สังคมวิทยา
- einbisschien
- โพสต์: 12
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 11:45 am
- ที่อยู่: Bangkok
สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา เป็นสาขาที่ขัดต่อหลักคำสอนของศาสนาคริสต์หรือเปล่าครับ เห็นในหนังสือบอกว่าสาขานี้มันเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ เช่น วิชาประชากรศาสตร์ ที่ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ถึงปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวพันกับสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในขนาดอัตราการเพิ่ม องค์ประกอบการกระจายของประชากร แนวโน้มของการเจริญพันธุ์ ซึ่งเกี่ยวกับการคุมกำเนิด ถ้าผมเลือกเรียนสาขานี้อยู่ แล้วจะมานับถือคริสต์นี่มันจะบาปหรือเปล่าครับ
ไม่ขัดนะครับ
สังคมวิทยาและมานุษยวิทยามีเนื้อหากว้างมากศึกษาความเป็นไปของมนุษย์และสังคม เช่นมองศาสนาในเชิงสังคม ในเรื่องของประชากรศาสตร์ก็เป็นส่วนหนึ่งแค่นั้นเอง เขาว่าถ้าทำอย่างนี้ๆอัตราแนวโน้มมันจะเป็นอย่างนี้ๆ โดยศึกษาจากกรณีที่มันเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงก็มีองค์ประกอบหลายอย่างเช่น การโยกย้ายถิ่นฐาน อาชีพ โรคภัย สงคราม ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ไม่ได้ศึกษาว่าคุมกำเนิดอย่างไรคนถึงจะลด หรือส่งเสริมการคุมกำเนิดอะไรแบบนั้น
ส่วนตรงทีบอกว่าวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ผมว่าน่าจะเป็นการอ่านแล้วตีความผิดมากกว่า คำว่าวิธีการทางวิทยาศาสตร์ คือ การทดลองโดยการสุ่มตัวอย่างก็ดี การเฝ้าติดตามตัวอย่าง เหล่านี้เป็นต้น ไม่ใช่เอาตัวอ่อนมาคัดยีนสืบพันธ์ออกหรือคิดชนิดของอุปกรณ์คุมกำเนิดใหม่ๆอะไรแบบนั้น
สังคมวิทยาและมานุษยวิทยามีเนื้อหากว้างมากศึกษาความเป็นไปของมนุษย์และสังคม เช่นมองศาสนาในเชิงสังคม ในเรื่องของประชากรศาสตร์ก็เป็นส่วนหนึ่งแค่นั้นเอง เขาว่าถ้าทำอย่างนี้ๆอัตราแนวโน้มมันจะเป็นอย่างนี้ๆ โดยศึกษาจากกรณีที่มันเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงก็มีองค์ประกอบหลายอย่างเช่น การโยกย้ายถิ่นฐาน อาชีพ โรคภัย สงคราม ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ไม่ได้ศึกษาว่าคุมกำเนิดอย่างไรคนถึงจะลด หรือส่งเสริมการคุมกำเนิดอะไรแบบนั้น
ส่วนตรงทีบอกว่าวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ผมว่าน่าจะเป็นการอ่านแล้วตีความผิดมากกว่า คำว่าวิธีการทางวิทยาศาสตร์ คือ การทดลองโดยการสุ่มตัวอย่างก็ดี การเฝ้าติดตามตัวอย่าง เหล่านี้เป็นต้น ไม่ใช่เอาตัวอ่อนมาคัดยีนสืบพันธ์ออกหรือคิดชนิดของอุปกรณ์คุมกำเนิดใหม่ๆอะไรแบบนั้น
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ไม่ขัด ขอรับ อย่างเราเป็นคริสต์ ก็เชื่อ ว่า มานุษย์ เกิดจากการทรงสร้าง ประชากรของพระเจ้า กระจัดกระจายไปทั่วโลก หอบาเบล ทำให้เกิดความวุ่นวาย
การเรียนอาจจะย้อนกลับไป ที่อารยธรรม ตะวันตก ตะวันออก ถึงภูมิ หลังของมานุษย์ ส่วนเทิอกเถา เหล่าพันธุ์ เราหลากหลาย น่าสนใจ ฮะ
บางทียิ่งเรียน ยิ่งศึกษา จะได้เข้าใจแจ่มแจ้ง ว่า "พี่ก๊อง กะ พี่แชด มนุษย์ปรินสโตน" พัฒนามาอย่างไร
การเรียนอาจจะย้อนกลับไป ที่อารยธรรม ตะวันตก ตะวันออก ถึงภูมิ หลังของมานุษย์ ส่วนเทิอกเถา เหล่าพันธุ์ เราหลากหลาย น่าสนใจ ฮะ
บางทียิ่งเรียน ยิ่งศึกษา จะได้เข้าใจแจ่มแจ้ง ว่า "พี่ก๊อง กะ พี่แชด มนุษย์ปรินสโตน" พัฒนามาอย่างไร

ไหนๆผมขอระบายหน่อยนะครับ
เวลาผมเรียนชีวะ โดนเฉพาะลงแล็บ ผมไม่สบายใจจริงๆในการเรียน เพราะตำราเชื่อชาร์ลดาร์วิน90% จนแบบ ไม่อยากเรียนเลยอะ ฟิสิกส์ยังไม่เท่าไหร่ เคมีก็ด้วย แต่ชีวะ+ดาราศาสตร์ ผมอึดอัดใจมากๆเลยเวลาเรียนหง่ะ
เวลาผมเรียนชีวะ โดนเฉพาะลงแล็บ ผมไม่สบายใจจริงๆในการเรียน เพราะตำราเชื่อชาร์ลดาร์วิน90% จนแบบ ไม่อยากเรียนเลยอะ ฟิสิกส์ยังไม่เท่าไหร่ เคมีก็ด้วย แต่ชีวะ+ดาราศาสตร์ ผมอึดอัดใจมากๆเลยเวลาเรียนหง่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ เป็นทฤษฎีวิวัฒนาการที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อเท่านั้นแหละครับGray Cat Mobster เขียน: ไหนๆผมขอระบายหน่อยนะครับ
เวลาผมเรียนชีวะ โดนเฉพาะลงแล็บ ผมไม่สบายใจจริงๆในการเรียน เพราะตำราเชื่อชาร์ลดาร์วิน90% จนแบบ ไม่อยากเรียนเลยอะ ฟิสิกส์ยังไม่เท่าไหร่ เคมีก็ด้วย แต่ชีวะ+ดาราศาสตร์ ผมอึดอัดใจมากๆเลยเวลาเรียนหง่ะ
พระเท่านั้นครับที่รู้จริงที่สุด

- einbisschien
- โพสต์: 12
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 11:45 am
- ที่อยู่: Bangkok
ขอบคุณครับ
วิชานี้เป็นเรื่องกิจกรรมของมนุษย์einbisschien เขียน: สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา เป็นสาขาที่ขัดต่อหลักคำสอนของศาสนาคริสต์หรือเปล่าครับ เห็นในหนังสือบอกว่าสาขานี้มันเป็นวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ เช่น วิชาประชากรศาสตร์ ที่ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ถึงปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวพันกับสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในขนาดอัตราการเพิ่ม องค์ประกอบการกระจายของประชากร แนวโน้มของการเจริญพันธุ์ ซึ่งเกี่ยวกับการคุมกำเนิด ถ้าผมเลือกเรียนสาขานี้อยู่ แล้วจะมานับถือคริสต์นี่มันจะบาปหรือเปล่าครับ
และถ้าคิดต่อไปจะเห็นว่า
กิจกรรมของมนุษย์ที่ปราศจากพระนั้นน่าสงสารมาก
ไม่ต่างจากสัตว์ทั่วๆไป จึงมีบ้างที่มนุษย์อยากแสดงว่ามีสติปัญญา
ก็คิดวิธีคุมกำเนิดขึ้น ให้มีความศิวิไลซ์กว่าสัตว์ต่างๆ
ถ้าเรียนแล้วจะอยากมีศาสนา มีพระในใจมากขึ้น
ยังไม่มีตำราไหนเลยที่พูดตรงๆว่า มนุษย์มาจากลิงGray Cat Mobster เขียน: ไหนๆผมขอระบายหน่อยนะครับ
เวลาผมเรียนชีวะ โดนเฉพาะลงแล็บ ผมไม่สบายใจจริงๆในการเรียน เพราะตำราเชื่อชาร์ลดาร์วิน90% จนแบบ ไม่อยากเรียนเลยอะ ฟิสิกส์ยังไม่เท่าไหร่ เคมีก็ด้วย แต่ชีวะ+ดาราศาสตร์ ผมอึดอัดใจมากๆเลยเวลาเรียนหง่ะ
ลองอ่านดีๆสิ มีแต่คนอ่านหรือบางคนพูดด้วยความเข้าใจไปเอง
วิวัฒนาการ เป็นแค่ บทเล็กๆ เท่านั้น แทบจะไม่มีใครพูดถึงแม้ในบทการสอน
หรือน้องเรียนที่ไหนมาเล่าให้ฟังละเอียดอีกนิดก็ดี
ขอความรู้ว่า เมืองไทยขณะนี้พัฒนาขนาดเปิดสอนทฤษฏีวิวัฒนาการ
เป้นวิชาแกน ของปริญญาตรี นำหน้ายุโรป อเมริกาแล้ว
ตำราของดาร์วินไม่ได้ขัดกับ "แก่น" ของพระศาสนามังครับGray Cat Mobster เขียน: ไหนๆผมขอระบายหน่อยนะครับ
เวลาผมเรียนชีวะ โดนเฉพาะลงแล็บ ผมไม่สบายใจจริงๆในการเรียน เพราะตำราเชื่อชาร์ลดาร์วิน90% จนแบบ ไม่อยากเรียนเลยอะ ฟิสิกส์ยังไม่เท่าไหร่ เคมีก็ด้วย แต่ชีวะ+ดาราศาสตร์ ผมอึดอัดใจมากๆเลยเวลาเรียนหง่ะ
เมื่อทดลองซ้ำแล้วซ้ำแล้ว สังเกตเก็บข้อมูล วิเคราะห์ สรุปจึงออกมาเป็นทฤษฎี
หลักวิทยาศาสตร์ ผมว่าไม่เห็นขัดกับหลักพระคริสตธรรม
ส่วนพวกเปลือกกระพี้ มองๆข้ามไปทั้งฝั่งวิทย์ฝั่งศาสนาเถอะคุณ
ยังไงวิชาชีววิทยาเมื่อผ่ากบ ผ่าสัตว์แล้ว ทดลองแล้ว ใช้สติและสมองตรองดูแล้ว
ผมก็ว่าดาร์วินถูกมากกว่าผิด
ในหัวเรื่องที่ถาม สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา Sociology and Anthropology
ศึกษามนุษย์ในฐานะองค์ๆหนึ่งของสังคม และต้นรากที่มาของมนุษย์ ชาติพันธุ์ ภูมิปัญญา ความเชื่อ
ผมออกจะเห็นว่ายิ่งส่งเสริมศรัทธาในศาสนาด้วยซ้ำ
เพราะหากคุณเชื่อในพระเจ้า ย่อมจะเห็นว่าพระองค์สร้างความหลากหลาย และความแตกต่างเหล่านี้ของมนุษย์
ให้อยู่ร่วมกันในโลกได้
และเมื่อเรียนสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา อันเป็นวิทยาศาสตร์ที่นำเข้าไปจับเรื่องของสังคมมนุษย์
คุณย่อมมองอะไรได้อย่างทั่วถึง และเข้าใจในพระปรีชาญาณ
ทั้งยังอยู่ร่วมกับความแตกต่างอื่นๆในโลกได้
อย่าเพิ่งอคติไปเลยครับ
แก้ไขล่าสุดโดย terasphere เมื่อ อังคาร พ.ค. 29, 2007 1:28 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ลองคิดดูดีๆนะครับ
ถ้าทฤษฎีวิวัฒนาการถูกจริง
สิ่งมีชีวิตในโลกชนิดเดียวเท่านั้นที่เข้าข่ายคือมนุษย์นะครับ ในขณะที่สัตว์ชนิดอื่นเข้าข่ายการปรับตัวที่รุนแรงเท่านั้นนะครับ
ยกตัวอย่างนะครับ
วิวัฒนาการ เหมือนจะแปลว่า เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญยิ่งๆขึ้น แต่...
มีสัตว์ชนิดไหนบ้างในโลกที่เมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วเจริญขึ้น มันมีแต่เปลี่ยนแล้วปรับตัวเข้าสู่สิ่งแวดล้อมใหม่นะครับ ฟอสซิลต่างๆบ่งชี้ว่า สัตว์โบราณไม่ได้มีโครงสร้างซับซ้อนน้อยกว่าหรือกระจอกว่าสัตว์ปัจจับุน มันแต่เปลี่ยนรูปร่างเท่านั้นเอง เห็นได้ชัดคือกรณีของปลาที่ทฤษฎีวิวัฒนาการมองว่ามันวิวัฒนาการขึ้นมาบนบก ถ้านั่นแปลว่าเป็น "การวิวัฒนาการ" ที่น่าจะเป้นการก้าวไปข้างหน้า ถามว่า แล้วปลาวาฬที่เขาเชื่อว่าบรรพบุรุษมันเคยอยู่บนบกมาก่อน แล้วมันกลับไปเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้ว่ายน้ำได้นี่ เรียกว่ามันถอยหลังเข้าคลองหรือเปล่า แล้วถามว่าปลาวาฬ(ที่จริงต้องเรียกวาฬเฉยๆ) มันใช้ชีวิตในน้ำได้ดีกว่าปลาอื่นไหมครับ ขนาดมันเลียนแบบรูปร่างเหมือนปลามากจนมนุษย์เราเข้าใจผิดตั้งแต่แรกเริ่มกันมานมนานว่ามันเป็นปลา ดังนั้นสัตว์ต่างๆเหมือนกับแค่ "ปรับตัว" ให้สามารถใช้ชีวิตกับสิ่งแวดล้อมใหม่เท่านั้น
ผมเชื่อว่าการปรับตัวนั้นเป็นไปได้ครับ ถ้านักวิทยาศาสาตร์จะเรียกมันว่าวิวัฒนาการก็ตามใจเขา แต่ผมมองว่ามันแค่การปรับตัวที่รุนแรงว่ากรณีกิ่งก่าเปลี่ยนสีเท่านั้น และการปรับตัวเป็นธรรมชาติหนึ่งของสิ่งมีชีวินทุกชนิดที่พระเจ้าประทานมาให้มันอยู่รอดได้
แต่สำหรับมุมมองของ ทฤษฎีวิวัฒนาการ ในส่วนของมนุษย์ ที่เขาว่ามาจากลิง อันนี้เท่านั้นครับที่ถ้ามันจริง จะสมควรเรียกว่าวิวัฒนาการได้ เพราะถ้ามีมันเป็นจริงอย่างที่เขาว่ามีสัตว์ชนิดเดียวที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิมมากๆๆๆ แต่...
ถ้ามันจริง
ทำไมมีลิงแค่ชนิดเดียวที่วิวัฒนาการก้าวกระโดดไปเรื่อยๆ ในขณะที่ลิงอื่นยังเป็นลิงวันยันค่ำ ขนาดปังคุงว่าฉลาดยังไง มันก็มีขอบเขตการฉลาดของมันแค่ระดับหนึ่ง ได้แค่เลียนแบบมนุษย์ เหมือนนกแก้วที่เลียนแบบการพูดของมนุษย์ได้ ลิงนั้นเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ได้บ้าง แต่ก็ดูมันจะเลียนแบบการพูดที่ซับซ้อนไม่ได้เอาซะเลย
ต่อให้มันฉลาดเท่าเด็ก6ขวบแต่เด็ก6ขวบพูดได้ แต่ลิงยังไงก็พูดไม่ได้
ทำไม...
ดังนั้นถึงผมจะเห็นทฤษฎีวิวัฒนาการ มันก็ไม่ทำให้ผมเชื่อได้เลยว่าถ้าเรื่องนี้มีจริง จะเป็นการทอยเต๋าของธรรมชาติ ที่บังเอิญกับสัตว์เพียงชนิดเดียวในโลก ยิ่งถ้าดูตามทฤษฎีวิวัฒนาการส่วนที่อ้างว่าเป็นของมนุษย์ด้วยแล้ว ที่เขาจับเอาลิงนั้นมาต่อกับลิงนี้เรียงๆกันแล้วอ้างว่าเป็นบรรพบรุษมนุษย์ ผมก็สงสัยว่าทำไม มันมีการบังเอิญซ้ำซากกับสัตว์ชนิดเดียวบ่อยแบบนี้...เหมือนจงใจปั้นให้ดังอยู่สายเดียว อันอื่นเหมือนปล่อยให้วนเวียนในอ่าง เปลี่ยนแปลงรูปร่างยังไงก็แค่ปรับตัวสู่สิ่งแวดล้อมใหม่เท่านั้น... ธรรมชาติลำเอียงหรือเปล่า
ปัจจุบันไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหน หรือทฤษฎีวิวัฒนาการใดให้คำตอบได้ว่า
ทำไม ธรรมชาติที่แสนยุติธรรมกลับลำเอียงสุดๆ
ทำไม ต้องเป็นสายพันธุ์นี้อันเดียว
และทำไม ต้องเป็นเรา
ถ้าทฤษฎีวิวัฒนาการถูกจริง
สิ่งมีชีวิตในโลกชนิดเดียวเท่านั้นที่เข้าข่ายคือมนุษย์นะครับ ในขณะที่สัตว์ชนิดอื่นเข้าข่ายการปรับตัวที่รุนแรงเท่านั้นนะครับ
ยกตัวอย่างนะครับ
วิวัฒนาการ เหมือนจะแปลว่า เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญยิ่งๆขึ้น แต่...
มีสัตว์ชนิดไหนบ้างในโลกที่เมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วเจริญขึ้น มันมีแต่เปลี่ยนแล้วปรับตัวเข้าสู่สิ่งแวดล้อมใหม่นะครับ ฟอสซิลต่างๆบ่งชี้ว่า สัตว์โบราณไม่ได้มีโครงสร้างซับซ้อนน้อยกว่าหรือกระจอกว่าสัตว์ปัจจับุน มันแต่เปลี่ยนรูปร่างเท่านั้นเอง เห็นได้ชัดคือกรณีของปลาที่ทฤษฎีวิวัฒนาการมองว่ามันวิวัฒนาการขึ้นมาบนบก ถ้านั่นแปลว่าเป็น "การวิวัฒนาการ" ที่น่าจะเป้นการก้าวไปข้างหน้า ถามว่า แล้วปลาวาฬที่เขาเชื่อว่าบรรพบุรุษมันเคยอยู่บนบกมาก่อน แล้วมันกลับไปเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้ว่ายน้ำได้นี่ เรียกว่ามันถอยหลังเข้าคลองหรือเปล่า แล้วถามว่าปลาวาฬ(ที่จริงต้องเรียกวาฬเฉยๆ) มันใช้ชีวิตในน้ำได้ดีกว่าปลาอื่นไหมครับ ขนาดมันเลียนแบบรูปร่างเหมือนปลามากจนมนุษย์เราเข้าใจผิดตั้งแต่แรกเริ่มกันมานมนานว่ามันเป็นปลา ดังนั้นสัตว์ต่างๆเหมือนกับแค่ "ปรับตัว" ให้สามารถใช้ชีวิตกับสิ่งแวดล้อมใหม่เท่านั้น
ผมเชื่อว่าการปรับตัวนั้นเป็นไปได้ครับ ถ้านักวิทยาศาสาตร์จะเรียกมันว่าวิวัฒนาการก็ตามใจเขา แต่ผมมองว่ามันแค่การปรับตัวที่รุนแรงว่ากรณีกิ่งก่าเปลี่ยนสีเท่านั้น และการปรับตัวเป็นธรรมชาติหนึ่งของสิ่งมีชีวินทุกชนิดที่พระเจ้าประทานมาให้มันอยู่รอดได้
แต่สำหรับมุมมองของ ทฤษฎีวิวัฒนาการ ในส่วนของมนุษย์ ที่เขาว่ามาจากลิง อันนี้เท่านั้นครับที่ถ้ามันจริง จะสมควรเรียกว่าวิวัฒนาการได้ เพราะถ้ามีมันเป็นจริงอย่างที่เขาว่ามีสัตว์ชนิดเดียวที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเดิมมากๆๆๆ แต่...
ถ้ามันจริง
ทำไมมีลิงแค่ชนิดเดียวที่วิวัฒนาการก้าวกระโดดไปเรื่อยๆ ในขณะที่ลิงอื่นยังเป็นลิงวันยันค่ำ ขนาดปังคุงว่าฉลาดยังไง มันก็มีขอบเขตการฉลาดของมันแค่ระดับหนึ่ง ได้แค่เลียนแบบมนุษย์ เหมือนนกแก้วที่เลียนแบบการพูดของมนุษย์ได้ ลิงนั้นเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ได้บ้าง แต่ก็ดูมันจะเลียนแบบการพูดที่ซับซ้อนไม่ได้เอาซะเลย
ต่อให้มันฉลาดเท่าเด็ก6ขวบแต่เด็ก6ขวบพูดได้ แต่ลิงยังไงก็พูดไม่ได้
ทำไม...
ดังนั้นถึงผมจะเห็นทฤษฎีวิวัฒนาการ มันก็ไม่ทำให้ผมเชื่อได้เลยว่าถ้าเรื่องนี้มีจริง จะเป็นการทอยเต๋าของธรรมชาติ ที่บังเอิญกับสัตว์เพียงชนิดเดียวในโลก ยิ่งถ้าดูตามทฤษฎีวิวัฒนาการส่วนที่อ้างว่าเป็นของมนุษย์ด้วยแล้ว ที่เขาจับเอาลิงนั้นมาต่อกับลิงนี้เรียงๆกันแล้วอ้างว่าเป็นบรรพบรุษมนุษย์ ผมก็สงสัยว่าทำไม มันมีการบังเอิญซ้ำซากกับสัตว์ชนิดเดียวบ่อยแบบนี้...เหมือนจงใจปั้นให้ดังอยู่สายเดียว อันอื่นเหมือนปล่อยให้วนเวียนในอ่าง เปลี่ยนแปลงรูปร่างยังไงก็แค่ปรับตัวสู่สิ่งแวดล้อมใหม่เท่านั้น... ธรรมชาติลำเอียงหรือเปล่า
ปัจจุบันไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหน หรือทฤษฎีวิวัฒนาการใดให้คำตอบได้ว่า
ทำไม ธรรมชาติที่แสนยุติธรรมกลับลำเอียงสุดๆ
ทำไม ต้องเป็นสายพันธุ์นี้อันเดียว
และทำไม ต้องเป็นเรา
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ มิ.ย. 11, 2007 10:57 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เอ๋ ทฤษฎีนี้เค้าล่มไปแล้วนี่ครับ ชาร์ลดาร์วิน เนี่ยGray Cat Mobster เขียน: ไหนๆผมขอระบายหน่อยนะครับ
เวลาผมเรียนชีวะ โดนเฉพาะลงแล็บ ผมไม่สบายใจจริงๆในการเรียน เพราะตำราเชื่อชาร์ลดาร์วิน90% จนแบบ ไม่อยากเรียนเลยอะ ฟิสิกส์ยังไม่เท่าไหร่ เคมีก็ด้วย แต่ชีวะ+ดาราศาสตร์ ผมอึดอัดใจมากๆเลยเวลาเรียนหง่ะ
...ตอนนี้เพื่อนที่คณะสายวิทย์ที่มหาวิทยาลัยก็บอกว่าอาจารย์ไม่สอนให้เชื่อแล้ว
สอนแค่ว่า...เคยยกมา.... เหมือนกับสอนวิธีการคิด ว่าดาร์วินคิดยังไง เป็นระบบยังไงบ้าง
แต่ไม่สอนให้เชื่อบทสรุป
ความรู้คือความรู้ ไม่ว่าจะศาสตร์สายไหนก็ความรู้ ตั้งแต่วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ไปจนถึงไสยศาสตร์
ความรู้ทุกสาขาวิชา ทุกแขนง ไม่สามารถอธิบายความจริงสูงสุด หรือความจริงหนึ่งเดียวได้ (อย่างน้อยก็ไม่ใช่ ณ ตอนนี้) ทำได้เพียง "กะประมาณ" เอาเท่านั้น ในส่วนที่ได้ใช้ประโยชน์ในวงการของตน ว่า กะๆเอาว่าอย่างนี้แล้วเวิร์คเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไม่มีทฤษฎีไหน ความรู้ไหน ที่จะอธิบายได้ทุกสิ่งทุกอย่าง โดยไม่มีข้อยกเว้น
เราเรียนรู้สิ่งต่างๆเป็นสิ่งดี เพราะเรายิ่งรู้มาก เรายิ่งทำคุณประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์ได้มาก การเรียนรู้วิชาต่างๆ *เพื่อประโยชน์สุขต่อเพื่อนมนุษย์* (ไม่ใช่เพื่อนำไปเอารัดเอาเปรียบคนที่รู้ไม่เท่า หรือรู้ไม่ทันเรา) ล้วนเป็นสิ่งดีทั้งสิ้น
และตัวความรู้เอง ไม่ได้ทำให้เราห่างไกลจากพระเจ้าหรอก เราต่างหาก เมื่อมี"ความรู้"แล้ว จะทำตัวออกห่างจากพระเจ้าหรือไม่ เราจะบอกว่า เราเก่งแล้ว เราแน่แล้ว เราไม่ต้องอาศัยพระองค์ ไม่ต้องพึ่งพาพระองค์ เราใช้ความรู้ต่างๆที่เรามีไปวันๆก็หากินได้ ท้องอิ่ม นอนหลับ มีรถขับ มีบ้านอยู่ ติดแอร์เย็นสบาย เครื่องอำนวยความสะดวกสารพัน มีคนคอยรับใช้ จะทำอะไรก็ได้ สังคมเกรงใจ อยากได้อะไรก็ได้ ไม่สนใจแล้วพระจ้งพระเจ้า แบบนี้หรือเปล่าต่างหาก
ความรู้ เป็นเพียงเครื่องมือ เราจะใช้เครื่องมือนั้นเพื่อสรรเสริญพระเจ้า หรือเพื่อผลักดันตัวเองให้ออกห่างจากพระเจ้า นั่นต่างหากคือปัญหา
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ความรู้ทุกสาขาวิชา ทุกแขนง ไม่สามารถอธิบายความจริงสูงสุด หรือความจริงหนึ่งเดียวได้ (อย่างน้อยก็ไม่ใช่ ณ ตอนนี้) ทำได้เพียง "กะประมาณ" เอาเท่านั้น ในส่วนที่ได้ใช้ประโยชน์ในวงการของตน ว่า กะๆเอาว่าอย่างนี้แล้วเวิร์คเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไม่มีทฤษฎีไหน ความรู้ไหน ที่จะอธิบายได้ทุกสิ่งทุกอย่าง โดยไม่มีข้อยกเว้น
เราเรียนรู้สิ่งต่างๆเป็นสิ่งดี เพราะเรายิ่งรู้มาก เรายิ่งทำคุณประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์ได้มาก การเรียนรู้วิชาต่างๆ *เพื่อประโยชน์สุขต่อเพื่อนมนุษย์* (ไม่ใช่เพื่อนำไปเอารัดเอาเปรียบคนที่รู้ไม่เท่า หรือรู้ไม่ทันเรา) ล้วนเป็นสิ่งดีทั้งสิ้น
และตัวความรู้เอง ไม่ได้ทำให้เราห่างไกลจากพระเจ้าหรอก เราต่างหาก เมื่อมี"ความรู้"แล้ว จะทำตัวออกห่างจากพระเจ้าหรือไม่ เราจะบอกว่า เราเก่งแล้ว เราแน่แล้ว เราไม่ต้องอาศัยพระองค์ ไม่ต้องพึ่งพาพระองค์ เราใช้ความรู้ต่างๆที่เรามีไปวันๆก็หากินได้ ท้องอิ่ม นอนหลับ มีรถขับ มีบ้านอยู่ ติดแอร์เย็นสบาย เครื่องอำนวยความสะดวกสารพัน มีคนคอยรับใช้ จะทำอะไรก็ได้ สังคมเกรงใจ อยากได้อะไรก็ได้ ไม่สนใจแล้วพระจ้งพระเจ้า แบบนี้หรือเปล่าต่างหาก
ความรู้ เป็นเพียงเครื่องมือ เราจะใช้เครื่องมือนั้นเพื่อสรรเสริญพระเจ้า หรือเพื่อผลักดันตัวเองให้ออกห่างจากพระเจ้า นั่นต่างหากคือปัญหา
ขอพระเจ้าอวยพรครับ