รับไม่ด้ายยยยยยยยย

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:02 pm

ปกติ ในวันเสาร์ข้าพเจ้าจะตื่นขึ้นมาดูละครพื้นบ้านเรื่อง"พระทินวงศ์" ซึ่งออกอากาศวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ดูแค่วันเสาร์วันเดียว เพราะวันอาทิตย์ไปวัดและเรียนคำสอน

วันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากดูโดราเอมอนร่วมจอเดียวกับหลานจอมซนจนจบแล้ว หลานข้าพเจ้าก็ปลีกตัวไปดูโคนันต่ออีกห้องหนึ่ง เพราะหลานข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าไม่ดูโคนัน

หลังจากหลานข้าพเจ้าจรลีจากไปแล้ว ข้าพเจ้าก็นอนแอ้งแม้ง คลิกๆๆๆๆไปช่องนั้นทีช่องนี้ที และที่สุดก็มาที่ช่องเจ็ดสีทีวีเพื่อคุณ เพื่อดูพระทินวงศ์

ละครพระทินวงศ์เวอร์ชั่นนี้ถือว่าน่าติดตาม เพราะมีเทคนิคแพรวพราว และนำเอาพระเอกขวัญใจสาวๆคือพี่โฟน ฆธาวุธ ปิ่นทอง (สะกดชื่อถูกไหมเนี่ย ... ถ้าสะกดผิดต้องขออภัยมณีด้วย ... เพราะข้าพเจ้ามิใช่แฟนพันธุ์แท้ของพี่โฟนท่าน) กลับมาเล่น หลังจากที่ได้สำแดงบทบาทพระเอกพิชิตใจแฟนละครสาวๆมาแล้วจากบท"พระราหู"ในเรื่อง"เทพสามฤดู"และ"โกมินทร์"ในเรื่อง"โกมินทร์" ส่วนนางเอก ข้าพเจ้าไม่คุ้นหน้า ไม่รู้จักชื่อแฮะ

จริงๆ ข้าพเจ้าชอบดูละครพื้นบ้านมาตลอด เพราะคุณย่าข้าพเจ้าชอบดู ข้าพเจ้าก็เลยดูตามไปด้วย และไม่ว่าใครจะมาเล่นเป็นพระเอกหรือนางเอก ข้าพเจ้าก็ตามดูหมด แม้ตอนนี้คุณย่าข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ดูกับข้าพเจ้าแล้ว แต่ทว่าข้าพเจ้าก็ยังติดตามดูมิได้ขาด

แต่กระนั้น ก็อย่างที่ได้บอกไป ข้าพเจ้าก็ไม่สามารถติดตามดูละครพื้นบ้านได้อย่างต่อเนื่อง กล่าวคือดูได้แต่วันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ต้องไปวัดและเรียนคำสอน

เรื่อง"พระทินวงศ์"นี้ ว่าความตามท้องเรื่อง ก็เป็นเรื่องของเจ้าชายทินวงศ์ออกตามหา"นางแก้ว"ในฝัน ตอนต้นเรื่อง ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ดู เพราะหลักๆคือวันอาทิตย์ข้าพเจ้าไปวัดและเรียนคำสอน วันเสาร์ในช่วงที่ละครเพิ่งเริ่มออนแอร์ ข้าพเจ้าก็ติดภาระกิจ เพิ่งมาได้ดูเอาก็ตอนหลังๆนี่แหละ แต่ละครไทยหายไปนานแค่ไหน กลับมาดูอีกทีก็พอปะติดปะต่อเรื่องได้ ก็เดาว่าพระทินวงศ์ก็คงปลอมตัวมาเป็นคนง่อย อะไรทำนองนี้แหละ แล้วก็มาพบเด็กหญิงคนหนึ่ง เป็นเจ้าหญิงนะ ชื่อ"เจ้าหญิงทิพย์มณฑา" แล้วก็คิดว่ายายเด็กนี่แหละคือนางแก้วที่ตนเองตามหามานาน เพราะทิพย์มณฑาเป็นเด็กดี มีจิตใจงดงาม เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทิพย์มณฑาก็รักพระทินวงศ์ ด้วยความที่เป็นเด็กหญิงตัวน้อย แล้วพี่ทินวงศ์ก็รักและเอ็นดู ก็เลยเกิดเป็นความรัก ไม่รู้ว่าเป็นแบบหญิงรักชาย หรือน้องสาวรักพี่ชายก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ดูโดยตลอด เอาเป็นว่ารักก็แล้วกัน พระทินวงศ์จูงไปนั่นไปนี่ ไปเด็ดดอกไม้ ไปชมสวน ฯลฯ ยายเด็กนี่ก็เลยเดินตามพระทินวงศ์ต้อยๆๆๆๆ  ปากก็เจื้อยแจ้วไปเรื่อย "พี่ทินวงศ์"ยังงั้น "พี่ทินวงศ์"ยังงี้   ดูจากในท้องเรื่องก็เห็นรักกันดี กระหนุงกระหนิง  แต่โชคร้ายที่ยัยเด็กนี้ดันมีพี่สาวใจร้ายอยู่ 7 นาง ซึ่งเป็นลูกสาวของน้าใจยักษ์อีกสองสามคน ข้าพเจ้าจำได้ไม่ถนัดนัก   แต่อย่างที่บอก เนื่องจากข้าพเจ้าดูบ้างไม่ดูบ้าง ก็ขอตัดความมาตอนใกล้ๆนี้เลยแล้วกัน ยายกลุ่มพี่สาวและแม่หนูทิพย์มณฑานี้ก็คงมารู้ความจริงว่าคนง่อยที่ได้เจอนั้นไม่ใช่คนง่อยจริง แต่เป็นพระทินวงศ์ปลอมตัวมา ในท้องเรื่องพระทินวงศ์คงหล่อเหลาเอาการ ยัยพี่สาวทั้งเจ็ดคงหวังจะงาบไว้เอง แต่พระทินวงศ์หนักแน่นมั่นคงกับยายทิพย์มณฑา แม่พี่สาวทั้งหลายก็คงอิจฉา ริษยา ประมาณว่า"ตูไม่ได้ เอ็งก็อย่าหวังว่าจะได้เลย" เลยหาทางใช้เล่ห์เพทุบาย กลั่นแกล้งทิพย์มณฑาให้แยกกับพระทินวงศ์

ข้าพเจ้าเดาๆ ประมาณว่า ยัยพวกพี่สาวเหล่านั้นก็คงมาเป่าหูว่าพระทินวงศ์คงไม่รักน้องทิพย์มณฑาจริงๆหรอกนะ ทำมาเป็นห่วง กลัวว่าน้องสาวตัวเองจะโดนผู้ชายหลอก ก็ยุให้พิสูจน์รักแท้ โดยให้ทิพย์มณฑาทำร้ายพระทินวงศ์ด้วยวิธีการต่างๆ เป็นการทดสอบ ถ้าพระทินวงศ์ไม่โกรธแล้วให้อภัยแสดงว่ารักน้องทิพย์มณฑาจริง ตอนก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ดู มาดูอีกทีก็เสาร์ที่ผ่านมา

ตัดภาพมาว่าย้ยทิพย์มณฑานี่ถือกระบวยตักน้ำ มีควันพวยพุ่ง ชะรอยเป็นน้ำร้อน ยืนอยู่หน้ากระไดกระต๊อบ มีพระทินวงศ์นั่งเอ้เตตันเยอยู่บนชานกระต๊อบ จู่ๆยายเด็กนี่ก็สาดน้ำในกระบวยนั้นใส่หน้าพี่ทินวงศ์ พี่ทินวงศ์ตกใจ ร้องโอ๊ย แต่ไม่ได้ร้องกรี๊ดนะ แล้วก็วิ่งไป ยายทิพย์มณฑาก็ยืนเซ่ออยู่สักสองวินาทีแล้วก็วิ่งตาม แหกปากร้องเรียก "พี่ทินวงศ์ พี่ทินวงศ์ น้องขอโทษ" พี่ทินวงศ์ก็โกรธ เกรี้ยวกราด ตะโกนไล่ยายเด็กนี่ไปให้พ้น แล้วยายเด็กทิพย์มณฑานี้ก็ไปกอดขาพี่ทินวงศ์แล้ววิงวอนขอความเมตตาให้พี่ทินวงศ์อภัยให้ โอดไปครวญมา พี่ทินวงศ์เกิดใจอ่อน ให้อภัย แล้วบอกว่า "ทำไมน้องทิพย์มณฑาต้องมาลองใจพี่อย่างนี้ น้องจะลองใจพี่ไปถึงไหน พี่จะให้อภัยน้องอีกครั้งหนึ่ง ถ้าน้องทำร้ายพี่อีก พี่จะหนีไปจากน้อง" แล้วก็ให้อภัย ยัยทิพย์มณฑากลัวพี่ทินวงศ์จะหนีไปก็ตกปากรับคำจะไม่ลองใจพี่ทินวงศ์อีก  ว่าแล้วสองศรีพี่น้องก็มาเดินชมสวน เด็ดดอกไม้กระหนุงกระหนิงกันเหมือนเดิม

จะว่าไปแม้ว่าพระทินวงศ์จะโดนน้ำร้อนสาดหน้า แต่ก็โชคดีที่มีมนต์วิเศษดีติดตัว ในละครมีฉากที่พระทินวงศ์มานั่งลูบหน้าลูบตาตัวเอง แล้วปรารภว่า "อืม โชคยังดีนะ ที่มีมนต์รักษาบาดแผล ไม่งั้นเสียโฉมแน่เลย"  แน่ะ...ผู้ชายบ้าอะไรฟะ มีกลัวเสียโฉมด้วย  ก็นั่นแหละ ต้องถือว่าโชคดีจริงๆ ที่ได้ร่ำเรียนมนต์ดังกล่าวมาก่อน จึงสามารถรักษาบาดแผลน้ำร้อนลวกจากฝีมือยายเด็กทิพย์มณฑานั่นได้ โดยไม่ต้องไปพึ่งประตูน้ำโพลีคลินิค

จะกล่าวฝ่ายยัยพี่สาวใจโหดทั้งเจ็ด ก็ส่งสองในเจ็ดพี่สาวใจยักษ์มาเป็นสปาย สืบดูซิว่าพี่ทินวงศ์เกลียดยัยน้องทิพย์มณฑานี่หรือยัง ผลปรากฎว่าสองคนนั้นกลับมาคืนดีกัน ด้วยริษยาจิต ก็วางแผนร่วมกันในหมู่หญิงโฉด ไปยุยัยทิพย์มณฑาอีก ให้พิสูจน์รักแท้อีกที แต่คราวนี้ต้องให้โหดกว่าเดิม ยัยทิพย์มณฑาตอนแรกก็ไม่ยอมด้วยนะ เพราะกลัวพี่ทินวงศ์หนีไป แต่สุดท้ายก็ดันหูเบาเชื่อแม่พี่สาวใจหินทั้งหลายอีกตามระเบียบ ยอมทำตาม คราวนี้ให้ใช้พระขรรค์ขนาดย่อมแทงพี่ทินวงศ์ ยัยเด็กนี่ก็เซ่อพาซื่อ ไปหาพี่ทินวงศ์ ดึงพระขรรค์จากฝัก แล้วก็กระซวกพี่ทินวงศ์ไปหนึ่งจ๊วก  พี่ทินวงศ์ตกใจ ทีนี้โกรธจริง ตำหนิทิพย์มณฑาอย่างรุนแรง ยายเด็กทิพย์มณฑา พอกระซวกพี่ทินวงศ์เสร็จ ก็ร้องไห้ แหกปากร้องระล่ำระลัก "พี่ทินวงศ์ น้องขอโทษ พี่ทินวงศ์ น้องไม่ตั้งใจ น้องขอโทษ" ทีนี้พี่ทินวงศ์ก็จะหนีไปตามที่ได้ลั่นสัจวาจาในคราก่อน ยัยเด็กนี่ก็ปรี่เข้าไปกอดขา ไม่ให้พี่ทินวงศ์ไป พี่ทินวงศ์ไม่ฟังอีร้าข้าอีรม สลัดขา"พรื้ดดดด..ดดด..ดดด" ยัยทิพย์มณฑากระเด้งกระดอนพองาม พร่ำรำพันกองพังพาบอยู่กับพื้น แล้วพี่ทินวงศ์ใส่ตีนหมา คว้าไม้ผลัด สวมบทบาททีมวิ่งผลัดไม้สี่ทีมชาติไทยสี่คูณร้อย สิทธิชัย สุวรประทีป โกยสุดแรงเกิด ตอนวิ่งเข้าเส้นชัยที่โดฮาเกมส์ หนีออกไปหน้ากำแพงเมือง หรือที่ไหนสักแห่ง แล้วก็ขี่ม้าวิเศษเหาะหายไป  ย้ยทิพย์มณฑา ก็โกยตามมา สปีดยิ่งกว่าเรวดี ศรีท้าว ตอนสาวๆ แต่ก็มาไม่ทัน พี่ทินวงศ์ร่ายมนต์แล้วเอามือลูบแผลที่ถูกแทง แผลก็หายโดยไม่ต้องพึ่งมือหมอเหมือนเดิมตามระเบียบ แล้วก็take off เป็นโบอิ้ง 747 เหินฟ้าเป็นการบินไทย Smooth as Silk รักคุณเท่าฟ้าเหาะหายไปแล้ว ยัยเด็กทิพย์มณฑา ก็ได้แต่ร่ำๆร้องๆ "พี่ทินวงศ์ อย่าทิ้งน้องปายยย..ยยยย..ยย  ฮือออๆๆๆๆๆ พี่ทินวงศ์ อย่าทิ้งน้องปายยยยยยย....ยยยยย....ยยย

ก็เหมือนจะจบแถวๆนี้แหละ ส่วนวันอาทิตย์ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้ดูอีกตามระเบียบ เพราะไปเข้าวัดและเรียนคำสอน

ตรงนี้แหละที่ข้าพเจ้ารับไม่ได้  เด็กอะไรเซ่อเหลือเกิน พี่สาวหลอกแล้วหลอกเล่า ก็ปล่อยให้เขาหลอก  โอเคนะ ถูกหลอกยังพอว่า เขาให้เอาน้ำร้อนไปสาดหน้าพี่ทินวงศ์ พี่ทินวงศ์ไม่ใช่สุนัขนี่ จะได้เอาน้ำร้อนไปสาด ก็ดันเชื่อเขาอีกนะ เอาไปสาดหน้าตาเฉยเลยแฮะ ให้เอามีดไปกระซวกพี่ทินวงศ์ แน่ะ ก็ทำด้วยวุ้ย ทำไปได้ไงอะ เอาส่วนไหนคิดเนี่ย เกิดพี่ทินวงศ์เดี้ยงไปทำไงเนี่ย แล้วอะไรไม่อะไรนะ ตอนทำ (สาดน้ำร้อน / กระซวก) ก็ทำหน้าตาเฉ้ยยยย เหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่พอทำเสร็จ (สาดน้ำร้อนเสร็จ / กระซวกเสร็จ) ก็ดันเปลี่ยนอารมณ์ฉับพลันเลย บีบน้ำตาร้องแงๆๆ "พี่ทินวงศ์ น้องขอโทษ น้องไม่ตั้งใจ" ไม่ต้องพูดถึงว่าพี่ทินวงศ์คิดยังไงหรอก แค่คนปกติธรรมดาทั่วไป เป็นใคร ใครก็ไม่กล้าเอามาตบมาแต่งเป็นเมียหรอก บ้าเหรอ อีกหน่อย ร่วมหอลงโรงกันไปแล้ว เกิดทำอะไรผิดใจขึ้นมา ไม่ขึ้นขี่คอเอากระโปรงครอบหัว เล่นท่า cloth line ลังกาหลังใส่เกลียวสองรอบครึ่ง แล้วตามด้วยท่า figure four leg lock หรอกเหรอเนี่ย

รับไม่ด้ายยยยยยยยยยย อะนะ ... ขอระบายหน่อย ... แค่เนี้ยแหละ ... อิ อิ  :afro:  :grin:  :police:
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:00 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ พ.ค. 14, 2007 2:24 pm

กำ เป็นไรมากป่าวพี่ ::010::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

จันทร์ พ.ค. 14, 2007 5:27 pm

.... พี่ตั้วไม่ต้อง อธิบาย ชนิด อภิพรรณณาโวหารแบบนี้ก้ได้นะครับ ::010::


แต่มีความรู้สึกไม่ค่อยชอบ ละครจักรๆวงศ์ๆ  สมัยนี้เลย

วัตถุประสงค์ ก็เพื่อแทรกซึมเรื่อง นิทานพื้นบ้านให้เยาวชนไม่ใช่เหรอ ::007::


แล้วใส่ บทน้ำเน่าทำไม ::010::
ภาพประจำตัวสมาชิก
KathaRoS
โพสต์: 218
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 20, 2007 12:35 am
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ พ.ค. 14, 2007 6:46 pm

ฮามากค่ะพี่ตั๊ว บรรยายได้เห็นภาพมากๆเลย
:grin: :grin: :grin: :grin:
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

จันทร์ พ.ค. 14, 2007 10:04 pm

ฮาดีอ่ะ

นั่นนะสิ นางเอกหนังไทย ทำไมฉลาดน้อยอย่างนั้น  ::010::
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร พ.ค. 15, 2007 8:32 am

นอกจากละครจักรๆวงศ์ๆที่เปลี่ยนไปอย่างแทบจะกู่ไม่กลับแล้ว โทรทัศน์ยังเต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุและชี้ชวนให้เห็นว่าความตอแหลเน่าเฟะผิดศีลธรรมทั้งทางศาสนาประจำชาติและศาสนาอื่นๆที่เขาว่าเข้ามาเผยแพร่ให้เสียศาสนาประจำชาติอีกบานตะไท ตัวอย่างเช่นเมื่อคืนผมตกใจเมื่อได้ดูโฆษณาแห่งหนึ่ง โอ นี่เขาเห็นว่าเรื่องผิดศีลธรรม (ถ้าท่านเห็นว่าคำว่าศีลธรรมมันกระแดะเกินไป ก็ใช้คำว่าบัดสีบัดเถลิงแทน ถ้าเห็นว่าบัดสีบัดเถลิงยังกระแดะอีก ก็พิจารณามโนธรรมดูแล้วกัน ว่าสิ่งนั้นมันธรรมดาหรือ) เป็นเรื่องธรรมดาขนาดว่าถ้ามาอยู่คอนโดแห่งนี้แล้วจะทำได้อย่างสะดวกราบรื่นขนาดนั้นเลยเหรอ

เรื่องมีอยู่ว่าคอนโดนี้เขาต้องการเน้นว่ามันอยู่ติดรถไฟฟ้าไปมาสะดวก เนื้อเรื่องก็ให้แม่สาวยืนจิบไวน์บนดาดฟ้ากับไอ้หนุ่ม ไอ้หนุ่มเหลือบดูนาฬิกาแล้วทำหน้าประมาณว่า ตายละกรู ถึงครานัดอีสาวอีกคนหนึ่งไว้นี่ว่า ว่าแล้วก็หลอกให้แม่สาวนางนั้นหลับตาส่วนไอ้นั่นก็แวบไปหาสาวโน่นแล้วก็แวบอีกต่อไปแดนซ์กับอีกสาวหนึ่งก่อนจะกุลีกุจอกลับมาหากระบือนางแรกที่ยังยืนหลับตาเรียกพี่ปอปๆไม่ยอมลืมตาสักที
เอาเถอะมันดูแล้วฮิปโดนใจคนสมัยใหม่ดี  แต่ว่านั่นมันเท่ากับมากเมียมากผัวนะ นั่นมันผิดบาปอุลามกนะ นั่นมันปฐมเหตุของโรดเอดส์และอื่นๆ และเด็กโดนดูดออก และปัญหาอย่าร้าง และฯลฯ และฯลฯนะ เขาเอามาเน้นว่าอยู่คอนโดนี้แล้วทำได้ง่ายๆธรรมด๊าธรรมดาอย่างนี้นะเหรอ

เซ็งเป็ด

อีกเรื่องคือดูตัวอย่างละครทีจะออกอากาศในเร็วๆนี้
เห็นอ้อมใส่ฮันบก เก้ๆกังๆ พยายามจะให้เป็นกาหลี อูยยยย มันขัดตา ไมถึงได้ตะเกียกตะกายกระเหี้ยนกระหือรือให้ไทยเป็นเกาหลีกันขนาดนั้น เดี๋ยวนี้มันเยอะไปหมด ประกวดหนุ่มสาวสไตล์เกาหลีก็มี แต่หน้าตาอูยยยย"บก" (น้องเจี๊ยบหรือโป๊งช่วยขยายความคำๆนี้ให้หน่อย)มาักๆ  ทำไมหนอ ต้องอยากเป็นเขากันขนาดนั้น ทำไมหนอไอ้เพวกคนจัดคนทำมันไม่คิดกันมั่ง หรือว่านี่มันคือผลผลิตของคนรุ่นๆใหม่ๆที่มาจากระบบการศึกษาที่เน้นวิชาการ ความก้าวหน้า ทันสมัย นานาชาติ ฉอดๆๆๆที่แทรกตัวอยู่ในทุกวงการแล้ว ขออวดนิดหนึ่งว่าผมเคยอยู่เกาหลีมาสี่ปี ไปๆกลับๆอีก พูดเกาหลีแบบไม่ต้องนั่งคิด บางทีก็ฝันเป็นเกาหลี ใช้ภาษาเกาหลีอยู่ตลอดเวลา ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาไม่เลือกดีๆของเกาหลีมาใช้ ไอ้พวกที่ทำๆกันอยู่เนี่ยเกาหลีมันหัวเราะเอา เขาตลกหากใครทิ้งชาติทิ้งตระกูลเพื่อไปเลียนแบบอีกชาติ

เซ็งเป็ด
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 15, 2007 9:52 am

2 เซ๊งเป็ดใน 1 วัน

ท่าทางเมื่อคืนจะอารมณ์ค้างที่นางเอกไม่ได้เจอหมอเกริกเกรียงไกร ::011::
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร พ.ค. 15, 2007 9:59 am

Batholomew เขียน: 2 เซ๊งเป็ดใน 1 วัน

ท่าทางเมื่อคืนจะอารมณ์ค้างที่นางเอกไม่ได้เจอหมอเกริกเกรียงไกร ::011::
เปล่า อารมณ์ค้างแบบงงว่ามาโปรดได้คนใช้ไปได้ยังไง เพราะถ้านับอายุดูเล่นๆ แม่นั่นน่าจะแก่กว่านายมาโปรดร่วมๆ25ปี โอวมายกู๊ดเนส ไก่แก่แม่ปลาช่อน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร พ.ค. 15, 2007 10:06 am

Batholomew เขียน: 2 เซ๊งเป็ดใน 1 วัน

ท่าทางเมื่อคืนจะอารมณ์ค้างที่นางเอกไม่ได้เจอหมอเกริกเกรียงไกร ::011::
เมื่อคืนเหรอ ... โอ ... ลืมสนิท

ลืมดูว่าโชติรส ว่าที่คุณผู้หญิงคนใหม่แห่งวังแสงสูรย์ โดนหม่อมศุภางค์เฉ่งในสวนดอกกุหลาบ เป็นอย่างไรบ้าง แล้วแม่ติรกาจะเล่นงานโชติรสอย่างไร เพื่อรักษาความเป็นใหญ่ในการครอบครองห้องสีน้ำเงิน ลืมสนิทเลยอะ  ::008::  ::010::
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร พ.ค. 15, 2007 10:16 am

Florian เขียน:
Batholomew เขียน: 2 เซ๊งเป็ดใน 1 วัน

ท่าทางเมื่อคืนจะอารมณ์ค้างที่นางเอกไม่ได้เจอหมอเกริกเกรียงไกร ::011::
เมื่อคืนเหรอ ... โอ ... ลืมสนิท

ลืมดูว่าโชติรส ว่าที่คุณผู้หญิงคนใหม่แห่งวังแสงสูรย์ โดนหม่อมศุภางค์เฉ่งในสวนดอกกุหลาบ เป็นอย่างไรบ้าง แล้วแม่ติรกาจะเล่นงานโชติรสอย่างไร เพื่อรักษาความเป็นใหญ่ในการครอบครองห้องสีน้ำเงิน ลืมสนิทเลยอะ  ::008::  ::010::
คนละเรื่องแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร พ.ค. 15, 2007 10:21 am

อันตน เขียน:
Florian เขียน:
Batholomew เขียน: 2 เซ๊งเป็ดใน 1 วัน

ท่าทางเมื่อคืนจะอารมณ์ค้างที่นางเอกไม่ได้เจอหมอเกริกเกรียงไกร ::011::
เมื่อคืนเหรอ ... โอ ... ลืมสนิท

ลืมดูว่าโชติรส ว่าที่คุณผู้หญิงคนใหม่แห่งวังแสงสูรย์ โดนหม่อมศุภางค์เฉ่งในสวนดอกกุหลาบ เป็นอย่างไรบ้าง แล้วแม่ติรกาจะเล่นงานโชติรสอย่างไร เพื่อรักษาความเป็นใหญ่ในการครอบครองห้องสีน้ำเงิน ลืมสนิทเลยอะ  ::008::  ::010::
คนละเรื่องแล้ว
คือพอเห็นคำว่า"เมื่อคืน" จิตเลยประหวัดไปว่า เฮ้ย เมื่อคืนก็ลืมดูละครเหมือนกัน แม้จะเป็นคนละเรื่องก็ตามทีน่ะครับพี่  ::004::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 15, 2007 10:52 am

อันตน เขียน:
Batholomew เขียน: 2 เซ๊งเป็ดใน 1 วัน

ท่าทางเมื่อคืนจะอารมณ์ค้างที่นางเอกไม่ได้เจอหมอเกริกเกรียงไกร ::011::
เปล่า อารมณ์ค้างแบบงงว่ามาโปรดได้คนใช้ไปได้ยังไง เพราะถ้านับอายุดูเล่นๆ แม่นั่นน่าจะแก่กว่านายมาโปรดร่วมๆ25ปี โอวมายกู๊ดเนส ไก่แก่แม่ปลาช่อน
ธ่อ พี่ของอย่างนี้ ก็นังเจิมอายุก็เยอะแล้ว เล่ห์เหลี่ยมก็แพรวพราว คุณโปรดจะรอดหรอพี่ ::011::

ปล. พี่ตั้ว มั่วละครอีกแระ ::010::

เซงเป็ด
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร พ.ค. 15, 2007 10:55 am

Batholomew เขียน:
อันตน เขียน:
Batholomew เขียน: 2 เซ๊งเป็ดใน 1 วัน

ท่าทางเมื่อคืนจะอารมณ์ค้างที่นางเอกไม่ได้เจอหมอเกริกเกรียงไกร ::011::
เปล่า อารมณ์ค้างแบบงงว่ามาโปรดได้คนใช้ไปได้ยังไง เพราะถ้านับอายุดูเล่นๆ แม่นั่นน่าจะแก่กว่านายมาโปรดร่วมๆ25ปี โอวมายกู๊ดเนส ไก่แก่แม่ปลาช่อน
ธ่อ พี่ของอย่างนี้ ก็นังเจิมอายุก็เยอะแล้ว เล่ห์เหลี่ยมก็แพรวพราว คุณโปรดจะรอดหรอพี่ ::011::

ปล. พี่ตั้ว มั่วละครอีกแระ ::010::

เซงเป็ด
แล้วไหง นางผกามันถึงได้แคล้วคลาดแล้วแคล้วคลาดอีกหว่า คนอาร้ายจะแคล้วคลาดได้สม่ำเสมอ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 15, 2007 10:57 am

อันตน เขียน:
Batholomew เขียน:
อันตน เขียน: เปล่า อารมณ์ค้างแบบงงว่ามาโปรดได้คนใช้ไปได้ยังไง เพราะถ้านับอายุดูเล่นๆ แม่นั่นน่าจะแก่กว่านายมาโปรดร่วมๆ25ปี โอวมายกู๊ดเนส ไก่แก่แม่ปลาช่อน
ธ่อ พี่ของอย่างนี้ ก็นังเจิมอายุก็เยอะแล้ว เล่ห์เหลี่ยมก็แพรวพราว คุณโปรดจะรอดหรอพี่ ::011::

ปล. พี่ตั้ว มั่วละครอีกแระ ::010::

เซงเป็ด
แล้วไหง นางผกามันถึงได้แคล้วคลาดแล้วแคล้วคลาดอีกหว่า คนอาร้ายจะแคล้วคลาดได้สม่ำเสมอ
อ้าวพี่ กรรมมันยังตามไม่ทันไง

แต่ว่าเมื่อคืนนอนดูสะใจมาก ฉากที่ตบกันอ่ะ ยิ่งตอนที่กลีบผกาโดนตบนะ หูยยยยยย ::011::

ปล. เราจะกลับฝั่งกันเมื่อไหร่นี่ ยู้ฮู ::020::
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:02 am

Batholomew เขียน:
อันตน เขียน:
Batholomew เขียน: ธ่อ พี่ของอย่างนี้ ก็นังเจิมอายุก็เยอะแล้ว เล่ห์เหลี่ยมก็แพรวพราว คุณโปรดจะรอดหรอพี่ ::011::

ปล. พี่ตั้ว มั่วละครอีกแระ ::010::

เซงเป็ด
แล้วไหง นางผกามันถึงได้แคล้วคลาดแล้วแคล้วคลาดอีกหว่า คนอาร้ายจะแคล้วคลาดได้สม่ำเสมอ
อ้าวพี่ กรรมมันยังตามไม่ทันไง

แต่ว่าเมื่อคืนนอนดูสะใจมาก ฉากที่ตบกันอ่ะ ยิ่งตอนที่กลีบผกาโดนตบนะ หูยยยยยย ::011::

ปล. เราจะกลับฝั่งกันเมื่อไหร่นี่ ยู้ฮู ::020::
อ้าว กรรมตามไม่ทันอย่างนี้เข้าข่ายซูแปร์ติซังป่าวหว่า เอาเป็นว่าพระยังให้โอกาสนางกลับใจดีไหม  ::011::

แต่สะใจจริงๆแหละ ตอนโดนตบอะ สงสารก็แต่ย่าเยื้อนยักแย่ยักยันไม่รู้ว่าโดนตบหรือช่วยเขาตบ

ป.ล. คงไม่ต้องเข้าฝั่งเดิมแล้วละ ขึ้นอีกฝั่งดีกว่า ดูเหมือนท่านเจ้าของกระทู้ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ::005::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:05 am

อันตน เขียน: ป.ล. คงไม่ต้องเข้าฝั่งเดิมแล้วละ ขึ้นอีกฝั่งดีกว่า ดูเหมือนท่านเจ้าของกระทู้ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ::005::
โอเคพี่  ::011::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:25 am

อืม นึกขึ้นมาได้ มีอีกเรื่องหนึ่งที่รับไม่ได้เหมือนกัน

หลายปีดีดัก นานอักโข นานจนจะจำอะไรไม่ค่อยจะได้แล้ว จำผิดๆถูกๆ ก็ขอเล่าแบบผิดๆถูกๆอย่างนี้ก็แล้วกัน กล่าวคือมีละครเรื่องหนึ่ง ในฉากวันอวสาน พระเอกหรือใครสักคนนี่แหละต้องแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน(ก็น่าที่จะเป็นนางร้ายหรือไงนี่แหละ) แล้วดั๊นนนน ดันต้องมาตบมาแต่งกันในวัดคาทอลิก จำได้เลย วัดที่ใช้เป็นฉากนั้นคือ... (ให้ทายดีกว่า ใครทายถูกมีรางวัลให้)

ปรากฏว่า ตัวพระเอกกำลังยืนร่วมพิธีสมรสกับยัยนางร้ายอยู่ตรงหน้าพระแท่น แล้วกล้องไปจับใบหน้าบาทหลวงผู้ประกอบพิธี อ้าวเฮ้ย ก็ดั๊นนนน ดันเป็นบาทหลวงที่เรารู้จัก (เคยคุยกับพ่อคนนี้ด้วยนิดหน่อย ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว) เลิศมาก พ่อมาเข้าฉากเป็นดาราจำเป็น ใส่อัลบา ห้อยสตอลา สวมกาสุลา เต็มยศ สำหรับคุณพ่อที่อบรมมาเป็นนักบวช แต่ไม่ได้ฝึกทักษะการแสดงมาให้มีความชำนิชำนาญเฉพาะทาง การหาญมารับบทในละครเช่นนี้ ข้าพเจ้าชื่นชมยิ่งนัก ถือว่าคุณพ่อมั่นมาก

ในขณะที่พิธีศีลกล่าวกำลังดำเนินไปนั้น แอ่น แอน แอ๊นนนนนนน  ปรากฎว่านางเอกปรากฎตัว ประหนึ่งหมายจะมาสำแดงตัวให้เห็นว่า ตูนี่แหละตัวจริง เอา"ผะอั๋ว"ของตูคืนมา อะไรทำนองนี้ ฝ่ายนางร้ายก็คงมีญาติโยม แขกเหรื่อ สมงสมุน ข้าทาสบริวารมาร่วมงานในวัด ฝ่ายนางเอกก็คงมีพลพรรค สมัครพรรคพวก ติดตามมา พอทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน ก็มีปะทะ มีวี้ดว้าย ด่าทอกันพองาม นอกจากนี้ก็มีการทะเลาะ อ้างอิงเหตุผล ยกตรรกะหมายมาสำแดงให้เป็นที่ประจักษ์ว่า พระเอกควรตกเป็นของใคร มีการเปิดโปงแฉความเลวที่ถูกปกปิดหมักหมมฉมฉุนมานานปีของฝ่ายนางร้าย และแถลงความตรอมตรมขมขื่นของนางเอกที่เป็นฝ่ายถูกกระทำออกมาให้เป็นที่ประจักษ์ต่อที่ประชุม สาธารณชน และให้เป็นที่ล่วงรู้ต่อหน้าธารกำนัล ทั้งนี้เพื่อแสดงความชอบธรรมในการครอบครองพระเอก อะไรทำนองนี้  ในระหว่างที่ทำศึกชิงชาย แย่งชิงพระเอกอยู่นั้น กล้องก็จับอยู่ที่ความดุเดือดระหว่างคู่ชกมุมแดงและมุมน้ำเงิน โดยไม่ได้แพนไปจับที่หน้าของคุณพ่อ เลยไม่เห็นว่าคุณพ่อมีสีหน้ากระอักกระอ่วน ผะอืดผะอม อกไหม้ไส้ขม อย่างไรเพียงใด แต่จุดสนใจของกล้องจับจ้องอยู่ที่สงครามพิสวาส ประหนึ่งจะเน้นจุดสำคัญที่ว่าใครมีแผลเท่าใด แตกแค่ไหน แอนตาซิลจะแจกทองกี่เส้น

หลังจากได้ด่าทอกันพอหอมปากหอมคอให้เป็นที่หม่นไหม้แก่อีกฝ่ายหนึ่งและได้ลงมือลงไม้จนเป็นที่หนำใจที่ได้กระทำแก่ฝ่ายตรงข้าม สงครามก็สงบลง ฝ่ายนางร้ายพ่ายไป นางเอกได้พระเอก ตามกฎ"ธรรมะย่อมชนะอธรรม" ทีนี้สายตาของทั้งพระเอก นางเอก ที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมแลปีติยินดี พร้อมทั้งกล้องที่ใช้ถ่ายละครก็แพนมาจับจ้องที่ใบหน้าของบาทหลวงผู้มีสีหน้าเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ ส่วนหนึ่งที่คุณพ่อมีสีหน้าเช่นนั้นก็คงเพราะเป็นดาราจำเป็น มาเล่นเฉพาะกิจ ไม่ใช่มืออาชีพ อีกส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะผู้กำกับให้เล่นแบบนั้น ก็นบนอบเล่นไปตามที่ผู้กำกับสั่ง

หลังจากที่พระเอกและนางเอกทั้งเขาและเธอซึ่งถูกอุปโลกน์ว่าเป็นฝ่ายธรรมะ(ไม่รู้ว่าธรรมะจริงหรือเปล่า)ซึ่งได้กระทำการเบกพล ต่อกร ต่อตี แลโรมรันพันตู และได้ชัยชำนะเหนือนางร้ายซึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นฝ่ายอธรรมจนแม่เจ้าประคุณและพรรคพวกหุยเหิดหายไปแล้ว ได้แสดงสีหน้าปีติยินดีที่ได้ครองรักเป็นคู่ตุนาหงันกันสำเร็จพอหอมปากหอมคอ ทั้งคู่ก็หันมาจับจ้องมองบาทหลวงซึ่งยืนยิ้มแห้งๆเหี่ยวๆรออยู่ตรงที่ยกพื้นหน้าพระแท่น โดยทั้งคู่บ่าวสาวฉาวโฉดมีท่าทีที่ชื่นมื่นรื่นอภิรมย์ ประมาณว่ายัยนางเอกนั่นก็ดูเหมือนจะเป็นความชอบธรรมเสียเหลือเกินที่สามารถมาสวมรอยเสียบต่อนางร้ายที่แพ้พลาดปลาตไปได้ ฝ่ายตาพระเอกก็ดูอภิรมย์ชมชื่นไม่แพ้ประหนึ่งว่านี่แหละคู่ที่แท้จริงของตู ประมาณว่าคู่แท้สองโลกกระนั้น และมีท่าทีที่ดีอกดีใจอย่างออกนอกหน้าที่ไม่ต้องแต่งงานผิดฝาผิดตัวกับยัยนางร้ายที่เหมือนถูกจับแต่งให้ได้ด้วยเหตุแห่งความจำยอม

ทีนี้ก็ถึงคิวบาทหลวงผู้น่าเห็นใจต้องสำแดงบทบาทตามบทละคร คุณพ่อผู้ซึ่งมีสีหน้าอันเปี่ยมด้วยอุเบกขาและมีสายตาอันลอยเลื่อนดูเหมือนกับมิได้มีความอนาทรร้อนใจอันใดต่อโลกธาตุรอบข้าง ได้ยิ้มแห้งๆเจื่อนๆเล็กน้อยเหมือนไม่ได้ยิ้มเพราะเห็นที่คุณพ่อยิ้มนั้นมีฝืนๆยังไงไม่รู้ แล้วคุณพ่อก็ถามว่า "จะทำพิธีต่อไหมลูก"  เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็หน้าระรื่น พยักหน้าพลางตอบอย่างไม่ต้องยั้งคิดเลย "ต่อครับ/ค่ะ" แล้วพิธีก็ดำเนินไป ละครก็อวสานแถวๆนั้นแหละ

สิ่งที่ข้าพเจ้ารับไม่ได้ ก็คือ
( 1 ) พ่อยอมให้ละครไปใช้วัดอันเป็นพระนิเวศน์ของพระเจ้า ซึ่งถือเป็นพระวิสุทธิสถานในการให้ตัวละครเข้ามาตบตีกันเป็นสนามรบสนามรักอย่างนั้นได้อย่างไร
( 2 ) ในบทละครพ่อกลับไม่มีบทบาทอะไร ยืนแข็งๆตาลอยๆ เหมือนตุ๊กตาพัพเพ็ท ไม่มีท่าทีในการเป็นประจักษ์พยานของพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์เลย มันต้องมีการปรับบทหน่อย เช่น เมื่อมีการเบาะแว้งในวัด พ่อต้องมีบทบาทในการขัตตาทัพ ไม่ใช่ปล่อยให้ตบกันให้เดี้ยงให้แง่กกันไปข้างหนึ่ง หรือไม่ก็ต้องตัดบทส่วนนั้นออกไปเลย
( 3 ) ที่รับไม่ได้ที่สุดก็คือ ก่อนการแต่งงาน เท่าที่จำได้ อย่างน้อย 3 สัปดาห์ จะต้องมีการประกาศต่อหน้าธารกำนัล ว่านายนี้กับนางสาวนั้นจะทำการสมรสกัน เผื่อมีข้อขัดขวางที่มิอาจทำให้สมรสได้  ที่อะไรกัน พอนางร้ายโดนดีด โดนนางเอกซัลโวชู้ตออกไปนอกวัด พ่อก็ปล่อยให้นางเอกมาสวมต่อ แล้วก็ถามบ่าวสาวหน้าตาเฉ้ยยยเลยว่า"จะทำพิธีต่อไหม" เอ๊อออออ อะไรกันนี่ มันต้องมีการอบรม ทำสัตย์สัญญา ประกาศแต่งงานต่อหน้าธารกำนัลก่อนดิ แล้วยิ่งพระเอกมีกรณีศึกชิงชายแบบนี้นะ ยิ่งน่าสงสัยใหญ่ เอ๊ะ ไอ้นี่มันจะมีบ้านอื่นนอกจากยายสองคนนี้อีกไหม มันจะมีใครที่แอบซุกแอบซ่อนไว้อีกไหมเนี่ย เช่นนี้ก็ยิ่งต้องสอบสวนให้ละเอียด ไม่ใช่ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ

ในตอนนั้น ข้าพเจ้าก็ขุ่นใจอยู่ไม่น้อย และขุ่นอยู่นาน

... แต่ในภายหลัง ...

วันหนึ่งข้าพเจ้าไปสวดในวัดน้อยที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หัวหมาก เห็นประกาศเกี่ยวกับระเบียบการขอใช้ศาสนสถานคาทอลิกในการถ่ายละคร/ภาพยนตร์ เห็นเขาออกกฎมาเคร่งครัดดี ไม่ให้มีฉากวี้ดว้าย ตบตี หรือมีเนื้อหาที่ผิดศีลธรรมและคำสอนของพระศาสนจักร อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้เป็นที่เข้าใจผิดของพี่น้องต่างนิกายและต่างศาสนา และไม่ได้เป็นที่สะดุดต่อพวกเราคาทอลิกเองด้วย ฉะนั้นก็พอสบายใจได้ ละคร/ภาพยนตร์ช่วงหลังที่ไปขอใช้ศาสนสถานคาทอลิกถ่ายทำก็คงทำให้ผู้ชมที่เป็นคาทอลิกสบายใจ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่พี่น้องต่างนิกายและต่างศาสนาอีกด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร พ.ค. 15, 2007 3:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:27 am

ห้อยสะตอลา
แก้เป็นสตอลาดีไหม สะตอลามันออกแนวฉุนๆยังไงไม่รู้
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 15, 2007 11:29 am

พี่ตั้วติดละครขนาดหนักนะพี่ ::011::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร พ.ค. 15, 2007 12:38 pm

อีกแบบหนึ่งที่รับไม่ได้นะ ก็คือที่ไปใช้"วัด" เป็นฉากถ่ายละครสยองขวัญ

คือละครพวกนี้เนี่ย หลายครั้งตัวละครที่เกี่ยวพันกับความสยองในละคร เป็นตัวละครที่ไปพันเกี่ยวกับความสยองแบบตะวันตก เป็นตัวละครไทยๆนี่แหละ แต่แต่งตัวออกแนวพวกท่านเคานต์ มาร์ควิสอะไรทำนองเนี้ย แล้วขึ้นชื่อว่าท่านเคานต์ เคิ้ว ดุ๊ก แด๊ก อะไรเนี่ย จะให้ไปอยู่เรือนไทยไม้ฝาปะกน ก็ใช่ที่  จะต้องให้อยู่บ้านแบบฝรั่ง ครั้นจะให้อยู่เป็นบ้านจุ๋มจิ๋ม ปลูกดอกไม้กะทัดรัดน่ารัก ทำนอง"บ้านน้อยในป่าใหญ่" บ้านสโนโวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด บ้านขนมของยายแม่มดในเรื่องฮันเซลกับเกรเทล หรือบ้านที่แสนอบอุ่นของจูดี้ ในเรื่องเดอะซาวด์ออฟมิวสิค ก็ใช่ที่  ก็ต้องเป็นคฤหาสน์โอฬาริก ทีนี้ทำไง จะสร้างฉากใหม่ก็คงกลัวไม่สมจริงมั้ง ก็เลยต้องระเห็ดไปขอใช้วัดคาทอลิกถ่าย เพราะวัดคาทอลิกหลายวัดสร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบยุโรป

เราจึงเห็นวัดบางวัดที่ในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นที่ประทับของพระเจ้ากลายเป็นที่พำนักของอีตาเคานต์ แค้ว ลอร์ด เหลิร์ด สไตล์ไทยทั้งหลาย  วัดที่ไม่โดนแน่นอน ก็พวกวัดสร้างใหม่ สไตล์โมเดิร์น หลังคาปูด้วยกระเบื้องซีแพ็คโมเนีย ไตรลอนสามห่วง ฯลฯ วัดที่โดนและตกเป็นเหยื่อบ่อยๆ ก็ต้องเป็นพวกเก่าๆ ดูแล้วเหมือนปราสาท  จะเอาวัดในเมืองก็ไปติดหลังคาตึกระฟ้า ไม่สมจริง เพราะอีตาเคานต์ แค้ว ดุ๊ก ลอร์ด คงไม่อยู่ในเมือง และบรรยากาศในเมืองมันมีแต่แสงสี ไม่ชวนให้อกสั่นขวัญแขวน สยองสยดเท่าไร  ก็ต้องไปหาวัดนอกเมือง  ที่เห็นโดยบ่อยๆ ก็วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา นี่แหละ วัดลำไทร ก็โดนเหมือนกัน

แบบนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่น่ายอม  รับไม่ด้ายยยยยยย เหมือนเดิม  :angry:  :afro:  :undecided:
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร พ.ค. 15, 2007 12:51 pm

Florian เขียน: อีกแบบหนึ่งที่รับไม่ได้นะ ก็คือที่ไปใช้"วัด" เป็นฉากถ่ายละครสยองขวัญ

คือละครพวกนี้เนี่ย หลายครั้งตัวละครที่เกี่ยวพันกับความสยองในละคร เป็นตัวละครที่ไปพันเกี่ยวกับความสยองแบบตะวันตก เป็นตัวละครไทยๆนี่แหละ แต่แต่งตัวออกแนวพวกท่านเคานต์ มาร์ควิสอะไรทำนองเนี้ย แล้วขึ้นชื่อว่าท่านเคานต์ เคิ้ว ดุ๊ก แด๊ก อะไรเนี่ย จะให้ไปอยู่เรือนไทยไม้ฝาปะกน ก็ใช่ที่  จะต้องให้อยู่บ้านแบบฝรั่ง ครั้นจะให้อยู่เป็นบ้านจุ๋มจิ๋ม ปลูกดอกไม้กะทัดรัดน่ารัก ทำนอง"บ้านน้อยในป่าใหญ่" บ้านสโนโวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด บ้านขนมของยายแม่มดในเรื่องฮันเซลกับเกรเทล หรือบ้านที่แสนอบอุ่นของจูดี้ ในเรื่องเดอะซาวด์ออฟมิวสิค ก็ใช่ที่  ก็ต้องเป็นคฤหาสน์โอฬาริก ทีนี้ทำไง จะสร้างฉากใหม่ก็คงกลัวไม่สมจริงมั้ง ก็เลยต้องระเห็ดไปขอใช้วัดคาทอลิกถ่าย เพราะวัดคาทอลิกหลายวัดสร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบยุโรป

เราจึงเห็นวัดบางวัดที่ในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นที่ประทับของพระเจ้ากลายเป็นที่พำนักของอีตาเคานต์ แค้ว ลอร์ด เหลิร์ด สไตล์ไทยทั้งหลาย  วัดที่ไม่โดนแน่นอน ก็พวกวัดสร้างใหม่ สไตล์โมเดิร์น หลังคาปูด้วยกระเบื้องซีแพ็คโมเนีย ไตรลอนสามห่วง ฯลฯ วัดที่โดนและตกเป็นเหยื่อบ่อยๆ ก็ต้องเป็นพวกเก่าๆ ดูแล้วเหมือนปราสาท  จะเอาวัดในเมืองก็ไปติดหลังคาตึกระฟ้า ไม่สมจริง เพราะอีตาเคานต์ แค้ว ดุ๊ก ลอร์ด คงไม่อยู่ในเมือง และบรรยากาศในเมืองมันมีแต่แสงสี ไม่ชวนให้อกสั่นขวัญแขวน สยองสยดเท่าไร  ก็ต้องไปหาวัดนอกเมือง  ที่เห็นโดยบ่อยๆ ก็วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา นี่แหละ วัดลำไทร ก็โดนเหมือนกัน

แบบนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่น่ายอม  รับไม่ด้ายยยยยยย เหมือนเดิม  :angry:  :afro:  :undecided:
.
วัดลำไทรเขามาถ่ายกันบ่อยมากกกกกก

บางเรื่องยังเห็นนางเอกพระเอกไหว้พระขอพร ขอให้แคล้วคลาด อะไรต่อมิอะไรอยู่ประหลกๆ แต่พออีแต่งงานทั้งหญิงทั้งชายมาแต่งในวัดกันเฉย มีศาสนบริกรทั้งตัวจริงตัวปลอมแต่งตัวสมจริงและไม่สมจริงบริการให้เสร็จ

เซ็งเป็ด
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร พ.ค. 15, 2007 1:04 pm

อารายกันหรอ พี่ทั้ง 2 ::010::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

เสาร์ ต.ค. 04, 2008 12:59 pm

ข้าพเจ้าได้มีโอกาสติดตามละครเรื่อง "เย้ยฟ้าท้าดิน" อยู่บ้าง จนละครเพิ่งลาจอไปเมื่อวานนี้ มีประเด็นที่ข้าพเจ้ารับไม่ได้อีกแล้วครับท่าน

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ข้าพเจ้าชอบละครเรื่องนี้ ที่ชอบเป็นพิเศษก็ได้แก่คุณอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เพราะแม้ว่าเธอจะเป็นดาราหญิงสุดเซ็กซี่ แต่เธอก็เล่นบทแบบหญิงสาวบุคลิกบ้านๆได้บ้านๆดี ฉะนั้นที่ข้าพเจ้ารับไม่ได้จึงไม่เกี่ยวข้องกับคุณอั้ม พัชราภา แต่อย่างใด

แต่ที่รับไม่ได้คือเนื้อเพลง เพลงประกอบละครเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นนี้มีหลายเพลง แต่มีอยู่เพลงหนึ่งเป็นเพลงเก่าเอามาร้องใหม่ ฟังเสียงเหมือนน้าแอ๊ด คาราบาวร้อง แต่จริงๆไม่รู้ว่าเป็นน้าแกร้องหรือเปล่า เพราะไม่ทันได้สังเกตดูชื่อว่าเป็นใครร้อง อย่างไรก็ดี ประเด็นที่รับไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องนักร้อง ทำนอง จังหวะ แต่อยู่ที่เนื้อเพลงต่างหาก

ลองดูเนื้อเพลงกันก่อน

ฟ้าหัวเราะ เยาะข้าชะตาหรือ
ดินนั้นถือ อภิสิทธิ์ชีวิตข้า
พรหมลิขิต ขีดเส้นเกณฑ์ชะตา
ฟ้าอินทร์พรหม ยมพญา ข้าหรือเกรง

ขอหัวเราะเยาะเย้ย เหวยๆฟ้า
พสุธา อย่าครวญว่า ข้าข่มเหง
เย้ยทั้งฟ้า ท้าทั้งดิน สิ้นยำเกรง
หรือใครเก่งเกินข้า ฟ้าดินกลัว

ข้าขอลิขิต...ชีวิตข้าเอง ไม่เกรงดินฟ้า
อีกพื้นพสุธา พญายม พรหมอินทร์ทั่ว
ข้ากระทำ แต่กรรมดี มีหรือจะกลัว
มิใช่ใจชั่ว ลืมตัวหลงลำพอง

อันสวรรค์อยู่ในอก นรกนั่นหรือ
ข้าก็ถืออยู่ในใจไม่หม่นหมอง
ละ..การทำชั่ว ควรหรือจะกลัวนรกมั่นปอง
หากทำดี...ฟ้าดินต้อง คุ้มครองเอย


ท่อนแรกของเนื้อเพลงบอกว่า ... ต่อให้ ฟ้าจะหัวเราะเยาะข้า ดินจะถืออภิสิทธิ์ชีวิตข้า พรหมจะลิขิตกะเกณฑ์ชีวิตข้า ข้าก็ไม่กลัว จะเป็น พระอินทร์ พระพรหม พระยม ข้าก็ไม่กลัวอีกเหมือนกัน ... โอ กล้าหาญมั่กๆ

ท่อนที่สองของเนื้อเพลงร้องต่อไปว่า ... ข้าจะหัวเราะเยาะฟ้า พื้นแผ่นดินอย่าโอดครวญบ่นว่าข้าข่มเหงนะจ๊ะ ฟ้าข้าก็จะเย้ย ดินข้าก็จะท้า ทั้งฟ้าทั้งดินข้าหมดสิ้นความยำเกรงแล้ววววว ใครจะเก่งเกินข้าไม่มี้ไม่มี ก็เพราะดูสิ ฟ้าเอย ดินเอย ยังกลัวข้าเลย ... ห้าวหาญ กล้าแกร่งมากกกกกกกกกกกกกก

ท่อนที่สามของเนื้อเพลงร้องสืบไปว่า ... ชีวิตข้านี้ไม่ต้องให้ใครหน้าไหนมาลิขิต ข้าลิขิตเองได้นะจ๊ะ ฉะนั้นไม่กลัวฟ้าไม่เกรงดินแล้วววว ไม่เพียงแค่นี้นะ จะพื้นพสุธา พญายม พระพรหม พระอินทร์ ก็ไม่เว้น คือไม่กลัวน่ะจ้ะ ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะข้าทำแต่ความดี ไม่เคยทำชั่วนี่นา ... เลิศเลอเพอร์เฟคท์

ท่อนสุดท้ายสรุปว่า ... ก็สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจซะอย่าง ถ้าไม่ทำชั่ว จะไปกลัวตกนรกทำแมวอะไร ฉะนั้นถ้าทำดี ฟ้าดินก็ต้องคุ้มครองข้าแน่นอน ... อ้าวไหงมาสรุปยังงี้อะ ก็ไหนตอนแรกบอกว่าไม่กลัวฟ้าไม่เกรงดิน แล้วทำไมมาบอกล่ะว่า ยังไง้ยังไง ฟ้าดินก็ต้องคุ้มครองตู มีอะไรมะ ฮะ  : emo034 : แล้วสรุปกลัวฟ้าดินหรือไม่กลัวกันแน่เนี่ย ถ้าเราไม่เกรงฟ้าดิน แล้วจะมาคิดทำแมวอะไรล่ะว่าฟ้าดินจะต้องมาคุ้มครอง คือ ถ้าไม่กลัว ก็ไม่เห็นต้องสนใจเลยว่าฟ้าดินจะคุ้มครองเราไหม ก็ไม่กลัวซะอย่างนี่ อะไรทำนองนี้

นี่แหละที่ข้าพเจ้ารับไม่ได้ ... มีแค่นี้ หุ หุ ::020::  ::016::  ::013::
KuRapiKa
โพสต์: 383
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 30, 2008 10:49 am
ติดต่อ:

เสาร์ ต.ค. 04, 2008 1:28 pm

โอ้โห สงสัยจะชอบดูจริงๆนะครับ

ร้องได้หมดเลย ฮ่าๆ  ::003::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ต.ค. 04, 2008 1:30 pm

ติดละครเหมือนกันนะพี่ ::011::
†mommomza†
โพสต์: 207
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 17, 2008 2:13 pm

เสาร์ ต.ค. 04, 2008 5:10 pm

ละคร ก้อคือ ละคร

ดูแล้วดูให้ดีที่สาระของเรื่องน้า
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

เสาร์ ต.ค. 04, 2008 9:09 pm

กระทู้ล้างป่าช้า ::011::

สังข์ทองลูกแม่ เมื่อเช้านี้ปล่อยแสงกันกระจาย สุดท้ายพ่ายลูกหินที่พวกนางกะแหร่งเขวี้ยงใส่ อูย ช่างเสียดสีได้อย่างดีจริงๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ ต.ค. 08, 2008 10:59 am

อันตน เขียน: กระทู้ล้างป่าช้า ::011::

สังข์ทองลูกแม่ เมื่อเช้านี้ปล่อยแสงกันกระจาย สุดท้ายพ่ายลูกหินที่พวกนางกะแหร่งเขวี้ยงใส่ อูย ช่างเสียดสีได้อย่างดีจริงๆ
ขอบคุณพี่อันตนที่ช่วยสะกิดต่อมรับไม่ได้อีกเรื่องหนึ่งของข้าพเจ้า

กล่าวคือ ข้าพเจ้ารับเรื่อง "สังข์ทอง" เวอร์ชั่นนี้ไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยย รับไม่ด้ายยยยอย่างแรง เพราะสังข์ทองนั้นแต่ไหนแต่ไรมาก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง พระสังข์ยอมถอดรูปเงาะป่ามาตีคลีชนะพระอินทร์ แล้วก็ลงเอยด้วยดี รักจี๋จ๋ากับรจนาไป แต่เวอร์ชั่นนี้ดันไม่จบแค่นั้น มีตัวร้ายโผล่เข้ามา พระสังข์ไปลุยไฟ แล้วโดนไฟผลาญไหม้ไป นับแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็ไม่ดูสังข์ทองเวอร์ชั่นนี้อีกเลย เพราะดันไปแปลงบทประพันธ์เพี้ยนไปจากของเดิมจนรับไม่ด้ายยยยยยยย

ขนาดวรรณกรรมเอกอย่าง "สังข์ทอง" ยังโดนแปลงสารเสียขนาดพระสังข์ต้องมาลุยไฟ อีกหน่อยนางพันธุรัตน์อาจเปลี่ยนบทบาทไปเป็นเมียพระอภัยมณีแทนนางผีเสื้อสมุทรก็เป็นได้ เซ็งเป็ด  : emo102 :  : emo018 :  : emo044 :  : emo031 :  : emo080 :
Dis volentibus

พุธ ต.ค. 08, 2008 12:06 pm

Florian เขียน: ขนาดวรรณกรรมเอกอย่าง "สังข์ทอง" ยังโดนแปลงสารเสียขนาดพระสังข์ต้องมาลุยไฟ อีกหน่อยนางพันธุรัตน์อาจเปลี่ยนบทบาทไปเป็นเมียพระอภัยมณีแทนนางผีเสื้อสมุทรก็เป็นได้ เซ็งเป็ด  : emo102 :  : emo018 :  : emo044 :  : emo031 :  : emo080 :
55555555 : xemo033 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
~KaThaRoS~
โพสต์: 792
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 08, 2008 12:15 pm

รับไม่ได้เหมือนกัน ตรงที่พระเอกเป็นเวียร์
เบื่อ  : emo080 : : emo080 : : emo080 :
ไม่รู้ทำไมดันกันจิงๆ เบื่อพระเอก-นางเอกหน้าซ้ำๆ : emo080 : : emo080 :
ตอบกลับโพส