Belong to the Truth Jesus Christ

เรทำแมกกาซีนของที่บริษัท มีคอลัมนนำเที่ยว
พี่คนที่มาให้สัมภาษณ์เล่าว่า ที่กรุงปราค มีสะพานอะไรสักอย่างที่ดังๆ
ที่กลางสะพานมีรูปปั้นนักบุญยอห์น (เขาไม่ได้ระบุว่ายอห์นคนไหน)
เชื่อกันว่า ใครที่ไปอธิษฐานและเอามือลูบรูปปั้นจะสมหวัง
บางคนถึงกับเดินทางไปไกล เพื่อจะไปลูบรูปปั้นที่ว่าเนี่ย *swt

ในความรู้สึกของคริสเตียน มันดูแปลกๆ
การมีรูปปั้นของท่านไว้ แล้วขอให้ท่านช่วยเสนอวิงวอนมันเป็นเรื่องนึง
แต่การไปยืนไหว้ปะหลกๆ แล้วเอามือลูบรูปปั้น
มันไม่เข้าข่ายการสร้างรูปเคารพเหรอคะ
พี่น้องคริสตังช่วยอธิบายทีค่ะ

มีเส้นกั้นระหว่างการให้ความเคารพนักบุญ กับการเอานักบุญมาทำเป็นรูปเคารพ
เส้นมันอยู่ตรงไหนคะ

ผมว่าแบบนี้เหมือนกับเคารพรูปเคารพเลยครับ

เคยไปแย้ว ไม่จริงอ่ะ ไม่เห็นสมหวังเลย อุตส่าห์ไปลูป *sob

แล้วมีรูปพระเยซูของยิวอีกอัน ที่เขา บอกว่า ถ้าลูปจะได้กลับมาที่นี่อีก ไม่จริงเหมือนกัน ยังม่ะได้กลับไปเลย โม้นิ

ผมคิดว่าจุดประสงค์ของการปั้นรูปท่านนักบุญขึ้นมามิใช่จุดประสงค์เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นรูปเคารพแน่นอนครับ บางทีเราต้องมองถึงเจตนาของผู้ที่กระทำด้วยครับ อย่างในกรณีดังกล่าวเราก้อต้องแยกให้ออกระหว่างจุดประสงค์ของผู้สร้างรูปปั้นกับจุดประสงค์ของคนที่ประทำ ถ้าเรายึดจุดประสงค์ของผู้กระทำเป็นหลักเราก้อจะบอกว่าคาทอลิกสอนให้นับถือรูปเคารพ หรือยึดกับความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะบางทีการกระทำของบุคคลเพียงคนเดียวนั้นอาจจะไม่สามารถนำมาเป็นเครื่องตัดสินพฤติกรรมได้ทั้งหมด ส่วนตามหลักของคาทอลิกที่แท้จริงก้อคือการมีรูปปั้นไว้เพื่อระลึกถึงเท่านั้นครับ ส่วนในเรื่องของการบูชารูปปั้นนั้นเป็นเรื่องของส่วนบุคคลมากกว่าคับ คนนั้นอาจจะไม่เข้าใจศาสนาดีพอ หรือเป็นคนต่างศาสนา ไม่เกี่ยวกับคำสอนศาสนา เพราะก้อมีหลายคนคับที่เสื่อมศรัทธาในศาสนาคาทอลิกเพราะเห็นชาวคาทอลิกกราบไหว้รูปเคารพ ซึ่งถ้าคนที่เข้าใจศาสนาคาทอลิกอย่างแท้จริงย่อมไม่คลายความศรัทธาเพราะว่าเห็นชาวคาทอลิกไปกราบไหว้/บูชารูปเคารพอย่างแน่นอนครับ

ฝรั่งเขาไม่ไหว้นะครับรูปนั้นน่ะ เขาลูบอย่างเดียว เดินผ่านไปลูบ แล้วเดินไปเลย เพราะผมไปมาแล้ว มันเป็นเคล็ดประเพณีท้องถิ่น เหมือนกรณีหันหลังโยนเหรียญลงน้ำพุที่อิตาลี มันไม่ใช่ธรรมเนียมการแสดงความเคารพทางศาสนาแต่อย่างใด ไม่ได้เป็นระเบียบที่ประกาศจากวาติกันนะครับ มันเป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมาของคนที่นั่น แล้วเขาไม่ได้บังคับด้วยว่าคุณจะลูบไหม ผมไปก็ไม่ได้ลูบอะไร แต่ไปยืนสำรวจตรงที่เขาลูบว่ามันลึกลงไปเป็นร่องคงมีคนมาลูบมาก

สำหรับนักบุญท่านนั้นคือนักบุญองค์อุปถัมภ์ของประเทศเขา และเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของพระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปด้วย

ในสมัยนั้น ประเทศนั้นไม่ได้มีคนเป็นคริสต์มากนัก แต่พระราชินีของประเทศนั้นเป็นคริสตชน ด้วยที่ว่าเป้นพระสงฆ์ท่านได้ฟังสารภาพบาปของพระราชินี แล้วพระราชา ได้ทรงต้องการรู้ว่าพระราชินีสารภาพบาปอะไร นอกใจหรือเปล่า แต่มีระเบียบข้อบังคับเป็นกฎจากพระศาสนจักรว่า พระสงฆ์ที่ฟังแก้บาปต้องรักษาความลับของผู้มาสารภาพบาป เพราะศีลแก้บาปคือศีลศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่พระสงฆที่ฟังและยกบาป แต่เป็นองค์พระจิตเจ้าที่ฟังและอภัยบาปให้

ท่านรักษาความศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างเคร่งครัด ไม่ยอมบอกพระราชา พระราชาจึงลงโทษท่าน และสั่งประหารโดยจับโยนแม่น้ำ ที่สะพานนั้น

นี่เท่ากับว่าท่านได้เป้นมารติร์ หรือมรณสักขี คือผุ้ที่ยอมสละชีวิตเพื่อรักษาความเชื่อ

หลังจากนั้นมีคนเห็นแสงสว่างรูปดาว5ดวง ปรากฎเหนือน้ำ เมื่อว่ายลงไปดูก็พบศพของท่าน เมื่อนำขึ้นมาปรากฎว่ามีสิ่งอัศจรรย์ คือ แม้ร่างกายท่านจะเน่าเปื่อยไปในน้ำ แต่.............

ลิ้นของท่านไม่เน่าเปื่อยและยังสด

นี่คือเกียรติอันเป็นอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ที่พระเจ้าประทานให้ท่าน และเป็นการยืนยันความศักดิ์สิทธิ์ของศีลอภัยบาปในพระศาสนจักรคาทอลิค

มก 16:20
บรรดาศิษย์ก็แยกย้ายกันออกไปเทศนาสั่งสอนทั่วทุกแห่งหน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำงานร่วมกับเขา และทรงรับรองคำสั่งสอนโดยอัศจรรย์ที่ติดตามมา

จากเหตุการณ์นี้ทำให้คนเกือบทั้งประเทศเชคสมัยนั้นกลับใจรับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิค

และทุกวันนี้ลิ้นของท่านยังเก็บไว้ในผอบเงินรูปทูตสวรรค์ สามารถเห็นได้ทุกวันนี้

ผมไปเห็นมาแล้วทั้งสะพาน และทั้งลิ้นครับ

ขอพระนามของพระเจ้าได้รับการสรรเสริญ

ลิ้นตอนที่พี่ Holy เห็นยังสดไหมคับ?

เริ่มแห้งละ เห็นอยู่ไกลด้วย

ฝรั่งไหว้หรือเปล่าไม่รู้ แต่คณะทัวร์ไทยไหว้แหละพี่
เพิ่งทราบว่าประวัติของท่านน่าสนใจไม่ใช่เล่น
นักบุญยอห์นท่านนี้ มีชื่อเต็มว่าอะไรเหรอคะ

คนไทยเห็นอะไรก็ไหว้หมดแหละครับ ปลีกล้วยงอกออกมาหงิกงอยังไหว้เลย

ชื่อเต็มคือ st. John Nepomuk



ส่วนนี่รูปของท่านที่สะพาน ชาร์ล บริช นั้น จะเห็นว่ามีตรงที่เป็นทองมันแพลบ2จุด ตรงนั้นแหละคือจุดที่คนไปลูบจนสะอาดสะอ้าน

ลักษณะรูปนั้นออกแนวอนุสาวรีย์อย่างเห็นได้ชัดมากกว่าจะเป็นรูปนักบุญตามโบสถ์ซะอีก สำหรับท่านนักบุญนี้ ชาวเชคไม่ได้เคารพท่านเฉพาะในแง่ศาสนาแต่ยกย่องวีรกรรมของท่านในแง่ประวัติศาสตร์ของประเทศด้วย เปรียบไปเหมือนย่าโม บ้านเรา ในเมื่อคนทุกชั้นแม้แต่คนที่ไม่ใช่คนศรัทธาศาสนายังรู้จักท่าน การที่จะมีธรรมเนียมท้องถิ่นอะไรโผล่ออกมาแปลกออกไปจากเชิงศาสนาทั่วไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ลักษณะธรรมเนียมแบบนี้ คล้ายกรณีเรื่องศุกร์ที่13(คือคิดว่าวันศุกร์ไม่ดีเพราะพระเยซูสิ้นพระชนม์วันนั้น และคิดว่าเลย13ไม่ดีเพราะอัครสาวก12คนรวมพระเยซูอีก1เป็น13) เป็นลักษณะการถือเคล็ดที่ชาวบ้านตั้งกันเอง

St John of Nepomuk's tomb, the patron saint of the Czechs. He was thrown off the Charles Bridge by Bad King Wenceslas in 1393 (there was a good king of the same name).

ดูๆไปฝรั่งเขาคงเห็นเป็นของสนุกมากกว่าจะเชื่อจริงจังแบบคนไทยนะ

โบสถ์ท่านสวยมาก

May 16 is also the Feast day of St John Nepomucen (or St John of Nepomuk)
(Great star of Bethlehem, Ornithogalum umbrellatum, is today's plant, dedicated to this saint)

This 14th century Bohemian churchman is the patron saint of Czechoslovakia. He was born at Nepomuk, Bohemia, 1340; some sources say he died in Prague, March 20, 1393, while others say it was on the vigil of the Ascension (May 16), 1383. He was canonized in 1729.

John was the confessor of Queen Sophie, consort of Wenceslaus IV, King of Germany and Emperor of Bohemia. The king tried to force St John to reveal to him the secrets of his virtuous wife

สัญลักษณ์ของนักบุญองค์นี้มี2อย่าง

คือ
1.ลิ้น
และ
2.ดาว5ดวง

นอกจากดาว5ดวงจะเป็นแสงอัศจรรย์ตอนพบศพท่านแล้ว ยังแทนความหมายของบาดแผลทั้ง5ของพระเยซูเจ้าด้วย ดังนั้นจะเห็นว่ารูปของท่านจะเป็นลักษณะถือกางเขน หรือก้มมองกางเขน เพราะท่านยอมตายเพราะเห็นแก่พระเยซูเจ้า และฝักใฝ่ในพระคริสต์มากกว่าชีวิตหรือสิ่งอื่นใดในโลก

*inlove สวยมั่ก ๆ

ขอบคุณทั้ง ผู้ถามและ ผู้แบ่งปันค่ะ

ส่วนคำถามของคุณเร เรื่องเส้นแบ่ง ผมเพิ่งอธิษฐานเสร็จ แล้วทรงไขแสดง สว่างเจิดจ้าทีเดียวไว้ว่างๆจะกลับมาอธิบายครับ

โบสถ์สวยมาก ๆ ครับ

แต่ละวัดนี่อัลงการ ไม่แพ้กันเลยนิ

โอ้!!! พระวิหารของพระเจ้าช่างงดงามตระการตาเสียน่ากระไร

รอฟังพี่ปอปอ :)

ความจริงเรื่องนี้เราต้องทำความเข้าใจร่วมกันในสิ่งที่เราเรียกว่า

บัญญัติ10ประการ

กันก่อน

ว่าที่จริงแล้ว แต่ไหนแต่ไรมา มันไม่ได้บอกว่ามี10ข้อ และไม่ได้บอกด้วยว่าให้แบ่งเป็น10ข้อ ที่จริงพระบัญญัติประทานมาเป็นข้อความยาวเหยียด มีทั้งส่วนสำคัญและส่วนขยาย ดังนี้

มาดูบทพระคัมภีร์บทดังกล่าวกัน

เฉลยธรรมบัญญัติ5:5

ครั้งนั้นข้าพเจ้ายืนอยู่ระหว่างพระเจ้ากับท่านทั้งหลาย เพื่อจะประกาศพระวจนะของพระเจ้าแก่ท่านทั้งหลาย เพราะท่านทั้งหลายกลัวเพลิง จึงมิได้ขึ้นไปบนภูเขา พระองค์ตรัสว่า
6

ทีนี้เรามาดูบัญญัติแต่ละส่วน ผมขอเน้นส่วนของพระเจ้า ซึ่งแยกได้3คอนเซปหลักๆคือ

1-เรื่องการนับถือพระเจ้าองค์เดียวตั้งแต่ข้อ7-10
2-เรื่องการระวังการออกพระนามพระเจ้าในข้อ11
3-เรื่องถือวันสะบาโตตั้งแต่ข้อ12-15

ผมขออ้างอิงกรณีวันสะบาโตก่อน เพราะเราคงจำได้ว่าพะรเยซูเจ้าพิพาทกับฟาริสีเรื่องนี้โดดเด่นหลายหนที่สุด เราจำได้ไหมครับว่าฟาริสีถืออเคร่งมากว่า ห้ามทำอะไรเลยที่จัดว่าเป็นงานในวันสะบาโตโดยเน้นอ้างที่ข้อ13-14 แต่หัวข้อของประเด็นนี้อยู่ที่ข้อ12 คือ"'จงถือวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์" ทีนี้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ยังไง ก็ด้วยตามที่บอกไว้ในข้อ13-14ว่าห้ามทำงานโน่นนี่ ส่วนข้อ15เป็นการบอกเหตุผลว่าทำไมควรถือวันนี้

นี่คือโครงสร้างของบทบัญญัติข้อนี้นะครับ คือมีหัวข้อ มีการอธิบายวิธีการ และมีเหตุผล

แต่ฟาริสีเน้นการปฎิบัติตามตัวอักษรจนเขาลืมเหตุผลแท้จริงว่าพระเจ้ากำหนดวันนี้ทำไม ซึ่งเราตอบได้เลยว่า

ไม่ใช่ว่าพระเจ้าต้องการให้ว่างงานวันนั้น แต่ที่จริงต้องการให้เราสละ1วันไปนมัสการพระเจ้าในวิหารหรือศาลาธรรม เจตนาที่ห้ามทำงานเพื่อให้ว่าง ไม่ใช่เพราะพระองค์ไม่อยากเห็นใครทำงาน ที่ขนาดแบกแคร่กลับบ้าน หรือรักษาคน ไล่ผีวันนั้นก็ไม่ได้

พระเยซูเจ้าที่น่ารักตอบพวกนั้นชัดเจน2เรื่องคือ 1วันสะบาโตควรทำดีหรือทำชั่ว และ2พระบิดาทำงานทุกวันแหละ (ไม่งั้นพืชคงไม่งอกวันสะบาโต ดวงอาทิตย์คงงดฉายแสงวันนั้น และฝนคงไม่ตกวันนั้นจริงไม๊)

นี่คือสาระสำคัญของบทบัญญัติข้อนี้ และนี่คือวิธีที่พระเยซูสอนให้เราตีความพระคัมภีร์ นั่นคือ ที่จริงพระเจ้าต้องการอะไรกันแน่ ไม่ใช่แค่ทำตามตัวอักษรแล้วพระเจ้าจะพอพระทัย

จำคำพูดของพระองค์ได้ไม๊ที่ว่า (ลก 13:15)องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสตอบว่า

เรากลับมาดูข้อแรก อันเป็นข้อที่พิพาทกันระหว่างนิกายเสมอมา

7

ขอบคุณพระจิตเจ้าสำหรับการไขแสดงของพระองค์ผ่านพี่โฮลี่ค่ะ

พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าที่ทรงหวงแหน Our God is a jealous God... :)

พี่โฮลี่... น่าจะเอาคำตอบนี้ไปใส่หน้าบทความด้วยนะคะ... :)

ขอบคุณครับคุณโฮลี่ ที่พระเป็นเจ้าไขแสดงคำอรรถอธิบายต่างๆ ผ่านทางพระจิตเจ้าของคุณ ฟังคุณอธิบายแล้ว เก็ตไอเดียและเข้าใจง่ายยิ่งกว่าอ่านDoctrinของพระศาสนจักร(ทั้งภาคภาษาไทยและภาคภาษาอังกฤษ)อีก ในเรื่องรูปเคารพในนิกายโรมันคาทอลิก พระจิตเจ้าไขแสดงปัญหาในเรื่องความเชื่อผ่านตัวคุณหลายครั้งแล้ว(จากการอ่านสิ่งที่คุณโพสทั้งเว็บนี้ และเว็บอิสระดอดคอม ทั้งในอดีต และปัจจุบัน) ขอขอบคุณครับผม

ส่วนความเห็นเรื่องรูปเคารพในนิกายโรมันคาทอลิก ผมมีความคิดเห็นสอดคล้องกับคุณโฮลี่ครับ ว่ารูปต่างๆนั้นคือสิ่งที่ทำให้เราระลึกถึงพระได้ง่ายขึ้น เนื่องจากพระไม่มีข้อจำกัด แต่เรา(มนุษย์)มีข้อจำกัดด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า ดังนั้นการสร้างรูปขึ้นมาเพื่อให้ยกจิตใจขึ้นหาพระได้ง่ายขึ้นกว่าไม่มีรูป เป็นเครื่องช่วยเราให้เข้าถึงพระได้ง่ายขึ้น อีกอย่างในภาษาอังกฤษ คำว่ารูปเคารพนั้น ใช้คำว่า" Idol" หมายถึงรูปเคารพในศาสนาอื่น และรูปเคารพในศาสนาโบราณ แต่รูปพระต่างๆในศาสนาคาทอลิกนั้น จะใช้คำว่า " Icon" กล่าวคือเป็นแค่เครื่องหมายทางจิตใจเท่านั้น (ขึ้เกียจอธิบาย แต่เข้าใจครับผม)

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

รูปโบสถ์สวยจังครับ

:Dขอบคุณพ่อปอปอมากๆคับ
รู้สึกว่าสิ่งที่เราเข้าใจมันเป็นนามธรรมขึ้นมากๆเลยในคำพูดพี่ปอ :D

ที่นี้เข้าใจแจ่มแจ้งเจิดจรัญจ้าจมรใจเลยใช่ม๊ะพี่เรย์ อิอิ ;)

มีภาค2ครับ จะกระจ่างขึ้นอีกครับ

รูปปั้นทองอีกรูปที่พระเจ้าสั่งให้ทำ

กันดารวิถี27-4
เขาทั้งหลายออกเดินจากภูเขาโฮร์ตามทางที่ไปทะเลแดง เพื่อจะอ้อมแผ่นดินเอโดม ประชาชนท้อถอยเพราะเหตุหนทาง และประชาชนก็บ่นว่าพระเจ้าและว่าโมเสสว่า