ประโยคเด็ดโดนใจ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
วันนี้ดูUBC เป็นสารคดีเกี่ยวกับการลอบสังหารด้วยยาพิษ
อดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำงานเกี่ยวกับพวกพิษ ได้พูดประโยค 1 ออกมา..โดนใจ LL อย่างแรง
ขอเอามาแบ่งปันค่ะ
"พระเจ้าทรงใช้วิธีเดียวในการสร้างมนุษย์
แต่มนุษย์คิดเป็นล้านวิธีในการที่จะทำลายมัน"
อดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำงานเกี่ยวกับพวกพิษ ได้พูดประโยค 1 ออกมา..โดนใจ LL อย่างแรง
ขอเอามาแบ่งปันค่ะ
"พระเจ้าทรงใช้วิธีเดียวในการสร้างมนุษย์
แต่มนุษย์คิดเป็นล้านวิธีในการที่จะทำลายมัน"
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ถูกต้องครับพี่
"พระเจ้าทรงใช้วิธีเดียวในการสร้างมนุษย์
แต่มนุษย์คิดเป็นล้านวิธีในการที่จะบอกว่าพระเจ้าไม่มี"
ประโยคนี้ก็เคยได้ยินพ่อเทศน์เหมือนกันครับ
"พระเจ้าทรงใช้วิธีเดียวในการสร้างมนุษย์
แต่มนุษย์คิดเป็นล้านวิธีในการที่จะบอกว่าพระเจ้าไม่มี"
ประโยคนี้ก็เคยได้ยินพ่อเทศน์เหมือนกันครับ
- TheOffspring
- โพสต์: 102
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 26, 2006 6:54 pm
- ที่อยู่: Hope of Chiang Mai
- ติดต่อ:
ชอบๆ...เจ๋งจริงๆเลย
~@Little lamb@~ เขียน: วันนี้ดูUBC เป็นสารคดีเกี่ยวกับการลอบสังหารด้วยยาพิษ
อดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำงานเกี่ยวกับพวกพิษ ได้พูดประโยค 1 ออกมา..โดนใจ LL อย่างแรง
ขอเอามาแบ่งปันค่ะ
"พระเจ้าทรงใช้วิธีเดียวในการสร้างมนุษย์
แต่มนุษย์คิดเป็นล้านวิธีในการที่จะทำลายมัน"
ชอบประโยคนี้จังเลยค่ะ^^ ซึ้งมักมาก
นั่นสิ >< (ไม่ได้เข้ามานานงิ)
การฆ่ากันมันก็มีหลากหลาย หลายสาเหตุ และหลายที่มา
ในสงครามเมื่อมีอาวุธก็เกิดการต่อกรกันด้วยอาวุธเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง อย่างในสงครามในยุคโบราณถ้าข้าศึกยกทัพมาตีเมืองแล้วมีจำนวนมากกว่าถ้าไม่มีเครื่องทุ่นแรงอย่างลูกธนู น้ำมันร้อนๆ ที่เอาไว้ทิ้งลงมาจากกำแพงเมือง เมืองก็จะแตกแล้วข้าศึกก็จะเข้าไปทำร้ายคนในเมือง อันนี้ก็จำเป็นที่ต้องใช้อาวุธแรงๆ อย่างไม่มีทางเลือก คนในสมัยนั้นคงคิดถึงปืนใหญ่เพราะมันทุ่นแรงได้ดีกว่า แต่เมื่อสมัยใหม่ขึ้นก็มีการทำปืนกลที่ยิ่งได้เร็วและตายทีละหลายๆ คนก็สามารถป้องกันการบุกของข้าศึกได้ง่ายกว่า ต่อมาก็ใช้อาวุธที่เป็นปืนกลยิ่งกันทั้งฝายรุกและฝากรับ ต่างฝ่ายต่างก็ผลิตอาวุธที่รุนแรงกันขึ้นมาเพื่อการเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งและป้องกันตัวเอง นั่นเป็นเรืองของสงคราม และบางอย่างก็เป็นภาวะจำเป็นอย่างหลีกไม่ได้
แต่สังคมในกรุง ก็ยังมีการคิดวางแผนฆ่ากันหลายร้อยหลายพันวิธี เพียงเพราะขัดผลประโยชน์กัน แล้วการฆ่ายังไงที่ไม่ผิดกฏหมาย ก็มีความคิดออกมาได้หลายวิธี เมื่อวิธีเก่าๆ บางวิธีใช้ไม่ได้ผลก็มีวิธีการใหม่ๆ เกิดขึ้นมาสุดแล้วแต่ที่จะคิดกันมาได้ เหมือนอย่างที่เจ้าหน้าทำงานเกี่ยวกับยาพิษพูดนั่นแหละ "พระเจ้าสร้างเรามาวิธีเดียวแต่มนุษย์คิดวิธีทำลายได้หลายวิธี" ถ้าไม่มีกฏหมายการฆ่ากันก็คงเหมือนกับหนังแนว Western ที่คนไทยเรียกว่าหนังคาวบอยอะไรอย่างนั้น ยุคนั้นชีวิตคนมีค่าน้อยกว่าวัวตัวหนึ่งเพียงแค่อยากได้วัวตัวเดียวก็ยิ่งทิ้งกันเลยนี่แหละครับสังคมตะวันตกยุคหลังสร้างทางรถไฟเสร็จแล้ว เมืองหนึ่งมีนายอำเภอแค่คนเดียวแล้วจะดูแลผู้ร้ายได้หรือ ทำให้ยุคนั้นเป็นดินแดนเถื่อนที่มีแต่พวกนักเลงอันธพาล และมือปืนรับจ้างอยู่เต็มไปหมด ที่เราเห็นกันในภาพยนตร์ Western
ไม่ว่าโลกจะเจริญเท่าไร หรือยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน คนเราก็คิดฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละถ้าคนเราขาดความรัก ศาสนาเราถึงสอนย้ำบ่อยๆ ไงว่า "จงรักกันและกัน" คนจะรู้จักว่าเราเป็นศิษย์พระเยซูได้ก็คือ "เรารักกันและกัน"
ในสงครามเมื่อมีอาวุธก็เกิดการต่อกรกันด้วยอาวุธเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง อย่างในสงครามในยุคโบราณถ้าข้าศึกยกทัพมาตีเมืองแล้วมีจำนวนมากกว่าถ้าไม่มีเครื่องทุ่นแรงอย่างลูกธนู น้ำมันร้อนๆ ที่เอาไว้ทิ้งลงมาจากกำแพงเมือง เมืองก็จะแตกแล้วข้าศึกก็จะเข้าไปทำร้ายคนในเมือง อันนี้ก็จำเป็นที่ต้องใช้อาวุธแรงๆ อย่างไม่มีทางเลือก คนในสมัยนั้นคงคิดถึงปืนใหญ่เพราะมันทุ่นแรงได้ดีกว่า แต่เมื่อสมัยใหม่ขึ้นก็มีการทำปืนกลที่ยิ่งได้เร็วและตายทีละหลายๆ คนก็สามารถป้องกันการบุกของข้าศึกได้ง่ายกว่า ต่อมาก็ใช้อาวุธที่เป็นปืนกลยิ่งกันทั้งฝายรุกและฝากรับ ต่างฝ่ายต่างก็ผลิตอาวุธที่รุนแรงกันขึ้นมาเพื่อการเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งและป้องกันตัวเอง นั่นเป็นเรืองของสงคราม และบางอย่างก็เป็นภาวะจำเป็นอย่างหลีกไม่ได้
แต่สังคมในกรุง ก็ยังมีการคิดวางแผนฆ่ากันหลายร้อยหลายพันวิธี เพียงเพราะขัดผลประโยชน์กัน แล้วการฆ่ายังไงที่ไม่ผิดกฏหมาย ก็มีความคิดออกมาได้หลายวิธี เมื่อวิธีเก่าๆ บางวิธีใช้ไม่ได้ผลก็มีวิธีการใหม่ๆ เกิดขึ้นมาสุดแล้วแต่ที่จะคิดกันมาได้ เหมือนอย่างที่เจ้าหน้าทำงานเกี่ยวกับยาพิษพูดนั่นแหละ "พระเจ้าสร้างเรามาวิธีเดียวแต่มนุษย์คิดวิธีทำลายได้หลายวิธี" ถ้าไม่มีกฏหมายการฆ่ากันก็คงเหมือนกับหนังแนว Western ที่คนไทยเรียกว่าหนังคาวบอยอะไรอย่างนั้น ยุคนั้นชีวิตคนมีค่าน้อยกว่าวัวตัวหนึ่งเพียงแค่อยากได้วัวตัวเดียวก็ยิ่งทิ้งกันเลยนี่แหละครับสังคมตะวันตกยุคหลังสร้างทางรถไฟเสร็จแล้ว เมืองหนึ่งมีนายอำเภอแค่คนเดียวแล้วจะดูแลผู้ร้ายได้หรือ ทำให้ยุคนั้นเป็นดินแดนเถื่อนที่มีแต่พวกนักเลงอันธพาล และมือปืนรับจ้างอยู่เต็มไปหมด ที่เราเห็นกันในภาพยนตร์ Western
ไม่ว่าโลกจะเจริญเท่าไร หรือยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน คนเราก็คิดฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละถ้าคนเราขาดความรัก ศาสนาเราถึงสอนย้ำบ่อยๆ ไงว่า "จงรักกันและกัน" คนจะรู้จักว่าเราเป็นศิษย์พระเยซูได้ก็คือ "เรารักกันและกัน"
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
วันนี้ ในงานปลงศพของพ่อเขียว ได้อ่านบทรับข้อนี้แล้วรู้สึกโดนใจที่สุด
"ข้าพเจ้ามองดูพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงฟังข้าพเจ้า"
อา~~~~~~~~~~~~~~
ทั้งยิ่งใหญ่ และ สร้างความมั่นใจให้ดีเหลือเกิน
"ข้าพเจ้ามองดูพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงฟังข้าพเจ้า"
อา~~~~~~~~~~~~~~
ทั้งยิ่งใหญ่ และ สร้างความมั่นใจให้ดีเหลือเกิน
- ~Silhouette of a Breeze~
- โพสต์: 4
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 14, 2007 10:35 pm
- ที่อยู่: Thailand Motion Capture Animation Designer [TMCADesign]
ใครเคยชมการ์ตูนเรื่องChrono Crusadeบ้างมีประโยคโดนใจตอนจบเหมือนกันแต่มันเก่าหลายปีแล้วหามาโพสไม่ได้ :undecided:
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
ประโยคดีๆ เป็นกำลังใจให้เราได้ดี เนอะคะ
ปล.เมื่อคืน ก็ดู UBC สารคดีเกี่ยวกับการลอบสังหารด้วยยาพิษ
แต่เก๋ไม่เห็นประโยคนั้นเลยอ่ะคะ? สงสัยดูตอนท้ายแล้ว อิอิ :undecided:
ปล.เมื่อคืน ก็ดู UBC สารคดีเกี่ยวกับการลอบสังหารด้วยยาพิษ
แต่เก๋ไม่เห็นประโยคนั้นเลยอ่ะคะ? สงสัยดูตอนท้ายแล้ว อิอิ :undecided:
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
วันนี้ไปงานศพมา ระหว่างที่สวดศพอยู่ ก็มีประโยคเด็ดโดนใจอีกแล้ว
"พระยาเวห์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นความดีงามทั้งสิ้นของข้าพเจ้า"
คำพูดประมาณนี้....
จริง ๆ ยังมีอีกหลายประโยคในหนังสือ....แต่ประโยคนี้...
อ่านแล้ว....รู้สึก....จึ๊ก จิ๊ก จึ๊ก
ไม่มีอะไรค่ะ....อยากจะแบ่งปันเฉย ๆ
แต่ก่อนอ่านแล้วก็รู้สึกเฉย ๆ แต่ ณ วันนี้ อ่านแล้ว จึ๊ก!!
"พระยาเวห์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นความดีงามทั้งสิ้นของข้าพเจ้า"
คำพูดประมาณนี้....
จริง ๆ ยังมีอีกหลายประโยคในหนังสือ....แต่ประโยคนี้...
อ่านแล้ว....รู้สึก....จึ๊ก จิ๊ก จึ๊ก
ไม่มีอะไรค่ะ....อยากจะแบ่งปันเฉย ๆ
แต่ก่อนอ่านแล้วก็รู้สึกเฉย ๆ แต่ ณ วันนี้ อ่านแล้ว จึ๊ก!!
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
หมายความว่าไงอ่ะครับ คือยอมลงนรกหรอครับ :huh:ลูกแม่ เขียน: เป็นใหญ่ในนรก ดีกว่าเป็นทาส บนสวรรค์ โดนมากกกกกกกก
Joseph เขียน: การฆ่ากันมันก็มีหลากหลาย หลายสาเหตุ และหลายที่มา
ในสงครามเมื่อมีอาวุธก็เกิดการต่อกรกันด้วยอาวุธเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง อย่างในสงครามในยุคโบราณถ้าข้าศึกยกทัพมาตีเมืองแล้วมีจำนวนมากกว่าถ้าไม่มีเครื่องทุ่นแรงอย่างลูกธนู น้ำมันร้อนๆ ที่เอาไว้ทิ้งลงมาจากกำแพงเมือง เมืองก็จะแตกแล้วข้าศึกก็จะเข้าไปทำร้ายคนในเมือง อันนี้ก็จำเป็นที่ต้องใช้อาวุธแรงๆ อย่างไม่มีทางเลือก คนในสมัยนั้นคงคิดถึงปืนใหญ่เพราะมันทุ่นแรงได้ดีกว่า แต่เมื่อสมัยใหม่ขึ้นก็มีการทำปืนกลที่ยิ่งได้เร็วและตายทีละหลายๆ คนก็สามารถป้องกันการบุกของข้าศึกได้ง่ายกว่า ต่อมาก็ใช้อาวุธที่เป็นปืนกลยิ่งกันทั้งฝายรุกและฝากรับ ต่างฝ่ายต่างก็ผลิตอาวุธที่รุนแรงกันขึ้นมาเพื่อการเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่งและป้องกันตัวเอง นั่นเป็นเรืองของสงคราม และบางอย่างก็เป็นภาวะจำเป็นอย่างหลีกไม่ได้
แต่สังคมในกรุง ก็ยังมีการคิดวางแผนฆ่ากันหลายร้อยหลายพันวิธี เพียงเพราะขัดผลประโยชน์กัน แล้วการฆ่ายังไงที่ไม่ผิดกฏหมาย ก็มีความคิดออกมาได้หลายวิธี เมื่อวิธีเก่าๆ บางวิธีใช้ไม่ได้ผลก็มีวิธีการใหม่ๆ เกิดขึ้นมาสุดแล้วแต่ที่จะคิดกันมาได้ เหมือนอย่างที่เจ้าหน้าทำงานเกี่ยวกับยาพิษพูดนั่นแหละ "พระเจ้าสร้างเรามาวิธีเดียวแต่มนุษย์คิดวิธีทำลายได้หลายวิธี" ถ้าไม่มีกฏหมายการฆ่ากันก็คงเหมือนกับหนังแนว Western ที่คนไทยเรียกว่าหนังคาวบอยอะไรอย่างนั้น ยุคนั้นชีวิตคนมีค่าน้อยกว่าวัวตัวหนึ่งเพียงแค่อยากได้วัวตัวเดียวก็ยิ่งทิ้งกันเลยนี่แหละครับสังคมตะวันตกยุคหลังสร้างทางรถไฟเสร็จแล้ว เมืองหนึ่งมีนายอำเภอแค่คนเดียวแล้วจะดูแลผู้ร้ายได้หรือ ทำให้ยุคนั้นเป็นดินแดนเถื่อนที่มีแต่พวกนักเลงอันธพาล และมือปืนรับจ้างอยู่เต็มไปหมด ที่เราเห็นกันในภาพยนตร์ Western
ไม่ว่าโลกจะเจริญเท่าไร หรือยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน คนเราก็คิดฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละถ้าคนเราขาดความรัก ศาสนาเราถึงสอนย้ำบ่อยๆ ไงว่า "จงรักกันและกัน" คนจะรู้จักว่าเราเป็นศิษย์พระเยซูได้ก็คือ "เรารักกันและกัน"
โดยส่วนตัวผมมองว่าการฆ่ากันทางธุรกิจด้วยผลประโยชน์ที่ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง โดยใช้ความเหนือว่าทางเศรษฐกิจและความรู้ จากนโยบายของผู้เป็นCEOบริษัทเอกชนกระทำกับชาวบ้านตาดำๆไร้ทางสู้ โหด*****มและเลือดเย็นกว่าการฆ่าข้าศึกโดยทหารในสนามรบ ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา(ผู้กอง นายพล)ซะอีก การกดขี่ผู้อ่อนแอกว่าตนเองด้วยความรู้ที่เหนือกว่าและอำนาจทางธุรกิจและเงินทองที่เหนือกว่าผู้อื่น เป็นการฆ่าแบบตายทั้งเป็นครับ เลือดเย็นและโหด*****มยิ่งกว่าทหารถือปืนคุมตัวเชลยศึกเสียอีก เพราะว่ามันคือการฆ่าแบบนิ่มๆ ตายทั้งเป็น และผู้ถูกกดขี่ไม่สามารถหาทางสู้กลับได้
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
แก้ไขล่าสุดโดย Pry-Kaew เมื่อ อังคาร ต.ค. 16, 2007 11:41 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เมื่อกี่คนที่บ้าน(แม่เด็ก)เปิดช่องเจ็ดดูไอ้ก๊อดซิลล่ายิงแสงกันเปรี้ยงปร้างๆ ผมเห็นแล้วคิดว่าแม่พระเก่งกว่าเยอะ ไม่ต้องแปลงร่าง ไม่ต้องเรียกยาน เอาพระอาทิตย์มาเป็นอาภรณ์ได้ด้วยเหยียบหัวซาตานได้อีก อู๊ยยย เก่งกว่าพวกที่มนุษย์จินตนาการขึ้นมาเยอะ แถมจินตนาการไปจินตนาการมายังทำให้คอยผยองอีกว่าตัวเหนือกว่าพระ
วันนี้รู้สึกว่าแม่พระเป็นยอดสตรีขึ้นมาจับใจเมื่อได้ดูบักกะปอมเป็นตางึดทางช่องเจ็ด
วันนี้รู้สึกว่าแม่พระเป็นยอดสตรีขึ้นมาจับใจเมื่อได้ดูบักกะปอมเป็นตางึดทางช่องเจ็ด
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ลูกแม่ เขียน: เป็นใหญ่ในนรก ดีกว่าเป็นทาส บนสวรรค์ โดนมากกกกกกกก
เออ.....ไม่ค่อยสร้างสรรเลยค่ะ ประโยคนี้
ให้ตายยังงัยก็ไม่เอาหรอก นรกน่ะ ไม่ขอยุ่งเกี่ยว
อยู่ชายขอบ ติด ๆ ขอบประตูสวรรค์ ดีกว่ายืนอยู่หน้าประตูนรกค่ะ
-
- Arch Guardian
- โพสต์: 297
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 09, 2006 8:19 pm
- ที่อยู่: ดินแดนอันไกลโพ้น
คำพูดของ ลูซิเฟอร์ ครับ บอกว่าถ้า ต้องลงนรกแล้วได้เป็นใหญ่ ก็ยังดีกว่าอยู่บนสวรรค์ แล้วต้องเป็นเพียง ข้ารับใช้(ทาส)Batholomew เขียน:หมายความว่าไงอ่ะครับ คือยอมลงนรกหรอครับ :huh:ลูกแม่ เขียน: เป็นใหญ่ในนรก ดีกว่าเป็นทาส บนสวรรค์ โดนมากกกกกกกก
แท้ จริงแล้ว ลูซิเฟอร์ ก็ไม่ได้เป็นใหญ่บนสวรรค์ ด้วยนิ ท่าทางจะพูด ปลอบใจตัวเองนะนั่น (เรื่องนี้เคยคุยกะพ่อปริ้นซ์ สมัยเป็น บร. ครับ)
คำคมหนังจีน
"หนึ่งขลุ่ยหนึ่งกระบี่ท่องทั่วหล้า ใช้สุราหนึ่งกาดับความทุกข์"
"สองขาย่ามก้าวไปทั่วแดน รองด้วยผืนฟ้าห่มด้วยผืนดิน"
"กระบี่อยู่ที่ใจหากเยี่ยมยุทธแล้วไซร้เเม้นกิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน"
"ม้าดีแม้แก่ชราอยู่ในคอก
ยังมีเจตจำนงหมายวิ่งพันลี้
วีรบุรุษแม้ล่วงเข้าวัยชรา
เจตจำนงแรงกล้ามิดับสูญ"
"เอี้ยก้วย ข้าเกียจเจ้า ข้า..ข้าเกียจเจ้า!"
"หนึ่งขลุ่ยหนึ่งกระบี่ท่องทั่วหล้า ใช้สุราหนึ่งกาดับความทุกข์"
"สองขาย่ามก้าวไปทั่วแดน รองด้วยผืนฟ้าห่มด้วยผืนดิน"
"กระบี่อยู่ที่ใจหากเยี่ยมยุทธแล้วไซร้เเม้นกิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน"
"ม้าดีแม้แก่ชราอยู่ในคอก
ยังมีเจตจำนงหมายวิ่งพันลี้
วีรบุรุษแม้ล่วงเข้าวัยชรา
เจตจำนงแรงกล้ามิดับสูญ"
"เอี้ยก้วย ข้าเกียจเจ้า ข้า..ข้าเกียจเจ้า!"
ว่าไปแบ่งปันบ้างดีกว่า
ไปร่วมสวดสายประคำที่วัดกาลหว่าร์ เมื่อเย็นวันเสาร์
ท่านสังฆราชชูศักดิ์ มาเป้ฯประธานในพิธีมิซซาเย็น
ท่านเล่าว่าเมื่อท่านได้รับประกาศแต่งตั้ง เป็นพระสังฆราช
ก้มีงานเลี้ยงฉลองในกลุ่มเพื่อนๆ
คุณพ่อหลายๆคนก็มาแสดงความยินดี
แต่มีคุณพ่อคนหนึ่งกล่าวว่า
"เราไม่ขอแสดงความยินดี แต่ขอเป็นกำลังใจให้"
____________________________
เมื่อเลือกเป็นศิษย์/ลูกของพระองค์แล้ว
อย่าเอาแต่ขอจากพระองค์
แต่เชิญมาร่วมแบกกางเขนกับพระองค์ครับ
ไปร่วมสวดสายประคำที่วัดกาลหว่าร์ เมื่อเย็นวันเสาร์
ท่านสังฆราชชูศักดิ์ มาเป้ฯประธานในพิธีมิซซาเย็น
ท่านเล่าว่าเมื่อท่านได้รับประกาศแต่งตั้ง เป็นพระสังฆราช
ก้มีงานเลี้ยงฉลองในกลุ่มเพื่อนๆ
คุณพ่อหลายๆคนก็มาแสดงความยินดี
แต่มีคุณพ่อคนหนึ่งกล่าวว่า
"เราไม่ขอแสดงความยินดี แต่ขอเป็นกำลังใจให้"
____________________________
เมื่อเลือกเป็นศิษย์/ลูกของพระองค์แล้ว
อย่าเอาแต่ขอจากพระองค์
แต่เชิญมาร่วมแบกกางเขนกับพระองค์ครับ
-
- โพสต์: 187
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2007 9:59 pm
- ที่อยู่: นครศรีธรรมราช Nakhoosri-tammarat
- ติดต่อ:
ภายใต้ปีกสีดำและความมืดมิด
ข้าเจ้ามองเห็นลำแสง
แต่เป็นแห่งการเข่นฆ่า
ที่เผ่าพันธุ์ของข้า อยิบยื่นให้กันและกัน
ข้าเจ้ามองเห็นลำแสง
แต่เป็นแห่งการเข่นฆ่า
ที่เผ่าพันธุ์ของข้า อยิบยื่นให้กันและกัน