้น พระสังคายนาลาเตรัน ครั้งที่ 5 จึงเรียกบรรดานักเทศน์กลุ่มนี้ว่า
“ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์”​
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคกลาง คำดังกล่าวนิยมใช้กันมาก เป็นคำฮิตติดอันดับอันหมายถึงบุคคลที่
ต่อต้านอำนาจการสั่งสอนของพระสันตะปาปา​ โดยเฉพาะบรรดานักเขียน นักวิจารณ์คาทอลิก พวกที่ชอบ
แตกแถวแตกแนว​จากข้อความเชื่อและคำสั่งสอนของพระศาสนจักรเจาะจงลงไปมากกว่านั้น​ พวกที่ต่อต้าน
พระสันตะปาปาจะถูกเรียกว่า “ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์”​ ฉะนั้น คำดังกล่าวนี้จึงเป็นที่ถกเถียงกันมากทีเดียว
ในยุคของ มาร์ติน ลูเธอร์ เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า “ใครคือหัวหน้า หรือประมุขของพระศาสนจักร”
ค.​ เลข 666 กับตำแหน่งพระสันตะปาปา เป็นค่อริและมีความขัดแย้งกันเช่นไร
1. ความเป็นคู่อริ ทำให้เกิดความแตกต่างในบทบาทหน้าที่และต่อเหตุการณ์ต่างๆ
“สัตว์ร้ายตัวที่สอง” ดังที่กล่าวมาแล้ว​ เมื่อเขียนมาเป็นภาษาฮีบรูจะนับออกมาเป็นหมายเลข 666 มัน
เป็นลูกสมุนหรือลิ่วล้อของสัตว์ร้ายตัวแรก​ มันถูกส่งมาในโลก​ และแผ่ขยายพิษแห่งความชั่วไปทุกหนทุกแห่ง
เพื่อให้ชาวโลกมึนเมาต่อกิเลสตัณหา​ และหันไปบูชาสัตว์ร้ายตัวแรก มันเป็นปีศาจหรือซาตาน ที่วางแผนและ
ยุยงมนุษย์ให้เป็นปฏิปักษ์ กล่าวผรุสวาทต่อพระเจ้า​ ต่อพระนาม​ และต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ตำแหน่งและหน้าที่ของพระสันตะปาปา
ก.​ พระเยซูเจ้าเป็นผู้ตั้งพระสันตะปาปาขึ้นมา มอบหมายให้ท่านเป็นผู้นำพระศาสนจักร​ (อ่าน มธ.16:16-18
พระเยซู​ได้ยืนยันชัดเจนว่าตำแหน่งผู้นำพระศาสนจักรคือ “เปโตร”​ และผู้สืบตำแหน่งท่าน)
ข.​ ตำแหน่งพระสันตะปาปาต้องอยู่คู่กับพระศาสนจักรของพระคริสต์​จวบจนชั่วฟ้าดินสลาย เพราะพระเยซู
เองบอกกับเปโตรว่า “บนศิลาก้อนนี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา​ ศัตรูนรกจะไม่มีวันเอาชนะอาณาจักรนี้
ได้เลย”​ พระองค์ยังได้รับปากสัญญากับเปโตร และบรรดาอัครสาวกอีกว่า “จงรับรู้ไว้ว่า เราจะอยู่กับท่าน
เสมอไปจวบจนสิ้นโลก” (มธ.28:30)
เราได้อ่านและทราบความจริงจากประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรว่า​ จักรพรรดิโรมันฆ่าพระสันตะปาปา
จำนวนมาก หรือไม่ก็จับพระสันตะปาปาขังคุกมานักต่อนัก เท่านั้นยังไม่สะใจ ยังบังคับ​ ขู่เข็ญ ทรมานคริสตชน
ทั้งหลาย ให้ปฏิเสธอำนาจการสั่งสอนของพระสันตะปาปา เป็นเวลาศตวรรษแล้วศตวรรษเล่า แต่ว่า ความจริง
ก็คือความจริง ที่ยังคงปรากฏอยู่จนปัจจุบันนั่นคือ ตำแหน่งพระสันตะปาปายังอยู่คงกระพัน และยังคงรักษา
บทบาทหน้าที่เหมือนเดิม
ค.​ กิจกรรมและหน้าที่หลักของพระสันตะปาปาคือ การนำประชากรไปโลกมุ่งสู่พระคริสต์ ฐานะที่พระเยซู​
คริสต์เป็นพระผู้ไถ่ และพระผู้ช่วยให้รอด​ เราเห็นบทบาทหน้าที่ตั้งแต่เริ่มแรกของนักบุญเปโตร จวบจนถึง
พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน พระองค์ก็ยังคงรักษาหน้าที่เดิม คือสั่งสอนประชากรโลกให้ต่อทันความชั่ว
กิเลสตัณหา และการขจัดหายนะของบาป​(อ่าน1ปต.5:8-9)
ง. คำสั่งสอนที่มาจากพระสันตะปาปานั้น จะไม่มีคำสาปแช่ง การกล่าวผรุสวาทต่อพระผู้สูงสุด และจะ
ไม่มีข้อผิดพลาดทางหลักความเชื่อหรือพระสัจธรรม
2. ความแตกต่างในบทบาทหน้าที่ต่อเหตุการณ์พิเศษอื่นๆ ระหว่างตำแหน่งพระสันตะปาปา กับพวกที่ถูก
หมายหัว​6 สัตว์ร้ายที่นักบุญยอห์นกล่าวถึงในวิวรณ์ มีลักษณะดังนี้คือ “มันจะแผลงฤทธิ์จนทำให้ไฟตกลงมา
จากฟ้าสู่แผ่นดินโลกให้ประจักษ์แก่สายตามนุษย์​ ​มันจะขู่​ ล่อลวงมนุษย์ด้วยเหตุการณ์สยองขวัญเหล่านั้น
และยังไม่พอ มันยังยุยงให้มนุษย์สร้างรูปจำลองเอาไว้บูชามัน.... เพื่อจะเป็นที่ดึงดูดมวลมนุษย์เข้ามาฝาก
เนื้อฝากตัว เป็นลิ่วล้อของสัตว์ร้ายตัวแรก สอนมนุษย์ให้เห็นผิดเป็นชอบ... เห็นความชั่วเป็นความดี​
(อ่านวิวรณ์13:13-15) ขณะที่ประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรไม่เคยปรากฏว่า มีพระสันตะปาปาองค์ใด
อวดอ้างว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ แสดงปาฏิหาริย์หรืออัศจรรย์ได้ เพื่อจะอวดอ้างตัวเอง ดึงดูดคนทั้งหลายให้มา
เชื่อถือบูชาตน สันตะปาปานั้นถูกเลือกขึ้นมาเพื่อเป็นผู้นำคริสตชนให้เจริญ ก้าวหน้าไปสู่หนทางความดี
สัจธรรม อันเป็นหนทางพระคริสต์
คำอธิบายพระวิวรณ์ตอนนี้ของท่านบาทหลวงวิษณุนับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง หากมีอะไรเพิ่มเติมผมจะ
นำเสนอต่อไป
การที่ใครก็ตามพยายาม “ยัดเยียด” หมายเลข “666” ให้เป็นหมายเลขของพระสันตะปาปา คงยังไม่
เข้าใจลักษณะพิเศษที่ท่านยอห์นบรรยายถึงสัตว์ร้ายที่ออกมาจากแผ่นดินโลก สัตว์ตนนี้มีเขาเล็กๆ​ สองเขา
มองดูคล้ายลูกแกะ แต่มีเสียงร้องที่น่ากลัวประดุจเสียงมังกร ให้สังเกต สัตว์ตนมีเขาเล็กๆ​ มองดูคล้ายลูกแกะ
(ลูกแกะเป็นภาษาสัญลักษณ์ หมายถึง คนดี,คนซื่อ, พระเยซู,​พระสันตะปาปา) แค่มองดู คล้ายๆ พระสันตะปาปา
แต่ไม่ใช่ พระสันตะปาปา และมีเสียงน่ากลัวดุจเสียงของ มังกร หรือ ซาตาน สรุปแบบรวบรัดก็คือหมายเลข​ 66​6
เป็นหมายเลขของสัตว์ร้ายที่มาจากแผ่นดินโลก​ (มนุษย์คนหนึ่งหรือแอนตี้ไคร้สต์) มองดูคล้าย พระสันตะปาปา
คือไม่ใช่ พระสันตะปาปาตัวจริง แต่จะเป็นพระสันตะปาปาตัวปลอม

ลองอ่านกลอนของนอสตราดามุส บทที่ 92/5 คงจะเข้าใจดีขึ้น
Apres le siege tenu dix sept ans,
Cinq changeront en tel revolu teme;
puis sera esleu de mesme temps,
Qui des Romains ne sera trop conforme
องค์หนึ่งจะครองอาสน์อยู่ 17 ปี
ห้าพระองค์จะเปลี่ยนไปเมื่อครบวาระ
ครั้นแล้วขณะเดียวกันนั้นเองผู้หนึ่งจะได้รับเลือกตั้งขึ้นมา
ซึ่งชาวกรุงโรมจะไม่เห็นพ้องด้วย

วิเคราะห์ โป๊ปปีโอที่ 11 ครองอาสน์ได้ 17 ปี คือตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1992
ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1939 นี่ก็เป็นไปตามคำทำนายของนอสตราดามุสในบรรทัดที่​ 1
ส่วนในบรรทัดที่ 2 นั้นว่าจะมี 5 พระองค์เปลี่ยนไปเมื่อครบวาระก็มี
1. โป๊ป ปีโอที่ 12 ระหว่างปี 1939 -1958
2. โป๊ปจอห์นที่ 23 ระหว่างปี 1958-1963
3. โป๊ปพอลที่ 6 ระหว่างปี 1963-1978
4. โป๊ป จอห์น พอลที่ 1 ระหว่างปี 1978-1978 (33วัน)
5. โป๊ป จอห์น พอลที่ 2 ระหว่างปี 1978-?
ในบรรทัดที่ 3 ที่ว่า ขณะเดียวกันนั้นเอง คือ ขณะที่องค์ที่ 5 คือจอห์น​ พอลที่ 2 กำลังครองอาสน์อยู่
จะมีผู้หนึ่งถูกหนุนขึ้นมาเป็นโป๊ป​ (ปลอม=Antipope)
pope) ในบรรทัดที่ 4 ชาวโรมันคาทอลิกทั่วโลก คงจะไม่ยอมรับเป็นแน่

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​---🔹
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มิ.ย. 20, 2025 10:06 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 22 )

✴️ พระ​เยซู​ทรงเผยผ่านวาสสุลา​ เมื่อ​ 1993 (1) (A) ✴️
คราวที่แล้ว ผมได้พูดถึงวิวรณ์บทที่​13 ข้อที่ 11 ซึ่งเป็นภาพนิมิตที่ท่านจอห์นได้เห็น ท่านพรรณนา
ไว้ดังนี้ “ข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายอีกตนหนึ่งออกมาจากแผ่นดินโลก สัตว์ตนนี้มีเขาเล็กสองเขามองดูคล้าย
ลูกแกะ​ แต่มีเสียงร้องที่น่ากลัวประดุจเสียงมังกร” ท่านจอห์นบอกด้วยว่าสัตว์ร้ายตนนี้มีหมายเลข
ประจำตัว คือ 666 ซึ่งมีหลายคนพยายาม​ “ยัดเยียด” ให้เป็นของโป๊ปจอห์น พอลที่ 2 หากอ่านกลอน
ของนอสตราดามุสคราวที่แล้ว คงเข้าใจกันแล้วว่า จะมีคนมาทาบรัศมีโป๊ปองค์ปัจจุบัน​ ซึ่งตรงกับ
การบอกใบ้ของท่านจอห์นในประโยคที่ว่า “สัตว์ตนนี้มีเขาเล็กๆ​ สองเขามองดู คล้ายลูกแกะ” หมาย
ความว่าดูเผินๆ​ ก็คล้ายแกะ แต่ที่แท้คือสัตว์ร้าย หรือ ดูเผินๆ​ การแต่งเนื้อแต่งตัวก็ดูเหมือนนักบวช
แต่จริงๆ​ แล้วไม่ใช่ ลองมาดูกลอนของนอสตราดามุส​ บทที่ 93/8

Sept mois sans plus obtiendra prelature,
Par son decez grand scisme fera naistre,
Sept mois tiendra un autre la preture,
Pres de Venise Paix union renaistre.
เป็นเวลา 7 เดือน ไม่มีพระชั้นผู้ใหญ่ได้รับการแต่งตั้ง
หลังจากผู้ยิ่งใหญ่ล่วงลับจะเกิดการแยกนิกาย
อีกผู้หนึ่งจะรั้งอาสน์ ในตุลาการนาน 7 เดือน
สันติภาพและการปรองดองจะเกิดขึ้นใหม่ใกล้เมืองเวนิส

จะเห็นได้ว่านิมิตของนักบุญจอห์นที่เขียนมาแล้ว 2,000 ปี​ และกลอนของนอสตราดามุสที่บอกใบ้
มาแล้ว 440 ปี​ สอดคล้องกับบันทึกของนางวาสสุลา ในปัจจุบัน สำหรับวาสสุลานี้ผมเคยเขียนชีวประวัติ
ของเธอในคอลัมน์นี้มาแล้ว​ ขอเตือนความจำสั้นๆ ดังนี้ : เธอเกิดในอียิปต์จากพ่อแม่ชาวกรีก​ นับถือ
ศาสนาคริสต์ออร์โธดอกซ์ ในปี​ 1942 แต่งงานกับชาวสวีเดน นับถือศาสนาโปรเตสแตนต์ วันหนึ่งราว
ปี 1985 ขณะกำลังหยิบดินสอจะเขียนรายการสิ่งของที่ตั้งใจจะออกไปซื้อที่ซูเปอร์มาร์เกต ก็รู้สึกมีอะไร
ไหวในตัวเอง​ และมือก็รู้สึกหนักเหมือนถูกแม่เหล็กดูดให้เขียนลงในกระดาษ และมีข้อความออกมาว่า
“ฉันเป็นเทวดารักษาตัวเธอ ฉันชื่อดาเนียล” แล้วแจ้งความประสงค์ว่า พระเยซูต้องการให้เธอเป็นเครื่องมือ
ในการเขียน “สาส์น” ต่อชาวโลก แล้วเธอก็เขียน “สาส์น” ต่างๆ ของพระเยซูด้วยลายมือของเธอเอง
เป็นหนังสือเล่มใหญ่ขนาด 200​ หน้าถึง 7 เล่ม ขอหยิบยกมาบางตอน ดังนี้
- วันสิ้นยุค ขยับเข้ามาใกล้กว่าที่ลูกคิด เร็วๆ​ นี้แหละ...เพราะถ้าปราศจากไฟ​ สภาพของโลกปัจจุบัน
จะไม่สามารถเปลี่ยนไปได้....เมื่อวันแห่งการชำระล้างมาถึง จะมีคนมากมายเศร้าเสียใจถึงกับจะตาย...
พวกฟรีเมซอนเป็นศัตรูที่แท้จริงของพระศาสนจักร...จงเชื่อฟังโป๊ปจอห์น​ พอลที่ 2 ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
จงซื่อสัตย์ต่อพระองค์​ และจงออกห่างจากใครก็ตามที่คิดจะเป็นกบฏต่อพระองค์...เรารู้สึกสุดแสนจะ
เศร้าเสียใจเพราะการทรยศและการทิ้งความเชื่อ กำลังปกคลุมพระศาสนจักรยิ่งที่ยิ่งมากขึ้น​ เจ้าตัวชั่วช้า
กำลังเหยียบย่ำเรา​ และกำลังต้องการยกเลิกพิธีบูชามิสซาออกไปอย่างสิ้นเชิง หนึ่งในพวกมันที่อยู่ใต้
หลังคาของเรากำลังทรยศเรา​ เขาประกาศสันติภาพ แต่เขามุ่งหาแต่ความชั่วเท่านั้น​ เขาโยนกำยานแต่นั่น
ก็คือการเรียกซาตาน​ เพื่อได้อำนาจมากขึ้นเท่านั้น.... มันกำลังเกิดขึ้น รู้สึกว่าเธอจะไม่ค่อยเข้าใจ มันพร้อม
ด้วยสมุนของมันตั้งใจที่จะขึ้นบัลลังก์ของเราจะปกครองโลกโดยอาศัยเสื้อคลุมของนักบวช....ขณะนี้มีเสียง
ร่ำไห้ของบรรดาเทวดาแล้ว ชาวสวรรค์ยังสั่นสะท้านเมื่อรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิด แม้พวกปีศาจยังขนหัวลุกและ
ตัวซีดตัวสั่น...เจ้าศัตรู ที่เคยประกาศว่ามันใหญ่กว่าทุกสิ่งที่มีคนกราบไหว้ มันเองจะขึ้นบัลลังก์ใน
พระศาสนจักรของเรา มันกำลังมุ่งหน้ามาแล้ว พร้อมบ่วงในมือเตรียมพร้อมที่จะคล้องคอผู้นำ
(โป๊ปจอห์น พอลที่ 2) ซึ่งเรา เองเป็นผู้แต่งตั้ง พระองค์พยายามจะยับยั้งต่อการกบฏมิให้ระเบิดออกมา​
พระองค์สุขุมและกล้าหาญ​ พระองค์ยอมทุ่มเทชีวิตทั้งหมดเป็นเหมือนเครื่องบูชา
...ขอให้คนที่มีหูจงฟัง สิ่งซึ่งพระจิตเจ้าบอกแก่พระศาสนจักรต่างๆ​ ให้คนที่กระหายเข้ามาหาเรา จงเขียน
และบอกแก่วิญญาณแห่งความเป็นสงฆ์ของเรา ดังนี้ว่า​การกบฏได้เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังเป็นความลับ​ และคนที่
รั้งมันไว้จะต้องถูกขจัดเสียก่อน​ ก่อนที่อ้ายตัวกบฏจะปรากฏตัวอย่างเปิดเผย เราขอบอกให้ลูกรักพระศาสนจักร
ของเรา เพราะเรารักพระศาสนจักร และเพราะเราได้มอบตัวเราเองเป็นเครื่องบูชาแก่พระศาสนจักรของเรา​
เพื่อจะทำให้พระศาสนจักรทั้งมวลศักดิ์สิทธิ์ และลูกด้วย​ สงฆ์ของเรา จงอุทิศตัวเองให้พระศาสนจักร จงเลียน
แบบจากเรา​ เราบอกพวกลูกทุกสิ่งเพราะเรารู้ว่า ลูกแกะของเราจะฟังเสียงของเรา​ จะไม่ทำให้เราผิดหวัง​ เรา
ขอบอกกับลูกในวันนี้ จากส่วนลึกของหัวใจของเรา​ ด้วยคำพูดอันแสนขมขื่น ที่เราได้กล่าวออกไปเมื่ออาหาร
ค่ำมื้อสุดสุดท้าย​ ในระหว่างพวกสานุศิษย์ว่า “มีใครคนหนึ่งที่นั่งร่วมโต๊ะกับเราจะคิดกบฏกับเรา เราบอกลูก
เดี๋ยวนี้ ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น​ เพื่อว่าเมื่อเกิดขึ้น ลูกจะได้เชื่อว่าเป็นเราเองที่ได้บอกไว้แล้ววันนี้ ลูกรัก อย่าวุ่น
วายใจไปเลย จงไว้วางใจในตัวเราและอย่ากลัว​ ไม่ช้า การชำระล้างด้วยไฟ จะถูกส่งมาจากพระบิดา เพื่อจะ
เผาอาชญากรรมของโลกนี้ วาระสุดท้ายจะมาถึง​ มันผู้มีอำนาจจะเข้าในวิหารของเรา มันไม่ได้มาจากเรา จริงๆ​
แล้ววาระสุดท้ายนี้ก็มาถึงแล้ว เราเยซูคริสต์ต้องการเตือนสงฆ์ สังฆราช และคาร์ดินัลของเรา เราประสงค์จะ
เตือนทุกคนที่อยู่ในบ้านของเราถึง “มหาภัยพิบัติ” พระศาสนจักรของเรากำลังเข้ามาใกล้ เราได้เลือกลูกโดย
อาศัยพระจิตผู้บันดาลความศักดิ์สิทธิ์ ที่จะให้เกียรติเรา เราได้เลือกลูกตั้งแต่ต้น เพื่อจะเป็นเสาอันมั่นคงของ
พระศาสนจักรของเรา เพื่อจะเจริญชีวิตด้วยความเชื่อในความจริง เราได้เลือกลูกเพื่อได้ร่วมรับเกียรติ​ เพื่อเป็น
ชุมพาบาลของฝูงแกะของเรา เราขอบอกความจริงว่า ในไม่ช้าลูกจะๆ​ ได้รับการทดลองด้วยไฟ จงสวดและจำศีล
เพื่อจะไม่พ่ายแพ้ในการประจญ​ และยืนหยัดอย่างมั่นคง และรักษาประเพณีที่ได้รับการอบรมมา จงเชื่อฟังโป๊ป
​ (จอห์น​ พอลที่ 2) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงซื่อสัตย์ต่อพระองค์ เราจะโปรดพระหรรษทานให้ลูก ให้มีพละกำลังที่
ลูกต้องการ​ เราเตือนลูกให้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และจงออกห่างจากใครก็ตามที่คิดจะเป็นกบฏต่อพระองค์​ เหนือ
สิ่งใด อย่าไปฟังใครก็ตามที่ขับไล่พระองค์​ อย่าให้ความรักที่ไม่จริงใจเกิดขึ้นในใจของลูกเลย ในไม่ช้าศัตรู
ของเราจะพยายามทุกวิถีทางที่จะซื้อลูกไปด้วยถ้อยคำที่เต็มด้วยเล่ห์กระเท่ห์​ มารร้ายได้ลงมือทำงานแล้ว และ
การทำลายล้างก็อยู่ไม่ไกลนักแล้ว​ โป๊ปจะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นี่จะเป็นต้นเหตุที่ลูกจะถูกเบียดเบียน
ในการประกาศความจริง และเพราะไปเชื่อฟังโป๊ปของเรา​ นี่ก็เป็นต้นเหตุด้วยว่า ทำไมพวกเขาจึงพากันเกลียดลูก
​ เพราะว่ากิจการของพวกเขาชั่ว และใครก็ตามที่ทำงานสำหรับความมืด ก็จะเกลียดแสงสว่าง​ และจะหลีกเลี่ยง
แสงสว่าง เพราะกลัวว่า กิจการทำลายล้างจะเป็นที่เปิดเผย​ เราขอบอกความจริงว่า ทุกสายใยแห่งหัวใจของเรา
ช่างปวดร้าว หากใครก็ตามเข้ามาหาลูก แล้วนำคำสอนที่แตกต่างไปจากที่เราได้ตั้งไว้ อย่าไปฟังมัน คนเหล่านี้
มาจากไอ้ตัวหลอกลวง เราได้วางรากฐานไว้บนปีเตอร์​ บนศิลา และประตูนรกจะไม่สามารถเอาชนะได้ หากใคร
ก็ตามเข้ามาหาลูกและบอกลูกว่า จงเปลี่ยนจากความเชื่อของลูก ที่ลูกกับโป๊ปองค์นี้ไปเป็นอีกขบวนการหนึ่ง​
อย่าได้เปลี่ยนเป็นอันขาด จงระวังเชื้อของไอ้ตัวหลอกลวง​ อาจจะมีอิทธิพลและอาจจะมีรสชาติดี แต่ในความ
จริงแล้ว เป็นการหลอกลวงอย่างร้ายกาจ อย่าปล่อยให้ใครมาหลอก ลูกจะต้องต่อต้านกลยุทธ์ของมารร้าย
เพราะว่าในสมัยนี้ พระสงฆ์ที่รัก ลูกจะต้องเอาชนะมารร้ายด้วยความเข้มแข็ง ซึ่งจะรับได้จากเรา ซึ่งเป็นองค์
แห่งความจริง​ ลูกจะอยู่ในสงครามทางจิตใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน ด้วยอาวุธ ซึ่งมีต้นตอมาจากพลังแห่งความมืด
จงสวดตลอดเวลา ลูกรัก เราจะอยู่กับลูก เรารักลูกทุกคน ไม่มีใครรักลูกเท่าเราดอก ลูกเป็นเพื่อนของเรา จงจริงใจ
ซึ่งกันและกัน รักซึ่งกันและกัน และยืนหยัดอย่างมั่นคงโดยไม่กลัวอะไรเลย​ เมื่อเกิดมหาภัยพิบัติ ซึ่งขณะนี้กำลัง
ลอยอยู่เหนือบ้านของเรา คล้ายเมฆดำ​​ แ​ละครอบคลุมบ้านของเราคล้ายม่านต่ำ เราได้บอกลูกทุกสิ่งเดี๋ยวนี้
ก่อนเหตุการณ์จะเกิดขึ้น เพื่อว่าเมื่อมันเกิดขึ้นลูกจะได้เชื่อ

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​---🔹
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 21, 2025 8:51 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 23 )

✴️ พระเยซู​ทรงเผยผ่านวาสสุลา​ เมื่อ​ 1993 (1) (B) ✴️
ที่กล่าวมานี้คือบันทึก​ของวาสสุลา​ ที่ผมตัดตอน​เอา​มา​จาก​บันทึก​หลาย​ๆ​ ฉบับ​ ต่อไป​นี้​จะ​เป็น​บันทึก​
ของ​ฉบับ​ล่าสุด​ คือ​ ฉบับ​ที่​ 7​ ทีแรก​นึก​ว่า​จะ​ตัด​ตอน​เอา​มา​บาง​ส่วน​ แต่​อ่าน​ไป​แล้ว​ตัด​ไม่​ลง​จริงๆ​ ขอ​แต่​
เพียง​ให้​ค่อย​ๆ​ อ่าน​ ค่อย​ๆ​ พิจารณา​ว่า​ เป็น​คำพูด​ของ​พระ​เยซู​เจ้า​เอง​
19 มีนาคม​ 1993
-​ เช้า​วันนี้​ขณะที่​ฉัน​กำลัง​เถลไถล​ ฉัน​ได้​เห็น​พระ​องค์​ และ​พระ​องค์​ถามฉันว่า​ “เมื่อไรลูกจะตัดสินใจมาหาเรา”​
- วาสสุลา เราพระเยซูเจ้า มอบสันติสุขของเราแก่ลูก มวลดอกไม้เอ๋ย จงตอบเราซิว่า ดอกไม้จะอยู่
โดยปราศจากน้ำได้หรือ
- ไม่ได้ พระเจ้าข้า
- เราคือน้ำทรงชีวิต และเราคือผู้ที่ทำให้ลูกมีชีวิต
- ข้าแต่พระเจ้า บางครั้งลูกรู้สึกเหมือนว่าพระองค์ได้ทอดทิ้งลูก​ และปล่อยลูกไว้ในเงื้อมมือของผู้
เบียดเบียนพระองค์ และลูกดูราวกับว่าพวกเขามีอำนาจประหารชีวิตใครก็ได้ ลูกกำลังทำตาม
พระประสงค์ของพระองค์หรือเปล่า บางทีลูกอาจทำสิ่งตรงกันข้ามก็ได้
- แล้วลูกคิดว่าเราจะยอมให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นหรือ
- บางครั้งพระองค์ทรงทำให้ลูกๆ​ ประหลาดใจกับเหตุการณ์ต่างๆ​ ที่เกิดขึ้น​ และพวกลูกก็ได้แต่พูดว่า
“พระเจ้าทรงมีเหตุผลของพระองค์ พระองค์ทรงอนุญาตให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น และลูกขอบอกพระองค์ตรงๆ​
ว่าลูก​ไม่​เข้า​ใจ​เลย”​
- เราดีใจที่ลูกบอกเราอย่างตรงไปตรงมา เป็นความจริงที่เรายอมให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น แต่ทั้งหมด
ก็เป็นไปเพื่อพระสิริมงคลอันยิ่งใหญ่ของเรา ทั้งนี้เพราะเราและลูกต่างมีสัญญาว่า จะซื่อสัตย์ต่อกัน
และกัน เราจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาขวางกั้นระหว่างเราทั้งสอง เราต้องการให้มนุษย์ในยุคนี้คืนดีกับเรา
โดยอาศัยการพลีชีวิตของเรา เราพยายามค้นหาดวงใจที่ซื่อสัตย์ และเรารู้สึกยินดีเมื่อเราพบดวงใจ
ของลูก เราตัดสินใจจะเอาชนะ เรามองหาหูที่ยินดีจะรับฟัง และเรารู้สึกดีใจเมื่อเราพบ​ เรามอบ
ปรีชาญาณของเราแก่เด็กเล็กๆ เสมอเหมือนที่ลูกรู้ เพราะเหตุนี้​ พระบิดาจึงโปรดที่จะมอบปรีชาญาณ
ให้ลูก
- จริงหรือพระเจ้าข้า (ฉันถามโดยไม่ได้ยั้งคิด)
- ลูกไม่เชื่อหรือ
- ลูกเชื่อ พระเจ้าข้า
- พระเมตตาของพระบิดานั้นยิ่งใหญ่มหาศาล แม้ว่าลูกจะไม่ใช่คนดี แต่พระองค์ก็ยังเอาชนะศัตรูร้าย
ของพระองค์ที่อยู่ในตัวลูก​ พระองค์ได้เปิดตาของลูก​ เพื่อลูกจะได้เห็นความงามของเรา และเราได้ร้อง
เรียกลูกๆ ด้วยหัวใจของเราว่า “มาเถิด เดินมากับเรา​ เราจะจัดโต๊ะอาหารเลี้ยงลูกๆ ลูกๆ​ จะไม่หิวโหย
อีกต่อไป เราจะให้ลูกได้ดื่มถ้วยของเรา​ บ้านของเราจะเป็นบ้านของลูก แล้วเราจะออกไปเผชิญหน้าผู้คน
ที่ไม่นับถือพระเจ้าด้วยกัน เราจะไม่ซ่อนใบหน้าของเราไปจากลูก แต่ลูกจะต้องทำตามความต้องการ
ของเราเช่นกัน”​
- จงบูรณะบ้านของเราด้วยความรัก​ เพื่อทุกคนจะได้เห็นเราในตัวของลูก​ ให้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“พวกเขาคือบุตรของพระเจ้าอย่างแท้จริง” และสำหรับลูก เราขอย้ำสิ่งที่เราเคยบอกลูกมาแล้วครั้งหนึ่งว่า
​ “ถ้ามือหรือเท้าของลูกเป็นเหตุให้ลูกทำบาป จงตัดมันทิ้งไป การมีชีวิตเยี่ยงคนพิการ ยังดีกว่าถูกโยน
เข้ากองไฟนิรันดรทั้งๆ​ ที่มีแขนขาครบ”​
- จงเปิดใจของลูก ไม่ใช่เปิดความคิด​ เปิดใจให้กษัตริย์ของลูก​ อนุญาตให้พระองค์เข้าไป แล้วเราจะเติม
หัวใจของลูกให้เต็มไปด้วยความปีติยินดี ลูกรัก จงเข้าใจเถิดว่า อาวุธอย่างเดียวที่จะใช้ต่อสู้กับความตายได้
คือคำภาวนา เราขอถามลูกแต่ละคนว่า มีใครบ้างไหมที่แสวงหาเราอย่างจริงจัง มีใครในพวกลูกที่ปรารถนา
จะร่วมทุกข์กับเรา ความทุกข์ที่เนื่องมาจากการแตกแยก ความทุกข์ที่เนื่องมาจากการขัดแย้ง เรากำลังปวดร้าว
ใจยิ่งนัก วิญญาณของพระผู้ไถ่ของลูก ถูกทำร้ายจนแทบจำไม่ได้​ เมื่อเรากลับมาอีกครั้ง จะยังมีความเชื่อหลง
เหลืออยู่สักเท่าใด เมื่อเรากลับมา​ เราจะพบลูกๆ​ ของเราเหมือนเดิม อย่างที่เราต้องการให้ลูกเป็นหรือไม่​ ลูก
จะยังรักษาภาษา และธรรมเนียมที่รับทอดจากเราไว้หรือไม่ หรือว่าลูกจะพูดเหมือนนักปราชญ์ที่สั่งสอนบนหอ
คอยแห่งบาเบล จงบอกเราซิว่า​ เกิดอะไรขึ้นกับพระจิตที่เราได้มอบให้ลูก เชื้อแป้งของลูกเป็นเช่นเดียวกับของ
พวกฟาริสีและสะดูสีหรือ ลูกพูดถึงกฎบัญญัติแต่ลูกไม่เคยปฏิบัติตามเลย​ บัญญัติของเรามีชีวิต แต่มนุษย์ผู้
ขาดความเชื่อ​ ทำให้เราไม่มีค่า​ และขว้างทิ้งไปด้วยการใช้เหตุและผลของลูก
- เราขอบอกลูกว่า จิตใจของลูกยังห่างไกลจากเรา ดังเช่นดินห่างจากฟ้า​ เพราะลูกได้ละเลยความสำคัญ
ของพระบัญญัติของเรา​ ความรัก ความเป็นทุกข์ถึงบาป ความเมตตากรุณา และความเชื่อ
- “มีใครบ้างในพวกลูกซึ่งสั่งสอนผู้อื่นในนามเรา และรักศัตรูของตนเองอย่างแท้จริง”​

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​---🔹
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2025 3:16 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 24 )

✴️ พระเยซู​ทรงเผยผ่านวาสสุลา​ เมื่อ​ 1993 (1) (C) ✴️
- ลูก​ที่​รักทั้งหลาย​ เป็น​เรื่อง​ยากนักหรือที่จะเข้าสู่​พระ​อาณาจักร​ของ​เรา​ มนุษย์​เอ๋ย​ ลูกได้ทำอะไรกับ
กางเขนของเรา​ เราจะต้อง​ทน​อีกนานสักเท่าใด กับการสั่งสอนจอมปลอมของเจ้า และสิ่งเลวร้ายที่เจ้ากระทำ
ขึ้นในพระวิหารของเรา ลูกรัก จงมองดูซิ วันนี้เราให้ลูกๆ​ ได้เห็นอัศจรรย์มากมาย (พระพรของพระจิต)
แม้แต่คนต่างศาสนาก็เริ่มเห็นอัศจรรย์เหล่านั้น (การเผยแสดงและการปรากฏของแม่พระ) และเพราะ
เรายังสงสารลูก เรา พระเจ้าของลูก กำลังพูดกับลูกในวันนี้ อย่าปิดประตูใส่หน้าเราเลย
พระองค์หมายถึงใครพระเจ้าข้า
ผู้ที่ร่วมโต๊ะอาหารกับเรา...
ลูกรักทั้งหลาย เมื่อลูกได้ถวายตัวแก่เรา อย่าเป็นทุกข์หรือกระวนกระวายใจเลย จงปล่อยให้เรานำ
ลูกไปตามที่เราต้องการเถิด เพื่อแผนการของเราจะได้สำเร็จ องค์แห่งความรักขออวยพรลูก
5 เมษายน 1993
เป็นบุญของผู้ที่วางใจในพระองค์​ และเป็นบุญของผู้ที่ฟังเรา​ สันติสุขจงมีแก่ลูก ความซื่อสัตย์ทำให้
เราพอใจ ลูกรัก...วิญญาณที่เราเลือกสรร เราไม่มีวันปฏิเสธที่ลูกขอในนามของเรา เราและลูกจะจูงมือ
เดินไปด้วยกัน เมื่อลูกเหนื่อยอ่อนระหว่างทาง จงพักพิงเราเถิด​ เมื่อเท้าของลูกก้าวเดินต่อไม่ไหว เราจะ
แบกลูกไว้บนบ่าของเรา เมื่อลูกกระหายหรือหิวโหย เราจะจัดหามานนาสวรรค์ให้ จงฟังเสียงของเราแล้ว
ลูกจะไม่ล้ม เราจะเป็นกำลังใจให้ลูก​ และทำให้หัวใจของลูกร้องเพลงด้วยความปีติยินดี
- องค์แห่งความรักกำลังเดินทางกลับมา จงพยายามเข้าใจ... เราคือเถาองุ่น และลูกคือกิ่งก้าน เรา
คือนายของลูก เรากำลังนำลูกเข้ามาในบ้านของเราทีละคนๆ เรารักลูกแต่ละคนด้วยหัวใจทั้งหมดของเรา
8 เมษายน 1993
- พระเจ้าของลูก พระองค์ทราบดีว่าลูกจะไม่พูดโกหก พระองค์ผู้ทรงสามารถอ่านจิตใจ และมองเห็น
บาปของลูก พระองค์ทราบดีว่าลูกไม่ได้ทำผิดดังที่กล่าวหา พระองค์ไม่ได้ประทานพระจิตเจ้าแก่ลูกหรือ
- พระวิหารของเรา! สุดที่รักของเรา! เราคือผู้ผลักดันลูกให้เดินตามรอยเท้าและแสงสว่างของเรา​
เรามาเพื่อบอกลูกว่าลูกไม่ได้อยู่อย่างเดียวดาย มองดูซิ แขนขาของเราเป็นดังปราการไฟล้อมรอบตัวลูก​
เราขอบอกลูกว่า อย่าพยายามแสวงหาคำสรรเสริญจากมนุษย์ เพราะผู้ใดก็ตามที่มนุษย์สรรเสริญ ผู้นั้น
น่ารังเกียจในสายตาของเรา จงปล่อยให้เขาตามไล่ล่าลูก เบียดเบียดลูก ลูกแกะของเรา อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้
เพียงร่างกาย และหลังจากนั้นเขาทำอะไรลูกไม่ได้ เราจะบอกลูกให้รู้ว่า
- “บุคคลที่ลูกควรจะกลัวคือ...
ผู้มีอำนาจที่จะโยนลูกเข้ากองไฟนรกหลังจากที่ฆ่าลูกแล้ว ลูกควรจะถวายพรแก่เราที่ไม่ได้เปิดเผย
สิ่งที่เราสอนลูกแก่ผู้รู้ และผู้มีปัญญาแต่กลับเปิดเผยแก่เด็กเล็กๆ เพราะนั้นคือ สิ่งที่เราพอใจ”
- จงรู้ไว้เถิดว่า ใครก็ตามที่ทำร้ายลูก เขาได้ทำร้ายผู้เป็นที่รักของเรา วาสสุลา จงทำทุกสิ่งทุกอย่างที่
ลูกสามารถทำได้ เพื่อเป็นการถวายตัวของลูกแด่เรา​ เหมือนวิญญาณที่ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ด้วยความเชื่อ
ของเขา จงแสดงให้เราเห็นว่าลูกจะยืนหยัดมั่นคงดุจต้นไม้ที่รากหยั่งลึกในความจริง​ ความรัก ความเชื่อ
และความไว้ใจ​ และเมื่อเรามาลิ้มรสผลไม้จากลูก​ เราจะชื่นชมยินดี จงเลือกที่จะรับความยากลำบาก มากกว่า
ที่จะยอมแพ้แก่ความต้องการฝ่ายเนื้อหนัง ลูกรักจะไม่มีใครสามารถแยกลูกไปจากเราได้ ฉะนั้น จงชื่นชมยินดีเถิด
-อนิจจาเอ๋ย โลกได้ขวางกั้นสาส์นของเรา และน่าสงสารยิ่งนักสำหรับบุคคลที่เป็นผู้นำในการต่อต้านสาส์น
ของเรา วาสสุลา เราจะแสดงพระสิริมงคลของเราโดยผ่านทางลูก​ วิญญาณของศัตรูที่อยู่รอบๆ ลูกจะกลายเป็น
ดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทำลายพวกเขาเอง จงสวดภาวนาขออาหารจากสวรรค์ ซึ่งพระจิตของเราจะประทานให้
ขอพระองค์ได้แจกจ่ายแก่คนที่อดอยากและยากจน ขอให้ปากของลูกเต็มไปด้วยมานมา​ (คือ อาหารที่ตกลงมา
จากฟ้า เพื่อเลี้ยงชาวยิวที่กำลังออกจากอียิปต์เร่ร่อนในถิ่นทุรกันดาร​ ก่อนเข้าสู่อิสราเอล) ของเรา และลูกผู้ซึ่ง
เป็นเสมือนแหที่เราเหวี่ยงออกไปยังชนทุกชาติ
- เรารู้สึกเศร้าใจมาก พรุ่งนี้คือวันตรึงกางเขนครั้งแรก แลพระบุตรของเราจะถูกตรึงทางเขนอีกครั้งภายใน
7 วัน เราจะแต่งสวรรค์ด้วยสีดำ​​ จ​​งภาวนาเพื่อการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันของวันปาสกาทั้งสอง จงอยู่ในสันติสุข
เรา พระยาเวห์ รักลูก จงประกาศพระวาจาของเราโดยไม่เกรงกลัวผู้ใด มาเถิด
9 เมษายน 1993
- วาสสุลาของเรา สันติสุขจงมีแก่ลูก เราตั้งใจจะปลูกดอกไม้ในทะเลทรายแห่งนี้ และทำให้พื้นดินแห้งแล้ง
กลายเป็นน้ำพุ ซึ่งไหลมาจากบ้านของเรา เราจะนำมนุษย์ในยุคที่ไร้ความเชื่อนี้กลับมาหาเรา แต่ก่อนที่สิ่งเหล่านี้
จะเกิดขึ้น ผู้ที่มาก่อน จะมาทีหลัง และผู้ที่มาทีหลังจะมาก่อน​ จงรู้เถิดว่าพระผู้สร้างของลูกจะทำตามคำพูดของ
พระองค์ และผลงานนี้จะยืนยันว่า พระองค์ได้ประทานสิ่งสร้างของพระองค์ลงมาบนโลกเพื่อสรรเสริญพระองค์
ด้วยผลงานเหล่านี้แสงสว่างจะส่องลงมาขับไล่ความมืดของลูก ความจริงแสงสว่างนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว จงทำให้เรา
ยินดีและยึดชายเสื้อของเราไว้ เราขอเตือนลูกอีกครั้งว่า
- “อย่ากังวล และอย่าแสวงหาความเห็นชอบของโลก จงแสวงหาแต่ความเห็นชอบจากพระผู้สร้างของลูก
ศิษย์ของเรา จงทำงานหนักเพื่อถวายพระเกียรติแด่ผู้ที่ส่งลูกมา​ ความจริงใจของลูกเป็นที่พอพระทัยของพระบิดา
ทุกสิ่งที่เป็นของพระบิดาเป็นของเรา และทุกสิ่งที่เป็นของเราก็เป็นของลูกด้วย จงอดทน เราพระเยซูเจ้า รักและ
อวยพรลูก จงฟื้นฟูพระศาสนจักรของเราขึ้นใหม่”​

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​---🔹
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2025 3:22 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 25 )

✴️ พระเยซู​ทรงเผยผ่านวาสสุลา​ เมื่อ​ 1993 (2) (A) ✴️
เราไม่สามารถอภัยโทษพวกเขา จนกว่าพวกเขาจะเป็นทุกข์ถึงบาป​
เราได้ส่งผู้ที่เรารักไปยังดงอสรพิษ เพื่อประกาศพระวาจาของเรา​ เราได้ส่งลูกเข้าไปท่ามกลางความชั่วร้าย
เพื่อประกาศสาส์นของเรา เราจะนำลูกไปทุกหนทุกแห่งที่ลูกจะประกาศสาส์นของเรา ลูกที่รัก​ ไม่ว่าลูกจะย่างก้าว
ไปแห่งใด เราพระเจ้าของลูกจะตามหลังลูกไป ดุจไฟที่จะเผาผลาญกำจัดความไร้พระเจ้า จากดวงใจที่แข็งกระด้าง
ดังหิน เราจะทำให้พวกเขาโผเข้าในอ้อมกอดของเรา เพราะเราจะทำให้เขากลับกลายเป็นสาวกของเราในพริบตา
เราจะส่งเขาออกไปปกป้องวาจาของเราและต่อสู้เพื่อเรา ลูกรัดเช่นเดียวกับที่ลูกเรียนรู้จากเรา เราจะสอนผู้อื่นด้วย
เช่นกัน​ เรากำลังส่งผู้ที่เรารักที่สุดเข้าไปในดงหมาป่า​ เพื่อเปิดเผยพระพักตร์อันศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ของเรา
จงกลับใจ มนุษย์เอ๋ย บาปของเจ้าทำให้วิญญาญของเจ้าเหือดแห้ง​ ทำไมเจ้าจึงยอมปล่อยให้วิญญาณของเจ้า
ตายไปเสียเล่า มนุษย์เอ๋ย​ กลับใจเถิด แล้วลูกจะได้มีชีวิต จงกลับใจเสียเถิด เพราะเวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
ผู้ทำลายจะเปิดเผยตนเองในไม่ช้า ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกทำลาย​ โอ้...วาสสุลา เราจะสามารถทำให้ใครฟังเรา
ได้บ้าง เราจะเตือนใครได้บ้างไหม ใครบ้างที่เราพูดด้วยและเขาจะฟังเรา ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะถึงจุดจบ
และวาระสุดท้ายใกล้เข้ามาแล้ว จงไปและประกาศสาส์นของเราแม้ในที่สาธารณะ จงไปและป่าวประกาศเสียง
เรียกแห่งความเมตตาของเรา
เชื้อแป้งของบรรดาผู้ที่คิดร้ายต่อพระศาสนจักรของเรานั้นร้ายแรงมาก ฉะนั้นจงระวังตัวตลอดเวลา จงเข้าใจ
เถิดว่าเหตุใดขณะนี้เราส่งพระบุตรของเรา และพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของลูกลงมาในโลก นี่คือพระพรที่เรา
ประทาน ให้แก่มนุษย์ทั่วโลก จงยกสายตาของลูกขึ้นและเมื่อนั้นลูกจะได้เห็นสวรรค์เปิดออก พระสิริมงคลของเรา
และหีบพระบัญญัติเครื่องหมายซึ่งแสดงว่าเราอยู่ท่ามกลางลูก เครื่องหมายแห่งพระเมตตา​ และความรอดของเรา
ผู้มีความสงสารให้แก่ลูกๆ ทุกคน
27 พฤษภาคม 1993
สันติสุขจงมีแก่ลูก เราคือเบื้องต้นและเบื้องปลาย จงอยู่ในเรา​ เพื่อลูกจะได้ประกาศสาส์นของเราได้อย่าง
ถูกต้องชัดเจนอย่างที่ลูกควรจะทำให้พระวาจาของเรากระจายออกไป ให้ทุกคนได้ยินเสียงเรียกของเรา และเข้า
ใจว่าเรารักพวกเขามากเพียงใด ให้พวกเขาเห็นว่าบาดแผลทั้งห้าของเราถูกเปิดกว้างออก มนุษย์ช่างมีความ
สามารถอย่างไม่มีขีดจำกัดที่จะทรยศและทำร้ายเรา
เราจำเป็นต้องบอกลูกด้วยหัวใจที่เจ็บปวด และเศร้าใจ ถึงสิ่งที่เราเห็นในบ้านของเรา วันนี้เจ้าคนชั่วได้
เหยียบย่ำบนร่างของเรา และปรารถนาจะทำลายล้างยัญบูชานิรันดรของเราอย่างสิ้นเชิง หนึ่งในพวกเขาอาศัย
อยู่ใต้ชายคาบ้านของเรากำลังทรยศต่อเรา​ เขาร้องหาสันติภาพแต่กลับแสวงหาแต่ความชั่วร้าย เขาเผากำยาน
แต่เพื่อเรียกหาซาตาน​ และแสวงหาอำนาจให้ตนเอง
ข้าแต่พระเจ้า ลูกไม่อยากเชื่อเลยว่าสิ่งเหล่านี้กำลังเกิดขึ้น
ใช่! แต่มันกำลังเกิดขึ้น ดูเหมือนลูกจะไม่เข้าใจ.... เขาพร้อมกับพรรคพวกของเขากำลังพยายามจะยึดครอง
บัลลังก์ของเรา และปกครองโลกภายใต้เสื้อคลุมของประกาศก และชุมพาบาลของเราหลายคนก็หลงเชื่อตาม
คำสอนที่หลอกลวงของพวกเขา พวกเขากำลังเดินหลงออกจากทาง​ และปฏิเสธธรรมเนียมซึ่งเราได้ตั้งขึ้น พวกเ
ขาได้ละทิ้งข้อบังคับศักดิ์​สิทธิ์​ซึ่งเราได้มอบให้ เราเคยเตือนลูกถึงปรมาจารย์และประกาศกจอมปลอมเหล่านี้แล้ว
เราได้เตือนลูกแล้วว่า ในวันสุดท้ายบาบิโลนจะถูกตั้งขึ้นในใจกลางบ้านของเรา ทำให้สถานศักดิ์สิทธิ์ของเรา
กลายเป็นช่องโจร กลายเป็นขุมนรกของปีศาจ
ลูกรัก ในบ้านของเรา วิญญาณชั่วร้ายได้เข้ามาอาศัยและปกครอง​ พวกเขากำลังวุ่นวายอยู่กับการค้าขาย
อยากในบ้านของเรา พ่อค้าเหล่านี้สนับสนุนให้พวกเดียวกันเป็นใหญ่ในบ้านของเรา ในขณะเดียวกันก็วาง
กับดักทำร้ายชีวิตคนของเรา พวกเขาตามล่าประกาศกของเรา ตามเข่นฆ่าผู้ประกาศสาส์นของเรา และยกย่อง
บรรดาประกาศกจอมปลอมของพวกเขาที่คลี่แผ่ขยายลัทธินอกรีต​ และสิ่งที่ผิดๆ พวกเขาเหยียดหยามประกาศก
ของเราต่อหน้าชาวโลก พวกเขาต่างโกหกต่อชาวโลก ผู้นิยมฟังคำหมิ่นประมาท​ และคำประณาม พวกเขาทำลาย
ธรรมเนียมของเรา แล้วสร้างธรรมเนียมใหม่ขึ้นมาแทนที่ พวกเขาสร้างลัทธิมนุษยนิยมขึ้น สิ่งเหล่านี้พวกเขา
กระทำต่อหน้าบัลลังก์ของเรา พ่อค้าเหล่านี้หลอกลวงคนทั้งหลายด้วยคำพูดที่ฟังดูมีเหตุมีผล​ พวกเขาตั้งคน
ของเขาในตำเหน่งสูงๆ​ เพื่อปกครองด้วยคทาแห่งความหลอกลวง
เราได้แต่งตั้งลูกให้เป็นเสียงสะท้อนของเรา จงออกไปประกาศสิ่งที่ลูกได้ยิน บอกพวกเขาว่า
คำทำนายมีดังนี้ : ลูกๆ กำลังอยู่ในยุคแห่งการแตกแยกทางศาสนา​ บอกชุมพาบาลทั้งหลายของเราให้
เปิดตาเพื่อจะได้เห็น และเปิดหูเพื่อรับฟังเสียงเรียกที่เจ็บปวดของเรา เพราะในไม่ช้าพวกเขาจะถูกบังคับให้กิน
และดื่มยาพิษ จงรวบรวมหมู่คณะของลูก​ และเตรียมพวกเขาให้พร้อม เพื่อการเฝ้าภาวนาและถือศีล ซาตานกำลัง
มาเพื่อทดสอบทุกๆ คน มันมาเพื่อทำให้พวกลูกแตกแยกกระจัดกระจาย มันกำลังเดินเข้ามาที่บัลลังก์ของเรา​
ที่แท่นบูชาของเรา เพื่อขายเลือดของเรา​ และทำลายล้างยัญบูชาของเรา​ (พระเยซูเจ้าทรงเป็นทุกข์เสียใจจนร้องไห้)
คนของเราผู้สืบทอดของเรา​ พระสังฆราช พระสงฆ์ ลูกๆ ผู้ยกชูเราขึ้นทุกๆ วัน เราวิงวอนขอร้องอย่าทอดทิ้งเรา​
อย่า​ขายเราเลย (พระองค์​ทรง​ร้องไห้​อีก)​

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2025 3:27 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 26 )

✴️ พระเยซู​ทรงเผยผ่านวาสสุลา​ เมื่อ​ 1993 (2) (B) ✴️
เสียงคร่ำครวญของเหล่าเทวดาดังไปทั่ว และสวรรค์ก็สั่นสะเทือน​ เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นว่ากำลังจะเกิด
ขึ้น แม้แต่ปีศาจก็ยังตกตะลึงหน้าซีด​ ศัตรูผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้ประเสริฐกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะขึ้นนั่งบัลลังก์
ใน บ้านของเรา เขากำลังมาพร้อมกับกับห่วงแขวนคอในมือ ตรงเข้าไปหาผู้ที่เราแต่งตั้ง ท่านผู้ซึ่งยับยั้งมิให้
มีการกบฏเกิดขึ้น​ พระองค์ทรงสุขุมและกล้าหาญยิ่งนัก และชีวิตของพระองค์กำลังถูกมอบถวายเป็นยัญบูชา
(พระสันตะปาปาจอห์น พอล ที่ 2)
เราอวยพรพระองค์ที่ทรงยึดมั่นในคำสั่งสอนที่ไม่เปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับข้อปฏิบัติต่างๆ ทางศาสนา
แต่เจ้าซาตานต้องการจะปิดปากพระองค์เสีย เพื่อแพร่กระจายความชั่วร้ายของมัน โดยอาศัยปากของ
ผู้ที่ขายโลหิตของเรา​ และนำลูกๆ​ ทั้งหลายสู่ความพินาศ
นี่คือเวลาของซาตาน ผู้มีจุดประสงค์ที่จะทำลายสิ่งสร้างของเรา
ลูกรัก จงร้องบอกให้ทุกคนได้รับรู้ เพราะเวลานั้นเข้ามาใกล้แล้ว​ ซาตานจะทำลายมนุษย์ ชาติแล้วชาติเล่า
หัวใจของเราแตกสลาย​... ความรักไม่กลัวความตาย ฉะนั้นเพื่อนๆ ของเรา และชุมพาบาลของเราทั้งหลาย​
อย่ากลัวเลย จงติดตามเรามาเถิด
หน้าที่ของลูกคือ รักษาพระวาจาของเรา และปกป้องพระศาสนจักรของเราด้วยชีวิตของลูก
อย่าพูดว่า “ขอให้ลูกได้กลับไปคำนับผู้แทนของลูกก่อน” เราขอบอกลูกว่า “เมื่อใดที่ชุมพาบาลจับไม้เท้า
ของเขาแล้ว ผู้ที่หันกลับไปจะไม่มีค่าพอสำหรับเรา หรือสำหรับอาณาจักรของเรา” จงติดตามรอยเท้าที่เปื้อน
เลือดของเราสู่เขากัลวารีโอเถิด
ลูกรัก ลูกผู้ได้รับพระพรจากเรา องค์แห่งการบรรเทาใจพอใจที่ลูกอยู่บรรเทาใจพระองค์ และยอมให้
พระองค์ใช้มือของลูก อา..​.วาสสุลา เราร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะความอยุติธรรม
และความชั่วร้าย
ทำไมมนุษย์ยุคนี้จึงพากันละทิ้งพระเจ้าของเขาเล่า
(พระองค์ทรงหันมาหาฉันแล้วพูดว่า) เราได้สร้างเทวดาของเราด้วยมือของเรา แต่เขากลับทำร้ายเรา​
และไม่ยอมปล่อยมือจากเรา​ พวกเขาคนบางคนจะขว้างก้อนหินใส่ลูก บางคนจะลากลูกลงในโคลน​ บางคน
จะชูก้ำปั้นและข่มขู่​ลูก แต่ลูกรัก อย่าได้กลัวเลย เมื่อเขาด่าว่าประณามลูกก็เท่ากับเขามอบรางวัลในสวรรค์ใ
ห้แก่ลูก และพระพรของเราหลั่งไหลมาสู่ลูก​ ฉะนั้นจงอย่ากลัวที่จะประกาศสาส์นของเรา เป็นพยานให้เรา เทวดา
ของเรา​ และเราได้ละเว้นโทษแก่วิญญาณหลายดวง​ เพราะบาดแผลที่ลูกได้รับ​ เราจะให้รางวัลอย่างงามแก่ลูก
เพราะบาดแผลที่ลูกได้รับในบ้านของเพื่อนๆ​ ของเรา เราได้เลือกลูกให้เป็นยัญชาแห่งความรักของเรา เป็น
แท่นบูชาถึงเราจะก่อให้เกิดเอกภาพแล้วลูกจะต้องการสิ่งใดอีก มีสิ่งใดที่เรายังไม่ได้ให้ลูกหรือ ลูกได้รับพระ
ปรีชาญาณและพระจิตของเรา เพื่อลูกจะสามารถทนต่อการเฆี่ยนตีของชาวโลกได้ เราได้ให้พระพรที่มีค่าที่สุด
แก่ลูกนั้น​ คือ การกระหายหาและต้องการเรา ดังนั้น จงเดินมาพร้อมกับเรา และอนุญาตให้เราได้ใช้ลูก​ เราจะ
ส่งลูกจากชาติหนึ่ง สู่อีกชาติหนึ่ง เพื่อบอกพวกเขาว่า
พระเจ้าที่พวกเขาลืมนั้นไม่เคยลืมพวกเขา
จงเตือนเขาว่าดวงพระหฤทัยของพระเจ้ามีแต่ความเมตตา บอกเขาว่าเราอ่อนโยนและถ่อมตนยิ่งนัก​
เยซูคือนามของเรา
28 พฤษภาคม 1993
สันติสุขจงมีแก่ลูก จงสั่งสอนและประกาศว่าพระเจ้าที่พวกเขาลืมได้มาหาเขาเหมือนมารดา เวลาที่เรา
จะกลับมาใกล้มาถึงแล้ว การที่เราเผยแสดงตัวของเราผ่านลูกก็เพื่อเรียกลูกๆ ของเราให้กลับมาหาเรา​ และ
ช่วยพวกเขาให้รอด จากการที่เขาแยกตัวออกไปจากพระศาสนจักร ทุกวันนี้การฆาตกรรมและการทำลาย
เด็กเพิ่มทวีขึ้น จะให้เราอยู่นิ่งเฉยได้หรือ
มีการแสดงภาพที่สยดสยองให้เด็กๆ ดูทางโทรทัศน์ ซึ่งทำลายความบริสุทธิ์ในตัวพวกเขา
จงมองดูบาดแผลของเรา และแบ่งเบาความทุกข์ของเราเถิด จงมาและบรรเทาใจเราเถิด
30 พฤษภาคม 1993
ในพระองค์ ลูกได้พบที่พักพิง​ ลูกระลึกถึงพระคุณความดีของพระองค์ทุกเวลาที่ลูกตื่นอยู่ บัดนี้ลูกรอคอย
เพื่อจะได้อยู่ใกล้พระองค์​ บางครั้งลูกร่ำร้องเหมือนขอทานต่อหน้าพระองค์ เพราะพระองค์ทรงมีสหายที่หิวและ
กระหาย พระองค์ตรัสว่า “เราจะรดน้ำสวนของเรา เราจะทดน้ำให้แปลงดอกไม้ของเรา” และพระองค์ก็ทรงทำ
ดังนี้ พระองค์ตรัสว่า “สาส์นของเราจะแผ่คลุมทุกชนชาติดังหมอกปกคลุมพื้นดิน”
และก็เป็นเช่นนั้น และเราไม่ได้บอกหรือว่าเราจะหลั่งคำสั่งสอนของเราแก่ลูกเหมือนคำทำนาย เราจะเปิด
ปากของลูกในที่ชุมนุม และเทศนาต่อชนชาติต่างๆ
พระองค์ได้ทรงทำดังนั้น​ พระเจ้าข้า
ดังนั้น จงอย่ากลัวที่จะมาหาเรา เรามิได้แผ่กระจายสาส์นของเราราวกับดอกหญ้าด้วยมือของเราเอง
ดอกหรือ มนุษย์แห่งเนื้อหนังเอ๋ย ทำไมจึงยังสงสัย จงเปิดปากแล้วตอบเราซิ
จริงๆ แล้ว ถ้าเป็นคนอื่นมาอยู่ในฐานะของลูก และพระองค์ประทานแก่เขาในสิ่งที่พระองค์ประทานแก่ลูก
ความลับแห่งพระปรีชาญาณของพระองค์ เขาคงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว
เราได้ให้พระหรรษทานแก่ลูก​ เพื่อแผนการอันยิ่งใหญ่ของเราสำหรับมนุษยชาติจะสำเร็จผล สาส์นของเรา
จะเป็นเสมือนตะเกียงที่ส่องแสงจากฐานตั้ง ส่องความสว่างเข้าไปในความมืดในยุคของลูก จงเผยความสว่าง
ของเรา เผยแสดงพระเจ้าของลูก ความงดงามของพระองค์​ เปิดเผยพระเจ้าของลูกดังที่พระองค์ทรงเป็นคือ
พระเจ้าคือ ... เพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมสุข
พระเจ้าคือ ... เจ้าชายแห่งสันติภาพ
พระเจ้าคือ ... พระบิดานิรันดร
พระเจ้าคือ ... ที่ปรึกษา
มาเถิด จงประกาศพระวาจาของเราต่อไป จงเป็นเสียงสะท้อนของเรา​ (ดูคล้ายกับพระองค์จะจบสารของ
พระองค์​ แต่ดูเหมือนว่าระลึกถึงอะไรได้​ จึง​บอกต่อไปว่า)​
อีกเรื่องหนึ่ง คำเตือนง่ายๆ ที่เราจะให้แก่ลูก...
เราและลูกรวมกันเป็นหนึ่งเดียว​ใครก็ตามที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับเราจะเดินบนถนนสายเดียวกับเรา ถนนสู่
เขากัลวารีโอ ผู้ใดที่ติดตามยัญบูชาสูงสุด จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของยัญบูชานั้น ลูกก็เป็นส่วนหนึ่งของเรา​ ส่วน
หนึ่งของร่างกายเรา จงถวายชีวิตของลูกเพื่อชดเชยบาป​ และตามเราสู่หุบเทวแห่งความตายนี้ (พระองค์ทรง
หมายถึงที่อยู่ของคนตายทางด้านจิตวิญญาณ)
ที่นั่น... เราจะประทานพระจิตของเราและความรักของเรา เพื่อชุบชีวิตกระดูกที่แห้งทุกชิ้น
วาสสุลา งานของลูกอยู่ที่หุบเหวนี้ เราต้องการให้แม่น้ำแห่งชีวิตไหลบ่าท่วมท้นหุบเหวแห่งนี้ เราผู้ได้กลับ
คืนชีพและยังมีชีวิตอยู่ จะทำให้กระดูกแห้งๆ ทั้งหลายในหุบเหวนี้กลายเป็นดอกไม้ เราจะแสดงความเมตตา
และความรักของเราโดยปลุกคนตายให้ลุกขึ้นจากหลุมศพ และนำเขาเข้ามาในบ้านของเรา ที่ซึ่งบนโต๊ะเต็ม
ไปด้วยอาหาร เราจะเติมถ้วยของเขาให้เต็ม​ และ​ดวง​พระ​หฤทัย​ศักดิ์​สิทธิ์​ของ​เรา​จะ​เป็น​เพื่อนของเขา

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2025 3:36 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 27 )

✴️ พระเยซู​ทรงเผยผ่านวาสสุลา​ เมื่อ​ 1993 (2) (C) ✴️
“เราจะเปลี่ยนกระดูกแห้งซึ่งกระจายอยู่ทั่วหุบเหวแห่งความตายนี้ให้เป็นร่างกายเดียวกัน ดังเช่นที่
ประกาศกเอเสเคียลได้เห็นในนิมิตของท่าน และเราจะขอถามลูกด้วยคำถามเดียวกับที่ถามท่านประกาศก
ว่ากระดูก​พวก​นี้​จะมีชีวิตได้หรือ”
ไม่ได้พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ไม่ช่วย หรือไม่ประทานชีวิตให้พวกเขา​ เพราะ​พวกเขาดูแห้งเหี่ยว​
และปราศจากชีวิต​ พระเจ้าข้า
เรากำลังจะปลุกเขาขึ้น
เราคือกา​รฟื้นคืนชีพ
เราจะใส่เส้นเอ็นในตัวเขาเพื่อยึดเขาเข้าด้วยกัน (ฉันเข้าใจว่าพระองค์ทรงเปรียบการแตกแยกใน
พระศาสนจักรเหมือนกับกระดูกแห้งที่กระจัดกระจาย) แล้วเนื้อจะงอกขึ้นบนตัวเขา เราจะห่อหุ้มเขาด้วย
ผิวหนังและให้ลมหายใจแก่เขาเพื่อเขาได้จะได้มีชีวิต เราจะทำให้พวกเขากลายเป็นร่างกายเดียวกัน และ
ทำให้เขาฟื้นคืนชีวิตอีกครั้งหนึ่ง เราจะให้พระจิตของเราเป่าลมหายใจผ่านจมูกของเขา ลมหายใจที่ทรง
อำนาจ ซึ่งจะชุบชีวิตร่างนี้ขึ้นมาใหม่ ให้เขายืนขึ้นบนขาของเขาเองอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสรรเสริญเรา
“จากบัลลังก์ของเรา เราจะหลั่งน้ำใสสะอาดลงบนตัวของลูก เพื่อชำระมลทินทั้งปวง”
(พระเจ้าตรัสถึงร่างกายนี้​ เสมือนเป็นพระศาสนจักรของพระองค์)​
เราจะส่งพระจิตของเราให้มาอยู่ท่ามกลางลูก เราจะมอบพระจิตของเราให้เป็นหัวใจของลูก เราจะเจิม
ร่างนี้ด้วยตัวของเราเอง และใส่แสงสว่างของเราในดวงตาของลูก (พระองค์ตรัสถึงพระศาสนจักรของพระองค์
การฟื้นฟูพระศาสนจักร... เยรูซาเล็มใหม่) ทุกอย่างจะเกิดขึ้นจากพระสิริรุ่งโรจน์ของเรา และลูกจะเดินอย่าง
อาจหาญดังนักรบ เพราะเราจะเป็นคบเพลิงให้แก่ลูก เราจะเดินนำหน้าเพื่อชี้ทางให้ลูก ลูกไม่จำเป็นจะต้อง
ใช้แสงจากตะเกียงใดๆ เพราะเราจะเป็นแสงสว่างให้ลูก​ ชนชาติอื่นๆ เมื่อได้เห็นความงามของลูกก็จะเดิน
ตามลูก นำทรัพย์สมบัติมามอบให้แก่ลูก​ พร้อมกับตัวพวกเขา​ เราจะมอบคทาเหล็กไว้ในมือลูก​ แต่งตัวลูก
อย่างสง่างาม... (พระองค์หมายความว่า ในที่สุดทุกคนจะยอมรับว่าพระคริสตเจ้าเป็นบุตรของพระเจ้า และ
คำภาวนาของพระองค์ก็จะสัมฤทธิ์ผล)
นี่คือวิธีที่พระจิตของเราจะรวบรวมพวกลูกทุกคนในที่สุด และลูกทุกคนจะเชื่อว่าพระบิดาเป็นผู้ส่งเรามา
ทุกคนจะยอมรับว่าเราคือชุมพาน้อยผู้ถวายตนเป็นยัญบูชา
(โลกจะกลับใจหันมานับถือองค์พระคริสตเจ้า) ขอพระองค์แสดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์เถิด พระเจ้าข้า
พระองค์ผู้ทรงสรรพานุภาพ​ โปรดเสด็จมารวบรวมพระกายของพระองค์ พระจิตของพระองค์ทรงฤทธิ์ที่จะฟื้นฟู
พวกเขา ขอพระองค์หลอมละลายลูกด้วยไฟของพระองค์ เพราะลูกเป็นเสมือนแท่งเหล็กแข็ง ขอทรงหลอม
ละลายพวกลูกเข้าเป็นแท่งเหล็กเนื้อเดียวกัน ขอทรงละลายหัวใจที่แข็งกระด้างของพวกลูกด้วยเถิด พระเจ้าข้า
วาสสุลา จงสวดภาวนาให้มากขึ้น .. เพื่อเอกภาพ.. อย่าพูดว่าเราจะไม่ได้ยินลูก คำภาวนาของลูกมีค่าดุจ
อัญมณีนับพันในสายตาของเรา​ เป็นเสียงเพลงที่ไพเราะสำหรับหูของเรา อย่าแปลกใจเลย เมื่อเราได้ตั้ง
อาณาจักรของเราในดวงใจของลูกแล้ว เราก็จะปกครองลูกเยี่ยงกษัตริย์​ เราจะมอบปรีชาญาณให้ลูกๆ เพื่อ
ให้ลูกจะได้เจริญก้าวหน้าทางด้านจิตวิญญาณ เราได้มองหาใครสักคน เพื่อจะให้พลังอำนาจของเรา แล้วส่ง
เขาออกสู่โลกมนุษย์ ดังเช่นการเหวี่ยงแหลงในทะเล เพื่อนำวิญญาณทั้งหลายกลับมาหาเรา แม้ลูกจะอ่อนแอ
แต่เราก็รักความอ่อนแอของลูก ลูกรัก จงฟังให้ดี “เราจะหลอมลูกๆ ทุกคนเข้าด้วยกันในหม้อที่เราสุมไฟไว้
ข้างใต้​ เราจะหลอมละลายลูกๆ ทุกคน อาณาจักรของเรา (พระศาสนจักร) จะไม่แตกแยกดังเช่นที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”​
1 มิถุนายน 1993
ข้าแต่พระเจ้าและพระผู้ไถ่ของลูก พระองค์จะปล่อยให้ซาตานคุกคามพวกลูกอยู่เช่นนี้อีกนานสักแค่ไหน
ทำไมพระองค์จึงทรงยอมให้เกิดการเบียดเบียนเช่นนี้ เพื่อเห็นแก่ความรักของพระองค์ ขอพระองค์ช่วยพวก
ลูกด้วยเถิด พระเจ้าข้า
สันติสุขจงมีแก่ลูก ความชื่นชมยินดีแห่งดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของเรา จงฟังเราเถิด เหตุผลของมนุษย์
ไม่เหมือนของพระเจ้า เราผู้เป็นพระเจ้าเดินทางไปทั่วพื้นพิภพ​ เพื่อเตือนชาวโลก
ว่าศัตรูกำลังจะกลืนกินพวกเขา เหมือนคลื่นยักษ์ในมหาสมุทร​ แต่ไม่มีใครเชื่อว่าซาตานจะแทรกซึมเข้ามา
ในพระวิหารของเราได้ และมันก็ได้ทำแล้ว
ซาตานได้เดินเข้ามาในพระวิหารของเรา ผ่านทาง บาปและความผิดพลาดของคนของเราเอง
ทุกวันนี้เขาได้ต่อต้านนายชุมพาบาลที่เราแต่งตั้งขึ้น​ (พระสันตะปาปาจอห์น พอลที่ 2) แล้วลูกจะหวังให้
ลูกแกะของเรายอมรับนับถือพระสงฆ์พวกนี้ได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาเองได้คิดกบฏต่อผู้ที่เราแต่งตั้ง เขา
ไม่สนใจนายชุมพาบาลของเราเลย ดวงใจของเราโศกเศร้าและฉีกขาดเพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
ความแตกแยกนี้จะกลายเป็นการละทิ้งความเชื่อครั้งยิ่งใหญ่​ ความแตกแยกนี้จะหยั่งรากลึกและแผ่กว้าง
และกลืนคนเป็นจำนวนมาก
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยพวกลูกและหยุดยั้งมันเถิด พระองค์เคยตรัสว่าพระองค์ทรงฤทธิ์อำนาจมากกว่า
ซาตาน เหตุใดพระองค์จึงรีรอและปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างสายเกินไป
ลูกรัก กลุ่มผู้คิดการร้ายร่วมมือกับคนทรยศ เมื่อความตายปีนเข้าทางหน้าต่างของพระวิหาร และเดินเข้า
สู่ใจกลางบ้านของเรา​ เราได้ส่งพระมารดาของเรามาเตือนลูก (การประจักษ์ที่ฟาติมา) ฉะนั้นจงอย่าพูดว่าเรา
ไม่ได้ทำอะไร ลูกรัก(...) (พระองค์ทรงอนุญาต ฉันไม่ต้องเขียนลงไป) คือผู้ที่ไม่รอบคอบ พวกเขาไม่ได้แสวงหา
น้ำพระทัยของเรา​ เราเตือนพวกเขาแล้ว แต่น้อยคนนักที่ใส่ใจในคำเตือนของเรา จนกระทั่งทุกวันนี้​ กี่ครั้งกี่
หนแล้วที่เราเป็นทุกข์เพราะความเย่อหยิ่งจองหองของพวกเขา ... เราจะทำลายพวกเขาให้กลายเป็นธุลีดิน
ด้วยความโกรธของเราก็ย่อมได้ แต่เราอยากจะตามเขากลับมาด้วยความอ่อนโยนมากกว่า​... เราขอบอกลูกว่า
ได้มีการร่วมกันคิดการร้ายในหมู่ชุมพาบาลที่ต่อต้านผู้นำของพวกเขา​ และเจ้าตัวทำลายได้นำพวกเขาให้
ทุราจารพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา​ และขณะนี้ ความคิดกบฏที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในตัวพวกเขากำลังจะแสดงตัว
ออกมา ลูกได้อ่านแล้วไม่ใช่หรือ​... หรือลูกไม่เข้าใจ.. เจ้าคนชั่วจะขึ้นมาเป็นใหญ่ กองทัพของมันจะบุกเข้ามา
และทำทุราจารในพระวิหารของเรา​ พวกมันจะทำลายยัญบูชาศักดิ์สิทธิ์ของเรา และตั้งคนชั่วช้าเลวทรามขึ้นมา
แทนที่ เจ้าคนชั่วจะคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า และจะเอ่ยคำสบประมาทพระเจ้าของพระเจ้าทั้งหลาย เจ้า
คนชั่วจะคงอยู่ได้จนกระทั่งถึงจุดระเบิดของพระพิโรธ เจ้าคนชั่วจะให้เกียรติยศยิ่งใหญ่และอาญาสิทธิ์ท่วมท้น
แก่ผู้ที่ยอมรับมัน การคิดกบฏนี้จะชักนำชาวโลกทั้งปวงให้คล้อยตาม​ ใช่แล้ว... จะมีวันเวลาแห่งความทุกข์ยาก
มหันต์ อย่างที่มนุษย์ไม่เคยประสบมาก่อน เราได้เคยขอร้องลูกให้ระวังตัวและเฝ้าภาวนา เพื่อลูกจะได้ไม่ถูกพัด
พาไปด้วย จงเตรียมตัวให้พร้อมและซื่อสัตย์ เราจะเตือนอะไรไม่ได้มากไปกว่าที่เราได้เคยเตือนไปแล้ว
จงประกาศสาส์นของเรา วาสสุลา

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2025 3:37 pm

:s002: :s002: :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2025 3:44 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 29 )

✴️ อนันต์​ (ป​ีเตอร์​) คว้าชัยชนะคืนบัลลังก์​ ATTA (B) ✴️
“จงเขียนสิ่งเหล่านี้ก่อนที่เราจะมาในฐานะผู้พิพากษาที่ยุติธรรม เราจะมาในฐานะกษัตริย์แห่งความ
เมตตาก่อนที่วันพิพากษาจะมีเครื่องหมายบนท้องฟ้า ดังนี้: แสงสว่างบนท้องฟ้าทั้งหมดจะดับลง​ จะเกิด
ความมืดปกคลุมไปทั่วโลก ครั้นแล้วจะเห็นเครื่องหมายกางเขนบนท้องฟ้า​ จะมีแสงสว่างจากรอยแผลที่
มือที่เท้าและที่สีข้างของพระผู้ไถ่ที่ถูกตรึงบนกางเขน จะส่องแสงเจิดจ้าทำให้โลกที่กำลังมืดมิดชั่วครู่นั้น
สว่างไสวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นไม่นานนักก่อนที่วันสุดท้ายจะมาถึง”​
“ลูกที่รัก จงบอกโลกถึงความเมตตาของเรา ขอให้มนุษย์ทุกคนรู้จักความเมตตาอันสุดจะหยั่งถึงได้
ของเรา นี่เป็นเครื่องหมายแห่งการสิ้นสุดแห่งกาลเวลา หลังจากนั้นก็จะเป็นเวลาแห่งการพิพากษา ให้พวก
เขาวอนขอจากสายธารแห่งเมตตาของเรา ให้พวกเขาได้รับผลจากน้ำและโลหิตซึ่งได้หลั่งเพื่อพวกเขา”
“วิญญาณที่อาจจะสูญเสียไป​ ถึงแม้เราได้ไถ่ด้วยมหาทรมานอันขมขื่นของเรา เราจะให้ความหวัง
สุดท้ายแห่งความรอดแก่เขา กล่าวคือ​ วันฉลองพระเมตตา ถ้าพวกเขาไม่บูชาพระเมตตาของเรา พวกเขา
จะพินาศไปชั่วนิรันดร ผู้บันทึกแห่งพระเมตตาของเรา จงเขียนและบอกวิญญาณทั้งหลาย เกี่ยวกับ
พระเมตตาอันใหญ่ยิ่งของเรานี้ เพราะวันที่น่ากลัว​ วันแห่งพระยุติธรรมใกล้เข้ามาแล้ว”​
จากการอ่านประวัติเรียบๆ ของซิสเตอร์คนหนึ่ง คุณปีเตอร์บอกความในใจว่า ได้รับคุณค่ามหาศาล
จากหนังสือเล่มนี้ ซึ่งบรรจุคติธรรมล้ำเลิศ ซึ่งโลกวัตถุนิยมมองไม่เห็น​ ธรรมล้ำลึกเป็นเสมือนโอสถขนานเอก
ในการบำบัดโรค โรคของสังคมซึ่งคุณปีเตอร์กำลังแสวงหา “โอสถ” มาบำบัด โอสถพิเศษนี้ก็คือ “ความรัก”
​ คุณธรรมขนานเอกและขนานเดียวที่จะสามารถขจัดปัญหาทุกชนิด จากประวัติซิสเตอร์โฟสตีนานี้​ ยังได้ความรู้
เพิ่มเติมจากนิมิตของพระเยซู​ที่ปรากฏ​มาพบซิสเตอร์​ พระองค์ร่ำร้อง เรียกหา หรือกระหายความรักจากมนุษย์
พระองค์บอกผ่านซิสเตอร์โฟสตีนา​ ให้มนุษย์ทุกคนไม่เว้นใครเลยเข้ามาพระองค์​ ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาสุดที่จะ
หยั่งถึงได้​การที่พระองค์ตรัสดังนี้ก็เป็นเครื่องหมายแห่งการสิ้นสุดแห่งกาลเวลา จะทำเป็นหูทวนลมหรือจะ
ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้เสียแล้ว
“จากการเสาะแสวงหาคือคำตอบของพระดำรัสที่ว่า นี่เป็นเครื่องหมายแห่งการสิ้นสุดแห่งกาลเวลา”​ นั้น
นักวิทยาศาสตร์ต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าโลกเรากำลังเดินไปสู่จุดหายนะ
ลองมาดูสภาวะแวดล้อมโลกกำลังอยู่ในชั้นวิกฤติอย่างไร มีหลักฐานจากองค์การนาซ่าว่าคำพยากรณ์
นานมาแล้วที่ว่า อุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้นนั้น ได้ปรากฏว่าเป็นจริงขึ้นแล้ว เจมส์ อีแฮนเสน​ ผู้อำนวยการสถาบัน
กาดดาร์ด ว่าด้วยการศึกษาด้านอวกาศของนาซ่าได้เสนอรายงานการศึกษาเกี่ยวกับอุณหภูมิของโลกที่ได้บันทึก
เอาไว้ในระยะร้อยปีที่ผ่านมานี้ว่าอุณหภูมิจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอตามทฤษฎีปรากฏ​การณ์เรือนกระจก
ข่าวที่น่าวิตกอื่นๆ จากองค์การนาซ่าก็คือ บรรยากาศในชั้นโอโซนซึ่งป้องกันสิ่งที่มีชีวิตบนโลกจากอันตราย
ของรังสีอุลตราโวโอเล็ตกำลังบางลงไปทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์กว่าร้อยคนจาก 7 ประเทศใช้เวลาถึง​ 16​ เดือน
ทำการวิเคราะห์ทั้งภาคพื้นดินและจากดาวเทียมอย่างระมัดระวัง​ เพื่อวัดปริมาณโอโซนในบรรยากาศ พบว่า
ตั้งแต่ปี 1969 ถึง​1986 โอโซนลดลงระหว่าง 1.7% ถึง​3% ในอาณาบริเวณที่มีประชากรหนาแน่นของซีกโลกเหนือ
ซึ่งรวมถึงพื้นที่ที่เป็นประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปด้วย การสูญเสียโอโซนเกิดขึ้นมากกว่านี้ในช่วงฤดูหนาว
ตั้งแต่​ 2.3% ถึง 6.2% ความล้มเหลวในการควบคุมการปลดปล่อยสารเคมีที่ทำให้โอโซนจางลงไปนี้จะทำให้
อัตราการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้น​ การเพาะปลูกเสียหาย และทำลายสิ่งมีชีวิตในทะเลในอนาคตอย่างแน่นอน
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกำลังจะเป็นเวทีผืนต่อไปสำหรับการตกลงเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ
ก้าวแรกสุดก็คือการร่วมมือกันทางด้านวิทยาศาสตร์ กรรมมาธิการระหว่างชาติของสหภาพนักวิทยาศาสตร์ และ
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกกำลังประสานกันในระดับนานาชาติ เพื่อวิจัยการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศในการ
ประชุมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1987 ที่เบลลาโจ อิตาลี ได้มีความเห็นสอดคล้องกันว่าจะต้องลงมือดำเนินการแล้ว
การหารือด้านโยบายเพิ่มขึ้นอย่างจริงจังในเดือนมิถุนายน​1968 ในที่ประชุมโลกในหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงของ
บรรยากาศ การเกี่ยวข้องกับความมั่นคงโลก”​ ณ​ เมืองโตรอนโต ซึ่งรัฐบาลแคนาดาให้การสนับสนุน ที่ประชุม
ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี​แคนาดา นายกรัฐมนตรีนอร์เว​ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดด้านสิ่งแวดล้อมจากประเทศ
อื่น​ๆ ข้อยุติที่ได้คือ ลดการปลดปล่อยคาร์บอนลง 20 % ภายในปี​2005
ถ้าจะให้จุดประสงค์ดังกล่าวประสบความสำเร็จ ต้องจัดให้มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้วยพิธีสารมอนทรีออล
และ ที่ประชุมเรื่องการข้ามแดนระยะไกลของภาวะมลพิษของอากาศเป็นรูปแบบที่ใช้การได้​ แต่สนธิสัญญาในเรื่อง
อุณหภูมิที่สูงขึ้นของโลก ที่จะเกิดผลในทางปฏิบัติได้จะต้องมีขอบเขตที่กว้างขวางมากกว่า และจะต้องรวมประเทศ
อื่น​ๆ​ เข้ามาร่วมด้วย มีผู้เรียกร้องให้มี “กฎหมายบรรยากาศ” ระหว่างประเทศทำนองเดียวกับกฎหมายทะเล
สนธิสัญญาดังกล่าวจะต้องจัดการทั้งสองด้านคือ กับประเทศอุตสาหกรรมผู้สร้างปัญหามาแต่ต้นที่เกิดขึ้นแล้ว
และกับประเทศซึ่งกำลังพัฒนา ซึ่งมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้อุณหภูมิของโลกยิ่งสูงขึ้นไปอีก
บรรดาประเทศกำลังพัฒนาต่างก็แย้งอย่างน่าเห็นใจว่า ถ้าพวกเขาจะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพขนาดใหญ่​ และ
ต้องปลูกป่านับล้านเฮกตาร์แล้ว​ เขาก็จำเป็นจะต้องได้รับเงินอุดหนุนจากประเทศ​ที่​ร่ำรวยกว่า
สรุปแล้วยังไม่มีใครลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็เพราะความเห็นแก่ตัว ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา นี่ยังไม่ได้พูดถึง
ปัญหาอื่นๆ​ อีก เช่น​ โรคเอดส์, น้ำท่วม, แผ่นดินไหว ฯลฯ คุณปีเตอร์บอกว่าสารพัดปัญหากำลังรุมเร้าโลกเราอยู่
จะใช้ความรักที่จะมาบำบัดก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว​ มีอย่างเดียวเท่านั้นคือ ขอพึ่งพระเมตตาให้พระทรงเมตตาเรา
ให้พระองค์ทรงแสดงปาฏิหาริย์ มิฉะนั้นโลกจะไปไม่รอด เพราะแรงบันดาลใจอันนี้​ เมื่อมีพรรคพวกเรียกร้องให้เข้า
มากู้​ ATTA ซึ่งกำลังซวดเซจึงตัดสินใจยอมรับตำแหน่ง หวังที่จะนำความรักความเมตตาของพระมาฟื้นฟู ATTA
ให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพยิ่งทียิ่งมากขึ้น ก็คงจะทำให้การท่องเที่ยวเฟื่องฟูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง อันจะเป็นผลดี
แก่ประเทศชาติเป็นส่วนรวมในที่สุด
คุณปีเตอร์ในฐานะนักธุรกิจผู้มีอุดมการณ์ นักธุรกิจตัวอย่างผู้มีศรัทธาในพระเมตตา ขอเชิญชวนชาวคาทอลิก
ร่วมฉลองพระเมตตาในวันอาทิตย์หลังฉลองอีสเตอร์โดยพร้อมเพรียงกัน ขอให้ร่วมกันอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า​
ขอให้พระองค์ทรงเมตตาต่อโลก ซึ่งเพราะความแก่ตัวของมนุษย์นั้นเอง กำลังทำลายโลกลงอย่างน่าหวาดหวั่นที่สุด
เมตตาของพระองค์เท่านั้นจะค้ำจุนโลกได้ สาธุ

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2025 3:51 pm

🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 30 )

✴️ ศรัทธา​กับวิทยาศาสตร์​ต่อผ้าห่อศพแห่งตุริน​ (A) ✴️
สำหรับชาวคริสต์ช่วงนี้ถือว่ายังอยู่ในบรรยากาศแห่งเทศกาลอีสเตอร์​ ​เป็นเทศกาลที่รำลึกถึงเหตุการณ์
สำคัญ​ๆ ของพระเยซู คือ​ การได้รับการทรมานจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ถูกฝังไว้ในคูหา​(อุโมงค์) ในวัน
ศุกร์และฟื้นคืนชีพในเช้าวันอาทิตย์ วันนี้จะขอพูดถึงผ้าห่อศพของพระเยซูซึ่งถูกกล่าวขวัญกันยังไม่สิ้นสุดว่า
เป็นของจริงหรือไม่ โดยทั่วไปจะเรียกกันว่าผ้าห่อศพแห่งตุริน (The Shroud of Turin) เพราะเป็นสมบัติของ
ราชวงศ์ชาวอยซึ่งประทับ ณ กรุงตุริน ราชธานีในสมัยนั้น​ จะขอหยิบยกประวัติความเป็นมาของผ้าห่อศพ
โดยสังเขปดังนี้
ในปีค.ศ.​ 544 ตามตำนานเล่าต่อๆ กันมาว่า ผืนผ้าที่มีรอยประทับติดตรงใบหน้าอย่างพิสดาร โดยไม่มี
การแต่งเติมจากฝีมือมนุษย์ถูกเก็บรักษาไว้ที่เมืองเอเดสสา ปัจจุบันคือเมืองอูร์ฟา ตุรกี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลาย
ท่านยอมรับว่าเป็นผ้าผืนเดียวกับผ้าห่อศพแห่งตุริน​ ตำนานยังเล่าต่อไปว่า สาวกของพระเยซูรายหนึ่งได้รักษา
โรคเรื้อนให้กับกษัตริย์อัคบาร์แห่งเอเดสสา จนหายอย่างปาฏิหาริย์ก็โดยกษัตริย์ทรงสัมผัสผ้าผืนนี้เท่านั้น
พระองค์จึงเปลี่ยนศาสนามาเป็นคริสต์​ บรรดาชาวคริสต์ในเอเดสสา ได้ซ่อนผ้าผืนนี้ไว้ในกรุใส่ไว้ในกำแพง
เมือง ซึ่งได้ถูก​ค้นพบหลังจากนั้น 500 ปี ในสมัยที่ปกครองโดยจักรวรรดิโรมันตะวันออก แห่งอาณาจักรบีซันทีน
8หลังจากยึดเอเดสสาจากชาวมุสลิม​ ผ้าผืนนี้ได้รับการสักการะบูชาจากประชาชน แห่งอาณาจักรบีซันทีนเป็น
เวลาถึงห้าศตวรรษดังกล่าว
ปี 944 ภาพประทับติดกับผืนผ้าแห่งเมืองเอเดสสา ถูกย้ายมายังกรุงคอนสตันตีโนเปิ้ล ซึ่งได้นำออกแสดง
โดยคลี่ผืนผ้าออกหมด​ ทำให้เห็นภาพประทับติดทั้งพระองค์บนผืนผ้า
ปี 1147 พระเจ้าหลุยส์ที่ 7 แห่งฝรั่งเศสเสด็จเยี่ยมกรุงคอนสตันตีโนเปิ้ล​ และทรงสักการะผ้าห่อศพซึ่ง
ยังคงเก็บรักษาไว้ที่นี่ในขณะนั้น
ปี 1204 ระหว่างที่พวกครูเสดยึดครองคอนสตันตีโนเปิ้ล พระธาตุมากมายได้อันตรธานไปรวมทั้งผ้าห่อ
ศพด้วย กล่าวกันว่าผ้าห่อศพนี้ถูกสมาชิกรายหนึ่งของกลุ่มอัศวินเทมปลาร์ ซึ่งกล้าหาญชาญชัยนำออกจาก
กรุงคอนสแตนตีโนเปิ้ลคราวสงครามครูเสดนี้เอง
ปี 1353 ผ้าห่อศพมาโผล่ที่ลิรี่ ฝรั่งเศส
ปี 1453 มาร์เกริต แห่งชาร์นี ยกผ้าผืนนี้ให้กับดยุคโลโดวีโก​แห่งซาวอย ซึ่งได้เก็บรักษาไว้ที่เมืองชามเบอรี
ณ ที่นี้ได้สร้างโบสถ์น้อยเพื่อประดิษฐานผ้าห่อศพให้เป็นสักการะบูชาต่อไป
ปี 1506 โป๊ปจูเลียตที่ 2 มีสมณโองการให้สัตบุรุษสักการะบูชาผ้าห่อศพนี้ได้ และอนุญาตให้ประกอบพิธี
มิสซาด้วยจารีตพิธีพิเศษ
ปี 1532 ณ วันที่ 4 ธันวาคม ได้เกิดไฟไหม้ที่ห้องสังฆาภรณ์ (sacristy) แห่งโบสถ์น้อยแห่งเมืองชามเบอรี
กล่องเงินที่บรรจุผ้าห่อศพโดนความร้อนสูงจนทำให้ส่วนฝากล่องละลายหยดลงบนผืนผ้าที่พับไว้
ปี 1534 ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม บรรดานางชีแห่งคณะคลาราผู้ยากไร้แห่งชามเบอรี
ได้จัดการซ่อมผ้าห่อศพส่วนที่ถูกไหม้ โดยใช้เศษผ้ารูปสามเหลี่ยมปะตรงรอยพับซึ่งเห็นได้เป็นรูปสามเหลี่ยม
เพราะอยู่ส่วนมุมผ้าที่พับไว้
ปี 1578 เอมานูเอเล ฟิลีแบร์โต​ แห่งซาวอย ได้ย้ายผ้าห่อศพไปยังตุริน เพื่อให้ท่านนักบุญคาร์โล โบโรเมโอ
คารวะพระธาตุนี้ เป็นการแก้บน​ เนื่องจากเมืองมิลานได้พ้นจากโรคระบาด
ปี 1694 วันที่ 1 มิถุนายน ผ้าห่อศพถูกนำมาที่โบสถ์ถน้อยแห่งอาสนวิหารตุริน ซึ่งออกแบบโดยอธิการ
ควารีโน กวารีนี
ปี 1898 ตั้งแต่วันที่ 25-28 พฤษภาคม ผ้าห่อศพถูกถ่ายภาพเป็นครั้งแรก โดยนายเซกอนโด ปีอา
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เริ่มมีการศึกษาและทดสอบผ้าห่อศพด้วยการวิเคราะห์และวิจัยในเชิงวิทยาศาสตร์
ปี 1931 ผ้าห่อศพถูกถ่ายภาพอีกจากอัศวิน จูเซปเป เอนรีเอ​ ในโอกาสเปิดแสดงให้ประชาชนชม
ปี 1933 พระธาตุถูกย้ายไปยังอารามมอนเตแวร์จีเน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
ปี 1939 ย้ายกลับมายังโบสถ์น้อยแห่งตุริน
ปี 1969 ตั้งแต่วันที่ 16-18 มิถุนายน คณะกรรมการพิเศษแห่งผู้เชี่ยวชาญได้รับการแต่งตั้งจาก
พระคาร์ดินัล เปลเลกรีโน ให้ศึกษาผ้าห่อศพและได้ถูกถ่ายภาพอีก แต่ครั้งนี้เป็นภาพสี โดย จูดีกา กอร์ดีลีอา
ปี 1978 มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 23​พฤศจิกายน
ปี​ 1978 ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม ถึง 8 ตุลาคม เปิดให้ประชาชนเข้าชมเพื่อระลึกถึง 4 ศตวรรษ ที่ผ้าห่อศพนี้
ย้ายจาก​ชามเบอรีสู่​ตุริน​ และได้เปิดโอกาสให้ชาวอิตาเลียน และนักวิจัยนานาชาติ 44 คน ได้รับอนุญาตพิเศษ
ให้ตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ใช้เวลา 120 ชม.
ปี 1983 พินัยกรรมของอดีตกษัตริย์ อุมแบร์โตแห่งชาวอยซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ได้มอบผ้า
ห่อศพนี้แก่สันตะสำนัก
ปี​ 1988 บางส่วนของผ้าห่อศพถูกนำไปพิสูจน์คาร์บอน 14 ปรากฏผลออกมาแย้งกับผลที่เคยได้รับมาก่อน
คือ ผ้าผืนนี้เป็นผ้าสมัยศตวรรษที่ 13-14 การศึกษาก็จะต้องมีต่อไปเป็นการท้าทายผลที่ออกมา
ปี 1992 วันที่ 7 กันยายน ตั้งแสดงให้คณะผู้เชี่ยวชาญศึกษาหาเทคนิคใหม่ๆ ที่จะเก็บรักษา
ปี 1993 วันที่ 24 กุมภาพันธ์​ ย้ายมาที่พระแท่นใหญ่ของอาสนวิหารเพื่อซ่อมโบสถ์น้อย กวารีนี
ตามประเพณีเชื่อต่อๆ กันมาว่าผ้าห่อศพนี้ใช้พันพระวรกายพระเยซูหลังจากได้นำพระศพลงจากไม้กางเขน
ซึ่งสอดคล้องกับพระวรสารที่ว่า​ โยเซฟ ชาวอารีมาเทอา ได้วางพระศพของพระเยซูลงในคูหา​(อุโมงค์) หลังจาก
ได้พันพระวรกายด้วยผ้าห่อศพ
จากหลักฐานที่น่าเชื่อถือและที่ไม่ขาดตอนเกี่ยวกับผ้าห่อศพแห่งตุรินนี้เริ่มเมื่อกลางศตวรรษที่ 14 นี่เอง
ประวัติผ้าห่อศพก่อนหน้านี้ก็พอจะหาร่องรอยได้เป็นที่น่าพอใจ​ อาศัยผลที่ได้พร้อมๆ กับจากประวัติศาสตร์
วิทยาศาสตร์ ภาพวาด​ และทางโบราณคดี ตั้งแต่แรกๆ​ แล้ว ผ้าห่อศพได้ก่อให้เกิดความสนใจและศรัทธา​ เหตุที่
ทำให้ศึกษากันอย่างเคร่งเครียด และอย่างศรัทธาเชื่อมั่นนั้นมาจากการถ่ายรูปครั้งแรกที่มีขึ้นในปี 1898 เมื่อ
นักกฎหมายชาวตุริน คนหนึ่งชื่อ​Secondo Pia ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ ระหว่างการเปิดแสดงให้ชม​
นายปีอาได้เล่าให้ฟังว่า เขาเกือบทำฟิล์มเสียเพราะความตกตะลึง ขณะที่เขากำลังล้างฟิล์มเขาเห็นภาพฟิล์ม​
Negative นั้นเป็นรูป Positve เลยหมายความว่าแทนที่จะเห็นฟิล์มเป็นภาพดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ โ​​ดยปกติทั่ว
ไปแล้ว กลับเห็นเป็นรูปคนเหมือนได้อัดออกมาแล้วทั้งๆ ที่ว่าเป็นฟิล์มยังไม่ได้อัด เขาเห็นเป็นหน้าของคนผู้ชายที่
มีอานุภาพและมีสง่าราศี
ต่อมาในปี 1931 ช่างภาพอีกรายหนึ่งชื่อ จูเซปเป เอนรีเอ ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายผ้าห่อศพอีกชุดหนึ่ง
หลังจากที่ได้ศึกษาจากแผ่นฟิลม์​ ​ซึ่งช่วงนี้ได้มีการพัฒนาน้ำยาที่ใช้ล้างฟิล์มได้ดีกว่าสมัย เซกอนโด ปีอา​ ใน
ปี 1898 มากนัก เอนรีเอประกาศยืนยันว่าภาพที่ปรากฏในผ้าห่อศพนี้เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะเป็นผลงานของจิตรกร
เอกจากสำนักไหนก็ตาม​ และถึงแม้จะได้ทำการขยายภาพก็ไม่พบร่องรอยแห่งการอุตริแต่งเติมแต่ประการใด
ภาพในผ้าห่อศพปรากฏเป็นเหมือนฟิล์มถ่ายภาพในลักษณะ negative เป็นที่น่าพิศวงยิ่งนัก และเมื่อปี 1532
ผ้าห่อศพนี้ถูกไฟไหม้ ปรากฏว่าตรงที่ถูกไฟไหม้เป็นจุดต่างๆ เป็นสีเดียวกันกับภาพพระวรกายของพระเยซูที่พิมพ์
ประทับอยู่​ ศาสตราจาร์วิลลิส เน้นว่ารอยพระโลหิตที่ไหลมาจากรอยแผลของพระองค์นั้น ไม่ได้ปรากฏเป็นรอยนูน
ในผ้าห่อศพ แต่ปรากฏเป็นรอยคล้ายถูกไฟไหม้​ จึงสันนิษฐานได้ว่า ภาพพระวรกายที่ถูกพิมพ์ประทับติดกับผ้า
อยู่เป็นจุดต่างๆ เกิดจากรังสีเจิดจ้าและปรากฏ​เป็น​รูป​ 3 มิติ

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹
ตอบกลับโพส