เมื่อผมไปเยี่ยมคริสตจักรโปรเตสแตนท์
ก่อนอื่นผมขอกล่าวขอบคุณคุณLittle Lambที่ได้แนะนำให้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ โดยเสนอให้ผมติดต่อกับน้องเอก Michael Paul ดังนั้นจึงได้ไปวัดเซนต์หลุยส์เมื่อวันอาทิตย์ต้นเดือนมิถุนายน ผมได้พบน้องเอกแล้วแป๊บนึงครับ น้องเอกคงมีธุระเลยรีบกลับไปก่อน แต่กระนั้นก็ขอบคุณพระเจ้าที่ได้โปรดให้ผมได้พบน้องเอกครับ
แต่ประเด็นที่ผมอยากพูดตรงนี้ก็คือ ก่อนที่ผมจะได้ไปวัดเซนต์หลุยส์นั้น ผมได้ไปเยี่ยมคริสตจักรโปรเตสแตนท์แห่งหนึ่งแถวสาธร ซึ่งผมเองได้ตั้งใจจะไปเยี่ยมนานแล้วครับ
บรรยากาศที่นั่นดีมากและชวนให้ประทับใจ เพราะภายในตกแต่งสวย ดูดี งดงาม แต่ก็ดูเรียบง่าย และศาสนิกชนที่นั่นมีศรัทธาร้อนรนดีมาก ร้องเพลงกันดังน่าประทับใจ นอกจากนี้แล้ว ตอนเทศนา ยังมีคนจดคำเทศนาด้วยนะครับ และส่วนมากพกพระคัมภีร์ติดตัวมาด้วยเกือบทุกคนเลยครับ
ผมไปที่นั่นด้วยจิตสำนึกของ"เอกภาพ"ในพระเจ้าองค์เดียวครับ ผมได้บอกบางคนว่าผมดีใจที่ได้มาที่นี่ เพราะเราเป็นบุตรของพระเจ้าองค์เดียว ผมเห็นความสำคัญของเอกภาพมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกภาพระหว่างนิกาย ผมเห็นว่าเราทะเลาะกันมามากแล้วในอดีต ศาสนาไม่สมควรเป็นเหตุแห่งการวิวาท เพราะนั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของศาสนา ศาสนาควรส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ควรส่งเสริมสันติภาพ ฉะนั้น ผมคิดว่าปัจจุบันควรเป็นยุคที่เราน่าจะหันหน้าเข้าหากัน แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง อะไรที่ต่าง ก็ให้มองว่าต่าง แล้วก็เข้าใจไว้ตรงนั้นว่าต่างกันอย่างไรเพื่อให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันและกัน แต่ควรมองให้มากยิ่งขึ้นว่า เรามีอะไรเหมือนกันมากกว่า ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างเอกภาพ และมีทิศทางในการกระทำกิจการต่างๆร่วมกันได้
ในตอนที่ผมเป็นเด็ก เด็กวัยรุ่นชอบใส่เสื้อเชิ้ตปล่อยชาย เป็นอย่างนี้ทั้งชายและหญิง แต่เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็จะใส่เสื้อรัดๆ ผู้หญิงก็รัดไม่พอ แถมต้องกางเกงเอวต่ำอีกต่างหาก ใครไม่แต่งแบบนี้ อาจโดนมองเป็นคนที่เชย ล้าสมัย ไม่อินเทรนด์ สำหรับผมแล้ว คริสตชนที่ถือเขาถือเราระหว่างนิกายนั้น ในยุคปัจจุบันนี้ ถือเป็นคนที่เชย ล้าสมัย ตกยุค และไม่อินเทรนด์ครับ ถ้าอยากจะอินเทรนด์ในทางศาสนาก็ต้องมาสมานสามัคคี หาแนวทางเพื่อความสมานฉันท์ระหว่างนิกาย อย่างนี้ถึงจะถือได้ว่าเป็นคริสตชนนำสมัย ตามติดทันกระแส"แฟชั่น"ทางศาสนา อิ อิ นี่เป็นจุดยืนของผม พี่น้องโปรเตสแตนท์บางท่านก็ยังประทับใจและสนใจแนวคิดเช่นนี้นะครับ ขอบคุณพระเจ้าครับ
วันที่ผมไปนั้น ศาสนาจารย์ซึ่งเป็นผู้หญิงได้เทศน์เรื่อง"พระคริสตเจ้าทรงเป็นประตู" ในอีกมิติหนึ่ง ท่านว่า พระคริสตเจ้าตรัสว่า ผู้ที่ไม่ได้ผ่านประตู ก็เป็นขโมย ท่านศาสนาจารย์ให้ข้อคิดว่า ในการที่เราจะเข้าไปหาแกะของพระคริสตเจ้าในคอก ถ้าเราไม่ได้ผ่านพระองค์ เราก็เป็นเหมือนขโมย เพราะพระองค์ทรงเป็นประตู ไม่มีประตูอื่น นอกจากพระองค์ ถ้าไม่ผ่านพระองค์ จะเข้าไปหาแกะได้อย่างไร ปีนหรือ กระโดดข้ามหรือ ก็ล้วนเป็นพฤติกรรมของขโมยทั้งสิ้น ต้องผ่านทางพระองค์ซึ่งทรงเป็นประตูเท่านั้น การผ่านพระองค์ซึ่งทรงเป็นประตูไปสู่ลูกแกะนั้น หมายถึง พระคริสตเจ้าทรงเป็นองค์ความรัก เราต้องผ่านความรักไปสู่ผู้อื่น ความรักนั้นก็ไปควบคู่กับการให้อภัยด้วย ถ้าปากบอกว่ารัก แต่ไม่ให้อภัย อภัยไม่เป็น อันนี้ก็ไม่ใช่ความรัก ท่านยกตัวอย่างพวกฟาริสี พวกนี้ไม่ได้ไปหาลูกแกะในคอก (เพื่อนมนุษย์คนอื่น) ด้วยความรัก (ไม่ได้ผ่านพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นเสมือนประตู) แต่พวกเขาไปหาคนอื่นเพื่อจับผิด วางกฎเกณฑ์ที่เป็นเหมือนแอกให้คนอื่นแบกไว้บนบ่า จากพฤติกรรม จะเห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้ผ่านไปทางประตู เพราะไม่ได้ไปทาง"ความรัก" ดังนั้นพวกเขาก็เป็นขโมย
ทุกท่านครับ จากคำเทศนาของท่านศาสนาจารย์ข้างต้น ผมก็นำมารำพึง และผมก็อยากเชิญชวนพวกเรามามองตัวเราเองสิครับว่า เราทำตัวเป็นขโมยบ้างไหม บ่อยไหม กี่ครั้งที่เราได้ไปหาแกะในคอกของพระคริสตเจ้า โดยผ่านทางพระองค์ซึ่งทรงเป็นประตู
เราเคยโกรธคนอื่นโดย"ไม่ยอม"ให้อภัยไหมครับ
เราเคยนินทาว่าร้าย ใส่ความคนอื่นอย่างไร้ความยุติธรรมบ้างไหมครับ
เราเคยทำร้ายคนอื่นให้เจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นทางกาย หรือทางใจ บ้างไหมครับ
ฯลฯ
พฤติกรรมข้างต้นนี้ เป็นพฤติกรรมของ"ขโมย"
ผมคิดว่าก็อาจเป็นไปได้นะครับที่เราบางคนอาจบอกว่า ผ่านความรักไปช่างยากเหลือเกิน ให้อภัยคนนั้นคนนี้ลำบากมากเลย ในความคิดของผมแล้ว นั่นก็เหมือนกับจะ"อ้าง"ว่า ประตูล็อก หรือประตูฝืด เปิดลำบาก ปีนรั้ว หรือแม้แต่กระโดดค้ำถ่อเข้าไปดีกว่า ง่ายดี เร็วดีด้วย ไม่ต้องออกแรงมาก "หรือเปล่าครับ"
แต่ผมเห็นว่าถ้าเราตัดสินใจเป็นศิษย์ติดตามพระคริสตเจ้าแล้ว ก็หมายความว่า เมื่อเราต้องไปหาแกะของพระองค์ ( ติดต่อสัมพันธ์กับพี่น้องคนอื่น) เราต้องเข้าทางประตูเท่านั้น ปีนรั้วไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่ผิดอะไรกับขโมย ผมอยากย้ำว่า แม้ประตูจะฝืด ต้องออกแรงมากแค่ไหน ก็ต้องเข้าทางประตู จริงๆในทัศนะของผมแล้ว ประตูไม่ฝึดหรอกครับ ประตูเปิดง่ายออก เปิดง่ายด้วย ถ้าท่านยอมเปิดและเปิดเป็น
ข้างต้นทั้งหมด เป็นข้อคิด (homily) และข้อรำพึงของผมที่ผมได้มาจากคริสตจักรโปรเตสแตนท์ที่ผมไปเยี่ยมเยียน ผมจะไม่หยุดงานสานสัมพันธ์ ผมจะทำต่อไปครับ
ขอบพระคุณพระเป็นเจ้าสำหรับโอกาสอันดีในงานคริสตศาสนสัมพันธ์ระหว่างนิกายที่ประทานให้ผมครับ
แต่ประเด็นที่ผมอยากพูดตรงนี้ก็คือ ก่อนที่ผมจะได้ไปวัดเซนต์หลุยส์นั้น ผมได้ไปเยี่ยมคริสตจักรโปรเตสแตนท์แห่งหนึ่งแถวสาธร ซึ่งผมเองได้ตั้งใจจะไปเยี่ยมนานแล้วครับ
บรรยากาศที่นั่นดีมากและชวนให้ประทับใจ เพราะภายในตกแต่งสวย ดูดี งดงาม แต่ก็ดูเรียบง่าย และศาสนิกชนที่นั่นมีศรัทธาร้อนรนดีมาก ร้องเพลงกันดังน่าประทับใจ นอกจากนี้แล้ว ตอนเทศนา ยังมีคนจดคำเทศนาด้วยนะครับ และส่วนมากพกพระคัมภีร์ติดตัวมาด้วยเกือบทุกคนเลยครับ
ผมไปที่นั่นด้วยจิตสำนึกของ"เอกภาพ"ในพระเจ้าองค์เดียวครับ ผมได้บอกบางคนว่าผมดีใจที่ได้มาที่นี่ เพราะเราเป็นบุตรของพระเจ้าองค์เดียว ผมเห็นความสำคัญของเอกภาพมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกภาพระหว่างนิกาย ผมเห็นว่าเราทะเลาะกันมามากแล้วในอดีต ศาสนาไม่สมควรเป็นเหตุแห่งการวิวาท เพราะนั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของศาสนา ศาสนาควรส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างกัน ควรส่งเสริมสันติภาพ ฉะนั้น ผมคิดว่าปัจจุบันควรเป็นยุคที่เราน่าจะหันหน้าเข้าหากัน แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง อะไรที่ต่าง ก็ให้มองว่าต่าง แล้วก็เข้าใจไว้ตรงนั้นว่าต่างกันอย่างไรเพื่อให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันและกัน แต่ควรมองให้มากยิ่งขึ้นว่า เรามีอะไรเหมือนกันมากกว่า ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างเอกภาพ และมีทิศทางในการกระทำกิจการต่างๆร่วมกันได้
ในตอนที่ผมเป็นเด็ก เด็กวัยรุ่นชอบใส่เสื้อเชิ้ตปล่อยชาย เป็นอย่างนี้ทั้งชายและหญิง แต่เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็จะใส่เสื้อรัดๆ ผู้หญิงก็รัดไม่พอ แถมต้องกางเกงเอวต่ำอีกต่างหาก ใครไม่แต่งแบบนี้ อาจโดนมองเป็นคนที่เชย ล้าสมัย ไม่อินเทรนด์ สำหรับผมแล้ว คริสตชนที่ถือเขาถือเราระหว่างนิกายนั้น ในยุคปัจจุบันนี้ ถือเป็นคนที่เชย ล้าสมัย ตกยุค และไม่อินเทรนด์ครับ ถ้าอยากจะอินเทรนด์ในทางศาสนาก็ต้องมาสมานสามัคคี หาแนวทางเพื่อความสมานฉันท์ระหว่างนิกาย อย่างนี้ถึงจะถือได้ว่าเป็นคริสตชนนำสมัย ตามติดทันกระแส"แฟชั่น"ทางศาสนา อิ อิ นี่เป็นจุดยืนของผม พี่น้องโปรเตสแตนท์บางท่านก็ยังประทับใจและสนใจแนวคิดเช่นนี้นะครับ ขอบคุณพระเจ้าครับ
วันที่ผมไปนั้น ศาสนาจารย์ซึ่งเป็นผู้หญิงได้เทศน์เรื่อง"พระคริสตเจ้าทรงเป็นประตู" ในอีกมิติหนึ่ง ท่านว่า พระคริสตเจ้าตรัสว่า ผู้ที่ไม่ได้ผ่านประตู ก็เป็นขโมย ท่านศาสนาจารย์ให้ข้อคิดว่า ในการที่เราจะเข้าไปหาแกะของพระคริสตเจ้าในคอก ถ้าเราไม่ได้ผ่านพระองค์ เราก็เป็นเหมือนขโมย เพราะพระองค์ทรงเป็นประตู ไม่มีประตูอื่น นอกจากพระองค์ ถ้าไม่ผ่านพระองค์ จะเข้าไปหาแกะได้อย่างไร ปีนหรือ กระโดดข้ามหรือ ก็ล้วนเป็นพฤติกรรมของขโมยทั้งสิ้น ต้องผ่านทางพระองค์ซึ่งทรงเป็นประตูเท่านั้น การผ่านพระองค์ซึ่งทรงเป็นประตูไปสู่ลูกแกะนั้น หมายถึง พระคริสตเจ้าทรงเป็นองค์ความรัก เราต้องผ่านความรักไปสู่ผู้อื่น ความรักนั้นก็ไปควบคู่กับการให้อภัยด้วย ถ้าปากบอกว่ารัก แต่ไม่ให้อภัย อภัยไม่เป็น อันนี้ก็ไม่ใช่ความรัก ท่านยกตัวอย่างพวกฟาริสี พวกนี้ไม่ได้ไปหาลูกแกะในคอก (เพื่อนมนุษย์คนอื่น) ด้วยความรัก (ไม่ได้ผ่านพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นเสมือนประตู) แต่พวกเขาไปหาคนอื่นเพื่อจับผิด วางกฎเกณฑ์ที่เป็นเหมือนแอกให้คนอื่นแบกไว้บนบ่า จากพฤติกรรม จะเห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้ผ่านไปทางประตู เพราะไม่ได้ไปทาง"ความรัก" ดังนั้นพวกเขาก็เป็นขโมย
ทุกท่านครับ จากคำเทศนาของท่านศาสนาจารย์ข้างต้น ผมก็นำมารำพึง และผมก็อยากเชิญชวนพวกเรามามองตัวเราเองสิครับว่า เราทำตัวเป็นขโมยบ้างไหม บ่อยไหม กี่ครั้งที่เราได้ไปหาแกะในคอกของพระคริสตเจ้า โดยผ่านทางพระองค์ซึ่งทรงเป็นประตู
เราเคยโกรธคนอื่นโดย"ไม่ยอม"ให้อภัยไหมครับ
เราเคยนินทาว่าร้าย ใส่ความคนอื่นอย่างไร้ความยุติธรรมบ้างไหมครับ
เราเคยทำร้ายคนอื่นให้เจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นทางกาย หรือทางใจ บ้างไหมครับ
ฯลฯ
พฤติกรรมข้างต้นนี้ เป็นพฤติกรรมของ"ขโมย"
ผมคิดว่าก็อาจเป็นไปได้นะครับที่เราบางคนอาจบอกว่า ผ่านความรักไปช่างยากเหลือเกิน ให้อภัยคนนั้นคนนี้ลำบากมากเลย ในความคิดของผมแล้ว นั่นก็เหมือนกับจะ"อ้าง"ว่า ประตูล็อก หรือประตูฝืด เปิดลำบาก ปีนรั้ว หรือแม้แต่กระโดดค้ำถ่อเข้าไปดีกว่า ง่ายดี เร็วดีด้วย ไม่ต้องออกแรงมาก "หรือเปล่าครับ"
แต่ผมเห็นว่าถ้าเราตัดสินใจเป็นศิษย์ติดตามพระคริสตเจ้าแล้ว ก็หมายความว่า เมื่อเราต้องไปหาแกะของพระองค์ ( ติดต่อสัมพันธ์กับพี่น้องคนอื่น) เราต้องเข้าทางประตูเท่านั้น ปีนรั้วไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่ผิดอะไรกับขโมย ผมอยากย้ำว่า แม้ประตูจะฝืด ต้องออกแรงมากแค่ไหน ก็ต้องเข้าทางประตู จริงๆในทัศนะของผมแล้ว ประตูไม่ฝึดหรอกครับ ประตูเปิดง่ายออก เปิดง่ายด้วย ถ้าท่านยอมเปิดและเปิดเป็น
ข้างต้นทั้งหมด เป็นข้อคิด (homily) และข้อรำพึงของผมที่ผมได้มาจากคริสตจักรโปรเตสแตนท์ที่ผมไปเยี่ยมเยียน ผมจะไม่หยุดงานสานสัมพันธ์ ผมจะทำต่อไปครับ
ขอบพระคุณพระเป็นเจ้าสำหรับโอกาสอันดีในงานคริสตศาสนสัมพันธ์ระหว่างนิกายที่ประทานให้ผมครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มิ.ย. 14, 2006 1:48 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
แวะมาคริสตจักรวัฒนาวันไหนก็บอกนะคะ จะเตรียมข้าวสารอาหารแห้ง เอ๊ย ขนมอร่อยๆไว้ต้อนรับ
พี่โจเซฟเล่าให้ฟังถึงกิตติศัพท์ของคริสตจักรดังย่านคลองเตยแล้ว น่ากลัวมาก ๆ ถ้าจะไปคงต้องขอยืมชุดและบัตรจากพี่โจก่อนมั้งครับ
ฝรั่งนักท่องเที่ยว เยอรมัน มาเข้ามิซซาวัดเซนต์หลุยส์
ด้วยความแจ๋นอยากเทคแคร์ ยูชอบวัดเซนต์หลุยส์มั๊ย
โอ๊วว ไอชอบ เพลงเพราะดี บรรยากาศดีมาก แอร์เย็นดี
คุยไปคุยมา ไอเป็นโปรแตสแตนต์ แง๊วว ไอไม่แคร์ ไอไม่ได้รับศีล
ไอมาหา GOD ซึ๊งงงงงงงงงง :D
ด้วยความแจ๋นอยากเทคแคร์ ยูชอบวัดเซนต์หลุยส์มั๊ย
โอ๊วว ไอชอบ เพลงเพราะดี บรรยากาศดีมาก แอร์เย็นดี
คุยไปคุยมา ไอเป็นโปรแตสแตนต์ แง๊วว ไอไม่แคร์ ไอไม่ได้รับศีล
ไอมาหา GOD ซึ๊งงงงงงงงงง :D
รบกวนคุณโฮลี่ช่วยชี้แนะด้วยสิครับ คือผมไม่เข้าใจน่ะHoly เขียน: ลองไปแถวคลองเตย แล้วกลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ :D
พระเยซูเจ้าคือประตู คนถือกุญแจคือนักบุญเปโตร แม่พระเป็นหน้าต่าง พระบิดาเป็นเจ้าของบ้าน ชาวสวรรค์และทูตสวรรค์เป็นสมาชิก เราเป็นแกะ แล้วพระจิตเป็นอะไรครับ
1. ที่คลองเตยมีอะไรเหรอครับ ทำไมแนะนำให้ผมไป ไปแล้วจะมีอะไรมาเล่าครับ :D
2. พระจิตเป็นอะไรเหรอครับ อยากทราบเหมือนกันครับ :D
ขอบคุณครับ :)
คริสตจักรที่คลองเตยก็คือคริสตจักรโฮพเลสไงครับ ที่พี่โจเซฟเคยอยู่
ของแบบนี้ต้องลองเองครับ ไหนๆคุณก็จะทัวร์อยู่แล้ว ไปแบบซื่อๆเลยดีกว่าอย่ารู้อะไรก่อนเลยครับ :DFat Shepherd เขียน:นั่นสิ แล้วทำไมคุณโฮลี่แนะนำให้เราไปล่ะ เพชร สงสัยต้องรอคุณโฮลี่มาช่วยตอบแล้วAndreas เขียน: คริสตจักรที่คลองเตยก็คือคริสตจักรโฮพเลสไงครับ ที่พี่โจเซฟเคยอยู่
-
- โพสต์: 100
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 18, 2005 12:25 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพ
คุณ Fat Shephard ครับ
พระจิค=พระวิญญาณบริสุทธิ์ 1 ในพระตรีเอกานุภาพครับ คริสตังเรียกว่าพระจิต
ใครว่างๆ อยู่แถวๆ สุขุมวิท เชิญคริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ อ่อนนุช 24 (สุขุมวิท 77) นะครับ (โบสถ์เก่าผมเอง..)
คำเทศนาน่าจะซึ้งและดีเยี่ยมเหมือนกันครับ..
แต่ถ้าจะให้เยี่ยม
ต้องให้พี่พีพีเทศน์ครับ.. รับรอง แจ่มกว่าเป็นไหนๆ อิอิ
:-)
(เนื้อที่โฆษณา)
พระจิค=พระวิญญาณบริสุทธิ์ 1 ในพระตรีเอกานุภาพครับ คริสตังเรียกว่าพระจิต
ใครว่างๆ อยู่แถวๆ สุขุมวิท เชิญคริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ อ่อนนุช 24 (สุขุมวิท 77) นะครับ (โบสถ์เก่าผมเอง..)
คำเทศนาน่าจะซึ้งและดีเยี่ยมเหมือนกันครับ..
แต่ถ้าจะให้เยี่ยม
ต้องให้พี่พีพีเทศน์ครับ.. รับรอง แจ่มกว่าเป็นไหนๆ อิอิ
:-)
(เนื้อที่โฆษณา)
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
คุณ Fat Shepherd ใช่คนที่ผมเจออยุ่กะแทงค์ป่ะครับที่ผมคุยเรื่องบวชใช่มะครับ
ปล. ลองไปคริสตจักรความหวังกรุงเทพดูครับ ^^ ไปแบบซื่อเลยครับไม่รู้อะไร ไปหาพระเจ้าครับ แล้วมาแบ่งปันด้วยเน้อ
ปล. ลองไปคริสตจักรความหวังกรุงเทพดูครับ ^^ ไปแบบซื่อเลยครับไม่รู้อะไร ไปหาพระเจ้าครับ แล้วมาแบ่งปันด้วยเน้อ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เอ่อ พี่แกะอ้วน ไป นมัสการ ที่คริสตจักรสืบฯ หรือ คริสตจักรสาทรมาล่ะ
เพราะทั้งสองคริสตจักร อยู่ใกล้ๆกัน ถ้าให้เดา น่าจะโบสถ์สืบนะ
หนูพอจะรู้จักทั้งสองคริสตจักร ฮะ
ส่วน Hopeplace ที่พี่โฮลี่ สุดหล่อแนะนำ ก็น่าจะลองไปนะฮะ
ต่อจากนั้น ไปแอบดูพี่เรย์ ที่สุขุมวิท ซอย 19 คริสตจักรวัฒนา ฮะ อาหารเพียบ ฮะ
เพราะทั้งสองคริสตจักร อยู่ใกล้ๆกัน ถ้าให้เดา น่าจะโบสถ์สืบนะ
หนูพอจะรู้จักทั้งสองคริสตจักร ฮะ
ส่วน Hopeplace ที่พี่โฮลี่ สุดหล่อแนะนำ ก็น่าจะลองไปนะฮะ
ต่อจากนั้น ไปแอบดูพี่เรย์ ที่สุขุมวิท ซอย 19 คริสตจักรวัฒนา ฮะ อาหารเพียบ ฮะ
เดี๋ยวไปครับSugarRei เขียน: แวะมาคริสตจักรวัฒนาวันไหนก็บอกนะคะ จะเตรียมข้าวสารอาหารแห้ง เอ๊ย ขนมอร่อยๆไว้ต้อนรับ
ขอบคุณครับ ข้อคำสอนนี้ผมทราบแล้ว แต่ที่อยากทราบนั้นคือ คำเฉลยของคำถามของคุณโฮลี่น่ะครับLittle Puppet เขียน: คุณ Fat Shephard ครับ
พระจิค=พระวิญญาณบริสุทธิ์ 1 ในพระตรีเอกานุภาพครับ คริสตังเรียกว่าพระจิต
ใครว่างๆ อยู่แถวๆ สุขุมวิท เชิญคริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ อ่อนนุช 24 (สุขุมวิท 77) นะครับ (โบสถ์เก่าผมเอง..)
คำเทศนาน่าจะซึ้งและดีเยี่ยมเหมือนกันครับ..
แต่ถ้าจะให้เยี่ยม
ต้องให้พี่พีพีเทศน์ครับ.. รับรอง แจ่มกว่าเป็นไหนๆ อิอิ
:-)
(เนื้อที่โฆษณา)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร มิ.ย. 20, 2006 10:57 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Holy เขียน:ของแบบนี้ต้องลองเองครับ ไหนๆคุณก็จะทัวร์อยู่แล้ว ไปแบบซื่อๆเลยดีกว่าอย่ารู้อะไรก่อนเลยครับ :DFat Shepherd เขียน:นั่นสิ แล้วทำไมคุณโฮลี่แนะนำให้เราไปล่ะ เพชร สงสัยต้องรอคุณโฮลี่มาช่วยตอบแล้วAndreas เขียน: คริสตจักรที่คลองเตยก็คือคริสตจักรโฮพเลสไงครับ ที่พี่โจเซฟเคยอยู่
Quote from Michael Paul
คุณ Fat Shepherd ใช่คนที่ผมเจออยุ่กะแทงค์ป่ะครับที่ผมคุยเรื่องบวชใช่มะครับ
ปล. ลองไปคริสตจักรความหวังกรุงเทพดูครับ ^^ ไปแบบซื่อเลยครับไม่รู้อะไร ไปหาพระเจ้าครับ แล้วมาแบ่งปันด้วยเน้อ
ตอบน้องเอกก่อนครับ ใช่แล้วครับ เป็นผมเอง
โอ คริสตชน คุณโฮลี่กับน้องเอกไม่บอกอะไรผมสักอย่างเลย ดูเหมือนอยากให้ผมไปเผชิญโลกตามยถากรรม :D ;D
ขอบคุณคุณโฮลี่และน้องเอกที่กรุณาแนะนำผมให้ไปเยือนคริสตจักรที่คลองเตยนะครับ แต่หลังจากที่ได้สวดภาวนาปรึกษาพระเป็นเจ้าแล้ว ปรากฏว่าไม่ใช่น้ำพระทัยของพระองค์ที่จะให้ผมไปเยี่ยมที่นั่นครับ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
ฉะนั้นก็ขอรบกวนถามด้วยใจจริงและอย่างถ่อมใจลงอย่างที่สุดครับ คุณโฮลี่กับน้องเอกอยากให้ผมไปที่นั่นทำไมหรือครับ รบกวนบอกผมด้วย ผมอยากทราบจริงๆครับ ขอบคุณทั้งสองท่านล่วงหน้าครับ ขอพระเจ้าอำนวยพระพรครับ :-\
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร มิ.ย. 20, 2006 3:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
วันนั้นพี่โจเซฟก็เล่าให้ฟังแล้วไงครับว่าคริสตจักรความหวังเป็นยังไง จำไม่ได้หรอครับ เอาไว้ให้พี่เค้าเล่าใหม่แล้วกันครับ
น่าเสียดายจัง ตอนแรกคิดว่าระดับคุณ Fat Shepherd ไปลองสัมผัสดูน่าจะมีมุมมองน่าสนใจมาแบ่งปันนะเนี่ย ว่าแต่ทราบได้ยังไงว่าพระเจ้าไม่มีพระประสงค์ครับ ไม่ใช่ว่าเข้าใจข้อความของผมกับลูกเอกไปในทางน่ากลัวเกินหรือเปล่า แต่ถ้าเป้นน้ำพระทัยพระเจ้าจริงก็โอเคครับ ไปตามการทรงนำของพระจิตเจ้าแล้วกัน
เจ้าของกระทู้ไปคริสจักรสาทรมาหรือเปล่าครับ ที่บอกว่าแถวสาทรน่ะ ใช่ปะครับ อยากรู้(อยู่แถวสาทรเหมือนกัน)คนในนั้นพกคัมภีร์ไปกันเยอะเลย แห็นแรกๆคิดว่ากระเป๋า(เหมือนกระเป๋าจริงๆฮะ คนทำคัมภีร์ออกมาเนี่ย ทำปกเหมือนกระเป๋าเลย อยากได้แบบนั้นอยู่เหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าแบบนั้นมีขายที่ร้านไหนดี เป็นคนขี้อายไม่กล้าถาม ;D
จำได้ เพชร เราจำได้ แต่แค่อยากถามคุณโฮลี่กับน้องเอกว่าทำไมสองท่านถึงอยากให้เราไปน่ะครับAndreas เขียน: วันนั้นพี่โจเซฟก็เล่าให้ฟังแล้วไงครับว่าคริสตจักรความหวังเป็นยังไง จำไม่ได้หรอครับ เอาไว้ให้พี่เค้าเล่าใหม่แล้วกันครับ
ขอบคุณคุณโฮลี่กับน้องเอกอีกครั้งครับ :)Holy เขียน: น่าเสียดายจัง ตอนแรกคิดว่าระดับคุณ Fat Shepherd ไปลองสัมผัสดูน่าจะมีมุมมองน่าสนใจมาแบ่งปันนะเนี่ย ว่าแต่ทราบได้ยังไงว่าพระเจ้าไม่มีพระประสงค์ครับ ไม่ใช่ว่าเข้าใจข้อความของผมกับลูกเอกไปในทางน่ากลัวเกินหรือเปล่า แต่ถ้าเป้นน้ำพระทัยพระเจ้าจริงก็โอเคครับ ไปตามการทรงนำของพระจิตเจ้าแล้วกัน
คุณโฮลี่ถามว่าผมรู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้ผมไปเยี่ยมคริสตจักรคลองเตย ผมขอตอบดังนี้ครับ
พ่อมิเกล คณะเยสุอิต เคยเทศน์ไว้ว่า น้ำพระทัยของพระเจ้าไม่ได้ซ่อนอยู่ตามเมฆในท้องฟ้า แต่อยู่ในใจของเรา ผมจึงได้สวดภาวนาและมองเข้าไปในใจตัวเองอย่าซื่อสัตย์ ผมจึงพบว่าไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้ผมไปครับ ส่วนจะเป็นด้วยสาเหตุอะไรนั้น ก็อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วน่ะครับว่า ผมไม่ทราบ ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของพระองค์ เพราะสิ่งที่มนุษย์คิดก็ไม่เหมือนกับสิ่งที่พระเจ้าดำริ ดังนั้น ผมก็ได้แต่เพียงคาดคะเนเอาเท่านั้น ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นรายละเอียดครับ
ในพระศาสนจักรยุคนี้ งานแพร่ธรรมกับงานศาสนสัมพันธ์ล้วนเป็นงานที่จำเป็นและสำคัญทั้งสองอย่าง แต่สำหรับผมแล้ว งานแพร่ธรรมเชิงรุกดูเหมือนจะไม่ใช่กระแสเรียกสำหรับผม ที่เป็นกระแสเรียกสำหรับผมน่าจะเป็นงานศาสนสัมพันธ์มากกว่าครับ
ผมทราบจากเพชรและพี่โจเซฟแล้วครับว่าคริสตจักรคลองเตยเป็นอย่างไร เท่าที่ผมเข้าใจพี่น้องที่คลองเตยนั้นใจร้อนรนในงานแพร่ธรรมเชิงรุกอย่างมาก ส่วนผมซึ่งก็มีความเชื่อพื้นฐานของผมอยู่แล้ว แต่ถ้าจะไปเยี่ยมคริสตจักรของเขา ก็คงไปในลักษณะเพื่อการศาสนสัมพันธ์มากกว่า เช่นนี้ จุดยืนของเขากับผมก็จะต่างกัน ยืนกันคนละจุด แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าพวกเขาร้อนรนมากมายอย่างนั้น ก็อาจไม่บรรลุผลการศาสนสัมพันธ์ก็ได้นะครับ
ยกตัวอย่างจริงหนึ่งตัวอย่างครับ ตอนที่ผมเป็นนักศึกษา มีพี่ผู้หญิงโปรเตสแตนท์คนหนึ่งเจอผมบนรถไฟขณะที่ผมกำลังเดินทางกลับบ้าน พี่เขาขอเบอร์โทรศัพท์ผม ผมก็ให้ไป มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ประมาณบ่ายสี่หรือห้าโมงนี่แหละครับ ผมกำลังจะออกไปวัดเซนต์จอห์นเพื่อร่วมนพวารพระมารดานิจจานุเคราะห์ พี่เขาก็โทรมา แล้วชวนผมไปคริสตจักร ผมบอกว่า ผมขอโทษ ผมไปไม่ได้ เพราะผมจะต้องไปทำนพวารพระมารดานิจจานุเคราะห์ที่เซนต์จอห์น พี่เขาก็ชักแม่น้ำทั้งห้าชวนต่อ สุดท้ายพอเห็นว่าน่าจะไม่เป็นผล พี่แกปล่อยไม้ตายว่า "แล้วน้องเชื่อ(แม่พระ)ด้วยเหรอคะ" ผมคิดว่า ถ้าเป็นน้องๆหนุ่มสาวหลายคนในบอร์ดนิวมานาเจอแบบผม ก็คงต้องมีทุ่มเถียงกันบ้าง แต่ผมเงียบ ไม่ได้ว่าอะไร พอวางหูไป ผมก็ไปทำนพวาร แล้วหลังจากนั้น พี่เขาก็ไม่ได้โทรมาหาผมอีกเลยครับ
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า พี่ผู้หญิงคนนั้นมีท่าทีของ"งานแพร่ธรรมเชิงรุก" อันไม่ใช่ท่าทีของ"งานศาสนสัมพันธ์" เพราะถ้าเป็นท่าทีของศาสนสัมพันธ์ คำตอบที่ผมควรจะได้รับก็น่าจะเป็น"อ้อ แล้วพิธีดังกล่าวมีที่มาอย่างไรคะ" หรือ "พิธีดังกล่าวมีขั้นตอนอย่างไรคะ" หรือ "น่าสนใจนะคะ พี่ขอไปร่วมสังเกตการณ์ด้วยได้ไหม" ผมเห็นว่า"งานแพร่ธรรมเชิงรุก"นั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรือเสียหายแต่อย่างใด เพราะเป็นพระเยซูเจ้าเองที่ดำรัสสั่งให้พวกเราไปแพร่ธรรมจนสุดปลายแผ่นดิน ประกาศข่าวดีถึงพระอาณาจักรของพระเจ้าและนำคนทั้งหลายมารับศีลล้างในพระนามพระบิดาและพระบุตรและพระจิต ซึ่งพี่ผู้หญิงท่านนี้ก็ทำตามพระดำรัสสั่งนี้อย่างซื่อสัตย์ จึงกลับเป็นผู้ที่น่าได้รับการยกย่องสรรเสริญเสียด้วยซ้ำไป เพราะในขณะที่ผมเองก็คริสตชน แต่กลับไม่ได้ปฏิบัติตามพระบัญชานี้อย่างสัตย์ซื่อเหมือนพี่เขา แต่ผมตั้งข้อสังเกตไว้ว่า การแพร่ธรรมของพี่เขาก็อาจมีปัญหาอยู่บ้าง เพราะผมคิดว่าการแพร่ธรรมเชิงรุกเช่นนี้ ก็ต้องดูกาละเทศะด้วย พระเยซูเจ้าตรัสสอนใจบรรดาอัครสาวก เมื่อพวกเขาต้องออกไปแพร่ธรรมว่า เวลาเข้าไปบ้านใด จงให้พรก่อนอื่นใดทั้งหมด ถ้าเขาไม่สนใจรับ พรนั้นก็จะตกกับท่านเอง หรือ ที่ใดที่ไม่ต้อนรับอัครสาวก ก็ให้สะบัดฝุ่นที่เท้าแล้วจากไป ผมเห็นว่า พระองค์เองก็ไม่ได้ทรงสอนให้สาวกมีท่าทีที่จะต้องไปบังคับใจใครให้มาเชื่อ แต่ทรงเปิดเสรีภาพให้แก่ทุกคนตามอำเภอใจที่ทรงประทานให้มาแต่นิรันดร์กาลแล้ว ฉะนั้น ถ้าการแพร่ธรรมของพี่ผู้หญิงท่านนี้จะมีปัญหาอะไรอยู่บ้าง ก็น่าจะอยู่ที่เรื่องกาละเทศะและการบังคับจิตใจกันและกัน ซึ่งผมว่าดูขัดๆกับอำเภอใจของมนุษย์ผู้มีศักดิ์ศรีอย่างไรก็ไม่รู้ครับ
ทีนี้วกกลับมาที่คริสตจักรคลองเตย ผมเห็นว่า แม้ว่าผมไปเยี่ยมที่นั่นด้วยท่าทีของศาสนสัมพันธ์ แต่พวกเขาก็เตรียมพร้อมในที่ตั้งด้วยท่าทีของการแพร่ธรรมเชิงรุกอยู่แล้ว ไม่ว่าผมจะนำเสนอท่าทีของศาสนสัมพันธ์อย่างไร พวกเขาก็คงจะเสนอท่าทีของการแพร่ธรรมเชิงรุกกลับมา อาจเกิดสภาวะที่เหมือนกับ"คุยกันคนละภาษา" หรือ "ดำเนินอยู่บนเส้นขนาน" นอกจากไม่เกิดผลทั้งสองทางแล้ว คือ ผมก็ศาสนสัมพันธ์แล้วดันไม่สัมพันธ์กัน ทางเขาแพร่ธรรมแล้วผมก็ดันไม่รับเชื่อในธรรมะที่เขาแพร่ ก็อาจเกิดความมัวหมองจิตใจกันด้วยน่ะครับ
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นนั้นแล้ว ผมมองปัญหาว่า อาจเกิดสภาวการณ์ต่อไปนี้ได้อีกเป็นอย่างน้อยครับ
1. ในเมื่อต่างฝ่ายต่างก็เชื่อในทางของตน เขาก็เชื่อในทางของเขา ผมก็เชื่อในทางของผม แม้ผมไม่มีเจตนาแม้แต่น้อยที่จะไปเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเขา ในทางตรงกันข้ามผมเคารพในความเชื่อศรัทธาของเขาอย่างที่สุด เพราะผมไปด้วยท่าทีของการศาสนสัมพันธ์ แต่เขาซึ่งมีท่าทีจะแพร่ธรรมเชิงรุก ก็น่าจะพยายามชวนเชิญผมให้รับเชื่อในธรรมของเขาให้ได้ เพราะทางเขาก็มีสิทธิ์ที่จะมองว่าความเชื่อศรัทธาของผมมาจากคริสตจักรเทียมเท็จก็เป็นได้ (อันนี้ผมว่าเป็นสิทธิ์ที่เขาจะทำได้อย่างเต็มที่นะครับ และก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้บ่อย มนุษย์เราก็แบบนี้ ของเรา เราเรียกว่า"สิ่งศักดิ์สิทธิ์" ของเขา เรากลับไปเรียกว่า"เทวรูป" ฯลฯ) ทีนี้ ถ้าเขาเห็นว่าผมก็มั่นคงในทางของผม อาจเกิดปัญหาเข้าใจผิด คิดไปว่าผมไปลองดี ประมาณว่า ผมก็รู้และเชื่อของผมอยู่แล้ว แล้วจะมาลองดีทำไม จะมาเสนอหน้าแสดงว่าความเชื่อทางผมนี้แน่ เจ๋ง กว่าทางเขา อย่างนั้นหรือ หรือจะมาจับผิด ดูแคลนกันหรือเปล่า ซึ่งทุกคนในนิวมานาก็คงทราบว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะผมบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไปด้วยท่าทีของศาสนสัมพันธ์ และผมก็เคารพในความเชื่อศรัทธาของทุกคน ทุกศาสนานิกาย และที่สำคัญก็คือ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบ(เกลียด)การลองดีคนอื่น เพราะผมเห็นว่ามันขัดกับจิตตารมณ์ในเรื่องความรักของคริสตศาสนาอย่างยิ่งยวด เรียกว่า การลองดีคนอื่น ปะทะความเชื่อ ประลองศรัทธากับคนต่างนิกายต่างศาสนานั้น เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้เป็นที่สุดครับ
2. ผมมองจากจุดยืนของพี่น้องทางคลองเตย พวกเขามีความเชื่อศรัทธา และรับใช้พระเจ้าอย่างซื่อสัตย์เหมือนพี่น้องที่คริสตจักรอื่นๆก็พยายามจะทำหรือจะเป็นให้ได้ อย่างน้อยพวกเขาก็ทำตามพระดำรัสสั่งของพระเจ้าที่ให้แพร่ธรรมไปจนสุดปลายพิภพดังที่ผมได้อภิปรายไปข้างต้นแล้ว หัวใจของพวกเขาก็เป็นหัวใจมนุษย์เหมือนพวกเรา ที่พร้อมจะรัก และต้องการความรักเหมือนกับเราเช่นกัน การที่ผมไปเยี่ยมพวกเขา แล้วมีท่าทีที่จะปฏิเสธความหวังดีที่พวกเขาได้หยิบยื่นสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าดีให้ผม ถ้าพวกเขาใจเย็นชาก็คงอาจจะเฉยๆ และอาจคิดว่า ช่างเธอ ฉันหยิบยื่นสิ่งที่ดีให้ เธอไม่ใฝ่ดี ก็เป็นเรื่องของเธอ แต่ทว่าพวกเขาซึ่งเป็นคนที่ใจร้อนรนมากๆๆๆๆอย่างนั้น เมื่อโดนปฏิเสธจะรู้สึกเช่นไรครับ คงไม่ได้คิดเหมือนคนใจเย็นเฉย แต่คงเจ็บปวดมากมายนัก คุณโฮลี่ครับ น้องเอกครับ ถ้าผมไปคริสตจักรคลองเตย ก็แปลว่า ผมจะไปทำร้ายจิตใจของเพื่อนมนุษย์ของผม สิ่งนี้ผมบอกตรงๆครับว่าผมทำไม่ได้หรอกครับ ผมรักพวกเขาเหมือนกัน รักมากเกินกว่าที่ผมจะทำให้พวกเขาเจ็บปวดได้ แม้ผมจะไม่เคยเจอพวกเขา แต่ผมก็รักพวกเขาได้นะครับ นี่คือพลังความรัก ที่เป็นพลังซึ่งทำให้ผมเป็นคริสตชนได้จนถึงทุกวันนี้
ดังนี้ ผมจึงได้บอกคุณโฮลี่กับน้องเอกว่า พระเจ้าไม่มีพระประสงค์ให้ผมไปเยือนคริสตจักรคลองเตยครับ แต่อย่างไรก็ตาม ผมขอขอบคุณคุณโฮลี่และน้องเอกอย่างจริงใจที่สุดครับ :)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มิ.ย. 21, 2006 3:25 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ตอนนี้พี่โจกำลังทำใจ ที่สาวสวยบอร์ดนี้ กำลังจะโบยบิน ไปหา วัวกระทิง แน่ะ 8) :oAndreas เขียน: วันนั้นพี่โจเซฟก็เล่าให้ฟังแล้วไงครับว่าคริสตจักรความหวังเป็นยังไง จำไม่ได้หรอครับ เอาไว้ให้พี่เค้าเล่าใหม่แล้วกันครับ
คิดมากไปแล้วครับ ไม่ได้ให้ไปโต้วาทีหรือลองดี แค่ให้ลองไปครับ เพราะผมคิดว่า10ปากว่าไม่เท่าตาเห็น แล้วยิ่งคนที่ไปตั้งใจไปสัมพันธ์อยู่แล้ว เช่นคุณเองตั้งใจไปสัมพันธ์ ไม่ได้ตั้งใจไปลองดี ผมเห็นว่าคุณมีวุฒิภาวะที่สูง(เห็นส่วนตัวนะครับ)น่าจะแยกแยะอะไรๆได้ ดังนั้น ผมจึงแนะนำให้ไปแบบไม่ต้องรู้ข้อมูลอะไร เพื่อจะได้ไปแบบบริสุทธิ์ใจในความตั้งใจของคุณ เพราะผมก็อยากทราบว่าแต่ละคริสตจักรจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไรโดยเฉพาะคริสตจักรนี้ ซึ่งได้ข้อมุลในอีกเชิงมาตลอด เลยคิดว่าไหนๆคุณจะทัวร์อยู่แล้ว และไม่ใช่แกะประเภทที่จะอ่อนแอหรือหลงทาง แต่เป็นผู้ที่จะเป็นผู้เลี้ยงแล้ว ก็เลยไม่น่าเป็นห่วงอะไร และน่าจะได้มุมมองแบบผู้ใหญ่ๆหน่อยไง แต่ถ้าคุณมั่นใจว่านี่ไม่ใช่พระประสงค์สำหรับคุณ ก็ไม่เป็นไรครับ แค่เสนอแนะเฉยๆ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ปล.แต่ผมก็อยากรู้อยู่ดีแหละว่าถ้าไปดีคิดดีแล้วจะเป็นยังไง
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ปล.แต่ผมก็อยากรู้อยู่ดีแหละว่าถ้าไปดีคิดดีแล้วจะเป็นยังไง
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 21, 2006 4:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
จะมีคริสตจักรของ กลุ่มสหกิจด้วยนะครับAndreas เขียน: คริสตจักรที่คลองเตยก็คือคริสตจักรโฮพเลสไงครับ ที่พี่โจเซฟเคยอยู่
รายละเอียดลองถามคุณ Clazylove ผ่านNihil/Holyrฮะ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
NIPPON เขียน: คริสตจักรที่ไหนเล่นเพลงลูกทุ่งมั่งคับ ;D
เอาในกรุงเทพนะ *yawn
เพลงลูกทุ่ง ที่เฮียว่านะไม่มีสักโบสถ์หรอก เขาเล่นเพลงสรรเสริญพระเจ้าจ๊ะ ไม่ใช่ เจ็ดสี คอนเสิร์ตนี่ 8)
เชียร์ให้คุณ ชุมพาบาลอ้วน ไปที่นี่ด้วยเหมือนกันนะครับLittle Puppet เขียน: คุณ Fat Shephard ครับ
พระจิค=พระวิญญาณบริสุทธิ์ 1 ในพระตรีเอกานุภาพครับ คริสตังเรียกว่าพระจิต
ใครว่างๆ อยู่แถวๆ สุขุมวิท เชิญคริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ อ่อนนุช 24 (สุขุมวิท 77) นะครับ (โบสถ์เก่าผมเอง..)
คำเทศนาน่าจะซึ้งและดีเยี่ยมเหมือนกันครับ..
แต่ถ้าจะให้เยี่ยม
ต้องให้พี่พีพีเทศน์ครับ.. รับรอง แจ่มกว่าเป็นไหนๆ อิอิ
:-)
(เนื้อที่โฆษณา)
ขอบคุณน้องยศครับยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน:จะมีคริสตจักรของ กลุ่มสหกิจด้วยนะครับAndreas เขียน: คริสตจักรที่คลองเตยก็คือคริสตจักรโฮพเลสไงครับ ที่พี่โจเซฟเคยอยู่
รายละเอียดลองถามคุณ Clazylove ผ่านNihil/Holyrฮะ