ปักเสาประกาศกลาง 4 แยกเลยเรอะ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 9:23 pm

แบบว่า 4 แยกตรงหน้าบ้าน ถนนรัชดาภิเษก หน้าห้างโรบินสัน
มีคนมาปักเสากระจายเสียงชั่วคราว
ลำโพงดีมากๆ เสียงดังเข้ามาในรถเลยอ่ะ
ใต้เสาเขียนตัวหนังสือดำบนพื้นเหลือง
"พระเยซูเอาชนะความตาย"
ค่อยยังชั่วหน่อย ตอนเด็กๆมีป้ายติดบนต้นตาลว่า "คนที่ไม่เชื่อพระเยซูต้องตกนรก"
อันนั้นแย่กว่า โดนชาวพุทธด่าเปิงเลย โดยเฉพาะป้ายที่ติดอยู่ข้างวัดเค้า

แอบยิ้มเล็กๆ อยากอยู่ฟังว่าเค้าประกาศว่าอะไรมั่ง แต่ดันไฟเขียวซะก่อน
ได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับพระเยซู
ใครหนอ ขยันประกาศจริงๆ
ตอนแรกๆเราก็คิดว่า ทำแบบนี้จะได้ผลเรอะ
แต่หลังจากฟังมาจากหลายๆคน มีบางคนเข้ามารับเชื่อเพราะเห็นป้ายบนต้นตาลด้วยซ้ำ
ก็ขอให้เรียกคนที่หลงหายกลับมาได้เพิ่มขึ้นนะคะ แม้จะเชื่อได้ว่าอีกเดี๋ยวชาวบ้านแถวนั้นจะด่าแหงๆก็ตาม

เรจังแอบเอาใจช่วย *ok
แก้ไขล่าสุดโดย -Rei- เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 9:24 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Claire de Lune

พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 10:57 pm

ตรง4แยกปทุมวันหน้าห้าง MBK นี่ก้อบ่อยเหมือนกันครับ อาทิตย์ที่แล้วนี่กลางสยามเลยตรงถนนพระราม 1 แถวหน้าDunkin
Nativity
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 3:31 pm
ที่อยู่: Peace in sinner

พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 11:14 pm

วันนี้เหรอ คับ กี่โมงงะ มะด้ายยินเลย
อยากรู้ใครหนอช่างกล้าทำเเบบนี้ ผมยังไม่กล้าเผยเลย ;D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 11:48 pm

ป้ายของคริสต์ เหลืองๆเล็กนิดเดียวพวกเค้าทำมาบ่น ที ปิดทองฝังลูกนิมิตร ทำบุญผ้าป่า ติดเต็มไปหมด บางทีติดตรงจุดกลับรถ บังคนขับเวลาจะกลับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่รู้ทำไมเค้าไม่บ่นกันมั่งน๊อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 12:26 am

เออ......รู้สึกว่าเป็นกลุ่มเดียวกับป้ายเหลืองไม่ใช่รึจ๊ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 12:28 am

MichaelPaul เขียน: ป้ายของคริสต์ เหลืองๆเล็กนิดเดียวพวกเค้าทำมาบ่น ที ปิดทองฝังลูกนิมิตร ทำบุญผ้าป่า ติดเต็มไปหมด บางทีติดตรงจุดกลับรถ บังคนขับเวลาจะกลับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่รู้ทำไมเค้าไม่บ่นกันมั่งน๊อ


เออ.................ไม่ต้องไปเปรียบกับเขาก็ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ot@
~@
โพสต์: 989
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 1:01 am

ไอ้ป้ายที่ว่า ใครไปเชื่อไปนรก แถวบ้านผมยังมีอยุ่เลยครับ ฮาๆๆๆ :P
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 5:16 am

Ot@ เขียน: ไอ้ป้ายที่ว่า ใครไปเชื่อไปนรก แถวบ้านผมยังมีอยุ่เลยครับ ฮาๆๆๆ :P
หลุดตาไปได้อย่างไร น้องโอ๊ต ไปปีนลงมาจ๊ะ

กลุ่มนี้เป็นกลุ่ม มิชชันนารี ญี่ปุ่นค่ะ ที่เราเรียกกลุ่มคริสเตียนป้ายเหลือง

การทำพันธกิจของพวกเขา คือแจกแผ่นปลิว ขึ้นป้ายเหลือง แบกป้ายประกาศทางลำโพง

พวกเขาจะมีแผนการทำงานชัดเจน เช่นเดือน ธันวาคม เป็นเดือนวันพ่อ วันคริสตมาส
เขาจะเดินประกาศตามท้องถนน โดยเฉพาะที่จุดศูนย์กลางชุมชน
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 8:20 am

ผมคิดว่า พระเป็นเจ้าทรงมีแผนการเรียกลูกๆ ของพระองค์ ในวิธีที่หลากหลาย นี่ก็เป็นหนึ่งในวิธีนั้น ซึ่งคล้ายกับคริสตชนยุคแรกๆ ที่ป่าวประกาศถึงข่าวดี ประกาศพระนามพระเยซูเจ้า เช่นกัน ยังไงก็ขอพระเป็นเจ้าอวยพระพรแก่ผู้ที่มาในพระนามของพระองค์ครับ ::)
moonlit
โพสต์: 48
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 13, 2005 7:20 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 12:05 pm

เมื่อวันก่อนก็เห็นเหมือนกันค่ะ ตรงสี่แยกลำสาสี เลยหละพอดีติดไฟแดงอยู่น่ะค่ะเลยเห็น....
อยากรู้เหมือนกันค่ะว่ามาจากกลุ่มไหน ???
แล้วทำแบบนี้ไม่ผิดกฏหมายเหรอ ???
...เหอๆๆๆๆ....
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 1:09 pm

โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการประกาศแบบตรงๆของคริสเตียนบางกลุ่มครับสำหรับสังคมไทย เพราะผลที่ได้รับกลับมา หากสอบถามจากคนต่างศาสนา มักมีผลทำให้พวกเรามองข่าวประเสริฐของพระเยชูและความเชื่อในพระเยชูเจ้าในแง่ลบครับ โอเค เข้าใจครับว่าในพระวรสารระบุไว้ชัดเจนว่า จงไปป่าวประกาศข่าวดีของพระเยชูเจ้าจนสุดปลายแผ่นดินโลก ให้เขารับศีลล้างบาปในนามของเรา(พระเยชู) แต่สำหรับสังคมไทยที่ค่อนข้างเซ็นซิทีฟกับศาสนาอื่นที่มิใช่ศาสนาหลักประจำชาติที่คนส่วนใหญ่นับถือ อันเนื่องจากวัฒนธรรมไทยส่วนใหญ่นั้น มักจะมีศาสนาหลักผสมอยู่ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมและแนวความคิดของคนส่วนใหญ่ในการดำเนินชีวิต ดังนั้นการประกาศแบบโต้งๆตรงตัวนั้น ผมว่าค่อนข้างรุนแรงไปสักนิดนะครับ สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานและความเข้าใจในความเชื่อในพระเยชูคริสตเจ้า ยิ่งคริสเตียน(บางกลุ่ม ขอย้ำ) มักใช้ถ้อยคำรุนแรงในการประกาศด้วยแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ไม่เชื่อพระเยชูเจ้าจะตกนรก หรือพระเยชูเจ้าคือความรอดเดียว เป็นต้น อันเป็นการสร้างความโมโหและเข้าใจคริสตชนในแง่ร้ายจากคนต่างศาสนาหากได้อ่านข้อความดังกล่าว เพราะพวกเขาไม่เข้าใจถึงความหมายแฝงของถ้อยคำ และการตีความคำสอน ยิ่งเป็นการสร้างอคติในแง่ลบต่อคริสตชนโดยไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้น


ผมมองอีกมุมหนึ่ง การประกาศข่าวดี หรือการประกาศข่าวประเสริฐ ควรเป็นการทำตามพระดำรัสคำสอนของพระเยชูเจ้าในชีวิตประจำวัน และการแก้ปัญหาในชีวิต รวมทั้งนำมาเป็นหลักใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ ความรัก เมตตา ต่อกันดีกว่า คนต่างศาสนาเขาอาจมองไม่เห็นพระเยชูเจ้าที่เราเชือ เขาอาจไม่เข้าใจในหลักความเชื่อของคริสตชนที่พวกเราใช้เป็นหลักการดำเนินชีวิต แต่สิ่งที่เขาเห็นจากเราคือการกระทำครับ การทำดีต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้อภัย ให้ความช่วยเหลือ ให้ความรัก ให้ความเมตตา และเสียสละ ดังพระเยชูเจ้าของเรา จะเป็นแสงสว่างที่ทำให้เขาเห็นองค์พระคริสตเยชูจากกลุ่มคริสตชนของไทย

ขอย้อยกลับไปในสมัยก่อน เมื่อครั้งที่พระคริสตศาสนาเข้ามาแผ่นดินสยามใหม่ๆ ถึงแม้ว่าดินแดนแห่งนี้จะมีศาสนาท้องถิ่นดังเดิมที่แข็งแกร่งมาก และยากเย็นแสนเข็ญที่จะเปลี่ยนให้คนไทยสมัยก่อนเข้าใจและรับเชื่อในนามพระเยชูเจ้า แต่ท่านผู้แพร่ธรรมในยุคก่อนก็มิได้ท้อแท้(พวกซิลเตอร์ บาทหลวง และคริสตชนในยุคเริ่มต้นของพระศาสนจักรไทย)ก็หมั่นเพียรทำความดี และสวดภาวนา รวมทั้งเผยแผ่ความรักขององค์พระเยชูเจ้าผ่านการกระทำต่อผู้อื่น(ไม่ว่าเขาจะนับถือลัทธิศาสนาใดๆ และมองเราในแง่ร้ายก็ตาม) การกลับใจเป็นหน้าที่ของพระ เรามีหน้าที่เพียงเป็นผู้ติดตามพระองค์ หากเราเป็นผู้ติดตามพระองค์ที่ดี เราก็จะเป็นแสงเทียนที่นำคนอื่นให้ได้พบกับองค์พระเยชู เมื่อเขาโหยหาพระองค์ เขาผู้นั้นก็จะเรียกร้องคำสอนและนามของพระเยชูด้วยปากของเขาเอง

สมัยผมเรียนคำสอนครั้งแรก(ก่อนล้างบาป) คุณพ่อเจ้าวัดรังสิต(คนเก่า ปัจจุบันย้ายไปวัดที่เชียงรายแล้ว) สอนไว้ว่า ข่าวดีของพระเยชูเป็นของมีค่า ไม่ควรนำไปเร่ขาย เมื่อนำไปเร่ขาย(แบบที่คริสเตียนบางกลุ่มกระทำ) ทำให้ของมีค่า ดูเหมือนของโหลลดราคา แต่ข่าวดีของพระเยชูเจ้านั้น มีค่ามากมายมหาศาลจนประมาณค่ามิได้ ผมยังจำได้เสมอตอนเรียนคำสอนครั้งแรกเสมอ สมัยนั้น ใครขาดคำสอน ไม่มีการตาม ไม่มีการตื้อ ขาดคำสอนหลายๆครั้งเอา พ่อจะไม่ให้รับศีลล้างบาปเอาด้วย พ่อบอกว่าเป็นการดูความตั้งใจของผู้ที่สมัครเข้าคริสตัง ว่าตั้งใจกันจริงหรือเปล่าที่จะมาเป็นคริสตชน และอีกอย่างข่าวดีของพระเยชู และคำสอนพระศาสนจักร เหมาะสมสำหรับผู้ตั้งใจจริงและเห็นคุณค่า ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับพ่อล้านเปอร์เซนต์ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม จากประสบการณ์ตรงของชีวิตและจากการรับคำสอนอย่างถูกต้องจากพ่อท่านต่างๆ

ส่วนตัวผมมองว่าการปักป้ายตามสี่แยก ประกาศเสียงดังทางโทรโข่งตามป้ายรถเมล์ แจกใบปลิวตามสะพานลอย ตามตื้อตามจองเวรเพื่อเล่าเรื่องพระเยชูให้คนอื่นฟัง(โดยที่เจ้าตัวผู้ฟังเขาไม่เต็มใจ) เป็นการกระทำที่ไร้ผล และสร้างอคติในแง่ลบต่อคริสตชนไทยจากคนต่างศาสนาในสังคม ผมว่าเอาเวลาที่บางกลุ่มใช้กำลังคน กำลังทรัพย์ กำลังศรัทธา ที่ใช้ในการประกาศวิธีดังกล่าว ไปใช้ในกิจกรรมดูแลเด็กกำพร้า คนไร้ที่พึ่ง(ทั้งทางกาย และทางใจ) ดูแลคนที่หิวโหย(ทั้งทางกายและทางจิตวิญญาณ) หรือดูแลแก้ปัญหาครอบครัวและคนที่มีปัญหาเรื่องการตั้งท้องโดยไม่ตั้งใจ เพื่อป้องกันเขาเหล่านั้นทำแท้ง (ผมเจอแบบนี้ที่เมกาบ่อยมาก สำหรับอเมริกันคาทอลิก) และการช่วยเหลือทั้งหมดนั้น ต้องช่วยทุกคน ไม่ว่าเขาจะลัทธิศาสนาใดๆ ผมว่าทำแบบนี้ น่าจะเป็นการประกาศข่าวดีและความรักขององค์พระเยชูเจ้าได้ตรงประเด็นและเป็นรูปธรรมมากกว่า ดีกว่าให้คนต่างศาสนาเขาเห็นเป็นตัวตลกตรงสี่แยกไฟแดง หรือป้ายเหลืองสร้างศัตรูตามยอดต้นตาล ผมเห็นแล้วอับอายเหลือเกินกับสิ่งเหล่านั้น

อันนี้เป็นความคิดเห็นโดยส่วนตัวนะครับ หากอ่านแล้วทำให้หลายท่านไม่สบายใจ กราบขออภัยครับผม ผมเชื่อว่าพระเจ้าคือความรัก การสำแดงความรัก ต้องมีการกระทำ ผู้อื่นมิสามารถเห็นความรักจากคำพูดจากปาก และตัวอักษรเปื้อนหมึกบนกระดาษ แต่เขาเห็นความรักขององค์พระเยชูเจ้าต่อเขา และผู้อื่นจาการกระทำของคริสตชน คนของพระเยชู ครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
แก้ไขล่าสุดโดย Pry-Kaew เมื่อ ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 1:10 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 1:29 pm

การประกาศพระคริสต์ คือการนำความรักไปให้ ผมว่าข้อความแนว *ถ้าไม่เชื่อพระเยซูจะต้องลงนรกชั่วนิรันดร์* นี้มิใช่การนำความรักไปให้เลย
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 2:05 pm

princess of wands เขียน: การประกาศพระคริสต์ คือการนำความรักไปให้ ผมว่าข้อความแนว *ถ้าไม่เชื่อพระเยซูจะต้องลงนรกชั่วนิรันดร์* นี้มิใช่การนำความรักไปให้เลย

เห็นด้วยกับคุณปรินต์เซสอย่างแรงครับ ข้อความดังกล่าว หากนำไปเขียนบนป้ายสาธารณะที่ทุกคนอ่านได้ แถมคนอ่านส่วนใหญ่(คนต่างศาสนา) ขาดความเข้าใจในความหมายแฝงของคำสอนดังกล่าว ว่าจริงๆแล้วหมายถึงอะไร เมื่อคนต่างศาสนาอ่านแล้วก็เข้าใจตรงตัวตามตัวอักษร ทำให้พระเยชูถูกมองจากคนต่างศาสนาว่าเป็นพระศาสดาที่ดุร้ายและรุนแรง(เนื่องจากคนต่างศาสนาไม่เชื่อในการมีอยู่ของพระเป็นเจ้า และมองพระเยชูเป็นเพียงศาสดาในพระคริสตศาสนาเท่านั้น) เป็นการสร้างศัตรูอย่างไม่จำเป็นเลย และเป็นการฝังรากอคติในแง่ลบต่อคริสตชนในสายตาคนต่างศาสนา ซึ่งส่งผลทำให้งานแพร่ธรรมต่างๆของคริสตชน ไม่ว่าจะไปในรูปแบบองค์กรความช่วยเหลือต่างๆ หรือการทำดีส่วนบุคคลของคริสตชนแต่ละคนส่วนตัว ทำได้ยากขึ้นเพราะอคติในแง่ลบต่อความเข้าใจผิดในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น แถมคนต่างศาสนาอาจเข้าใจผิดว่าเราทำดีเพื่อหวังพวกเขาเข้ารีต(ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย เพราะเราช่วยเหลือ มอบความรัก ความเมตตา แบบไม่มีเงื่อนไข เหมือนพระเยชูเจ้า ทรงไถ่เรา และสถิตกับเราโดยไม่คิดมูลค่า)

อคติในแง่ดีนั้น ปกติก็ทำยากอยู่แล้ว ยิ่งจะแก้อคติในแง่ลบ(ที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น)ยิ่งยากใหญ่ ประมาณว่าทำดีเสมอตัว(แถมยังถูกมองว่าพวกเราทำหวังผลอีกตังหาก ทั้งๆที่เรามอบความรัก ความช่วยเหลือ ความเมตตา โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น) ทำพลาด(ตามประสามนุษย์ที่มีข้อบกพร่อง)โดนด่าอีกตังหาก แต่เอาเถอะครับ สวดภาวนาของพละกำลังจากพระ ประทานผ่านเราทางพระจิตเจ้าที่สถิตในตัวเรา และรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของวิญญาณ สิ่งต่างๆพระจะประทานให้ผ่านพ้นและลุล่วงไป ตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 9:17 pm

วันนี้เสาดังกล่าวหายไปแล้วอ่ะค่ะ
ไม่ทราบเกิดอะไรกับเจ้าของเสา
Maria Magdalena
โพสต์: 1946
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
ที่อยู่: On this earth obviously

ศุกร์ ธ.ค. 16, 2005 9:19 pm

เอาเหอะ เคยเจอ หน้า bts หมอชิต ตอนเช้าเลยอ่ะ มันพยายามจาแจกให้เราให้เราเหมือนกันเหอะๆ

ป้ายเหลืองอันใหญ่ๆ เหอะๆ ดี นะป๋า ไม่มาเห็น ไม่งั้นโดนเหน็บ อีก เฮ้อ...

วันนี้เพื่อนก้อมาถาม บอกว่า เออเนี่ย เค้าเห็นป้ายแบบเนี่ย เหมือนกะว่ามันบิดเบือนศาสนาเลยนะ ประมาณเนี๋ยอ่ะ มันชอบประมาณแบบว่า ขู่ว่า รับพระเยซูจิ จะยังงี้ยังงั้น โอ้ย ปวดหัว แบบว่า ไม่รุจาตอบเพื่อนว่าไง
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ ธ.ค. 17, 2005 12:24 am

SugarRei เขียน: วันนี้เสาดังกล่าวหายไปแล้วอ่ะค่ะ
ไม่ทราบเกิดอะไรกับเจ้าของเสา

ถ้าที่พี่คิด..........เขาย้ายไปประกาศต่อที่อื่นจ๊ะ ;D
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ธ.ค. 17, 2005 4:36 am

เรา ผู้ไม่ชอบการประกาศ ก็ พูดมากเกินไป วิจารณ์มากเกินไป

บ่อยครั้ง พี่คิดอย่างนี้ ถ้ามีแต่คนกลัว ทำอย่างโน้น ก็ ถูกวิจารณ์ทำอย่างนี้ก็โดนชาวบ้านว่า
เลยเราไม่ยอมทำอะไรกันเลย เพราะสิ่งที่คนอื่นทำ (ประกาศ )เราก็ต่อต้าน โดยเฉพาะในใจ
และนอกใจ เมื่อใครด่าคริสต์ป้ายเหลือง เรารีบ บอกปัดทันทีว่านี่ไม่ใช่ พี่ น้องของเรา

วันหนึ่งพี่นั่งรถผ่าน เห็นคนหน้าญี่ปุ่น แบก เสา มีลำโพง มีผ้า คาดปาก เหงื่อหยด มองแล้วเศร้าๆนะ
ในความเศร้าของใบหน้า พี่มองเห็นเหมือน พระพักตร์ พระเยซูคริสต์ ที่พระองค์เศร้าเพราะมนุษย์
รังเกียจพระองค์

เรามามองคนกลุ่มนี้ถึงความศรัทธาในพระเยซูคริสต์ เสียสละเงินทอง (มหาศาล) เสียสละเวลา
ร่วมแบกแอก แห่งความอับอาย การติฉินนินทา จากคนผ่านไปผ่านมา และคนที่เป็นคริสตชนเอง เมื่อภาวนา พระเยซูเจ้า ถามในใจของพี่ว่า เจ้าได้ทำอะไรแก่เราเท่าคนกลุ่มนี้ไหม ในเมื่อพวกเจ้า ไม่พูด เป็นพยานเรื่องของเรา แก่คนที่หลงทางอยู่ เราจึงใช้พวกเขา

ใครที่ติดตามอ่าน คำพยานของผู้เชื่อ คงได้พบคำตอบว่า "ถ้อยคำที่เขาประกาศ บนป้ายเหลืองนั้น"
เป็นฤทธิ์เดช ที่นำหลายคน ไปถึงพระเจ้า พระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอด ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ในกรอบนิกาย หรือคณะใด เพราะ กลุ่มคริสต์ป้ายเหลือง นี้คือผู้หว่าน พวกเรา ควรจะเป็นผู้เก็บเกี่ยว

ดังนั้น แทนที่พวกเราจะร่วมด้วยช่วยกัน โจมตี พวกเขา ขอเปลี่ยนเป็นคำภาวนา เมื่อเจอพวกเขาซึ่งหน้า ควรจะทักทายให้กำลังใจ เพราะพี่เชื่อว่าถ้าสิ่งนี้พระเจ้าไม่ทรงอนุญาต มันคงจะล้มละลายไปแล้ว ทางราชการ คงซิวไปแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ธ.ค. 17, 2005 5:15 am

บอกตามตรงว่าผมก็ไม่ชอบ

และบอกตามตรงว่าอธิษฐานที่ไรก็ได้คำตอบคล้ายของพี่พีพี อธิษฐานทีไรพระองค์ไม่เคยตำหนิพวกเขาเท่าความคิดเราเลย

ดังนั้นพวกเขาก็เป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้ผมรับใช้พระองค์และทำให้กลุ่มลูกแกะมีจิตตารมณ์ในพันธกิจในการประกาศ เพราะในเมื่อเราเห็นว่าเขาทำไม่ถูก ทางที่ดีกว่านั่งบ่นเฉยๆ นอกจากอธิษฐานให้เขาแล้ว เราควรเดินหน้าทำสิ่งที่เราคิดว่าเป็นวิธีที่ถูกต้อง ให้ล้ำหน้าพวกเขาเสีย จะเกิดผลดีกว่ามากครับ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ธ.ค. 17, 2005 8:20 am

ผมเคยเห็นเค้าเอาไปติดในป่าด้วยนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

เสาร์ ธ.ค. 17, 2005 10:39 am

ผมเห็นความพยายามของพวกเขาในการประกาศพระนามของพระเยซูแล้ว รู้สึกละอายใจตัวเองที่ไม่ได้สำแดงพระนามของพระองค์ให้คนอื่นได้รู้จักเท่ากับพวกเขา เพราะหลาย ๆ ครั้ง กิจการต่าง ๆ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นการรับใช้พระเจ้า ได้ประกาศพระวาจาของพระองค์แก่ผู้อื่น แต่ผลประโยชน์ลึก ๆ นั้นก็คือประโยชน์สุขส่วนตัวที่ไม่มีใครตำหนิติเตียน แต่พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้ที่เราไม่กล้าทำ อาจจะไม่มีใครยกย่องชมเชยพวกเขาอย่างเปิดเผย อย่างดีแค่แอบปลื้ม แต่ถ้าให้ออกตัว ก็มักจะบอกว่า ฉันไม่รู้จักพวกเขา เขาเป็นคนละกลุ่มกับฉัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
NKL
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2005 7:32 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ธ.ค. 18, 2005 10:53 am

เห็นแล้วรู้สึกละอาย ที่คิดว่าตนทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวในเรื่องการประกาศ
ภาพประจำตัวสมาชิก
St. AnGeLA MeriCi
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 05, 2005 12:50 pm

จันทร์ ธ.ค. 19, 2005 2:01 pm

เคยเห็นเหมือนกันคะ แถวหน้าโรบินสัน บางรักอะ ขับรถผ่าน ได้ยินประกาศเกี่ยวกับพระเยซู ป้ายเหลืองเนี่ยๆละ รู้สึกตกใจเหมือนกันเพราะว่าเปิดเสียงดังมากกก จริงแล้วการประกาศข่าวดีอะ ไม่ต้อ
งทำถึงขนาดนี้ก้อได้จริงไหมคะ กลัวคนอื่นจะเข้าใจศาสนาเราผิด การประกาศข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูมีตั้งหลายวิธีนะ ???
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 20, 2005 10:11 am

hotcake เขียน: กลัวคนอื่นจะเข้าใจศาสนาเราผิด การประกาศข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูมีตั้งหลายวิธีนะ ???

เห็นด้วยกับคุณเค็กครับผม จากการอ่านความคิดเห็นหลายๆท่าน มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่เห็นด้วยผมก็เข้าใจในเหตุผลว่าพวกเขา(กลุ่มที่ประกาศ)ต้องเสียสละ และทนแอกแห่งความอับอายต่างๆ เหมือนพระเยชูผจญในยุคพระวรสาร ซึ่งเป็นเรื่องน่าเห็นจริงๆ และชื่นชมในความเสียสละของเขาเหล่านั้นบนพื้นฐานความเชื่อ แต่ผมขออนุญาติออกความเห็นนิดหนึ่ง หากทุ่มเทถึงขนาดนั้นแล้ว ผลออกมาสังคมมองาข่าวดีของพระเยชูในแง่ลบยิ่งกว่าเดิม ผมว่าเหมือนเหนื่อยฟรี แถมงานไม่เดินอีกต่างหาก เพราะเราอยู่ในสังคมต่างศาสนา และส่วนใหญ่พวกต่างศาสนา มีพื้นฐานในเรื่องพระคริสต์และความเข้าใจอยู่ในระดับเกือบติดลบ และอาจจะสร้างความตกใจให้แก่สังคม หากเราประกาศพระคำไปตรงๆในที่ชุมชน สังคมไทยผมว่าควรใช้วิธีแบบที่มิซซั่นนารีในยุคแรกๆทำดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น การสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล สถานบำบัด และดูแลผู้ที่ด้อยโอกาสในสังคม(ไม่ว่าจะฝ่ายกาย หรือฝ่ายวิญญาณ)จากนั้นค่อยสอดแทรกเรื่องข่าวดีของพระคริสต์ไปในกิจกรรมดังกล่าว แต่กิจกรรมนั้นๆต้องทำเพื่อพระคริสตจริงๆและช่วยทุกคน มิใช่ทำเพื่อเงินทองหรือชื่อเสียง(เพื่อเงินทองในการหมุนองค์กร พอโอเคครับ)

ส่วนตัวเข้าใจในความกล้าหาญ เสียสละ และอดทนในความอับอายของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเจตนาของกลุ่มนั้นๆ เป็นเรื่องน่าสรรเสริญครับ แต่เราควรดูถึงผลที่ออกมาด้วย หากทนกันถึงขนาดนั้น สังคมยิ่งมองข่าวดีของพระเยชูตกต่ำลงกว่าเดิม ผมว่าเป็นเรื่องน่าเสียใจครับ อันนี้มิใช่เป็นการตัดสินใครทั้งสิ้น แต่ผมมองจากความเป็นจริงของสังคมไทย เพราะเราคริสตชนไทย อยู่ท่ามกลางคนต่างศาสนาและสังคมต่างศาสนา รวมทั้งกฎหมายและการปกครองจากคนต่างศาสนาอีก ดังนั้นเราควรระมัดระวังและประกาศข่าวดีให้สอดคล้องกับสภาพสังคม กฎหมาย และหลีกเลี่ยงข้อพิพาทกับคนต่างศาสนาและศาสนาอื่นให้มาก เพราะลำพังการเป็นชนส่วนน้อยของประเทศนั้น รักษาความเชื่อในพระคริสตของเราให้ยังคงอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมต่างศาสนาก็ยากอยู่แล้ว(เห็นจากคนทึ้งวัด หรือหลงใหลในลัทธิบริโภคนิยม จนลืมอาหารทางจิตใจ) สมัยนี้ ทางรัฐบาลเอง ก็มีปัญหาทางการเมืองกับบางศาสนาในภาคใต้อยู่ ผมว่าเราควรระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมต่างๆทางความเชื่อมิให้เป็นการกระทบกระทั้งกับคนในสังคมส่วนใหญ่ของไทย

ผมมองว่าน้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน หรือน้ำซึมบ่อทราย ค่อยๆซึม จนน้ำหมดบ่อ และวิธีค่อยเป็นค่อยไป ในการประกาศข่าวดี โดยสอดแทรกไปในความช่วยเหลือต่างๆ(ที่ไม่หวังผลตอบแทน การกลับใจเป็นหน้าที่ของพระ) ผมว่าน่าจะเหมาะและได้ผลสำหรับสังคมไทยนะครับ


ผมว่าหากพวกเขาอยู่ในสถานะที่เต็มใจรับฟังข่าวดี และชื่นชมยินดีไปกับกิจกรรมต่างที่เราดำเนินการช่วยเหลือ ผมว่าวิธีนี้ เป็นวิธีที่หว่านเมล็ดพันธ์แห่งความเชื่อที่ดีกว่านะครับ


หากผมพูดอะไรผิดไป ขอพี่น้องและพระเป็นเจ้าให้อภัยผมด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น แสดงความคิดเห็นบนพื้นฐานความรักและพระคริสตเจ้าจริงๆ หากผมผิดพลาดอะไรไป ขอพระเป็นเจ้าให้อภัยผม และสวดให้ผมด้วย

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
St. AnGeLA MeriCi
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 05, 2005 12:50 pm

อังคาร ธ.ค. 20, 2005 10:26 am

ปล. เมื่อวานหลังเลิกงาน เจออีกแล้ว ปักอยู่ตรงเกาะกลางถนนสีลมเลย ไม่ได้มีแค่อันเดียวนะคะ มีตรงหน้าโรบินสันสีลม ใต้รถไฟฟ้าศาลาแดง แล้วก้อหน้าถนนคอนแวนต์ ตอนห้าโมงเย็นอะคะ

รู้สึกว่าไม่เป็นการรุกเกินไปหรอคะเนี่ย ??? ช่วงนี้เจอบ่อยด้วย

โดยความเห็นส่วยตัวนะคะ พระเยซูได้หว่านเมล็ดพืชแห่งความเชื่อไว้แก่เราแล้วทุกคนแล้ว เพียงแต่ว่าใครที่จะรับรู้ได้และรับพระองค์เข้ามาในชีวิตเราเมื่อใดเท่านั้น เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ธ.ค. 20, 2005 11:02 am

เท่าที่อ่านยังไม่มีใครเห็นด้วยนะครับ จะออกไปทางเห็นใจมากกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Champkun
โพสต์: 570
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 10:35 pm
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 20, 2005 9:28 pm

ตัวผมเองก็ไม่ค่อยชอบวิธีของเขา เพราะว่ามันดู ตรง และ รุนแรงเกินไป
คิดเหมือนเจ๊ทาว่า การมาบอกว่าถ้าไม่เชื่อพระเจ้า จะต้องตกนรก มันไม่ใช่การมอบความรัก
น่าจะเปลี่ยนบท หรือเปลี่ยนข้อความที่นำมาประกาศ เช่นนำคำสอนตอนดีๆ คำสอนที่เปรียบเทียบการทำดี
นำมาประกาศ มันจะดูเป็นการให้ความรักมากกว่า

แต่อีกมุมนึง หลังจากที่อ่านๆที่เขียนกันมา ก็คิดได้ว่า
พวกเขายังมีความเชื่อและความกล้า ที่จะประกาศวาจาของพระองค์มากกว่าผม
ก็ได้แต่ภาวนาให้กิจการของพวกเขาได้ผลดี และพระองค์ทรงคุ้มครองด้วยครับ
Claire de Lune

อังคาร ธ.ค. 20, 2005 11:45 pm

ผมเห็นด้วยนะครับว่าเราไม่ควรหวังผลตอบแทน ยกตัวอย่างเช้นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิของคาทอลิกนั้น บรรดาพระสังฆราช คุณพ่อ บราเดอร์ ซิสเตอร์ในพื้นที่ได้ให้การช่วยเหลือแบบให้เปล่าคือไม่หวังผลตอบแทน ช่วยเหลือโดยไม่เลือกว่าผู้นั้นจะนับถือศาสนาอะไร หรือไม่คำนึงถึงว่าผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเร้านั้นจะต้องเข้ารีตเป็นคาทอลิก ซึ่งผมชื่นชมมากครับว่าเป็นการช่วยเหลือโดยการมีพระเยซูเป็นศูนย์กลางของการทำงานจริงๆคือช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆเลย ผมคิดว่าอย่างแรกเราต้องคำนึงถึงบริบทของสังคมไทยครับว่าศาสนาพุทธได้ฝังรากลึกแล้วในสังคมไทย และศาสนาพุทธได้สร้างชาติไทยขึ้นมาด้วย เราทุกคนที่เป็นคนไทยไม่ว่าจะเป็นคริสตังหรือคริสเตียนบรรพบุรุษของเราย่อมผ่านการนับถือศาสนาพุทธมาก่อนแน่นอน หรือท่านที่เป็นคริสตัง/คริสเตียนใหม่ก็ย่อมต้องผ่านการเปลี่ยนจากศาสนาพุทธมาก่อน เพราะฉะนั้นความเป็นพุทธในสายเลือดย่อมมีในทุกคนครับ ผมจึงเห็นว่าพวกเราไม่ว่าจะเป็นคริสตังหรือคริสเตียนต้องให้เกียรติศาสนาพุทธและคนพุทธครับ ตัวผมเองมีเพื่อนสนิททุกคนนับถือพุทธหมดเลยครับตั้งแต่เด็กจนอยู่มหาลัยทุกคนก็รู้ว่าผมเป็นคาทอลิกที่ค่อนข้างเคร่งพอสมควร ผมยินดีเสมอถ้าเพื่อนผมถามเกี่ยวกับเรื่องศาสนาก้อจะตอบไปตามความสามารถของตนเองที่มีอยู่ ถ้าไม่ถามผมก็จะไม่พูดครับเพราะถือว่าเรื่องศาสนาเป็นเรื่องส่วนบุคคล ส่วนหนึ่งผมคิดว่าการเป็นคาทอลิกที่ดีคือการเป็นคนดี มีความรักเมตตาต่อคนรอบข้าง ผมก้อพยายามที่จะทำตัวไม่ให้สะดุดในบรรดาเพื่อนทุกๆคนที่เป็นพุทธ ผมคิดอย่างนึงว่าถ้าเราเป็นคนดีในสายตาเพื่อนๆชาวพุทธทุกคนผลที่ตามมาก้อคือศาสนาคาทอลิกที่เรานับถือก้อจะถูกมองไปในแง่ที่ดีงามตามไปด้วยอันเนื่องมาจากการปฏิบัติตัวของเราท่ามกลางคนต่างศาสนา ผมก้อไม่รู้ว่าทำถูกต้องหรือเปล่า คือผมก้อไม่เคยเล่าเรื่องศาสนาให้เพื่อนฟังถ้าเพื่อนไม่ถาม ผมมองศาสนาพุทธในแง่ดี และพยายามเป็นคาทอลิกที่ดี ไม่รู้ว่ากำลังเดินมาถูกทางเปล่า ของผู้รู้ช่วยแนะนำก้อจะเป็นการดีครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 21, 2005 12:23 am

อื้อหืม....เป็นพรืดเลยน้องเอริ์ธ +_+ ตาจะบอด
Nativity
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 3:31 pm
ที่อยู่: Peace in sinner

พุธ ธ.ค. 21, 2005 12:38 am

ประกาศข่าวดี
การประกาศข่าวดีคือต้องข่าวดีจริงๆ
เช่นทำอะไรบ้างละ
สอบเทอมนี้เป็นอย่างไร
พ่อแม่ได้รับข่าวดีไหม ;D
สองละทำบุญให้คนยากคนจน
ไม่ใช่เอาเงินไปเเมนยู >:(
สามผมว่าประกาศแบบนี้ดูมันไม่ค่อยดีครับศาสนาเราจะเเย่เอา
ประกาศข่าวดีไม่จำเป็นต้องเรื่องพระเยซู
คือว่าข่าวดีของผมนั้นประกาศให้คนดีเขาชื่นชมยินดีกับเราที่เราทำได้
เเล้วเขาก็จะสรรเสริญพระเจ้าของเราด้วยครับอาแมน ;D
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 21, 2005 8:07 am

Heaven เขียน: ประกาศข่าวดี
การประกาศข่าวดีคือต้องข่าวดีจริงๆ
เช่นทำอะไรบ้างละ
สอบเทอมนี้เป็นอย่างไร
พ่อแม่ได้รับข่าวดีไหม ;D
สองละทำบุญให้คนยากคนจน
ไม่ใช่เอาเงินไปเเมนยู >:(
สามผมว่าประกาศแบบนี้ดูมันไม่ค่อยดีครับศาสนาเราจะเเย่เอา
ประกาศข่าวดีไม่จำเป็นต้องเรื่องพระเยซู
คือว่าข่าวดีของผมนั้นประกาศให้คนดีเขาชื่นชมยินดีกับเราที่เราทำได้
เเล้วเขาก็จะสรรเสริญพระเจ้าของเราด้วยครับอาแมน
;D

เห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์กับคุณเฮลเวนครับผม คำว่าข่าวดีของพระเยชูเจ้า หมายถึงการที่เราได้ทำกิจการดีต่อเพื่อนพี่น้อง และทำให้ผู้อื่นมีความสุขในกิจการที่เราทำ อาจจะไม่ใช่การบอกหรือเล่าเรื่องพระโดยตรงก็ได้ครับ ตอนสมัยเรียนคำสอนกับคุณพ่อมหาไถ่ท่านหนึ่ง(ขอสงวนนาม แต่ใบ้ให้ว่าท่านเขียนหนังสือเรื่องความหมายของภาพพระมารดานิจจานุเคราะห์) บอกว่าข่าวดีของพระเยชูเจ้านั้น หากมองไปในสมัยพระวรสาร คือการที่คนต่างๆในดินแดนปาเลสสไตน์ พอได้ยินว่าพระเยชูกำลังเสด็จมา หรือกำลังจะไปที่นู้น ที่นี้ นั้นคือข่าวดีที่มาเข้าหูของคนที่ได้ฟัง และพยายามที่จะไปหาพระองค์(เพราะพระองค์คือเหตุของข่าวดีนั้น) เพราะว่าเมื่อพระองค์เสด็จไปที่ไหน พระองค์จะช่วยเหลือคนเจ็บป่วย รักษาโรค รวมทั้งเทศนาสั่งสอนให้กำลังใจแก่ผู้ทุกข์ยากและทุกคน ที่พระองค์พบเจอ กล่าวคือพระบาทของพระองค์เสด็จไปที่ไหนก็แล้วแต่ ที่นั้นก็จะมีแต่ความชื่นชมยินดีและความสุข เจ็บได้รับการรักษาให้หาย คนหิวได้กินอิ่มปากอิ่มท้อง คนผีเข้าได้รับการขับผีออก และคนที่ต่ำต้อยและถูกกดขึ่ทางสังคม ได้รับการปลดปล่อย(ทางด้านจิตใจ) นี้แหละคือข่าวดีของแท้ของพระเยชูเจ้า จริงๆแล้วพระองค์ทำสิ่งเหล่านั้นมากกว่าการเทศน์สอนและพูดเรื่องศาสนาเสียอีก และการเทศน์สอนส่วนใหญ่ พระองค์มักจะทำหลังจากช่วยคนเหล่านั้นให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ความหิวโหย และความทุกข์ในจิตใจ หลังจากนั้นพระองค์จึงค่อยเทศนาสั่งสอน


สรุปง่ายๆคือ คนมีความทุกข์(ไม่ว่าเรื่องกาย หรือเรื่องจิตใจ) พระเยชูคือข่าวดีสำหรับเขาที่ผ่านเข้ามาในหู และเมื่อทราบข่าวดี เขาเหล่านั้นก็รีบรุดไปหาพระองค์ เพื่อให้พระองค์คลายทุกข์ บำรุงสุข นี้แหละคือข่าวดีของแท้ที่พระเยชูเจ้ากระทำต่อประชาชนในยุคพระวรสารเมื่อพระองค์ต้องการเปิดเผยและแผ่เผยอาณาจักรสรรค์สู่มวลมนุษย์

โดยส่วนตัวผมว่าคริสตชน นิกายโรมันคาทอลิก เราประกาศข่าวดีแบบถูกทางแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และองค์กรช่วยเหลือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายหรือจิตใจ ซึ่งมีความสอดคล้องกับสิ่งที่พระเยชูกระทำในยุคพระวรสาร ผมว่าคนป่วยคงไม่มีสมาธิฟังเรื่องของพระเยชูตอนที่ยังจมอยู่ในความเจ็บปวด คนท้องหิวคงไม่มีสมาธิฟังเรื่องพระเยชูตอนที่ท้องเขายังร้องอยู่ คนกำลังร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ คงหมดใจที่จะฟังเรื่องพระเยชูขณะที่กำลังร้ำไห้อยู่ ผมว่าเราควรบำบัดทุกข์ก่อน เรื่องข่าวดีในพระวรสารและการกลับใจ นั้นคือสิ่งที่ตามมา


ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ตอบกลับโพส