Belong to the Truth Jesus Christ

Jeab Agape เขียน:
เคยผู้เชี่ยวชาญ ฮะ :afro:

Phulasso เขียน:

Jeab Agape เขียน: คอยผู้เชี่ยวชาญ ฮะ :afro:

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวอะไรกับ กะปิ ล่ะน้อง   :shocked:

Jeab Agape เขียน:

Phulasso เขียน:

Jeab Agape เขียน: คอยผู้เชี่ยวชาญ ฮะ :afro:

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวอะไรกับ กะปิ ล่ะน้อง   :shocked:

ถ้าทั่นพี่เชียวชาญเกี่ยวกับกะปิ ก็สั่งพลีกรรม ให้นั่งดมกะปิ 7 วัน หรือ ทำอะไรให้สร้างสรรค์เกี่ยวปกับกะปิ ก็ได้ ฮะ :cheesy:

Phulasso เขียน:

Jeab Agape เขียน:
ถ้าทั่นพี่เชียวชาญเกี่ยวกับกะปิ ก็สั่งพลีกรรม ให้นั่งดมกะปิ 7 วัน หรือ ทำอะไรให้สร้างสรรค์เกี่ยวปกับกะปิ ก็ได้ ฮะ :cheesy:

ตำน้ำพริก 7 ครก ถ้าจะดี 

Batholomew เขียน: การพลีกรรม คือ การที่เราทำอะไรก็ตามที่ขัดต่อใจของเราเองครับ เพื่อถวายเป็นพลีกรรมใช้โทษบาป

เช่น วันศุกร์เป็นวันพลีกรรมตลอดปี เราก็อดเนื้อสัตว์บก ไม่ทานเนื้อสัตว์บกทั้งวัน อะไรแบบนี้อ่ะครับ

holy holy holy เขียน:

Batholomew เขียน: การพลีกรรม คือ การที่เราทำอะไรก็ตามที่ขัดต่อใจของเราเองครับ เพื่อถวายเป็นพลีกรรมใช้โทษบาป

เช่น วันศุกร์เป็นวันพลีกรรมตลอดปี เราก็อดเนื้อสัตว์บก ไม่ทานเนื้อสัตว์บกทั้งวัน อะไรแบบนี้อ่ะครับ

แล้วสัตว์น้ำล่ะ

อันตน เขียน: ปลาตัวน้อยๆ ล่องลอยไปตามน้ำ แล้วเจ้าก็ถามว่ามันเป็นด้วยเหตุใด สายธาราที่เคยงามสดใส เดี๋ยวนี้ทำไมจึงแห้งแล้งดำคร่ำ
น้ำทำไมจึงแห้ง คลองทำไมจึงดำ (ซ้ำ)
ปลาตัวน้อยๆ เฝ้าคอยคำตอบหน้า ใครจะตอบเจ้าปลาได้ไหมเจ้าเอย ปลาตัวน้อยๆเฝ้าคอยคำเฉลย ใครจะตอบเจ้าปลา แล้วใครจะตอบเจ้าปลา

holy holy holy เขียน:

Batholomew เขียน: การพลีกรรม คือ การที่เราทำอะไรก็ตามที่ขัดต่อใจของเราเองครับ เพื่อถวายเป็นพลีกรรมใช้โทษบาป

เช่น วันศุกร์เป็นวันพลีกรรมตลอดปี เราก็อดเนื้อสัตว์บก ไม่ทานเนื้อสัตว์บกทั้งวัน อะไรแบบนี้อ่ะครับ

แล้วสัตว์น้ำล่ะ

holy holy holy เขียน: อดอาหารวัน จ - พฤ และ ส - อา ไม่ได้หรือครับ

Joseph เขียน: ......

แต่พี่กลับมาเป็นคาทอลิกแล้วก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไร ที่ว่าตัวเองพลีกรรมให้คนอื่นได้ หรือเข้าเครื่องพลีกรรมให้คนอื่นได้ คนที่ทรมานให้คนอื่นได้หรือชดใช้กรรมให้คนอื่นได้มีคนเดียวคือพระเยซูคริสต์ พวกเราไม่มีทางไปชดใช้กรรมให้เพื่อนหรือพี่น้องได้ หรือไปตายไถ่บาปเขาได้ เราไม่ใช่พระเจ้า ไม่มีในพระคัมภีร์ แต่เราเองอดอาหารในการสวดภาวนาให้คนอื่นได้เพื่อเขาจะได้ผลจากการสวดของเรามากขึ้น

.........

ไม่รู้ว่าไปเอาความเชื่อมาจากไหนเรื่องพลีกรรมเพื่อใช้กรรมบาปตัวเองและคนอื่น พระเยซูก็ตายไถ่บาปเราไปแล้ว เราต้องมานั่งทรมานเพื่อไถ่บาปตัวเอง และไถ่บาปคนอื่นอีกหรือ พี่ไม่เห็นด้วยหรอกครับเรื่องนี้

Joseph เขียน: มีคนผลิตเครื่องพลีกรรมได้สำเร็จ สามารถใช้ทรมานตัวเองได้อย่างดี แล้วสามารถทรมานคนอื่นได้ด้วย มีหลายชนิดหลายวิธีเพื่อให้ตัวเองไปสวรรค์ บางคนผลิตเครื่องพลีกรรมแบบง่ายๆ คือโต๊ะตะปู หรือแผงตะปูด้วยการนั่งอยู่บนนั้นตลอดทั้งวัน แล้วก็มีบางคนพลีกรรมโดยไม่ใช้เครื่องมือด้วยการไม่ยอมกินข้าวเลย การใช้เครื่องทรมานนี้จะเห็นได้ในพวกโยคี และพวกคาทอลิกบางกลุ่ม

แต่พี่กลับมาเป็นคาทอลิกแล้วก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไร ที่ว่าตัวเองพลีกรรมให้คนอื่นได้ หรือเข้าเครื่องพลีกรรมให้คนอื่นได้ คนที่ทรมานให้คนอื่นได้หรือชดใช้กรรมให้คนอื่นได้มีคนเดียวคือพระเยซูคริสต์ พวกเราไม่มีทางไปชดใช้กรรมให้เพื่อนหรือพี่น้องได้ หรือไปตายไถ่บาปเขาได้ เราไม่ใช่พระเจ้า ไม่มีในพระคัมภีร์ แต่เราเองอดอาหารในการสวดภาวนาให้คนอื่นได้เพื่อเขาจะได้ผลจากการสวดของเรามากขึ้น

การพลีกรรมในความหมายของพี่ หมายถึง การยกถวาย หรือยกให้ การที่เราถวายน้ำใจบางส่วนในชีวิตให้พระเช่น อยากกินขนมแต่เราอดไม่กินเพื่อถวายให้พระ เป็นการยกถวายสิ่งต่างๆ ในความสุขสบายบางอย่างที่เราตั้งใจจะยกให้พระ เราสามารถสระอะไรก็ได้ในชีวิตบางสวนเพื่อให้พระ ไม่ว่าการอดอาหารตั้งใจว่า วันนี้ฉันจะไม่กินข้าวหนึ่งวันเพื่อยกให้พระ หรือฉันจะไม่ทานน้ำอัดลมเลยเพื่อยกให้พระก็ได้ หรือบางคนจะเอาแบบคริสเตียนคือได้เงินมากหักสิบเปอร์เซ็นให้พระก็ได้ เราไม่มีสิบลดแบบโปรแตสแตนท์นะ แต่ว่าเป็นน้ำใจของแต่ละบุคล นี่แหละครับพลีกรรมในความหมายของพี่ ส่วนการอดอาหารอธิฐานนั้นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับการยกถวาย สวดภาวนาบางครั้งเพื่อให้พลังการสวดภาวนามีมากขึ้นก็อดอาหาร แต่นั่นไม่ใช่พลีกรรม พลีกรรมคือ "การยกถวาย" น้ำใจตัวเองบางส่วนในชีวิตประจำวันให้กับพระ แบบอย่างนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูท่านป่วย แต่ท่านก็ยกถวายความเจ็บป่วยนี้ให้พระ นักบุญฟรังซิส แห่ง อัสซีซี ท่านมีรอยแผลที่ฝ่ามมือเหมือนพระเยซูมีความเจ็บปวด ท่านต้องการเจ็บปวดเพื่อจะได้ยกความเจ้บปวดนี้ถวายพระ เมื่อเรามีความสุขสบายเราก็ต้องยกความสุขสบายบางส่วนให้กับพระด้วยการอดอะไรลง นี่แหละครับที่เรียกว่า "พลีกรรม"

ไม่รู้ว่าไปเอาความเชื่อมาจากไหนเรื่องพลีกรรมเพื่อใช้กรรมบาปตัวเองและคนอื่น พระเยซูก็ตายไถ่บาปเราไปแล้ว เราต้องมานั่งทรมานเพื่อไถ่บาปตัวเอง และไถ่บาปคนอื่นอีกหรือ พี่ไม่เห็นด้วยหรอกครับเรื่องนี้

Florian เขียน:

Joseph เขียน: ....................
แต่พี่กลับมาเป็นคาทอลิกแล้วก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไร ที่ว่าตัวเองพลีกรรมให้คนอื่นได้ หรือเข้าเครื่องพลีกรรมให้คนอื่นได้ คนที่ทรมานให้คนอื่นได้หรือชดใช้กรรมให้คนอื่นได้มีคนเดียวคือพระเยซูคริสต์ พวกเราไม่มีทางไปชดใช้กรรมให้เพื่อนหรือพี่น้องได้ หรือไปตายไถ่บาปเขาได้ เราไม่ใช่พระเจ้า ไม่มีในพระคัมภีร์ แต่เราเองอดอาหารในการสวดภาวนาให้คนอื่นได้เพื่อเขาจะได้ผลจากการสวดของเรามากขึ้น

การพลีกรรมในความหมายของพี่ หมายถึง การยกถวาย หรือยกให้ การที่เราถวายน้ำใจบางส่วนในชีวิตให้พระเช่น อยากกินขนมแต่เราอดไม่กินเพื่อถวายให้พระ เป็นการยกถวายสิ่งต่างๆ ในความสุขสบายบางอย่างที่เราตั้งใจจะยกให้พระ
..................................
นักบุญฟรังซิส แห่ง อัสซีซี ท่านมีรอยแผลที่ฝ่ามมือเหมือนพระเยซูมีความเจ็บปวด ท่านต้องการเจ็บปวดเพื่อจะได้ยกความเจ้บปวดนี้ถวายพระ เมื่อเรามีความสุขสบายเราก็ต้องยกความสุขสบายบางส่วนให้กับพระด้วยการอดอะไรลง นี่แหละครับที่เรียกว่า "พลีกรรม"

ไม่รู้ว่าไปเอาความเชื่อมาจากไหนเรื่องพลีกรรมเพื่อใช้กรรมบาปตัวเองและคนอื่น พระเยซูก็ตายไถ่บาปเราไปแล้ว เราต้องมานั่งทรมานเพื่อไถ่บาปตัวเอง และไถ่บาปคนอื่นอีกหรือ พี่ไม่เห็นด้วยหรอกครับเรื่องนี้

บางส่วนที่ได้กล่าวไปข้างต้นอาจเป็นเทววิทยาแนวใหม่ก็ได้ อิ อิ New Theology เหอ เหอ   ::020::       

~@Little lamb@~ เขียน: เชิญ คุณพี่โจเซฟ เข้ามาอ่านที่กระทู้นี้นะคะ

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=2878.0


ที่โปรฯ ตำหนิ เพราะไม่เข้าใจเรื่องการทำกิจใช้โทษบาป เพื่อการไถ่บาป  มันไถ่ไม่ได้อยู่แล้ว
เพราะพระผู้ไถ่มีคนเดียว   แต่การพลีกรรมใช้โทษบาป เพื่อ ตัวเอง เพื่อคนบาป และเพื่อโลกนั้น   
ออกมาจากปากของพระเยซูเจ้า และ แม่พระในทุก ๆ การประจักษ์ด้วย

ถ้าพี่จะไม่เชื่อคำพูดของพระเยซูกับแม่พระ  เพราะกลัวทางโปรฯจะตำหนิก็ตามใจพี่ค่ะ

คส 1:24
บัดนี้ข้าพเจ้ายินดีที่ได้รับทุกข์ทรมานเพื่อท่านทั้งหลาย ความทรมานของพระคริสตเจ้ายังขาดสิ่งใด
ข้าพเจ้าก็เสริมให้สมบูรณ์ด้วยการทรมานในกายของข้าพเจ้า



พี่เชื่อว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นจริงทุกคำมั๊ยคะ?

Buddy เขียน:

Joseph เขียน: ......

แต่พี่กลับมาเป็นคาทอลิกแล้วก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไร ที่ว่าตัวเองพลีกรรมให้คนอื่นได้ หรือเข้าเครื่องพลีกรรมให้คนอื่นได้ คนที่ทรมานให้คนอื่นได้หรือชดใช้กรรมให้คนอื่นได้มีคนเดียวคือพระเยซูคริสต์ พวกเราไม่มีทางไปชดใช้กรรมให้เพื่อนหรือพี่น้องได้ หรือไปตายไถ่บาปเขาได้ เราไม่ใช่พระเจ้า ไม่มีในพระคัมภีร์ แต่เราเองอดอาหารในการสวดภาวนาให้คนอื่นได้เพื่อเขาจะได้ผลจากการสวดของเรามากขึ้น

.........

ไม่รู้ว่าไปเอาความเชื่อมาจากไหนเรื่องพลีกรรมเพื่อใช้กรรมบาปตัวเองและคนอื่น พระเยซูก็ตายไถ่บาปเราไปแล้ว เราต้องมานั่งทรมานเพื่อไถ่บาปตัวเอง และไถ่บาปคนอื่นอีกหรือ พี่ไม่เห็นด้วยหรอกครับเรื่องนี้

พี่ลองไปคุยกับคุณพ่อเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องดีัมั้ยคะ  จะได้มาแบ่งปันน้องๆด้วยไงคะ   ::001::

การพลีกรรมถือเป็นฤทธิ์กุศลนะคะ  สามารถเผื่อแผ่ไปยังคนอื่นได้  คิดง่ายๆเหมือนเราไปใช้โทษในสิ่งที่เราไม่ได้ทำน่ะค่ะ  เหมือนเพื่อนต้องถูกตี แล้วเราไปโดนตีแทนน่ะค่ะ   ::001::

holy holy holy เขียน:

Buddy เขียน:

Joseph เขียน: ......

แต่พี่กลับมาเป็นคาทอลิกแล้วก็ยังไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไร ที่ว่าตัวเองพลีกรรมให้คนอื่นได้ หรือเข้าเครื่องพลีกรรมให้คนอื่นได้ คนที่ทรมานให้คนอื่นได้หรือชดใช้กรรมให้คนอื่นได้มีคนเดียวคือพระเยซูคริสต์ พวกเราไม่มีทางไปชดใช้กรรมให้เพื่อนหรือพี่น้องได้ หรือไปตายไถ่บาปเขาได้ เราไม่ใช่พระเจ้า ไม่มีในพระคัมภีร์ แต่เราเองอดอาหารในการสวดภาวนาให้คนอื่นได้เพื่อเขาจะได้ผลจากการสวดของเรามากขึ้น

.........

ไม่รู้ว่าไปเอาความเชื่อมาจากไหนเรื่องพลีกรรมเพื่อใช้กรรมบาปตัวเองและคนอื่น พระเยซูก็ตายไถ่บาปเราไปแล้ว เราต้องมานั่งทรมานเพื่อไถ่บาปตัวเอง และไถ่บาปคนอื่นอีกหรือ พี่ไม่เห็นด้วยหรอกครับเรื่องนี้

พี่ลองไปคุยกับคุณพ่อเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องดีัมั้ยคะ  จะได้มาแบ่งปันน้องๆด้วยไงคะ   ::001::

การพลีกรรมถือเป็นฤทธิ์กุศลนะคะ  สามารถเผื่อแผ่ไปยังคนอื่นได้  คิดง่ายๆเหมือนเราไปใช้โทษในสิ่งที่เราไม่ได้ทำน่ะค่ะ  เหมือนเพื่อนต้องถูกตี แล้วเราไปโดนตีแทนน่ะค่ะ   ::001::

ต้องอยู่ในสถานะพระหรรษทานไหมครับ ถึงจะได้ฤทธิ์กุศล

Buddy เขียน: การพลีกรรมอาจเปรียบเทียบได้แบบนี้นะ  เหมือนเป็นการทำโจทย์ฝึกฝนก่อนเข้าห้องสอบน่ะจ้ะ  ถ้าเราทำมาก  หรือทำถูกทาง (พลีกรรมในแบบที่พระพอใจ)  เวลาทำข้อสอบจริง (เมื่อถึงเวลาที่ต้องทนทุกข์หรือเสียสละเพื่อผู้อื่น)  เราก็จะรู้สึกว่า ทำได้ง่ายใช่มั้ย  และในการฝึกทำโจทย์ของเราเนี่ย  เราทำไป  เราก็ได้อะไรใช่มั้ย  ได้ความรู้ได้วิทยายุทธ (อาจมองเป็นฤทธิ์กุศล) เพื่อไปเข้าห้องสอบ  และเราสามารถแบ่งปันเพื่อนได้  โดยการช่วยเพื่อน  ติวเพื่อน  (ฤทธิ์กุศลสามารถช่วยผู้อื่นได้)  แต่เพื่อนจะได้พระหรรษทานรึเปล่า  อันนี้ตอบไม่ได้  ต้องรอเค้าไปทำข้อสอบกับอาจารย์และดูว่า  เค้าจะได้คะแนนเท่าไหร่ (พระหรรษทาน)  เราไม่สามารถให้คะแนนเพื่อนได้  แต่เราช่วยเค้าได้

พอเข้าใจไหม     ::001::

พระเยซูเจ้าเรียกร้องให้เรารักผู้อื่น  ลำบากเพื่อผู้อื่น  สละน้ำใจตัวเองเพื่อผู้อื่น  (เพราะเราเกิดมาเืพื่อผู้อื่น  ไม่ใช่เพื่อตัวเอง) เราจะสามารถทำได้ง่าย   ดังนั้น  เราจึงต้องฝึกสละน้ำใจตัวเองผ่านการพลีกรรม  (เหมือนฝึกทำโจทย์น่ะจ้ะ)  เมื่อถึงเวลาที่เราต้องเสียสละเพื่อใคร  หรือต้องรับความยากลำบาก  (เมื่อต้องเข้าห้องสอบจริง) เราก็จะสามารถทำได้ง่าย  และด้วยใจชื่นชมยินดี  เพราะพระองค์ให้เรารับความยากลำบากด้วยความยินดี  ไม่ใช่ด้วยความทุกข์   ::001::

ความรักของพระเยซูเจ้าเป็นความรักที่เสียสละ  สละตัวเองเพื่อผู้อื่น  การพลีกรรมจึงเป็นการช่วยให้เรามีความรักแบบพระเยซูเจ้าได้จ้ะ   ::001::