+++ ปริศนา The Da Vinci Code ไขกระจ่างแล้วที่คานส์: นักวิจารณ์ชอบหรือไม่ชอบ +++
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 18, 2006 5:31 pm
ปริศนา The Da Vinci Code ไขกระจ่างแล้วที่คานส์: นักวิจารณ์ชอบหรือไม่ชอบ
เขียนโดย JEDIYUTH
พุธ, 17 พฤษภาคม 2006
ขณะที่มีข่าวการประท้วง The Da Vinci Code ทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทย หลายคนจับจ้องอยู่แต่ประเด็นความเหมาะสมเรื่องการแบนและเซ็นเซอร์หนังเรื่องนี้ นักวิเคราะห์ก็มั่นใจว่าจะเป็นหนังทำเงินสูงสุดเรื่องหนึ่ง จนหลายคนลืมปริศนาสำคัญนั่นก็คือเมื่อได้เข้าชมหนังเรื่องนี้จริงๆ แล้ว เสียงตอบรับจะฮือฮาเหมือนความเห็นที่ว่าไม่ควรแบนหนังไหม นี่จะเป็นหนังที่ทำได้สนุกเหมือนฉบับนิยายหรือไม่ หรือพวกเขาจะบอกว่าฉันไม่น่าไปเสียเวลาประท้วงเลย เราคงต้องรอดูเมื่อหนังออกฉายพรุ่งนี้ แต่นักวิจารณ์ที่ได้เข้าชม The Da Vinci Code ในการเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ที่คานส์เมื่อ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนจะได้ไขปริศนานี้ก่อนเราแล้วครับ
รายงานนี้ของผมเป็นการนำความเห็นและบทวิจารณ์ของนักวิจารณ์ชั้นนำมาปะติดปะต่อกัน และเมื่อต่อกันเสร็จก็พบภาพรวมว่านักวิจารณ์ไม่ค่อยชอบหนังเรื่องนี้ครับ
เริ่มจากบทความของเอพีที่ได้ไปสัมภาษณ์ความเห็นนักวิจารณ์หลังชมหนังเรื่องนี้ สตีเฟ่น สเชเฟอร์ จาก Boston Herald สับตรงๆว่า "ไม่มีอะไรใช้ได้เลยในหนังเรื่องนี้ ไม่ลึกลับ ไม่โรแมนติก ไม่สนุกเอาเลย" เป็นความเห็นที่รุนแรงไม่น้อย เขาเสริมอีกว่า "มันเหมือนเราต้องทนนั่งแช่อยู่ในนั้นนานเป็นชาติ แล้วเราก็ทำให้เราสงสัยว่ามันช่างลำบากขนาดไหนที่ทุกคนพยายามจะทำความเข้าใจกับสิ่งที่บางทีไม่อาจนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้"
บทความปิดท้ายว่า เมื่อเครดิตปิดท้ายขึ้นมามีเสียงเป่าปากและโห่นิดๆ และไม่มีเสียงปรบมือเลยทั้งที่หนังแย่ๆ บางเรื่องไปฉายที่คานส์ก็ยังได้รับ
คริส แครปส์ นักข่าวชาวเบลเยียมก็ดูจะสับแรงไม่ใช่เล่น เขาบอกกับ The Globe and Mail ว่า "มันเละไปหมด" เขาให้เหตุผลเหมือนหลายๆ คนที่ได้ชมว่าหนังไม่อาจสะท้อนความเขย่าขวัญจากนิยายต้นฉบับได้ "หนังสือทำให้ทุกคนรู้สึกฉลาด ทุกหน้า คุณจะพบปริศนาเล็กๆ และทำให้เราคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่ารู้ดี แน่นอนว่ากลไกหลักก็คือมันสมองน้อยๆ ที่ใช้ได้กับในนิยาย แต่ใช้ไม่ได้ในหนัง"
มาที่ความเห็นของนักวิจารณ์ชั้นนำของฮอลลีวู้ดบ้างครับ ท็อด แม็คคาร์ธี นักวิจารณ์ประจำวาไรตี้ เปิดบทความวิจารณ์หนังเรื่องนี้ของเขาว่า "นิยายขายดีทั่วโลกที่อ่านสนุกจนวางแทบไม่ลงได้จุติมาเป็น The Da Vinci Code ฉบับภาพยนตร์ที่ช่างน่าเบื่อและทื่ออย่างมาก...ผู้กำกับรอน เฮาเวิร์ด และนักเขียนบทอกีวา โกลด์แมน ได้สลัดเอาความสนุกจากต้นฉบับออกไปและเหลือให้คนดูที่คาดหวังไว้สูงก็แต่หนังที่แม้ไม่ถึงกับน่าเบื่อ แต่ก็ใกล้เคียง"
ขณะที่ความเห็นของนักวิจารณ์ที่ยังไม่เคยอ่านหนังสืออย่าง Joblo.Com ก็ให้คะแนนหนังเพียง 5/10 และบอกว่า "ที่จริงแล้ว มันเป็นหนังที่ผมอาจจะเดินหนีออกไปเมื่อฉายไปได้ครึ่งเรื่อง และยอมที่จะหลับระหว่างดูโดยไม่สนว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา"
คำแก้ต่างที่ดีที่สุดน่าจะมาจากอิกอร์ ซอกมานอฟ แห่ง ยูนิสตาร์ เรดิโอ ใน เบลารัส ก็แก้ต่างให้ว่าเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงที่ดีเรื่องหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้น่าจดจำ "บางที พรุ่งนี้ ผมคงลืมมันแล้ว แต่สำหรับสองชั่วโมงวันนี้ มันเป็นความบันเทิงที่ดีมาก...ในฐานะหนังฮอลลีวู้ด มันเป็นหนังที่ดีมากๆ"
แอน ธอมป์สัน คอลัมนิสต์ของ The Hollywood Reporter ไม่ได้ให้ความเห็นแก่ตัวหนัง แต่ให้ความเห็นผ่านบล็อกของเธอถึงความผิดพลาดที่นำหนังเรื่องนี้มาฉายในคานส์ เพราะหนังไม่น่าจะได้คำวิจารณ์ในแง่ดี "นี่เป็นกลุ่มคนดูที่มีการศึกษา มีความรู้ และพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อหนังไปในทางลบ"
และสำหรับผู้ที่อยากชมภาพบรรยากาศการเปิดตัว The Da Vinci Code นะครับ ไปดูกันได้ที่ Yahoo News มีภาพจากหลายสำนักให้ชมกันที่นั่น ผมมีแผนจะเขียนวิจารณ์หนังเรื่องนี้เช่นกัน และตั้งใจจะไปดูในวันพรุ่งนี้ ใครที่ได้ชมก่อนแล้วในวันนี้ ลองไปเสนอความเห็นที่เว็บบอร์ดได้ครับ
http://www.jediyuth.com/index.php?optio ... ew&id=1732
ตอนนี้ดูในมะเขือเทศเน่า ได้เน่าไป20ผล ได้สดไป5ผลครับ
http://www.rottentomatoes.com/m/da_vinci_code/
เขียนโดย JEDIYUTH
พุธ, 17 พฤษภาคม 2006
ขณะที่มีข่าวการประท้วง The Da Vinci Code ทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทย หลายคนจับจ้องอยู่แต่ประเด็นความเหมาะสมเรื่องการแบนและเซ็นเซอร์หนังเรื่องนี้ นักวิเคราะห์ก็มั่นใจว่าจะเป็นหนังทำเงินสูงสุดเรื่องหนึ่ง จนหลายคนลืมปริศนาสำคัญนั่นก็คือเมื่อได้เข้าชมหนังเรื่องนี้จริงๆ แล้ว เสียงตอบรับจะฮือฮาเหมือนความเห็นที่ว่าไม่ควรแบนหนังไหม นี่จะเป็นหนังที่ทำได้สนุกเหมือนฉบับนิยายหรือไม่ หรือพวกเขาจะบอกว่าฉันไม่น่าไปเสียเวลาประท้วงเลย เราคงต้องรอดูเมื่อหนังออกฉายพรุ่งนี้ แต่นักวิจารณ์ที่ได้เข้าชม The Da Vinci Code ในการเปิดฉายรอบปฐมทัศน์ที่คานส์เมื่อ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนจะได้ไขปริศนานี้ก่อนเราแล้วครับ
รายงานนี้ของผมเป็นการนำความเห็นและบทวิจารณ์ของนักวิจารณ์ชั้นนำมาปะติดปะต่อกัน และเมื่อต่อกันเสร็จก็พบภาพรวมว่านักวิจารณ์ไม่ค่อยชอบหนังเรื่องนี้ครับ
เริ่มจากบทความของเอพีที่ได้ไปสัมภาษณ์ความเห็นนักวิจารณ์หลังชมหนังเรื่องนี้ สตีเฟ่น สเชเฟอร์ จาก Boston Herald สับตรงๆว่า "ไม่มีอะไรใช้ได้เลยในหนังเรื่องนี้ ไม่ลึกลับ ไม่โรแมนติก ไม่สนุกเอาเลย" เป็นความเห็นที่รุนแรงไม่น้อย เขาเสริมอีกว่า "มันเหมือนเราต้องทนนั่งแช่อยู่ในนั้นนานเป็นชาติ แล้วเราก็ทำให้เราสงสัยว่ามันช่างลำบากขนาดไหนที่ทุกคนพยายามจะทำความเข้าใจกับสิ่งที่บางทีไม่อาจนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ได้"
บทความปิดท้ายว่า เมื่อเครดิตปิดท้ายขึ้นมามีเสียงเป่าปากและโห่นิดๆ และไม่มีเสียงปรบมือเลยทั้งที่หนังแย่ๆ บางเรื่องไปฉายที่คานส์ก็ยังได้รับ
คริส แครปส์ นักข่าวชาวเบลเยียมก็ดูจะสับแรงไม่ใช่เล่น เขาบอกกับ The Globe and Mail ว่า "มันเละไปหมด" เขาให้เหตุผลเหมือนหลายๆ คนที่ได้ชมว่าหนังไม่อาจสะท้อนความเขย่าขวัญจากนิยายต้นฉบับได้ "หนังสือทำให้ทุกคนรู้สึกฉลาด ทุกหน้า คุณจะพบปริศนาเล็กๆ และทำให้เราคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่ารู้ดี แน่นอนว่ากลไกหลักก็คือมันสมองน้อยๆ ที่ใช้ได้กับในนิยาย แต่ใช้ไม่ได้ในหนัง"
มาที่ความเห็นของนักวิจารณ์ชั้นนำของฮอลลีวู้ดบ้างครับ ท็อด แม็คคาร์ธี นักวิจารณ์ประจำวาไรตี้ เปิดบทความวิจารณ์หนังเรื่องนี้ของเขาว่า "นิยายขายดีทั่วโลกที่อ่านสนุกจนวางแทบไม่ลงได้จุติมาเป็น The Da Vinci Code ฉบับภาพยนตร์ที่ช่างน่าเบื่อและทื่ออย่างมาก...ผู้กำกับรอน เฮาเวิร์ด และนักเขียนบทอกีวา โกลด์แมน ได้สลัดเอาความสนุกจากต้นฉบับออกไปและเหลือให้คนดูที่คาดหวังไว้สูงก็แต่หนังที่แม้ไม่ถึงกับน่าเบื่อ แต่ก็ใกล้เคียง"
ขณะที่ความเห็นของนักวิจารณ์ที่ยังไม่เคยอ่านหนังสืออย่าง Joblo.Com ก็ให้คะแนนหนังเพียง 5/10 และบอกว่า "ที่จริงแล้ว มันเป็นหนังที่ผมอาจจะเดินหนีออกไปเมื่อฉายไปได้ครึ่งเรื่อง และยอมที่จะหลับระหว่างดูโดยไม่สนว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา"
คำแก้ต่างที่ดีที่สุดน่าจะมาจากอิกอร์ ซอกมานอฟ แห่ง ยูนิสตาร์ เรดิโอ ใน เบลารัส ก็แก้ต่างให้ว่าเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงที่ดีเรื่องหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้น่าจดจำ "บางที พรุ่งนี้ ผมคงลืมมันแล้ว แต่สำหรับสองชั่วโมงวันนี้ มันเป็นความบันเทิงที่ดีมาก...ในฐานะหนังฮอลลีวู้ด มันเป็นหนังที่ดีมากๆ"
แอน ธอมป์สัน คอลัมนิสต์ของ The Hollywood Reporter ไม่ได้ให้ความเห็นแก่ตัวหนัง แต่ให้ความเห็นผ่านบล็อกของเธอถึงความผิดพลาดที่นำหนังเรื่องนี้มาฉายในคานส์ เพราะหนังไม่น่าจะได้คำวิจารณ์ในแง่ดี "นี่เป็นกลุ่มคนดูที่มีการศึกษา มีความรู้ และพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อหนังไปในทางลบ"
และสำหรับผู้ที่อยากชมภาพบรรยากาศการเปิดตัว The Da Vinci Code นะครับ ไปดูกันได้ที่ Yahoo News มีภาพจากหลายสำนักให้ชมกันที่นั่น ผมมีแผนจะเขียนวิจารณ์หนังเรื่องนี้เช่นกัน และตั้งใจจะไปดูในวันพรุ่งนี้ ใครที่ได้ชมก่อนแล้วในวันนี้ ลองไปเสนอความเห็นที่เว็บบอร์ดได้ครับ
http://www.jediyuth.com/index.php?optio ... ew&id=1732
ตอนนี้ดูในมะเขือเทศเน่า ได้เน่าไป20ผล ได้สดไป5ผลครับ
http://www.rottentomatoes.com/m/da_vinci_code/