Belong to the Truth Jesus Christ

มี fww mail ดี ๆเยอะ เลยอยากเอามาแบ่ง

บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม) หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย................ ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ อยากให้ทุกคนได้อ่าน ข้อความนี้ มีความหมายดีนะ

ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า
แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น.....
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น

การแก้ไขความขัดแย้ง

อาจารย์เปาโลสอนในเรื่องของความขัดแย้งว่า "ในร่างกายอันเดียวนั้น เรา มีอวัยวะหลายอย่าง และ
อวัยวะนั้นๆมิได้มีหน้าที่เหมือนกันฉันใด พวกเรา ผู้ยังเป็นหลายคนยังเป็นกายเดียวกัน เป็นอวัยวะแก่กัน
และกันฉันนั้น

หมายถึงว่าเราทุกคนมีความสามารถต่างกัน มีพื้นเพ หรือมุมมอง และ อารมณ์หรือแม้แต่วัฒนธรรมที่ไม่
เหมือนกัน เมื่อไรก็ตามที่บุคคลสอง คนอยู่ร่วมกัน ย่อมมีความขัดแย้งไม่ช้าก็เร็ว การมีข้อขัดแย้งไม่ใช่
ปัญหา แต่ทุกคนแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ เมื่อเราไม่สามารถแก้ข้อขัดแย้งที่เกิด ขึ้นที่ทำงาน ความคิด
แรกของคนส่วนใหญ่คือการเปลี่ยนงาน พยายาม ค้นหาสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป มากกว่า
พยายามแก้ปัญหาตึง เครียด เป็นการถอยหนีง่ายๆมากว่าคิดจะต่อสู้

แก้ปัญหาหรือตัดปัญหา ประโยคหนึ่งที่ฉันอยากให้คุณจำได้คือ "ผลตอบแทนจากการแก้ปัญหาความขัด
แย้ง ย่อมยิ่งใหญ่กว่า
การตัดความสัมพันธ์"การหันหลังให้แล้วเดินจากไปอาจง่ายกว่า พยายามแก้ปัญหาความขัดแย้ง

ทว่าทุกครั้งที่คุณสามารถแก้ปัญหาได้ คุณจะรู้สึกตัวเองเป็นคนมีคุณภาพ และสามารถรับมือกับความขัด
แย้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้น
ในวันข้างหน้าอย่างง่ายดาย

การตอบสนองที่สร้างผลเสีย

-ไม่ยอมรับปัญหาหรือความขัดแย้ง
-ถอยหนี หลบเลี่ยงผู้คนหรือที่มาของความขัดแย้ง
-มองข้ามความสำคัญของความขัดแย้ง
-พยายามแสดงความรู้สึกนึกคิด แต่ขาดความจริงใจ
-เก็บความรู้สึก เก็บความขัดแย้ง ความโกรธ ความไม่พอใจไว้ภายในชนิดที่ไม่มีวันลืม
-กล่าวโทษตัวบุคคลแทนที่จะเพ่งเล็งปัญหา
-ตำหนิคนอื่น โดยไม่ยอมพิจารณาตัวเอง
-อยากเอาชนะผู้อื่น ไม่คำนึงว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ และยอมแพ้ความขัดแย้ง
-ซื้อของกำนัลเป็นการปลุกปลอบ แต่ไม่จัดการที่ประเด็นความขัดแย้ง

ความจริงที่ดำรงอยู่เสมอ

1.เปลี่ยนแปลงทัศนคติส่วนตัว ด้วยการยอมรับว่า คุณย่อมกระทำผิดได้ เสมอ เมื่อผิดก็ย่อมรับผิด ถ้าคุณ
ถูกก็อย่าอวดอ้าง ถ้าเราเป็นฝ่ายที่ต้อง
วิจารณ์

2.รับผิดชอบปฎิกิริยาทางอารมณ์ของตนเอง เราไม่อาจตำหนิคนอื่นฐาน
ทำให้เราเกิดอารมณ์ และบันดาลโทสะออกมา ความโกรธควรเป็น ปฎิกิริยาที่อยู่ในสถานการณ์ขาดความ
เที่ยงธรรมไม่ใช่ความผิดของ
ทั้งสองฝ่าย

3.เห็นความสำคัญของการมองในแง่มุมของอีกฝ่ายเมื่อเกิดกรณีขัดแย้ง แล้วพยายามทำความเข้าใจ ถ้า
คุณอยู่ในอารมณ์อีกอย่างหนึ่งจะรู้สึก อย่างไร คุณจะพบว่าคนอื่นก็มีพื้นฐานความรู้สึกที่มีเหตุผล

เทคนิคที่อาจช่วยคุณเข้าใจคนอื่น เหมือนกับที่คุณอยากให้เขาเข้าใจ คุณคือ ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ความ
ขัดแย้งครั้งนี้ให้บทเรียนอะไรเราบ้าง แต่มันเป็นบทเรียนอะไรก็ตาม คุณสามารถตักตวงเอาประโยชน์ ด้วย
การเรียนรู้จากมันได้

ขอบคุณครับ อ่านแล้วยอมรับว่าจริงมาก ๆ ครับ