พระชำระผมก่อนจะกลับเข้าไปหาพระองค์หรือ
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:35 pm
ก่อนอื่นผมขอออกตัวเลยว่าก่อนผมจะเปิดใจรับพระเป็นเจ้า ผมได้ทำชั่วไว้มากมาย และไม่รู้สึกผิดต่อบาป แถมยังคิดว่าเป็นเรื่องสนุกด้วยซ้ำ ศาสนาผมตอนนั้นเรียกว่า ศาสนาวิทยาศาสตร์ก็ได้ ไม่ใช่พุทธที่พ่อ แม่ ถือกัน ผมไม่เชื่อในนรก สวรรค์ กฎแห่งกรรม พระเจ้า ปาฎิหาร์ย ฯลฯ ผมเองรู้จักพระองค์มาเล็กน้อย จากการเข้า รร. คริสต์ แต่มีอยู่วันหนึ่งเกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ ทำให้ผมระลึกถึงพระองค์ขึ้นมา ก่อนจะเข้านิวมานาสักระยะหนึ่ง ผมศึกษาไปเรื่อยๆ ยิ่งศึกษา ยิ่งเลื่อมใสในคำสอน และรักพระยิ่งขึ้นไปอีก จนวันหนึ่งผมอธิษฐานด้วยตนเองทำนองว่า "ขอให้ลูกได้รับศีลล้างบาปก่อนลูกจะสิ้นลมด้วย หลังจากนั้นชีวิตลูกขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์" หลังจากนั้นรู้สึกสิ่งที่ผมทำไว้ก่อนจะเปิดใจรับพระ มันเริ่มกลับมาหามารวดเดียว แบบไม่ทันตั้งตัวเลย เช่น
- ผมเคยเป็นคนชอบก่อมุสา กระล่อน ตอแหล กลับคำไปมา ผมขายของทางอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว แล้ววันนึ่งมันคนติดต่อจะซื้อของจากผม เขาเลือกการโอนเงินจากสิ้นสิงหาคมมันจนถึงตอนนี้ เริ่มแรกบอกว่ามีเงินอยู่แล้ว แต่ให้เพื่อนยืม ต่อมาบอกว่ากำหนดระยะเวลาไม่ได้ เพราะ ชีวิตไม่แน่นอน ถ้ากำหนดเดี๋ยวถูกว่าโกหก ต่อมาได้เงินครบ ก็บอกว่าต้องให้เพื่อนโอนให้ แต่เคยยืนยันจะเอาสินค้า จนตอนนี้เงียบหายไปเลย ตอนแรกผมคิดแค่ว่าจะอภัยให้เขา เขาอาจมีความจำเป็น แต่วันหนึ่งฉุดคิดได้ว่าเราก็เคยทำแบบนี้ เราเองสมควรโดนแบบนี้บ้าง
- คนที่ผมเคยทำผิดกับเขาไว้ ไม่ว่าทางกาย วาจา ใจ รู้สึกมันมีบางอย่างดลใจให้ผมอยากกลับไปขอโทษเขา และรับโทษอย่างสร้าสม ซึ่งผมก็ทำไปแล้ว แม้ยังไม่ครบทุกคน บ้างก็อภัยผมเลย บ้างก็ลงด้วยคำพูดอย่างแรง ซึ่งต่อไปไม่ว่าจะเจอผมคิดว่ามันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่ผมเคยทำไป
- เคยยุให้นักเรียนตีกัน เหยียดหยามเด็กห้องท้ายๆว่าเป็นพวก "ชั้นต่ำ" วันหนึ่งผมถูกนักเลงกลุ่มหนึ่งรุมชกต่อยและไถ่เงิน แม้ไม่ได้เงินไปแม้แต่แดงเดียว เพราะ ผมหนีออกมาได้ แต่แว่นเสียหาย แถมยังบาดเจ็บด้วย ผมไม่ตอบโต้ในการสู้ และไม่เอาความด้วยตัวเอง เพราะ คิดเพียงแต่จะเมตตาเขาลูกเดียว แต่กลับไปเจรจากันดีๆให้เขาเข้าใจเราด้วย ใช่ ความจริงผมควรจะเอาความไปเลย มิฉะนั้นจะมีคนอีกมากที่โดนแบบผมอีกมาก แต่ผมกลับไม่ทำ ไม่รู้ เพราะอะไร แต่คนในหมู่บ้านเห็นสภาพผมแบบนั้น พวกนั้นก็โดนเอาความพอดู ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงแล้ว เพราะ ผมไม่เจอเขาอีกเลย ผมรู้สึกทุกข์และยินดีในเหตุการณ์นี้ ผมยินดีที่จบด้วยสันติ และเป็นครั้งแรกที่ผมไม่ถือโทษโกรธเขาด้วยใจจริง และทุกข์กลัวถึงความตายก่อนที่จะได้ล้างบาปอย่างเป็นทางการ ซึ่งผมไม่มั่นใจในความรอดเท่าที่ควร หากไม่ได้ล้างบาป อีกสิ่งที่ทั้งยินดีและเสียใจ คือ ไม่เห็นพวกเขาอีกเลย ปกติเขามาให้เห็นบ่อยๆในหมู่บ้าน ดีที่คงไม่มีคงเดือดร้อนแบบผมอีก แต่ก็เสียดายที่เราไม่มีโอกาสคุยกับเขาอีกแล้ว ผมไม่รู้แน่ชัดนะว่าเขาไม่มาที่นี่อีกเลยหรือเป็น เพราะ ผมไม่เห็นเองกันแน่
- ผมเคยทำให้เพื่อนคนหนึ่งเงินหายไปจากบัญชีหลายพันบาท แต่กลับเมินเฉย ไม่คิดอะไร ไม่ืุทุกข์ร้อน หลังจากรับพระเข้ามาในชีวิต รู้สึกพระเตือนเราซ้ำๆ จนผมทนไม่ได้แล้วหาเงินไปชดใช้เขาในที่สุด ตอนนี้ผมก็ยังใช้ไม่หมดครับ เพราะว่า ก่อนหน้านั้นให้คนในบ้านยืนเงินไปหมด สวดขอพระให้ช่วยให้จบเรื่องนี้เร็วๆ ให้ผมหาเงินใช้ได้เร็วๆ ไม่ช้ามีคนจะซื้อของชิ้นใหญ่จากผมแล้ว และเริ่มหาเงินได้คล่องขึ้นเรื่อยๆ แถมเขาคนนั้น บอกอีกด้วยว่าที่เหลือไม่ใช้คืน เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมก็จะใช้อยู่ดี ผมทนไม่ได้ เขารู้สึกประหลาดใจพอดู หลังจากผมให้แบงค์สีเทากับเขาไป
ฯลฯ
ยังเล่าไม่หมด แต่ผมว่าไม่ช้าจะมีเรื่องอื่นที่ตามมาอีกแน่ เหตุการณ์พวกนี้ไม่ืำทำให้ผมต่อว่าพระองค์ หรือชิงชังพระองค์แต่อย่างใด ตรงข้ามกัน ผมว่ามันทำให้ผมใกล้ชิด และเชื่อในพระองค์ยิ่งขึ้นด้วย และได้สำนึกอีกว่าเรานั้นบาปหนาแค่ไหน เป็นคนบาปขนาดไหน
คำว่า "ศีลล้างบาป" คงศักดิ์สิทธิ์จริงๆ บาปที่ผมทำไว้มันกลับมาชำระผมทีเดียวจริงๆ พระคงวางแผนไว้่ว่า หากผมไม่บริสุทธิ์ (ชำระบาป) คงไม่เหมาะสมกับศีลล้างบาป
- ผมเคยเป็นคนชอบก่อมุสา กระล่อน ตอแหล กลับคำไปมา ผมขายของทางอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว แล้ววันนึ่งมันคนติดต่อจะซื้อของจากผม เขาเลือกการโอนเงินจากสิ้นสิงหาคมมันจนถึงตอนนี้ เริ่มแรกบอกว่ามีเงินอยู่แล้ว แต่ให้เพื่อนยืม ต่อมาบอกว่ากำหนดระยะเวลาไม่ได้ เพราะ ชีวิตไม่แน่นอน ถ้ากำหนดเดี๋ยวถูกว่าโกหก ต่อมาได้เงินครบ ก็บอกว่าต้องให้เพื่อนโอนให้ แต่เคยยืนยันจะเอาสินค้า จนตอนนี้เงียบหายไปเลย ตอนแรกผมคิดแค่ว่าจะอภัยให้เขา เขาอาจมีความจำเป็น แต่วันหนึ่งฉุดคิดได้ว่าเราก็เคยทำแบบนี้ เราเองสมควรโดนแบบนี้บ้าง
- คนที่ผมเคยทำผิดกับเขาไว้ ไม่ว่าทางกาย วาจา ใจ รู้สึกมันมีบางอย่างดลใจให้ผมอยากกลับไปขอโทษเขา และรับโทษอย่างสร้าสม ซึ่งผมก็ทำไปแล้ว แม้ยังไม่ครบทุกคน บ้างก็อภัยผมเลย บ้างก็ลงด้วยคำพูดอย่างแรง ซึ่งต่อไปไม่ว่าจะเจอผมคิดว่ามันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่ผมเคยทำไป
- เคยยุให้นักเรียนตีกัน เหยียดหยามเด็กห้องท้ายๆว่าเป็นพวก "ชั้นต่ำ" วันหนึ่งผมถูกนักเลงกลุ่มหนึ่งรุมชกต่อยและไถ่เงิน แม้ไม่ได้เงินไปแม้แต่แดงเดียว เพราะ ผมหนีออกมาได้ แต่แว่นเสียหาย แถมยังบาดเจ็บด้วย ผมไม่ตอบโต้ในการสู้ และไม่เอาความด้วยตัวเอง เพราะ คิดเพียงแต่จะเมตตาเขาลูกเดียว แต่กลับไปเจรจากันดีๆให้เขาเข้าใจเราด้วย ใช่ ความจริงผมควรจะเอาความไปเลย มิฉะนั้นจะมีคนอีกมากที่โดนแบบผมอีกมาก แต่ผมกลับไม่ทำ ไม่รู้ เพราะอะไร แต่คนในหมู่บ้านเห็นสภาพผมแบบนั้น พวกนั้นก็โดนเอาความพอดู ไม่รู้ตอนนี้เป็นไงแล้ว เพราะ ผมไม่เจอเขาอีกเลย ผมรู้สึกทุกข์และยินดีในเหตุการณ์นี้ ผมยินดีที่จบด้วยสันติ และเป็นครั้งแรกที่ผมไม่ถือโทษโกรธเขาด้วยใจจริง และทุกข์กลัวถึงความตายก่อนที่จะได้ล้างบาปอย่างเป็นทางการ ซึ่งผมไม่มั่นใจในความรอดเท่าที่ควร หากไม่ได้ล้างบาป อีกสิ่งที่ทั้งยินดีและเสียใจ คือ ไม่เห็นพวกเขาอีกเลย ปกติเขามาให้เห็นบ่อยๆในหมู่บ้าน ดีที่คงไม่มีคงเดือดร้อนแบบผมอีก แต่ก็เสียดายที่เราไม่มีโอกาสคุยกับเขาอีกแล้ว ผมไม่รู้แน่ชัดนะว่าเขาไม่มาที่นี่อีกเลยหรือเป็น เพราะ ผมไม่เห็นเองกันแน่
- ผมเคยทำให้เพื่อนคนหนึ่งเงินหายไปจากบัญชีหลายพันบาท แต่กลับเมินเฉย ไม่คิดอะไร ไม่ืุทุกข์ร้อน หลังจากรับพระเข้ามาในชีวิต รู้สึกพระเตือนเราซ้ำๆ จนผมทนไม่ได้แล้วหาเงินไปชดใช้เขาในที่สุด ตอนนี้ผมก็ยังใช้ไม่หมดครับ เพราะว่า ก่อนหน้านั้นให้คนในบ้านยืนเงินไปหมด สวดขอพระให้ช่วยให้จบเรื่องนี้เร็วๆ ให้ผมหาเงินใช้ได้เร็วๆ ไม่ช้ามีคนจะซื้อของชิ้นใหญ่จากผมแล้ว และเริ่มหาเงินได้คล่องขึ้นเรื่อยๆ แถมเขาคนนั้น บอกอีกด้วยว่าที่เหลือไม่ใช้คืน เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมก็จะใช้อยู่ดี ผมทนไม่ได้ เขารู้สึกประหลาดใจพอดู หลังจากผมให้แบงค์สีเทากับเขาไป
ฯลฯ
ยังเล่าไม่หมด แต่ผมว่าไม่ช้าจะมีเรื่องอื่นที่ตามมาอีกแน่ เหตุการณ์พวกนี้ไม่ืำทำให้ผมต่อว่าพระองค์ หรือชิงชังพระองค์แต่อย่างใด ตรงข้ามกัน ผมว่ามันทำให้ผมใกล้ชิด และเชื่อในพระองค์ยิ่งขึ้นด้วย และได้สำนึกอีกว่าเรานั้นบาปหนาแค่ไหน เป็นคนบาปขนาดไหน
คำว่า "ศีลล้างบาป" คงศักดิ์สิทธิ์จริงๆ บาปที่ผมทำไว้มันกลับมาชำระผมทีเดียวจริงๆ พระคงวางแผนไว้่ว่า หากผมไม่บริสุทธิ์ (ชำระบาป) คงไม่เหมาะสมกับศีลล้างบาป