สัตบุรุษคาดหวังอะไรจากบราเดอร์ผู้ที่จะก้าวสู่ศักดิ์สงฆ์

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
Little John

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 9:44 am

;) อยากฟังเสียงสะท้อนจากฆารวาส เพื่อการฝึกฝนชีวิตผู้อภิบาล และเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสตเจ้า ;)
minnie

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:39 am

คาดหวังให้บราเดอร์ ที่จะก้าวสู่ศักดิ์สงฆ์
1. ขอท่านเป็นตัวของตัวเอง แสดงธรรมชาติของตัวเองออกมา อย่าวางมาด อย่าเก็กเลย เห็นแล้วเหนื่อยแทน
(สัตบุรุษจารัก) ;D
เพราะสัตบุรุษรู้อยู่แล้ว่า ท่านเก่ง ท่านมีความสามารถ ถึงได้ เป็นบราเดอร์ ที่จะก้าวศู่ศักดิ์สงฆ์

2. การ Show pround หรือpresent เข้ามาใหม่ๆๆ ขอเถอะ ยิ่งแสดงออกมามาก
ยิ่งห่างจากสัตบุรุษมาก เสียความรู้สึกกันทั้งสองฝ่าย

3. การที่ท่านไปช่วย อภิบาล หรือช่วยชุมชุมตามวัดต่างๆๆๆ เริ่มต้นค่อยๆๆเรียนรู้ อย่าไปเปรียบเทียบกันเลย
พอได้ ยิน พ่อเก่าทำดีกว่าสู้พ่อเก่าไมได้ อย่าให้เป็นที่สะดุดกะตัวเองเลย

เพราะท่านเป็นตัวของท่าน คนเราย่อมไม่เหมือนกันอยู่แล้ว มีสไตล์ที่แตกต่างกัน
ดึงสไตล์ของตัวออกมาใช้ดีกว่า ค่อยๆๆเป็นค่อยๆๆไป ก็ปรับกันได้

ไม่มีใครดีพร้อมไปหมดทุกอย่าง หรือให้ทุกคนพอใจได้ทั้งหมด หรอก
พระเป็นเจ้าเลือกคนที่ทำงานให้ท่านได้มากที่สุด
Little John

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 11:05 am

ขอบคุณมากนะครับสำหรับคำแนะนำ อย่างนี้สิช่วย ๆ กันอนาคตจะได้มีพระสงฆ์ที่ดี สามารถนำพระมาสู่สัตบุรุษนำสัตบุรุษไปหาพระได้ ขอบคุณมากนะครับ
warlock
โพสต์: 642
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:37 am

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 12:56 pm

;D ;D ;D
สุภาพ นบนอบ ถ่อมตน แล้วแสดงศักยภาพเต็มความสามารถครับผ๊ม.... ;)
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 3:26 pm

ลองอ่านกระทู้นี้ประกอบนะคะ

http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=3780


น่าจะเอามาประยุกต์ใช้ด้วยกันได้
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 7:14 pm

ทำใจสบาย ๆ แยกเรื่องเทววิทยากับสภาพความเป้นจริงของชุมชนให้ดี เดี๋ยวจะแปลกแยกจากชุมชน อย่าลืมว่า ต้องมาเพื่อช่วยเขา เพราะฉะนั้นก็ต้องพูดจาประสาชาวบ้านได้ ไม่งั้นก็ช่วยใครบ่ได้ด๊อก
warlock
โพสต์: 642
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:37 am

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 10:08 pm

;D ;D
เห็นด้วยกับทุกความเห็นครับ แต่คิดว่าก่อนที่จะแทรกซึมเข้าไปช่วยเหลือ และเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณได้ คงต้องสามารถทำตนให้เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจก่อนเพราะถ้าเจ้าของบ้านเค้าไม่เปิดประตูให้ก็จะกลายเป็นการบุกรุกหรือยัดเยียด อาจจะถูกปฏิเสธได้ ;D ;D ;D
Divine Mercy

จันทร์ มิ.ย. 19, 2006 11:06 pm

ท่านกล่าวปฏิญาณตนต่อพระเป็นเจ้าอย่างไร

ก็อยากดำรงตนตามที่ปฏิญาณให้ได้ดีที่สุด สละและละทิ้งเดินตามรอยพระบาทพระอาจารย์เจ้า

ถ้าไม่ได้หรือไม่พร้อมก็ควรถอย...เพื่อสำรวจกระแสเรียก
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 6:52 am

หนูเป็นคริสเตียน ขอตอบแบบคนวงนอก นะฮะ

อยากเห็นบาทหลวง เดินตามแบบพระเยซูคริสตเจ้ามากที่สุดฮะ

พี่เป็นเณรที่แสงธรรม หรือเปล่า อะกั๊บ
little john

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 11:45 am

ใช้แล้วครับ ผมเป็นบราเดอร์ที่แสงธรรม ปีนี้เป็นปีที่พระศาสนจักรกำหนดให้เป็นปีแห่งการแพร่ธรม และผมก็มีโอกาสได้ออกฝึกงานอภิบาลด้วย ช่วย post เพื่อสะท้อนความคิดเห็นและความต้องการเข้ามาเยอะ ๆ เลยนะครับ ความคิดเห็นของคุณอาจจะช่วยเณรน้อยคนหนึ่งให้พัฒนาศักยภาพเขาก็ได้นะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 1:07 pm

ตอบบราเดอร์ครับ

ผมขอสาธกเป็นตัวอย่างแล้วอภิปรายประกอบครับ

กรณีตัวอย่าง

1. มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมทราบว่าคุณพ่อยังหนุ่มท่านหนึ่งป่วย เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ผมกับเพื่อนเจอพ่อโดยบังเอิญที่หน้าวัดแห่งหนึ่ง จึงเข้าไปทักทายและถามสารทุกข์สุขดิบ จริงอยู่ แม้ว่าเราจะไม่เคยรู้จักกับพ่อมาก่อน และคนในยุคนี้เป็นคนที่น่ากลัว เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพจำแลงกายมาในคราบของผู้ใจบุญก็ตาม แต่สายตาและสีหน้าของพ่อท่านนั้นบ่งบอกราวกับว่าพวกเราสองคนนี้เป็นคนที่น่าระแวง ไม่น่าวางใจอย่างไรก็ไม่รู้ครับ ถ้าพ่อลองนึกย้อนสักหน่อย ในพระวรสารเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี ถ้าคนยิวคนนั้นที่นอนเจ็บอยู่ทำแบบพ่อบ้างล่ะครับ คือ มีสายตาและท่าทีที่ระแวงชาวสะมาเรียนั้น เพราะอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า ชาวยิวกับชาวสะมาเรียไม่ถูกกัน ซึ่งก็มีเหตุผลมากพอหรือมากกว่าที่พ่อจะมาระแวงพวกเราเสียอีก เพราะสองชาติพันธุ์นี้ไม่ถูกกันอยู่แล้ว แล้วทำไมพ่อมีท่าทีกับพวกเราอย่างนี้ พ่อสอนให้พวกเรารักกันและกัน แต่พ่อกลับไม่รักเราเพียงพอ เราเสียน้ำใจมากในเหตุการณ์ครั้งนั้นครับ เราจึงไม่อยากถามสารทุกข์สุขดิบอะไรอีก

2. หลังงานฉลองวัดครั้งหนึ่ง คนที่อยู่เย็นไม่ได้รีบกลับวัด ก็จะช่วยกันเก็บวัด ผมกับเยาวชนสองสามคนช่วยทางวัดถอนธงที่ปักอยู่รอบวัดเพื่อนำไปเก็บ มีเณรคณะนักบวชคนหนึ่งที่เป็นลูกวัดนั้นด้วย พาเณรชาวต่างประเทศของคณะเขากลับมาเยี่ยมบ้านและฉลองวัดด้วยกัน พอเณรต่างประเทศคนนั้นเห็น ก็กุลีกุจอมาช่วยพวกเราถอนธงและขนไปเก็บที่โรงเก็บของ ในขณะที่พวกเรากำลังทำงานกันตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต มือเป็นระวิงอยู่นั้น บนระเบียงบ้านพ่อ ก็มีเณรพื้นเมืองสองคนกำลังยืนคุยกับจุ๊กๆจิ๊กๆ เหมือนไม่เห็นว่าเรากำลังทำงานกันอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่เห็นนะครับ เห็นชัดๆถนัดตาเลย และก็ไม่ใช่ว่าติดงานอื่นอยู่ด้วย แต่สนทนากันอย่างออกรสออกชาติ เหมือนทองไม่รู้ร้อน ไม่มาช่วยพวกเราทำงานเลย ไม่อายเณรต่างชาติท่านนั้นหรือไร บราเดอร์สองคนนั้นไม่นึกถึงพระวรสารเรื่องเศรษฐีกับลาซารัสบ้างเลยเหรอครับ เศรษฐีนั้นทำอะไรผิดถึงได้ไปอยู่ในแดนทรมานอย่างนั้น เขาไม่ได้ทำร้ายลาซารัส เพียงแต่เขาไม่ได้สนใจลาซารัส ไม่ได้ดูดำดูดีลาซารัส พระเจ้าทรงเรียกร้องให้คริสตชนทุกคนเอาใจใส่ความต้องการของคนอื่นเสมอ อย่าดูดาย มันไม่ดี บราเดอร์สองท่านนั้นกลับดูดายพวกเรา ระวังจะถูกโยนออกไปข้างนอก ที่นั่นบราเดอร์สองคนนี้จะต้องร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อิ อิ

3. ผมรู้จักกับคุณพ่อยังหนุ่มท่านหนึ่งตั้งแต่พ่อยังเป็นเณรน้อย แต่ภายหลังพอเป็นเณรแก่และได้บวชแล้ว ผมรู้สึกว่าพ่อเปลี๊ยนไป๋ แต่ก่อนตอนยังเด็ก พ่อคุยกับผมดีมาก ผมดีใจที่ได้เพื่อน แต่พอแก่แล้ว ทำไมท่าทีอยู่ดีๆถึงได้เย็นชา ไม่เหมือนบราเดอร์คนเดิม คนเราก็เปลี่ยนกันได้ แต่ทำไม้ทำไมเปลี่ยนไปในทางที่ไม่น่าเป็นทางของคริสตชนที่พระเยซูเจ้าทรงสอน นอกจากนี้ก็ยังมีคุณพ่อยังหนุ่มอีกท่าน ท่าทีเย็นชากับผมเรื่อยเลย ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวนะครับ จะว่ามีเรื่องบาดหมางอะไร ก็คงเป็นไปไม่ได้ ก็คนเราไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แล้วจะไปบาดหมางกันได้ตรงไหน จริงไหมครับ แต่ท่านก็มีสมานัตตา เย็นชากับผมอย่างคงเส้นคงวาตลอด จนตอนหลังผมเห็นท่าน ผมก็หลบเลย ดีกว่าที่จะให้เสียความรู้สึกน่ะครับ ส่วนคนแรก เห็นแก่ที่ว่ารู้จักกันมาแต่พ่อยังเป็นเด็ก ก็เลยคิดว่า ถ้าได้เจอกันอีก ผมจะถามว่า"ทำไม" และถ้าพ่อยังทำอย่างนี้กับผม ผมจะ"เทศน์"ให้พ่อฟังเอง ผมจะบอกพ่อว่า พ่อเทศน์บนธรรมาสน์ เทศน์ให้สวยหรูอย่างไรก็ได้ แต่ทำไมพ่อไม่ทำ อย่างนี้พ่อก็เป็นเหมือนคนหน้าซื่อใจคด เหมือนฟาริสีเลย ถ้าพ่อไม่เป็นแบบอย่างในเรื่องความรัก แล้วสัตบุรุษหน้าไหนจะเชื่อพ่อ พ่อสอนก็เหมือนแม่ปูสอนลูกปู สอนให้ลูกเดินตรง แต่ตัวเองกับเดินเอียงเสียเอง อย่างนี้อย่าเทศน์เสียดีกว่า เทศน์ด้วยคำพูดแต่ไม่เทศน์ด้วยการกระทำ เปลืองพลังเสียงพ่อเอง เปลืองเวลาสัตบุรุษ และเปลืองไฟวัดที่ต้องเปิดไมโครโฟนให้พ่อใช้เทศน์ที่ไม่เกิดผล เพราะเทศน์ไปก็ไม่น่าเชื่อถือ ด้วยว่าสิ่งที่พ่อเทศน์ พ่อกลับไม่ปฏิบัติ ส่วนพ่อคนหลัง ถ้าพ่อยังเย็นชากับผมอย่างนี้อีก ผมก็จะไม่อดทนต่อไป ผมจะถามพ่อว่า พ่อเป็นนักบวชของศาสนาแห่งความรัก แต่ทำไมพ่อถึงเย็นชากับผมอย่างนี้ ผมไม่ได้เจ็บปวดที่พ่อไม่รักผม พ่อจะเกลียดผมก็เรื่องของพ่อ แต่ผมทนไม่ได้ที่สงฆ์ของพระเยซูเจ้าไม่รักคนอื่น ครั้งหรือสองครั้ง ผมเข้าใจได้ว่าพ่ออาจมีเรื่องหงุดหงิด แต่นี่พ่อเย็นชาอย่างสม่ำเสมอมาก อย่างนี้พ่อมาบวชให้เป็นที่สะดุดกับคนอื่นเขาทำไม เวลาดาราสูบบุหรี่ กินเหล้า เขาก็ว่า ดาราเป็นคนของประชาชน ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่าง บาทหลวงก็ยิ่งต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีใหญ่ เพราะบาทหลวงเป็นคนของประชาชนและเป็นแบบอย่างทางด้านศีลธรรมอันดีด้วย พระเยซูเจ้าไม่ทรงอดทนกับคนที่ทำพระวิหารของพระเจ้าเป็นซ่องโจร ผมก็จะไม่อดทนกับนักบวชของพระเจ้าที่ทำตัวเป็นเหมือนโจรด้วย เพราะผมอดกลั้นมานานแล้วครับ

4. บราเดอร์บางท่านมีผลงานด้านต่างๆตามแต่ถนัดสู่สายตาสาธารณชนมากเหมือนกันนะครับ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมได้ไปเยี่ยมเยียนบราเดอร์ท่านหนึ่งซึ่งมีผลงานโดดเด่น และผมชื่นชมในความสามารถของท่านมากเลย พอได้เจอตัว ผมงี้ ดีใจสุดๆ เหมือนได้เจอดารานักร้อง ยังไงยังงั้นเลยครับ ก็ผมไม่มีความสามารถเช่นนั้น ผมไม่อิจฉาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับชื่นชมยิ่งนัก ทว่า บราเดอร์คนนั้นพอได้เจอผม เขาไม่เห็นมีท่าทีที่ยินดีเลยครับ แต่กลับดูแปลกใจ เหมือนกับว่าผมมาพบเขาทำไม ไม่มีท่าทีอยากเห็นผมเลยแหละ แล้วแถมดูเหมือนแอบจะทะนงตนเล็กน้อย พระเยซูเจ้าทรงสอนว่าให้ถ่อมตัวถ่อมใจ เพราะคนแรกจะกลับเป็นคนสุดท้าย และคนที่เล็กน้อยก็จะกลับเป็นคนที่ใหญ่ที่สุดในสวรรค์ แต่ทำไมนักบวชของพระองค์ถึงได้ไม่รู้จักสุภาพ ถ่อมตน ผมล่ะงง พอเจอแบบนี้ ผมอึ้งไปเลย กลับบ้านดีกว่า

หลายคนจึงได้เคยกล่าวว่า นักบวชต่างประเทศน่าชื่นชม เพราะอะไรครับ นอกจากยอมสละบ้านเกิดเมืองนอน ข้ามน้ำข้ามทะเล มาทำงานในแดนไกลที่อยากลำบากแล้ว ก็คงเป็นเพราะท่าที่ที่เปี่ยมไปด้วยความรักเมตตาและไม่ถือเนื้อถือตัวด้วยครับ ในขณะที่นักบวชไทยหลายท่านเจ้ายศเจ้าอย่าง ถือเขาถือเรา ความเจ้ายศเจ้าอย่างกับการถือเขาถือเรานี่ เป็นค่านิยมพระวรสารเหรอครับ ในทางกลับกัน ผมว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามด้วยซ้ำไปนะครับ จริงๆ ถ้านักบวชไทยยึดค่านิยมพระวรสารจริงๆ ก็คงไม่มีสัตบุรุษที่ไปกล่าวชื่นชมนักบวชต่างชาติมากอย่างนั้น ก็เพราะนักบวชไทยกับนักบวชต่างชาติต่างก็เหมือนกัน คือถือ"ค่านิยม"เดียวกัน ไม่ต่างกัน ด้วยเหตุว่ารักเหมือนกัน อภัยเหมือนกัน เป็นกันเองเหมือนกัน

ผมจำได้ เวลาบราเดอร์คนหนึ่งๆได้บวชเป็นบาทหลวง โอ้ น่าประทับใจ ปลาบปลื้มยินดี น้ำตาจะไหล คติพจน์ตั้งไว้เสียสวยหรู เลิอเลอ อลังการ แต่พอบวชแล้วไม่เห็นเป็นอย่างคติพจน์ที่ว่าไว้เลยครับ เลยไม่แน่ใจว่าคติพจน์ที่ว่านั้นเป็นของบราเดอร์จริงหรือเปล่า หรือว่าพอจะบวช เขาให้บอกคติพจน์ ก็เลยไปค้น แล้วหาคำพูดที่หรูเลิศ ฟังดูแล้วสะเทือนใจ น้ำตาจะไหล แบบเฉพาะกิจเพื่อให้ดูดีหรือเปล่า

สรุป บราเดอร์ต้องรักครับ และความรักนี้จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการทำงานอภิบาล สัตบุรุษที่มาวัดสม่ำเสมอ ก็จะให้ความร่วมมือมากยิ่งขึ้น เป็นต้นว่า ไม่ได้มาวัดแต่เพียงอย่างเดียว ยังสมัครเป็นสภาอภิบาล และร่วมกลุ่มฆราวาสแพร่ธรรมของวัดด้วย และสำหรับสัตบุรุษที่ทิ้งวัดทิ้งวา อาจหันกลับมาหาพระหาเจ้า เข้าวัด แก้บาปรับศีลอีกครั้ง ผมว่า นักบวชคาทอลิกที่รักไม่เป็น เป็นบุคคลที่น่าสังเวชใจมากครับ :D

ท้ายสุดนี้ อยากถามบราเดอร์ว่าบราเดอร์ชื่ออะไรครับ มาจากมิสซังไหน ถ้าบราเดอร์อยากเจอผม ผมยินดีไปเยี่ยมและแบ่งปันประสบการณ์กับบราเดอร์นะครับ บราเดอร์ทำงานอภิบาลอยู่ที่ไหน ผมยินดีไปเยี่ยมครับ ผมเป็นคนใจดีและเป็นมิตรครับ ขอบคุณครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร มิ.ย. 20, 2006 3:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
little john

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 3:57 pm

ขอบคุณมากนะครับคุณ Fat Shepherd นับว่าเป็นข้อคิดข้อเตือนใจที่ดีสำหรับผมมากส่วนเรื่องที่จะติดต่อกับผม สามารถเมลมาก็ได้นะครับ ส่วนประวัติส่วนตัวนั้นผมมาจากมิสซังท่าแร่ครับ ชื่อบราเดอร์โบเขะครับผม ส่วนงานอภิบาลก็คงเป็นแถวๆ บ้านเณรนยี่แหละครับเพราะชั้นปีของผมยังไม่แก่วิชาถึงขั้นที่จะไปอภิบาลตามวัด ถ้าไปก็ไปกันเป็นกลุ่มชั้นปีครับ ว่าแต่ว่าคุณ Fat Shepherd ชื่อจริงชื่อไรครับผมจะได้เรียกถูก เป็นสัตบุรุษวัดไหนเอ่ย อยากจะทำความรู้จักแล้วละสิ ถ้าไม่รังเกลียดมีอะไรก็สามารถแนะนำผมได้ตลอดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นทางบอร์ดนี้ หรือทางเมลก็ได้ครับ สุดแล้วแต่ท่านจะสะด๊วก ดีนะครับเป็นประสบการณ์ที่ชัดเจนดี หลายคนก็หลายจิตใจครับบางคนพอเป็นเณรก็เป็นอีกอย่าง บวชไปวันเดียวความเป็นบราเดอร์คนเดิมหายไปไหนก็ไม่รู้ ไม่แน่นะครับโบเขะคนนี้อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้ พูดเล่นครับ อย่าลืมแนะนำตัวหน่อยนะครับผมอยากรู้จัก ขอบคุณครับ ::)
ภาพประจำตัวสมาชิก
lovejesus(cap)
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 17, 2006 7:15 pm

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 8:45 pm

ผมอยากให้บราเดอร์เข้าหาทุกคนอย่างเป็นกันเอง

และไม่ถือตัวครับ......

จากการที่ผมได้พูดคุยกับบราเดอร์หลายๆ คนที่ผมรู้จัก ผมก็รู้นะครับว่าบราเดอร์ทำงานเหนื่อยมาก โดยเฉพาะปีฝึกงานอภิบาล......ไหนจะต้องไปอยู่ประจำที่โน้นที่นี้......ผมฟังแล้วผมยังเหนื่อยแทนเลยครับ
บราเดอร์บอกว่า เวลามีเข้าค่าย หรือเข้าเงียบ เวลานั้นแหละครับ เป็นเวลาพักของบราเดอร์.......+++
ภาพประจำตัวสมาชิก
lovejesus(cap)
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 17, 2006 7:15 pm

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 8:49 pm

ขอบคุณมากนะครับคุณ Fat Shepherd นับว่าเป็นข้อคิดข้อเตือนใจที่ดีสำหรับผมมากส่วนเรื่องที่จะติดต่อกับผม สามารถเมลมาก็ได้นะครับ ส่วนประวัติส่วนตัวนั้นผมมาจากมิสซังท่าแร่ครับ ชื่อบราเดอร์โบเขะครับผม ส่วนงานอภิบาลก็คงเป็นแถวๆ บ้านเณรนยี่แหละครับเพราะชั้นปีของผมยังไม่แก่วิชาถึงขั้นที่จะไปอภิบาลตามวัด ถ้าไปก็ไปกันเป็นกลุ่มชั้นปีครับ ว่าแต่ว่าคุณ Fat Shepherd ชื่อจริงชื่อไรครับผมจะได้เรียกถูก เป็นสัตบุรุษวัดไหนเอ่ย อยากจะทำความรู้จักแล้วละสิ ถ้าไม่รังเกลียดมีอะไรก็สามารถแนะนำผมได้ตลอดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นทางบอร์ดนี้ หรือทางเมลก็ได้ครับ สุดแล้วแต่ท่านจะสะด๊วก ดีนะครับเป็นประสบการณ์ที่ชัดเจนดี หลายคนก็หลายจิตใจครับบางคนพอเป็นเณรก็เป็นอีกอย่าง บวชไปวันเดียวความเป็นบราเดอร์คนเดิมหายไปไหนก็ไม่รู้ ไม่แน่นะครับโบเขะคนนี้อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้ พูดเล่นครับ อย่าลืมแนะนำตัวหน่อยนะครับผมอยากรู้จัก ขอบคุณครับ
เป็นบราเดอร์อยู่มิสซังท่าแร่หรอครับ บราเดอร์อยู่ปีไหนแล้ว...

คนเดียวกันกับโบเขะ ที่ตั้งกระทู้พระคุณเจ้าบรรจง ใช้ไหมครับ 8)
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร มิ.ย. 20, 2006 11:10 pm

อยากให้ดำเนินชีวิตสนิทกับพระให้มาก ๆ ครับ
little john

พุธ มิ.ย. 21, 2006 8:39 am

ใช่แล้วครับผม ว่าแต่ว่าผมยังไม่ทราบเลยว่าคุณFat Shepherd เปงคราย ::)
little john

พุธ มิ.ย. 21, 2006 10:36 am

*heh ใช่แล้วครับแม้คนบ้านเดียวกันก็ต้องให้กำลังใจกันหน่อย จริงมั้ยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ มิ.ย. 21, 2006 1:14 pm

ขอบคุณมากนะครับคุณ Fat Shepherd นับว่าเป็นข้อคิดข้อเตือนใจที่ดีสำหรับผมมากส่วนเรื่องที่จะติดต่อกับผม สามารถเมลมาก็ได้นะครับ ส่วนประวัติส่วนตัวนั้นผมมาจากมิสซังท่าแร่ครับ ชื่อบราเดอร์โบเขะครับผม ส่วนงานอภิบาลก็คงเป็นแถวๆ บ้านเณรนยี่แหละครับเพราะชั้นปีของผมยังไม่แก่วิชาถึงขั้นที่จะไปอภิบาลตามวัด ถ้าไปก็ไปกันเป็นกลุ่มชั้นปีครับ ว่าแต่ว่าคุณ Fat Shepherd ชื่อจริงชื่อไรครับผมจะได้เรียกถูก เป็นสัตบุรุษวัดไหนเอ่ย อยากจะทำความรู้จักแล้วละสิ ถ้าไม่รังเกลียดมีอะไรก็สามารถแนะนำผมได้ตลอดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นทางบอร์ดนี้ หรือทางเมลก็ได้ครับ สุดแล้วแต่ท่านจะสะด๊วก ดีนะครับเป็นประสบการณ์ที่ชัดเจนดี หลายคนก็หลายจิตใจครับบางคนพอเป็นเณรก็เป็นอีกอย่าง บวชไปวันเดียวความเป็นบราเดอร์คนเดิมหายไปไหนก็ไม่รู้ ไม่แน่นะครับโบเขะคนนี้อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้ พูดเล่นครับ อย่าลืมแนะนำตัวหน่อยนะครับผมอยากรู้จัก ขอบคุณครับ
little john เขียน: ใช่แล้วครับผม ว่าแต่ว่าผมยังไม่ทราบเลยว่าคุณFat Shepherd เปงคราย ::)
บราเดอร์ไปอ่านกระทู้นี้ดูนะครับ
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=3760

เดี๋ยวต้องขอไปเรียนปรัชญากรีกก่อนครับ จะได้เวลาเรียนแล้วน่ะครับ รีบๆๆๆๆ ;D

แล้วผมจะมาคุยกับบราเดอร์ใหม่นะครับ สู้ๆๆๆๆ :D
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มิ.ย. 21, 2006 1:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
BOKAE

พุธ มิ.ย. 21, 2006 1:27 pm

แล้วคุณจะกลับมาตอนไหนครับ
::)
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ มิ.ย. 21, 2006 1:45 pm

หนูอ่าน rep.10 ของพี่แกะอ้วน ยังกะอ่าน เอาเรื่องเลย อิอิ :D

ฟังจากประสบการณ์ แล้วพี่น่าจะอาวุโส ( ก่อน ลุงอาวุโส คริๆๆ ) ;D


อย่างไรก็ตาม การจะเป็น บาทหลวง คือ ผู้นำฝูงแกะของพระเจ้า หนูว่า "ต้อง เสียสละ และอุทิศ"
ทั้งชีวิต หรือทั้งหมด แก่ฝูงแกะ ฮะ :D
BOKAE

พุธ มิ.ย. 21, 2006 2:09 pm

เมื่อไรคุณลุงFat Shepherd จะเรียนเสร็จนะอยากคุยด้วย เทอมนี้ผมก็มีเรียนปรัชญากรีกนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พฤหัสฯ. มิ.ย. 22, 2006 5:39 pm

BOKAE เขียน: เมื่อไรคุณลุงFat Shepherd จะเรียนเสร็จนะอยากคุยด้วย เทอมนี้ผมก็มีเรียนปรัชญากรีกนะครับ

บราเดอร์โบ ผมมาแล้วครับ บราเดอร์มีอะไรอยากคุยก็คุยได้เลยนะครับ คุยเรื่องปรัชญากรีกด้วยก็ได้ ตอนนี้จะเริ่มปัญหาอภิปรัชญาของทาเลสแล้ว

บราเดอร์โบ ล่ะ บราเดอร์ว่าปฐมธาตุของจักรวาลคืออะไรครับ ;)
BOKAE

ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 9:54 am

น่าจะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้านะผมว่า อ้าว!! เกี่ยวไหมครับนี่ น่าจะเป็นเทววิทยามากกว่าเน๊ ;Dอะ ธาเลสคุณพ่อเค้าไม่เน้นครับตอนนี้เรากำลังศึกษากรีกโบราณครับ และพยายามมองทุกอย่างให้เป็นปรัชญาครับ
BOKAE

ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 11:59 am

ลุงเกะไปไหนนะวันนี้ไม่เห็นเลย ผมว่างมากเลยครับ เพราะได้เรียน กจ. คาบเดียว คุณพ่อที่สอนไม่ว่าง *hehสอนได้คาบเดียวเลยจำเป็นต้องปล่อยก่อน ไม่รู้จะทำอะไร
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 12:06 pm

BOKAE เขียน: ลุงเกะไปไหนนะวันนี้ไม่เห็นเลย ผมว่างมากเลยครับ เพราะได้เรียน กจ. คาบเดียว คุณพ่อที่สอนไม่ว่าง *hehสอนได้คาบเดียวเลยจำเป็นต้องปล่อยก่อน ไม่รู้จะทำอะไร

:) บราเดอร์อยู่คณะไหน แล้วเรียนปีอะไรแล้วคะ
BOKAE

ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 12:08 pm

พื้นบ้านครับ เฮ้ย..ไม่ใช่พื้นเมืองครับ เณรสังกัดมิสซังคร้าบผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 1:52 pm

BOKAE เขียน: พื้นบ้านครับ เฮ้ย..ไม่ใช่พื้นเมืองครับ เณรสังกัดมิสซังคร้าบผม
บราเดอรโบว์เป็นพระเอกละครพื้นบ้านเหรอ

อิ อิ เกราะกายสิทธิ์แรงฤทธี ;D
BOKAE

เสาร์ มิ.ย. 24, 2006 10:41 am

พรุ่งนี้จะเริ่มงานอภิบาลแล้ว ภึงเวลาแล้วที่จะได้ใช้คำภีร์ที่ทุก ๆ คนมอบให้
ตอบกลับโพส