พี่น้องคาทอลิกและพิธีกรรมต่างศาสนา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
SHANTIRAKSA
โพสต์: 87
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 19, 2005 8:58 pm

อังคาร ก.ย. 18, 2007 1:02 am

ขอสันติจงมีแด่ทุกท่าน

โฉบไปมาอยู่บ่อยๆในnewmana นานๆครั้งจึงจะขอแสดงความคิด จากผู้น้อยปัญญาเช่นกระผม
ก็พอดีมีกระทู้ติดๆกัน 2-3กระทู้ เรื่องพิธีกรรมในศาสนาพุทธ ที่พี่น้อง คาทอลิก สามารถร่วมประกอบ ได้ หรือไม่ได้
ผมในฐานะที่อธิบายเรื่องนี้มาโดยตลอดร่วมแปดปี ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความเห็นดังนี้

ผมเห็นพี่น้องหลายท่าน ทั้งที่อยู่ในนี้ หรือรอบตัวผมเอง เปลี่ยนศาสนาจากเดิม เป็นอีกศาสนา ทั้งพุทธเป็นคริสต์ คริสต์เป็นพุทธ พุทธเป็นฮินดู ฯลฯ สำหรับผม ทุกศาสนาล้วนมีคำสอนที่ดีงาม ไม่เช่นนั้น แต่ละศาสนาคงไม่ผ่านกาลเวลา เป็นเครื่องพิสูจน์มาร่วมพันปี 
สิ่งที่พี่น้องในนี้ประสบบ่อยๆก็คือ การที่ตัวเอง เปลี่ยนจากศาสนาพุทธ เพียงคนเดียวในครอบครัว แล้วมีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น ข้อนี้ผมขอให้พี่น้องนั้นยืนยันในความเชื่อที่ท่านศรัทธา โดยที่อดทนต่อความขัดข้อง สงสัย ของครอบครัว ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า สุดท้ายครอบครัวจะเข้าใจในที่สุด ว่าพี่น้องได้ศรัทธาในหนทางที่ดี ที่เป็นทางรอด ทางที่จะนำไปสู่ความสุข ทั้งนี้ พี่น้องต้องศึกษาความเชื่อ ของตนให้ถ่องแท้ลึกซึ้งที่สุด และ ระลึกถึงความเชื่อที่ครอบครัวของท่านศรัทธา คงมีเหตุผลหลากประการที่ทำให้เราศรัทธาทางนี้ และคนอื่นก็มีทางที่ตนศรัทธาเช่นกัน การศึกษาศาสนาของตนให้เข้าใจถึงแก่นจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำที่สุด

ปัญหาอีกข้อคือ พิธีกรรมที่พี่น้องคาทอลิก ไม่สามารถร่วม(หรือไม่ร่วม)ประกอบด้วยได้กับศาสนาอื่นๆ ผมขอยกศาสนาพุทธเป็นตัวอย่าง เพราะชัดเจนและถนัดที่สุดที่ผมจะกล่าวถึง...
การใส่บาตร ในพุทธศาสนา ถือเป็นการได้ประโยชน์หลายส่วนนั่นคือหนึ่ง ผู้ที่ใส่บาตรเองได้รู้จักการเผื่อแผ่ พระสงฆ์ได้รับอาหารเพื่อความแข็งแรงแห่งร่างกายที่ท่านจะต้องใช้ศึกษาปฏิบัติธรรม แล้วนำมาธรรมเหล่านั้นมาสอนญาติโยม...ใส่บาตรจบ
พระท่านสวดคาถาว่า...อภิวาทนสีลิสส นิจจัง......อายุ วัณโณ สุขัง พลัง  ข้อนี้ท่านไม่ได้ทำให้เราดีขึ้นเพราะท่านเสกนะครับ คาถานี้ท่านสอนว่า "ผู้กราบไหว้ อ่อนน้อมถ่อมตัวต่อผู้ใหญ่เป็นนิจศีล ย่อมเจริญด้วยคุณธรรมสี่ประการคือ อายุ ชื่อเสียง สุข และกำลัง"

การกรวดน้ำ พี่น้องคาทอลิกบางท่านให้ความเห็นว่า"จะไปถึง(ใคร)จริงรึเปล่า" ข้อนี้ผมไม่เฉลย แต่ประโยชน์ อันมากกว่านั้นคือ การอุทิศกุศล เป็นการปลูกฝังใจของเราให้คิดดี ต่อเพื่อนมนุษย์ สรรพสัตว์อื่นๆ ซึ่งอันที่จริงไม่ต้องอาศัย"น้ำ"ก็ได้ครับ เพียงนึกถึง อึดใจก็เกิดประโยชน์


ยกตัวอย่างเพียงสองเรื่องก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติในศาสนาพุทธนั้น มีใจความหลักให้เราลดความเห็นแก่ตน และเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น เพียงแต่ตัวพิธีการ หรือพิธีกรรมนั้น เป็นส่วนปฏิบัติภายนอกเท่านั้น ดังนั้นถ้า พี่น้องคาทอลิกจำตัวจำใจจะต้องร่วมในพิธีเหล่านี้ ขออย่าได้กังวลว่าจะเป็นการ"นมัสการสิ่งอื่นนอกจากพระเจ้า" ส่วนข้อที่จะทำให้ผู้อื่นสะดุดนั้นก็ควรจะงดตามกล่าวครับ

ผมเชื่อว่า ศาสนาใดๆล้วนสอนให้เราเห็นใจ เผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่มีคำสอนในศาสนาใดที่บอกว่า"จงเห็นแก่ตัวเถิด"
ตัวผมเองเป็นชาวพุทธ แต่เคารพในพระคริสตเจ้า พระศาสดามุฮำมัด(ศ็อลฯ) คุรุนานัก ศาสดาและผู้ปฏิบัติดีอื่นๆ
หากศาสนิกในศาสนานั้นๆ สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างที่ศาสดาของตนปฏิบัติ สังคมทั้งหมดก็จะมีแต่สันติสุข

ขออภัยที่กล่าวเสียยืดยาวครับ
ขอสันติจงมีแด่ทุกท่านครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร ก.ย. 18, 2007 1:36 am

ครับ ขอบคุณสำหรับความเห็น
    แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้พี่น้องคริสตชนทำก็คือการยืนยันในความเชื่อและพิธีกรรมของตน ถึงแม้ว่าทุกศาสนาต่างก็สอนให้ทุกคนเป็นคนดีเช่นกัน แต่เราก็ต้องรักษาเอกลักษณ์ของเราด้วยเช่นกันครับ
    อนึ่งการปฎิเสธก็ควรปฎิเสธโดยให้เหตุผลและอ่อนโยนไม่ใช่ปฎิเสธเสียงแข็งนะครับ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ก.ย. 18, 2007 11:42 am

ผมว่าจริงอยู่นะครับ ที่เราสามารถร่วมงานนั้น ๆ ได้
แต่ต้องเข้าใจด้วยเหมือนกันว่า การตักบาตร การกรวดน้ำ ไม่ใชแนวทางของคริสต์นะครับ
แนวทางของศาสนาคริสต์ คือ การสวดภาวนา ขอพระเมตตาจากพระองค์ครับ
ดังนั้น คนคริสต์ที่เข้าใจ จะสามารถวางตัวได้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

อังคาร ก.ย. 18, 2007 10:17 pm

ในความเป็นจริงแล้ว เราควร "หลีกเลี่ยง" ไว้ก่อนเป็นอันดับหนึ่งครับ
เพราะการกระทำโดยเหตุผลส่วนตัวบางครั้งได้ก่อให้เกิดการ "สะดุด" แก่คริสตชนอื่น
ฉะนั้นแนะนำในขั้นต้นว่า หากกระทำได้ให้ "หลีกเลี่ยง" เป็นปฐม

ในกรณีที่เกรงว่าการปฎิบัติศาสนกิจของตน หรือแสดงออกสัญลักษณ์บางอย่าง
เช่น การสวดภาวนาเงียบๆ ก่อนอาหาร หรือการทำสำคัญมหากางเขนนั้น
เห็นสมให้กระทำ แม้จะก่อให้เกิดการติฉินนินทา ว่ากล่าวตักเตือน (จากผู้ใหญ่ตามแนวทางอื่นๆ)
เหตุว่า จงเกรงกลัวพระเป็นเจ้าของท่าน มากกว่าฟังการสรรเสริญเยินยอจากมนุษย์

กรณีที่ต้องทำศาสนกิจของศาสนาอื่นๆ ให้ยึดหลักสำคัญคือ ความเหมาะสม และจิตใจ
หากมีคริสตชนอื่นๆ ในบริเวณนั้น (ที่ทราบได้) ให้เลี่ยงไม่กระทำ แต่หากสถานการณ์บังคับ
ให้บอกแก่คนที่แนะนำ หรือชักชวนไว้ก่อน และดึงดันไม่ปฎิบัติตามถึงที่สุด แม้เขาจะบอกว่าทำได้
เพราะ แนวคิดที่ต่างกัน ทำให้ความยืดหยุ่น (Flexibility) ในการปฎิบัติต่างกัน

หากจำเป็นต้องทำจริงๆ ให้หลีกเลี่ยงการกระทำวจนพิธีกรรม และการแสดงอาการทำความเคารพ
เช่น การสวด การกราบไหว้ การก้มเคารพ การจูบสัมผัส ฯลฯ

สำคัญที่สุดคือ เว้นการเคารพนบนอบด้วยจิตใจครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2007 7:54 am

1คร 10:23-33  แนวปฏิบัติในเรื่องเนื้อที่ถวายแด่รูปเคารพแล้ว
(23)ท่านมักพูดว่า
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2007 11:49 am

SHANTIRAKSA เขียน: ขอสันติจงมีแด่ทุกท่าน

โฉบไปมาอยู่บ่อยๆในnewmana นานๆครั้งจึงจะขอแสดงความคิด จากผู้น้อยปัญญาเช่นกระผม
ก็พอดีมีกระทู้ติดๆกัน 2-3กระทู้ เรื่องพิธีกรรมในศาสนาพุทธ ที่พี่น้อง คาทอลิก สามารถร่วมประกอบ ได้ หรือไม่ได้
ผมในฐานะที่อธิบายเรื่องนี้มาโดยตลอดร่วมแปดปี ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความเห็นดังนี้

ผมเห็นพี่น้องหลายท่าน ทั้งที่อยู่ในนี้ หรือรอบตัวผมเอง เปลี่ยนศาสนาจากเดิม เป็นอีกศาสนา ทั้งพุทธเป็นคริสต์ คริสต์เป็นพุทธ พุทธเป็นฮินดู ฯลฯ สำหรับผม ทุกศาสนาล้วนมีคำสอนที่ดีงาม ไม่เช่นนั้น แต่ละศาสนาคงไม่ผ่านกาลเวลา เป็นเครื่องพิสูจน์มาร่วมพันปี 
สิ่งที่พี่น้องในนี้ประสบบ่อยๆก็คือ การที่ตัวเอง เปลี่ยนจากศาสนาพุทธ เพียงคนเดียวในครอบครัว แล้วมีความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้น ข้อนี้ผมขอให้พี่น้องนั้นยืนยันในความเชื่อที่ท่านศรัทธา โดยที่อดทนต่อความขัดข้อง สงสัย ของครอบครัว ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า สุดท้ายครอบครัวจะเข้าใจในที่สุด ว่าพี่น้องได้ศรัทธาในหนทางที่ดี ที่เป็นทางรอด ทางที่จะนำไปสู่ความสุข ทั้งนี้ พี่น้องต้องศึกษาความเชื่อ ของตนให้ถ่องแท้ลึกซึ้งที่สุด และ ระลึกถึงความเชื่อที่ครอบครัวของท่านศรัทธา คงมีเหตุผลหลากประการที่ทำให้เราศรัทธาทางนี้ และคนอื่นก็มีทางที่ตนศรัทธาเช่นกัน การศึกษาศาสนาของตนให้เข้าใจถึงแก่นจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำที่สุด

ปัญหาอีกข้อคือ พิธีกรรมที่พี่น้องคาทอลิก ไม่สามารถร่วม(หรือไม่ร่วม)ประกอบด้วยได้กับศาสนาอื่นๆ ผมขอยกศาสนาพุทธเป็นตัวอย่าง เพราะชัดเจนและถนัดที่สุดที่ผมจะกล่าวถึง...
การใส่บาตร ในพุทธศาสนา ถือเป็นการได้ประโยชน์หลายส่วนนั่นคือหนึ่ง ผู้ที่ใส่บาตรเองได้รู้จักการเผื่อแผ่ พระสงฆ์ได้รับอาหารเพื่อความแข็งแรงแห่งร่างกายที่ท่านจะต้องใช้ศึกษาปฏิบัติธรรม แล้วนำมาธรรมเหล่านั้นมาสอนญาติโยม...ใส่บาตรจบ
พระท่านสวดคาถาว่า...อภิวาทนสีลิสส นิจจัง......อายุ วัณโณ สุขัง พลัง   ข้อนี้ท่านไม่ได้ทำให้เราดีขึ้นเพราะท่านเสกนะครับ คาถานี้ท่านสอนว่า "ผู้กราบไหว้ อ่อนน้อมถ่อมตัวต่อผู้ใหญ่เป็นนิจศีล ย่อมเจริญด้วยคุณธรรมสี่ประการคือ อายุ ชื่อเสียง สุข และกำลัง"

การกรวดน้ำ พี่น้องคาทอลิกบางท่านให้ความเห็นว่า"จะไปถึง(ใคร)จริงรึเปล่า" ข้อนี้ผมไม่เฉลย แต่ประโยชน์ อันมากกว่านั้นคือ การอุทิศกุศล เป็นการปลูกฝังใจของเราให้คิดดี ต่อเพื่อนมนุษย์ สรรพสัตว์อื่นๆ ซึ่งอันที่จริงไม่ต้องอาศัย"น้ำ"ก็ได้ครับ เพียงนึกถึง อึดใจก็เกิดประโยชน์


ยกตัวอย่างเพียงสองเรื่องก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติในศาสนาพุทธนั้น มีใจความหลักให้เราลดความเห็นแก่ตน และเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น เพียงแต่ตัวพิธีการ หรือพิธีกรรมนั้น เป็นส่วนปฏิบัติภายนอกเท่านั้น ดังนั้นถ้า พี่น้องคาทอลิกจำตัวจำใจจะต้องร่วมในพิธีเหล่านี้ ขออย่าได้กังวลว่าจะเป็นการ"นมัสการสิ่งอื่นนอกจากพระเจ้า" ส่วนข้อที่จะทำให้ผู้อื่นสะดุดนั้นก็ควรจะงดตามกล่าวครับ

ผมเชื่อว่า ศาสนาใดๆล้วนสอนให้เราเห็นใจ เผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่มีคำสอนในศาสนาใดที่บอกว่า"จงเห็นแก่ตัวเถิด"
ตัวผมเองเป็นชาวพุทธ แต่เคารพในพระคริสตเจ้า พระศาสดามุฮำมัด(ศ็อลฯ) คุรุนานัก ศาสดาและผู้ปฏิบัติดีอื่นๆ
หากศาสนิกในศาสนานั้นๆ สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างที่ศาสดาของตนปฏิบัติ สังคมทั้งหมดก็จะมีแต่สันติสุข

ขออภัยที่กล่าวเสียยืดยาวครับ
ขอสันติจงมีแด่ทุกท่านครับ
คริสต์ดปรเตสแตนต์มาแจมคร้าบ

สวัสดีคร้าบคุณพี่ ก็เห็นคุณพี่แว๊บๆเสมอๆ โฉบไปโฉบมา ดีนะ ไม่โดน wind shear ให้เสียหลักจนโม่ง บอร์ด 5555 :grin:

น้องเจี๊ยบเป็นคริสต์โปรเตสแตนต์ สังกัดของสภาคริสตจักร ที่มาจากครอบครัวพุทธ และยังมีญาติพี่น้อง เป็นพุทธ อิสลามอยู่มากมาย

คำถามที่พี่ถามมา น้องไม่มีเวลามากนัก เพราะเป็น ฤดู ไฟชำระ (สอบคร้าบ ) ต้องรีบปั่นการบ้านอ่านหนังสือ แบบปั่นหุ้น ลุ้นหวย

เจี๊ยบได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ที่เขียนโดยคุณพ่อเขียว (พ่อไพศาล อานามวัฒน์ ) ที่แจกจ่ายในพิธีปลงศพของท่าน และแจกจ่ายให้
คริสตชนบางกลุ่ม เช่นนักบวช ศาสนาจารย์ ศิษยาภิบาล ของคริสเตียนได้อ่าน 
บังเอิญน้องเจี๊ยบได้อ่านจบแล้ว เพราะหนังสือบางๆ 78 หน้า หน้าปกสีเขียวแบบชื่อพ่อผู้เขียน หนังสือชื่อ "คู่มือ เรื่อง แนวทางปฏิบัติตนของคาทอลิก
ในการร่วมพิธีของศาสนาอื่น" คุณพี่น่าจะลองขอไปที่คณะกรรมการศาสนสัมพันธ์ คาทอลิก  อ่านดู คงจะได้รับคำตอบ คร้าบ

ปล.1.น้องเจี๊ยบรับทราบว่า เขาแจกจ่ายหนังสือนี้ให้ทดลองอ่าน ทดลองใช้ ท่ามกลาง บาทหลวง และศิษยาภิบาล โปรเตสแตนต์
ส่วนฆราวาสเขาแจกหรือเปล่า  น้องเจี๊ยบจิ๊กของพี่สาวมาอ่าน ฮะ

ปล.2 ถ้าพี่ต้องการจริงๆ มุดดินไปหาเจี๊ยบจะหาเบอร์คนที่จะติดต่อให้ได้คร้าบ

สันติสุขขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรีเอกภาพจงมีแด่ท่าน
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ย. 20, 2007 11:51 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Almady
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 01, 2007 9:10 pm

จันทร์ ต.ค. 01, 2007 9:26 pm

มีอีกอย่างก็คือ ธรรมเนียมจีนครับ

ไม่ทราบว่าชาวคาทอลิกที่มีเชื้อสายจีนคนอื่น

จะรักษาธรรมเนียมจีนไว้อย่างไรบ้าง โดยไม่ผิดหลักคาทอลิก

เช่น การไหว้บรรพบุรุษ  หรือ การไปไหว้สุสาน
Invy
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 07, 2007 1:00 am
ที่อยู่: ปทุมธานี
ติดต่อ:

จันทร์ ต.ค. 01, 2007 10:25 pm

คิดไปคิดมา ทำบุญตักบาตรมันมองได้อีกมุมนะครับ
เท่าที่ผมเข้าใจ ผมเข้าใจว่าคนพุทธเชื่อว่าการที่ทำบุญตักบาตรจะทำให้ญาติๆ สหาย ผู้ล่วงลับ ไม่อดอยากปากแห้ง
แต่ลองมองอีกมุมนะ ข้าวที่เราใส่บาตรไป ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องอุทิศส่วนกุศล แต่เราให้เพื่อนมนุษย์ได้กิน มันอาจเป็นการทำดีอีกอย่างหนึ่งครับ

ปล. แต่คนพูดเองก็ไม่กล้าจะทำครับ ถ้าทำก็ฝากคนพุทธใส่ไป  :grin:
sakda88
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 30, 2005 11:52 am
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร ต.ค. 02, 2007 9:45 am

พิธีกรรมเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?

บัญญัติ 10 ประการเกิดในสมัยโมเสส  ก่อนหน้านั้นละ ?
หลังจาก อาดัม ถูกขับจากสวรรค์มีบัญญัติอะไรบ้าง ?

พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วพระองค์ทรงทำอะไร ?

พิธีกรรมใช่หลักธรรมหรือไม่ ?
แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ อังคาร ต.ค. 02, 2007 12:48 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

อังคาร ต.ค. 02, 2007 11:27 am

Almady เขียน: มีอีกอย่างก็คือ ธรรมเนียมจีนครับ

ไม่ทราบว่าชาวคาทอลิกที่มีเชื้อสายจีนคนอื่น

จะรักษาธรรมเนียมจีนไว้อย่างไรบ้าง โดยไม่ผิดหลักคาทอลิก

เช่น การไหว้บรรพบุรุษ  หรือ การไปไหว้สุสาน
เท่าที่ทราบนี่ ธรรมเนียมจีนบางอย่างได้รับอิทธิพลร่วมของวัฒนธรรมการกราบไหว้ผีบรรพบุรุษ
เช่นเดียวกับวัฒนธรรมการเลี้ยงผีปู่ย่าในภาคเหนือ การเซ่นไหว้ผีประจำเผ่าของชาวเขา หรือเรื่องผีแถนทางภาคอิสาน
จากข้อเท็จจริงตรงนี้ จะพบว่า การกราบไหว้ในลักษณะดังกล่าวเป็นการบูชาวิญญาณอื่นๆ ชนิดหนึ่ง
ส่วนการไหว้สุสานนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ไหว้แบบไหนครับ
ถ้าไหว้แบบ ไปทำความสะอาด ไปอธิษฐานภาวนาเผื่อแผ่ ไปร้องเพลงในสุสาน (เพลงศักดิ์สิทธิ์) ก็ย่อม okay
แต่ถ้ากราบไหว้แบบเซ่นไหว้ สักการะบูชา ก็ไม่สมควรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร ต.ค. 02, 2007 11:55 am

Invy เขียน: คิดไปคิดมา ทำบุญตักบาตรมันมองได้อีกมุมนะครับ
เท่าที่ผมเข้าใจ ผมเข้าใจว่าคนพุทธเชื่อว่าการที่ทำบุญตักบาตรจะทำให้ญาติๆ สหาย ผู้ล่วงลับ ไม่อดอยากปากแห้ง
แต่ลองมองอีกมุมนะ ข้าวที่เราใส่บาตรไป ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องอุทิศส่วนกุศล แต่เราให้เพื่อนมนุษย์ได้กิน มันอาจเป็นการทำดีอีกอย่างหนึ่งครับ

ปล. แต่คนพูดเองก็ไม่กล้าจะทำครับ ถ้าทำก็ฝากคนพุทธใส่ไป  :grin:
ใช่ครับ บางคนไม่มีตัง ต้องไปพึ่งวัด
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

อังคาร ต.ค. 02, 2007 12:04 pm

Invy เขียน: ปล. แต่คนพูดเองก็ไม่กล้าจะทำครับ ถ้าทำก็ฝากคนพุทธใส่ไป  :grin:
ทำเหมือนกันครับ  :grin:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 02, 2007 6:06 pm

บ้านผมยังมีปัญหาอยู่เลย ยิ่งช่วงนี้ ก่อนมาเป็นคริสตชน ยิ่งช่วงเดือนรอมฎอนอย่างนี้ ผมจะเป็นคนกล่าวอะซาน(เสียงเรียกให้ชวนเข้ามานมาซ) เพราะบางเวลาผมจะเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน แล้วอายุที่ถือว่าโตแล้วด้วย แต่หลังล้างบาปก็ปฏิเสธญาติๆว่า คงกล่าวอะซานไม่ได้แล้ว

เลยฝากถามพี่น้อง(ยิ่งใครใกล้ชิดมุสลิมยิ่งดีเลย)ผมยังทำการกล่าวอะซาน แต่ไม่ร่วมละหมาดไหม

เพราะคำอะซาน จะมีบางประโยคที่อาจตะขิดตะข่วนใจที่ว่า
"อัชฮ่าดุอันน่า มุฮัมม่าดัน ร่อซู้ลุ้ลลอฮฺ --
ข้าขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุฮัมหมัด(ศ.ล.)คือร่อซูลขององค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)"
ถ้าบางทีญาติบางคนที่เป็นสายมัซฮับชีอะฮฺมาเขาจะขอให้กล่าวอะซานอีกแบบ(ต้องเปิดโพยตะโกน)ซึ่งจะมีประโยคเพิ่มว่า
"อัชฮ่าดุอันน่า อะลียา ว่าลี'อุลลอฮฺ --
ข้าขอปฏิญาณว่าท่านอิมามอฺลีย์เป็นผู้สั่งการแทนขององค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)"

คือผมจะสามารถกล่าวอะซานได้ไหมถ้าพวกญาติๆขอ
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 02, 2007 6:44 pm

Gray Cat Mobster เขียน: บ้านผมยังมีปัญหาอยู่เลย ยิ่งช่วงนี้ ก่อนมาเป็นคริสตชน ยิ่งช่วงเดือนรอมฎอนอย่างนี้ ผมจะเป็นคนกล่าวอะซาน(เสียงเรียกให้ชวนเข้ามานมาซ) เพราะบางเวลาผมจะเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน แล้วอายุที่ถือว่าโตแล้วด้วย แต่หลังล้างบาปก็ปฏิเสธญาติๆว่า คงกล่าวอะซานไม่ได้แล้ว

เลยฝากถามพี่น้อง(ยิ่งใครใกล้ชิดมุสลิมยิ่งดีเลย)ผมยังทำการกล่าวอะซาน แต่ไม่ร่วมละหมาดไหม

เพราะคำอะซาน จะมีบางประโยคที่อาจตะขิดตะข่วนใจที่ว่า
"อัชฮ่าดุอันน่า มุฮัมม่าดัน ร่อซู้ลุ้ลลอฮฺ --
ข้าขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุฮัมหมัด(ศ.ล.)คือร่อซูลขององค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)"
ถ้าบางทีญาติบางคนที่เป็นสายมัซฮับชีอะฮฺมาเขาจะขอให้กล่าวอะซานอีกแบบ(ต้องเปิดโพยตะโกน)ซึ่งจะมีประโยคเพิ่มว่า
"อัชฮ่าดุอันน่า อะลียา ว่าลี'อุลลอฮฺ --
ข้าขอปฏิญาณว่าท่านอิมามอฺลีย์เป็นผู้สั่งการแทนขององค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)"

คือผมจะสามารถกล่าวอะซานได้ไหมถ้าพวกญาติๆขอ

คุณแมวน้ำตาล เป็นคริสตชนคาทอลิกหรือโปรแตสแตนด์ครับ จริงๆแล้ว ชีวิตตัวเอง แม้ว่าเป็นคริสตชน แต่สมัยอยู่เมืองไทยชอบกินข้าวร้านมุลสิม(เมืองไทยเราวิปริต หาเนื้ออร่อยๆกินร้านธรรมดายากมาก) เคยมีสาวคนสนิทเป็นมุลลิมมาก่อน และเพื่อนผู้หญิงที่เรียนภาษาด้วยกัน ก็เป็นมุลสิมหลายคน รวมทั้งอาจารย์ด้วย จากประสบการณ์ทั้งหมด ผมมองมุลสิมในแง่บวกเสมอมานะครับ หลายคนดีกว่าฝรั่งคาทอลิกที่เหยียดผิวอีกตังหาก เอาเป็นว่าเจอกันเมืองไทย เรานัดเจอกันดีกว่า

หากผมเป็นทหารไทยที่ไปรักษาความสงบภาคใต้ เจอคนมุลสิมที่ก่อความไม่สงบ อาจยิงไม่ลงด้วยซ้ำ เพราะรู้ว่าจริงๆแล้วมุลสิมไม่ใช่คนไม่ดีเลยสักนิด ที่มีเรื่องมีราวกัน เพราะพวกกาเฟรและคนนับถือเจว็ตรังแกคนไม่มีที่ไปมากกว่า(พูดแบบนี้ จะทำให้หลายคนหมั่นไส้หรือเปล่าเนี่ย)

ขอพระอวยพรคุณแมวสีน้ำตาลครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 02, 2007 9:43 pm

Pry-Kaew เขียน:
Gray Cat Mobster เขียน: บ้านผมยังมีปัญหาอยู่เลย ยิ่งช่วงนี้ ก่อนมาเป็นคริสตชน ยิ่งช่วงเดือนรอมฎอนอย่างนี้ ผมจะเป็นคนกล่าวอะซาน(เสียงเรียกให้ชวนเข้ามานมาซ) เพราะบางเวลาผมจะเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน แล้วอายุที่ถือว่าโตแล้วด้วย แต่หลังล้างบาปก็ปฏิเสธญาติๆว่า คงกล่าวอะซานไม่ได้แล้ว

เลยฝากถามพี่น้อง(ยิ่งใครใกล้ชิดมุสลิมยิ่งดีเลย)ผมยังทำการกล่าวอะซาน แต่ไม่ร่วมละหมาดไหม

เพราะคำอะซาน จะมีบางประโยคที่อาจตะขิดตะข่วนใจที่ว่า
"อัชฮ่าดุอันน่า มุฮัมม่าดัน ร่อซู้ลุ้ลลอฮฺ --
ข้าขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุฮัมหมัด(ศ.ล.)คือร่อซูลขององค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)"
ถ้าบางทีญาติบางคนที่เป็นสายมัซฮับชีอะฮฺมาเขาจะขอให้กล่าวอะซานอีกแบบ(ต้องเปิดโพยตะโกน)ซึ่งจะมีประโยคเพิ่มว่า
"อัชฮ่าดุอันน่า อะลียา ว่าลี'อุลลอฮฺ --
ข้าขอปฏิญาณว่าท่านอิมามอฺลีย์เป็นผู้สั่งการแทนขององค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)"

คือผมจะสามารถกล่าวอะซานได้ไหมถ้าพวกญาติๆขอ

คุณแมวน้ำตาล เป็นคริสตชนคาทอลิกหรือโปรแตสแตนด์ครับ จริงๆแล้ว ชีวิตตัวเอง แม้ว่าเป็นคริสตชน แต่สมัยอยู่เมืองไทยชอบกินข้าวร้านมุลสิม(เมืองไทยเราวิปริต หาเนื้ออร่อยๆกินร้านธรรมดายากมาก) เคยมีสาวคนสนิทเป็นมุลลิมมาก่อน และเพื่อนผู้หญิงที่เรียนภาษาด้วยกัน ก็เป็นมุลสิมหลายคน รวมทั้งอาจารย์ด้วย จากประสบการณ์ทั้งหมด ผมมองมุลสิมในแง่บวกเสมอมานะครับ หลายคนดีกว่าฝรั่งคาทอลิกที่เหยียดผิวอีกตังหาก เอาเป็นว่าเจอกันเมืองไทย เรานัดเจอกันดีกว่า

หากผมเป็นทหารไทยที่ไปรักษาความสงบภาคใต้ เจอคนมุลสิมที่ก่อความไม่สงบ อาจยิงไม่ลงด้วยซ้ำ เพราะรู้ว่าจริงๆแล้วมุลสิมไม่ใช่คนไม่ดีเลยสักนิด ที่มีเรื่องมีราวกัน เพราะพวกกาเฟรและคนนับถือเจว็ตรังแกคนไม่มีที่ไปมากกว่า(พูดแบบนี้ จะทำให้หลายคนหมั่นไส้หรือเปล่าเนี่ย)

ขอพระอวยพรคุณแมวสีน้ำตาลครับผม
เป็นคาทอลิกครับ

แต่บ้านสายหนึ่งเป็นมุสลิม อยู่นครศรีฯกะปัตตานีซะส่วนใหญ่(แต่ตอนนี้ญาติทางปัตตานีย้ายมาอยู่นครศรีกันหมดแล้ว) พูดภาษายาวีได้นิดหน่อย(ขอย้ำว่านิดหน่อย นิดจริงๆ) อ่านออกบ้างเพราะอักษรคล้ายภาษาอาหรับ(อ่านง่ายกว่าอาหรับด้วยซ้ำไป) เป็นว่าที่มุสลิม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ปฏิญาณตัว(แล้วมาล้างบาปก่อนด้วย^^)

ซายอ กาเซะฮฺ ฟารอนีย์ (ชั้นรักปัตตานี)

ป.ล.(แล้วตกลงกล่าวอะซานได้ไหมอ่า)
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

อังคาร ต.ค. 02, 2007 10:00 pm

Gray Cat Mobster เขียน: เป็นคาทอลิกครับ

แต่บ้านสายหนึ่งเป็นมุสลิม อยู่นครศรีฯกะปัตตานีซะส่วนใหญ่(แต่ตอนนี้ญาติทางปัตตานีย้ายมาอยู่นครศรีกันหมดแล้ว) พูดภาษายาวีได้นิดหน่อย(ขอย้ำว่านิดหน่อย นิดจริงๆ) อ่านออกบ้างเพราะอักษรคล้ายภาษาอาหรับ(อ่านง่ายกว่าอาหรับด้วยซ้ำไป) เป็นว่าที่มุสลิม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ปฏิญาณตัว(แล้วมาล้างบาปก่อนด้วย^^)

ซายอ กาเซะฮฺ ฟารอนีย์ (ชั้นรักปัตตานี)

ป.ล.(แล้วตกลงกล่าวอะซานได้ไหมอ่า)
กาเซะฮฺกันละฮฺ กีตาระยัดไทย... :angel:

ไม่จำเป็นก็อย่าเลยครับ หรือถ้าจำเป็นจริงๆ เลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ
ถ้าไม่ทำแล้วจะเกิดความไม่สงบความวุ่นวายในครอบครัว..ก็ทำเถอะครับ... :undecided:

...ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จงทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า...
ภาพประจำตัวสมาชิก
13PM.
โพสต์: 428
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 15, 2007 1:54 am
ที่อยู่: ลุ่มแม่น้ำกังตั๋ง

อังคาร ต.ค. 02, 2007 11:55 pm

ผมว่าการทำบุญตักบาตรถ้าจำเป็นจริงๆผมว่าแค่ช่วยถือก็พอแล้วมั้งคับ ส่วนการกรวดน้ำนั้นเป็นพิธีกรรมทางพุทธโดยแท้ผมว่ายังไงก็ไม่ควรทำครับ เพราะคิดว่าการกระทำเช่นนี้ผิดต่อความเชื่อแน่นอนครับ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ว่าบุคคลภายนอกคนไหนมองเห็นก็ต้องคิดว่าเราเป็นพุทธแน่ๆสิ่งนี้ถือเป็นการผิดต่อความเชื่อครับ

ในหนังสือคำสอนเรื่องการผิดความเชื่อยังมีข้อหนึ่งบอกว่า

"เราจะผิดต่อความเชื่อเมื่อ ช่วยงานหรือแจกหนังสือในศาสนาอื่น"

ผมก็ไม่รู้มากนะคับแต่ผมคิดว่าคอทอลิกไม่ควรทำ
แก้ไขล่าสุดโดย 13PM. เมื่อ อังคาร ต.ค. 02, 2007 11:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ต.ค. 03, 2007 12:08 am

คุณพ่อไพศาล ได้เขียนแนะนำไว้แล้ว เดี๋ยวให้พี่มีเวลา หาหนังสือเล่มนั้นมาตอบให้

หนังสือเล่มนี้ ยังอ่อนไหวมาก เลขาฯพ่อบอก ตอนพี่ โทรไปถามหา เพื่อขอเพิ่ม เขาจะให้บาทหลวงลองนำไปพิจารณาก่อน :grin:
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ต.ค. 03, 2007 3:49 pm

sasuke เขียน:
Gray Cat Mobster เขียน: เป็นคาทอลิกครับ

แต่บ้านสายหนึ่งเป็นมุสลิม อยู่นครศรีฯกะปัตตานีซะส่วนใหญ่(แต่ตอนนี้ญาติทางปัตตานีย้ายมาอยู่นครศรีกันหมดแล้ว) พูดภาษายาวีได้นิดหน่อย(ขอย้ำว่านิดหน่อย นิดจริงๆ) อ่านออกบ้างเพราะอักษรคล้ายภาษาอาหรับ(อ่านง่ายกว่าอาหรับด้วยซ้ำไป) เป็นว่าที่มุสลิม แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ปฏิญาณตัว(แล้วมาล้างบาปก่อนด้วย^^)

ซายอ กาเซะฮฺ ฟารอนีย์ (ชั้นรักปัตตานี)

ป.ล.(แล้วตกลงกล่าวอะซานได้ไหมอ่า)
กาเซะฮฺกันละฮฺ กีตาระยัดไทย...

ไม่จำเป็นก็อย่าเลยครับ หรือถ้าจำเป็นจริงๆ เลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ
ถ้าไม่ทำแล้วจะเกิดความไม่สงบความวุ่นวายในครอบครัว..ก็ทำเถอะครับ... :undecided:

...ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จงทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า...
เห็นด้วยครับ
Prod Pran เขียน:
คุณพ่อไพศาล ได้เขียนแนะนำไว้แล้ว เดี๋ยวให้พี่มีเวลา หาหนังสือเล่มนั้นมาตอบให้

หนังสือเล่มนี้ ยังอ่อนไหวมาก เลขาฯพ่อบอก ตอนพี่ โทรไปถามหา เพื่อขอเพิ่ม เขาจะให้บาทหลวงลองนำไปพิจารณาก่อน :grin:
อยากได้มั่งครับ เอาไว้ตีพิมพ์เมื่อไหร่ พี่พีพีช่วยแจ้งพวกเราทราบด้วยนะครับพี่ ขอบคุณมาก ๆ ครับ :cheesy:
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ต.ค. 03, 2007 8:52 pm

Almady เขียน: มีอีกอย่างก็คือ ธรรมเนียมจีนครับ
ไม่ทราบว่าชาวคาทอลิกที่มีเชื้อสายจีนคนอื่น
จะรักษาธรรมเนียมจีนไว้อย่างไรบ้าง โดยไม่ผิดหลักคาทอลิก
เช่น การไหว้บรรพบุรุษ  หรือ การไปไหว้สุสาน
การไหว้เจ้ากับคาทอลิก

วัตถุประสงค์ของการไหว้เจ้า มี 3 ประการ

1.ไหว้เพื่อขอให้เทพคุ้มครอง และขอเป็นสิริมงคล ขอโชค ขอลาภ สุขภาพแข็งแรงอายุยืน
2.ไหว้เพื่ออุทิศกุศลไปให้บรรพบุรุษ และขอให้เขาคุ้มครองด้วยการประกอบกิจการรุ่งเรือง
3.ไหว้เพื่ออุทิศให้วิญญาณอื่น เพื่อสร้างกุศลให้ตนและขอวิญญาณอย่าหลอกหลอน หรือรบกวน

แนวทางการปฏิบัติของคาทอลิก เกี่ยวกับการไหว้เจ้า

1.การไหว้เจ้า เป็นการไหว้เทพเจ้าขอให้คุ้มครองดลบันดาล หรือเป็นสิริมงคล ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ดีงาม แต่คริสตชนคาทอลิกไม่สามารถปฏิบัติได้ เพราะขัดต่อความเชื่อ

2.การไหว้บรรพบุรุษ เป็นการระลึกถึงคุณงามความดี แสดงความกตัญญูต่อบรรพชน ซึ่งเป็นคุณธรรมขั้นสูงของชาวเอเชีย รูปภายนอกดูเป็นประเพณีจีน แต่สาระเป็นคาทอลิก คริสตชนคาทอลิกจึงสามารถปฏิบัติธรรมเนียมนี้ได้

จากหนังสือ คู่มือ เรื่อง แนวทางปฏิบัติตนของคาทอลิก ในการร่วมพิธีกรรมของศาสนาอื่น รวบรวม โดย บาทหลวง ไพศาล อานามวัฒน์ หน้า 68
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ พุธ ต.ค. 03, 2007 8:56 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ต.ค. 03, 2007 8:55 pm

Almady เขียน: มีอีกอย่างก็คือ ธรรมเนียมจีนครับ
ไม่ทราบว่าชาวคาทอลิกที่มีเชื้อสายจีนคนอื่น
จะรักษาธรรมเนียมจีนไว้อย่างไรบ้าง โดยไม่ผิดหลักคาทอลิก
เช่น การไหว้บรรพบุรุษ  หรือ การไปไหว้สุสาน
วันเช็งเม้ง

เป็นการไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วที่สุสาน คริสตชนคาทอลิกที่สมรสกับคนจีน หรือลูกหลานจีนที่กลับใจเป็นคาทอลิก ควรปฏิบัติดังนี้

1.การปฏิบัติบางอย่างที่สามารถมีส่วนร่วมได้ เช่นการช่วยจัดเตรียมสิ่งของในการไหว้ การไหว้บรรพบุรุษเพื่อแสดงความรัก และเคารพต่อบรรพบุรุษที่ทำความดีเป้นการกระทำดี

2.ปฏิบัติบางอย่างไม่สามารถทำได้ เช่นการไหว้เจ้าที่แป๊ะกง การไหว้เทพยดาแผ่นดิน ซึ่งเป้นเรื่องของความเชื่ออื่น เพราะเรามีพระเจ้าผู้สูงสุดแล้ว
ตามคำสอนพระศาสนจักร ตามพระบัญญัติข้อแรก ห้ามเคารพนับถือพระอื่นนอกเหนือจากพระองค์


จากหนังสือ คู่มือ เรื่อง แนวทางปฏิบัติตนของคาทอลิก ในการร่วมพิธีกรรมของศาสนาอื่น รวบรวม โดย บาทหลวง ไพศาล อานามวัฒน์ หน้า 73
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 3:54 am

รู้ศาสนาอื่นคล้าววิชาคริสเตียนกันศาสนพิธี เลยนิ หุหุ จำได้  ตอนเรียนศาสนาศาสตร์นั่งจดกัน จดไม่ทันก็ไปขอเพื่อนมาลอก หุหุ เป็นคริสต์แต่ต้องไปศึกษาศาสนาอื่น แต่ก็ดีครับต้องเรียนรู้
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 3:58 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 9:38 am

ป.ล.(แล้วตกลงกล่าวอะซานได้ไหมอ่า)
ตัวผมเองโคตรฝ่ายแม่รวมถึงแม่อิสลามหมด ฝ่ายพ่อพุทธ เมียและโคตรเมียอิสลามทั้งหมด
สมัยก่อนหน้าโน้นนน เคยว่าจะเป็นแขกอยู่หนหนึ่งเพราะแม่เคยอ่านดูอาไล่ผีให้ และช่วงนั้นก็บอกใครต่อใครว่าฉันแขกนะ แต่ว่ายังไม่ได้ทำอะไรกับเขาอย่างแขกสักอย่างเพียงแต่ว่าใจมันไป แต่ขณะเดียวกันผมก็เคยมีประสบการณ์วางมือรักษาโรคให้ตัวเองอยู่เหมือนกันตอนที่ยังไม่เข้ารีต

เอาล่ะ ปัญหาคือว่า "เมื่อจับคันไถแล้วอย่าเหลียวหลัง" จำเมียของโลทได้ไหมครับ พระให้มุ่งหน้าแต่เขาเหลียวหลัง เขาก็กลายเป็นเสาเกลือไปในที่สุด
คุณจะเอายังไงครับ เอาแขกหรือเอาคริสต์ ในคำอาซานมีประโยคที่ว่า "ข้าขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุฮัมหมัด(ศ.ล.)คือร่อซูลขององค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)" ท่านเชื่อดังนั้นจริงๆเหรอ ในแง่ของศาสนาเราไม่ไปข้องเกี่ยว เขาจะเชื่อก็เชื่อไป แต่เราต้องไปกล่าวอย่างนั้นเหรอ แล้วท่านสามารถกล่าวอย่างนั้นได้เต็มปากเต็มคำเหรอ อย่างแต่ก่อนเข้ารีตรับศีลล้างบาป ผมเป็นมูนนี่มาก่อน ผมเคยได้รับการขอร้องให้ไปช่วยแปลการแสดงปาฐกถาของมิชชันนารีมูนสมัยที่ผมออกจากที่นั่นมาแล้ว มันอึดอัดใจมากๆนะครับ จากนั้นผมก็ไม่รับงานแบบนั้นอีก เราจะพูดอะไรในสิ่งที่เราไม่เชื่อเหรอ เราจะไม่แสดงให้ตนเองของเราให้ชัดเจนไปเหรอว่าเราเลือกอยู่ฝ่ายพระองค์ ไปก้ำๆกึ่งๆแบบนั้น ทางโน้นก็ยังหวังว่ามันจะกลับมาและไม่นับว่าเราเป็นคริสต์เสียที ทางเราเองก็ไม่รู้ว่าจะเอายังไงแน่ดีในใจ (สังเกตุจากตระเวนไปโบสถ์นั้นโบสถ์นี้ อยากจะบอกตรงๆนะครับว่าสาเหตุลึกๆที่ทำอย่างนั้นน่าจะมาจากความที่ยังไม่อิ่มเอมในสิ่งที่ได้รับขณะนี้ ขอโทษถ้าผมเดาผิด แต่ด้วยความรัก) ทางคริสต์เองก็จะสะดุด เอ้ย จะเอายังไงแน่ เอ้อระเหยลอยมา ลอยมาแล้วก็ลอยไป อยู่เรื่อยๆ

มีเพลงอยู่เพลงหนึ่ง ชื่อรีเวอร์ส์ ออฟ บาบีโลน ร้องโดยบอนนีเอ็ม ผมชอบจังหวะมันมันดี แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพลงคริสเตียนของคนผิวดำ เนื้อเพลงมาจากหนังสือสดุดี 137 แต่ผมอยากฝากไว้ให้เฉพาะ ข้อ 3และ4

3 เพราะที่นั่นผู้ที่นำไปเป็นเชลย ต้องการให้เราร้องเพลง และผู้ที่มัดพาเรา ต้องการให้สนุกสนาน เขาว่า "จงร้องเพลงศิโยนสักบทหนึ่งให้เราฟัง"
4 เราจะร้องเพลงของพระเจ้าได้อย่างไร ที่ในแผ่นดินต่างด้าว

อันนี้ให้มองนิดนึงนะครับ ถ้าเขาต้องให้เราไปอาซาน ขนาดร้องเพลงของพระแท้ๆ แต่อยู่ในแผ่นดินต่างด้าว คนยุคนั้นยังไม่กล้าจะร้องเลย แต่นี้ไม่ใช่เพลงแต่เป็นคำยืนยันความเชื่อเลยนะครับ คุณจะกล่าวได้เต็มปากเต็มคำเชียวเหรอ

นะครับ จับคันไถแล้วอย่าเหลียวหลังนะ ร่วมกินอยู่กับเขาได้ แต่อย่าไปร่วมความเชื่อแบบครึ่งๆกลางๆเลย ดีไม่ดีเดี๋ยวนมาซเขาเสียขึ้นมา เขาจะมาเรียกเอากับเราในวันกียามัต(น่าจะวันเดียวกับเรานั่นแหละ)นา

ด้วยรักในพระคริสต์ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

เสาร์ ต.ค. 06, 2007 11:40 pm

อันตน เขียน:
ป.ล.(แล้วตกลงกล่าวอะซานได้ไหมอ่า)
ตัวผมเองโคตรฝ่ายแม่รวมถึงแม่อิสลามหมด ฝ่ายพ่อพุทธ เมียและโคตรเมียอิสลามทั้งหมด
สมัยก่อนหน้าโน้นนน เคยว่าจะเป็นแขกอยู่หนหนึ่งเพราะแม่เคยอ่านดูอาไล่ผีให้ และช่วงนั้นก็บอกใครต่อใครว่าฉันแขกนะ แต่ว่ายังไม่ได้ทำอะไรกับเขาอย่างแขกสักอย่างเพียงแต่ว่าใจมันไป แต่ขณะเดียวกันผมก็เคยมีประสบการณ์วางมือรักษาโรคให้ตัวเองอยู่เหมือนกันตอนที่ยังไม่เข้ารีต

เอาล่ะ ปัญหาคือว่า "เมื่อจับคันไถแล้วอย่าเหลียวหลัง" จำเมียของโลทได้ไหมครับ พระให้มุ่งหน้าแต่เขาเหลียวหลัง เขาก็กลายเป็นเสาเกลือไปในที่สุด
คุณจะเอายังไงครับ เอาแขกหรือเอาคริสต์ ในคำอาซานมีประโยคที่ว่า "ข้าขอปฏิญาณว่าท่านนบีมุฮัมหมัด(ศ.ล.)คือร่อซูลขององค์อัลลอฮฺ(ซ.บ.)" ท่านเชื่อดังนั้นจริงๆเหรอ ในแง่ของศาสนาเราไม่ไปข้องเกี่ยว เขาจะเชื่อก็เชื่อไป แต่เราต้องไปกล่าวอย่างนั้นเหรอ แล้วท่านสามารถกล่าวอย่างนั้นได้เต็มปากเต็มคำเหรอ อย่างแต่ก่อนเข้ารีตรับศีลล้างบาป ผมเป็นมูนนี่มาก่อน ผมเคยได้รับการขอร้องให้ไปช่วยแปลการแสดงปาฐกถาของมิชชันนารีมูนสมัยที่ผมออกจากที่นั่นมาแล้ว มันอึดอัดใจมากๆนะครับ จากนั้นผมก็ไม่รับงานแบบนั้นอีก เราจะพูดอะไรในสิ่งที่เราไม่เชื่อเหรอ เราจะไม่แสดงให้ตนเองของเราให้ชัดเจนไปเหรอว่าเราเลือกอยู่ฝ่ายพระองค์ ไปก้ำๆกึ่งๆแบบนั้น ทางโน้นก็ยังหวังว่ามันจะกลับมาและไม่นับว่าเราเป็นคริสต์เสียที ทางเราเองก็ไม่รู้ว่าจะเอายังไงแน่ดีในใจ (สังเกตุจากตระเวนไปโบสถ์นั้นโบสถ์นี้ อยากจะบอกตรงๆนะครับว่าสาเหตุลึกๆที่ทำอย่างนั้นน่าจะมาจากความที่ยังไม่อิ่มเอมในสิ่งที่ได้รับขณะนี้ ขอโทษถ้าผมเดาผิด แต่ด้วยความรัก) ทางคริสต์เองก็จะสะดุด เอ้ย จะเอายังไงแน่ เอ้อระเหยลอยมา ลอยมาแล้วก็ลอยไป อยู่เรื่อยๆ

มีเพลงอยู่เพลงหนึ่ง ชื่อรีเวอร์ส์ ออฟ บาบีโลน ร้องโดยบอนนีเอ็ม ผมชอบจังหวะมันมันดี แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพลงคริสเตียนของคนผิวดำ เนื้อเพลงมาจากหนังสือสดุดี 137 แต่ผมอยากฝากไว้ให้เฉพาะ ข้อ 3และ4

3 เพราะที่นั่นผู้ที่นำไปเป็นเชลย ต้องการให้เราร้องเพลง และผู้ที่มัดพาเรา ต้องการให้สนุกสนาน เขาว่า "จงร้องเพลงศิโยนสักบทหนึ่งให้เราฟัง"
4 เราจะร้องเพลงของพระเจ้าได้อย่างไร ที่ในแผ่นดินต่างด้าว

อันนี้ให้มองนิดนึงนะครับ ถ้าเขาต้องให้เราไปอาซาน ขนาดร้องเพลงของพระแท้ๆ แต่อยู่ในแผ่นดินต่างด้าว คนยุคนั้นยังไม่กล้าจะร้องเลย แต่นี้ไม่ใช่เพลงแต่เป็นคำยืนยันความเชื่อเลยนะครับ คุณจะกล่าวได้เต็มปากเต็มคำเชียวเหรอ

นะครับ จับคันไถแล้วอย่าเหลียวหลังนะ ร่วมกินอยู่กับเขาได้ แต่อย่าไปร่วมความเชื่อแบบครึ่งๆกลางๆเลย ดีไม่ดีเดี๋ยวนมาซเขาเสียขึ้นมา เขาจะมาเรียกเอากับเราในวันกียามัต(น่าจะวันเดียวกับเรานั่นแหละ)นา

ด้วยรักในพระคริสต์ครับ
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้อะไรเยอะๆเลย

ที่จริงผมควรคิดจะอยู่ประจำโบสถ์ซักที่แล้ว(แต่โปรแกรมทัวร์มีแต่ไม่แสดงตัวว่าเราเป็นคนใหม่)

ไอเรื่องนมาซ ผมเองมีความรู้ด้านอิสลามน้อยมาก แต่เพิ่งมารู้ว่าตกมุรตัดแล้วจะนมาซไม่ได้(จนกว่าปฏิญาณใหม่) เวลาญาติให้ท่องอะไรภาษาอาหรับเลยต้องขอให้รู้ความหมายก่อน
(โอยเฉพาะ "อัชฮ่าดุอัลล่า อิลาหะลิลล้อลลอฮฺ อัชฮ่าดุอันน่ามุฮัมม่าดัรร่อซุลลอฮฺ")

ขอบคุณมากๆครับ ไว้เวลาผมมีปัญหา(กะญาติ)เดี๋ยวPMถามพี่ดีกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
SHANTIRAKSA
โพสต์: 87
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 19, 2005 8:58 pm

จันทร์ ต.ค. 08, 2007 2:21 am

สันติจงมีแด่ทุกท่านครับ

ผมไม่ได้เข้ามาดูกระทู้เสียนาน โอ้ว...ยาวเหยียดเลยคราวนี้ อ่านดูแล้วก็ดีใจครับที่เราได้แลกทัศนะกัน
ผมเองก็มิอาจจะตัดสินอะไรได้ นอกจากแค่เสนอมุมมองจากสมองอันน้อยนิดของกระผม
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ท่านบ้างเท่านั้นเองครับ

ขอบพระคุณ
ตอบกลับโพส