หน้า 1 จากทั้งหมด 2

โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2007 9:02 pm
โดย แบกะดิน
คือว่าวันจันทร์ที่17กันยายนนี้ เป็นวันเกิดเรา
และแม่บอกว่าให้ไปตักบาตรกับแม่ เรานี้เครียดเลย ทำไงดี

เราเลยบอกแม่ว่า ตื่นเช้าขี้เกียดตื่น
แม่บอกว่า ไม่ได้น้ะ ตักบาตรอยู่ทุกปี ปีนี้ไม่ตักได้ไง

และเราควรทำไงดี ใกล้ถึงและด้วย เราไม่อยากตักเลยอ่ะ T___T
เราอยากคุยกะแม่ให้รู้เรื่อง แต่ถ้าเราบอกแม่ไปตอนนี้เราคงอาจจะไม่ได้เรียนคำสอน


ช่วยให้คำแนะนำกับภาวนาให้ด้วยนะค้ะ  เครียดชะมัดเลย เป็นหวัดเลยย

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2007 9:09 pm
โดย sasuke
ต้องเลือกเอาล่ะครับ ว่าจะยอม "ตักบาตร" หรือว่าจะยอม "บอกแม่"

ปล. หรือไม่ก็ บอกแม่ว่าเปลี่ยนจากตักบาตรเป็นไปมิสซาที่วัดแทนซิครับ :grin:

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2007 10:34 pm
โดย Won_J@
ตักไปเถอะครับ เพื่อความสบายใจของแม่ เราก็คิดว่าการตักบาตรของเราคือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์สิครับ ถ้าเกิดพระสวดให้ก็ไหว้ๆไปครับ(จะสวดบทของคาทอลิกในใจก็ไม่มีใครรู้นี่ครับ อิอิ) แล้วหลังจากนั้นก็ลองคุยกับแม่ดีดี ตอนแรกผมแม่ไม่ให้เรียนคำสอน แต่ว่าผมไปวัดทุกอาทิตย์เลย หลังๆมาแม่เลยเข้าใจ บอกว่าศาสนาอะไรก็ได้ขอให้เป็นคนดีก็พอ  ยังไงก็จะเอาใจช่วยนะครับ สู้สู้  ขอพระอวยพร

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2007 11:14 pm
โดย Dis volentibus
ก็ตักๆไปก็ได้ เเต่ก็ให้คิดว่าเป็นการทำบุญ :grin:
(มาเซอร์บอกมา)

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2007 11:15 pm
โดย taiyo
ง่ายๆ ก็คิดซะว่า คนๆนั้นเป็นคนๆหนึ่งไม่ใช่พระ และเราก็ให้ของแกเขา จบ

ตอนแรกๆผมก็ถูกบังคับ ยิ่งแม่รู้แม่ยิ่งบังคับ ผมก็คิดแบบข้างบนประมาณนั้นแหละ แล้วก็บอกพระเจ้าว่าไม่อยากทำ แต่ถูกบังคับ พระคงไม่โกรธเราหรอกครับ พระใจดีจะตาย :grin:

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2007 11:24 pm
โดย ~@Little lamb@~
ตักไป  ถือว่าให้ข้าวคนกิน
แต่เวลากรวดน้ำ ให้แม่กรวด
เวลาฟังอาราถนา  ให้สวดข้าแต่พระบิดาในใจ  :angel:

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 14, 2007 11:40 pm
โดย Edwardius
1. แบ่งรับ แบ่งสู้ครับ

ให้ทาน เราทำ

ความเชือปลีกย่อย ให้ท่านทำตามที่ท่านเห็นควร "ในฐานะผู้มารดา"

2. บอกแม่ว่า เป็นคริสตัง (หนับหนุน)

3. หนีออกจากบ้าน 1 วัน

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 1:00 am
โดย Immanuel (MichaelPaul)
ไม่เหมือนผมแฮะ ผมจะยืนยันความเชื่อและการกระทำของผมไปเลยนะ ว่าผมมาทางนี้จริงๆไม่ครึ่งๆกลางๆ ไม่ตักก็คือไม่ตัก แต่ถามว่าช่วยงานกิจกรรมทางศาสนาไหมเช่น ยกถาดข้าว ยกถังสังฆทาน ผมก็ยกนะแต่เวลาเค้าสวดหรือกรวดน้ำผมก็เดินแยกตัวออกมา

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 3:29 am
โดย :+:Regina Pacis:+:
เคยเป็นแบบนี้ค่ะ เพราะว่า ตอนเด็กๆคุณยายจะพาไปตักบาตรด้วยตลอด
ตอนที่ยังไม่ได้เรียนคำสอนก็ยังไม่ได้คิดอะไร แต่พอเริ่มรู้เรื่องแล้วก็ไม่อยากไปกับคุณยายค่ะ
แต่ว่านั่นทำให้ คนรอบข้างที่เป็นพุทธ เค้ามองเราว่า เราเป็นตัวแปลกประหลาดค่ะ
ทำให้เค้าต้องยกเว้นไว้
แล้วเค้าจะคิดว่า เราไม่ เคารพในศาสนาอื่น ที่ไม่ใช่ศาสนาของเรา
ซึ่งเราเคารพในศาสนาของพ่อแม่พี่น้องเราได้แต่เรา ไ ม่ นั บ ถื อ ค่ะ
. . . .
ถ้าเราบอกแม่ด้วยเหตุผลว่า ขี้เกียจตื่นเช้า
ใครเป็นแม่ฟังแล้วก็ต้องไม่เข้าหูค่ะ
เพราะว่าวันเกิดลูก แล้วลูกฉันจะไม่ทำบุญเพื่อตัวเองรึไง ทำนองนั้น
เรื่องนี้เราก็ต้องเอาใจแม่มาใส่ใจเราด้วยค่ะ..
เพราะหากว่าเราปฏิเสธ นั่นก็จะเป็นการทำให้เกิดบาปในทางศาสนาคริสเพราะว่า
ถ้าเราบอกว่าเราไม่ไปตักบาตรกับแม่หรอก รับรองล้านเปอร์เซนต์ว่าคุณแม่ต้องโมโหแน่นอนค่ะ
แล้วก็จะทำให้เทลาะกับคุณแม่อีก..
ทางที่ดีคือ ตักบาตรไปเลยค่ะ ไม่ต้องเครียด
เพราะว่าเราตักบาตรเพื่อทำให้แม่สบายใจ
เราไม่ได้เชื่อว่าเราตักบาตรแล้วเราจะได้บุญจากตรงนี้ให้พระรูปนี้อวยพร เปล่าค่ะ
แต่ เราทำไปเพราะความประสงค์ของแม่ ทำเพราะเรา นับถือบิดามารดา
และเราก็สามารถไหว้พระรูปนั้นได้ด้วยค่ะ แต่เราไหว้เค้า
เหมือนว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่ง เค้าปฎิบัติตัวดีเป็นคนดีที่ควรเคารพค่ะ
ทีสำคัญคือห้ามทำตัวแปลกแยกค่ะ เพราะ แม่เค้าจะรู้สึกว่าเราไม่เชื่อฟัง
เราก็ไหว้พระไป ตักบาตรไปตามธรรมดาทำตัวเนียนได้อย่างที่บอกค่ะ
เพราะเราก็มีวิธีการ ถนอมน้ำใจคุณแม่ ในแบบของเรา
แต่ที่สุดแล้ว ตัวเราเองที่รู้ดีว่า  ใจเรา รักพระเป็นเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด ...  :angel:


ปล.   หากเราเป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อแม่กิจการดีที่เรากระทำนั้น
       อ า จ จ ะ ทำ ใ ห้ แ ม่ เ ห็ น  พ ร ะ เ ป็ น เ จ้ า ใ น เ ร า  :smiley: 

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 5:38 am
โดย Alphonse
:+:Regina Pacis:+: เขียน: เคยเป็นแบบนี้ค่ะ เพราะว่า ตอนเด็กๆคุณยายจะพาไปตักบาตรด้วยตลอด
ตอนที่ยังไม่ได้เรียนคำสอนก็ยังไม่ได้คิดอะไร แต่พอเริ่มรู้เรื่องแล้วก็ไม่อยากไปกับคุณยายค่ะ
แต่ว่านั่นทำให้ คนรอบข้างที่เป็นพุทธ เค้ามองเราว่า เราเป็นตัวแปลกประหลาดค่ะ
ทำให้เค้าต้องยกเว้นไว้
แล้วเค้าจะคิดว่า เราไม่ เคารพในศาสนาอื่น ที่ไม่ใช่ศาสนาของเรา
ซึ่งเราเคารพในศาสนาของพ่อแม่พี่น้องเราได้แต่เรา ไ ม่ นั บ ถื อ ค่ะ
. . . .
ถ้าเราบอกแม่ด้วยเหตุผลว่า ขี้เกียจตื่นเช้า
ใครเป็นแม่ฟังแล้วก็ต้องไม่เข้าหูค่ะ
เพราะว่าวันเกิดลูก แล้วลูกฉันจะไม่ทำบุญเพื่อตัวเองรึไง ทำนองนั้น
เรื่องนี้เราก็ต้องเอาใจแม่มาใส่ใจเราด้วยค่ะ..
เพราะหากว่าเราปฏิเสธ นั่นก็จะเป็นการทำให้เกิดบาปในทางศาสนาคริสเพราะว่า
ถ้าเราบอกว่าเราไม่ไปตักบาตรกับแม่หรอก รับรองล้านเปอร์เซนต์ว่าคุณแม่ต้องโมโหแน่นอนค่ะ
แล้วก็จะทำให้เทลาะกับคุณแม่อีก..
ทางที่ดีคือ ตักบาตรไปเลยค่ะ ไม่ต้องเครียด
เพราะว่าเราตักบาตรเพื่อทำให้แม่สบายใจ
เราไม่ได้เชื่อว่าเราตักบาตรแล้วเราจะได้บุญจากตรงนี้ให้พระรูปนี้อวยพร เปล่าค่ะ
แต่ เราทำไปเพราะความประสงค์ของแม่ ทำเพราะเรา นับถือบิดามารดา
และเราก็สามารถไหว้พระรูปนั้นได้ด้วยค่ะ แต่เราไหว้เค้า
เหมือนว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่ง เค้าปฎิบัติตัวดีเป็นคนดีที่ควรเคารพค่ะ
ทีสำคัญคือห้ามทำตัวแปลกแยกค่ะ เพราะ แม่เค้าจะรู้สึกว่าเราไม่เชื่อฟัง
เราก็ไหว้พระไป ตักบาตรไปตามธรรมดาทำตัวเนียนได้อย่างที่บอกค่ะ
เพราะเราก็มีวิธีการ ถนอมน้ำใจคุณแม่ ในแบบของเรา
แต่ที่สุดแล้ว ตัวเราเองที่รู้ดีว่า  ใจเรา รักพระเป็นเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด ...  :angel:


ปล.   หากเราเป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อแม่กิจการดีที่เรากระทำนั้น
       อ า จ จ ะ ทำ ใ ห้ แ ม่ เ ห็ น  พ ร ะ เ ป็ น เ จ้ า ใ น เ ร า  :smiley: 

สำเนาถูกต้อง
((อีกแระ))

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 7:16 am
โดย K.Nina
การตักบาตร คือประเพณีอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธปฏิบัติกันมาแต่สมัยพุทธกาล พระภิกษุจะถือบาตรออกบิณฑบาตเพื่อรับอาหารหรือทานอื่นๆ ตามหมู่บ้านในเวลาเช้า ผู้คนที่ออกมาตักบาตรจะนำของทำทานต่างๆ เช่น ข้าว อาหารแห้ง มาถวายพระ

ประเพณีนี้ชาวพุทธถือกันว่าเป็นการสร้างกุศล และถือว่าเป็นการแผ่ส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับไปแล้วด้วย โดยเชื่อกันว่าอาหารที่ถวายไปนั้นจะส่งถึงญาติผู้ล่วงลับด้วยเช่นกัน
ขอแนะนำว่าไม่ควรตักค่ะ เพราะการทำสิ่งที่นอกเหนือพระคัมภีร์ถือว่ากระทำสิ่งนอกรีต การกระทำนอกรีตอาจทำให้เราถูกสิ่งเหล่านั้นครอบงำจิตใจเราก็ได้ค่ะ แต่เรื่องนี้ต้องแล้วแต่กฎของทางคาทอลิกค่ะ แนะนำให้ถามคุณพ่อที่รู้จักค่ะ :smiley:

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 11:03 am
โดย แบกะดิน
โธ่ เครียดชะมัดเลย จะถึงวันเกิดอยู่และ  สอบตอนวันเกิดอีก


ปล่อยให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ละกัน :angel:

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 11:16 am
โดย Holy
อย่าคิดมากครับ เรื่องนี้สรุปง่ายๆได้2ทาง

1.ทำไปโดยมีสติรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อ และคิดว่าเราให้ข้าวคนกินนะ แค่นั้น แต่นั่นต้องถามตัวเองต่อมาว่า คุณมีความรู้สึกเช่นนั้น100%โดยไม่มารู้สึกผิดทีหลังหรือเปล่า
2.ไม่ทำโดยบอกแม่ไปตามความจริง นั่นจะทำให้คุณสบายใจเต็มที่จากการที่จะไม่รู้สึกผิดต่อพระเจ้า แต่จะเกิดการเบียดเบียนทันทีขึ้นได้ในบ้านของคุณ คุณคิดว่าพร้อมจะรับมันหรือยัง เพราะอย่างไร สิ่งนี้วันหนึ่ง แม่ก็ต้องรู้


ดังนั้นอย่าเครียดครับ มันเป็นแค่ทางแยกที่พระเจ้าให้คุณเลือก ผลมีแค่2อย่างง่ายๆแบบนี้ เลือกอะไรแล้ว เราเตรียมรับผลที่ตามมาอย่างดีด้วยเท่านั้นเอง

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 11:27 am
โดย แบกะดิน
Holy เขียน: อย่าคิดมากครับ เรื่องนี้สรุปง่ายๆได้2ทาง

1.ทำไปโดยมีสติรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อ และคิดว่าเราให้ข้าวคนกินนะ แค่นั้น แต่นั่นต้องถามตัวเองต่อมาว่า คุณมีความรู้สึกเช่นนั้น100%โดยไม่มารู้สึกผิดทีหลังหรือเปล่า
2.ไม่ทำโดยบอกแม่ไปตามความจริง นั่นจะทำให้คุณสบายใจเต็มที่จากการที่จะไม่รู้สึกผิดต่อพระเจ้า แต่จะเกิดการเบียดเบียนทันทีขึ้นได้ในบ้านของคุณ คุณคิดว่าพร้อมจะรับมันหรือยัง เพราะอย่างไร สิ่งนี้วันหนึ่ง แม่ก็ต้องรู้


ดังนั้นอย่าเครียดครับ มันเป็นแค่ทางแยกที่พระเจ้าให้คุณเลือก ผลมีแค่2อย่างง่ายๆแบบนี้ เลือกอะไรแล้ว เราเตรียมรับผลที่ตามมาอย่างดีด้วยเท่านั้นเอง


อยากทำให้พ่อแม่สบายใจอ่ะ แต่ถ้าไม่ทำพ่อแม่ก็จะคิดมาก ทีนี้ไปกันใหญ่เลย อาจไม่ให้ไปโบสเลยก็ได้
แต่เรื่องที่จะมาเป็นคริสเต็มตัวเนี้ย เรากะจะบอกก่อนรับศีลล้างบาปซัก1อาทิดย์




เครียดชะมัดเลยยยย      :cry:

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 3:42 pm
โดย Batholomew
ไม่ต้องเครียดแล้วครับ ตักไปเลยครับ เราทำเพราะว่าแม่ขอร้องครับ

แค่นั้นแหละ :wink:

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 5:46 pm
โดย taiyo
Holy เขียน: อย่าคิดมากครับ เรื่องนี้สรุปง่ายๆได้2ทาง

1.ทำไปโดยมีสติรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อ และคิดว่าเราให้ข้าวคนกินนะ แค่นั้น แต่นั่นต้องถามตัวเองต่อมาว่า คุณมีความรู้สึกเช่นนั้น100%โดยไม่มารู้สึกผิดทีหลังหรือเปล่า
2.ไม่ทำโดยบอกแม่ไปตามความจริง นั่นจะทำให้คุณสบายใจเต็มที่จากการที่จะไม่รู้สึกผิดต่อพระเจ้า แต่จะเกิดการเบียดเบียนทันทีขึ้นได้ในบ้านของคุณ คุณคิดว่าพร้อมจะรับมันหรือยัง เพราะอย่างไร สิ่งนี้วันหนึ่ง แม่ก็ต้องรู้


ดังนั้นอย่าเครียดครับ มันเป็นแค่ทางแยกที่พระเจ้าให้คุณเลือก ผลมีแค่2อย่างง่ายๆแบบนี้ เลือกอะไรแล้ว เราเตรียมรับผลที่ตามมาอย่างดีด้วยเท่านั้นเอง

ขอยืนยันและนอนยันครับ ว่าข้อ2นั้นเป็นจริงทุกประการ คนพุทธส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนมาเป็นคริสต์ มักโดนแบบข้อ2เสมอ
ผมก็เป็น1ในนั้น ขอบอกเลยว่า ตอนแรก ในบ้านไม่ใช่รู้สึกถูกเบียดเบียนเท่านั้น ถูกว่าเป็นลูกนอกคอก อกตัญญู ลืมกำพืชตัวเอง และอีกหลายคำสารพัดที่จะหามาต่อว่าเราเพื่อจะทำให้เราเลิกเปลี่ยนศาสนา แต่ผมก็ยืนหยัด นอนยัน จนแม่เลิกที่จะว่าอีกต่อไป(คงจะเหนื่อย) ทั้งบอกเหตุผลไปว่า ขืนแม่จะบังคับให้นับถือ ให้ใส่บาตร แต่ถ้าผมไม่ศรัทธา แม่จะบังคับให้ทำโน้นทำนี่มันก็เปล่าประโยชน์ จะมีประโยชน์อะไรที่จะบังคับ ในเมื่อใจเราไปอีกทางหนึ่งแล้ว

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 10:00 pm
โดย แบกะดิน
ขอบคุณทุกๆคนมากๆๆนะค้ะ

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 3:10 pm
โดย Edwardius
In case, อยากทราบว่า
ปกตินี่คุณเจ้าของกระทู้ทำยังไงครับ
เวลาที่ต้องไปงาน semi-buddhism
เช่น งานศพ งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ
เพราะบางงานเนี่ย มันอยู่ใกล้กันตลอดเวลา

ผมว่า เพื่อความปลอดภัยของจิตใจในระยะยาว
บอกท่านไปเถอะครับ

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 5:10 pm
โดย แบกะดิน
ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ

ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ


แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 6:11 pm
โดย Pry-Kaew
แบกะดิน เขียน: ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ

ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ


แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55

หากเป็นกรณีสถานศึกษา ไม่ว่าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เราสามารถบอกอาจารย์หรือคุณครูได้ครับ ว่าเราไม่ประสงค์จะร่วมพิธีทางศาสนาพุทธของโรงเรียน เนื่องจากเรานับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น เขาก็จะให้เราไปทำกิจกรรมอื่นแทน  ยกตัวอย่าง สมัยตนเองเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายนั้น มีการหล่อเทียนพรรษาของโรงเรียน ก็มีนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ(คริสต์ และอิสลาม) และมีความประสงค์ที่ไม่อยากจะร่วมพิธีดังกล่าว อาจารย์ก็สั่งการให้นักเรียนคริสเตียนและมุลสิม ไปทำกิจกรรมอื่นแทนในเวลาดังกล่าว(กล่าวคือให้ไปตัดหญ้าและเก็บขยะสนามฟุตบอลของโรงเรียนแทน)

และอีกกรณีหนึ่ง สมัยผมเรียน รด ปีหนึ่ง ถึง รด ปีห้า ก่อนเข้านอน ครูฝึกจะสั่งให้รวมพลก่อนเข้านอน เพื่อให้โอวาสแก่นักศึกษาวิชาทหารในกองร้อยก่อนเข้านอน และตามาด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสวดมนต์แผ่เมตตา ในส่วนของกิจกรรมสุดท้ายที่เป็นศาสนาพุทธ ครูฝึกบอกว่าหากใครนับถือศาสนาอื่น ก็ให้ยืนตรงทำความเคารพอย่างสงบ ไม่มีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างสมัยเรียน รด.ปี1ถึงปี5 ผมเองก็ไม่เคยจุดธูปไหว้เจ้าพ่อเขาชนไก่หมือนนักศึกษาวิชาทหารและครูฝึกด้วย เพราะว่าเรานับถือพระเจ้า ไม่นับถือผีสาง แต่......ทำความเคารพด้วยการวันทายาหัตถ์ต่อพระบรมรูป ร.6 ที่เขาชนไก่เสมอเวลาเดินแถวผ่านพระรูป(ท่านถือเป็นบิดากองเสือป่า และอันเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาเป็นยุวชนทหาร จากนั้นก็พัฒนาเป็นนักศึกษาวิชาทหาร) พูดแล้วอยากกลับไปฝึกอีกครั้งหนึ่ง อยากเป็น รด.ปีสี ปีห้าอีกครั้ง เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ครูฝึกที่เคยฝึกเราคงย้ายไปหน่วยอื่นหมดแล้ว ไม่งั้นกลับไปเมืองไทย หากเป็นไปได้ ไปขอร่วมรับการฝึกกับกองร้อยปีสี่ ปีห้า ที่กำลังรับการฝึกในตอนนี้ดีกว่า

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 6:35 pm
โดย แบกะดิน
Pry-Kaew เขียน:
แบกะดิน เขียน: ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ

ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ


แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55

หากเป็นกรณีสถานศึกษา ไม่ว่าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เราสามารถบอกอาจารย์หรือคุณครูได้ครับ ว่าเราไม่ประสงค์จะร่วมพิธีทางศาสนาพุทธของโรงเรียน เนื่องจากเรานับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น เขาก็จะให้เราไปทำกิจกรรมอื่นแทน  ยกตัวอย่าง สมัยตนเองเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายนั้น มีการหล่อเทียนพรรษาของโรงเรียน ก็มีนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ(คริสต์ และอิสลาม) และมีความประสงค์ที่ไม่อยากจะร่วมพิธีดังกล่าว อาจารย์ก็สั่งการให้นักเรียนคริสเตียนและมุลสิม ไปทำกิจกรรมอื่นแทนในเวลาดังกล่าว(กล่าวคือให้ไปตัดหญ้าและเก็บขยะสนามฟุตบอลของโรงเรียนแทน)

และอีกกรณีหนึ่ง สมัยผมเรียน รด ปีหนึ่ง ถึง รด ปีห้า ก่อนเข้านอน ครูฝึกจะสั่งให้รวมพลก่อนเข้านอน เพื่อให้โอวาสแก่นักศึกษาวิชาทหารในกองร้อยก่อนเข้านอน และตามาด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสวดมนต์แผ่เมตตา ในส่วนของกิจกรรมสุดท้ายที่เป็นศาสนาพุทธ ครูฝึกบอกว่าหากใครนับถือศาสนาอื่น ก็ให้ยืนตรงทำความเคารพอย่างสงบ ไม่มีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างสมัยเรียน รด.ปี1ถึงปี5 ผมเองก็ไม่เคยจุดธูปไหว้เจ้าพ่อเขาชนไก่หมือนนักศึกษาวิชาทหารและครูฝึกด้วย เพราะว่าเรานับถือพระเจ้า ไม่นับถือผีสาง แต่......ทำความเคารพด้วยการวันทายาหัตถ์ต่อพระบรมรูป ร.6 ที่เขาชนไก่เสมอเวลาเดินแถวผ่านพระรูป(ท่านถือเป็นบิดากองเสือป่า และอันเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาเป็นยุวชนทหาร จากนั้นก็พัฒนาเป็นนักศึกษาวิชาทหาร) พูดแล้วอยากกลับไปฝึกอีกครั้งหนึ่ง อยากเป็น รด.ปีสี ปีห้าอีกครั้ง เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ครูฝึกที่เคยฝึกเราคงย้ายไปหน่วยอื่นหมดแล้ว ไม่งั้นกลับไปเมืองไทย หากเป็นไปได้ ไปขอร่วมรับการฝึกกับกองร้อยปีสี่ ปีห้า ที่กำลังรับการฝึกในตอนนี้ดีกว่า

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย


เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 6:45 pm
โดย antoinetty*
ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย


เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย


^
น่าสงสาร =  =

เราก็เรียน รร. รัฐ อะ
เวลาเค้าสวด ก้ไม่สวดตามเค้า

แต่จะมีอาจารย์คนนึง เข้ามาด่า ๆ
บอกว่าเปนคาทอลิก

ก้ยังด่า =  = ที่เสียดินแดนซ้ายขวา แม่น้ำโขงให้พวกตะวันตก

เกี่ยวกันมากกกกกกกกกกกก

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 6:46 pm
โดย Pry-Kaew
แบกะดิน เขียน:
Pry-Kaew เขียน:
แบกะดิน เขียน: ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ

ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ


แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55

หากเป็นกรณีสถานศึกษา ไม่ว่าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เราสามารถบอกอาจารย์หรือคุณครูได้ครับ ว่าเราไม่ประสงค์จะร่วมพิธีทางศาสนาพุทธของโรงเรียน เนื่องจากเรานับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น เขาก็จะให้เราไปทำกิจกรรมอื่นแทน  ยกตัวอย่าง สมัยตนเองเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายนั้น มีการหล่อเทียนพรรษาของโรงเรียน ก็มีนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ(คริสต์ และอิสลาม) และมีความประสงค์ที่ไม่อยากจะร่วมพิธีดังกล่าว อาจารย์ก็สั่งการให้นักเรียนคริสเตียนและมุลสิม ไปทำกิจกรรมอื่นแทนในเวลาดังกล่าว(กล่าวคือให้ไปตัดหญ้าและเก็บขยะสนามฟุตบอลของโรงเรียนแทน)

และอีกกรณีหนึ่ง สมัยผมเรียน รด ปีหนึ่ง ถึง รด ปีห้า ก่อนเข้านอน ครูฝึกจะสั่งให้รวมพลก่อนเข้านอน เพื่อให้โอวาสแก่นักศึกษาวิชาทหารในกองร้อยก่อนเข้านอน และตามาด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสวดมนต์แผ่เมตตา ในส่วนของกิจกรรมสุดท้ายที่เป็นศาสนาพุทธ ครูฝึกบอกว่าหากใครนับถือศาสนาอื่น ก็ให้ยืนตรงทำความเคารพอย่างสงบ ไม่มีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างสมัยเรียน รด.ปี1ถึงปี5 ผมเองก็ไม่เคยจุดธูปไหว้เจ้าพ่อเขาชนไก่หมือนนักศึกษาวิชาทหารและครูฝึกด้วย เพราะว่าเรานับถือพระเจ้า ไม่นับถือผีสาง แต่......ทำความเคารพด้วยการวันทายาหัตถ์ต่อพระบรมรูป ร.6 ที่เขาชนไก่เสมอเวลาเดินแถวผ่านพระรูป(ท่านถือเป็นบิดากองเสือป่า และอันเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาเป็นยุวชนทหาร จากนั้นก็พัฒนาเป็นนักศึกษาวิชาทหาร) พูดแล้วอยากกลับไปฝึกอีกครั้งหนึ่ง อยากเป็น รด.ปีสี ปีห้าอีกครั้ง เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ครูฝึกที่เคยฝึกเราคงย้ายไปหน่วยอื่นหมดแล้ว ไม่งั้นกลับไปเมืองไทย หากเป็นไปได้ ไปขอร่วมรับการฝึกกับกองร้อยปีสี่ ปีห้า ที่กำลังรับการฝึกในตอนนี้ดีกว่า

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย


เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย

น้องเรียนระดับไหนครับ มัธยมต้น หรือมัธยมปลาย ครูเขาคงพูดแหย่ๆเล่นมั๊งครับ เพราะตั้งแต่ผมเรียนหนังสือมา(ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย) หากเราไม่ประสงค์จะร่วมกิจกรรมทางศาสนาของโรงเรียน เราสามารถชี้แจ้งเหตุผลได้นี้ครับ หากจะว่าไปแล้วจริงๆ รัฐธรรมนูญทุกฉบับของประเทศไทย ไม่ว่าจะฉบับใดก็ตาม คนเรามีเสรีภาพและอิสระภาพในการนับถือศาสนาของตนเอง ไม่มีใครมาบังคับได้นะครับ อ้อ รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศนะครับ หากกฎหมายลูกหรือกฎบ้าบออะไรขัดกับกฎหมายทีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ถือว่ากฎหมายลูกตกไป บังคับเจ้าตัวที่เขาไม่ได้เต็มใจร่วมกิจกรรมศาสนาอื่นเนี้ย ผิดกฏหมายแน่ๆครับ หากจะเล่นกันจริงๆ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 6:56 pm
โดย Pry-Kaew
-AnToiNetty- เขียน: ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย


เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย


^
น่าสงสาร =  =

เราก็เรียน รร. รัฐ อะ
เวลาเค้าสวด ก้ไม่สวดตามเค้า

แต่จะมีอาจารย์คนนึง เข้ามาด่า ๆ
บอกว่าเปนคาทอลิก

ก้ยังด่า =  = ที่เสียดินแดนซ้ายขวา แม่น้ำโขงให้พวกตะวันตก

เกี่ยวกันมากกกกกกกกกกกก
ตอนนี้ผมเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่Community College(เป็นโรงเรียนของรัฐบาลท้องถิ่น) ในเมืองที่ผมอยู่บนแผ่นดินเมกา อาจารย์ท่านบอกว่า หากเป็นโรงเรียนของรัฐนั้น ต้องไม่มีการโปรศาสนาใด ศาสนาหนึ่งเป็นอันขาด และอาจารย์ห้ามพูดเรื่องการเผยแพร่ศาสนากับนักเรียน เพราะผิดกฎหมาย และนักเรียนมีเสรีภาพในการประกอบกิจศาสนาตามแบบของตนเองได้อย่างเสรี หากมีการขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนและอาจารย์ สามารถแจ้งตำรวจจับอาจารย์คนดังกล่าวเข้าคุกได้ทันทีครับ เมกาอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการขัดกับเสรีภาพและอิสระภาพในการความคิด ความเชื่อ และละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แจ้งตำรวจจับเข้าคุกได้หมดครับ ผมก็ได้แต่ภาวนาวันละล้านรอบ ให้เมืองไทยเป็นเหมือนเมกาสักที อาเมน อาเมน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเป็นโรงเรียนเอกชน ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนคาทอลิก หรือโรงเรียนทางศาสนาอื่นๆ อยู่นอกเหนือข้อบังคับนี้นะครับ แต่ก็ยังไม่มีสิทธิที่จะบังคับนักเรียนให้ประกอบกิจทางศาสนาของโรงเรียน หากนักเรียกไม่เต็มใจ

หากผมเป็นจอช บุช นะ จะเปลี่ยนเมืองไทยให้เป็นเมกาให้มากที่สุดเลย จะได้เป็นสวรรค์บนดินบนบ้านเกิดสักที

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 7:02 pm
โดย antoinetty*
หากผมเป็นจอช บุช นะ จะเปลี่ยนเมืองไทยให้เป็นเมกาให้มากที่สุดเลย จะได้เป็นสวรรค์บนดินบนบ้านเกิดสักที

^
จอช บุช เปลี่ยนเมืองไทยได้ด้วยอ่อพี่

หุ ๆ

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 7:07 pm
โดย Pry-Kaew
-AnToiNetty- เขียน: หากผมเป็นจอช บุช นะ จะเปลี่ยนเมืองไทยให้เป็นเมกาให้มากที่สุดเลย จะได้เป็นสวรรค์บนดินบนบ้านเกิดสักที

^
จอช บุช เปลี่ยนเมืองไทยได้ด้วยอ่อพี่

หุ ๆ

ลำพังจอช บุช เปลี่ยนเมืองไทยไม่ได้หรอก ต้องมีพี่พลายแก้วให้ความร่วมมือด้วย 55555555555555555 ไม่ยอมKu Ku จะฟ้องท่านบุชให้ช่วย

อย่าฟังพี่พูดมากเลย พี่ก็เพ้อเจ้อไปวันๆเท่านั้นแหละ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 10:44 pm
โดย taiyo
แบกะดิน เขียน:
Pry-Kaew เขียน:
แบกะดิน เขียน: ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ

ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ


แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55

หากเป็นกรณีสถานศึกษา ไม่ว่าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เราสามารถบอกอาจารย์หรือคุณครูได้ครับ ว่าเราไม่ประสงค์จะร่วมพิธีทางศาสนาพุทธของโรงเรียน เนื่องจากเรานับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น เขาก็จะให้เราไปทำกิจกรรมอื่นแทน  ยกตัวอย่าง สมัยตนเองเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายนั้น มีการหล่อเทียนพรรษาของโรงเรียน ก็มีนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ(คริสต์ และอิสลาม) และมีความประสงค์ที่ไม่อยากจะร่วมพิธีดังกล่าว อาจารย์ก็สั่งการให้นักเรียนคริสเตียนและมุลสิม ไปทำกิจกรรมอื่นแทนในเวลาดังกล่าว(กล่าวคือให้ไปตัดหญ้าและเก็บขยะสนามฟุตบอลของโรงเรียนแทน)

และอีกกรณีหนึ่ง สมัยผมเรียน รด ปีหนึ่ง ถึง รด ปีห้า ก่อนเข้านอน ครูฝึกจะสั่งให้รวมพลก่อนเข้านอน เพื่อให้โอวาสแก่นักศึกษาวิชาทหารในกองร้อยก่อนเข้านอน และตามาด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสวดมนต์แผ่เมตตา ในส่วนของกิจกรรมสุดท้ายที่เป็นศาสนาพุทธ ครูฝึกบอกว่าหากใครนับถือศาสนาอื่น ก็ให้ยืนตรงทำความเคารพอย่างสงบ ไม่มีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างสมัยเรียน รด.ปี1ถึงปี5 ผมเองก็ไม่เคยจุดธูปไหว้เจ้าพ่อเขาชนไก่หมือนนักศึกษาวิชาทหารและครูฝึกด้วย เพราะว่าเรานับถือพระเจ้า ไม่นับถือผีสาง แต่......ทำความเคารพด้วยการวันทายาหัตถ์ต่อพระบรมรูป ร.6 ที่เขาชนไก่เสมอเวลาเดินแถวผ่านพระรูป(ท่านถือเป็นบิดากองเสือป่า และอันเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาเป็นยุวชนทหาร จากนั้นก็พัฒนาเป็นนักศึกษาวิชาทหาร) พูดแล้วอยากกลับไปฝึกอีกครั้งหนึ่ง อยากเป็น รด.ปีสี ปีห้าอีกครั้ง เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ครูฝึกที่เคยฝึกเราคงย้ายไปหน่วยอื่นหมดแล้ว ไม่งั้นกลับไปเมืองไทย หากเป็นไปได้ ไปขอร่วมรับการฝึกกับกองร้อยปีสี่ ปีห้า ที่กำลังรับการฝึกในตอนนี้ดีกว่า

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย


เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย

เป็นผมนะ ผมไม่ทำหรอก เพราะผมรักพระเจ้ามากกว่าครูครับ :grin:

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 11:50 pm
โดย Edwardius
-AnToiNetty- เขียน: ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย


เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย


^
น่าสงสาร =  =

เราก็เรียน รร. รัฐ อะ
เวลาเค้าสวด ก้ไม่สวดตามเค้า

แต่จะมีอาจารย์คนนึง เข้ามาด่า ๆ
บอกว่าเปนคาทอลิก

ก้ยังด่า =  = ที่เสียดินแดนซ้ายขวา แม่น้ำโขงให้พวกตะวันตก

เกี่ยวกันมากกกกกกกกกกกก
อืม case นี้น่าสนใจ อยากสอบถามถ้าผมทำงานวิจัยครับ

เพราะเป็นแนวคิดเดียวกับผู้ที่สังหาร มรณสักขี เลย

กำลังจะทำวิจัย สงสัยต้องไปทัวร์ 3พราน 2คอน

ปล. หาอำเภอที่ชื่อ 1 เจอแล้ว อาจเจอนักบุญ (ก๊าก!)

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 9:54 pm
โดย แบกะดิน
และแล้วช่วงเช้าของวันเกิดก็ผ่านไปด้วยดี ..   รึเปล่า


พอตื่นมา แม่เดินมาในห้องบอกว่า จบของที่จะไปตักบาตร(อธิษฐานมั้งน้ะ) เราก็สวดบนวันทามารีอาไป
และแม่บอกว่าเนี้ย เด๋วแม่ไปตักบาตรให้ละกัน^^ ทั้งๆๆที่ก่อนนอนคืนนั้น แม่บอกว่าพรุ้งนี้ต้องรีบตื่นมาใส่บาตรน้ะ!

และพอซักพัก ทุกวันจะมีพระหนึ่งรูปมาที่บ้านตอนเช้ามากรวดน้ำทุกวัน (แต่เราไม่เคยไปร่วมกรวดน้ำนะ)

พอเราแต่งตัวเสร็จจะไปโรงเรียน แม่บอกว่าให้มากรวดน้ำ T__T  แม่บอกว่าวันเกิดทั้งทีกรวดหน่อยจะเป็นไร
เราก็แบบจะกรวดดีไม่กรวดดี สุดท้ายก็ต้องทำ..

พระรูปนี้จะแผ่เมตตานานนนนนนนมากกก  ขอบอกเลย 55 ระหว่างที่พระแผ่เมตตานั้น..
เราก็สวดข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา สิริพึงมี วกไปวนมา สวดแบบต้องตั้งใจมากจริงๆๆเลยอ่ะ
ไม่งั้นน้ะ อาจสวดไปแผ่เมตตาไป 55 เราสวดในใจ พระสวดออกเสียง   โหยย   ตีกันใหญ่
แบบต้องหลับตาสวด 55 ตั้งใจมากๆๆ



แต่ก็ต้องขอขอบคุณพระมากๆๆ ที่ทำให้ลูกมีสติ *


พระเจ้าคือความรักและพระองค์ทรงรักเรา

Re: โธ่...ทำไงดีล้ะ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 9:59 pm
โดย sasuke
แบกะดิน เขียน: พระเจ้าคือความรักและพระองค์ทรงรักเรา
ความรักพระเจ้ายิ่งใหญ่ไม่เคยสิ้นสุด ความรักพระเจ้าไม่เสื่อมคลาย

พระรูปที่ได้ฉันอาหารคงจะอร่อยน่าดูเลยเนอะ... :wink:
เราก็แผ่เมตตาแบบเราซิครับ...จากเหวลึกข้าพเจ้าร้องหาพระองค์...