ว่าด้วยการตกเป็นเครื่องมือโปรโมทหนัง
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 01, 2006 1:29 am
ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะงับ ซึ่งอาจะผิดก็ได้
เรค่อนข้างหงุดหงิดกับหนัง Davinci Code ประมาณนึงเหมือนกันงับ
แต่เรก็พบว่า มีหลายคนมากเลยที่ไม่ได้สนใจหนัง หรือ หนังสือเรื่องนี้เป็นพิเศษ
อย่างน้อยก็ไม่ได้สนใจจนกระทั่งมีคนพูดขึ้นมาว่า "อ่านหรือยัง / รู้หรือยังว่าหนังจะมา"
กลายเป็นว่า ยิ่งเราพยายามทำความเข้าใจ มันยิ่งกลายเป็นการเติมเชื้อไฟให้คนที่ตอนแรกไม่คิดจะดู
พอเห็นคนพูดถึงเลยสนใจไปดู
น่านนน ความพยายามของตู กลายเป็นว่าโปรโมทหนังให้มันอีก
ซึ่งเรค่อนข้างเข้าใจว่า หนังเรื่องนี้อาศัยกระแสแบบนี้แหละ ในการโปรโมท
ไม่ว่าจะเรื่องการขอถ่ายทำที่โบสถ์สำคัญๆ แล้วพอขอไม่ได้ก็มาออกข่าว
การฟ้องร้องแบบจัดฉาก การติดป้ายโฆษณาที่หน้าโบสถ์ และอื่นๆ
ก็เพื่อยั่วยุให้คริสตชนลุกขึ้นต่อต้าน แล้วก็กลายเป็นการโปรโมทหนังฟรีๆ
ฉลาดเนอะ แล้วก็ธรรมชาติของมนุษย์เรา ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เข้าทางมันเลยเนี่ย
เรว่าเราทำกำลังทำสงครามฝ่ายจิตวิญญาณอยู่นะเนี่ย
ยกตัวอย่างนะ เช่น เพลงดูม ดูม ของทาทา
ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอสว.ท่านหนึ่งออกมาด่าสาดเสียเทเสีย และสั่งให้แบนซะ
กลายเป็นว่า มันแพร่ไปทั้งอินเตอร์เน็ต และวีซีดีเพลงนี้ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
จนตอนหลังเค้าต้องเลิกแบนกันอ้ะ ถ้าสว.ท่านนี้ ทำเฉยๆไว้ เพลงนี้อาจจะไม่ดังขนาดนี้ก็ได้
(หลังๆนี่ เหมือนสว.ท่านนี้จะคิดได้แล้วว่า ตูไม่น่าตกเป็นเครื่องมือโปรโมท ก็เลยเงียบๆไปแล้ว)
หรืออย่างภาพยนต์เรื่อง เดอะ คิง แอนด์ ไอ ที่ชาวไทยพยายามต่อต้านว่าเป็นเรื่องโกหก
และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ของเราดูไม่ดีนั้น
มันก็อาศัยเรื่องที่ "ภาพยนต์เรื่องนี้ถูกแบนในประเทศไทย" ออกข่าวไปทั่วโลก
คนก็แห่กันมาดูว่า เรื่องมันเป็นยังไงเหรอ ที่ถูกห้ามฉายในประเทศไทย
ความพยายามของเราในการที่จะไม่ให้หนังเรื่องนี้ดัง กลายเป็นศูนย์เปล่า
เพราะเราตกเป็นเครื่องมือการโปรโมทหนังให้มันเสร็จสรรพ
เรว่ามันยาก และ เป็นการอดทนอย่างที่สุด ที่จะไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนงับ
แต่บางที การที่เราหาข้อมูลเตรียมไว้เยอะๆ แล้วใช้ตอบผู้ที่สนใจจะถามเรา
อาจจะดีกว่าที่เราจะรุกหรือเปล่า ยิ่งมากบอร์ด หรือ มากอีเมลที่พวกเราพยายามเอา
กระทู้เรื่อง Davinci Code ไปโพสยิ่งทำให้กระแสของหนังเรื่องนี้แรงมากขึ้น
เรรู้ว่าเพื่อนๆทุกคนที่นี่หงุดหงิด และพยายามชี้แจงเรื่องจริง แต่ยิ่งเราพยายามเอาไปโพสที่อื่นๆ
กลายเป็นคนที่ไม่ได้สนใจมาก่อน หันมาสนใจซะนี่
สิงที่เรอยากจะเห็นคือ หนังเรื่องนี้มีคนสนใจไปชมน้อยกว่าที่คิด
มากกว่าที่จะเป็นภาพของพวกเราไปยืนประท้วงหน้าโรงที่มีคนไปชมหนังกันแน่นขนัด
เรว่าเรจะหยุดพูดเรื่องนี้แล้วทำเป็นลืมๆไปซะ
จนกว่าจะมีคนถามขึ้นมา หรือ เราทราบว่าเพื่อนคนไหนไปดูมาแล้วก็ค่อยไปชี้แจง
แต่เรจะไม่พูดขึ้นมาก่อนแล้วอ่ะงับ โดยเฉพาะจะไม่พูดกับเพื่อนที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้
เพราะยิ่งเรพูดถึง เพื่อนมันยิ่งอยากไปดูกันอ้ะ
เพื่อนๆท่านอื่นคิดว่าไงงับ เราจะทำยังไงกันดีให้หนังเรื่องนี้ไม่ฮิตในเมืองไทยอ้ะงับ
ยิ่งเราต่อต้าน กลายเป็นมันยิ่งฮิตอ้ะ
เรค่อนข้างหงุดหงิดกับหนัง Davinci Code ประมาณนึงเหมือนกันงับ
แต่เรก็พบว่า มีหลายคนมากเลยที่ไม่ได้สนใจหนัง หรือ หนังสือเรื่องนี้เป็นพิเศษ
อย่างน้อยก็ไม่ได้สนใจจนกระทั่งมีคนพูดขึ้นมาว่า "อ่านหรือยัง / รู้หรือยังว่าหนังจะมา"
กลายเป็นว่า ยิ่งเราพยายามทำความเข้าใจ มันยิ่งกลายเป็นการเติมเชื้อไฟให้คนที่ตอนแรกไม่คิดจะดู
พอเห็นคนพูดถึงเลยสนใจไปดู
น่านนน ความพยายามของตู กลายเป็นว่าโปรโมทหนังให้มันอีก
ซึ่งเรค่อนข้างเข้าใจว่า หนังเรื่องนี้อาศัยกระแสแบบนี้แหละ ในการโปรโมท
ไม่ว่าจะเรื่องการขอถ่ายทำที่โบสถ์สำคัญๆ แล้วพอขอไม่ได้ก็มาออกข่าว
การฟ้องร้องแบบจัดฉาก การติดป้ายโฆษณาที่หน้าโบสถ์ และอื่นๆ
ก็เพื่อยั่วยุให้คริสตชนลุกขึ้นต่อต้าน แล้วก็กลายเป็นการโปรโมทหนังฟรีๆ
ฉลาดเนอะ แล้วก็ธรรมชาติของมนุษย์เรา ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เข้าทางมันเลยเนี่ย
เรว่าเราทำกำลังทำสงครามฝ่ายจิตวิญญาณอยู่นะเนี่ย
ยกตัวอย่างนะ เช่น เพลงดูม ดูม ของทาทา
ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอสว.ท่านหนึ่งออกมาด่าสาดเสียเทเสีย และสั่งให้แบนซะ
กลายเป็นว่า มันแพร่ไปทั้งอินเตอร์เน็ต และวีซีดีเพลงนี้ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
จนตอนหลังเค้าต้องเลิกแบนกันอ้ะ ถ้าสว.ท่านนี้ ทำเฉยๆไว้ เพลงนี้อาจจะไม่ดังขนาดนี้ก็ได้
(หลังๆนี่ เหมือนสว.ท่านนี้จะคิดได้แล้วว่า ตูไม่น่าตกเป็นเครื่องมือโปรโมท ก็เลยเงียบๆไปแล้ว)
หรืออย่างภาพยนต์เรื่อง เดอะ คิง แอนด์ ไอ ที่ชาวไทยพยายามต่อต้านว่าเป็นเรื่องโกหก
และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ของเราดูไม่ดีนั้น
มันก็อาศัยเรื่องที่ "ภาพยนต์เรื่องนี้ถูกแบนในประเทศไทย" ออกข่าวไปทั่วโลก
คนก็แห่กันมาดูว่า เรื่องมันเป็นยังไงเหรอ ที่ถูกห้ามฉายในประเทศไทย
ความพยายามของเราในการที่จะไม่ให้หนังเรื่องนี้ดัง กลายเป็นศูนย์เปล่า
เพราะเราตกเป็นเครื่องมือการโปรโมทหนังให้มันเสร็จสรรพ
เรว่ามันยาก และ เป็นการอดทนอย่างที่สุด ที่จะไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนงับ
แต่บางที การที่เราหาข้อมูลเตรียมไว้เยอะๆ แล้วใช้ตอบผู้ที่สนใจจะถามเรา
อาจจะดีกว่าที่เราจะรุกหรือเปล่า ยิ่งมากบอร์ด หรือ มากอีเมลที่พวกเราพยายามเอา
กระทู้เรื่อง Davinci Code ไปโพสยิ่งทำให้กระแสของหนังเรื่องนี้แรงมากขึ้น
เรรู้ว่าเพื่อนๆทุกคนที่นี่หงุดหงิด และพยายามชี้แจงเรื่องจริง แต่ยิ่งเราพยายามเอาไปโพสที่อื่นๆ
กลายเป็นคนที่ไม่ได้สนใจมาก่อน หันมาสนใจซะนี่
สิงที่เรอยากจะเห็นคือ หนังเรื่องนี้มีคนสนใจไปชมน้อยกว่าที่คิด
มากกว่าที่จะเป็นภาพของพวกเราไปยืนประท้วงหน้าโรงที่มีคนไปชมหนังกันแน่นขนัด
เรว่าเรจะหยุดพูดเรื่องนี้แล้วทำเป็นลืมๆไปซะ
จนกว่าจะมีคนถามขึ้นมา หรือ เราทราบว่าเพื่อนคนไหนไปดูมาแล้วก็ค่อยไปชี้แจง
แต่เรจะไม่พูดขึ้นมาก่อนแล้วอ่ะงับ โดยเฉพาะจะไม่พูดกับเพื่อนที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้
เพราะยิ่งเรพูดถึง เพื่อนมันยิ่งอยากไปดูกันอ้ะ
เพื่อนๆท่านอื่นคิดว่าไงงับ เราจะทำยังไงกันดีให้หนังเรื่องนี้ไม่ฮิตในเมืองไทยอ้ะงับ
ยิ่งเราต่อต้าน กลายเป็นมันยิ่งฮิตอ้ะ