พระเยซูเจ้าประจักษ์
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 18, 2007 1:17 pm
ผมเห็นมีคนมาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวเรื่องความฝันหรืออัศจรรย์เหนือธรรมชาติ
ผมไม่เคยฝันเห็นพระเจ้า แม่พระ นักบุญ บุญราศี และไม่อยากฝันเห็น ไม่เคยเจออัศจรรย์เหนือธรรมชาติที่กฎวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ และก็ไม่อยากเจอด้วยครับ
เล่าเรื่องหนุกๆดีกว่า ... เกิดแถวบ้านผมเองแหละ เมื่อเช้านี้เอง
วันนี้ ในขณะพี่ผมกำลังรอรถเมล์อยู่นั้น มีผู้พิการทางสายตารอรถเมล์อยู่ด้วย เห็นเขาถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเรื่องรถเมล์ที่จะขึ้น เหมือนคนนั้นก็ไม่ได้ตอบเขา ผมก็เลยแล่นเข้าไปตอบให้แทน
ผมบอกเขาว่า พอดี๊ พอดี ผมกำลังจะขึ้นรถเมล์สายเดียวกับเขา เดียวพาขึ้นรถนะ แล้วก็จะจับมือเขา จูงเขาขึ้นรถ แต่เขาก็จับแขนผมแทน เขาคงคุ้นกับการจับแขนมากกว่าการจูงมือมั้ง ก็ไม่เป็นไร พอขึ้นไป ก็ยืนอยู่แป๊บนึง ผู้หญิงคนหนึ่งก็ลุกให้เขานั่ง ผมก็ฝากพี่ที่พิการทางสายตานี้ไว้กับกระเป๋ารถเมล์ ให้พี่กระเป๋าช่วยเหลือเขาด้วย แล้วผมก็ลงรถเมล์ เพราะนั่งไม่กี่ป้าย ก็ถึงที่หมายที่จะลงรถแล้ว
ผมดีใจที่ได้บริการพี่คนนั้น นึกถึงพระวาจาของพระเยซูที่ว่าทุกสิ่งที่ท่านได้ทำต่อผู้อื่น ท่านก็ได้ทำต่อเราเอง แหม มันปลาบปลื้มใจมากเลยเนอะ ที่ได้ปรนนิบัติพระองค์ เป็นพระองค์โดยแท้ที่ทรงมาหาผม
เมื่อเราฝันเห็นพระเจ้า แม่พระ นักบุญ บุญราศี หรือเมื่อมีอัศจรรย์เหนือธรรมชาติบังเกิดในชีวิต เรายังไม่อาจเชื่อได้สนิทใจในทันทีที่ประสบ แต่พระคัมภีร์สอนให้เราต้องพิสูจน์ก่อน เพราะไม่แน่ สิ่งที่เราประสบอาจไม่ได้มาจากสวรรค์ แต่มาจากมารที่จำแลงเป็นทูตแห่งความสว่างก็ได้
ในทางกลับกัน การพบพระเจ้าในเพื่อนพี่น้อง กลับเป็นเรื่องง่าย เพราะอยู่ใกล้ตัว และไม่ต้องพิสูจน์ ทั้งนี้พระเยซูเจ้าทรงยืนยันไว้เรียบร้อยแล้วว่า ทุกสิ่งที่ท่านได้ทำกับผู้อื่น ท่านได้ทำต่อเราเอง ดังนั้น ผมก็เลยไม่ถวิลหาความฝัน การประจักษ์ หรืออัศจรรย์เหนือธรรมชาติใดๆด้วยเหตุนี้เองครับ
ผมไม่เคยฝันเห็นพระเจ้า แม่พระ นักบุญ บุญราศี และไม่อยากฝันเห็น ไม่เคยเจออัศจรรย์เหนือธรรมชาติที่กฎวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ และก็ไม่อยากเจอด้วยครับ
เล่าเรื่องหนุกๆดีกว่า ... เกิดแถวบ้านผมเองแหละ เมื่อเช้านี้เอง
วันนี้ ในขณะพี่ผมกำลังรอรถเมล์อยู่นั้น มีผู้พิการทางสายตารอรถเมล์อยู่ด้วย เห็นเขาถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเรื่องรถเมล์ที่จะขึ้น เหมือนคนนั้นก็ไม่ได้ตอบเขา ผมก็เลยแล่นเข้าไปตอบให้แทน
ผมบอกเขาว่า พอดี๊ พอดี ผมกำลังจะขึ้นรถเมล์สายเดียวกับเขา เดียวพาขึ้นรถนะ แล้วก็จะจับมือเขา จูงเขาขึ้นรถ แต่เขาก็จับแขนผมแทน เขาคงคุ้นกับการจับแขนมากกว่าการจูงมือมั้ง ก็ไม่เป็นไร พอขึ้นไป ก็ยืนอยู่แป๊บนึง ผู้หญิงคนหนึ่งก็ลุกให้เขานั่ง ผมก็ฝากพี่ที่พิการทางสายตานี้ไว้กับกระเป๋ารถเมล์ ให้พี่กระเป๋าช่วยเหลือเขาด้วย แล้วผมก็ลงรถเมล์ เพราะนั่งไม่กี่ป้าย ก็ถึงที่หมายที่จะลงรถแล้ว
ผมดีใจที่ได้บริการพี่คนนั้น นึกถึงพระวาจาของพระเยซูที่ว่าทุกสิ่งที่ท่านได้ทำต่อผู้อื่น ท่านก็ได้ทำต่อเราเอง แหม มันปลาบปลื้มใจมากเลยเนอะ ที่ได้ปรนนิบัติพระองค์ เป็นพระองค์โดยแท้ที่ทรงมาหาผม
เมื่อเราฝันเห็นพระเจ้า แม่พระ นักบุญ บุญราศี หรือเมื่อมีอัศจรรย์เหนือธรรมชาติบังเกิดในชีวิต เรายังไม่อาจเชื่อได้สนิทใจในทันทีที่ประสบ แต่พระคัมภีร์สอนให้เราต้องพิสูจน์ก่อน เพราะไม่แน่ สิ่งที่เราประสบอาจไม่ได้มาจากสวรรค์ แต่มาจากมารที่จำแลงเป็นทูตแห่งความสว่างก็ได้
ในทางกลับกัน การพบพระเจ้าในเพื่อนพี่น้อง กลับเป็นเรื่องง่าย เพราะอยู่ใกล้ตัว และไม่ต้องพิสูจน์ ทั้งนี้พระเยซูเจ้าทรงยืนยันไว้เรียบร้อยแล้วว่า ทุกสิ่งที่ท่านได้ทำกับผู้อื่น ท่านได้ทำต่อเราเอง ดังนั้น ผมก็เลยไม่ถวิลหาความฝัน การประจักษ์ หรืออัศจรรย์เหนือธรรมชาติใดๆด้วยเหตุนี้เองครับ
