~~เคยสังเกตมั้ย ว่ามัทธิวบทที่17 ไม่มีข้อที่21~~
พบความจริงว่า ไม่มีข้อ 21 อยู่ในส่วนที่เป็นเนื้อหาของพระคัมภีร์ แต่ที่ปลายข้อ 20 มีสัญลักษณ์เป็นตัวเลขให้ไปดูที่เชิงอรรถ
ก็แค่เอามาบอกกัน บางคนอาจไม่ได้สังเกตุน่ะจ้ะ
ก็แค่เอามาบอกกัน บางคนอาจไม่ได้สังเกตุน่ะจ้ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ทำไมถึงไม่มีหล่ะครับ
จำได้ว่า เคยมีคนเอาประเด็นนี้ มากล่าว
แล้วหาคำตอบไว้แล้ว ในบอร์ดนี้ ขอเวลาค้นละกัน
แล้วหาคำตอบไว้แล้ว ในบอร์ดนี้ ขอเวลาค้นละกัน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ลืมไปแล้วนะนี่
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
รู้นะคะว่าที่นำกลับมาพูดใหม่เพราะว่า
พึ่งจะดู คอนสแตนติน จบใช่ไหมล่า
พึ่งจะดู คอนสแตนติน จบใช่ไหมล่า
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เออ น่าสนใจ รอผู้เชี่ยวชาญคือคุณ Q มาตอบละกัน
TheGrace เขียน: ทำไมพระธรรมมัทธิวบทที่ 17 จึงไม่มีข้อ 21..?
ถาม : ทำไมพระธรรมมัทธิวบทที่ 17 ของสมาคมฯ จึงมีข้อ 20 และข้อ 22 แต่ไม่มีข้อ 21 (ในส่วนที่เป็นเนื้อหาของพระคัมภีร์นั้น) หมายความว่าอย่างไร?
ตอบ : โดยปกติ เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ เรามักจะได้รับคำแนะนำว่าไม่ต้องสนใจเลขบทและเลขข้อ เพราะจะทำให้อ่านติดขัดและยากที่จะเข้าใจเนื้อหา เมื่ออ่านพระคัมภีร์ ให้สนใจกระแสความคิดของพระคัมภีร์ว่าเคลื่อนที่ไปอย่างไรบ้าง ซึ่งคำแนะนำนั้นก็ถูกต้องและเป็นประโยชน์จริงๆในการศึกษาพระคัมภีร์ นอกจากนี้ต้นฉบับพระคัมภีร์ในภาษาเดิมทั้งภาษาฮีบรูและภาษากรีก ก็ไม่มีการแบ่งเป็นบทและเป็นข้อ การแบ่งดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยหลัง (ราวศตวรรษที่ 13 - 16) เพื่อให้สะดวกในการอ้างอิงเท่านั้น
แต่คำอธิบายข้างต้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจของผู้อ่านไปจากคำถาม ทั้งนี้เพราะคำถามก็สำคัญ และหากไม่ได้รับคำตอบ ก็อาจนำผู้อ่านไปสู่การสรุปความหลายอย่างที่ไม่เป็นจริงก็ได้ อาทิเช่น สมาคมฯ ทำข้อ 21 ตกหล่นด้วยความไม่รอบคอบ ดังนั้นพระคัมภีรืของสมาคมนจึงไม่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด หรืออาจสรุปว่า สมาคมฯไม่มีความเชื่อตามข้อ 21 ฉะนั้นจึงตัดข้อนี้ออกตามอำเภอใจ เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อจะตอบคำถามนี้ ก็ขอให้ผู้อ่านเปิดพระคัมภีร์พิจารณาตามไปด้วย เราพบความจริงว่า ไม่มีข้อ 21 อยู่ในส่วนที่เป็นเนื้อหาของพระคัมภีร์ แต่ที่ปลายข้อ 20 มีสัญลักษณ์เป็นตัวเลขให้ไปดูที่เชิงอรรถ (footnote) และเมื่อเราตามไปดู เราก็พบข้อความต่อไปนี้ สำเนาโบราณบางฉบับมีข้อ 21 แต่ผีชนิดนี้จะขับไม่ออก นอกจากโดยการอธิษฐานและการอดอาหาร สรุปแล้ว พระคัมภีร์ของสมาคมฯ มีข้อ 21 แต่เอาไปวางไว้ในส่วนที่เป็นเชิงอรรถ ไม่ได้วางไว้ในส่วนที่เป็นเนื้อหาของพระคัมภีร์ (อันที่จริง พระคัมภีร์มัทธิวบทที่ข้อ 21 เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ยังมีพระคัมภีร์อีกหลายตอนที่มีลักษณะเช่นนี้ อาทิ พระธรรมลูกาบทที่ 17 ข้อ 36 ลูกาบทที่ 23 ข้อ 17 ยอห์นบทที่ 5 ข้อ 4 เป็นต้น) แต่นี่ก็ไม่ใช่คำตอบที่จุใจผู้ถามและผู้อ่านอย่างแน่นอน เพราะยังจะมีคำถามตามมาอีกว่า ทำไมสมาคมฯจึงไม่ย้ายเชิงอรรถที่มีข้อ 21 ไปใส่ไว้ในส่วนที่เป็นเนื้อหาพระคัมภีร์เลย อย่างที่พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษบางฉบับทำ เพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหาว่า หาข้อ 21 ไม่พบ?
คำแนะนำก็ฟังดูดีและน่าจะใช้ได้เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน แต่ทางสมาคมฯ ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เพราะเรายึดหลักการแปลพระคัมภีร์ใหม่ตามพระคัมภีร์ใหม่ภาษากรีกของสหสมาคมพระคริสตธรรมสากลและในพระคัมภีร์กรีกที่ใช้เป็นมาตรฐานนั้น ได้เอาข้อ 21 ลงมาไว้ที่เชิงอรรถ ผู้อ่านก็อาจจะถามต่อว่าทำไมต้องไปตามเขา? คำตอบก็คือ เพราะพระคัมภีร์ใหม่ภาษากรีกของสหสมาคมฯนั้น มีความถูกต้องกับต้นฉบับดั้งเดิมมากที่สุด และยังใช้เป็นฉบับมาตรฐานในการแปลพระคัมภีร์ใหม่ทั่วโลก คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสหสมาคมฯ ได้ประชุมกันพิจารณาสำเนาโบราณจำนวนมากอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้แน่ใจว่า ได้สำเนาที่ถูกต้องกับต้นฉบับมากที่สุด โดยพิจารณาจากประเภทและอายุ (ความเก่าแก่) ของสำเนานั้นๆ สิ่งของบางอย่างยิ่งใหม่เท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับสำเนาต้นฉบับพระคัมภีรืกลับตรงกันข้ามคือ ยิ่งเก่าแก่เท่าไรยิ่งดี เพราะนั่นหมายความว่า สำเนานั้นๆใกล้เคียงหรือใกล้ชิดกับต้นฉบับจริงมากที่สุด มีการผันแปรหรือเบี่ยงเบนน้อยที่สุดนั่นเอง อนึ่งในการพิจารณาตัดสินใจของคณะกรรมการเกี่ยวกับสำเนาต้นฉบับที่จะใช้เป็นเนื้อหาพระคัมภีร์ พวกเขาๆด้แบ่งเกรดความแน่ใจออกเป็นสี่ระดับดังต่อไปนี้ คือ เกรด A หมายถึงแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์เกี่ยวกับตัวเนื้อหาพระคัมภีร์ เกรด B หมายถึงค่อนข้างแน่ใจ เกรด C หมายถึง แน่ใจเพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ พวกเขาไม่แน่ใจว่าจะเอาสำเนาโบราณอันไหนไว้ในส่วนเนื้อหาและอันไหนไว้ในเชิงอรรถ และสุดท้ายเกรด D หมายถึง ไม่มั่นใจเลย ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นน้อยมาก
ดังนั้นหากเราพิจารณาสำเนาโบราณของพระธรรมมัทธิวบทที่ 17 ข้อ 21 ในพระคัมภีรืใหม่ภาษากรีกของสหสมาคมฯ เราพบว่า สำเนาโบราณบางอันมีข้อ 21 อยู่ในส่วนของเนื้อหา เช่น สำเนา Epharemi Rescriptus ฯลฯ ส่วนสำเนาโบราณที่ไม่มีข้อ 21 เลยเช่นสำเนา Sinaiticus Codex และอื่นๆ คณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สำเนาต้นฉบับโบราณที่ถูกต้องกับต้นฉบับน่าจะไม่มีข้อ 21 และ กรรมการลงความเห็นให้เกรด A กับการพิจารณาข้อนี้ นั่นก็หมายความว่า ต้นฉบับโบราณไม่มีข้อ21 ทั้งนี้เพราะ Sinaiticus Codex มีอายุในศตวรรษที่ 4 ซึ่งเก่าแก่กว่า Ephraemi Rescriptus ซึ่งมีอายุอยู่ในศตวรรษที่ 5
ในทำนองคล้ายคลึงกัน หากเราอ่านพระธรรมยอห์นบทที่ 5 ข้อ 3-5 เราจะพบว่า ในเนื้อหาของพระคัมภีร์ไม่มีข้อ 4 แต่ข้อ 4 ไปปรากฎที่เชิงอรรถ คณะกรรมการของสหสมาคมฯได้ศึกษาสำเนาโบราณหลายอัน แล้วที่สุดก็จัดเกรด A ให้กับสำเนาที่ไม่มีข้อ 4 เพราะสำเนาโบราณที่ไม่มีข้อ 4 คือ P66 (สำเนาที่บันทึกบนกระดาษพาไพรัสมีอายุราว ค.ศ.200) มีความเก่าแก่มากกว่าสำเนาโบราณที่มีข้อ 4 อยู่ในส่วนเนื้อหาคือ Alexandrinus Codex (ศตวรรษที่ 5) ดังนั้น เราจึงแน่ใจว่า ต้นฉบับดั้งเดิมไม่มีข้อ 4 แต่ต่อมาภายหลังก็มีการเพิ่มข้อความลงไป ถึงกระนั้นก็ยังคงถือว่าเป็นของเก่าแก่อยู่
เรื่องของสำเนาต้นฉบับโบราณเป็นเรื่องยุ่งยาก ที่ควรทิ้งไว้ให้นักวิชาการค้นคว้าต่อไป แต่ที่หยิบยกมาอธิบายบ้าง ก็เพื่อจะตอบคำถามว่าทำไมพระคัมภีร์ของสมาคมฯจึงไม่มีบางข้อปรากฎในเนื้อหา (แต่ไปปรากฎในส่วนเชิงอรรถ) สำหรับเราคริสตชน เราควรมีความสุข และความอิ่มเอมใจเมื่อได้อ่าน ใคร่ครวญและดำเนินตามพระวจนะของพระเจ้าไม่ใช่หรือ?
ข้อมูลจาก : สมาคมพระคริสตธรรมไทย
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
อันนี้ตังหากที่อยากรู้คำตอบ โห ใครพอจะรู้บ้างนี่bigect07 เขียน: พระคัมภีร์คาทอลิก ฉบับ Vulgate เป็นภาษาละตินมีนะครับ (ฉบับตั้งแต่ คริสตศตวรรษที่ 3 น่ะครับ) ฉบับ NIV ฉบับ Septuagint LXX ฉบับ Bishop(1568) ฉบับ DRB(1899) ก็มีครับ แต่ของสมาคมไม่มี ไม่รู้ทำไมเหมือนกันอ่ะครับ
น่าจะเป็น เรื่อง สารระบบแห่ง ไนซีอา (ของโปรแตสแตนท์)
ในขณะที่ เราคริสตัง ใช้ สารระบบ แห่งอเลกซานเดรีย
ซึ่งใน 2สารระบบนี้ ความต่างประการหนึ่ง
ก็คือ การลำดับบัญญัติ10ประการที่ ไม่ตรงกันครับ
ในขณะที่ เราคริสตัง ใช้ สารระบบ แห่งอเลกซานเดรีย
ซึ่งใน 2สารระบบนี้ ความต่างประการหนึ่ง
ก็คือ การลำดับบัญญัติ10ประการที่ ไม่ตรงกันครับ
แต่น่าสังเกตนะครับ ที่มีแต่พระคัมภีร์ออโธด็อก กับคาทอลิกฉบับแปลมาเก่าๆหน่อย ถึงจะมี พอมาเป็นของโปรแตสตัน ไม่มีเลย ขนาดพันธสัญญาเดิม บางเล่มยังไม่เท่ากันเลยครับ เช่น ดาเนียล เอสเธอร์ ของคาทอลิก กับออโธด็อกจะยาวกว่า ใช้มาตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งพระศาสนจักร พอมีนิกายโปรแตสตัน ของเค้าก็สั้นลงเลย
ดาเนียล เอสเธอร์ ในส่วนที่ขาดหายไปbigect07 เขียน: แต่น่าสังเกตนะครับ ที่มีแต่พระคัมภีร์ออโธด็อก กับคาทอลิกฉบับแปลมาเก่าๆหน่อย ถึงจะมี พอมาเป็นของโปรแตสตัน ไม่มีเลย ขนาดพันธสัญญาเดิม บางเล่มยังไม่เท่ากันเลยครับ เช่น ดาเนียล เอสเธอร์ ของคาทอลิก กับออโธด็อกจะยาวกว่า ใช้มาตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งพระศาสนจักร พอมีนิกายโปรแตสตัน ของเค้าก็สั้นลงเลย
โปรแตสแตนท์ ถือเป็น อธิกธรรมครับ
ส่วนคาทอลิค ถือ เป็น สารระบบที่2