Belong to the Truth Jesus Christ

มาลองดูกันว่า เจ้า Anti-Virus ของคุณเด็ดแค่ไหน

1. เปิดโปรแกรม NotePad ขึ้นมา (ไว้ที่หน้าจอ Desktop จะสะดวกสุด)
2. Copy โค้ดด้านล่างไปใส่ใน NotePad

X5O!P%@AP[4\PZX54(P^)7CC)7}$EICAR-STANDARD-ANTIVIRUS-TEST-FILE!$H+H*

3. Save เป็นชื่อ virus.com
4. แล้วลองรันดู

ถ้า Anti-Virus ไม่แจ้งว่าเป็นไวรัสก็แสดงว่า ถึงเวลาเปลี่ยน Anti-Virus เพราะว่ามันไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการตรวจจับ
ปล. วิธีนี้ไม่มีอันตรายกับเครื่องครับ เพราะมันเป็นวิธีทดสอบ Anti-Virus ของเราเท่านั้น ไม่ใช่ไวรัสจริงๆ

นำมาจากหนังสือ : คอมพิวเตอร์ทูเดย์
ลงโดย Matthew เจ้าชายราตรีอัศวินแห่งรัติกาล

ของเรายังใช้ได้

โล่งอก

ขอบใจจ้า

โอ้ว สั่งลบทันใจ 

ทำแล้ว อิอิ ยังมีประสิทธิภาพอยู่

ลองทำดูแล้วได้ผลครับ โปรแกรมผม mcafee auto updates เองทุกวัน นั่งเล่นไปเดี๋ยวมันก็ updates ให้แล้วสะดวกดี

ขออนุญาต เชียร์ KASPERSKY เจ๋งมั่กๆ ครับ 

warlock เขียน: ขออนุญาต เชียร์ KASPERSKY เจ๋งมั่กๆ ครับ 

ผมว่า Norton เจ๋งสุดแล้วครับ

bigect07 เขียน:

warlock เขียน: ขออนุญาต เชียร์ KASPERSKY เจ๋งมั่กๆ ครับ 

ผมว่า Norton เจ๋งสุดแล้วครับ

อืม....แต่ว่าเท่าที่สำรวจมา Norton ก้อยังไม่ 100 % นะจ๊ะ  :afro: อันนี้ลูกค้า เค้าบอกมาอะ 

Tip : ทำไม Windows ชัตดาวน์ช้ามากๆ

ปัญหาใหญ่สุดที่เป็นตัวการสำคัญที่ให้การชัดดาวน์ช้าเกินเหตุก็คือ การถอดถอนโพรไฟล์ผู้ใช้ขณะนั้น (current user profile) ออกจากหน่วยความจำนั่นเอง
สาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็เนื่องจากว่า เมื่อโปรแกรมของผู้ผลิตรายอื่น หรือแม้แต่แอพพลิเคชันของไมโครซอฟท์เองที่บางครั้งไม่สามารถออกจากหน่วยความจำของระบบได้หมดจด (ยังคงเหลือค้างบางโมดูลการทำงานของโปรแกรม หรือบริการบางอย่างในระบบ) หน้าที่ของ Windows ก็คือ มันจะต้องใช้ความพยายามทั้งหมด เพื่อถอดถอนโพรไฟล์ออกไปจนกว่าระบบจะยอมรับว่า ไม่สามารถทำได้ มันจึงค่อยชัตดาวน์ และถึงแม้ว่า คุณจะหาพบแอพพลิเคชันที่เป็นต้นตอของปัญหา แต่คุณก็คงจะทำอะไรมันไม่ได้อยู่ดี (นอกจากเลิกใช้โปรแกรมนั้น แต่ดูจะเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายไป หรือเปล่า)
ไมโครซอฟท์เข้าใจถึงปัญหานี้ดี ทางบริษัทจึงได้พัฒนายูทิลิตี้แจกฟรีที่สามารถทำความสะอาดโพรไฟล์ของผู้ใช้ที่ตกค้างออกจากระบบได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งทำให้คุณไม่ต้องพบกับปัญหาการรอคอยที่ยาวนานขณะชัตดาวน์ ยูทิลิตี้ดังกล่าวชื่อว่า User Profile Hive Cleanup Service เมื่อคุณสั่งรัน และติดตั้งตามขั้นตอนวิเศษ คุณอาจจะรู้สึกว่า ตัวโปรแกรมติดตั้งไม่เห็นได้ทำอะไรให้เลย แต่ถ้าคุณเปิดดูรายชื่อของบริการที่ทำงานอยู่ในขณะนั้น คุณก็จะพบกับบริการใหม่ที่กำลังทำงานอยู่แบคกราวด์ดังรูปข้างล่างนี้


ในหน้าต่าง Control Panel ให้คุณดับเบิ้ลคลิกบนไอคอน Admininstrative Tools จากนั้นดับเบิ้ลคลิกบนไอคอน Services

ไอเดียของบริการนี้ก็คือ มันจะทำหน้าที่เรียกคืนทรัพยากรระบบทั้งหมด เมื่องาน(task) หนึ่งๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว (หน่วยความจำ ส่วนจัดการต่างๆ เป็นต้น) โดยมันจะคอยสอดส่องผู้ใช้ที่ล็อกออฟ และทวนสอบว่า มีทรัพยากรระบบที่ไม่ถูกใช้และต้องเรียกคืน หรือไม่ ซึ่งด้วยวิธีนี้ทำให้ระบบทราบทันทีว่า มีโพรไฟล์ใดที่ไม่ถูกใช้งาน แต่ยังคงค้างอยู่ และต้องกำจัดออกไป คราวนี้ ไม่ว่าคุณจะชัตดาวน์ ล็อกออฟ หรือรีสตาร์ท ระบบก็จะสามารถตอบสนองได้ภายในไม่กี่วินาที (แทนที่จะต้องไปพะวงกับความพยายามถอดถอนโพรไฟล์ตกค้างในหน่วยความจำ) ลองดาวน์โหลดไปติดตั้งดูนะครับ



UPHClean-Setup.msi

ftp://65.166.65.4/windows2000/UPHClean-Setup.msi
ftp://ftp.idp.net/windows2000/UPHClean-Setup.msi

จาก http://www.dekitclub.com/
ลงโดย Matthew  เจ้าชายราตรีอัศวินแห่งรัติกาล

ขอบใจครับ

วิธีการเปลี่ยนเน็ต 56k ให้เป็น 100k ครับ
-----เน็ต ช้า แก้ตรงนี้นะ-----
- การตั้งค่าต่างๆหลังจากทำ Dail-up แล้ว
คลิกขวาเลือก properties ที่ไอคอน Connect ครับ

- ได้หน้าต่าง Properties คลิกที่ Configure
เลือกความเร็วสูงสุดอันสุดท้าย

- คลิกที่ Networking เลือก Qos Packet Scheduler คลิก o.k.

- คลิกขวา My computer เลือก properties ที่หน้าต่าง System Properties เลือก Hardware คลิกเข้าไปที่ Device Manager

- ที่หน้าต่าง Device Manager คลิกที่ +Ports(COM&LPT) ถ้าโมเด็มเชื่อมต่อที่พอร์ตไหนก็ปรับแต่งที่พอร์ตนั้น เช่น คลิกขวาที่ Communications Port (com1) แล้วเลือกคำสั่ง Properties

- จะได้หน้าต่าง Communications Port (com1) properties คลิกไปที่ Port Settions ที่ช่อง Bits per sacound ปรับความเร็วสูงสุด

- กลับมาที่หน้าจอคอมพิวเตตอร์ คลิกปุ่ม Start > Run พิมพ์ gpedit.msc ลงในช่อง Open คลิก o.k.

- จะปรากฏหน้าต่าง Group Policy ขึ้นมา ดับเบิ้ลคลิกไปที่ Administrative Templates
- ดับเบิ้ลคลิกที่ Network
- ดับเบิ้ลคลิกที่ Qos Packet Scheduler
- ดับเบิ้ลคลิกที่คำสั่ง Limit reservable bandwidth

- จะได้หน้าต่าง Limit reservable bandwidth Properties คลิกที่แท็บ Setting เลือกช่อง Enabled ที่ช่อง Bandwidth limit (%) ปรับค่าเป็น 0 แล้วคลิก o.k.

- เปิดหน้าต่าง Control Panel ดับเบิ้ลคลิกเปิด Phone and Modem Options ขึ้นมา

- เมื่อได้หน้าต่าง Phone and Modem Options ขึ้นมา ก็คลิกที่แท็บ Modem แล้วคลิกเลือก Properties

- จะปรากฏหน้าต่าง Agere System PCI Soft Modem Properties คลิกเลือกแท็บ Advaced แล้วใส่ค่านี้ s10=255 w=12 s95=14 ลงไปในช่อง Extra initialization commands แล้วคลิก o.k.

- กลับมาที่หน้าจอคลิกปุ่ม Start > Run พิมพ์ win.ini แล้วคลิก o.k.

ที่หน้าต่าง win.ini ใส่ค่านี้ต่อท้ายลงไปครับ

[Ports]
LPT1:=
LPT2:=
LPT3:=
COM1:=128000,n,8,1,x
COM2:=921600,n,8,1,x
COM3:=115200,n,8,1,x
COM4:=921600,n,8,1,x
COM5:=921600,n,8,1,x
COM6:=921600,n,8,1,x
COM7:=921600,n,8,1,x
COM8:=921600,n,8,1,x
FILE:=

แล้วก็คลิก File เลือกคำสั่ง Save เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ 
จาก http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=22047
ลงโดย  Matthew  เจ้าชายราตรีอัศวินแห่งรัติกาล

  แหมๆๆๆอย่างได้คนเก่งมาอยู่ที่บ้านจัง ไม่ได้จีบนะ ชมเฉยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

warlock เขียน: ขออนุญาต เชียร์ KASPERSKY เจ๋งมั่กๆ ครับ 

เชียรืด้วย

ที่บ้านเรา กับ มหาลัยก็ใช้อยู่

เราไม่มีทางเปลี่ยนเน็ต56Kเป็น100Kได้จริงหรอกครับ เพราะขีดจำกัดของอนาล็อกอยู่ที่ 56K ถ้าทำได้ คงมีโมเด็ม100KแบบDial Upเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าดูจากแผนการตลาดของพวกบริษัทฮาร์ดแวร์สมัยนี้ คงจะมีการผลิตมาฟันราคากันแน่นอนถ้ามันทำได้จริง

เห็นด้วยครับ  ว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนได้
ความเร็วในการ connect นั้น ขึ้นอยู่กับ สายโทรศัพท์,  ขีดจำกัดของตัวโมเด็ม สุดท้ายถึงจะอยู่ที่ configure ครับ  ถึงรับจะปรับ configure อย่างไร ถ้า modem มีขีดจำกัดก็ทำอะไรไม่ได้ครับ

เปลี่ยนมาใช้ ADSL ดีกว่าไหมครับ  บางทีใครใช้เน็ตบ่อย ๆ อาจจะถูกกว่าก็ได้นะครับ

ของผมก็เจอครับ

ขอแชร์ประสบการณ์หน่อยนึงครับ  จากที่มีบางคนบอกว่า Anti-virus ค่ายไหนดีกว่าค่ายไหน
จริง ๆ ไม่มีคำตอบหรอกครับ  อยู่ที่แง่มุมและความต้องการของเรามากกว่า

Anti-virus ของค่าย norton หรือ symantec การทำงานค่อนข้างดีครับ  มีการ scan ไวรัสอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นความปลอดภัยจสูงมาก  แต่ข้อเสียคือ จะทำให้เครื่องของเราอืดลงไปครับ

จะมี Anti-virus ของค่ายอื่น ที่ลดความเคร่งครัดในการสแกนลงมา เพื่อทำให้เครื่องของเราทำงานได้เร็วขึ้น ก็อย่างเช่น Trend-Micro คุณภาพถือว่าใช้ได้ครับ

แต่ถ้าถามคนขายเขาก็ต้องว่าของเขาดีกว่าแหละครับ  แต่อันนี้มาจากประสบการณ์ของผมเอง อาจจะไม่ถูกสักทีเดียวก็ได้ครับ

ก็ผมก็ใช้ ADSL นะครับแต่อันนี้ก็เป็นวิธีอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนใช้ได้ผลและบอกต่อๆกันมาถึงมันจะทำได้ไม่ถึงจริงแต่อย่างน้อยก็เร็วกว่าเดิมนะครับ  ลองคลิกลิ้งที่ผมฝากไว้ให้สิครับ มีหลายคนที่ใช้ได้ผลเค้ามาคอนเฟริมอยู่นะครับ
อ่ะให้อีกทีนึง

http://racingweb.net/forums/showthread.php?t=22047

อ้อลืมบอกไปครับว่าหลังจากเปลี่ยนแล้วลองเช็คความเร็วดูโดยคลิ๊กที่นี่ก็ได้นะครับ

http://www.adslthailand.com/bandwidthme ... lmeter.php

TheGrace เขียน: Anti-virus ของค่าย norton หรือ symantec การทำงานค่อนข้างดีครับ  มีการ scan ไวรัสอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นความปลอดภัยจสูงมาก  แต่ข้อเสียคือ จะทำให้เครื่องของเราอืดลงไปครับ

จริงครับทำให้เครื่องอืดมากถึงจะดีก็เตอะ

:+: seraphim :+: เขียน:   แหมๆๆๆอย่างได้คนเก่งมาอยู่ที่บ้านจัง ไม่ได้จีบนะ ชมเฉยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ยังไม่มีใครเค้าว่าอะไรเล๊ย พี่ก็ร้อนตัวไปซะงั้น

TheGrace เขียน: ของผมก็เจอครับ

ขอแชร์ประสบการณ์หน่อยนึงครับ  จากที่มีบางคนบอกว่า Anti-virus ค่ายไหนดีกว่าค่ายไหน
จริง ๆ ไม่มีคำตอบหรอกครับ  อยู่ที่แง่มุมและความต้องการของเรามากกว่า

Anti-virus ของค่าย norton หรือ symantec การทำงานค่อนข้างดีครับ  มีการ scan ไวรัสอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นความปลอดภัยจสูงมาก  แต่ข้อเสียคือ จะทำให้เครื่องของเราอืดลงไปครับ

จะมี Anti-virus ของค่ายอื่น ที่ลดความเคร่งครัดในการสแกนลงมา เพื่อทำให้เครื่องของเราทำงานได้เร็วขึ้น ก็อย่างเช่น Trend-Micro คุณภาพถือว่าใช้ได้ครับ

แต่ถ้าถามคนขายเขาก็ต้องว่าของเขาดีกว่าแหละครับ  แต่อันนี้มาจากประสบการณ์ของผมเอง อาจจะไม่ถูกสักทีเดียวก็ได้ครับ

จริงๆแล้ว ไม่มี Anti-Virus ของค่ายไหน จับไวรัส สปายแวร์ มัลแวร์ สแปม และอื่นๆ ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ละค่ายประสิทธิภาพต่างกัน อันนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้มากกว่า  :afro:

ปล. เห็นด้วยคะ เหอๆๆๆ

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน: โอ้ว สั่งลบทันใจ 

เหมือนกันครับ ใช้ได้ๆ