หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 4:29 am
โดย ????
พอดีผมเข้าไปอ่านใน pantip อะนะแล้วไปเจอกระทู้หนึ่งเข้า พอลองอ่านคห.ที่12 ผมจึงคิดว่าทำไม? อยากรู้จิงงะ ลองอ่าน คห.ที่12 งะ...... อยากให้เพื่อนๆตอบด่วนสงสัยงะ
http://www.pantip.com/cafe/religious/to ... 53418.html
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 6:35 am
โดย ???
คือผมเปนคนหนึ่งที่นับถือพระเจ้า แล้วพอดีผ่านไปอ่านเลยสงสัยเท่านั้นอะคับ จากคห.ที่12 13 ผมก็เลยสงสัยคับว่าถ้าเปนเช่นนั้นแล้ว จะอธิบายอย่างไร เพื่อหนุนใจเพื่อนๆที่มีความเหนแบบนั้นครับ ช่วยอธฺบายในกระทู้นี้ด้วย ขอบคุณยิ่ง
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 7:32 am
โดย Holy
น่าแปลกจริงๆที่ก่อนจะมานั่งพิมพ์นี้ ผมเพิ่งได้คุยกันเรื่องคนติงต๊อง เพราะที่โบสถ์ผมมีคนติ๊งต๊องประมาณ3คน ที่มาวัดทุกสัปดาห์ และพวกเขาน่ารักมาก รักพระเจ้าแบบซื่อๆ เวลาร้องเพลงก็ร้องเพลงเสียงดัง ดูเขาน่ารักและจริงใจ เราต่างพูดกันว่า เขาคือเทวดาที่พระเจ้าทรงส่งลงมา เราไม่ได้คิดแบบทางพุทธ ว่าเป็นเรื่องเวรกรรมของเขา ว่าเขาต้องทำชั่วช้าสามานมาตั้งแต่ชาติปางก่อนจึงต้องเกิดมาเป้นแบบนี้ แต่เราพูดว่า เขาคือพระพรพิเศษของพระเจ้า ท่ามกลางพวกเรา ที่สอนเราในความรักแบบเด็กๆ ที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ความโอ้อวดรู้มากทั้งที่ไม่รู้อะไรเลยแบบในความเห็นที่อ้างอิงมา และที่สำคัญเรารู้ว่าพระเจ้ารักพวกเขามาก นี่คือวิธีคิดที่พระเยซูเจ้าสอนเรา ให้มองโลกในแง่ดีเสมอ ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้ายไปหมด
ยน 9:1 พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนตาบอด
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินผ่านไป พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง บรรดาศิษย์ทูลถามพระองค์ว่า
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 7:03 pm
โดย Nihil
ความเห็นที่ 12 นั่นมัน..... เพื่อนเก่าผมนิหว่า นาย XXX นิมมานเหมินทร์
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 8:28 pm
โดย ~@Little lamb@~
งั้นก็ไปคุยกับเพื่อนเก่าเธอซะสิ
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 9:09 pm
โดย Tawan
อันที่จริงและณัฐเห็นด้วยกับพี่ Holy นะคะ ที่ว่าน่า
ที่โบสถ์ผมมีคนติ๊งต๊องประมาณ3คน ที่มาวัดทุกสัปดาห์ และพวกเขาน่ารักมาก รักพระเจ้าแบบซื่อๆ เวลาร้องเพลงก็ร้องเพลงเสียงดัง ดูเขาน่ารักและจริงใจ เราต่างพูดกันว่า เขาคือเทวดาที่พระเจ้าทรงส่งลงมา เขาคือพระพรพิเศษของพระเจ้า ท่ามกลางพวกเรา ที่สอนเราในความรักแบบเด็กๆ ที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ความโอ้อวดรู้มากทั้งที่ไม่รู้อะไรเลยแบบในความเห็นที่อ้างอิงมา และที่สำคัญเรารู้ว่าพระเจ้ารักพวกเขามาก นี่คือวิธีคิดที่พระเยซูเจ้าสอนเรา ให้มองโลกในแง่ดีเสมอ ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้ายไปหมด
คือที่โบสถ์ที่ณัฐไปร่วมมิสซาวันอาทิตย์ ก็มีคนที่สติไม่สมประกอบ (ไม่ได้หมายความว่าเป็นบ้านะคะแค่ไม่ได้ดีเหมือนเราธรรมดาแค่นั้น) อยู่ 1 คน ทุกเช้าวันอาทิตย์ณัฐจะเห็นเธอแต่งตัวสวยในแบบของเธอเพื่อมาร่วมมิสซา เธอมีความสุขอยู่ตลอดเวลา เห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉาในความสุขของเธอ เธอเป็นคนที่ฟังอะไรรู้เรื่องถ้าเราพูดด้วย แต่ก็ยากหน่อยที่เราจะฟังเธอรู้เรื่องเพราะเธอพูดไว และไม่ค่อยเป็นคำ แต่ก็เออออตามไป แต่ที่รู้ ๆ สิ่งที่เธอพูดมาก็แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ จริงใจ และไม่เสแสร้ง
เธอมีอายุมากพอที่จะเรียกว่าผู้อาวุโสได้ แต่ใจของเธอยังคนเหมือนเด็ก ๆ มีความรักที่บริสุทธิ์ เธอสวดสายประคำด้วยความศรัทธาในแบบฉบับของเธอเอง (ก็คือสวดเร็ว ๆ) เธอชอบหยอดเล่นกับคนในวัด แบบน่ารัก ๆ เธอชอบคุยกับณัฐ (ถึงแม้ว่าจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ แต่ณัฐก็จะชอบที่คุยกับเธอ) ตัวอย้างนี้อาจแสดงให้เราเห็นว่า เธอมีความสุขที่ได้รักพระเจ้า รักพระแม่ รักเพื่อนมนุษย์ อย่างมิได้เสแสร้ง ซึ่งอาจจะดีกว่าพวกคนสติดี ๆ บางคนก็ได้
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 04, 2006 11:21 pm
โดย Holy
Tawan เขียน:
อันที่จริงและณัฐเห็นด้วยกับพี่ Holy นะคะ ที่ว่าน่า
ที่โบสถ์ผมมีคนติ๊งต๊องประมาณ3คน ที่มาวัดทุกสัปดาห์ และพวกเขาน่ารักมาก รักพระเจ้าแบบซื่อๆ เวลาร้องเพลงก็ร้องเพลงเสียงดัง ดูเขาน่ารักและจริงใจ เราต่างพูดกันว่า เขาคือเทวดาที่พระเจ้าทรงส่งลงมา เขาคือพระพรพิเศษของพระเจ้า ท่ามกลางพวกเรา ที่สอนเราในความรักแบบเด็กๆ ที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ความโอ้อวดรู้มากทั้งที่ไม่รู้อะไรเลยแบบในความเห็นที่อ้างอิงมา และที่สำคัญเรารู้ว่าพระเจ้ารักพวกเขามาก นี่คือวิธีคิดที่พระเยซูเจ้าสอนเรา ให้มองโลกในแง่ดีเสมอ ไม่ใช่มองโลกในแง่ร้ายไปหมด
คือที่โบสถ์ที่ณัฐไปร่วมมิสซาวันอาทิตย์ ก็มีคนที่สติไม่สมประกอบ (ไม่ได้หมายความว่าเป็นบ้านะคะแค่ไม่ได้ดีเหมือนเราธรรมดาแค่นั้น) อยู่ 1 คน ทุกเช้าวันอาทิตย์ณัฐจะเห็นเธอแต่งตัวสวยในแบบของเธอเพื่อมาร่วมมิสซา เธอมีความสุขอยู่ตลอดเวลา เห็นแล้วก็รู้สึกอิจฉาในความสุขของเธอ เธอเป็นคนที่ฟังอะไรรู้เรื่องถ้าเราพูดด้วย แต่ก็ยากหน่อยที่เราจะฟังเธอรู้เรื่องเพราะเธอพูดไว และไม่ค่อยเป็นคำ แต่ก็เออออตามไป แต่ที่รู้ ๆ สิ่งที่เธอพูดมาก็แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ จริงใจ และไม่เสแสร้ง
เธอมีอายุมากพอที่จะเรียกว่าผู้อาวุโสได้ แต่ใจของเธอยังคนเหมือนเด็ก ๆ มีความรักที่บริสุทธิ์ เธอสวดสายประคำด้วยความศรัทธาในแบบฉบับของเธอเอง (ก็คือสวดเร็ว ๆ) เธอชอบหยอดเล่นกับคนในวัด แบบน่ารัก ๆ เธอชอบคุยกับณัฐ (ถึงแม้ว่าจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ แต่ณัฐก็จะชอบที่คุยกับเธอ) ตัวอย้างนี้อาจแสดงให้เราเห็นว่า เธอมีความสุขที่ได้รักพระเจ้า รักพระแม่ รักเพื่อนมนุษย์ อย่างมิได้เสแสร้ง ซึ่งอาจจะดีกว่าพวกคนสติดี ๆ บางคนก็ได้
ใช่ครับ มีอีกเคสนึง เป็นผู้ชายอายุน่าจะจะ30กว่าแล้ว ใส่แว่นตา และตาเขๆ แกจะร้องเพลงเสียงดัง และยิ้มกับทุกคน มีครั้งนึง แกวางกระเป๋าไว้ที่ๆนั่งในโบสถ์ แล้วไปที่อื่น พอกลับมามีคนมานั่งตรงนั้น แกก็ว่าแกเอากระเป๋าวางจองไว้ คนนั้นก็ไม่ยอมลุกหาว่าแกติงต๊อง แกตอบว่า "พระให้ผมติงต๊องผมก็ขอบคุณพระนะที่ให้ผมเป็นแบบนี้" ทำให้รู้ว่าตลอดชีวิตเขาคงเคยโดนคนด่าแบบนี้มาหลายหนแล้ว เขาจึงรู้ตัวว่าคนอื่นมองเขายังไง แต่ที่น่าทึ่งคือ เขามีคำตอบที่คนที่สติปัญญาดีกว่าและดูถูกเขาอาจไม่รู้จักคิดมาตอบเวลาตัวเองโดนคนอื่นด่าแบบเขา
คนเหล่านี้ ทำให้ผม มองเห็นพระฉายาลักษณ์พระเจ้าท่ามกลางเรา เห็นว่าสวรรค์จะมีคนแบบไหน ผมยอมอยู่กับคนแบบนี้ทั้งวัน ยังดีกว่าอยู่กับคนที่คอยแต่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่น คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่นดีกว่าคนอื่น เกิดมามีบุญกว่าคนอื่น ซึ่งถ้าอยู่กับคนแบบนั้นนานๆก็นรกบนดินไม่ปาน แต่คนพิการทางสมองเหล่านี้ คือคนที่ถ่อมตัว คิดว่าคนอื่นดีกว่าตัวเอง และทำให้คนรอบข้างได้สำนึกว่า พระเจ้าทรงรักเราและรักเขาอย่างเท่าเทียมกันในความหลากหลาย ในสายตามนุษย์ตัดสินคนอื่นว่าด้อยกว่าตัวเอง แต่ในสายพระเนตรพระเจ้า เขาคือคนที่สูงส่งกว่าใคร นี่คือความรักแท้ที่มนุษย์ไม่มีวันหยั่งถึงได้ด้วยสติปัญญา
1คร 1:27
แต่พระเจ้าทรงเลือกสรรคนโง่เขลาในสายตาของโลกเพื่อทำให้คนฉลาดต้องอับอาย พระเจ้าทรงเลือกสรรคนที่โลกถือว่าอ่อนแอเพื่อทำให้ผู้แข็งแรงต้องอับอาย และพระเจ้าทรงเลือกสรรสิ่งต่ำช้าน่าดูหมิ่นไร้คุณค่าในสายตาของชาวโลกเพื่อทำลายสิ่งที่โลกเห็นว่าสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อมิให้มนุษย์โอ้อวดเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าได้ เดชะพระองค์ ท่านจึงมีความเป็นอยู่ในพระคริสตเยซูผู้ที่พระเจ้าทรงตั้งให้เป็นปรีชาญาณสำหรับเรา ทั้งยังทรงเป็นผู้บันดาลความชอบธรรม ความศักดิ์สิทธิ์และการไถ่กู้อีกด้วย เพื่อให้เป็นไปตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 05, 2006 3:47 pm
โดย ????
ขอบคุณที่ช่วยไขข้อข้องใจคับ เวลาเพือนถามแบบนี้จะได้ตอบได้เสียที
ขอพระจเค้มครองคับ
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 05, 2006 5:01 pm
โดย Holy
ว่าแต่ดูคร่าวๆในกระทู้นั้น เลวร้ายจังนะครับ เขาตั้งกระทู้ถามว่าให้คนที่เชื่อเรื่องพระเจ้ามาตอบ แต่มีคนไม่เชื่อพระเจ้ามาเจือกด่าเต็มเลย :P
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 05, 2006 5:46 pm
โดย Nihil
~@Little lamb@~ เขียน:
งั้นก็ไปคุยกับเพื่อนเก่าเธอซะสิ
ยากครับ เค้าพุทธแบบสุดโต่ง ชอบศึกษาพระไตรปิฎกและธรรมะธรรมโม ชอบอิงเข้าหลักธรรมะพุทธที่เค้าถือว่าถูกที่สุด ใน blog เค้าหลาย ๆ ครั้ง มีเอาเนื้อหาพระไตรปิฎกมาพูดเป็นหน้า ๆ :-X
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 05, 2006 5:52 pm
โดย NKL
ผมว่าเหมือนเป็นคนที่ไม่ได้กินผลไม้ที่ทำให้ตาสว่าง ทำให้ตนมีความคิดแบบเด็กๆใสๆซื่อ ล่ะมั้งครับ
พระเจ้าปิดสมองที่ทำให้อวดดีทำบาปอยู่เรื่อยๆ และเปิดใจของพวกเขาแทนแน่เลยครับ
ในโลกแห่งความตึงเครียดและฉ้อฉล ก็น่าอิจฉาพวกเขานะครับ มีความสุขตลอดเวลา ไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องไหนเลย เห็นโลกสวยสดงดงามตลอด เข้าถึงพระเจ้าได้ง่าย แบบที่คนที่คิดว่าตนมีบุญบารมีสูงและปัญญาดี ไม่เข้าใจ
:D
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 05, 2006 6:24 pm
โดย :+: seraphim :+:
Holy เขียน:
ว่าแต่ดูคร่าวๆในกระทู้นั้น เลวร้ายจังนะครับ เขาตั้งกระทู้ถามว่าให้คนที่เชื่อเรื่องพระเจ้ามาตอบ แต่มีคนไม่เชื่อพระเจ้ามาเจือกด่าเต็มเลย :P
:-\
จะตั้งหรือไม่ตั้งก็ถูกด่าเป็นประจำอยู่แล้วนิ
Re:ช่วยตอบคห.ที่12ที
โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 05, 2006 8:12 pm
โดย Batholomew
:+: seraphim :+: เขียน:
Holy เขียน:
ว่าแต่ดูคร่าวๆในกระทู้นั้น เลวร้ายจังนะครับ เขาตั้งกระทู้ถามว่าให้คนที่เชื่อเรื่องพระเจ้ามาตอบ แต่มีคนไม่เชื่อพระเจ้ามาเจือกด่าเต็มเลย :P
:-\
จะตั้งหรือไม่ตั้งก็ถูกด่าเป็นประจำอยู่แล้วนิ
ถูกครับ เป็นประจำด้วย :P