วันแห่งความชื่นชมยินดี
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 14, 2006 1:02 pm
สัปดาห์ก่อน เพชรบอกผมว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณพ่อคาร์เมไลท์จากสิงคโปร์จะมากรุงเทพฯ ผมก็เลยไป
ผมไปถึงก่อนเพชร นั่งคุยกับเซอร์เกี่ยวกับกระแสเรียกในชีวิตของผม เวลามีคนมากดกริ่ง ผมก็วิ่งไปเปิดประตู ก็มีคนมากดอยู่หลายกริ่ง กริ๊งงง กริ๊งงงง เป็นคนมาสวดบ้าง มาทำบุญบ้าง ฯลฯ
และแล้ว สักพักเพชรก็มา มากับคุณแม่และน้องสาว
ผมคิดว่าแม้ว่าแต่ก่อนที่ผมมาพบคุณพ่อคาร์เมไลท์ที่อารามนี้ จะไม่เคยเจอเพชรเลย เคยเจอแต่คนอื่น แต่วันนี้ก็ได้เจอแล้วที่อารามกรุงเทพฯนี้ และผมคิดว่า ก็คงมีแค่ผมกับเพชรเท่านั้นที่มาพบพ่อวันนี้ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ
แม้ผมจะรู้จัก"ชื่อ"ของเพชรนานแล้ว แต่ก็ไม่เคยเจอตัวจริงๆ และแม้ผมจะเพิ่งได้เจอและรู้จักกับตัวจริงๆของเพชร เท่าที่ได้เจอกันนั้น ผมก็รู้สึกได้ลึกๆว่า เพชรเหนื่อย และคิดว่าเพชรน่าจะได้มีโอกาสไปทำในสิ่งที่เป็นตัวเพชรมากกว่าที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ครับ
ผมได้คุยกับเพชรในเอ็มเอสเอ็นและเจอกันซึ่งๆหน้า ผมรู้สึกว่าเพชรเหนื่อย จริงๆ ทุกคนก็เหนื่อย ทำงานก็เหนื่อยกันทุกคน แต่ผมรู้สึกว่าเพชรเหนื่อยไม่เหมือนคนอื่น คือ คนอื่นเหนื่อยในหนทางที่เหมาะสมกับตัวของเขา แต่เพชรกลับมาเหนื่อยในหนทางที่ไม่น่าจะเหมาะกับตัวเพชรเอง หรืออย่างน้อยก็น่ามีหนทางที่เหมาะกว่านี้ ผมคิดว่าเพชรเหนื่อยกว่าที่ควรจะเป็น และน่าจะมีหนทางที่เหมาะกับเพชรมากกว่า คือการสมัครเป็นนักบวช เป็นต้นคณะคาร์เมไลท์
ผมคิดว่าเพชรน่าจะมีเหตุผลที่ยังประวิงเวลาไว้ โดยยังไม่เข้าคณะ แต่เมื่อได้ไปคุยกับคุณพ่อในวันนั้น เหมือนเพชรกล้าที่จะตัดสินใจ และความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้ว่าเพชรเหนื่อยนั้น ก็เปลี่ยนเป็นเหมือนกับว่าเพชรมีเรี่ยวมีแรง และที่สำคัญคือมีความหวังในชีวิตอย่างแรงกล้า ความห่อเหี่ยวมันเหมือนจะหายไปเลยล่ะครับ ดังนี้ผมจึงยินดีมากที่เพชรจะได้ไปทำในสิ่งที่เป็นตัวของเพชรเอง ผมเชื่อว่าคนเราถ้าได้ทำในสิ่งที่เป็นตัวของเขา เป็นกระแสเรียกของเขา แม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาด เขาก็จะทนได้ครับ
ผมว่าเพชรเหมาะกับการเป็นนักบวชคาร์เมไลท์ ก็เพราะ
1. เท่าที่ได้คุยกับเพชร ผมพบว่าเพชรสนใจเรื่องชีวิตจิตคริสตชน แต่ไม่ได้สนใจงานโรงเรียน เยาวชน โรงพยาบาล ซึ่งก็เหมาะสมแล้วที่จะเป็นนักบวชคาร์เมไลท์ครับ
2. เท่าที่ผมเห็นการเสนอความเห็นในบอร์ดนิวมานาของเพชรบ้าง ผมพบว่าเพชรมีจุดยืนที่แน่นอน และมีความสามารถในการแสดงความคิดเห็น ทั้งชี้แจงให้ผู้ที่ไม่รู้ได้รู้ และแถลงให้ผู้เข้าใจผิดได้เข้าใจให้ถูก เหมาะแก่งานอบรมเทศน์สอน
3. เท่าที่ผมได้รู้จักกับเพชร ผมพบว่าเพชรเป็นคนที่มีความเข้าใจในข้อคำสอนดี ไม่ได้รู้งูๆปลาๆ snake snake fish fish ไม่ได้เป็นคนสักแต่ว่าศรัทธา แต่เข้าใจในข้อพระธรรมคำสอนดีในระดับหนึ่งเลยครับ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นผู้ที่มีศรัทธาซึ่งเน้นการปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่คนที่ยึดทฤษฎีแบบศรัทธาประสาทะ ซึ่งคุณลักษณะเช่นนี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีของการเป็นนักบวช
4. เท่าที่ได้รู้จักกัน ผมพบว่า เพชรมีความเข้าใจในสภาวะความศรัทธาเชื่อถือของคนรุ่นเก่า และเข้าใจสภาวะความศรัทธาเชื่อถือของคนรุ่นใหม่ จึงเหมาะสมที่จะเป็นผู้ที่เป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างความเข้าใจของคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีของคนสองรุ่น และการประนีประนอมระหว่างข้อคำสอนและแนวปฏิบัติแบบเก่า กับ ข้อคำสอนและแนวปฏิบัติแบบใหม่
ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้มายกยอปอปั้นใคร เพราะผมไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ผมอยากมาให้กำลังใจเพชร ว่าที่ผมได้เคยพูดกับเพชร ให้กำลังใจไปนั้น ไม่ใช่เป็นการยกเมฆ หรือปั้นน้ำเป็นตัว ในลักษณะประจบแต่อย่างใดครับ ผมเห็นว่าเพชรเหมาะสมจริงๆ ดังเหตุผลที่ได้ยกไปแล้วนั้นครับ นอกจากนี้ ผมยังอยากให้สมาชิกนิวมานาทุกท่านร่วมให้กำลังใจเพชรด้วยครับ
เพชร เราคิดว่าพระเป็นเจ้าทรงเรียกเพชรไปเป็นนักบวชของพระองค์ เราเชื่อมั่นเช่นนี้จริงๆนะ แต่แน่นอน การล่อลวงก็ย่อมมีอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ อาจมาในรูปของ"การลังเลใจ" เป็นต้น แต่ขอให้เพชรเชื่อมั่น ว่า ถ้าพระองค์เรียกเพชรจริงแล้ว พระองค์จะประทานพละกำลังให้เพชรเอาชนะการผจญทั้งหลายได้ อย่าลังเล แต่จงเชื่อมั่น เมื่อคว้าคันไถแล้ว ก็ไถไปเลย อย่าได้เหลียวหลัง เพราะพระองค์ทรงเสริมกำลังอยู่ การเรียกนี้ เป็นพระองค์ทรงเรียก และเพชรก็ตอบสนอง ว่า ครับ ข้าพระองค์อยู่นี่ และติดตามพระองค์ไป ซึ่งเป็นไปด้วยอำเภอใจอันเป็นเสรีของตัวเพชรเอง และนั่นก็หมายความว่า พระองค์จะทรงตอบแทนเพชรร้อยเท่าพันเท่า ตามที่ทรงสัญญาไว้ เพราะพระองค์ทรงรักษาคำมั่นสัญญาเสมอนะ
พระเจ้าประทานพระพรมาให้ต่างๆกัน พระจิตมีองค์เดียว แต่พระพรมีต่างกัน เพชรมีพระพรอย่างที่เราได้ให้เหตุผลไปข้างต้นแล้ว นึกถึงคำอุปมาเรื่องเงินตาแลนท์ที่คนใช้คนที่สามเอาเงินไปฝังดิน ไม่มีอะไรงอกเงยขึ้นมาเลย ถ้าเราไม่ใช้พระพรของพระที่ประทานมาให้ พระจะเอาคืนนะ ฉะนั้น เพชรมั่นใจเถอะว่า เพชรมีพระพรในการเป็นนักบวชคาร์เมไลท์ ก็จงอย่าทำใจแข็งเลย เดินไปตามทางของการเป็นภราดาคาร์เมไลท์ เพชรจะได้ใช้พระพรที่พระให้มานี้ และถ้าเพชรใช้พระพรที่พระให้เพชรมานี้อย่างซื่อสัตย์ พระพรก็จะไม่ขาด และจะได้เพิ่มขึ้นอย่างอุดมไม่ขาดสาย มากจนเกินพอเลยแหละ เชื่อเราดิ
ทุกท่านครับ และเมื่อผมได้พบว่า เพชรได้เริ่มเดินบนทางแห่งพระพรของตนเองอีกครั้ง ผมจึงปลาบปลื้มและชื่นชมยินดีนั่นเองครับ
ผมไปถึงก่อนเพชร นั่งคุยกับเซอร์เกี่ยวกับกระแสเรียกในชีวิตของผม เวลามีคนมากดกริ่ง ผมก็วิ่งไปเปิดประตู ก็มีคนมากดอยู่หลายกริ่ง กริ๊งงง กริ๊งงงง เป็นคนมาสวดบ้าง มาทำบุญบ้าง ฯลฯ
และแล้ว สักพักเพชรก็มา มากับคุณแม่และน้องสาว
ผมคิดว่าแม้ว่าแต่ก่อนที่ผมมาพบคุณพ่อคาร์เมไลท์ที่อารามนี้ จะไม่เคยเจอเพชรเลย เคยเจอแต่คนอื่น แต่วันนี้ก็ได้เจอแล้วที่อารามกรุงเทพฯนี้ และผมคิดว่า ก็คงมีแค่ผมกับเพชรเท่านั้นที่มาพบพ่อวันนี้ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ
แม้ผมจะรู้จัก"ชื่อ"ของเพชรนานแล้ว แต่ก็ไม่เคยเจอตัวจริงๆ และแม้ผมจะเพิ่งได้เจอและรู้จักกับตัวจริงๆของเพชร เท่าที่ได้เจอกันนั้น ผมก็รู้สึกได้ลึกๆว่า เพชรเหนื่อย และคิดว่าเพชรน่าจะได้มีโอกาสไปทำในสิ่งที่เป็นตัวเพชรมากกว่าที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ครับ
ผมได้คุยกับเพชรในเอ็มเอสเอ็นและเจอกันซึ่งๆหน้า ผมรู้สึกว่าเพชรเหนื่อย จริงๆ ทุกคนก็เหนื่อย ทำงานก็เหนื่อยกันทุกคน แต่ผมรู้สึกว่าเพชรเหนื่อยไม่เหมือนคนอื่น คือ คนอื่นเหนื่อยในหนทางที่เหมาะสมกับตัวของเขา แต่เพชรกลับมาเหนื่อยในหนทางที่ไม่น่าจะเหมาะกับตัวเพชรเอง หรืออย่างน้อยก็น่ามีหนทางที่เหมาะกว่านี้ ผมคิดว่าเพชรเหนื่อยกว่าที่ควรจะเป็น และน่าจะมีหนทางที่เหมาะกับเพชรมากกว่า คือการสมัครเป็นนักบวช เป็นต้นคณะคาร์เมไลท์
ผมคิดว่าเพชรน่าจะมีเหตุผลที่ยังประวิงเวลาไว้ โดยยังไม่เข้าคณะ แต่เมื่อได้ไปคุยกับคุณพ่อในวันนั้น เหมือนเพชรกล้าที่จะตัดสินใจ และความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้ว่าเพชรเหนื่อยนั้น ก็เปลี่ยนเป็นเหมือนกับว่าเพชรมีเรี่ยวมีแรง และที่สำคัญคือมีความหวังในชีวิตอย่างแรงกล้า ความห่อเหี่ยวมันเหมือนจะหายไปเลยล่ะครับ ดังนี้ผมจึงยินดีมากที่เพชรจะได้ไปทำในสิ่งที่เป็นตัวของเพชรเอง ผมเชื่อว่าคนเราถ้าได้ทำในสิ่งที่เป็นตัวของเขา เป็นกระแสเรียกของเขา แม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาด เขาก็จะทนได้ครับ
ผมว่าเพชรเหมาะกับการเป็นนักบวชคาร์เมไลท์ ก็เพราะ
1. เท่าที่ได้คุยกับเพชร ผมพบว่าเพชรสนใจเรื่องชีวิตจิตคริสตชน แต่ไม่ได้สนใจงานโรงเรียน เยาวชน โรงพยาบาล ซึ่งก็เหมาะสมแล้วที่จะเป็นนักบวชคาร์เมไลท์ครับ
2. เท่าที่ผมเห็นการเสนอความเห็นในบอร์ดนิวมานาของเพชรบ้าง ผมพบว่าเพชรมีจุดยืนที่แน่นอน และมีความสามารถในการแสดงความคิดเห็น ทั้งชี้แจงให้ผู้ที่ไม่รู้ได้รู้ และแถลงให้ผู้เข้าใจผิดได้เข้าใจให้ถูก เหมาะแก่งานอบรมเทศน์สอน
3. เท่าที่ผมได้รู้จักกับเพชร ผมพบว่าเพชรเป็นคนที่มีความเข้าใจในข้อคำสอนดี ไม่ได้รู้งูๆปลาๆ snake snake fish fish ไม่ได้เป็นคนสักแต่ว่าศรัทธา แต่เข้าใจในข้อพระธรรมคำสอนดีในระดับหนึ่งเลยครับ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นผู้ที่มีศรัทธาซึ่งเน้นการปฏิบัติได้จริง ไม่ใช่คนที่ยึดทฤษฎีแบบศรัทธาประสาทะ ซึ่งคุณลักษณะเช่นนี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีของการเป็นนักบวช
4. เท่าที่ได้รู้จักกัน ผมพบว่า เพชรมีความเข้าใจในสภาวะความศรัทธาเชื่อถือของคนรุ่นเก่า และเข้าใจสภาวะความศรัทธาเชื่อถือของคนรุ่นใหม่ จึงเหมาะสมที่จะเป็นผู้ที่เป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างความเข้าใจของคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีของคนสองรุ่น และการประนีประนอมระหว่างข้อคำสอนและแนวปฏิบัติแบบเก่า กับ ข้อคำสอนและแนวปฏิบัติแบบใหม่
ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้มายกยอปอปั้นใคร เพราะผมไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ผมอยากมาให้กำลังใจเพชร ว่าที่ผมได้เคยพูดกับเพชร ให้กำลังใจไปนั้น ไม่ใช่เป็นการยกเมฆ หรือปั้นน้ำเป็นตัว ในลักษณะประจบแต่อย่างใดครับ ผมเห็นว่าเพชรเหมาะสมจริงๆ ดังเหตุผลที่ได้ยกไปแล้วนั้นครับ นอกจากนี้ ผมยังอยากให้สมาชิกนิวมานาทุกท่านร่วมให้กำลังใจเพชรด้วยครับ
เพชร เราคิดว่าพระเป็นเจ้าทรงเรียกเพชรไปเป็นนักบวชของพระองค์ เราเชื่อมั่นเช่นนี้จริงๆนะ แต่แน่นอน การล่อลวงก็ย่อมมีอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ อาจมาในรูปของ"การลังเลใจ" เป็นต้น แต่ขอให้เพชรเชื่อมั่น ว่า ถ้าพระองค์เรียกเพชรจริงแล้ว พระองค์จะประทานพละกำลังให้เพชรเอาชนะการผจญทั้งหลายได้ อย่าลังเล แต่จงเชื่อมั่น เมื่อคว้าคันไถแล้ว ก็ไถไปเลย อย่าได้เหลียวหลัง เพราะพระองค์ทรงเสริมกำลังอยู่ การเรียกนี้ เป็นพระองค์ทรงเรียก และเพชรก็ตอบสนอง ว่า ครับ ข้าพระองค์อยู่นี่ และติดตามพระองค์ไป ซึ่งเป็นไปด้วยอำเภอใจอันเป็นเสรีของตัวเพชรเอง และนั่นก็หมายความว่า พระองค์จะทรงตอบแทนเพชรร้อยเท่าพันเท่า ตามที่ทรงสัญญาไว้ เพราะพระองค์ทรงรักษาคำมั่นสัญญาเสมอนะ
พระเจ้าประทานพระพรมาให้ต่างๆกัน พระจิตมีองค์เดียว แต่พระพรมีต่างกัน เพชรมีพระพรอย่างที่เราได้ให้เหตุผลไปข้างต้นแล้ว นึกถึงคำอุปมาเรื่องเงินตาแลนท์ที่คนใช้คนที่สามเอาเงินไปฝังดิน ไม่มีอะไรงอกเงยขึ้นมาเลย ถ้าเราไม่ใช้พระพรของพระที่ประทานมาให้ พระจะเอาคืนนะ ฉะนั้น เพชรมั่นใจเถอะว่า เพชรมีพระพรในการเป็นนักบวชคาร์เมไลท์ ก็จงอย่าทำใจแข็งเลย เดินไปตามทางของการเป็นภราดาคาร์เมไลท์ เพชรจะได้ใช้พระพรที่พระให้มานี้ และถ้าเพชรใช้พระพรที่พระให้เพชรมานี้อย่างซื่อสัตย์ พระพรก็จะไม่ขาด และจะได้เพิ่มขึ้นอย่างอุดมไม่ขาดสาย มากจนเกินพอเลยแหละ เชื่อเราดิ
ทุกท่านครับ และเมื่อผมได้พบว่า เพชรได้เริ่มเดินบนทางแห่งพระพรของตนเองอีกครั้ง ผมจึงปลาบปลื้มและชื่นชมยินดีนั่นเองครับ