หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เกาะติดวิกฤติโลกผ่านทางพระคัมภีร์และนอสตาดามุส (31-40)

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 29, 2025 4:01 pm
โดย rosa-lee
🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 31 )

✴️ ศรัทธา​กับวิทยาศาสตร์​ต่อผ้าห่อศพแห่งตุริน​ (B) ✴️
ผ้าห่อศพนี้มีความยาว 4.36 เมตร กว้าง 1.10 เมตร เป็นผ้าลินินมีลายกระดูกปลา นิยมกันในยุคนั้น
ที่ยังใช้หูกแบบดั้งเดิมที่ใช้เส้นด้ายไม่เท่ากัน
รอยพิมพ์บนผ้าห่อศพ แบ่งออกเป็น 4 ลักษณะ คือ
(1) ร่องรอยที่บ่งบอกว่าเคยถูกไฟไหม้ นอกจากรูที่รอยไหม้หลายจุด ผืนผ้านี้มีเส้นขนานยาวสีดำ 2 เส้น
ตัดกับรอยปะที่เป็นรูปคล้ายสามเหลี่ยมจากวัสดุต่างๆ กัน รอยปะนั้นใช้สำหรับปิดคล้ายรูที่เกิดจากการหลอม
เหลวของกล่องเงินซึ่งใช้บรรจุผ้าห่อศพ (ถูกพับไว้หลายชั้น) คราวเกิดไฟไหม้ในปี 1532 ภายในห้องสังฆาภรณ์
ของโบสถ์น้อยในวัง​Chambery ซึ่งระยะนั้นผ้าห่อศพถูกเก็บไว้ที่นี่
(2) รอยด่างเพราะโดนน้ำ มีรอยเป็นดวงๆ เพราะถูกน้ำที่ใช้ดับไฟในปี 1532
(3) มีภาพคนกึ่งชัดกึ่งมัว บนผืนผ้า ตามส่วนยาวมีรอยพิมพ์ปรากฏอยู่ 2 ด้าน คือส่วนแผ่นหลังและส่วน
ด้านบนซึ่งก็มีใบหน้า ลำแขน​ เป็นการวางพระศพบนผ้า แล้วตลบผ้าส่วนที่เหลือทางพระเศียรมาคลุมพระพักตร์
พระวรกาย ไปจรดพระบาท บางจุดก็เข้มข้น บางจุดก็เบาบาง
(4) ร่องรอยที่ถูกประทับบางจุด เช่น พระพักตร์ พระศอ ข้อพระหัตถ์ พระบาท และพระสีข้างด้านขวามีรอย
ประทับที่แตกต่างไปจากจุดๆ​ อื่นซึ่งไม่เข้มข้นเท่ารอยประทับนี้ เหมือนกับว่าผ้าห่อศพถูกประทับติดกับบางสิ่ง
มีสีค่อนข้างแดงเข้ม
เป็นเวลากว่าศตวรรษที่ได้มีการศึกษาและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ออกมาแล้วว่า
- ภาพพิมพ์บนผ้าห่อศพนี้มิใช่เป็นการวาดหรือการระบายสี
- ภาพพิมพ์บนผ้าห่อศพมิใช่มีคนทำขึ้นมา มันเป็นภาพพิมพ์อยู่ในลักษณะ Negative เพราะผ้าห่อศพได้
ดูดซับเอาพระโลหิตไปหมดจึงเกิดภาพลักษณะนี้
- รอยประทับพิมพ์ในผ้าห่อศพซึ่งไม่ได้ส่อแสดงว่าพระศพมีร่องรอยของการเน่าเปื่อย และพระวรกายยังคง
ถูกหุ้มห่อชั่วเวลาหนึ่งซึ่งสามารถประทับรอยพิมพ์นั้น แต่มิได้เนิ่นนานจงถึงกับจะมีร่องรอยแห่งการเน่าเปื่อย
ให้ปรากฏ
- การตอกตะปูที่พระหัตถ์​ แสดงว่าได้ตอกที่ข้อพระหัตถ์มากกว่าตอกที่ฝ่าพระหัตถ์ เพราะสามารถรับ
น้ำหนัก ได้ดีกว่า
- รูปร่างของพระหัตถ์มองเห็นแค่ 4 นิ้ว ทั้งนี้เพราะตอนตอกตะปูเข้าที่ข้อพระหัตถ์นั้นหัวแม่มือจะมีอาการ
หดงอเข้าโดยอัตโนมัติ จึงมองไม่เห็นหัวแม่มือ
- พระโลหิตซึ่งไหลจากพระสีข้าง ที่ถูกแทงด้วยหอกนั้น น่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่พระสิ้นพระชนม์แล้ว มีบันทึก
ในพระวรสารโดยเซนต์จอห์นว่า “แต่เมื่อพวกเขามาถึงพระองค์ ก็เห็นว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว จึงมิได้ทุบ
พระเพลาของพระองค์ อย่างไรก็ตาม​ ​มีทหารคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอาหอกแทงที่พระสีข้างของพระองค์ ทำให้
พระโลหิตและน้ำไหลออกมา”​
นักวิเคราะห์ทางโลหิตวิทยานำโดยศาสตราจารย์ไบมา โบลโลเน​ ได้พิสูจน์แล้วว่าพระโลหิตที่ติดกับผ้า
ห่อศพนั้นเป็นของมนุษย์อยู่ในกรุ๊ปAB
นักวิเคราะห์ทางอิเล็กทรอนิกส์ก้าวหน้าได้พิสูจน์แล้วว่า รูปภาพของผ้าห่อศพประกอบด้วยภาพสามมิติ
ในตัวของมันเอง
- ภาพประทับอยู่ที่ดวงพระเนตรด้านช้าย ซึ่งค้นพบโดยศาสตราจารย์ฟีลาส และในภายหลังยังยืนยัน
โดยนักวิจัย 3 ท่าน คือ​ ตัมบูเรลลี​ ฮังเกอร์ และโมโรนี​ ว่าเป็นการยืนยันที่ถูกต้องว่าในสมัยพระเยซูนั้นมี
ประเพณีใช้เหรียญในการฝังศพด้วย และเหรียญที่ใช้นั้นก็เป็นสมัยเดียวกับสมัยพระเยซู​
การค้นพบครั้งสุดท้าย
ผ้าห่อศพแห่งตุรินนี้ยังเป็นข่าวหน้าหนึ่งเป็นครั้งคราว ครั้งล่าสุดในปี 1988 ได้มีการนำส่วนหนึ่งของผ้า
ห่อศพนี้ไปพิสูจน์คาร์บอน 14​ ปรากฏผลออกมาว่าเป็นผ้าสมัยศตวรรษที่ 13-14 แต่ก็แย้งกับนักวิทยาศาสตร์
ชาวรัสเซีย Dimitri Kouznetsov ผู้ได้รับรางวัลเลนินไพรส์แขนงวิทยาศาสตร์ เป็นผู้อำนวยการห้องวิจัย
E.A. Sedov Biopolymer แห่งอิสราเอล ซึ่งมีอายุสมัยพระเยซู (ตัวอย่างผ้านี้ถูกจัดหามาจากนักวิจัย
มารีโอ โมโรนี โดยการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่กองโบราณคดีแห่งเยรูซาเลม) ได้จัดการทดสอบคาร์บอน
จากห้องแล็บของเมืองทัสคอน​ (อาริโซน่า) โตรอนโต​(แคนาดา) และมอสโก ผลแห่งการพิสูจน์ออกมาว่า
มีอายุราวๆ ค.ศ. 2 ตรงกันทั้ง 3 แล็บ แล้วใช้ผ้าชิ้นนี้ไปทดสอบด้วยสภาพเดียวกันกับที่ได้เกิดไฟไหม้ที่
เมืองชามเบอรี เมื่อ​ปี​1532 ซึ่งไฟได้ลุกไหม้โบสถ์ที่เก็บรักษาผ้าห่อศพให้มีอุณหภูมิสูงในบริเวณที่มีวัตถุที่
เป็นแร่เงิน เมื่อเงินหยดลงในผ้าห่อศพ ก็จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการไหม้ของเนื้อเยื่อของเส้นด้าย แล้วชิ้นผ้าลินินนี้
ก็จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีให้กลายเป็นคาร์บอน แล้วนาย Kouznetwsov ได้ทดสอบคาร์บอน 14 ก็ได้ผลออก
มาว่า ผ้าลินินมีอายุหลังจากนั้นตั้ง​14 ศตวรรรษ นั่นก็หมายความว่าแร่เงินเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ทางเคมีจนทำให้วิธีทดสอบอายุด้วยวิธีทดสอบคาร์บอน​14 จะบอกอายุที่อ่อนกว่าถึง 1400 ปี
เกี่ยวกับเลือดที่ปรากฏบนผ้าห่อศพ Jerome Lejeune ผู้ได้รับรางวัลโนเบิ้ลไพร้สในสาขาพันธุกรรม
ได้ทำการวิเคราะห์และพิสูจน์เลือดแดงที่พบบนผ้าเป็นเลือดของมนุษย์ตรงกับที่เปียร์ ลุยจี ไบมา โบลโลเน
พิสูจน์มาแล้วในปี​1981
ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกหลายท่านกำลังทดสอบ DNA บนผ้าห่อศพนี้
ที่เมืองสตราสเบิร์กมีข่าวเกี่ยวกับผ้าห่อศพที่พูดถึงตัวจีนโดดๆ​ ของโครโมโซม X และ Y ว่าเป็นเลือดของ
เพศชาย วิคเตอร์​ ไทรออน จากมหาวิทยาลัยซานอันโตนิโอ เท็กซัส ก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่าเลือดที่ได้มาจาก
บริเวณกะโหลกศีรษะว่าเป็นเลือดของผู้ชาย
การค้นพบทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับผ้าห่อศพนี้ก็สำคัญมิใช่น้อย​ จีโน ซานีน๊อตโต อาจารย์ภาษากรีก
และลาตินได้ค้นพบหลักฐานของศตวรรษที่ 10 ชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเสมือนหนึ่งประกายเล็กๆ ที่พอจะให้ความสว่าง
เกี่ยวกับผ้าห่อศพผืนนี้ได้บ้างว่า ได้หายไปในตุรกี มีรหัสคำบันทึกเป็นลายมือว่า Codex Vossionus Latinus Q69
ได้กล่าวรายงานของชาวซีเรียแห่งศตวรรษที่ 8 ว่าพระเยซูได้ทิ้งร่องรอยเป็นภาพพิมพ์ทั้งร่างของพระองค์ลง
บนผืนผ้า ซึ่งได้ถูกเก็บรักษาไว้ในโบสถ์​แห่งเอเดสสา ตุรกี แน่นอนเป็นการอ้างอิงถึงผ้าห่อศพผืนนี้อย่างไม่มี
ทางจะผิดพลาดได้ อาจารย์ซานีน็อตโต ยังได้เน้นบทความตอนหนึ่งจากกิจการของเซนต์จอห์น ในการบันทึก
ของซีปรีอาโนในศตวรรษ 3-4 มีตอนหนึ่งพระเยซูตรัสว่า: พวกท่านจะเห็นเราเหมือนกับภาพสะท้อนในน้ำ
หรือในกระจก
และก็คือสิ่งที่เรารำพึงด้วยความพิศวงถึงพระเยซูผู้ถูกตรึงกางเขนในผ้าห่อศพแห่งตุริน

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹

Re: เกาะติดวิกฤติโลกผ่านทางพระคัมภีร์และนอสตาดามุส (31-40)

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 01, 2025 11:52 am
โดย rosa-lee
🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 32 )

✴️ มารู้จัก​ศูนย์​ฟื้นฟู​ชีวิตผู้ติดยาเสพติด​ ลำไทร​ (A) ✴️
ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมนานาชาติครั้งที่ 14 ของ คอมมูนีต๊ะ อินคอนโตร ในหัวข้อ
“ผู้ติดยาเสพติด เอดส์ และปัญหาต่างๆ ของผู้ติดยาเสพติด” ณ โรงแรมสีดารีสอร์ท​ นครนายก
ระหว่างวันที่ 15-16​พฤษภาคม 1995 นับว่าได้ความรู้จากการร่วมประชุมครั้งนี้อย่างมาก​ จึงขอ
นำมาเล่าสู่กันฟัง คลายเหงาขณะรอรัฐบาลใหม่
ก่อนอื่นหมดขอแนะนำให้รู้จักคำ “คอมมูนีต๊ะ อินคอนโตร” Communita Incontro ภาษาอิตาลี​
เป็นชื่อของศูนย์พื้นฟูชีวิตผู้ติดยาเสพติดซึ่งดอนเปียรีโน ผู้ก่อตั้งศูนย์เป็นผู้ให้ชื่อนี้ ดอนเปียรีโนคือ
บาทหลวงผู้ก่อตั้งศูนย์ มีชื่อเต็มว่า​Pierino Gelmini ชาวอิตาลีที่สนิทสนมชอบพอกับท่าน มักเรียก
ท่านว่า​Don Pierino คํา Don มาจากภาษาละติน​ Dominus แปลว่า เจ้านาย​ เป็นคำที่ใช้เรียกขุนนาง
หรือผู้ดีมีสกุลสมัยก่อน​ แต่มาถึงยุคประชาธิปไตย คำนี้นิยมใช้เรียกเฉพาะบรรดาพระสงฆ์ หรือ
บาทหลวงเท่านั้น แต่ในถิ่นไกลปืนเที่ยงเช่นในเกาะซีซิลีก็ยังใช้คำนี้เรียกคนที่มีอิทธิพล เช่น พวกเจ้าพ่อ
มาเฟียว่า ดอน นำหน้าชื่อ น่าจะตรงในภาษาสมัยนี้ที่นิยมให้เกียรติแก่​ ส.ส. ว่า “ท่าน”​ เช่น ท่านสมัคร​

คอมมูนีต๊ะ อินคอนโตร มีต้นกำเนิดมาเมื่อวันที่ 3 กุมภาภาพันธ์​1963 ที่ Piazza Navona, กรุงโรม​
ขณะที่ดอนเปียรีโน ยังเป็นเลขาพระคาร์ดินัล ซันตีอาโก หลุยส์ โคเปโย ขณะดำรงตำแหน่งเลขาธิการ
แห่งรัฐวาติกัน (ตำแหน่งเทียบเท่านายกรัฐมนตรี) วันหนึ่งเมื่อท่านเลิกงานกำลังกลับบ้านพัก ได้พบหนุ่ม
ติดยาคนหนึ่งชื่อ อัลเฟรโด ซึ่งได้ขอให้ดอนเปียรีโนช่วยสงเคราะห์ ท่านทำท่าจะควักเงินในกระเป๋าให้ไป
แต่อัลเฟรโดปฏิเสธที่จะรับเงิน ท่านจึงว่าจะพาไปโรงพยาบาล อัลเฟรโดก็ยังปฏิเสธอีก กล่าวว่าเข้าๆ ออกๆ
มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว (เพราะการรักษาโดยทั่วไปก็ใช้ยาเสพติดอีกขนานหนึ่งไปปราบ ก็จะเสพติดยาขนาน
ใหม่นั่นเอง วนเวียนไปไม่รู้จบ) มาถึงจุดนี้ดอนเปียรีโนด้วยวิญญาณแห่งความเป็นสงฆ์ เริ่มดูดซับความทุกข์
ที่ฝังลึกในหัวใจของหนุ่มติดยาคนนี้​ ท่านได้ชวนให้อัลเฟรโดไปพักที่บ้านพักของท่าน ไออุ่นจากท่านนี้เอง
เป็นเสมือนยาขนานวิเศษที่อัลเฟรโดได้พบ (Incontro) อันเป็นสัญญาณการเริ่มต้นประวัติความเป็นมาของ
คอมมูนิต๊ะ (พวกเดียวกัน) หลังจากได้พักอยู่กับดอนเปียรีโนได้ 2-3 วัน อัลเฟรโดก็เสนอความคิดที่จะรวบ
รวมเด็กหนุ่มที่ติดยาเหมือนกับเขา มาใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา​ นับได้ว่างานของดอนเปียรีโน
เริ่มต้นจากจุดนั้นเมื่อ 32 ปีที่แล้ว
ท่านได้เริ่มรวบรวมเด็กติดยาเสพติด จนต้องขยายบ้านพักไปอยู่ชานกรุงโรม แก้ปัญหาไปเรื่อยๆ จนท่าน
มองเห็นว่าจำเป็นที่ต้องมีสถานที่ที่กว้างขวางพอสมควร เพื่อผู้ติดยาเหล่านี้ได้มาใช้ชีวิตที่รับผิดชอบร่วมกัน​
ภายใต้การดูแลอันอบอุ่นของพระสงฆ์ ที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีสักระยะหนึ่ง คือ 2-3 ปี จึงจะได้ผล​ มิฉะนั้น
จะเสียเวลาเปล่า ที่สุดท่านก็ย้ายมาที่แคว้นอุมเบรีย ในเมืองอาเมเลีย โดยใช้โรงสีเก่าแห่งหนึ่งมาซ่อมแซม
และปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งก็คือ ศูนย์คอมมูนิต๊ะ อินคอนโทร เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 7 กันยายน 1979
ปรัชญาของศูนย์ การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ติดยาเสพติดจะเป็นไปในลักษณะของชุมชน
บำบัด กล่าวคือแก้ไขปัญหาด้วยสิ่งแวดล้อมใหม่แบบครอบครัว​ ให้รู้จักปรับตัวในการอยู่ร่วมกัน​ มีระยะเวลา
ไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยมีหลักการดังนี้
1. การก้าวไปสู่บรรยากาศแห่งการพัฒนาชีวิตโดยใช้บรรยากาศของชีวิตครอบครัว เนื่องจากพบว่าผู้ติดยา
เสพติดส่วนใหญ่จะมีบุคลิกภาพที่ต้องการพึ่งพิงผู้อื่น​ มักจะลงโทษตัวเองว่า เป็นผู้ผิดเมื่อปัญหา ชอบเปรียบ
เทียบกับผู้อื่นว่าตนด้อยกว่า ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะทำให้สัมพันธภาพระหว่างสมาชิกในครอบครัวต้องสูญเสียไป​
กลายเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นจะต้องนำพวกเขาเข้าสู่บรรยากาศของครอบครัว จะทำให้สมาชิก
ได้ศึกษาประสบการณ์ชีวิต ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น กล้าเผชิญความจริง ช่วยเหลือตนเอง​ และเป็นที่พึ่ง
แก่คนอื่นได้ มีความรับผิดชอบสูง พร้อมจะเป็นผู้ให้และผู้รับ รวมทั้งให้เข้าใจผู้อื่นเท่าๆ กับเข้าใจตัวเอง
2. การใช้ระบบครอบครัวเปิดในการแก้ปัญหา กล่าวคือสมาชิกจะมีความเป็นประชาธิปไตย​ สามารถแสดง
ความคิดเห็นและความรู้สึกต่างๆ​ ได้เต็มที่ พร้อมจะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กล้าเผชิญความจริง
​ กล้ายอมรับความผิดพลาด และข้อบกพร่องของตนเอง โดยใช้กิจกรรมกลุ่ม​ เปิดโอกาสให้สมาชิกได้เผชิญ
หน้ากัน ในการชี้แนะข้อบกพร่องเหล่านั้น​ ทำให้สมาชิกมีโอกาสฝึกความอดทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ ได้เรียนรู้
การแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญา​ และศักยภาพที่มีอยู่ของแต่ละบุคคล​ ระบบครอบครัวแบบเปิด​ืจะมีเป้าหมาย
ในการดำเนินชีวิตร่วมกัน ด้วยกฎเกณฑ์ที่สมาชิกร่วมกันกำหนด รวมทั้งการแบ่งแบ่งแยกหน้าที่แต่ละคน
รับผิดชอบ ทำให้งานบรรลุผลสำเร็จ
3. หัวใจของศูนย์ คือ ความรับผิดชอบ สมาชิกทุกคนจะต้องได้รับการพัฒนาจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ
เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพ​ และพฤติกรรมของแต่ละคน

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹

Re: เกาะติดวิกฤติโลกผ่านทางพระคัมภีร์และนอสตาดามุส (31-40)

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 01, 2025 11:58 am
โดย rosa-lee
🕵️ เกาะติด​วิกฤติ​โลกผ่านทาง​พระคัมภีร์​และนอสตราดามุส 🕵️
โดย​ สนธิ​ สารธรรม
ตอนที่​ ( 33 )

✴️ มารู้จัก​ศูนย์​ฟื้นฟู​ชีวิตผู้ติดยาเสพติด​ ลำไทร​ (B) ✴️
4. บัญญัติ 10 ประการของศูนย์คอมมูนีต๊ะ อินคอนโตร
1. ซื่อสัตย์ ซื่อตรง 2. รับผิดชอบ​ เสียสละ 3. รักและ สนใจในงานที่รับผิดชอบ 4. ต้องการให้ผู้อื่นทำแก่เรา
อย่างไรก็ทำแก่เขาอย่างนั้น​ 5. ใครไม่ทำงานก็ไม่ต้องกิน 6. ให้ผู้อื่นอย่างไรจะได้รับอย่างนั้น
7. ต้องมีความเชื่อมั่นในกลุ่มและในผู้ดูแล 8.​พยายามเข้าใจคนอื่นมากกว่าที่จะให้คนอื่นเข้าใจเรา
9. ให้ดีกว่ารับ 10. จะไม่ก้าวหน้าหากไม่ได้รับความร่วมมือจากคนอื่น
ศูนย์คอมมูนีต๊ะ อินคอนโตร โตวันโตคืน ต้องขยับขยายไปทั่วอิตาลีถึง 160 ศูนย์ แต่ละศูนย์จะไม่ใหญ่
เกินไป เพราะกว่าสมาชิกจะรู้จักสนิทสนมกัน ต้องใช้เวลานานพอสมควร​ ศูนย์จึงควรเป็นแบบกะทัดรัด​
ในปี​1987 ก็ได้เริ่มขยายศูนย์ไปในต่างแดน คือ สเปน ซึ่งขณะนี้มี 6 ศูนย์​ในปี 1990 เป็นปีที่เปิดศูนย์ใน
โบลีเวีย และในประเทศไทยที่ลำไทร​ ลำลูกกา ปทุมธานี ขณะนี้​ในโบลีเวียมี 9 ศูนย์ ในประเทศไทยก็ไป
เปิดที่แม่สอด ตาก และที่ท่าแร่ สกลนคร​ รวมเป็น 3 ศูนย์
นอกจากนี้ยังมีศูนย์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์​ ฝรั่งเศส สโลเวเนีย​ คอสตาริกา บราซิล และในประเทศอื่นๆ
อีก ซึ่งจะเปิดในไม่ช้านี้ คือ​ แคนาดา ซีเรีย เลบานอน และซาอีร์
สำหรับในประเทศไทย ศูนย์คอมมูนีต๊ะ อินคอนโตร ซึ่งเรียกเป็นภาษาทางการว่า ศูนย์ฟื้นฟูชีวิตผู้ติดยา
เสพติด ตั้งอยู่ที่ตำบลลำไทร​ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โทร.​02-653-1006-7 โทรสาร 02-563-1009 ขั้นตอนการ
ดำเนินงานสมาชิกที่จะเข้าศูนย์จะต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ​ ตามลำดับดังนี้
1. ขั้นเข้ารับสู่ศูนย์
จะต้องผ่านการสัมภาษณ์จากเจ้าหน้าที่ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้ง​ เพื่อทราบรายละเอียดของศูนย์ขั้นตอน
การบำบัดรักษา และสร้างความศรัทธาให้สมาชิก มีความพร้อมตั้งใจที่จะเข้าศูนย์ สู่ความเปลี่ยนแปลงตนเอง
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบประวัติ และความพร้อมของผู้ติดยาเสพติดว่าจะเข้ารับการบำบัดรักษาตามขั้นตอน
ของศูนย์เพียงใด
2. ขั้นตอนการพักฟื้นประจำและการพัฒนา แบ่งเป็น
ก. การรับเป็นสมาชิก ซึ่งจะประกอบด้วยการบำบัดรักษาทางกาย​ (Physical Therapy) มีการตรวจร่างกาย
เป็นระยะๆ และกิจกรรมนันทนาการ การกีฬาการออกกำลังกาย อีกประเภทหนึ่งคือ​ การบำบัดรักษาทางจิต
​(Phychiatric Therapy) ทำแบบรายบุคคลและกลุ่ม
ข. การฝึกงานและการเตรียมหางานทำให้​ ขั้นตอนนี้ก็คือการฝึกทำงาน เช่น เลี้ยงโคนม โคเนื้อ หมู​ ไก่
ช่างไม้ ช่างเหล็ก ช่างอ๊อก​ ช่างไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ให้เกิดความเข้าใจในคุณค่าของ
ความเป็นมนุษย์
3. การฟื้นฟู ทางสังคม (Social Rehabilitation) คือการทำให้ผู้ติดยาได้เปลี่ยนแปลงความคิด​ ทัศนคติ
พฤติกรรม ตลอดจนบุคลิกภาพนี้เดิมให้มีความเข้มแข็ง ทั้งทางร่างกายและจิตใจที่มั่นคง พร้อมที่จะกลับไปอยู่
ในสังคมภายนอกได้ และจะไม่หวนกลับไปใช้ยาเสพติดอีก นั่นก็คือจุดมุ่งหมายสำคัญของศูนย์นั่นเอง การสมัคร
เข้าศูนย์ ผู้ติดยาเสพติดที่มีความสนใจ และตั้งใจ และเข้ารับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพในศูนย์ฟื้นฟู
ชีวิตผู้ติดยาเสพติดมีขั้นตอนการสมัครคือ
1. ต้องไปสมัครด้วยตนเอง​ ​ณ​ ที่ทำการของศูนย์ 2. นำผู้ปกครองไปด้วย 3. ผ่านการสัมภาษณ์หรือนัดพบ
อย่างน้อย 2-3 ครั้ง​ เพื่อเป็นการเตรียมตัวและตัดสินใจที่จะเข้าศูนย์​4. หลักฐานสำคัญ คือ​ บัตรประชาชน
และรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว​ จำนวน 4 ภาพ 5. หลังจากสมัครต้องไปตรวจโรคที่โรงพยาบาลหรือคลินิก และนำผล
การตรวจโรคมามอบให้ศูนย์​ หากใครมีโรคติดต่อ​ เช่น กามโรค ไวรัสตับ-อักเสบ หรือโรคติดต่ออื่นๆ
ต้องไปรักษาตัวให้หายก่อน
สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัคร มีดังนี้
1. เป็นชาย 2. เป็นผู้ติดยา สารเสพติด สุรา หรือสารระเหย​ 3. เป็นผู้ที่สมัครใจ
ปัจจุบันที่ศูนย์มีสมาชิกทั้งหมด​317 คน เป็นชาวอิตาเลียน 27 คน​ ทั้งนี้รวมทั้งเด็กเล็กๆ ขนาด 3-4 ขวบด้วย
แรกทีเดียวทางศูนย์มีจุดมุ่งหมายเพียงแต่จะรับลูกๆ ของผู้ติดยาเท่านั้น แต่ได้พบเห็นเด็กถูกทอดทิ้งมากมาย
จากครอบครัวที่มีปัญหา จึงจำต้องขยายแผนกเด็กซึ่งมีเด็กเล็กจำนวนถึง 50 คน นอกจากนี้ยังมีแผนกเด็กชาย
อายุตั้งแต่ 6-7 ขวบขึ้นไป​ ได้พูดคยกับเด็กชายคนหนึ่งชื่อวีรพัฒน์ แจ่มเที่ยงตรง อายุราว​13-15 ปี​ ทีแรกก็นึกว่า
ติดยา แต่คุยไปแล้ว จึงรู้ว่าไม่ได้ติดยา แต่มาจากครอบครัวที่มีปัญหา แล้วยังสารภาพด้วยว่าเป็นเด็กเกเร มา
อยู่ศูนย์ได้ 2 ปีแล้ว​ รู้สึกชอบมาก มีเพื่อนเยอะ​ ทางศูนย์ก็จะจัดให้ไปเรียนแถวๆ​ นั้น สรุปแล้ว​ ที่ศูนย์คอมมูนีต๊ะ
อินคอนโตร ที่ลำไทร มิใช่เป็นศูนย์ผู้ติดยาเท่านั้นแต่ยังเป็นสถานสงเคราะห์เด็กเล็ก ไปจนถึงเด็กโตด้วย อดไม่ได้
ที่จะขอแสดงความชื่นชมกับดอนเปียรีโน ที่สามารถเปิดศูนย์เพิ่มอีก​ 2 แห่ง คือ​ ที่แม่สอด ตาก และที่ท่าแร่ สกลนคร
ในนามของคนไทย ขอแสดงความกตัญญูกตเวที ที่ท่านได้อนุเคราะห์เยาวชนมากมาย ให้พ้นจากขุมนรก
แห่งการติดยาเสพติด​ ขอพระเป็นเจ้าทรงตอบแทนท่านด้วยสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์เสมอไปเทอญ

A nome dei Thailandesi Le vorrei porgere la nostra gratitudine per quello che Lei ha fatto
per aiutare i Giovanni Thailandesi che sono stati liberati dallʼ inferno di tossicodipendenza,
che Iddio La ricompensi con la buona salute per sempre, cosi sia.

🔹---โปรดติดตามตอนต่อไป​-​--🔹