รายงานผล การไปสัมผัสชีวิตคณะภารดาน้อยฟรันซิสกัน3วัน2คืน
โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 22, 2007 5:14 pm
คณะภราดาน้อยฟรันซิสกัน แห่งประเทศไทย

สมาชิกที่บ้านลำไทร
Br. Gregory from Indonesia
Br. Paulo from Brazil
Br. Johnson from India
Br. Athnasius from India
และ โปสตุลันต์ 2 คน
พี่ไวพจน์และพี่แจ๊ค
ชีวิตที่นั่น...
ปกติเราจะตื่นกันประมาณ 5.30 โดยไม่ต้องมีการปลุกให้กันและกัน และหลังจากที่ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็จะมารวมกันที่วัดน้อย ตอน6.30น. จะสวดเทวทูตและทำวัตรเช้าเป็นภาษาอังกฤษ หลังจากทำวัตรเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีมิสซาเป็นภาษาไทย โดยBr.Gregory มิสซานี้จะรับศีลไม่เหมือนกับเวลาเราไปที่วัด เพราะว่าเวลาเราไปที่วัดคุณพ่อจะออกมาส่งศีลให้ แต่ที่นี่ Br.เค้าจะบิแผ่นศีลแผ่นใหญ่ ให้เท่ากับจำนวนคนที่อยู่ในมิสซา(รวมตัวBr.ที่ทำมิสซาเองด้วย) แล้วก็รับแผ่นศีลที่บิเป็นส่วนๆ มาจิ้มกับเหล้าองุ่นแล้วรับไป แล้วคนอื่นที่ร่วมในมิสซา จึงจะเดินออกมารับศีล โดยที่จะจิ้มกับเหล้าองุ่นก็ได้(แต่ต้องระวังมากๆ เพราะหก หรือมีเศษร่วงไม่ได้เลย
) และหลังจากมิสซา เราก็จะไปกินข้าวเช้ากัน โดยที่ข้าวเช้าทุกๆเช้า จะเป็นอาหารง่ายๆ จำพวกขนมปัง ไข่ดาวหรือไข่ต้ม กับไส้กรอก ในบางมื้ออาจจะมีกับข้าวที่เหลือจากมื้อเย็นเมื่อวานด้วย หลังจากนั้นก็จะช่วยกันล้างจาน และแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน พี่ๆโปสตุลันต์ก็จะแยกย้ายไปเรียน โดยที่Br.GregoryและBr.Johnson เป็นคนสอน ส่วนBr.Paulo และBr.Athnasius ก็จะไปทำงานที่บ้านกลารา ผมก็ไปช่วยงานที่นั่นด้วย... ถึงเวลาเที่ยงตรง ก็จะกลับมาทานข้าว และก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง จนถึง6.30น. ก็จะทำวัตรเย็น โดยไม่มีมิสซา จบทำวัตรเย็น ก็จะทานอาหารเย็นกัน และแยกย้ายเข้าห้องของตัวเอง
บรรยากาศ...
ที่นั่นเป็นบ้านสวน มีคูน้ำล้อมรอบ ปลูกผลไม้ มีสิ่งมีชีวิตคือ คน สุนัขนับไม่ถ้วน แมว1ตัวและลูกๆของมัน ปลาในคู และห่านสามตัว
มีบ้านพักเล็กๆเป็นแบบเชลเตอร์ บ้านหลังนึงมีสองห้อง ห้องที่ผมนอน เป็นห้องพัดลม มีพัดลมเพดาน1ตัวและพัดลมตั้งพื้น1ตัว ห้องๆนึงมีเตียงนอนสองเตียง มีห้องน้ำและโต๊ะเขียนหนังสือให้ มีรูปแม่พระในห้องด้วยครับ
บรรยากาศกลางวันจะสบายๆ มีลมตลอดวัน และแสงแดดรำไร แต่พอตกกลางคืน ที่บ้านสวนจะมืดมาก!
มืดเหมือนเหมือนป่าเลยครับ คนที่เคยไปเขาชนไก่ และได้ฝึกปฏิบัติสอดแนมตอนกลางคืนจะรู้ครับ และตอนนั้นจะมีไฟแค่สองที่ คือที่บ้านกลาราลิบๆท้ายสวน และบ้านใหญ่ ที่Br.นอน แต่ผมแยกบ้านครับ ต้องเดินไปหาบ้านเองท่ามกลางความมืด...โอ้พระเจ้าช่วยลูกด้วย ไฟฉายก็ไม่มี ที่ทางก็ไม่ค่อยรู้ คืนแรกให้พี่ไวพจน์ไปส่งครับ เดินเกือบจะตกถนน
คืนที่สองก็ไปเองได้แล้ว เห็นประโยชน์แสงจันทร์ขึ้นมาเลยครับ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นครับ พี่โปสตุลันต์สองคน เค้าต้องเดินเข้าไปในบ้านสวนมืดๆลึกกว่าผมอีกครับ... 
ที่บ้านกลารา...
ที่สวนสันติธรรมแห่งนี้ จะมีบ้านกลาราอยู่ ซึ่งเป็นที่พักของผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้าย รองรับผู้ป่วยได้ประมาณ14คน มี Br. สองคน ทำงานในออฟฟิสที่นี่ และมีซิสเตอร์คณะธิดาเมตตาธรรม1คนช่วยงานอยู่ด้วย ทำงานอยู่กับคณะแพทย์ Doctor without Border ผมก็ได้ช่วยเขียนจ่าหน้าซองจดหมายถึงญาติของผู้ป่วย เพราะว่า Br.เขียนภาษาไทยไม่คล่อง ผมเลยมีโอกาสที่จะเห็นประวัติของผู้ป่วยเก่าหลายๆคน ซึ่ง...หลายๆคนไม่มีญาติ มาจากสภานพักฟื้นผู้ป่วยโรคเอดส์ที่อื่น ส่วนใหญ่ก็มาเสียชีวิตที่นี่ เมื่อสอบถามยอดการเสียชีวิต ก็พบว่าประมาณเดือนละ3-4คน ค้นประวัติผู้ป่วยมาใช้เวลาอยู่ที่นี่สั้นที่สุด คือประมาณ1วัน
และที่มาอยู่นานที่สุดคือ5ปี และผู้ป้วยที่อายุน้อยที่สุดที่เข้ามาคือ อายุเพียง2ป
ี และเสียชีวิตได้เมื่ออายุประมาณ7ปี บางคนมีวงเล็บเป็นคอมเม้นไว้ด้วย ว่า ท้อแท้ ไม่มีญาติพี่น้อง หรือที่ร้ายกาจมากคือญาติพี่น้องทอดทิ้ง Br.ยังเล่าให้ฟังอีกว่า เคยมีแม่มาส่งลูก แต่แค่มาส่งจริงๆ ไม่เข้ามาคุยไม่อะไรทั้งสิ้น อาจจะเรียกได้ว่าเอามาทิ้งที่นี่เลยด้วยซ้ำ แต่ระหว่างที่กำลังหดหู่อยู่กับการดูประวัติของผู้ป่วย ก็เจอกับประโยคหนึ่ง เป็นช่องให้กรอกในใบประวัติ ว่า ผู้มาส่งเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ป่วย อ่านเจอของผู้ป่วยรายนึง เขียนไว้ว่า "เห็นว่าเค้าไม่มีญาติพี่น้อง เลยพามาส่ง" ทั้งๆที่ตัวเค้าเอง ไม่ได้รู้จักอะไรกับผู้ป่วยเลย...
ผมมาอยู่ช่วยงานที่บ้านกลารา ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง บริการและพูดคุยกับผู้ป่วย ทำงานในออฟฟิส ทำให้เห็นเลยว่า โลกนี้ยังขาดความรักอยู่อีกมาก
จิปาถะ ฯลฯ
สุนัขสองตัวที่บ้านกลารา ชื่อลิลลี่และปีโป้ ลิลลี่เป็นหมาพันธุ์เล็ก แต่เห่าทุกคนที่เข้ามาในบ้านกลารา
ระหว่างที่ปีโป้ตัวใหญ่กว่ามาก แต่ระริกระรี้กับคนแปลกหน้าทุกคน
ห่าน เมื่อก่อนเคยมี7ตัว แต่Br.ทนเสียงพวกมันไม่ไหว เลยจัดการเหลือ3ตัว
สุนัขที่เหลือ ส่วนใหญ่จะอยู่ท้ายสวน จะมาคอยไล่แกล้งต้อนพวกห่านเล่นๆ จนมีเสียงห่านร้องระงมอยู่เป็นพักๆ
สาเหตุที่สุนัขมีเยอะมาก เนื่องจากมีคนเอามาปล่อย แล้วมันก็เติบโตออกลูกออกหลาน กลายเป็นสุนัขประจำบ้านฟรังซิสกัน
ลูกแมว เดิมมี4ตัว โดนงูจับกินไป1ตัว
งูที่อยู่ที่นั่นเป้นงูสิงห์ และมีเยอะมาก ไปเดินลุยหญ้าเข้าไปถ้าตาดีๆ ก็อาจจะได้เจอ
รูปปั้นข้างหน้าบ้าน เป็นรูปนักบุญฟรังซิส แต่ใส่ชุดแบบ"กาปูชิน" = ="
มิสซาที่วัดน้อยBr.จะนั่งทำมิสซาตลอด จะยืนแค่ตอนอ่านพระวรสาร และพระแท่นเป็นหินอ่อนหยาบๆ สวยงามมาก และมีตู้ศีลที่ไม่ได้ใช้
ขณะที่อยู่ที่นั่น Br.บอกว่า ชื่อ"พุทรา" เรียกยาก เลยตกลงกันว่า เรียกผมว่า john ซึ่งเป็นศาสนนามของผม
ลิงค์ของคณะ >>>
<<<
สุดท้าย ขอบคุณ Br.ทุกคน และพี่ๆโปสตุลันต์ที่บ้านลำไทรครับ

สมาชิกที่บ้านลำไทร
Br. Gregory from Indonesia
Br. Paulo from Brazil
Br. Johnson from India
Br. Athnasius from India
และ โปสตุลันต์ 2 คน
พี่ไวพจน์และพี่แจ๊ค
ชีวิตที่นั่น...
ปกติเราจะตื่นกันประมาณ 5.30 โดยไม่ต้องมีการปลุกให้กันและกัน และหลังจากที่ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็จะมารวมกันที่วัดน้อย ตอน6.30น. จะสวดเทวทูตและทำวัตรเช้าเป็นภาษาอังกฤษ หลังจากทำวัตรเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีมิสซาเป็นภาษาไทย โดยBr.Gregory มิสซานี้จะรับศีลไม่เหมือนกับเวลาเราไปที่วัด เพราะว่าเวลาเราไปที่วัดคุณพ่อจะออกมาส่งศีลให้ แต่ที่นี่ Br.เค้าจะบิแผ่นศีลแผ่นใหญ่ ให้เท่ากับจำนวนคนที่อยู่ในมิสซา(รวมตัวBr.ที่ทำมิสซาเองด้วย) แล้วก็รับแผ่นศีลที่บิเป็นส่วนๆ มาจิ้มกับเหล้าองุ่นแล้วรับไป แล้วคนอื่นที่ร่วมในมิสซา จึงจะเดินออกมารับศีล โดยที่จะจิ้มกับเหล้าองุ่นก็ได้(แต่ต้องระวังมากๆ เพราะหก หรือมีเศษร่วงไม่ได้เลย

บรรยากาศ...
ที่นั่นเป็นบ้านสวน มีคูน้ำล้อมรอบ ปลูกผลไม้ มีสิ่งมีชีวิตคือ คน สุนัขนับไม่ถ้วน แมว1ตัวและลูกๆของมัน ปลาในคู และห่านสามตัว





ที่บ้านกลารา...
ที่สวนสันติธรรมแห่งนี้ จะมีบ้านกลาราอยู่ ซึ่งเป็นที่พักของผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้าย รองรับผู้ป่วยได้ประมาณ14คน มี Br. สองคน ทำงานในออฟฟิสที่นี่ และมีซิสเตอร์คณะธิดาเมตตาธรรม1คนช่วยงานอยู่ด้วย ทำงานอยู่กับคณะแพทย์ Doctor without Border ผมก็ได้ช่วยเขียนจ่าหน้าซองจดหมายถึงญาติของผู้ป่วย เพราะว่า Br.เขียนภาษาไทยไม่คล่อง ผมเลยมีโอกาสที่จะเห็นประวัติของผู้ป่วยเก่าหลายๆคน ซึ่ง...หลายๆคนไม่มีญาติ มาจากสภานพักฟื้นผู้ป่วยโรคเอดส์ที่อื่น ส่วนใหญ่ก็มาเสียชีวิตที่นี่ เมื่อสอบถามยอดการเสียชีวิต ก็พบว่าประมาณเดือนละ3-4คน ค้นประวัติผู้ป่วยมาใช้เวลาอยู่ที่นี่สั้นที่สุด คือประมาณ1วัน


ผมมาอยู่ช่วยงานที่บ้านกลารา ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง บริการและพูดคุยกับผู้ป่วย ทำงานในออฟฟิส ทำให้เห็นเลยว่า โลกนี้ยังขาดความรักอยู่อีกมาก
จิปาถะ ฯลฯ
สุนัขสองตัวที่บ้านกลารา ชื่อลิลลี่และปีโป้ ลิลลี่เป็นหมาพันธุ์เล็ก แต่เห่าทุกคนที่เข้ามาในบ้านกลารา
ระหว่างที่ปีโป้ตัวใหญ่กว่ามาก แต่ระริกระรี้กับคนแปลกหน้าทุกคน
ห่าน เมื่อก่อนเคยมี7ตัว แต่Br.ทนเสียงพวกมันไม่ไหว เลยจัดการเหลือ3ตัว

สุนัขที่เหลือ ส่วนใหญ่จะอยู่ท้ายสวน จะมาคอยไล่แกล้งต้อนพวกห่านเล่นๆ จนมีเสียงห่านร้องระงมอยู่เป็นพักๆ
สาเหตุที่สุนัขมีเยอะมาก เนื่องจากมีคนเอามาปล่อย แล้วมันก็เติบโตออกลูกออกหลาน กลายเป็นสุนัขประจำบ้านฟรังซิสกัน
ลูกแมว เดิมมี4ตัว โดนงูจับกินไป1ตัว
งูที่อยู่ที่นั่นเป้นงูสิงห์ และมีเยอะมาก ไปเดินลุยหญ้าเข้าไปถ้าตาดีๆ ก็อาจจะได้เจอ
รูปปั้นข้างหน้าบ้าน เป็นรูปนักบุญฟรังซิส แต่ใส่ชุดแบบ"กาปูชิน" = ="

มิสซาที่วัดน้อยBr.จะนั่งทำมิสซาตลอด จะยืนแค่ตอนอ่านพระวรสาร และพระแท่นเป็นหินอ่อนหยาบๆ สวยงามมาก และมีตู้ศีลที่ไม่ได้ใช้
ขณะที่อยู่ที่นั่น Br.บอกว่า ชื่อ"พุทรา" เรียกยาก เลยตกลงกันว่า เรียกผมว่า john ซึ่งเป็นศาสนนามของผม
ลิงค์ของคณะ >>>

สุดท้าย ขอบคุณ Br.ทุกคน และพี่ๆโปสตุลันต์ที่บ้านลำไทรครับ
