หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 03, 2006 6:58 pm
โดย NKL
พวกนี้มักชอบพูดว่าไสยศาสตร์มีจริง แต่พระเจ้าไม่มีจริง อ่ะครับ
ไม่เข้าใจจริงๆ พวกนี้มักเชื่อเรื่องศาสตร์เร้นลับ แต่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 03, 2006 8:02 pm
โดย Zion
เพราะ พระเจ้า เราไม่ได้ดั่งใจเค้าหน่ะสิครับ
ในขณะที่ พวกศาสตร์มืด จะสร้างความพอใจให้เขา
แต่ว่านะ
What you want may be not What you need.
สิ่งที่ปรารถนา ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเสมอไป ::)
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 03, 2006 8:13 pm
โดย Batholomew
ยอมรับเหมือนกันนะครับ
ว่าบางครั้ง ผมก็คนหนึ่งอ่ะครับ
แต่ตั้งใจว่าไม่ทำแล้วครับ
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 03, 2006 8:59 pm
โดย Holy
พระเยซุเคยตอบคำถามนี้แล้วครับ
ยน 3:19
ประเด็นของการตัดสินลงโทษก็คือความสว่างเข้ามาในโลกนี้แล้วแต่มนุษย์รักความมืดมากกว่ารักความสว่าง เพราะการกระทำของเขานั้นชั่วร้าย ทุกคนที่ทำความชั่วย่อมเกลียดความสว่าง และไม่เข้าใกล้ความสว่างเกรงว่าการกระทำของตนจะปรากฏชัดแจ้ง แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามความจริงย่อมเข้าใกล้ความสว่างเพื่อให้เห็นชัดว่าสิ่งที่เขาทำได้ทำโดยพึ่งพระเจ้า
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 04, 2006 6:15 am
โดย Pry-Kaew
พูดภาษาง่ายๆก่อนเลยละกัน ก็เพราะเขาเหล่านั้นมิได้รู้จักพระเป็นเจ้าเที่ยงแท้เหมือนกับพวกเราไงครับ ไม่สิ ต้องพูดว่า เพราะพวกเราได้รับการทรงเรียกจากพระเป็นเจ้าให้เป็นลูกของพระองค์ จนได้รู้จักพระองค์ตามกระแสเรียกหาของพระองค์ เมื่อเรารู้จักพระองค์แล้ว พระองค์คือหนทาง ความจริง และชีวิต และดำรงตลอดนิรันดร เราจึงรู้ว่าสิ่งอื่นนั้น เป็นเรื่องเหลวไหลและอยู่ภายใต้อำนาจมืด อันนี้มิใช่พวกเขาผิดที่ทำเรื่องแบบนั้น และเราก็ไม่ควรจองหอง หรือยกตัวเองว่ารู้จักพระเจ้าแล้ว เพราะพระเจ้าเลือกเรา เรามิได้เลือกพระเป็นเจ้า พระองค์ทำให้เรารู้จักความจริงจากพระองค์ แต่พวกเขาไม่รู้จัก ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดครับ อย่าตัดสินผู้อื่น เพื่อมิให้ตัวเราต้องโดนตัดสิน
ส่วนเรื่องมนต์ดำ ภูตผี วิญญาณชั่ว ไสยเวทย์ เวทมนต์ คาถา เดรัจฉานวิชานั้น เป็นความเชื่อท้องถิ่นที่มีมานานแล้ว ในสังคมไทย และสังคมยุโรป ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีศาสนาอื่น เป็นศาสนาประจำชาติ และศาสนานั้นก็มีคำสอนว่าสิ่งดังกล่าวเป็นเดรัจฉานวิชาเหมือนคำสอนในศาสนาคริสต์ แต่เนื่องจากว่าสิ่งเหล่านี้มีมานานมากในสังคมชาวไทยก่อนที่ศาสนาอื่นจะเข้ามาเสียอีก และมีอิทธิพลสูงต่อความคิด ความเชื่อในสังคม มากกว่าศาสนาหลักของประเทศ และหลักจิตวิทยาและตรรกวิทยาสมัยใหม่ ดังนั้นคนไทยต่างศาสนาส่วนใหญ่จึงมักหาที่พึ่งทางใจจากสิ่งเหล่านั้น อันเนื่องจากบ้านเราในสภาวะปัจจุบัน ค่าครองชีพสูง งานหายาก ที่มีอยู่แล้วก็เสียวว่าเขาจะเอาออกจากงาน รวมทั้งปัญหาทางสังคมมากมาย ดังนั้นคนจึงต้องการจุดยึดเหนี่ยวทางจิตใจสูง ซึ่งหากคนต่างศาสนาในสังคมไปหาพระและนักบวชในศาสนาของพวกเขาก็ว่าเป็นอย่าง และเป็นเรื่องที่ดีด้วย แต่ทว่าคนส่วนใหญ่กลับไปหาในสิ่งตรงกันข้ามกับศาสนา คิดแล้วก็ขอบคุณพระเป็นเจ้า ที่คริสตชนคาทอลิกเรามีโครงสร้างการบริหารองค์กรทางศาสนา และบุคลากร รวมทั้งข้อคำสอน ที่เข้มแข็ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ปกป้องพวกเราจากสิ่งเหลวไหลดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณพระเจ้าที่อวยพรให้คาทอลิกทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว และมีคำสอนเดียวกันทั่วโลก เปลี่ยนแปลงมิได้ง่ายๆตามกฎหมายพระศาสนจักร จารีตและศีลศักด์สิทธิ์ที่เหมือนกันหมดทั่วโลก และคำสอนแนวทางเดียวกันหมดทุกอย่าง ทุกประการ ทุกเรื่อง ป้องกันมิให้เราไปหลงทางไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเชื่อท้องถิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์อย่างรุนแรงต่อชีวิตคริสตชน อาเมน
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 04, 2006 6:11 pm
โดย NKL
รู้สึกพวกเรื่องการดูดวงต่างๆ ในโรงเรียนจะฮิตมาก พวกที่เล่นพวกนี้ในโรงเรียนมักเป็นจุดสนใจ และคนส่วนใหญ่มักเห็นว่าดี คนเผยแพร่เรื่องเกี่ยวกับศาสนากลับถูกหาว่าบ้า และถูกมองแปลกๆ
Re:จึงทำเช่นนั้น
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 04, 2006 8:42 pm
โดย St.paul
คนไม่รู้จักพระเจ้าน่าจะเป็นไปได้จึงทำเช่นนั้น
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 05, 2006 1:23 am
โดย Pry-Kaew
NKL เขียน:
รู้สึกพวกเรื่องการดูดวงต่างๆ ในโรงเรียนจะฮิตมาก พวกที่เล่นพวกนี้ในโรงเรียนมักเป็นจุดสนใจ และคนส่วนใหญ่มักเห็นว่าดี คนเผยแพร่เรื่องเกี่ยวกับศาสนากลับถูกหาว่าบ้า และถูกมองแปลกๆ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ คนพูดเรื่องดูดวง หรือพูดเรื่องมนต์ดำยุคใหม่(จำพวกแฮรี่ พอตเตอร์) หรือใพ่ทาโร่ จริงๆแล้วสัญลักษณ์ไพ่ทาโร่ต่างๆ เป็นสัญลักษณ์ของมนต์ดำ ที่พ่อมด แม่มด หมอผี ในยุโรปสมัยกลางใช้ในการประกอบพิธีไสยเวทย์ต่างๆ คนในสังคม กล่าวคือเดรัจฉานวิชาเต็มตัวของยุโรป สังคมโลกปัจจุบันก็แปลก ทั้งฝรั่งและและไทย กลับไปหาสิ่งที่ตรงข้ามกับศาสนาเพื่อการพ้นทุกข์ของตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลข้างเคียงที่น่ากลัวและอันตรายต่อจิตวิญญาณเป็นอย่างยิ่ง ในทางกลับกัน คนที่สนใจและศึกษาในคำสอนและความเชื่อความศรัทธาในศาสนา กลับถูกมองจากสังคมว่าเป็นตัวประหลาด และถูกตัดสินว่าไปสนอกสนใจในเรื่องประหลาด ให้มันได้อย่างนี้สิคนเรา แต่เอาเหอะครับ มนุษย์ไม่เข้าใจ แต่พระเป็นเจ้าเข้าใจ แม่พระเข้าใจ บาทหลวงเข้าใจ คนในวัดเข้าใจ ก็โอเคแล้ว
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 05, 2006 1:35 am
โดย P
สัญลักษณ์ในไพ่ทาโร่ หลายๆอย่าง เป็นการพยายาม preserve ความรู้ของศาสนาเก่าอื่นๆที่โดนรุกรานในสมัยก่อนครับ ไม่ได้เป็นไสยศาสตร์หรือเวทย์มนต์ใดๆเลย
เพียงแต่ผู้ที่เชื่อในศาสนาอื่นๆมีความจำเป็นต้องทิ้งพระคัมภีร์ของตนและเปลี่ยนความเชื่อ จึงได้มีความพยายามกันใต้ดินเพื่อที่จะสร้างสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อให้ความรู้ความเชื่อของตนยังคงอยู่ได้ ไม่ถูกทำลายหายไปหมด สัญลักษณ์ในไพ่ทาโร่ จึงประกอบไปด้วยหลายความเชื่อปนเปกันไปมากมายครับ รวมถึงพวก wicca ด้วย
แต่ถ้าถามผมว่า เป็น"ไสยศาสตร์เวทย์มนต์"หรือไม่ ผมตอบว่า เป็นบ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ หลายๆอย่างเป็นของศาสนาที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน (ยิว) หรือบางอย่างก็มาจากความเชื่อเก่าของกรีกโรมัน บางอย่างมาจากอียิปต์
:)
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 05, 2006 1:46 am
โดย Nativity
ว่าไป ไพ่ท่าโร่นี่น่าเล่นนะอิๆ เคยเห็นที่เอเซียบุ๊คมีขาย
แต่มันน่ากลัวไงก็ไม่รู้ :'(
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 05, 2006 2:06 pm
โดย -*-St.GrEGoRY-*-
Jo-Han เขียน:
เพราะ พระเจ้า เราไม่ได้ดั่งใจเค้าหน่ะสิครับ
ในขณะที่ พวกศาสตร์มืด จะสร้างความพอใจให้เขา
แต่ว่านะ
What you want may be not What you need.
สิ่งที่ปรารถนา ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเสมอไป ::)
เห็นด้วยนะครับ
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 05, 2006 3:04 pm
โดย KaL 's Z
เฟื่องก็เคย เชื่อ ทางนั้น นะคะ
แต่ตอนนี้ เฉยๆ ค่ะ
แต่ก็ ดูๆ ไป แต่ไม่ได้เชื่อ
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 05, 2006 3:38 pm
โดย Pry-Kaew
P เขียน:
สัญลักษณ์ในไพ่ทาโร่ หลายๆอย่าง เป็นการพยายาม preserve ความรู้ของศาสนาเก่าอื่นๆที่โดนรุกรานในสมัยก่อนครับ ไม่ได้เป็นไสยศาสตร์หรือเวทย์มนต์ใดๆเลย
เพียงแต่ผู้ที่เชื่อในศาสนาอื่นๆมีความจำเป็นต้องทิ้งพระคัมภีร์ของตนและเปลี่ยนความเชื่อ จึงได้มีความพยายามกันใต้ดินเพื่อที่จะสร้างสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อให้ความรู้ความเชื่อของตนยังคงอยู่ได้ ไม่ถูกทำลายหายไปหมด สัญลักษณ์ในไพ่ทาโร่ จึงประกอบไปด้วยหลายความเชื่อปนเปกันไปมากมายครับ รวมถึงพวก wicca ด้วย
แต่ถ้าถามผมว่า เป็น"ไสยศาสตร์เวทย์มนต์"หรือไม่ ผมตอบว่า เป็นบ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ หลายๆอย่างเป็นของศาสนาที่ยังมีอยู่ในปัจจุบัน (ยิว) หรือบางอย่างก็มาจากความเชื่อเก่าของกรีกโรมัน บางอย่างมาจากอียิปต์
:)
ขอบคุณครับคุณพี ที่เพิ่มเติมประวัติเกี่ยวกับไพ่ทาโร่ ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น กล่าวคือสรุปได้ว่า ไพ่ทาโร่ คือการรวมความเชื่อโบราณและศาสนาโบราณเข้าด้วยกัน จนเป็นไพ่ดังกล่าว เพื่อเป็นการรักษาสัญลักษณ์ทางความเชื่อโบราณไว้ในอีกรูปแบบหนี่ง ฟังแล้วยิ่งน่ากลัวใหญ่ เพราะว่าศาสนาโบราณเกือบทั้งหมด มักเกียวข้องกับการบูชายัญชีวิต(ไม่ว่าชีวิตมนุษย์ หรือชีวิตสัตว์)เพื่อบูชาเทพเจ้า หรือภูตผีที่อุปโลกว่าคือเทพเจ้าของศาสนาโบราณ ไพ่ทาโร่ผมเคยนำมาสับ และดูภาพสัญลักษณ์ของไพ่ สัมผัสทางวิญญาณได้ว่าน่ากลัวและแปลกจากจิตวิญญาณ เคยคุยกับคนรู้จัก(เป็นคนต่างศาสนา)บอกว่าไพ่ทาโร่มักจะแม่นแต่เรื่องร้ายๆ และเขาบอกว่าหากเล่นไพ่ทาโร่ ไม่ควรดูไพ่เกินเดือนละครั้ง หากดูถี่ๆ ไพ่จะเป็นตัวกำหนดชีวิตเรา ซึ่งเขาก็ลองของ และก็เป็นความจริง(แต่เรื่องร้ายๆ)ไม่ว่าเจ็บเนื้อเจ็บตัว เสียเงินเสียทอง ฯลฯ หากพูดตามเรียนคำสอน ผมเชื่อว่าเกิดจากจิตชั่ว ที่สิงในสัญลักษณ์ของไพ่ จิตชั่วและซาตานมีอยู่จริง(แต่พระเป็นเจ้ามีอำนาจมากกว่าซาตาน)ดังนั้น เมื่อมนุษย์เปิดโอกาสให้มาร ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง(ทำนายไพ่ทาโร่ก็ทางหนึ่ง) โอกาสที่ถูกจิตชั่วครอบงำ จึงเป็นไปได้ ศาสนาโบราณ มีแต่ความน่ากลัวและคาวเลือดบูชายัญทั้งนั้น น่ากลัวจริงๆที่สิ่งเหล่านั้นยังทึ้งมรดกอาถัน ไว้บนความดำมืดของไพ่ทาโร่
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 05, 2006 7:46 pm
โดย P
เรื่องการบูชายัญเป็นเรื่องหนึ่งครับ ส่วนเรื่องไพ่ทาโร่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผมเห็นด้วยกับความเสี่ยงที่ไพ่ทาโร่จะพาคนออกจากพระเจ้า อันนี้เป็นความจริง และเป็นจริงกับทุกๆอย่างในโลก ไม่ว่าจะเป็นไพ่ทาโร่ ดูหมอดูดวง ไปจนถึงฟิสิกส์ เคมี ฯลฯ
เพียงแต่ไพ่ทาโร่แตกต่างจากฟิสิกส์ เคมี ฯลฯ ตรงที่หลายๆครั้งใช้การ invocation พลังจากเทพเจ้าองค์อื่นๆ ดังนั้นเป็นการละเมิดบัญญัติสิบประการอย่างเห็นได้ชัดกว่าวิชาการอื่นๆ เพราะเป็นการสวดขอเทพเจ้าองค์อื่นๆที่ไม่ใช่พระเจ้า
แต่สำหรับเรื่องการบูชายัญ ผมต้องขอชี้แจงว่า ไม่ควรมองว่าการบูชายัญเป็นอะไรหรือไม่เป็นอะไร ศาสนาคริสต์และยิวเอง มีรากฐานมาจากการบูชายัญเป็นหลัก โดยที่ศาสนายิวเป็นผู้บูชายัญสัตว์ ส่วนศาสนาคริสต์บูชายัญคน(จากมุมมองของคนนอกศาสนา) และบูชายัญพระเจ้า(จากมุมมองของคนในศาสนา) จริงๆแล้วพระเจ้าเองเคยบอกให้อับราฮัมเอาลูกชายตัวเองเป็นเครื่องบูชายัญด้วยซ้ำไป เพื่อที่จะเป็นเครื่องหมายว่า พระองค์เองก็จะส่งพระเยซูลงมาเป็นเครื่องบูชายัญ
ดังนั้น ต้องแยกแยะครับว่า การบูชายัญ ไม่ใช่ว่าจะดีหรือชั่วเสมอไป มันเป็นการง่ายที่จะบอกไปเลยว่า คนอื่นเอาสัตว์ไปบูชายัญเป็นเรื่องที่ผิดและไม่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะเราเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยว่า เค้าไม่ได้บูชายัญ"เพื่อพระเจ้าของเรา" แต่เพื่อเทพเจ้าอะไรก็ไม่ทราบ
ส่วนการเอาคนไปบูชายัญ อันนี้ผมเห็นด้วยว่าไม่ควรอย่างยิ่ง แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่า การบูชายัญโดยทั่วไปเป็นอะไรที่ผิด
ศาสนาคริสต์ มีรากฐานมาจากการบูชายัญครับ และหากไม่มีการบูชายัญโดยใช้พระเยซูเป็นลูกแกะ(สัตว์ที่ใช้ในการบูชายัญ) ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นคริสตศาสนาก็จะพังทลายลง
:)
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 05, 2006 9:17 pm
โดย P
สำหรับผู้สนใจอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบูชายัญ
Sacrifice -
http://www.newadvent.org/cathen/13309a.htm
Sacrifice of the Mass -
http://www.newadvent.org/cathen/10006a.htm
(เป็น catholic encyclopedia ครับ)
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 07, 2006 10:48 am
โดย Junior Boy
พูดถึงเรื่องแบบนี้ อยากรู้จังว่า คนที่ไม่เคยเเห็นผี แต่เขากลับเชื่อว่ามี และเกรงกลัว
และ เขาไม่เห็นพระเจ้า ทำไมไม่คิดว่าพระเจ้ามีจริงบ้างนะครับ งงจัง
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 07, 2006 12:14 pm
โดย Batholomew
Junior Boy เขียน:
พูดถึงเรื่องแบบนี้ อยากรู้จังว่า คนที่ไม่เคยเเห็นผี แต่เขากลับเชื่อว่ามี และเกรงกลัว
และ เขาไม่เห็นพระเจ้า ทำไมไม่คิดว่าพระเจ้ามีจริงบ้างนะครับ งงจัง
อาจจะเป็นเพราะใจเค้าไม่เปิดประตูต้อนรับพระองค์ไงครับ :(
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 07, 2006 7:09 pm
โดย P
ขอแย้งครับว่าผีกับพระเจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน
พระเจ้าไม่ใช่"ผีที่ยิ่งใหญ่" ดังนั้นคนเชื่อในผีไม่จำเป็นต้องเชื่อในพระเจ้าครับ
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 07, 2006 8:23 pm
โดย Holy
มันเป้นเพราะสื่อน่ะครับ
ลองคิดดูว่าในไทย มีรายการที่พยายามบอกว่าผีมีจริงกี่รายการ ดาราขยันมาเล่าประสบการณ์เจอผีในกองถ่าย จนกินเนสบุ๊คสามารถบันทึกได้เลยว่า อาชีพที่เจอผีบ่อยที่สุดในเมืองไทยคือ อาชีพดารา และดาราไทย เจอผีบ่อยยิ่งกว่าดาราชาติไหนในโลก แล้วลองเทียบดุว่า มีดารากี่คนที่มีโอกาสเล่าคำพยานที่พระเจ้าสัมผัสชีวิตเขาออกทีวี อย่างพี่ปุ๊อัญชลีอย่างเนี่ย ออกทีวีก็น้อยนับครั้งได้ แล้วมีกี่ครั้งที่พี่ปุ๊จะมีโอกาสพูดเรื่องพระเจ้าผ่านทีวีตรงๆ แล้วลองเทียบอัตราส่วนดู คนเล่าว่าพบพระเจ้า กับคนโม้ว่าเจอผีออกทีวี อัตราส่วนแทบจะ1/100
แล้วลองดุว่าปีๆนึงคนไทยสร้างหนังผีมาหลอกต้มเอาเงินคนกี่เรื่อง แต่เคยมีไม๊ที่จะมีคนสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับพระ เอาพระทางพุทธเองก็ได้ มีหลงมาเรื่องนึงดันเป็นหนังตลกไปซะอีก แล้วเมืองนอกเอง นอกจากเดอะแพชชั่นแล้ว มีหนังพระอีกกี่เรื่อง แล้วหนังผีล่ะ กี่ร้อยเรื่อง
มันหลอกหลอนคนกันแบบนี้มาหลายปีดีดัก คนก็ต้องงมงายมากกว่าจะเชื่อในสิ่งที่ดีงามอยู่แล้วล่ะครับ
2ทธ 4:3
จะถึงเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะไม่ต้องการฟังคำสอนที่ถูกต้อง แต่จะแสวงหาครูจำนวนมากมาอยู่ร่วมกัน เพื่อจะได้สอนสิ่งที่ตนอยากฟัง พวกเขาจะไม่ยอมฟังความจริง แต่จะเปลี่ยนไปฟังเทพนิยาย
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 07, 2006 8:58 pm
โดย Immanuel (MichaelPaul)
เหอๆ ก็ลองมีใครพูดเรื่องพระเจ้าออกโทรทัศน์สิ สงสัยคงมีคนออกมาเต้นผ่างๆวิจารณ์ใหญ่แน่ๆ
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 07, 2006 10:43 pm
โดย NKL
พลังแห่งชีวิต ถูกเล่นงานอย่างหนัก
แต่รายการผี ทำไมองค์กรศาสนาเหล่านั้นไม่ออกมาเล่นงานบ้าง ทั้งๆที่เป็นการแนะนำอวิชชา
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 07, 2006 11:19 pm
โดย Holy
NKL เขียน:
พลังแห่งชีวิต ถูกเล่นงานอย่างหนัก
เพราะอิจฉา
แต่รายการผี ทำไมองค์กรศาสนาเหล่านั้นไม่ออกมาเล่นงานบ้าง ทั้งๆที่เป็นการแนะนำอวิชชา
เพราะไม่อิจฉา
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 08, 2006 1:19 am
โดย Nihil
Holy เขียน:
NKL เขียน:
พลังแห่งชีวิต ถูกเล่นงานอย่างหนัก
เพราะอิจฉา
แต่รายการผี ทำไมองค์กรศาสนาเหล่านั้นไม่ออกมาเล่นงานบ้าง ทั้งๆที่เป็นการแนะนำอวิชชา
เพราะไม่อิจฉา
พี่ปอสรุปได้ชัดเจนมาก :-X
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 08, 2006 1:39 am
โดย Zion
Holy เขียน:
NKL เขียน:
พลังแห่งชีวิต ถูกเล่นงานอย่างหนัก
เพราะอิจฉา
แต่รายการผี ทำไมองค์กรศาสนาเหล่านั้นไม่ออกมาเล่นงานบ้าง ทั้งๆที่เป็นการแนะนำอวิชชา
เพราะ
ไม่อิจฉา
เพราะ
"รัก" *kis
"ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรัก
ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว
ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ "
1คร. 13:4-6
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 08, 2006 1:57 am
โดย Holy
Jo-Han เขียน:
Holy เขียน:
NKL เขียน:
พลังแห่งชีวิต ถูกเล่นงานอย่างหนัก
เพราะอิจฉา
แต่รายการผี ทำไมองค์กรศาสนาเหล่านั้นไม่ออกมาเล่นงานบ้าง ทั้งๆที่เป็นการแนะนำอวิชชา
เพราะ
ไม่อิจฉา
เพราะ
"รัก" *kis
"ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรัก
ไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว
ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ "
1คร. 13:4-6
จะบอกว่าพวกเขารักผีนั่นเอง
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 08, 2006 1:15 pm
โดย NKL
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 10, 2006 2:44 pm
โดย St.paul
NKL เขียน:
พลังแห่งชีวิต ถูกเล่นงานอย่างหนัก
แต่รายการผี ทำไมองค์กรศาสนาเหล่านั้นไม่ออกมาเล่นงานบ้าง ทั้งๆที่เป็นการแนะนำอวิชชา
เพราะยึดติดตัวเองเกินไปจนไม่รับอย่างอื่นจึงเอาแต่อวิชชาป็นเรื่องหลักซึ่งปัญญาอ่อนไปแล้วสำหรับคนไทยประเทศชาติถึงไม่เจริญอย่างคนนับถือวิชาไงครับ
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 10, 2006 8:31 pm
โดย Batholomew
S.PAULVS เขียน:
NKL เขียน:
พลังแห่งชีวิต ถูกเล่นงานอย่างหนัก
แต่รายการผี ทำไมองค์กรศาสนาเหล่านั้นไม่ออกมาเล่นงานบ้าง ทั้งๆที่เป็นการแนะนำอวิชชา
เพราะยึดติดตัวเองเกินไปจนไม่รับอย่างอื่นจึงเอาแต่อวิชชาป็นเรื่องหลักซึ่งปัญญาอ่อนไปแล้วสำหรับคนไทยประเทศชาติถึงไม่เจริญอย่างคนนับถือวิชาไงครับ
ผมว่าไม่เกี่ยวนะครับ
ผมไม่ได้เถียงหรือเข้าข้างนะครับ แต่ผมคิดว่าเค้าก็มีสิทธิในการเลือกที่จะเชื่อเหมือนกัน
ถ้าเชื่อแล้ว ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ไม่เป็นไรนี่ครับ
ปล.S.PAULVS พูดแรงจังเลย :-\
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 10, 2006 10:16 pm
โดย Joseph
เพราะความกลัวครับ คนเรามีพื่นฐานความกลัวอยู่แล้ว กลัวในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยไป กลัวในสิ่งที่ตัวเองมองไม่เห็น กลัวที่มืดๆ ถึงไม่มีผีมนุษย์ก็กลัวครับ ผีเป็นตัวจินตนาการถึงในที่มืด ถึงในสิ่งที่เรามองไม่เห็น เราจึงสมุดผีขึ้นมาในรูปแบบต่างๆ ได้ ส่วนในTV ก็เป็นครื่องมื่นที่ช่วยใหจินตนาการได้ด้วยวิธีหนึ่ง
เด็กๆ เล็กๆ เมื่อเห็นไม่กวาดรุงรังก็เกิดความกลัวไม้กวาดร้องไห้หาว่าไม้กวาดเป็นผี เด็กบางคนกลัวไม่ขนไก่ แล้วแต่การจินตนาการของเด็ก เด็กๆ ส่วนใหญ่มักจะกลัวสิงโตที่เขาแห่มาเพราะเสียงกลองบวกกับหัวสิงโตมันทำให้ดูน่ากลัวเหมือนผี เด็กๆ เล็กๆ เหล่านั้นไม่รู้หรอกครับว่า "ผี" ในความเชื่อของผู้ใหญ่ตชาวพุธหมายถึงวิญญาณคนที่ตายแล้ว แต่เด็กเล็กๆ ที่อายุไม่ถึง 5 ขวบ ถ้าเขาร้องว่า กลัวผี กลัวผี เขาอาจจินตนาการถึงสิ่งอื่นก็ได้
ดังนั้นเราจะเห็นว่ามนุษย์มีพื้นฐานความกลัวเป็นทุนอยู่แล้วต่อให้ผีมีหรือไม่มีเขาก็กลัวครับ ยิ่งคนไทยหรือคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า ถ้าเขากลัวสิ่งใดเขาก็ไม่กล้าลบหลู่ต่างกราบไหว้และยึดเป็นที่พึ่งทางใจ ถ้าพระองค์นั้นให้พรก็ยิ่งมีคนนับถือมากขึ้นนะครับ :)
ด้วยรักในพระคริสต์
Re:ทำไมคนส่วนใหญ่เวลาเจอปัญหามักเข้าหาศาสตร์มืดมากกว่าพระเจ้าล่ะครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 11, 2006 12:18 am
โดย KaL 's Z
พรุ่งเนี้ย เฟื่องว่าจไปดูดวง อ่ะค่ะ
มันผิดใช่ไหมคะ
แต่ถ้าดูไว้เฉยๆ ล่ะคะ ผิดมากไหม
ดูไป พอเป็นพิธี
แต่ไม่ถึงกับเชื่อนะคะ...