
นักศึกษาท่านหนึ่ง : อาจารย์ครับเป็นอิสลามนี่ดีเนอะมีเมียได้ตั้งหลายคน
อาจารย์ : แต่ผมว่าศาสนาพุทธดีสุดเพราะไม่ได้ระบุว่ามีเมียได้กี่คน (ตกลงนี่เลือกศาสนาเพราะเรื่องเมียรึไงฟระ แล้วศีลข้อกาเมล่ะในพุทธเค้าก็ระบุไว้ - -" )
นักศึกษาท่านเดิม : แต่ผมว่านะครับศาสนาคริสต์ดีสุด (ผมคิดในใจเอาแระไงพาดพิงศาสนาตูแระ) เพราะทำบาปเมื่อก็ก็ล้างบาปได้บ่อย
-- ชิ้ง --
ไอ่เอกเข้าไปเจือก : ไม่ใช่นะครับการล้างบาปทำได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นส่วนที่คุณเข้าใจคือการสารภาพบาปต่อพระเจ้าและพระเจ้าจะให้อภัยต่อเมื่อได้สำนึกในบาปนะครับ
นักศึกษาท่านใหม่ : อาจารย์ครับแล้วตกลงที่ไอริชนี่เค้าทำไงครับเวลาเค้าทะเลาะกันเพราะหย่ากันไม่ได้
-- ชิ้ง --
ไอ่เอกเห็นช่องทางจะเถียงตั้งแต่ในห้องแระ
ไอ่เอก : อ่อเรื่องการแต่งงานแล้วหย่าไม่ได้นั้นเพราะเป็นกฏของพระศาสนจักรคาทอลิค (เนื่องจากวันนั้นผมใส่เสื้อคลุมที่มีตรากางเขนและเขียนว่า Catholic ที่ได้รับตอนรับศีลล้างบาป) เพราะว่าในสมัยปฐมกาลนั้นเมื่อพระเจ้าสร้างโลกพระเจ้าสร้างอดัม.. (เล่าปฐมกาลไป 1 ฉาก) มีคนมายืนฟังหลายคน จากนั้นสักพักวงก็แตก

ปล. ในคลาสนั้นอายุน้อยสุดคือ 24 คือมีผมและอาจจะมีคนอื่นอีกแต่แน่นอนว่าไม่มีใครต่ำกว่า 24 แน่ๆ ส่วนท่านอื่นๆก็หัวหงอกหัวดำกันหมดแระทำงานตำแหน่งหน้าที่ดีๆ อายุก็เยอะแต่ไม่รู้ทำไมคิดได้แค่นี้ เพราะแบบนี้ล่ะมั้งสังคมถึงเป็นแบบนี้ผู้ใหญ่ที่มีความรู้ที่น่าจะเป็นแบบอย่างแก่เด็กๆกลับไม่เข้าใจเรื่องสาสนามองแต่เรื่องเมีย (หมกมุ่น) แบบนี้จะไม่ให้สังคมมันเสื่อมได้ยังไง มีแต่ความรู้แต่ไร้ซึ่งคุณธรรมเฮ้อ