โดย : ภัศม์ (คุณพ่ออนุสรณ์ แก้วขจร)
…………………………………………
ในนามของความเชื่อ ความหวัง และความรัก
โดย : ภัศม์ (คุณพ่ออนุสรณ์ แก้วขจร)
เรื่องที่ ( 1 )
ที่เห็น เป็นเส้น ขอบฟ้านั่น หาใช่ ทางตัน เท่าตาเห็น ฟ้าสวย สุดกว้าง กว่าที่เป็น ไม่รวม ที่หลบเร้น เลยเส้นฟ้า
ดุจเดียว กันกับ สรรพสิ่ง มีความ เป็นจริง ที่เกินกว่า จะมอง เห็นได้ ด้วยสายตา แต่ความเชื่อ บอกว่า สิ่งนั้นมี
สายลม จริงแท้ อยู่ที่ไหน อยู่คู่ ความเคลื่อนไหว ในทุกที่ เป็นพลัง ก่อเกื้อ เพื่อชีวี คือคุณงาม ความดี แห่งดวงใจ
บางสิ่ง สัมผัสได้ ด้วยรู้สึก บางสิ่ง ต้องส่วนลึก สัมผัสได้ ขออย่า สูญเสีย สิ่งนี้ไป แต่ให้ มโนธรรม นำชีวิน
ฝนฟ้า พายุ ในยามยาก รวมความ ลำบาก ใดทั้งสิ้น เสียงน้ำพระทัย ยังได้ยิน เพียงผิน ใจพึ่ง จะผ่านพ้น
รู้คอย ปล่อยวาง อย่างสงบ
พระพร พานพบ ทุกแห่งหน ประคับ ประคอง หัวใจตน ให้พร้อม ยอมทน ได้ทุกคราว
………………………………
เรื่องที่ ( 2 )
กี่คืนค่ำ ย่ำเดิน ในดงฝัน กี่คืนวัน หวังวาด ถึงวารหวาน กี่วี่แวว แล้วล่วง ดังดวงมาลย์
กี่เหนื่อยนาน ได้นั่งนิ่ง พักพิง กี่หมื่นก้าว เท้าย่าง บนทางแยก กี่พันแอก แบกหนัก เกินจักไหว
กี่ร้อยปาก ถากถม สมใจใคร กี่น้ำตา ตกใน ให้ชีวิต
หวังจะโบก โบยบิน ผินสู่ฟ้า หวังจะฝ่า ขวากหนาม ข้ามวิกฤต หวังมีคน เข้าใจ อยู่ใกล้ชิด
หวังจะติด ตามฝัน จนวันตาย หวังได้ยิน คำอภัย ให้สักครั้ง หวังจะตั้ง ต้นใหม่ ยังไม่สาย
หวังเห็นแสง สีทอง ส่องประกาย หวังชื่นชม สมหมาย ไม่พ่ายแพ้
ขอเป็นหนึ่ง พึ่งได้ ไม่โดดเดี่ยว ขอเป็นเชือก ร่วมเกลียว เหนียวแน่นแน่
ขอเป็นไม้ ค้ำฝัน วันลอยแพ ขอร่วมจิต มิตรแท้ มอบแด่คุณ
……………………………
เรื่องที่ ( 3 )
ความรัก สุขนักทุกข์หนักจักเคียงอยู่ ยิ่งตอนอ่อนแอจะแลดู พยุงยืนสู้คู่กันไป
คงความงามงดปรากฏชัด ตราบถือชื่อสัตย์เอาใจใส่ ตระหนักตักตวงความห่วงใยมอบให้ยามห่างมิร้างลา
จึงเป็นเช่นลมละไมอุ่น ส่งเสริมเติมหนุนกรุ่นคุณค่า ร่มรื่นชื่นหวังทุกครั้งครา ชีวาหวานขมประคองกัน
ยังเป็นเช่นปีกคอยป้องปก เข้าอกเข้าใจไม่ห่างหัน หลอมรวมร่วมแรงพร้อมแบ่งปันประจักษ์รักนั้นนิรันดร์จริง
แล้วท้ายที่สุดดุจเพื่อนสนิท ยามที่ชีวิตเคียงมิตรมิ่ง ต่างพร้อมอยู่เพื่อให้พักพิง ทุกสิ่งสวยงามด้วยความรัก
……………………
เรื่องที่ ( 4 )
เหมือนแสงนั้น จะหายไป แต่หาใช่ จะหายสิ้น เช่นฝัน ครั้นโบยบิน ยังหวนกลับ คืนเก่ากาล
คือ “แสงแห่งความเชื่อ” แม้จางเจือ เมื่อมองผ่าน แท้จริง ยิ่งมองนาน จะเห็นแจ้ง แสงยังงาม
ยังส่อง สว่างสี ให้ความดี พาเดินข้าม หยัดยืน อยู่ทุกยาม คือความหวัง พลังใจ
แสงนี้ จึงมีอยู่ คงเคียงคู่ รับรู้ได้ ศรัทธา จะพาไป ให้อิ่มอาบ ซาบซึ้งธรรม
………………;;…………
เรื่องที่ ( 5 )
ยังรออยู่ ขอให้รู้ อย่างไร ไม่ลืมหลง รอเห็นเธอ หมดท้อ ทระนง รอเพื่อส่ง เธอสู่ ประตูชัย
ชนะใจ ชัยชนะ ณ ที่นี้ ผ่านลำบาก มากมี มิหวั่นไหว ที่หมายมั่น ฟันฝ่า เดินมาไกล ก็จะได้ เดินมุ่ง พรุ่งนี้งาม
วันพรุ่งนี้ ที่เธอ จะเอ่อล้น ความอดทน จนแกร่ง และก้าวข้าม ความอ่อนแอ แปรเปลี่ยน เป็นพยายาม
สิ้นคำถาม ใดใด ไม่เรรวน
…………………………
เรื่องที่ (6)
เปิดเถิดหน้าต่างชีวิต เปิดให้พระจิตส่องสว่าง เปิดให้แสงธรรมนำทาง เปิดให้กระจ่างความจริง
เปิดให้ถ่ายเททุกข์ร้อน เปิดให้พระพรเพิ่มยิ่ง เปิดให้ได้หลักพักพิง เปิดให้ใจนิ่งสงบนาน
เปิดให้ใจกว้างอย่างนี้ เปิดให้ความดีมีฐาน เปิดให้ใฝ่ปรีชาญาณ เปิดให้พระหรรษทานจานเจือ
เปิดให้ศรัทธาคงมั่น เปิดให้เพียรหมั่นทุกเมื่อ เปิดให้ไม่ครึ้มคลุมเครือ เปิดให้ความเชื่อชัดเจน
………………………………
เรื่องที่ (7)
ให้มุมมองของชีวิต มีพระช่วยชี้สะกิดผิดถูกได้ ให้สี่ห้องของหัวใจ มีสักห้องจองไว้ให้มโนธรรม
ให้ความคิดแต่ละห้วง ไม่ถูกลวงด้วยร้ายรุนแรงซ้ำ ให้ทุกทุกกิจกรรม ไม่ถลำลึกร้าวก้าวผิดทาง
ให้แต่ละขณะก้าว ขอเรื่องราวดีดีไม่มีร้าง ให้ความเชื่อมิเจือจาง ปรากฏแจ้งแสงสว่างท่ามกลางเรา