ถามความคิดเห็นหน่อยครับ เรื่องการสวด
เออหนอ ถ้าถามว่าเป็นคริสต์จะไปนั่งสมาธิแบบพุทธได้ไหมนี่ มันจะเข้าข่ายเดียวกันไหมหนอ บ้างก็ว่าได้บ้างก็ว่าไม่ได้
อัตลักษณ์สำคัญไหมหนอ หรือว่าแค่เอาไว้พูดเล่นๆ ทำอะไรก็ได้ถ้าใจยกหาพระ เราจะสำลักการยกใจหาพระเหมือนวัยรุ่นไทยกำลังสำลักเสรีภาพกันอยู่ไหมหนอ น่าคิดๆ
อัตลักษณ์สำคัญไหมหนอ หรือว่าแค่เอาไว้พูดเล่นๆ ทำอะไรก็ได้ถ้าใจยกหาพระ เราจะสำลักการยกใจหาพระเหมือนวัยรุ่นไทยกำลังสำลักเสรีภาพกันอยู่ไหมหนอ น่าคิดๆ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่านะครับ สวดแบบนิกายไหนก็เหมือนกันอ่ะครับ ยังไงซะเราก็สวดหาพระเจ้าของเรา
ผมว่าคริสตสัมพันธ์ไม่น่าเป็นการสัมพันธ์แบบอะไรก็ได้หมด สัมพันธ์กันไปหมด ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงจะรวมนิกายกันได้ไปนานแล้วล่ะครับ
ผมจึงคิดว่าในฐานะที่เป็นคาทอลิก ก็สวดสายประคำแบบคาทอลิกไปก่อนดีกว่าครับ ก็ในเมื่อเรามีสายประคำของเราเองแล้ว ก็สวดแบบของเราไป ตัวผู้สวดเองจะได้ไม่สับสนด้วยครับ
ผมจึงคิดว่าในฐานะที่เป็นคาทอลิก ก็สวดสายประคำแบบคาทอลิกไปก่อนดีกว่าครับ ก็ในเมื่อเรามีสายประคำของเราเองแล้ว ก็สวดแบบของเราไป ตัวผู้สวดเองจะได้ไม่สับสนด้วยครับ
ผมมองว่าคุณพ่อที่ไม่เห็นด้วย ท่านคงไม่อยากให้เป็นที่สะดุดแก่คนอื่นนะครับbigect07 เขียน: คือว่าผิดมั้ยครับ ที่คาทอิก จะสวดสายประคำทั้งของเราเอง และสายประคำของออโธด็อก คุณพ่อบางท่านบอกว่าได้ แต่ให้สวดส่วนตัว บางท่านบอกว่าไม่ได้ เอาไงกันแน่นี่ครับ เลยอยากถามความเห็นพี่น้องดู
การสวดภาวนาที่ดีที่สุดไม่ใช่ที่รูปแบบ แต่มันออกมาจากใจครับ ผมว่าลองอ่านอันนี้ คุณจะได้คำตอบเองนะครับว่าทำได้หรือไม่ได้
ทำไมสวดภาวนาวอนขอแล้วไม่ได้ผล?
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3192.0
ผมก็ มีความคิดแบบเดียวกะพี่โฮลี่ครับ สงสัยพ่อกลัวจะเป็นที่สะดุด แต่ยังไง ผมก็ จะสวดเป็นส่วนตัวหละครับ ไม่ให้ชาวบ้านที่เป็นคทอลิกเห็น แต่ยังไง ผมก็ยังสวดสายประคำคาทอลิกต่อไปครับ ไม่ทิ้งคาทอลิกแน่ๆ อันนั้น ไว้สวดบ้าง
แก้ไขล่าสุดโดย Big_TC29 เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 30, 2007 8:21 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อันนี้โอเคย์ค่าๆๆๆ ลองหลายๆอย่างดู เพราะยังๆวิธีการสวดมันก็ไม่ต่างกันมาก ความหมายพอๆกันbigect07 เขียน: ผมก็ มีความคิดแบบเดียวกะพี่โฮลี่ครับ สงสัยพ่อกลัวจะเป็นที่สะดุด แต่ยังไง ผมก็ จะสวดเป็นส่วนตัวหละครับ ไม่ให้ชาวบ้านที่เป็นคทอลิกเห็น
เเต่ อย่าลืมการสวดเเบบคาทอลิกก็โอเคเเย้วๆๆๆ
สวดยังไงอ่ะ แบบออโธด๊อก..... สวดไม่เป็น...
วิธีการสวดให้มีสมาธิและจดจ่อกับเนื้อหาการสวด ((อันนี้เทคนิคส่วนตัว))
อันนี้ผมสังเกตตัวเอง สังเกตคนมีชื่อเสียงทั้งหลาย.... คือเคยมีนักจิตวิทยามาพูดเกี่ยวกับการทำงานของสมองอ่ะ
แล้วผมก็เอามาสังเกต คนมีชื่อเสียงประสบความสำเร็จในชีวิต เวลาพูดเค้าจะขยับหน้าตา พงกหัว คือแบบไม่นิ่งอ่ะ
นั่นแหละ ทำให้เค้ามีสมาธิ จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ เพราะอวัยของเค้า อยู่ในสิ่งเดียวที่กำลังพูด ทำให้เค้าพูดรู้เรื่อง พอจะคิดก็คิดออก และลูกกระตาก็กรอกไปกรอกมา กรอกไปซ้ายบน มาขวาล่าง ขวาบน ซ้ายล่าง มันก็มีส่วนกับการทำงานของสมองเหมือนกัน..... ((เดี๋ยววันหลังมาเล่าให้ฟัง ผมว่าหลายคนคงรู้แล้วแหละ คือฟังเรื่องนี้แล้ว ก็อัศจรรย์ใจ ขอบคุณพระเจ้า ร่างกายเรานี่มีค่าจริงๆ มันซับซ่อนมาก))
ผมก็เลยเอามาแอพพลายกับการสวด เวลาสวดเราต้องขยับใบหน้า และใส่อารมณ์ของเราลงไป แบบให้อินอ่ะ
แล้วจะทำให้การสวดมีสมาธิ มาจากใจที่ร้อนรนจริงๆ....
ลองๆดูนะครับ ผมทำแล้วได้ผล..... ((แต่เมื่อกี้อ่านบทความที่พี่โฮลี่ให้มา มันก็จริงแหะ... บางทีเราสวดเราก็เร่งเสียเหลือเกิน)) แต่ก็ลองดูแล้วกันฮะ
ไม่ใช่สวดๆๆๆๆ วันทามารีอา... ((คือไรวะ)) เปี่ยมด้วยหรรษทาน((แปลว่าไรอ่ะ)) พระเจ้าสถิตย์กับท่าน((อืม)) สวดปาวๆๆ... แต่ไม่รู้เรื่อง......
วิธีการสวดให้มีสมาธิและจดจ่อกับเนื้อหาการสวด ((อันนี้เทคนิคส่วนตัว))
อันนี้ผมสังเกตตัวเอง สังเกตคนมีชื่อเสียงทั้งหลาย.... คือเคยมีนักจิตวิทยามาพูดเกี่ยวกับการทำงานของสมองอ่ะ
แล้วผมก็เอามาสังเกต คนมีชื่อเสียงประสบความสำเร็จในชีวิต เวลาพูดเค้าจะขยับหน้าตา พงกหัว คือแบบไม่นิ่งอ่ะ
นั่นแหละ ทำให้เค้ามีสมาธิ จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ เพราะอวัยของเค้า อยู่ในสิ่งเดียวที่กำลังพูด ทำให้เค้าพูดรู้เรื่อง พอจะคิดก็คิดออก และลูกกระตาก็กรอกไปกรอกมา กรอกไปซ้ายบน มาขวาล่าง ขวาบน ซ้ายล่าง มันก็มีส่วนกับการทำงานของสมองเหมือนกัน..... ((เดี๋ยววันหลังมาเล่าให้ฟัง ผมว่าหลายคนคงรู้แล้วแหละ คือฟังเรื่องนี้แล้ว ก็อัศจรรย์ใจ ขอบคุณพระเจ้า ร่างกายเรานี่มีค่าจริงๆ มันซับซ่อนมาก))
ผมก็เลยเอามาแอพพลายกับการสวด เวลาสวดเราต้องขยับใบหน้า และใส่อารมณ์ของเราลงไป แบบให้อินอ่ะ
แล้วจะทำให้การสวดมีสมาธิ มาจากใจที่ร้อนรนจริงๆ....
ลองๆดูนะครับ ผมทำแล้วได้ผล..... ((แต่เมื่อกี้อ่านบทความที่พี่โฮลี่ให้มา มันก็จริงแหะ... บางทีเราสวดเราก็เร่งเสียเหลือเกิน)) แต่ก็ลองดูแล้วกันฮะ
ไม่ใช่สวดๆๆๆๆ วันทามารีอา... ((คือไรวะ)) เปี่ยมด้วยหรรษทาน((แปลว่าไรอ่ะ)) พระเจ้าสถิตย์กับท่าน((อืม)) สวดปาวๆๆ... แต่ไม่รู้เรื่อง......
มีคนไปรัสเซียแล้วซื้อรูปแม่พระมาฝากbigect07 เขียน: คือว่าผิดมั้ยครับ ที่คาทอิก จะสวดสายประคำทั้งของเราเอง และสายประคำของออโธด็อก คุณพ่อบางท่านบอกว่าได้ แต่ให้สวดส่วนตัว บางท่านบอกว่าไม่ได้ เอาไงกันแน่นี่ครับ เลยอยากถามความเห็นพี่น้องดู
ก็เป็นรูปแม่พระเป๊ะเลย
ขอความรุ้หน่อยว่าสายประคำของออร์โธดอกส์
ต่างจากคาทอลิกอย่างไร และสวดต่างกันอย่างไร
อยากรู้จริงๆ
อยู่ที่ว่าเราสวดหาใคร ไม่ว่าทำอย่างไร ถ้าไปทางพระเยซุเจ้าก็ไม่ผิดครับ พระเจ้าสอนให้เราเปิดใจ ไม่ใช่ใจคับแคบ จริงไหมครับ แต่เปิดใจในที่นี้คือเปิดใจหาพระเจ้าในมุมมองของคนอื่นนะครับ
ยังมีคนหัวโบราณหลายคนว่า "ของเราก็ดีอยู่แล้วและไปสวดทำไม"เพราะงี้สิครับถึงไม่มีการศาสนสัมพันธ์ซักที เราดีอยู่แล้วควรเรียนรู้ผู้อื่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเสียความเป็นคาทอลิกไปนะครับ แต่อย่าสวดให้เป็นที่สะดุดแล้วกัน อย่างน้อยเราก็ไม่ออกนอกลู่นอกทางพระเจ้าเป็นอันพอ
พระเยซูเจ้าไม่ได้บอกนี่ครับว่าโปรเตสแตนท์ คาทอลิก ออร์โธด๊อกซ์ แต่ท่านทรงสอนว่า การเป็นคริสตชน ไม่ใช่หรือครับ
อ้อการทำสำคัญมหากางเขนของพระศาสนจักรตะวันออก จะใช้3นิ้วนะครับ แล้วแตะขวาไปซ้าย
สวดแบบออร์โธด๊อกซ์หรอ ถ้าให้พี่บิกอธิบายจะระเอียดกว่าแต่ผมจะคร่าวๆ
จะเริ่มนับเม็ดเล็กเลย 1สายเค้า=2สายเรา นั่นคือ เค้ามีเม็กเล็ก10ชุด แต่ปกติเค้าจะสวด5สายเค้า(ก็เท่ากับ10สายเรา เม็ดเล็ก500ครั้ง)
สวดคล้ายๆสวดของคณะพระเมตตาๆครับ แต่อย่างที่บอกเริ่มที่เม็ดเล็กเลยเค้าจะสุดเม็ดเล็กว่า
"โกสปาดี่, ลีซูเซ คริสเต, ซิเน โบซี่, ปามิรุย เมีย,เกรชโนโก้"
ภาษาไทยแปลว่า "พระเยซูเจ้าข้าเมตตาลูกเทอญ"
เม็ดใหญ่จะสวดว่า
"เปรสเวียตาเอีย โบโกโรดิทเซ, สปาซี่ เมีย,เกรชโนโก้"
ภาษาไทยแปลว่า "พระมารดามารีย์เมตตาลูกเทอญ"
ยังมีคนหัวโบราณหลายคนว่า "ของเราก็ดีอยู่แล้วและไปสวดทำไม"เพราะงี้สิครับถึงไม่มีการศาสนสัมพันธ์ซักที เราดีอยู่แล้วควรเรียนรู้ผู้อื่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเสียความเป็นคาทอลิกไปนะครับ แต่อย่าสวดให้เป็นที่สะดุดแล้วกัน อย่างน้อยเราก็ไม่ออกนอกลู่นอกทางพระเจ้าเป็นอันพอ
พระเยซูเจ้าไม่ได้บอกนี่ครับว่าโปรเตสแตนท์ คาทอลิก ออร์โธด๊อกซ์ แต่ท่านทรงสอนว่า การเป็นคริสตชน ไม่ใช่หรือครับ
อ้อการทำสำคัญมหากางเขนของพระศาสนจักรตะวันออก จะใช้3นิ้วนะครับ แล้วแตะขวาไปซ้าย
สวดแบบออร์โธด๊อกซ์หรอ ถ้าให้พี่บิกอธิบายจะระเอียดกว่าแต่ผมจะคร่าวๆ
จะเริ่มนับเม็ดเล็กเลย 1สายเค้า=2สายเรา นั่นคือ เค้ามีเม็กเล็ก10ชุด แต่ปกติเค้าจะสวด5สายเค้า(ก็เท่ากับ10สายเรา เม็ดเล็ก500ครั้ง)
สวดคล้ายๆสวดของคณะพระเมตตาๆครับ แต่อย่างที่บอกเริ่มที่เม็ดเล็กเลยเค้าจะสุดเม็ดเล็กว่า
"โกสปาดี่, ลีซูเซ คริสเต, ซิเน โบซี่, ปามิรุย เมีย,เกรชโนโก้"
ภาษาไทยแปลว่า "พระเยซูเจ้าข้าเมตตาลูกเทอญ"
เม็ดใหญ่จะสวดว่า
"เปรสเวียตาเอีย โบโกโรดิทเซ, สปาซี่ เมีย,เกรชโนโก้"
ภาษาไทยแปลว่า "พระมารดามารีย์เมตตาลูกเทอญ"
อย่าที่น้องแมคพูดครับ ถูกต้อง ถ้ายังหัวโบราณอยู่ ยังไม่รู้จักหันเข้าหากัน เมื่อไหร่จะมีศาสนสัมพันธ์ การสวดสายประคำแบบออโธด็อกนี้ ผมไปเจอจากหนังสือเล่มนึงครับ ของคุณพ่อไรเขียน ผมจำไม่ได้(เป็นคุณพ่อคาทอลิก)แล้วผมเลยลองถามพ่อออโธด็อกดู ท่านก็เลยสอนให้สวด ก็เท่านั้น วิธีการสวด ก็เหมือนกะที่น้องแม็คบอกอ่ะครับ สวดถึงพระเยซู สวดถึงแม่พระเหมือนกัน ที่ผมโดนพ่อเจ้าวัดขอให้เลิกสวด เพราะท่านหัวโบราณ แต่พ่อท่านอื่นที่ หัวสมัยใหม่หน่อย จะไม่ห้ามนะครับ ท่านจะบอกว่า สวดได้ แต่สวดเป็นแบบส่วนตัวนะ ยังไง การสวดภาวนา มันก็มีหลายแบบ ที่เราต้องสวดวันทามารีอา หรือบทอื่นๆเหมือนกันก็เพื่อเอกภาพในการสวดครับ ส่วนพี่น้องบางท่าน อาจมีวิธีการสวดแบบส่วนตัว ก็ได้(หรือบางท่านไม่มีหว่า) ยังไงซะกรสวดภาวนา เป็นการสวดถึงพระ ผมเลยคิดว่า ผมสวด ก็ไม่เสียหายอะไร ยังไง ผมก็ยังยึดมั่นในคาทอลิกอยู่ ผมก็ยังสวดสายประคำคาทอลิกอยู่ประจำ ผมไปหาออโธด็อก ก็เพื่อศาสนสัมพันธ์เท่านั้นเอง คุณพ่อออโธด็อก เค้ายังไม่รู้จักคาทอลิกเท่าไรเลย ผมเลยเข้าไปหา ท่านก็รู้จักมากขึ้น คุณพ่อท่านึง ที่สนิทกะผมมาก ตอนไปวัดออโธด็อกด้วยกัน ท่านยังไปยืนสวดหน้ารูปแม่พระออโธด็อกเลยครับ ผมว่านะครับ ถ้าเราใจกว้างนิด ทั้ง 2 นิกาย จะสัมพันธ์กันมากขึ้น ความเชื่อก็เหมือนกัน ต่างแค่จารีตเท่านั้นเองMobster เขียน: อยู่ที่ว่าเราสวดหาใคร ไม่ว่าทำอย่างไร ถ้าไปทางพระเยซุเจ้าก็ไม่ผิดครับ พระเจ้าสอนให้เราเปิดใจ ไม่ใช่ใจคับแคบ จริงไหมครับ แต่เปิดใจในที่นี้คือเปิดใจหาพระเจ้าในมุมมองของคนอื่นนะครับ
ยังมีคนหัวโบราณหลายคนว่า "ของเราก็ดีอยู่แล้วและไปสวดทำไม"เพราะงี้สิครับถึงไม่มีการศาสนสัมพันธ์ซักที เราดีอยู่แล้วควรเรียนรู้ผู้อื่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเสียความเป็นคาทอลิกไปนะครับ แต่อย่าสวดให้เป็นที่สะดุดแล้วกัน อย่างน้อยเราก็ไม่ออกนอกลู่นอกทางพระเจ้าเป็นอันพอ
พระเยซูเจ้าไม่ได้บอกนี่ครับว่าโปรเตสแตนท์ คาทอลิก ออร์โธด๊อกซ์ แต่ท่านทรงสอนว่า การเป็นคริสตชน ไม่ใช่หรือครับ
อ้อการทำสำคัญมหากางเขนของพระศาสนจักรตะวันออก จะใช้3นิ้วนะครับ แล้วแตะขวาไปซ้าย
สวดแบบออร์โธด๊อกซ์หรอ ถ้าให้พี่บิกอธิบายจะระเอียดกว่าแต่ผมจะคร่าวๆ
จะเริ่มนับเม็ดเล็กเลย 1สายเค้า=2สายเรา นั่นคือ เค้ามีเม็กเล็ก10ชุด แต่ปกติเค้าจะสวด5สายเค้า(ก็เท่ากับ10สายเรา เม็ดเล็ก500ครั้ง)
สวดคล้ายๆสวดของคณะพระเมตตาๆครับ แต่อย่างที่บอกเริ่มที่เม็ดเล็กเลยเค้าจะสุดเม็ดเล็กว่า
"โกสปาดี่, ลีซูเซ คริสเต, ซิเน โบซี่, ปามิรุย เมีย,เกรชโนโก้"
ภาษาไทยแปลว่า "พระเยซูเจ้าข้าเมตตาลูกเทอญ"
เม็ดใหญ่จะสวดว่า
"เปรสเวียตาเอีย โบโกโรดิทเซ, สปาซี่ เมีย,เกรชโนโก้"
ภาษาไทยแปลว่า "พระมารดามารีย์เมตตาลูกเทอญ"
พื้นฐานการสวดสายประคำมีมาตั้งแต่ก่อนแยกนิกายครับファンタジア เขียน: แม่พระมอบลูกประคำให้คาทอลิกนี่คับซิตเตอร์ที่ได้รับก็ของคาทอลิกคับ
ส่วนที่นักบุญโดมินิก(ชาย)รับสายประคำจากแม่พระ เป็นเหมือนการเผยแสดงรูปแบบสายประคำที่เจาะจงมากขึ้น(ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่คาทอลิคปัจจุบันใช้)
ซึ่งที่จริงการสวดสายประคำมีหลายรูปแบบมากครับ
จริงอะ ถ้าได้เป็นข่าวดีมากๆเลยpar l'amour de dieu เขียน: พูดถึงคาทอลิก กะ โอโธด๊อกซ์........ เคยได้ยินข่าวว่าเค้าจะรวมนิกายกันไม่ใช่เหรอครับ
เคยได้ยินอ่ะครับ.... แล้วเห็นเค้ามีการประชุมกันด้วย... แต่ผมก็ งงงง แล้วจะรวมกันได้ไง ข้อความเชื่อต่างกัน ถึงจะเล็กน้อย แต่ก็ต่างกัน....
ยังไม่มีการรวมนิกายหรอกครับ ถ้ารวมแบบให้ละทิ้งธรรมประเพณีของตนเองไปเป็นของอีกฝ่ายนึง คงทะเลาะกันตาย เพียงแค่รัก ขเ้าใจ และเคารพกันและกันก็พอแล้วครับ
-
- Arch Guardian
- โพสต์: 297
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 09, 2006 8:19 pm
- ที่อยู่: ดินแดนอันไกลโพ้น
ได้....แต่ไม่ควรครับ อยากให้ลองถามตัวเองดูว่า เราสวดของเราพอแล้วหรือยัง ถ้าคิดว่า พอแล้ว จะไปสวดของต่างนิกายก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่ถ้าคิดว่ายังไม่พอก็ควรสวดของนิกายเราให้มากๆ จนกว่าจะคิดว่าพอรึเปล่าก่อน (ถามพ่อมาให้คร้าบบบบบบ )
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
แต่ก็สามารถที่จะรับศีลด้วยกันได้ป่าวครับ เคยได้ยินมาแบบนั้น :huh:Andreas เขียน: ยังไม่มีการรวมนิกายหรอกครับ ถ้ารวมแบบให้ละทิ้งธรรมประเพณีของตนเองไปเป็นของอีกฝ่ายนึง คงทะเลาะกันตาย เพียงแค่รัก ขเ้าใจ และเคารพกันและกันก็พอแล้วครับ
ในกรณีฉุกเฉิน ได้ครับBatholomew เขียน:แต่ก็สามารถที่จะรับศีลด้วยกันได้ป่าวครับ เคยได้ยินมาแบบนั้น :huh:Andreas เขียน: ยังไม่มีการรวมนิกายหรอกครับ ถ้ารวมแบบให้ละทิ้งธรรมประเพณีของตนเองไปเป็นของอีกฝ่ายนึง คงทะเลาะกันตาย เพียงแค่รัก ขเ้าใจ และเคารพกันและกันก็พอแล้วครับ
แต่ตามปกติ พ่อรัสเซีย ออธอดอกวืก็บอกว่า U ก็ไปรับที่วัดคาทอลิคเองสิ
คำนำบางส่วนของหนังสือ ทางจาริกของคนจร
คนไทยจำนวนมาก รวมถึงคริสตชนไทยบางส่วน ตั้งข้อสังเกตว่า "คริสตศาสนามีลักษณะเป็นตะวันตกมากเกินไป" ซึ่งก็แนอน เพราะคริสตศาสนาในเมืองไทยนั้นได้รับอิทธิพลมาจาก "นิกายโรมันคาทอลิก" ซึ่งเป็นนิกายตะวันตก ทำให้เกิดคำถามและการแสวงหาขึ้นมากมายโดยเฉพาะเรื่องการภาวนา เราแสวงหาการภาวนาในแบบของชาวเอเชีย ซึ่งเป็นแบบที่คนทางซีกโลกตะวันออกคุ้นเคย "การภาวนาแห่งหัวใจ" ที่กะลังจะนำเสนอนี้ก็นับเป็นรูปแบบการภาวนาของพระศาสนจักรตะวันออกเช่นกัน เราคริสตชนไทยน่าจะหันมาแสวงหาประสบการณ์กับพระเจ้าในแบบคนเอเชียหรือแบบคนซีกโลกตะวันออกที่ได้ค้นพบและปฎิบัติกันมานานแล้ว เพื่อว่าเราจะสามารถพบพระเป็นเจ้าได้ในหนทางที่เป็นวิถีและวัฒนธรรมแบบเอเชีย
โดยคุณพ่อวิรัช อมรพัฒนา C.Ss.R.
ปล.การภาวนาแห่งหัวใจก็คือการสวดสายประคำแบบออโธด็อกนั่นเอง แล้วนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้สวด แต่พี่น้องบางท่านไม่เข้าใจ มาโจมตีผม เฮ้อ ผมเลยเริ่มไม่สบายใจแล้วที่มีคนมาด่าเพราะเรื่องแค่นี้ ทั้งๆที่คุณพ่อผู้แต่งหนังสือท่านอยากให้ลองทำดูมั่ง ถ้าไม่เชื่อผมนะครับ ลองไปซื้อมาอ่านดู ว่าผมไม่ได้โกหก
คนไทยจำนวนมาก รวมถึงคริสตชนไทยบางส่วน ตั้งข้อสังเกตว่า "คริสตศาสนามีลักษณะเป็นตะวันตกมากเกินไป" ซึ่งก็แนอน เพราะคริสตศาสนาในเมืองไทยนั้นได้รับอิทธิพลมาจาก "นิกายโรมันคาทอลิก" ซึ่งเป็นนิกายตะวันตก ทำให้เกิดคำถามและการแสวงหาขึ้นมากมายโดยเฉพาะเรื่องการภาวนา เราแสวงหาการภาวนาในแบบของชาวเอเชีย ซึ่งเป็นแบบที่คนทางซีกโลกตะวันออกคุ้นเคย "การภาวนาแห่งหัวใจ" ที่กะลังจะนำเสนอนี้ก็นับเป็นรูปแบบการภาวนาของพระศาสนจักรตะวันออกเช่นกัน เราคริสตชนไทยน่าจะหันมาแสวงหาประสบการณ์กับพระเจ้าในแบบคนเอเชียหรือแบบคนซีกโลกตะวันออกที่ได้ค้นพบและปฎิบัติกันมานานแล้ว เพื่อว่าเราจะสามารถพบพระเป็นเจ้าได้ในหนทางที่เป็นวิถีและวัฒนธรรมแบบเอเชีย
โดยคุณพ่อวิรัช อมรพัฒนา C.Ss.R.
ปล.การภาวนาแห่งหัวใจก็คือการสวดสายประคำแบบออโธด็อกนั่นเอง แล้วนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้สวด แต่พี่น้องบางท่านไม่เข้าใจ มาโจมตีผม เฮ้อ ผมเลยเริ่มไม่สบายใจแล้วที่มีคนมาด่าเพราะเรื่องแค่นี้ ทั้งๆที่คุณพ่อผู้แต่งหนังสือท่านอยากให้ลองทำดูมั่ง ถ้าไม่เชื่อผมนะครับ ลองไปซื้อมาอ่านดู ว่าผมไม่ได้โกหก
ผมก็ว่าไม่ผิดนะครับbigect07 เขียน: คำนำบางส่วนของหนังสือ ทางจาริกของคนจร
คนไทยจำนวนมาก รวมถึงคริสตชนไทยบางส่วน ตั้งข้อสังเกตว่า "คริสตศาสนามีลักษณะเป็นตะวันตกมากเกินไป" ซึ่งก็แนอน เพราะคริสตศาสนาในเมืองไทยนั้นได้รับอิทธิพลมาจาก "นิกายโรมันคาทอลิก" ซึ่งเป็นนิกายตะวันตก ทำให้เกิดคำถามและการแสวงหาขึ้นมากมายโดยเฉพาะเรื่องการภาวนา เราแสวงหาการภาวนาในแบบของชาวเอเชีย ซึ่งเป็นแบบที่คนทางซีกโลกตะวันออกคุ้นเคย "การภาวนาแห่งหัวใจ" ที่กะลังจะนำเสนอนี้ก็นับเป็นรูปแบบการภาวนาของพระศาสนจักรตะวันออกเช่นกัน เราคริสตชนไทยน่าจะหันมาแสวงหาประสบการณ์กับพระเจ้าในแบบคนเอเชียหรือแบบคนซีกโลกตะวันออกที่ได้ค้นพบและปฎิบัติกันมานานแล้ว เพื่อว่าเราจะสามารถพบพระเป็นเจ้าได้ในหนทางที่เป็นวิถีและวัฒนธรรมแบบเอเชีย
โดยคุณพ่อวิรัช อมรพัฒนา C.Ss.R.
ปล.การภาวนาแห่งหัวใจก็คือการสวดสายประคำแบบออโธด็อกนั่นเอง แล้วนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้สวด แต่พี่น้องบางท่านไม่เข้าใจ มาโจมตีผม เฮ้อ ผมเลยเริ่มไม่สบายใจแล้วที่มีคนมาด่าเพราะเรื่องแค่นี้ ทั้งๆที่คุณพ่อผู้แต่งหนังสือท่านอยากให้ลองทำดูมั่ง ถ้าไม่เชื่อผมนะครับ ลองไปซื้อมาอ่านดู ว่าผมไม่ได้โกหก
แค่รับมาแต่ก็ไม่เสียความเป็นเรา
อยากจะให้ใจกว้างกันหน่อยนิดนึงแล้วจะเห็นอีกด้านของเหรียญ
จริงที่ว่าลองหลายๆทางไม่ผิด ตราบใดที่จุดหมายเเละความเชื่อยังเหมือนเดิม เน้น เหมือนเดิมbigect07 เขียน: คำนำบางส่วนของหนังสือ ทางจาริกของคนจร
คนไทยจำนวนมาก รวมถึงคริสตชนไทยบางส่วน ตั้งข้อสังเกตว่า "คริสตศาสนามีลักษณะเป็นตะวันตกมากเกินไป" ซึ่งก็แนอน เพราะคริสตศาสนาในเมืองไทยนั้นได้รับอิทธิพลมาจาก "นิกายโรมันคาทอลิก" ซึ่งเป็นนิกายตะวันตก ทำให้เกิดคำถามและการแสวงหาขึ้นมากมายโดยเฉพาะเรื่องการภาวนา เราแสวงหาการภาวนาในแบบของชาวเอเชีย ซึ่งเป็นแบบที่คนทางซีกโลกตะวันออกคุ้นเคย "การภาวนาแห่งหัวใจ" ที่กะลังจะนำเสนอนี้ก็นับเป็นรูปแบบการภาวนาของพระศาสนจักรตะวันออกเช่นกัน เราคริสตชนไทยน่าจะหันมาแสวงหาประสบการณ์กับพระเจ้าในแบบคนเอเชียหรือแบบคนซีกโลกตะวันออกที่ได้ค้นพบและปฎิบัติกันมานานแล้ว เพื่อว่าเราจะสามารถพบพระเป็นเจ้าได้ในหนทางที่เป็นวิถีและวัฒนธรรมแบบเอเชีย
โดยคุณพ่อวิรัช อมรพัฒนา C.Ss.R.
ปล.การภาวนาแห่งหัวใจก็คือการสวดสายประคำแบบออโธด็อกนั่นเอง แล้วนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้สวด แต่พี่น้องบางท่านไม่เข้าใจ มาโจมตีผม เฮ้อ ผมเลยเริ่มไม่สบายใจแล้วที่มีคนมาด่าเพราะเรื่องแค่นี้ ทั้งๆที่คุณพ่อผู้แต่งหนังสือท่านอยากให้ลองทำดูมั่ง ถ้าไม่เชื่อผมนะครับ ลองไปซื้อมาอ่านดู ว่าผมไม่ได้โกหก
เเต่ที่สำคัญ(อีกรอบหนึ่ง)จงมีจุดยืนของตนเองเสมอๆ ระลึกเสมอว่าเรากำลังทำอะไร
แก้ไขล่าสุดโดย Ecclēsia เมื่อ พุธ เม.ย. 04, 2007 11:44 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พ่อวิรัช แปลตอนท่านบวช ขอรับbigect07 เขียน:
ปล.การภาวนาแห่งหัวใจก็คือการสวดสายประคำแบบออโธด็อกนั่นเอง แล้วนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้สวด แต่พี่น้องบางท่านไม่เข้าใจ มาโจมตีผม เฮ้อ ผมเลยเริ่มไม่สบายใจแล้วที่มีคนมาด่าเพราะเรื่องแค่นี้ ทั้งๆที่คุณพ่อผู้แต่งหนังสือท่านอยากให้ลองทำดูมั่ง ถ้าไม่เชื่อผมนะครับ ลองไปซื้อมาอ่านดู ว่าผมไม่ได้โกหก
ผู้แต่งคือคนจร ( ที่พิการ ) นิรนาม
เชื่อว่าการภาวนาต่างๆ คงจะไม่มีรูปแบบตายตัว นะครับ มันคงอยู่ที่ช่วงจังหวะของชีวิต และบุคคลที่เราอยู่ด้วย ตลอดจนเราร่วมสามัคคีธรรมด้วย
รูปแบบภาวนาด้วยหัวใจ ที่คนจร แนะนำ ดีมาก แต่คงไม่ใช่ทุกโอกาส....ยั่งเจี๊ยบถ้าภาวนาคนเดียว ปลีกวิเวก ก็นำวิธีการที่เขียนในคนจรมาประยุกต์ใช้
แต่เมื่ออยู่ร่วมกลุ่ม กับคนอื่น ในคริสตจักร ในกลุ่มเซลล์ เป็นต้น ต้องเปลี่ยน รูปแบบ
หรือเมื่ออยู่กับพี่น้องคริสตัง ถ้าสวด บท "ข้าแด่พระบิดา" "บทข้าพเจ้าเชื่อ" ก็รีบร่วมทันที เพราะสวดได้ แต่ถ้าสวดบทอื่นๆ มักจะสำรวมฟังมากกว่า บางทีการที่เราถูกตำหนิ เพราะใช้ไม่ถูกกลุ่ม หรือเปล่า พี่บิก ก็ต้องคิด คร้าบ :huh:
ง่วง แล้ว บาย~~~~~~~~~
การภาวนาด้วยหัวใจไม่เชิงเป็นการสวดสายประคำแม่พระซะทีเดียว แต่หลักการเดียวกันคือ การสวดซ้ำๆ (repetitive prayer)
การภาวนาด้วยหัวใจโดยใช้สายประคำ ... เหมือนเป็นการฝึกจิต และเป็นการฝึกให้เรามีพระอยู่เสมอ ฝึกเรียกหาพระตลอดเวลา พระจะเข้าไปทำงานในเรา เหมือนเราท่องอะไรซ้ำๆแล้ววันนึงคำพูดนั้นก็เป็นเรา
การภาวนาด้วยหัวใจ คือใช้หัวใจภาวนา ในใจต้องเรียกร้องพระเป็นเจ้าเสมอ สายประคำที่ใช้เป็นแค่เครื่องมือฝึกภาวนาด้วยหัวใจเท่านั้น
พี่เคยสวด และมองว่า เราสามารถข้ามขั้นการใช้สายประคำได้ เพราะจุดหมายคือ การมีเรียกหาพระตลอดเวลา ทำให่เราไม่ยึดติดกับสายและกับจำนวน และจิตเราจะอิสระมากขึ้น เราสามารถสวด ตลอดเวลาได้โดยไม่ต้องใช้สายประคำ อย่างในหนังสือที่คนจรไปเจอผู้ชายคนนึงที่ทำปาก ขยับลิ้น ตลอดเวลา และก็รู้ต่อมาว่า ชายคนนี้กำลังภาวนาด้วยหัวใจ (ในมือเค้าไม่มีสายประคำแต่อย่างใด) พี่ว่า อันนั้นแหละที่เป็นจุดหมายของการภาวนาด้วยหัวใจ
การสวดสายประคำแม่พระ เราได้พระหรรษทานผ่านทางแม่พระ เรื่องจำนวนและรูปแบบ เราต้องทำตามเพราะถือเป็นความนบนอบ และก็ได้ประโยชน์ในการฝึกจิตของ repetitive prayer ด้วย และก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการสร้างวินัยในการสวดภาวนาให้กับเรา ..... การสวดอย่างมีรูปแบบมีความจำเป็นเพราะช่วยสร้างวินัยในการภาวนา แต่ต้องไม่ยึดติด จนทำให้จิตไม่อิสระ
พระจีนยังมีลูกประคำเลย พี่ว่า คงหลักการเดียวกัน ::001::
การภาวนาด้วยหัวใจโดยใช้สายประคำ ... เหมือนเป็นการฝึกจิต และเป็นการฝึกให้เรามีพระอยู่เสมอ ฝึกเรียกหาพระตลอดเวลา พระจะเข้าไปทำงานในเรา เหมือนเราท่องอะไรซ้ำๆแล้ววันนึงคำพูดนั้นก็เป็นเรา
การภาวนาด้วยหัวใจ คือใช้หัวใจภาวนา ในใจต้องเรียกร้องพระเป็นเจ้าเสมอ สายประคำที่ใช้เป็นแค่เครื่องมือฝึกภาวนาด้วยหัวใจเท่านั้น
พี่เคยสวด และมองว่า เราสามารถข้ามขั้นการใช้สายประคำได้ เพราะจุดหมายคือ การมีเรียกหาพระตลอดเวลา ทำให่เราไม่ยึดติดกับสายและกับจำนวน และจิตเราจะอิสระมากขึ้น เราสามารถสวด ตลอดเวลาได้โดยไม่ต้องใช้สายประคำ อย่างในหนังสือที่คนจรไปเจอผู้ชายคนนึงที่ทำปาก ขยับลิ้น ตลอดเวลา และก็รู้ต่อมาว่า ชายคนนี้กำลังภาวนาด้วยหัวใจ (ในมือเค้าไม่มีสายประคำแต่อย่างใด) พี่ว่า อันนั้นแหละที่เป็นจุดหมายของการภาวนาด้วยหัวใจ
การสวดสายประคำแม่พระ เราได้พระหรรษทานผ่านทางแม่พระ เรื่องจำนวนและรูปแบบ เราต้องทำตามเพราะถือเป็นความนบนอบ และก็ได้ประโยชน์ในการฝึกจิตของ repetitive prayer ด้วย และก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการสร้างวินัยในการสวดภาวนาให้กับเรา ..... การสวดอย่างมีรูปแบบมีความจำเป็นเพราะช่วยสร้างวินัยในการภาวนา แต่ต้องไม่ยึดติด จนทำให้จิตไม่อิสระ
พระจีนยังมีลูกประคำเลย พี่ว่า คงหลักการเดียวกัน ::001::
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 05, 2007 2:19 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
จงทำในสิ่งที่ ตนเป็นสุข และไม่เบียดเบียนผู้อื่น
มองอะไรแคบๆที่ จำกัดแค่ตนเอง
พระเจ้า ทรงเป็น บิดาแต่องค์เดียว ของมนุษย์ ทุกชนชาติ
พระองค์ก็ให้อิสระ สำหรับแต่ละคน อย่างเสรี
มองอะไรแคบๆที่ จำกัดแค่ตนเอง
พระเจ้า ทรงเป็น บิดาแต่องค์เดียว ของมนุษย์ ทุกชนชาติ
พระองค์ก็ให้อิสระ สำหรับแต่ละคน อย่างเสรี
น้องเจี้ยบครับ ที่พี่โดน ก็โดนคนในบอร์ดนี่หละครับJeab Agape เขียน:พ่อวิรัช แปลตอนท่านบวช ขอรับbigect07 เขียน:
ปล.การภาวนาแห่งหัวใจก็คือการสวดสายประคำแบบออโธด็อกนั่นเอง แล้วนี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้สวด แต่พี่น้องบางท่านไม่เข้าใจ มาโจมตีผม เฮ้อ ผมเลยเริ่มไม่สบายใจแล้วที่มีคนมาด่าเพราะเรื่องแค่นี้ ทั้งๆที่คุณพ่อผู้แต่งหนังสือท่านอยากให้ลองทำดูมั่ง ถ้าไม่เชื่อผมนะครับ ลองไปซื้อมาอ่านดู ว่าผมไม่ได้โกหก
ผู้แต่งคือคนจร ( ที่พิการ ) นิรนาม
เชื่อว่าการภาวนาต่างๆ คงจะไม่มีรูปแบบตายตัว นะครับ มันคงอยู่ที่ช่วงจังหวะของชีวิต และบุคคลที่เราอยู่ด้วย ตลอดจนเราร่วมสามัคคีธรรมด้วย
รูปแบบภาวนาด้วยหัวใจ ที่คนจร แนะนำ ดีมาก แต่คงไม่ใช่ทุกโอกาส....ยั่งเจี๊ยบถ้าภาวนาคนเดียว ปลีกวิเวก ก็นำวิธีการที่เขียนในคนจรมาประยุกต์ใช้
แต่เมื่ออยู่ร่วมกลุ่ม กับคนอื่น ในคริสตจักร ในกลุ่มเซลล์ เป็นต้น ต้องเปลี่ยน รูปแบบ
หรือเมื่ออยู่กับพี่น้องคริสตัง ถ้าสวด บท "ข้าแด่พระบิดา" "บทข้าพเจ้าเชื่อ" ก็รีบร่วมทันที เพราะสวดได้ แต่ถ้าสวดบทอื่นๆ มักจะสำรวมฟังมากกว่า บางทีการที่เราถูกตำหนิ เพราะใช้ไม่ถูกกลุ่ม หรือเปล่า พี่บิก ก็ต้องคิด คร้าบ :huh:
ง่วง แล้ว บาย~~~~~~~~~
คริสต์จักรตะวันออก หมายถึงออร์ธอด๊อกชะปะ ส่วนใหญ่ก็ยังหัวแดงหัวทองไม่หัวดำเหมือนเอเซียซะทีเดียวหรอก รัสเซียก็หัวแดง ยุโรปตะวันออกก็หัวแดง ตุรกีก็แดงๆดำๆแขกก็ไม่ใช่ฝรั่งก็ไม่เชิง ถ้าจะบอกว่าการภาวนาแห่งหัวใจก็คือการสวดสายประคำแบบออโธด๊อก(ตะวันออกหัวแดง) แล้วคาทอลิกเราละ พี่น้องโปรละ จารีตมาโรไนท์ละ จารีตซีโรมัลคาบาร์ ซีโรไบเซนไทน์ คอปติค เอธิโอเปียคอปติค ฯลฯ เป็นการภาวนาแห่งไหน
พี่ว่าอย่าถึงกับระบุไปเลยว่าอย่างโน้นอย่างนี้ถึงจะดี จะสวดแบบไหนไม่ว่ากัน พี่ว่าทุกคนคงไม่ได้มีเจตนาโจมตีนะ เพียงแต่ว่าเราอยากเห็นว่าสวดสายประคำด้วยหัวใจมากกว่า ไม่ใช่ชักพรืดๆ อย่างที่พี่ส้มหรือพี่น้องคนอื่นๆเขาสาธยายนั่นแหละครับ บิ๊กอย่าถึงกับตำหนิเลยว่าพี่น้องต่อว่า บิ๊กเคยไม่ชอบโปรมาแล้ว ระวังจะไม่ชอบคาทอลิกไปด้วยนะ มันมีแนวโน้มเป็นไปได้ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ก็ตาม
พี่ว่าอย่าถึงกับระบุไปเลยว่าอย่างโน้นอย่างนี้ถึงจะดี จะสวดแบบไหนไม่ว่ากัน พี่ว่าทุกคนคงไม่ได้มีเจตนาโจมตีนะ เพียงแต่ว่าเราอยากเห็นว่าสวดสายประคำด้วยหัวใจมากกว่า ไม่ใช่ชักพรืดๆ อย่างที่พี่ส้มหรือพี่น้องคนอื่นๆเขาสาธยายนั่นแหละครับ บิ๊กอย่าถึงกับตำหนิเลยว่าพี่น้องต่อว่า บิ๊กเคยไม่ชอบโปรมาแล้ว ระวังจะไม่ชอบคาทอลิกไปด้วยนะ มันมีแนวโน้มเป็นไปได้ แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ก็ตาม