หน้า 1 จากทั้งหมด 2
คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 2:44 pm
โดย Marie Antoinette
เป็นเรื่องระหว่างเรากะลูกค้า คุณลูกค้าเดินเข้ามา แล้วมาใส่เราเต็มที่เรื่องทำงานพลาด เราก็บอกว่า ค่ะ เดี๋ยวจะเคลียร์ให้ จะรับผิดชอบให้ มันก็ยังใส่ๆมาอยู่ได้กะจะระเบิดศึกอยู่แล้วเชียว ไอ้เพื่อนตัวดีก็บอกว่า ท่องไว้
ลูกค้าคือพระเจ้า มันก็คงคิดงั้น ก็เลยไป
เอ้ย ลูกค้าฉันไม่ได้มีเธอคนเดียวนะเฟร้ยยยยยย

Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 3:16 pm
โดย Batholomew
ผมจะไม่มองว่าลูกค้าคือพระเจ้านะครับ เพราะว่าลูกค้าก็คือมนุษย์คนหนึ่งนะครับ
แล้วโดยความหมายนัยยะจริง ๆ แล้ว เหมือนกับว่า ลูกค้าคือคนที่ทำให้บริษัทเราอยู่รอดครับ
แต่ว่าเราเองต้องเห็นพระเยซูเจ้าในทุกคน ดังนั้นเราจึงทำตัวให้เหมือนพระแม่มารีอามารับใช้พระองค์เสียใหม่ครับ
ให้เรารักเค้า สุภาพ นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ

Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 3:49 pm
โดย Holy
ความจริงคำนี้มาจาก มหาตมคานธี ตอนจะฟื้นเศรษฐกิจอินเดีย สอนให้คนอินเดียรู้จักง้อลูกค้าบ้าง เลยใช้คำว่า god ซึ่งหมายถึงเทพเจ้า ในศาสนาฮินดูของเขามีเทพเจ้าหลายองค์ ดังนั้น สมมุติให้เราคิดว่าลูกค้าเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่อะไรสักองค์มาโปรดมันก็โอเค แต่พอฝรั่งเอามาใช้บ้าง God ของศาสนาคริสต์ที่ฝรั่งส่วนมากนับถือหมายถึงพระเจ้าสูงสุด คำนี้จึงดูมีความหมายรุนแรงกว่ามาก แต่ที่จริงฝรั่งนั้นมีคำว่า เงินคือพระเจ้ามาก่อนแล้ว ดังนั้นคำว่า ลูกค้าคือพระเจ้า ก็คือเห็นลูกค้าเป็นตัวเงินตัวทอง นั่นเอง
มีทฤษฎีใหม่ ของนักเศรษฐศาสตร์ฝรั่ง(จำชาติไม่ได้) สอนใหม่ว่า "ลูกค้าคือปีศาจ" กล่าวคือ เขามองว่า พระเจ้าน่ะแสนดี มีแต่ให้ ไม่เรื่องมากหรอก แต่ลูกค้าน่ะเรื่องมาก เอาแต่ใจตัว จ่ายเงินแล้วก็วางตัวเป็นบอส จะเอาลูกเดียว ดังนั้นคือปีศาจมากกว่า ดังนั้น เรากำลังเอาใจปีศาจ การทำให้ปีศาจพอใจนั้นคือปรนเปรอแบบสุดๆ อะไรแบบนี้ ก็เป้นอีกมุมมองหนึ่งของนักบริการ
แต่สำหรับผม ผมไม่มองลูกค้าเป็นพระเจ้าหรอก เพราะมีพระเจ้าอยู่แล้ว การง้อก็ระดับหนึ่ง แต่ผมจะดูว่าลูกค้าแต่ละคน ให้ผลดีหรือให้ผลเสียกับเรามากกว่า บางคนก่อปัญหา แถมเอาแต่ได้ เอาเปรียนบเรา ผมก็ไม่คิดจะดิวด้วยนาน เพราะผมถือว่าผมทำงานไม่เอาเปรียบใคร ก้ไม่ต้องการให้ใครเอาเปรียบเรา ดังนั้นผมมองตามความเป็นธรรมครับ
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 15, 2007 3:55 pm
โดย Won_J@
จะรู้สึกไม่ค่อยดีกับคนๆนั้นอะครับ นอกจากนี้ก็ยังมีอีกเยอะแยะที่คนไทย(พุทธ)ชอบพูดกัน เช่น พระเจ้าช่วยกล้วยทอด พระเจ้าจอห์ช 9ล9
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 3:03 am
โดย :+:Regina Pacis:+:
ถ้าเรานิ่งเงียบใช้ความสุภาพในการเจรจา ลูกค้าคง บ่นเราได้ไม่นานหรอกค่ะ

Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 3:39 am
โดย Alphonse
มันเป็นประโยคที่บ่งบองถึงทุนนิยมเลยล่ะครับ
แล้วพอดีเอชเกลียดทุนนิยมเข้าไส้
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 2:33 pm
โดย Zaliaus
necromancer เขียน:
มันเป็นประโยคที่บ่งบองถึงทุนนิยมเลยล่ะครับ
แล้วพอดีเอชเกลียดทุนนิยมเข้าไส้
อย่างนี้ต้องอ่าน the capitalism ของคาร์ล มาร์ซ
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 3:06 pm
โดย Pry-Kaew
necromancer เขียน:
มันเป็นประโยคที่บ่งบองถึงทุนนิยมเลยล่ะครับ
แล้วพอดีเอชเกลียดทุนนิยมเข้าไส้
โดยส่วนตัวผมเองไม่ได้ยกยอระบบทุนนิยมนะ แต่ผมมองว่าในระบบสังคมที่มีเสรีภาพในการแข่งขันด้านธุรกิจและการบริการนั้น ทุนนิยมเป็นหัวใจหลักที่ทำให้สังคมอยู่ได้เลยที่เดียว(แต่ต้องมีเรื่องของระบบการควบคุมในสังคมด้วย มิเช่นนั้น จะกลายเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนฉลาดปกครองคนโง่ และเกิดการเอาเปรียบกันจนคำว่าจริยธรรมกลายเป็นเพียงนามธรรม)
สำหรับผม ลูกค้าฝรั่งคือพระเจ้าครับ ลูกค้าไม่ใช่ฝรั่งก็คือลูกค้าธรรมดาที่เราต้องจำใจบริการให้ หากใครเคยไปเรียนเมืองนอกแล้วทำงานPart time ตามร้านไทย ไม่ว่าจะเสริฟ หรือฯลฯ(ข้าพเจ้าทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของชีวิต ไม่ว่าเสริฟฯ และเป็นดิลิเวอร์รี่แมน ส่งอาหาร) ลูกค้าฝรั่งทิปดี คุยง่าย เป็นกันเอง เห็นอกเห็นใจ และมองเราเหมือนลูกเหมือนหลาน(พูดตามประสบการณ์ที่ทำงานมานะครับ) ลูกค้ากระเหรี่ยงหัวดำ และไอ้มืดบางคน แต่ไอ้มืดบางคนก็ดีมากกกกก(ยกเว้นเวียดนามชาติเดียว ชนชาตินี้ ดีกับผมมาก) ทิปน้อย คุยยาก เอาแต่ใจ ขึ้เบ่ง มองเราเป็นขึ้ข้า บริการให้คนพวกนี้ ได้ไม่คุ้มเหนื่อยครับ แต่ก็ทำให้เพราะเป็นลูกค้าของร้านเหมือนกัน แต่ฝรั่งทำงานอ็อฟฟิตและสำนักงาน ข้าพเจ้าจะจัดให้เป็นลูกค้าเกรดเอบวก ฝรั่งข้าราชการ(ตำรวจ ทหาร)เกรดเอ ฝรั่งทั่วไปเกรดบี ฝรั่งระดับล่างเกรดซีบวก เวียดนามเกรดซี เม็กซิกันและลาตินอเมริกา เกรดซีลบ เอเชียนที่ดูมีตังหน่อย(ยกเว้นเวียดนาม)เกรดดี เอเชียนทั่วไปเกรดดีลบ ไอ้มืด ให้เกรดเอฟครับ
พระเจ้าในศาสนาก็พระเยชูเจ้าครับ พระเจ้าในทางธุรกิจสำหรับผมก็คือลูกค้าฝรั่งทุกระดับครับผม
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 3:15 pm
โดย Edwardius
necromancer เขียน:
มันเป็นประโยคที่บ่งบองถึงทุนนิยมเลยล่ะครับ
แล้วพอดีเอชเกลียดทุนนิยมเข้าไส้
จ้า พ่อคอมใหญ่

Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 5:04 pm
โดย Ministry Of Men
Korean_Man เขียน:
จะรู้สึกไม่ค่อยดีกับคนๆนั้นอะครับ นอกจากนี้ก็ยังมีอีกเยอะแยะที่คนไทย(พุทธ)ชอบพูดกัน เช่น พระเจ้าช่วยกล้วยทอด พระเจ้าจอห์ช 9ล9
พระเจ้าในคำพูดเหล่านี้ ไม่ได้หมายถึง พระเจ้าตรีเอกภาพผู้สร้างฟ้าและแผ่นดินฯ ไม่ใช่หรอครับ??
ว่าแต่ พระเจ้าช่วยกล้วยทอดนี่มันมีที่มาอย่างไรกัน แต่พระเจ้าจอช ไรนี่ ก็คุ้นหู เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อืม แต่ ผมว่าอย่าไปถือสาคนเหล่านี้เลยครับ สานต่อบาป ไปป่าวๆๆ ปล่อยเค้าไป อย่างดี เราก็เตือนเค้าครับ อย่าไปโกรธตอบให้เรามีบาปเล่นๆเลยครับ :undecided:
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 8:09 pm
โดย Alphonse
Zaliaus เขียน:
necromancer เขียน:
มันเป็นประโยคที่บ่งบองถึงทุนนิยมเลยล่ะครับ
แล้วพอดีเอชเกลียดทุนนิยมเข้าไส้
อย่างนี้ต้องอ่าน the capitalism ของคาร์ล มาร์ซ

อ่านไปนานแล้วครับ
เอชเป็น Member of the Communist Party of Britain ครับ
สมัยอยู่เดนมาร์กเป็นกรรมการของ Youth Asian Union of Communist Party in Western ครับ :cheesy:
และตอนนี้ก็ยังทำงานด้านนี้อยู่ แฮ่ๆ Human Rights ไงครับ ความฝันของ Communist ^^
((เมื่อไหร่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยจะจดทะเบียนตามกฎหมายก็ไม่รู้ เฮ้อ...))
ตอนนี้ก็สังกัดกลุ่มเลี้ยวซ้าย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และพรรคคอมมิวนิสต์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยฮะ เอิ๊กๆ
ปล. เล่มที่อ่านเป็นของสำนักพิมพ์ Leader Digest ตั้งสองพันแหน่ะ...แพงเ_ยๆ
Pry-Kaew เขียน:
โดยส่วนตัวผมเองไม่ได้ยกยอระบบทุนนิยมนะ แต่ผมมองว่าในระบบสังคมที่มีเสรีภาพในการแข่งขันด้านธุรกิจและการบริการนั้น ทุนนิยมเป็นหัวใจหลักที่ทำให้สังคมอยู่ได้เลยที่เดียว(แต่ต้องมีเรื่องของระบบการควบคุมในสังคมด้วย มิเช่นนั้น จะกลายเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนฉลาดปกครองคนโง่ และเกิดการเอาเปรียบกันจนคำว่าจริยธรรมกลายเป็นเพียงนามธรรม)
แต่มันก็เป็นการกักขังมนุษย์ไว้ในโลกแห่งอุปาทาน การแย่งชิง การเอาตัวรอด การเอาเปรียบ การต่อสู้ ยื้อแย่ง และนำไปสู่ระบบปลาใหญ่กินปลาเล็กในที่สุดนี่ครับ
ทำไมเราต้องถูกขังในโลกแห่งอุปาทานของทุนนิยมในเมื่อพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อรักกัน แบ่งปันกัน
Imagine All the People Sharing All the World....
Pry-Kaew เขียน:
พระเจ้าในศาสนาก็พระเยชูเจ้าครับ พระเจ้าในทางธุรกิจสำหรับผมก็คือลูกค้าฝรั่งทุกระดับครับผม
อย่ายอมให้ใครเป็นนายเธอนะคนดี
เพราะเราเกิดมาบนโลกแห่ง "เสรี"
ประโยคที่เอชใช้สอนรุ่นน้อง หรือบอกต่อคนอื่นอยู่เสมอคือ..
"จงอย่าเป็นนายใครและอย่าให้ใครเป็นนายเรา เพราะถ้าเธอทำอย่างนั้น เธอก็กำลังดูถูกคำว่ามนุษยชน เผ่าพันธุ์แห่งพระฉายา"
ปล.(สุดท้าย)...การเป็น Communist ไม่ผิดกฎหมายนะครับ
แต่คนไทย((น่าจะ))เป็นชาติไม่กี่ชาติในโลกนี้เลยมั้งที่รังเกียจ Communist ((ถูกเป่าหูมาตลอด))
ทั้งนี้ตาม Universal Declaration of Human Rights กล่าวว่า
Article 2.
Everyone is entitled to all the rights and freedoms set forth in this Declaration, without distinction of any kind, such as race, colour, sex, language, religion, political or other opinion, national or social origin, property, birth or other status. Furthermore, no distinction shall be made on the basis of the political, jurisdictional or international status of the country or territory to which a person belongs, whether it be independent, trust, non-self-governing or under any other limitation of sovereignty.
[from
http://www.un.org/Overview/rights.html]
เพราะฉะนั้นความคิดเห็นทางการเมืองถือเป็นสิทธิมนุษยชนอย่างหนึ่งฮะ ^3^
"มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิตและพินาศไป"
ลูกา 9 : 25
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 8:24 pm
โดย sasuke
อย่ากระนั้นเลย...
คำว่าลูกค้าคือพระเจ้า โดยแท้จริงก็คือ"เงินของลูกค้าคือพระเจ้า"
ถ้าพูดแบบนี้ก็แสดงว่า เราบูชาเงินเป็นพระเจ้าครับ หิวเงินจัด...

Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 16, 2007 9:37 pm
โดย Nihil
ถ้าลูกค้านั้นไม่มีเงิน คนที่ยึดแนวคิดดังกล่าวคงมองไปอีกมุมหนึ่ง
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 4:04 am
โดย Holy
ปัญหาของคอมมูนิสต์ คือ การมองศาสนาเป็นยาฝิ่น และแทบจะอัตโนมัติว่า ประเทศใดปกครองระบอบคอมมูนิสต์ ศาสนาจะถูกเบียดเบียน
อุดมการณ์ของคอมมูนิสต์ในแง่ความเสมอภาคนั้นดูดี แต่ระบบที่มนุษย์คิดขึ้น ก้ติดปัญหาเดิมๆคือ จุดอ่อนที่ตัวมนุษย์เอง เราพบว่าประเทศคอมมูนนิสต์หลายๆประเทศ สามารถทำให้คนเท่าเทียมได้จริง แต่ออกแนวจนเท่าเทียมกันหมดมากกว่า ส่วนคนที่อยู่สุขสบายก็ยังเป็นชนชั้นผู้นำของพรรคคอมมุนิสต์อยู่ดี ยังไงความจริงก็คือความจริงที่ว่า ทุกระบอบปกครองของโลก ถ้าผู้นำดี มันจะดี แต่ถ้าผู้นำอยากจะเลวขึ้นมาระบอบเลิศหรูยังไงก็ดิ่งเหว
ถ้ากลับไปอ่านพระคัมภีร์พระธรรมเก่า พระเจ้าเคยตรัสสั่งว่าจะไม่ให้มีกษัตริย์ในหมู่ชนชาวยิว จะมีแต่พระองค์เท่านั้นที่เป้นกษัตริย์ของอิสราเอล แต่ชาวยิว เห็นชนชาติอื่นมีกษัตริย์แล้วเจริญก็เรียกร้องจะเอาบ้าง พระองค์ยังเตือนว่า เจ้าจะเอาจริงเหรอ กษัตริย์จะเอาลูกสาวเขจ้าไปเป็นสนม เอาลูกชายเจ้าไปเป็นทหารและข้าทาส แต่ชาวยิวยังดื้อจะเอา และดูเหมือนว่า สุดท้ายกษัตริย์ของอิสราเอลมีทั้งคนที่ทำให้อิสราเอลเจริญถึงขีดสุด และทำให้อิสราเอลตกต่ำถึงขีดสุด
อย่างประเทศไทยเรามีในหลวงผู้ทรงอุทิศตนเพื่อบ้านเมือง เมืองไทยถึงรอดมาได้ ไม่ใช่ว่าระบบกษัตริย์ดี หรือระบบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุขจะดีกว่า หรือประชาธิปไตยล้วนๆ หรือคอมมูนิสต์จะดี แต่เพราะในหลวงเราดี จะระบอบไหน ถ้าในหลวงเป็นประมุข ก็ดีหมด
ดังนั้นอุดมการณ์บางส่วนของคอมมูนนิสต์ก็ดีอยู่ แต่ในทางปฏิบัติ ทุกวันนี้ประเทศที่ปกครองระบอบคอมมูนิสต์ในโลก ไม่ใช่จะน่าชื่นชมโสมนัส จะเป็นเกาหลีเหนือที่ห้ามเล่นเนต เมืองจีนที่เซ็นเซอร์ทุกอย่าง ก้าวก่ายแต่งตั้งพระสังฆราชเอาเอง พยายามทำให้การเมืองมีอิทธพลเหนือศาสนา หลังจากเคยทำลายแล้วไม่เวริ์คเลยเปลี่ยนมาครอบงำแทน ก็ยังน่าเกลียดอยู่ดี โป๊ป จอห์น ปอลที่2 โดนยิงเกือบตายเพราะการมีอิทธิพลเหนือจิตใจคริสตชน แม้ในประเทศคอมมูนิสต์ ที่คอมมูนิสคต์อย่างรัสเซียยอมไม่ได้ เพราะอุตส่าห์สร้างภาพผู้นำซะยังกับพระเจ้า ทั้งเหมาเจอตุง สตาลิน สร้างอนุสาวรีย์ตัวเอง หรือภาพตัวเองตั้งเหนือจตุรัสโดยไม่อายหรือเคอะเขิน ว่าทำไมตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นในขณะที่คนอื่นต้องเท่าเทียมติดดินแต่ตัวเองสร้างภาพพจน์สมมุติเทพ แต่ถ้าปรากฎว่าทำขนาดนี้ประชาชนดันมีศูยน์รวมจิตใจอื่นที่มีอิทธิพลกว่าตัวเอง ก็กำจัดซะจบข่าว
ถ้าเมืองไทยเป็นคอมมูนิสต์จริง ก็เตรียมโดนเบียดเบียนศาสนาได้เลย ศาสนาคริสต์โดยเฉพาะคาทอลิคจะโดนก่อนแน่นอน เพราะคอมมูนิสต์กลัววาติกันที่สุด ประเทศเดียวและผู้นำเดียวที่ไม่ต้องใช้กำลังทหารแบบเขา แต่ยึดเอาหัวใจประชาชนไปได้
มีหนังหลายเรื่องที่ประเทศจีนแบน ทั้งที่มันไม่ได้มีภาพความรุนแรง หรืออะไรมากมาย ประเด็นเดียวคือถ้าทำให้ฝรั่งดูดีมากไป หรือทำให้จีนดูไม่ดีแม้แต่นิดเดียวจะแบนทันที เช่นหนังที่แฉการทุจริตคอรัปชั่นที่โสโครกยิ่งกว่าทุนนิยมของข้าราชการในจีนเอง โดยคนจีนเองโดนแบนไม่ให้ฉายประเทศตัวเอง ส่วนหนังเรื่องดาวินชี่โค้ดที่ใส่ร้ายคริสตศาสนาและวาติกัน เมืองจีนเป็นประเทศแรกที่ฉายก่อนฝั่งอเมริกาซะอีก และผ่านเซ็นเซอร์ฉลุย เรียกว่าถ้าไปโฆษณาให้ประชาชนไปดูได้คงรีบทำไปแล้ว
ผมจำได้ว่า แม่พระที่ประจักษ์ที่ฟาติมา เคยขอให้เราสวดสายประคำ เพื่อให้รัสเซียกลับใจ และเลิกเป็นคอมมูนิสต์ เพราะสมัยนั้น คอมมูนิสต์รัสเซียเบียดเบียนศาสนารุนแรงมาก ขนาดรูปแม่พระฉวีดำที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองรัสเซียยังถูกเอามาขายทอดตลาด จนพระสันตะปาปา จอห์น ปอลที่2 ไปตามสืบและซื้อมาเก็บรักษาไว้(การส่งคืนยังไม่สำเร็จจนพระองค์ไปสวรรค์) ผมจำภาพสารคดีขาวดำที่ถ่ายเหตุการณ์จริงสมัยรัสเซียเปลี่ยนเป็นคอมมูนิสต์ ภาพคนจำนวนมาก ขนภาพ Icon และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ออกจากโบสถ์ ภาพของคนที่แบกกางเขนที่มีรูปIconพระเยซูเพื่อเอามันออกไปจากโบสถ์ ยังติดตาผมอยู่ แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา เพื่อขอให้สวดเพื่อให้รัสเซียกลับใจ และสุดท้ายดวงหทัยนิรมลของแม่ก็มีชัยชนะ เมื่อคอมมูนิสต์รัสเซียล่มสลาย พระเยซูตรัสในสารของวาสสุลาว่า "เราจะทำให้พี่สาวของเธอ(รัสเซีย)ฟื้นจากความตาย"
สรุปว่าเมืองไทยเป็นคอมมูนิสต์ขึ้นมาจริง อาจเป็นเรื่องดี เพราะผมจะได้เตรียมตัวเป็นมรณสักขี
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 4:11 am
โดย Holy
ผมแนะนำกระทู้นี้นะครับ
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3906.0
คริสตชนในจีนถูกเบียดเบียนหนักขนาดไหน ผมเห็นว่านอกจากคอมมูนิสต์จะมอบสิทธิมนุษยชนให้เขาไม่ได้ ยังพยายามแย่งมันไปด้วยครับ
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 7:51 am
โดย Pry-Kaew
Holy เขียน:
ดังนั้นอุดมการณ์บางส่วนของคอมมูนนิสต์ก็ดีอยู่ แต่ในทางปฏิบัติ ทุกวันนี้ประเทศที่ปกครองระบอบคอมมูนิสต์ในโลก ไม่ใช่จะน่าชื่นชมโสมนัส จะเป็นเกาหลีเหนือที่ห้ามเล่นเนต เมืองจีนที่เซ็นเซอร์ทุกอย่าง ก้าวก่ายแต่งตั้งพระสังฆราชเอาเอง พยายามทำให้การเมืองมีอิทธพลเหนือศาสนา หลังจากเคยทำลายแล้วไม่เวริ์คเลยเปลี่ยนมาครอบงำแทน ก็ยังน่าเกลียดอยู่ดี โป๊ป จอห์น ปอลที่2 โดนยิงเกือบตายเพราะการมีอิทธิพลเหนือจิตใจคริสตชน แม้ในประเทศคอมมูนิสต์ ที่คอมมูนิสคต์อย่างรัสเซียยอมไม่ได้ เพราะอุตส่าห์สร้างภาพผู้นำซะยังกับพระเจ้า ทั้งเหมาเจอตุง สตาลิน สร้างอนุสาวรีย์ตัวเอง หรือภาพตัวเองตั้งเหนือจตุรัสโดยไม่อายหรือเคอะเขิน ว่าทำไมตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นในขณะที่คนอื่นต้องเท่าเทียมติดดินแต่ตัวเองสร้างภาพพจน์สมมุติเทพ แต่ถ้าปรากฎว่าทำขนาดนี้ประชาชนดันมีศูยน์รวมจิตใจอื่นที่มีอิทธิพลกว่าตัวเอง ก็กำจัดซะจบข่าว
ถ้าเมืองไทยเป็นคอมมูนิสต์จริง ก็เตรียมโดนเบียดเบียนศาสนาได้เลย ศาสนาคริสต์โดยเฉพาะคาทอลิคจะโดนก่อนแน่นอน เพราะคอมมูนิสต์กลัววาติกันที่สุด ประเทศเดียวและผู้นำเดียวที่ไม่ต้องใช้กำลังทหารแบบเขา แต่ยึดเอาหัวใจประชาชนไปได้
เห็นด้วยกับคุณโฮลี่ครับ ไม่ว่าอดีต จนกระทั่งปัจจุบัน ประเทศใดๆที่ปกครองด้วยระบบสังคมนิยมเผด็จการ และระบบคอมมิวนิสต์ มักใช้ระบบรวมใจของประชาชนในสังคมด้วยการสร้างให้ผู้นำเปรียบเสมือนสมมุติเทพ มีรูปท่านผู้นำทุกที มีคำขวัญยกยอท่านผู้นำทุกแห่ง(ตัวเองไม่มีปัญญาแต่งหรอก แต่ลิ้วล้อแต่งให้เพราะต้องทำการคำสั่ง) ยกตัวอย่างง่ายๆ ไม่ว่ามุสโสลินิ สตาลิน ฟรังโก ฮิตเลอร์ ซัดดัม ฯลฯ ใช้นโยบายชาตินิยมโง่ๆเพื่อหลอกคนโง่ๆในชาติตัวเองให้ตกเป็นมือเป็นตีนตัวเองด้วยความตาบอด ซึ่งเป็นเครื่องมืออย่างดีในการปกป้องระบบสมมุติเทพปลอมๆของผู้ปกครอง ดังนั้นศาสนาคริสต์ซึ่งเชื่อในพระเจ้านั้น เป็นการขัดและสวนทางของนโบบายปกครองประชาชนของท่านผู้นำประเทศกลุ่มดังกล่าว เพราะทำให้เสียความซื่อสัตย์ต่อระบบผู้นำคือพระเจ้า
สมัยสตาลินต้องการสร้างทางรถไฟสายทรานไซบีเรียนั้น สหภาพโซเวียดไม่มีตังเลยด้วยซ้ำ ยากจนถึงขั้นต้องขายดินแดนAlaska ให้เมกา ดังนั้นสตาลินจึงคิดแผน หาแรงงานสร้างทางรถไฟปัญญาอ่อน โดยไม่ต้องจ่ายค่าแรง ดังนั้นจึงให้ตำรวจลับโซเวียด(โปลิส บูโร) ทำการจับกุมชาวบ้านโดยยัดเยียดข้อหาจอมปลอมเพื่อนำตัวไปใช้ในการสร้างทางรถไฟและค่ายแรงงาน(พวกเหมืองถ่านหิน และเหมืองปูนขาวโดยไม่ได้รับค่าแรง เนื่องจากอยู่ในสถานะนักโทษ) ผมเคยดูสารคดีช่องหนึ่งในเมกา ทำเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีตาแกคนหนึ่ง ขนาดกำลังโดนจับโดยตำรวจลับ บอกลูกหลานทุกคนที่กำลังถูกจับว่า สตาลินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องนี้อย่างเด็ดขาด(ดูสิ ตาบอด ลุ่มหลง ขนาดปกป้องคนที่ส่งคนมาทำร้ายครอบครัวตัวเอง) สรุปเลยคนรัสเซียตายเป็นล้านสมัยสตาลินครับ
แต่เชื่อไหม เวลาสตาลินตาย กลับมาคนร้องไห้ต่อหน้าหลุมศพกันมากมาย ในสารคดีนั้น ด็อกเตอร์ทางจิตวิทยาของอเมริกัน ได้วิเคราะห์ไว้ว่า เกิดทางประชาชนในประเทศที่ปกครองด้วยระบบดังกล่าวนั้น ปัจเจกบุคคลสั่งให้คิด สั่งให้เชื่อ สั่งให้รู้สึกแบบที่พรรคพวกและผุ้นำต้องการ ข้าพเจ้าคาดว่าคนเหล่านั้นในต่อมใต้สมองคงคิดว่าสตาลินคือเทพเจ้าสุดประเสริฐที่จากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ
คนที่เห็นสังคมนิยมเผด็จการและคอมมิวนิสต์เป็นเรื่องดีนั้น ต้องให้ไปดูพวกหนังฝรั่งและสารคดีฝรั่งในยุคสงครามเย็น ว่าประเทศในโลกเสรีเขาทุ่มเทกันขนาดไหน เพียงเพื่อมอบเสรีภาพและอิสระภาพกลับคืนสู่อ้อมอกมนุษย์
Heroes Fight for Freedom.
Heroes Fight for Freedom.
Heroes Fight for Freedom.
Heroes Fight for Freedom.
Heroes Fight for Freedom.
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 9:22 am
โดย Edwardius
ไม่ว่าใครก็ตามที่สร้างอุดมการณ์ย่อมจะประกาศว่า อุดมการณ์ของตนนั้นเป็นความจริง มิใช่ความฝัน
แม้จะเห็นๆ ว่าไปไม่ถึงก็ตาม
อุดมการณ์ประชาธิปไตยนั้นดี แต่ความละโมบของมนุษย์ทลายความดีนั้นเสีย
อุดมการณ์คอมมิวนิสต์นั้นดี แต่ความกระหายอำนาจของมนุษย์สลายความดีนั้นเสีย
การจะออกมาปกป้องว่า อุดมการณ์แท้จริงของเราดี แต่ถูกนำไปใช้ไม่ถูกต้องนั้น เห็นจะไม่ได้
เพราะการกล่าวเช่นนั้น เท่ากับไม่ยอมรับการ "ปรับใช้" ตามสภาพจริงของสิ่งเหล่านั้น
ถูกต้อง ที่จะบอกว่าทฤษฎีหลักแท้จริง บริสุทธิ์ และไม่มีผิดพลาด
แต่ก็ถูกต้องเช่นกันที่ทุกทฤษฎีย่อมเปลี่ยนไปเมื่อปรับใช้กับมนุษย์
ความเป็นจริง ไม่ได้เกิดขึ้นตามทฤษฎี แต่ทฤษฎีต่างหากที่ต้องเกิดขึ้นตามความเป็นจริง (ความจริงเป็นเหตุ)
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 11:10 am
โดย sakda88
รักและให้อภัย
ธรรมชาติของมนุษย์รักซึ่งกันและกันอยู่แล้ว
และแบ่งปันสิ่งที่ตนคิดว่าดีแก่คนทุก ๆ คน
และสิ่งที่แต่ละคนคิดว่าดีนั้นก็แตกต่างกัน
แต่ละสิ่งมีเหตุของมันและเหมาะในช่วงเวลานั้น
เพื่อความอยู่รอดของสังคมนั้น ๆ
รักและให้อภัย
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 11:17 am
โดย Alphonse
Holy เขียน:
สรุปว่าเมืองไทยเป็นคอมมูนิสต์ขึ้นมาจริง อาจเป็นเรื่องดี เพราะผมจะได้เตรียมตัวเป็นมรณสักขี
พูดซะเสียเลยง่ะพี่ Holy
ไม่รู้สิฮะ...แต่ communist ในแบบของพวกเอชคือ Communist แบบ freedom และ brotherhood
อย่างที่พี่เอ็ดบอก มันยากที่จะเป็นไปได้จริง ที่จะสร้างโลกนี้ให้เท่าเทียม ทุกคนมีอิสระ และเสรีภาพ...
ระบบการปกครองทุกระบบมันดีหมด ถ้ามันบริสุทธิ์
เอชเอ็งเคยชอบ Democracy จนวันหนึ่ง เมื่อ Demo-cracy ฆ่าคน
เอชก็กลายเป็นขยะแขยงมันแทน...
((กรณีสงครามอิรัก-อัฟกัน เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด))
อย่าบอกว่าเพราะ US นะครับ...แต่เพราะ Democracy ของประชาคมโลกต่างหาก
เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นว่าการฆ่าคน "ที่ไม่เห็นด้วยกับเรา" เป็นเรื่องดี
US ถึงได้ทำ.....นี่ก็เพราะ Demo-cracy ไม่ใช่หรือ
ก็เพราะ Demo-cracy ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้อ.ปรีดีกลายเป็น "แต่คนดีเมืองไทยไม่ต้องการ"
อ.ป๋วย ต้องหนีตายไปเมืองนอก ล้นเกล้าฯที่เจ็ด ไม่ได้นิวัติพระนคร
และก็เพราะ Demo-cracy นี่ทำให้เด็กเป็นล้านๆ คนกำพร้าพ่อในสงครามหลายๆ สงคราม
ก็เพราะ Demo-cracy นี่นา...ที่ทำให้ผู้คนอดอยากหลายร้อยล้าน
แต่ประชากรในประเทศมหาอำนาจกินอยู่อย่างสบาย
เอชยอมเป็นมรณสักขีนะ...ถ้าทำให้คนเหล่านั้นได้มีสุขบนโลกนี้
เอชไม่อยากให้เค้าเหล่านั้นรอสุขในโลกหน้าหรอก....ไม่ได้ลบหลู่พระเจ้านะครับ
แต่เราจะปล่อยให้เค้าเป็นอย่างนี้บนโลกนี้หรือไร...แล้วบอกเค้าว่า "เพื่อนเอ๋ย รอสุขในโลกหน้านะ แล้วเธอจะสุขกว่าฉันอีก"
"บ้าไปใหญ่"....
ลองฟัง Imagine ของ John Lennon นะครับ
นั่นคือเพลงของ Communist ล่ะครับ มันอธิบายเอาไว้หมดแล้ว
ไม่จำเป็นหรอกว่าจะถูกหรือผิดศีลธรรมแค่ไหน
เพียงแต่ว่า คน"ส่วนใหญ่" เห็นด้วย ก็เฮกันเถิด...
Communist ในปัจจุบันถูกนำมาปรับใช้เพื่อประโยชน์ของผู้นำ....จนภาพจริงๆ หายไป
เป็นการตีกรอบสังคมแทน...ทุกวันนี้พอพูดถึง Communist ก็ไม่แปลกที่คนจะมองภาพอย่างพี่ Holy หรือพี่พรายแก้ว
ทั้งๆ ที่นั่นคือความจริงแค่ 10% ของระบบ
Communist ที่แท้จริงไม่มีวันเกิดขึ้นได้พอๆ กับ Democracy ที่แท้จริง
อย่าหาว่ากระนั้นกระนี้เลย...Communist ใน UK เชื่อว่า Communist คือระบบการปกครองของพระเจ้า
สิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค เท่าเทียม คำว่าเหมือนกันหมายความว่าร่วมทุกข์ ร่วมสุข
เคยฟังเพลง Find the cost of Freedom หรือเปล่าฮะ...เพลงนั้นก็ของ Communist...
แต่อุดมการณ์พออยู่ในมือคนที่มีอำนาจ....มันก็เปลี่ยนไป
แต่เอชก็ยังจะเดินตามฝัน....hahahah
:afro:
Communist ในแบบของเอช ไม่ใช่ Communist ในแบบจีนหรอกฮะแต่เป็นแบบ
"สังคมนิยมวิทยาศาสตร์"....ซึ่งจะออกมาในรูปแบบของรัฐสวัสดิการ
เรื่องการเมืองกับเรื่องการศาสนาเป็นเรื่องที่ควรคุยกันมากที่สุด
เพราะเป็นเรื่องที่สนุกที่สุด
แต่....ควรจะคุยอย่างเปิดใจ ไม่ควร anti ความคิดของใครๆ
แล้วเราจะได้อะไรมากมาย
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 11:42 am
โดย Pry-Kaew
necromancer เขียน:
ระบบการปกครองทุกระบบมันดีหมด ถ้ามันบริสุทธิ์
เอชเอ็งเคยชอบ Democracy จนวันหนึ่ง เมื่อ Demo-cracy ฆ่าคน
เอชก็กลายเป็นขยะแขยงมันแทน...
((กรณีสงครามอิรัก เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด))
เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ (ประโยคนี้ผมอ่านเจอที่สติกเกอร์ท้ายรถเก๋งส่วนบุคคลของทหารพลร่มฝรั่งในที่จอดในอพารเมนต์ที่ผมอาศัยอยู่) " the Defender of Freedom " บางครั้งเพื่อปกป้องและเสรีภาพและอิสระของประชาชน จากการคุมคามของผู้ก่อการร้ายและศัตรูของรัฐ จำเป็นต้องมีต่อต้านการก่อการร้ายจากฝ่ายตรงข้ามด้วยกำลังฝ่ายเรา เพื่อปกป้องเสรีภาพและอิสระภาพของส่วนรวม ให้ดำรงอยู่ต่อไปครับผม
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 11:49 am
โดย Alphonse
Pry-Kaew เขียน:
เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ (ประโยคนี้ผมอ่านเจอที่สติกเกอร์ท้ายรถเก๋งส่วนบุคคลของทหารพลร่มฝรั่งในที่จอดในอพารเมนต์ที่ผมอาศัยอยู่) " the Defender of Freedom " บางครั้งเพื่อปกป้องและเสรีภาพและอิสระของประชาชน จากการคุมคามของผู้ก่อการร้ายและศัตรูของรัฐ จำเป็นต้องมีต่อต้านการก่อการร้ายจากฝ่ายตรงข้ามด้วยกำลังฝ่ายเรา เพื่อปกป้องเสรีภาพและอิสระภาพของส่วนรวม ให้ดำรงอยู่ต่อไปครับผม
ถ้าอย่างนั้นมันก็เหมือนกับกรณีเหตุการณ์เดือนตุลา
ที่สมัคร สุนทรเวช ถามพระกิตติวุฒโท ว่า การฆ่าพวกคอมมิวนิสต์ผิดไหม ((นศ. สมัยนั้น))
พระรูปนั้นตอบว่า.....
"ไม่บาปหรอก ก็เหมือนฆ่าปลาใส่บาตรพระนั่นแหละโยม"
สันติวิธีไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยกำลัง
ไม่มีเรา ไม่มีเค้า มีแต่พวกเราด้วยกันเอง
เมื่อไหร่ US จะเลิกผลิตหนังสงครามออกมาให้ประชาคมโลกดู
เมื่อไหร่โลกนี้จะเลิกผลิตของเล่นเด็กที่เป็นปืน และอาวุธ
เมื่อไหร่....ประชาคมโลกจะมองว่า "การรุมฆ่า" อันเนื่องมาจากประชาธิปไตยเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
"อยู่อย่างแตกต่าง แต่ไม่แตกแยก" ก็ได้นี่นา
ทำไมต้องบังคับให้ทั้งโลกเหมือนกัน
ถ้า Demo-cracy ดีจริง
"ไม่เห็นมันจะพัฒนา" ซักประเทศ
(((อย่าเอาค่าเศรษฐกิจเฉลี่ยมาบอกว่าพัฒนานะ))) เพราะมันไม่ใช่
Pry-Kaew เขียน:
เพื่อปกป้อง.....ของส่วนรวม
นี่ล่ะครับสาเหตุที่เอชเกลียด จนถึงขั้นขยะแขยง Demo-cracy จนเข้าไส้
เพราะคำๆ นี้ล่ะครับ
เพราะมันนี่แหละคำ
เพราะคำๆ นี้ล่ะครับ
ทำลายคนที่ไม่เหมือนเรา เพื่อให้เราดำรงอยู่
"มนุษย์ยุคหิน"...ทำลายๆ ทำลายๆ และทำลายๆ....อะไรที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าดี "เพราะผลประโยชน์ของตน"
สุดท้ายก็ทำไปเพื่อผลประโยชน์.....ผลประโยชน์ และผลประโยชน์ "ของคนหมู่มาก"
วันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่
เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุด
เราโกงทุกครั้งที่มีโอกาส
เราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 12:08 pm
โดย Pry-Kaew
พูดตรงๆเลย เราชอบเอชมากๆเลย(อันนี้พี่พูดจากใจนะครับ) น้องพูดตรงไปตรงมาดี ดูเป็นคนมีอุดมการณ์สูง และไม่คล้อยตามกระแสสังคมจอมปลอมเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ของสังคมบ้านเรา พี่ขอชื่นชมในความแน่นอน มุ่งมั่น และยึดในหลักการของตัวเองโดยไม่ประนีประนอมเพื่อผลประโยชน์หรือสิ่งอื่น เราเป็นคนเยี่ยมจริงๆ
แม้ว่าพี่เองไม่เห็นด้วยกับความคิดของน้องเท่าไหร่ แต่โดยส่วนตัวชอบในความเป็นตัวน้องมากกว่าครับ(ไม่หวั่นไหวไปตามกระแส และฯลฯ)
หากย้อยยุคไปเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว น้องคงจับอาก้าและร้องเพลงเพื่อมวลชนในป่าภูพาน ส่วนตัวพี่คงเป็นทหารฝ่ายรัฐบาลที่สวมเครื่องแบบและอุปกรณ์ทหารทุกอย่างทีได้มาจากความช่วยเหลือโดยอเมริกัน นั่งบนรถจิ๊ปลาดตระเวณตามพื้นที่สีชมพู เพื่อหาข่าวและทำสงครามจิตวิทยามวลชนกับชาวบ้านเพื่อหาข่าว
น้องครับ ขอให้รักษาแนวคิด และความคิด รวมทั้งอุดมการณ์ของน้องต่อไป อย่าให้ใคร หรือสิ่งใด เปลี่ยนน้องได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงิน และอำนาจ ขอบคุณครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 12:15 pm
โดย Pry-Kaew
necromancer เขียน:
เมื่อไหร่ US จะเลิกผลิตหนังสงครามออกมาให้ประชาคมโลกดู
เมื่อไหร่โลกนี้จะเลิกผลิตของเล่นเด็กที่เป็นปืน และอาวุธ
เมื่อไหร่....ประชาคมโลกจะมองว่า "การรุมฆ่า" อันเนื่องมาจากประชาธิปไตยเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
ตอบข้อแรกก่อน หากยูเอส เลิกผลิตหนังสงครามออกมา ผมก็อกแตกตายพอดีสิครับ ชอบดูมาตั้งแต่เด็ก ยันปัจจุบัน
ตอบข้อสอง หากโลกเลิกผลิตของเล่นเด็กเป็นปืน ผมก็อกแตกตายพอดีสิครับ ชอบเล่นปืนเด็กเล่นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยันโต ทั้งของปลอม ของจริง
ข้อสุดท้าย ไม่ตอบครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 3:01 pm
โดย Edwardius
ไม่แปลกหรอครับพี่น้องที่จะพูดคุยถึงเรื่องศาสนากับการเมืองในบอร์ดแบบนี้
เพราะ จริงๆ แล้วประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ประกาศว่า ศาสนาไม่เกี่ยวกับการเมือง
ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว อิรุงตุงนังกันที่สุดในสังคม
เพราะจริงๆ แล้ว ศาสนา กับ การเมือง ส่งผลต่อคนในสังคมทั้งทางความคิด และรดำรงชีวิต
จึงไม่น่าแปลกที่บางทีก็ดูไปกันได้ดี๊ดี บางทีก็ตีกันแทบตาย
เพราะมนุษย์รักที่จะมองในส่วนปลีกย่อยที่ตัวเองเห็นว่าสำคัญ มากกว่าส่วนหลักที่เป็นแก่นแท้ของมัน
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 3:12 pm
โดย sakda88
Edwardius เขียน:
เพราะมนุษย์รักที่จะมองในส่วนปลีกย่อยที่ตัวเองเห็นว่าสำคัญ มากกว่าส่วนหลักที่เป็นแก่นแท้ของมัน
ประโยคนี้ดีน่าพิจารณา
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 3:13 pm
โดย Ministry Of Men
เราต้องสู้ เผามันให้หมด
เหอๆๆๆๆๆๆ
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 4:24 pm
โดย Marie Antoinette
อูๆๆๆ ได้ความรู้ด้านการเมืองด้วยแฮะ ดีจังเลยยยยยย
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 5:24 pm
โดย Edwardius
melis เขียน:
อูๆๆๆ ได้ความรู้ด้านการเมืองด้วยแฮะ ดีจังเลยยยยยย
หากท่าไม่ยุ่ง และให้ความสนใจกับการเมือง การเมืองก็จะเข้ามาวุ่นวายกับท่านเอง
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 6:22 pm
โดย Alphonse
sakda88 เขียน:
Edwardius เขียน:
เพราะมนุษย์รักที่จะมองในส่วนปลีกย่อยที่ตัวเองเห็นว่าสำคัญ มากกว่าส่วนหลักที่เป็นแก่นแท้ของมัน
ประโยคนี้ดีน่าพิจารณา
เห็นด้วยครับ (((อ้าวเข้ามาตอบซะงั้น)))
อีกอย่างทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนเราพยายามผลักมันออกห่าง
melis เขียน:
อูๆๆๆ ได้ความรู้ด้านการเมืองด้วยแฮะ ดีจังเลยยยยยย
อ่ะนะ ขอโทษด้วยนะครับ ที่พา tropic ออกทะเลไป
Edwardius เขียน:
melis เขียน:
อูๆๆๆ ได้ความรู้ด้านการเมืองด้วยแฮะ ดีจังเลยยยยยย
หากท่าไม่ยุ่ง และให้ความสนใจกับการเมือง การเมืองก็จะเข้ามาวุ่นวายกับท่านเอง
ถึงจะยุ่งหรือไม่ยุ่งมันก็เข้ามาเสมอครับ
ขึ้นกับว่าเราจะมองมันยังไงมากกว่า
Re: คุณคิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือพระเจ้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 17, 2007 9:55 pm
โดย sasuke
ผมไม่ชอบคอมมิวนิส เพราะคอมมิวนิสไม่มีศาสนา...
และผมก็ไม่พิศมัยประชาธิบไตย เพราะ ยังคงมีบางประเทศ ที่ใช้คำว่าสิทธิเสรีภาพ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์อยู่...
Holy เขียน:
สรุปว่าเมืองไทยเป็นคอมมูนิสต์ขึ้นมาจริง อาจเป็นเรื่องดี เพราะผมจะได้เตรียมตัวเป็นมรณสักขี
ผมขอเป็นด้วยคนได้ไหมครับ...