8 เกาะติดวิกฤติโลกผ่านพระคัมภีร์และนอสตาดามุส (71-80)
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 13, 2025 8:55 pm
โดย สนธิ สารธรรม
ตอนที่ ( 71 )
วิธีการของสวรรค์คือให้ความกระจ่างเพียงเท่าที่จำเป็น ปีศาจนรกกำลังออกเพ่นพ่าน และ
ทำสงครามอย่างเต็มที่กับผู้มีใจศรัทธา ด้วยเหตุนี้พระตรีเอกภาพ และพระนางมารีย์จึงเตือนเรา
ล่วงหน้าอย่างชัดเจน
บาปที่ถูกเปิดเผย สัญญาณเตือนจะแสดงบาปของเรา เช่นเดียวกับที่ ดอเรียนเกรย์ได้เห็น
สถานภาพของชีวิตของเขาเพียงแต่ไม่ใช่บนผืนผ้าใบแต่เป็นในจิตวิญญาณของตนเอง นี่คือ
“การแก้ไขจิตสำนึกของชาวโลก” พระวรสารบอกไว้นานแล้วว่า พระเยซูจะส่งพระจิตมาเพื่อ
“พิพากษาบาปของโลก” หากเราไม่สามารถเข้าใจได้ถ่องแท้ในขณะนี้ เราก็จะเข้าใจได้ใน
ขณะนั้นด้วยอานุภาพของสัญญาณเตือน
บาป การขัดขืนของเราที่เป็นคนที่เปี่ยมด้วยความรัก เช่นที่พระเจ้าทรงเป็น เป็นสาเหตุของ
การกระทำ การตัดสินใจ และทัศนคติที่ขาดความรักมากมาย สิ่งเหล่านี้จะปรากฏชัดเมื่อแสงสว่าง
ของพระผู้เป็นเจ้าสาดส่องลงมาบนวิญญาณของเรา จิตสำนึกของเราจะสว่างไสวไปในขณะนั้น
และเปิดเผยการหลอกลวงตนเอง ซึ่งเรามักใช้แก้ตัวอยู่บ่อยครั้ง ดึงเอาซากความทรงจำ ซึ่งไม่เคย
ได้รับการฟื้นฟูด้วยความรักออกมา แสดงให้เราเห็นความเท็จที่เราบอกแก่ตนเอง และการโอนอ่อน
ต่อบาปของเรา
ด้วยสัญญาณเตือนนี้ เรามิอาจหลบซ่อนจากตัวเองได้อีก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยทำจะปรากฏ
ต่อสายตาทั้งหมด เพียงในชั่วพริบตา เมื่อนั้นเราจะรู้ว่า สายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้าผ่านทะลุทุก
สิ่งจนถึงก้นบึ้งของสิ่งที่เป็นความลับที่สุด เราจะเห็นความเป็นสากลอย่างแท้จริงของสวรรค์ โดย
ปราศจากอุปสรรคของสีผิว เผ่าพันธุ์หรือความเชื่อ พระองค์จะทรงทำให้เรารู้ว่า พระองค์ทรงเห็นเรา
เป็นอย่างไร และสิ่งใดในตัวเราที่พระองค์ไม่ทรงพอพระทัย เราจะเข้าใจสถานะนิรันดรของตนเอง
และแสงสว่าง หรือความมืดของวิญญาณของเรา ในชั่วขณะหนึ่งเราจะต้องเป็นทุกข์ถึงบาปของเราเอง
ทุกข์ที่ต้องแยกไปจากพระเป็นเจ้า ทุกข์ของไฟชำระ หรือนรก เราจะได้เห็นทุกสิ่ง ไม่ว่าเราจะต้องการ
หรือไม่ก็ตาม เราจะได้เห็นการตัดสินใจของเราที่เหี้ยมโหด ดื้อรั้น และปราศจากความปราณี เวลาต่างๆ
ที่เราเหยียบย่ำความรู้สึกของผู้อื่นอย่างโหดร้าย เวลาที่เรามักได้ในทรัพย์สินของผู้อื่น ริษยาในโชคดี
และชื่นชมในความล้มเหลวของผู้อื่น เมื่อนั้น เราจะต้องร่ำร้องด้วยความทุกข์โศกเศร้า เมื่อพระผู้เป็นเจ้า
ทรงเผยให้เราเห็นการละเลย การปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ กิจการและแผนงานที่เราไม่ยอมกระทำ
เราจะได้ยินพระองค์ตรัสแก่เราว่า “เจ้าเบียดเบียนเราทำไม?”
สัญญาณเตือนนี้คือ พระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า ด้วยการเตือนนี้เราจะได้รู้ว่า เรายังไม่เป็นอย่างที่
พระองค์ทรงต้องการ น้ำพระทัยของพระองค์คือให้เราเป็นเช่นเดียวกับพระองค์ และเข้าใกล้ชิดพระองค์
บาปเป็นอุปสรรคเพียงอย่างเดียวที่กีดขวางเราจากความสุขอันสมบูรณ์เป็นนิรันดร์ บาปของเราจะถูกเผย
ให้เห็นด้วยสัญญาณเตือน มิใช่เพื่อแก้แค้น เพราะความแค้นมิใช่เป็นคุณสมบัติของดวงหฤทัยของพระองค์
แต่เพราะความรักและพระเมตตา
คาราบันดัล คือกุญแจ สัญญาณเตือนคือเครื่องหมายสำหรับอนาคต เป็นจุดหักเหครั้งสำคัญในประวัติ
ศาสตร์ของโลก และคงจะเป็นเครื่องหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทุกกาลสมัย การแยกทะเลแดง และมานนา
จากสวรรค์ เป็นความช่วยเหลือของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อชนกลุ่มน้อยๆ แต่สัญญาณเตือน จะครอบคลุมไป
ทั่วโลก และปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ จะเป็นความช่วยเหลือที่สำคัญกว่า เพราะจะส่งผลกระทบกว่า เพราะจะส่ง
ผลกระทบต่อชาย หญิง และเด็กทุกคนบนโลกมนุษย์ สัญญาณเตือนจะเตรียมใจประชากรโลก เพื่อรับสาร
จากพระวจนะ และเตรียมตัวทุกคนเพื่อรับพระเยซู และชีวิตจากพระองค์ ด้วยสัญญาณเตือนนี้เราจะตระหนัก
ถึงบาปของตนเอง เราจะรู้ว่าเราต้องการพระผู้ไถ่ หากเราไม่ตระหนักถึงบาปของเรา เราก็ย่อมจะไม่เข้าใจว่า
เราต้องการพระเยซู และการอภัยโทษของพระองค์มากเพียงไร
สัญญาณเตือนเป็นความช่วยเหลือโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า สัญญาณเตือนนี้แสดงถึงความรักอันลึกล้ำ
ที่พระองค์ทรงมีต่อเรา ไม่เคยเลยที่พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทำการใดโดยตรง และทั่วถึงเช่นนี้เพื่อทำให้ทุกคน
ในโลกได้รับรู้ในบาปของตนต่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์
ที่พระองค์ได้ทรงกระทำสิ่งใดด้วยฤทธานุภาพ ความเที่ยงตรง อย่างฉับพลันเช่นนี้
แต่เวลากำลังจะหมดไปแล้ว ยุคปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดลง และเราได้รับคำสัญญาว่าจะได้ยุคใหม่แห่ง
สันติภาพ สัญญาณเตือนจะเป็นเครื่องหมายชัดเจนประการแรก ที่จะบ่งว่ายุคเก่ากำลังจะสิ้นสุดลง พระผู้เป็นเจ้า
ไม่ทรงปรารถนาให้เราอยู่ในกลุ่มคนที่ไม่ยอมกลับใจทันเวลา พระองค์ไม่ทรงเคยปรารถนาให้วิญญาณของ
ลูกน้อยๆ ของพระองค์แม้แต่ดวงเดียวต้องพินาศไป
เราได้เลือกทางของเราแล้ว และในอดีตเราก็ไม่ได้เลือกทางแห่งมหากางเขน (การยอมสู้ทนความยาก
ลำบาก-สนธิ) ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงยื่นพระหัตถ์เข้ามาเพื่อทำให้เห็นอันตรายเด่นชัดขึ้น เพื่อเผยโฉม
ของความชั่วในยุคปัจจุบัน และเพื่อเปิดโปงโอกาสความชั่วร้ายของ “ความรู้แจ้ง” เท็จเทียม หากโลกไม่
ต้องการรับฟังความจริง และลูกน้อยๆ ของพระบิดากำลังถูกลวงให้หลงทาง แต่ด้วยพระบารมี และฤทธานุภาพ
พระองค์เองจะทรงบังคับให้เรารับฟัง และด้วยสัญญาณเตือนนี้ พระองค์จะทรงปัดเป่าความเท็จ และคำลวง
ซึ่งซาตานใช้บดบังแสงสว่างแห่งพระวรสาร