พูดถึงโยนอ็อฟอารต์ แล้วยิ่งคิดถึงความหลัง(อันแสนหวานชื่น) กล่าวคือ สมัยเรียน ปวช.ช่างกล(ปกติแล้ว หนุ่มช่างกล ก็ต้องคู่กับสาวพาณิชย์เป็นธรรมดา) เคยจีบสาวโรงเรียนนี้ สมัยนั้น พูดตรงๆไม่รู้เลยว่า โรงเรียนนี้คือโรงเรียนคาทอลิกของมิซซังกรุงเทพ และตอนนั้นตนเองยังไม่ได้กลับใจเชื่อพระเจ้า และรับศีลล้างบาปด้วย รู้แต่เพียง
1.แถวนั้นรถโครตติดเลย เพราะเวลาไปรอรับสาว กว่าจะไปถึง โครตนาน
2.ตอนไปรอสาวที่ป้ายรถเมล์ ฝั่งตรงข้ามโยนอ็อฟอารต์ ต้องเสี่ยงชีวิตพอสมควร เพราะช่างกลที่อื่น พวกมันก็มารอสาวที่ป้ายรถเมล์เดียวกัน
3.สมัยนั้นจีบเด็กโยนฯ เป็นคริสตังด้วย(แต่ตนเองยังไม่คิดจะกลับใจในตอนนั้น)ยอมรับว่า น้องคนนี้ จิตใจดี และอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เป็นคนสามพราน ชอบไปวัดนักบุญโยเซฟ นั้นคือครั้งแรกที่ผมได้ไปวัดคาทอลิก และร่วมมิซซา(ในชีวิต)ครับผม ผมได้สัมผัสความสุขที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต(ระหว่างมิซซา)
4.จากการได้ไปวัดในครั้งนั้น ทำให้ผมรู้สึกชอบคาทอลิก แต่เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีอินเตอร์เนต และเว็บบอรด์ จึงไม่รู้ว่า จะติดต่อใคร ที่ไหน และทำอย่างไร จึงไม่รู้ว่าจะไปวัดอีกทีทำเช่นไร และทำอย่างไรถึงจะได้เป็นคริสตัง เลยหมดหนทาง ไม่รู้ทำเช่นไร
5.แต่แล้วเวลาก็ผ่านไป จนผมเข้ามหาวิทยาลัย สมัยตอนผมอยู่ปี1 เจอรุ่นพี่ปีสองคนหนึง ผิวขาวจั๊ว หน้าอกมหีมา สะโพกผาย รู้สึกโดนใจอย่างแรงแบบที่สุด เลยจีบอยากทำเป็นแฟน(จริงๆแล้วในตอนนั้นอยากเอารุ่นพี่คนนี้ทำเมียมาก เนื่องจากเกิดอารมณ์อย่างรุนแรงมากเมื่อผสเห็นรุ่นพี่คนนี้ครั้งแรก) เลยอ้อนวอนและกะล้อกะติก จนรุ่นพี่สาว ยินยอมขึ้นรถผม และผมก็บอกรุ่นพี่คนนี้ว่าจะขับรถไปส่งบ้าน ระหว่างสอบถามเส้นทาง อ้าว....อยู่สามพรานเช่นกัน คุยไปคุยมา พี่คนนี้บอกเป็นคริสตัง ไปวัดนักบุญโยเซฟกับครอบครัวทุกอาทิตย์ ที่บ้านทำกิจการทำกล่องลูกฟุกและเป่าถุงพลาสติก ระหว่างขับรถไปส่งบ้าน รุ่นพี่สาวหุ่นบาดใจคนนี้ ขอไปร่วมมิซซาเย็น(วันธรรมดา)ที่วัดนักบุญโยเซฟก่อน และนี้ก็คือครั้งที่สอง ที่ผมได้ร่วมมิซซาของคาทอลิกในชีวิต
6.หลังจากจบมิซซา(แต่ไม่ได้รับศีลนะ) ความคิดผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยคิดว่า กูต้องล่อนังคนนี้ให้ได้คืนนี้(ซึ่งระหว่างขับรถมาส่งคนนี้ ก็วางแผนตลอด ว่าจะเลี้ยวที่ไหนดี ตามองทั้งป้ายม่านรูด หรืออ้อนสุดชีวิตเพื่อไปดูหนังด้วยกัน กะว่าจะล้วงในโรงหนังอุ่นเครื่อง แล้วต่อยอดในม่านรูดต่อ) แต่พอหลังจากได้ร่วมมิซซาด้วยกัน ความคิดผมเปลี่ยนไป(แทบจะหน้ามือเป็นหลังเท้า)รู้แต่เพียงว่า " มีสันติสุข และความสุขเหลือล้นในอกแบบไม่เคยเป็นมาก่อน"
และความคิดที่อยากกลับใจเป็นคริสตังได้กลับมาอีกครั้ง
7.หลังจากที่ผมได้ส่งบ้านเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นไม่มีอารมณ์ทางเพศอีกต่อไป ในหัวใจคิดอย่างเดียว " วัดคาทอลิกและพิธีมิซซาทำไมมันช่างแสนสุขเสียเหลือเกิน"
8.หลังจากวันนั้น ผมพยายามติดต่อเธออีก แต่คราวนี้เจตนาเพื่อให้เธอติดต่อบาทหลวง เพื่อทำให้ผมได้เป็นคริสตัง และได้ร่วมมิซซาเท่าที่ผมต้องการ(ความต้องการนั้น มาจากหัวใจจริงๆ แต่.........เนื่องจากในวันแรกนั้น(ก่อนที่ผมจะไปร่วมมิซซาที่วัดพร้อมเธอ) ผมได้บีบ หอม ลูบ ล้วง จูบ ปล้ำ ตั้งแต่ประตูมหาวิทยาลัย ยันจนถึงประตูวัด ทำให้ผมกลายเป็น " ไอ้ผู้ชายบัดซบและเฮงซวย" ในสายตารุ่นพี่รูปร่างน่าร่วมเพศคนนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้เธอไม่ยอมรับการติดต่อจากผมเลย(เพื่อการติดต่อของคุยกับบาทหลวง มิใช่เจตนาอื่นอีกต่อไป หลังจากได้สัมผัสรักของพระ จากมิซซา) จริงๆแล้วภาษาผู้ชายต้องเผด็จศึกให้ได้วันนั้นเลย จึงจะได้เธอ แต่การที่เข้าวัดฯ ทำให้ผมเปลี่ยนไปคนละคน และกลายเป็นdogไปเรียบร้อยแล้วในสายตาของเธอ
9.ด้วยว่ามหาวิทยาลัยของผมนั้น มีสองวิทยาเขต กล่าวคือ วิทยาเขตรังสิต และวิทยาเขตกล้วยน้ำไท เมื่อเธอขึ้นไปสาม เธอจึงจำเป็นต้องย้ายไปวิทยาเขตกล้วยน้ำไท ส่วนผมยังอยู่วิทยาเขตรังสิตต่อไป ทำให้ผมไม่มีคนใดเลยที่จะต่อยอดเรื่องการเชื่อพระเจ้า ในแนวทางคาทอลิกได้
10.ต่อการมีการก่อตั้ง " อิสระดอดคอม" ผมได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการเข้าคริสตังว่า ควรทำอย่างไร ติดต่อใคร และทำเช่นไร ก็ได้มีพี่น้องในบอรด์ดังกล่าว(และปัจจุบัน ก็ยังเป็นสมาชิกรุ่นเดอะ ในบอรด์นิวมานา นี้ด้วย)ช่วยแนะนำ ว่าควรทำเช่นไร และอย่างไร
11.ผมจึงตัดสินใจติดต่อคุณพ่อวิจิตร์ แสงหาญ(เจ้าวัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า รังสิต)ในสมัยนั้น เพื่อขอเรียนคำสอน(ซึ่งนับแล้ว เป็นเวลาเกือบสามปี) จนตนเองได้รับศีลล้างบาป เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2001
นี้คือชีวิตการเป็นคริสตังของหมวดพลายแก้วผู้แสนจะบาปหนาและเลวทรามของโลกใบนี้ อันนี้แบ่งปันให้ฟัง ก็ต้องขอโทษที่สำหรับบางคำพูดอาจไม่สุภาพ และเนื้อหาอาจจะติดเรท แต่อยากจะแบ่งปันว่า " หนทางของพระผู้เป็นเจ้า ที่นำผู้เลือกสรรมารู้จักกับพระองค์ท่าน เป็นหนทางที่เหนือความคิดของมนุษย์จะคาดถึงและเป็นไปได้ที่บุคคลผู้นั้นจะกลับใจมาเชื่อพระองค์"
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
10.