หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 26, 2007 12:13 pm
โดย sakda88
[quote="Joseph"]
[quote]
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 26, 2007 12:29 pm
โดย sakda88
คนยากจนจะช่วยใครได้
คนที่เรียกร้องให้ผู้คนถือความยากจน
ก็เรียกร้องให้ผู้คนบริจาคและทำบุญด้วยมิใช่หรือ ?
ความมั่งคั่งของศาสนาจักรเกิดจากการเรียกให้คนถือความยากจน
และการถือความยากจนของศาสนาจักรอยู่ที่ไหน ?
ศาสนจักรเติบโตขึ้นจากคนยากจนหรือ ?
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 26, 2007 12:44 pm
โดย Zion
คนยากจนจะช่วยใครได้
คนที่เรียกร้องให้ผู้คนถือความยากจน
ก็เรียกร้องให้ผู้คนบริจาคและทำบุญด้วยมิใช่หรือ ?
การถือความยากจน กับการให้ทาน เป็นเรื่องที่ไม่ขัดแย้งกันนะครับ
ความมั่งคั่งของศาสนาจักรเกิดจากการเรียกให้คนถือความยากจน
และการถือความยากจนของศาสนาจักรอยู่ที่ไหน ?
อยู่ในใจของคริสตชน
ศาสนจักรเติบโตขึ้นจากคนยากจนหรือ ?
ใช่
พระศาสนจักรเจริญด้วยการนำของชายชาวประมงที่ชื่อว่าซีโมน
ทั้งยังคนเก็บภาษีที่ชื่อว่ามัทธิว ฯลฯ คริสตชนทุกกาลสมัย 
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 26, 2007 3:18 pm
โดย Holy
คนที่คิดว่าวัดรวยกลับไปคิดใหม่ได้นะครับ วาติกันยังมีหนี้อยู่เลย
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 26, 2007 5:17 pm
โดย Pry-Kaew
Holy เขียน:
คนที่คิดว่าวัดรวยกลับไปคิดใหม่ได้นะครับ วาติกันยังมีหนี้อยู่เลย
ใช่ครับ วาติกันก็ติดหนี้แบ็งค์อยู่ วัดคาทอลิกไทยเองบางแห่งตัวเลขแดงในบัญชีวัดทุกเดือน พระสงฆ์อยู่ได้ด้วยอาหารที่สมาชิกภายในวัดทำมาถวาย น้ำมันรถพระสงฆ์และค่าไฟ ค่าน้ำ ของวัด มาจากเงินบริจาคจากตู้ทำบุญของวัด และเงินถวายมิซซาของสัตบุรุษ อยู่กันแบบพอมีพอกินจริงๆ ไอ้คนที่คิดว่าวัดรวย วาติดกันเงินมหาศาล คนพวกนั้นมันจมอยู่ในโลกแห่งความฝันที่คนโง่เป่าหูให้เชื่อ โรงเรียนคริสต์เก็บค่าเทอมแพงและวัดบางแห่งสวยๆ นั้นมันยังไม่ถึง3เปอร์เซนต์ของคาทอลิกไทยทั้งหมดเลย ให้ตายเหอะ เมื่อไหร่ และวันใด ที่คนนอกและคนในจะเข้าใจว่า พวกเราอยู่กันด้วยใจจริงๆ ถึงได้ประคับประคองจนมีทุกวันนี้ Eventhough we don't have enough money,we have a lot of sprit of kindness in our hearts. Somebody should to understand this reason in our sprit and our minds.
The Lord be with you always.
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 26, 2007 9:04 pm
โดย Edwardius
เพราะสิ่งที่พระองค์ประสงค์จะปิดบัง ก็จะไม่เปิดเผย
แม้ท่านจะเพียรพูดสักเท่าใด เขาก็จะไม่เข้าใจ หากพระบิดาเจ้าไม่ทรงโปรดให้ได้รู้
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 1:59 am
โดย ~@Little lamb@~
ในต่างจังหวัด บางครั้งเก็บถุงทานได้ 8 บาท
เราเห็นแต่วัดในเมืองก็คิดว่ารายได้คงเยอะ สมบัติคงแยะ
แต่ต่างจังหวัด พ่อแทบจะอดตาย วัดแทบจะไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 9:39 am
โดย :+: seraphim :+:

วัดในเมืองบางแห่งได้แค่เดือนละ 2000 ยังไม่พอค่าใช้จ่ายเลยจ้า เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าวัดรวย คิดผิดนะ
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 10:43 am
โดย Pry-Kaew
:+: seraphim :+: เขียน:

วัดในเมืองบางแห่งได้แค่เดือนละ 2000 ยังไม่พอค่าใช้จ่ายเลยจ้า เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าวัดรวย คิดผิดนะ
ใช่ครับ เคยได้ยินคุณพ่อเจ้าวัดหลายท่านพูดให้ฟังเหมือนกัน สองพัน พวกด้วยเงินทำบุญและถวายมิซซา รวมกันแล้วรายได้แทบเกือบไม่พอรายจ่ายของวัดจริงๆ ผมเองไม่ได้จบด้านเศรษฐศาสตร์และด้านบริหาร แต่คิดแบบง่ายๆตามหลักรายรับ รายจ่าย และการบริหารเบื้องต้น ผมว่าคุณพ่อเจ้าวัดและสมาชิกในวัด เก่งๆมากๆนะครับ ที่ประคับประคองวัดคาทอลิกให้อยู่ได้ทุกวันนี้ อย่างว่าทุกคนมาด้วยใจหมด แถมมีพระเป็นเจ้าเป็นBackup สิ่งต่างๆจึงผ่านพ้นไปด้วยดี
ผมว่าคนส่วนใหญ่ คงติดภาพมหาวิทยาลัยคาทอลิกชื่อดังของเมืองไทย ที่เห็นมีเงินไปละลายในสิ่งก่อสร้างอันสวยงามตระก่านตา(เห็นแล้วน่าเอาเงินที่ไปละลายตรงนั้น ช่วยวัดคาทอลิกที่ถังแตกทั่วประเทศไทยดีกว่า) และติดภาพโรงเรียนคาทอลิกบางแห่ง(ส่วนน้อยมาก ไม่ถึง2เปอร์เซนต์ของโรงเรียนคาทอลิกทั้งหมด)ว่ามีอาคารเรียนที่ใหญ่โต สง่างาม วัดในโรงเรียนสวยและหรูหรา โดยลืมนึกไปว่า โรงเรียนคาทอลิกในต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตชนบท(และบนดอย) ครูไม่มีเงินแม้กระทั่งจะซื้อชอรก์เขียนกระดานสอนหนังสือเด็ก
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พูดเลยดีกว่า(จริงต้องเรียกว่าบ่น) ผมเห็นมหาวิทยาลัยคาทอลิกชื่อดัง ละลายทรัพย์ไปกับความสวยงามของอาคารเรียนทั้งหมด(สร้างแบบหรูมาก ค่าก่อสร้าง เคยคิดเล่นๆสามารถซื้อ F16 ได้สองลำครึ่ง มือสอง) และรูปหล่อม้าโลหะ ราคาเป็นสิบล้าน(คำนวณเล่นๆ ซื้อรถถังขนาดเบาได้สองสามคัน มือสอง) แต่.............โรงเรียนคาทอลิกต่างจังหวัด ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน และไม่มีเงินบำรุงรักษาอาคารเรียน) วัดคาทอลิกต่างจังหวัด ไม่มีเงินแม้กระทั่งซ่อมหลังคาวัดและหาอาหารให้คนงานวัดกิน หากพระศาสนจักรเน้นความยากจน และอยู่แบบพอเพียง อาคารเรียน สร้างแบบธรรมดาก็ได้นิครับ ผมว่าใช้งบเพียงครึ่งเดียวกับที่เราเห็นๆแบบอภิมหาหรูหร่า เอาเงินที่เหลือ ไปรักษาความยากจนของคาทอลิกด้วยกันเองนี้แหละ ในอีก95เปอร์เซนต์ที่เหลือขององค์กรเรา ผมยอมที่จะไปวัดหลังคาสังกะสี แต่เป็นวัดที่มีความรักและอบอุ่น ดีกว่าไปวัดทีสร้างเหมือนในยุโรป แต่ไร้ซึ่งความรักและความสัมพันธ์
คนมองเห็นพระในตัวเราครับ สิ่งภายนอก เป็นแค่เปลือกพิธีกรรม หากไร้หัวใจแห่งความรักที่มอบให้กัน ก็เหมือนเล่นละคร หน้าไหวหลังหลอก(เหมือนที่ข้าพเจ้าเจอจากคาทอลิกฝรั่งหัวใจทำด้วยหิน ทุกวันนี้)
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 11:53 am
โดย Edwardius
Pry-Kaew เขียน:
:+: seraphim :+: เขียน:

วัดในเมืองบางแห่งได้แค่เดือนละ 2000 ยังไม่พอค่าใช้จ่ายเลยจ้า เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าวัดรวย คิดผิดนะ
ใช่ครับ เคยได้ยินคุณพ่อเจ้าวัดหลายท่านพูดให้ฟังเหมือนกัน สองพัน พวกด้วยเงินทำบุญและถวายมิซซา รวมกันแล้วรายได้แทบเกือบไม่พอรายจ่ายของวัดจริงๆ ผมเองไม่ได้จบด้านเศรษฐศาสตร์และด้านบริหาร แต่คิดแบบง่ายๆตามหลักรายรับ รายจ่าย และการบริหารเบื้องต้น ผมว่าคุณพ่อเจ้าวัดและสมาชิกในวัด เก่งๆมากๆนะครับ ที่ประคับประคองวัดคาทอลิกให้อยู่ได้ทุกวันนี้ อย่างว่าทุกคนมาด้วยใจหมด แถมมีพระเป็นเจ้าเป็นBackup สิ่งต่างๆจึงผ่านพ้นไปด้วยดี
ผมว่าคนส่วนใหญ่ คงติดภาพมหาวิทยาลัยคาทอลิกชื่อดังของเมืองไทย ที่เห็นมีเงินไปละลายในสิ่งก่อสร้างอันสวยงามตระก่านตา(เห็นแล้วน่าเอาเงินที่ไปละลายตรงนั้น ช่วยวัดคาทอลิกที่ถังแตกทั่วประเทศไทยดีกว่า) และติดภาพโรงเรียนคาทอลิกบางแห่ง(ส่วนน้อยมาก ไม่ถึง2เปอร์เซนต์ของโรงเรียนคาทอลิกทั้งหมด)ว่ามีอาคารเรียนที่ใหญ่โต สง่างาม วัดในโรงเรียนสวยและหรูหรา โดยลืมนึกไปว่า โรงเรียนคาทอลิกในต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตชนบท(และบนดอย) ครูไม่มีเงินแม้กระทั่งจะซื้อชอรก์เขียนกระดานสอนหนังสือเด็ก
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พูดเลยดีกว่า(จริงต้องเรียกว่าบ่น) ผมเห็นมหาวิทยาลัยคาทอลิกชื่อดัง ละลายทรัพย์ไปกับความสวยงามของอาคารเรียนทั้งหมด(สร้างแบบหรูมาก ค่าก่อสร้าง เคยคิดเล่นๆสามารถซื้อ F16 ได้สองลำครึ่ง มือสอง) และรูปหล่อม้าโลหะ ราคาเป็นสิบล้าน(คำนวณเล่นๆ ซื้อรถถังขนาดเบาได้สองสามคัน มือสอง) แต่.............โรงเรียนคาทอลิกต่างจังหวัด ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน และไม่มีเงินบำรุงรักษาอาคารเรียน) วัดคาทอลิกต่างจังหวัด ไม่มีเงินแม้กระทั่งซ่อมหลังคาวัดและหาอาหารให้คนงานวัดกิน หากพระศาสนจักรเน้นความยากจน และอยู่แบบพอเพียง อาคารเรียน สร้างแบบธรรมดาก็ได้นิครับ ผมว่าใช้งบเพียงครึ่งเดียวกับที่เราเห็นๆแบบอภิมหาหรูหร่า เอาเงินที่เหลือ ไปรักษาความยากจนของคาทอลิกด้วยกันเองนี้แหละ ในอีก95เปอร์เซนต์ที่เหลือขององค์กรเรา ผมยอมที่จะไปวัดหลังคาสังกะสี แต่เป็นวัดที่มีความรักและอบอุ่น ดีกว่าไปวัดทีสร้างเหมือนในยุโรป แต่ไร้ซึ่งความรักและความสัมพันธ์
คนมองเห็นพระในตัวเราครับ สิ่งภายนอก เป็นแค่เปลือกพิธีกรรม หากไร้หัวใจแห่งความรักที่มอบให้กัน ก็เหมือนเล่นละคร หน้าไหวหลังหลอก(เหมือนที่ข้าพเจ้าเจอจากคาทอลิกฝรั่งหัวใจทำด้วยหิน ทุกวันนี้)
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ผมก็ไม่ใคร่ชอบหรอก แต่เจตนาเค้าอาจเป็นไปเพื่อเทิดพระเกียรติก็ได้
หญิงที่เทน้ำมันหอมที่พระบาทพระเยซูยังได้รับคำชมเลย เพราะการเทิดพระเกียรติก็สำคัญยิ่งด้วยแล้ว
ว่าแต่ เรื่องที่ VATICAN 2 ที่ แอฟริกานี่ ใครมีรูปบ้างครับ อยากทัศนา
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 12:14 pm
โดย Zaliaus
Edwardius เขียน:
Pry-Kaew เขียน:
:+: seraphim :+: เขียน:

วัดในเมืองบางแห่งได้แค่เดือนละ 2000 ยังไม่พอค่าใช้จ่ายเลยจ้า เพราะฉะนั้นใครที่คิดว่าวัดรวย คิดผิดนะ
ใช่ครับ เคยได้ยินคุณพ่อเจ้าวัดหลายท่านพูดให้ฟังเหมือนกัน สองพัน พวกด้วยเงินทำบุญและถวายมิซซา รวมกันแล้วรายได้แทบเกือบไม่พอรายจ่ายของวัดจริงๆ ผมเองไม่ได้จบด้านเศรษฐศาสตร์และด้านบริหาร แต่คิดแบบง่ายๆตามหลักรายรับ รายจ่าย และการบริหารเบื้องต้น ผมว่าคุณพ่อเจ้าวัดและสมาชิกในวัด เก่งๆมากๆนะครับ ที่ประคับประคองวัดคาทอลิกให้อยู่ได้ทุกวันนี้ อย่างว่าทุกคนมาด้วยใจหมด แถมมีพระเป็นเจ้าเป็นBackup สิ่งต่างๆจึงผ่านพ้นไปด้วยดี
ผมว่าคนส่วนใหญ่ คงติดภาพมหาวิทยาลัยคาทอลิกชื่อดังของเมืองไทย ที่เห็นมีเงินไปละลายในสิ่งก่อสร้างอันสวยงามตระก่านตา(เห็นแล้วน่าเอาเงินที่ไปละลายตรงนั้น ช่วยวัดคาทอลิกที่ถังแตกทั่วประเทศไทยดีกว่า) และติดภาพโรงเรียนคาทอลิกบางแห่ง(ส่วนน้อยมาก ไม่ถึง2เปอร์เซนต์ของโรงเรียนคาทอลิกทั้งหมด)ว่ามีอาคารเรียนที่ใหญ่โต สง่างาม วัดในโรงเรียนสวยและหรูหรา โดยลืมนึกไปว่า โรงเรียนคาทอลิกในต่างจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตชนบท(และบนดอย) ครูไม่มีเงินแม้กระทั่งจะซื้อชอรก์เขียนกระดานสอนหนังสือเด็ก
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พูดเลยดีกว่า(จริงต้องเรียกว่าบ่น) ผมเห็นมหาวิทยาลัยคาทอลิกชื่อดัง ละลายทรัพย์ไปกับความสวยงามของอาคารเรียนทั้งหมด(สร้างแบบหรูมาก ค่าก่อสร้าง เคยคิดเล่นๆสามารถซื้อ F16 ได้สองลำครึ่ง มือสอง) และรูปหล่อม้าโลหะ ราคาเป็นสิบล้าน(คำนวณเล่นๆ ซื้อรถถังขนาดเบาได้สองสามคัน มือสอง) แต่.............โรงเรียนคาทอลิกต่างจังหวัด ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน และไม่มีเงินบำรุงรักษาอาคารเรียน) วัดคาทอลิกต่างจังหวัด ไม่มีเงินแม้กระทั่งซ่อมหลังคาวัดและหาอาหารให้คนงานวัดกิน หากพระศาสนจักรเน้นความยากจน และอยู่แบบพอเพียง อาคารเรียน สร้างแบบธรรมดาก็ได้นิครับ ผมว่าใช้งบเพียงครึ่งเดียวกับที่เราเห็นๆแบบอภิมหาหรูหร่า เอาเงินที่เหลือ ไปรักษาความยากจนของคาทอลิกด้วยกันเองนี้แหละ ในอีก95เปอร์เซนต์ที่เหลือขององค์กรเรา ผมยอมที่จะไปวัดหลังคาสังกะสี แต่เป็นวัดที่มีความรักและอบอุ่น ดีกว่าไปวัดทีสร้างเหมือนในยุโรป แต่ไร้ซึ่งความรักและความสัมพันธ์
คนมองเห็นพระในตัวเราครับ สิ่งภายนอก เป็นแค่เปลือกพิธีกรรม หากไร้หัวใจแห่งความรักที่มอบให้กัน ก็เหมือนเล่นละคร หน้าไหวหลังหลอก(เหมือนที่ข้าพเจ้าเจอจากคาทอลิกฝรั่งหัวใจทำด้วยหิน ทุกวันนี้)
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ผมก็ไม่ใคร่ชอบหรอก แต่เจตนาเค้าอาจเป็นไปเพื่อเทิดพระเกียรติก็ได้
หญิงที่เทน้ำมันหอมที่พระบาทพระเยซูยังได้รับคำชมเลย เพราะการเทิดพระเกียรติก็สำคัญยิ่งด้วยแล้ว
ว่าแต่ เรื่องที่ VATICAN 2 ที่ แอฟริกานี่ ใครมีรูปบ้างครับ อยากทัศนา
เคยออกรายการ แฟนพันธ์แท้อ่ะ เค้าว่า เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทนมหาวิหารนักบุญเปโตรไปแล้ว
เค้าเล่าว่า พอสร้างเสร็จ ประเทศเป็นหนี้ไปเลย แหม่..ทำไปได้!!
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 12:37 pm
โดย Joseph
คนยากจนจะช่วยใครได้
การรวยมากใช่จะถวายได้มาก บางคนรวยมากก็ยิ่งถวายได้น้อยลง
41 พระเยซูได้เสด็จประทับตรงหน้าตู้เก็บเงินถวายทรงสังเกตประชาชนเอาเงินมาใส่ไว้ในตู้นั้นและคนมั่งมีหลายคนเอาเงินมากมาใส่ในที่นั้น
42 มีหญิงม่ายคนหนึ่งเป็นคนจนเอาเหรียญทองแดงสองอันมีค่าประมาณสลึงหนึ่งมาใส่ไว้
43 พระองค์จึงทรงเรียกเหล่าสาวกมาตรัสแก่เขาว่าเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าหญิงม่ายจนคนนี้ได้ใส่ไว้ในตู้เก็บเงินถวายมากกว่าคนทั้งปวงที่ใส่ไว้นั้น
44 "เพราะว่าคนทั้งปวงนั้นได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่ไว้แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุดยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด
(มาระโก 12:44)
พระเจ้ามองที่จิตใจเรามากกว่ามองที่ข้างนอก
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 2:38 pm
โดย Pry-Kaew
Zaliaus เขียน:
เคยออกรายการ แฟนพันธ์แท้อ่ะ เค้าว่า เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแทนมหาวิหารนักบุญเปโตรไปแล้ว
เค้าเล่าว่า พอสร้างเสร็จ ประเทศเป็นหนี้ไปเลย แหม่..ทำไปได้!!
พูดถึง มหาวิหาร วาติกัน2 ที่แอฟริกานั้น อยู่ในประเทศใดครับ เคยจำรูปได้(มีเพื่อนที่เรียนภาษาที่เป็นชาวแอฟริกัน เอารูปมาโชว์)แต่จำไม่ได้ว่าประเทศใด อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยเลย ที่จะเอาเงินไปละลายกับสิ่งที่เป็นถาวรวัตถุ ที่ไม่ได้ช่วยให้คนอิ่มปากอิ่มท้อง หรือไม่ได้ช่วยให้คนหายเจ็บหายเจ็บ หรือไม่ได้ช่วยเรื่องการพัฒนาการศึกษา(ทั้งทางโลกและทางธรรม) หากเป็นผมประธานาธิปดีของประเทศแอฟริกานั้นนะ สร้างแค่พอสวยงาม ไม่เสียหน้า ใช้งานได้จริง ก็พอแล้ว เอาเงินไปพัฒนาให้ประชาชนมีงานทำ ที่หนทางทำกิน ประกอบสัมมาอาชีพได้โดยไม่เป็นภาระสังคม พัฒนาเรื่องสาธารณะสุขให้ทุกคน ทุกระดับ ได้รับบริการเท่ากัน(คนเจ็บป่วย ยากจน หรือคนรวย ทุกข์เหมือนกันหมด) พัฒนาการศึกษาจริงๆ(ไม่ใช่ไปพัฒนาแต่ตัวอาคารเรียน แต่การศึกษาไม่ได้เรื่อง) พอคนมีการศึกษา ก็จะมีโอกาสในสังคมในเรื่องต่างๆมากขึ้น มีวัดสวย ยุโรปยังชิดซ้าย แต่คนตกงาน เจ็บป่วยไม่มีเงินไปหาหมอ แถมเรียนไม่สูง เพราะสู้ค่าเทอมหรือฯลฯไม่ไหว ผมไม่เอาสังคมแบบนั้นหรอกครับ สู้มีวัดคาทอลิกเรียบๆ แต่คนศรัทธากันจริงๆ และผู้คนอยู่ดีมีสุข มีงานทำ มีกิน สุขภาพแข็งแรง มีการศึกษา อันนั้นผมอยากไปอยู่ครับผม
ขอพระอวยพรครับผม
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 9:57 pm
โดย Jack Sparrow
"มีพระเจ้า..เพียงพอ.." "พระองค์ทรงเลี้ยงดูข้าสารพัดไม่จัดสน" แค่ปลาสองตัวกับขนมปังห้าก้อนก็เลี้ยงดูคนเป็นพันได้แล้ว อะไรที่มีพิษมักจะสวยงามน่ารับทานเสมอ เด็กๆ ชอบเพราะไม่รู้ว่ามันมีพิษ พอพ่อแม่ห้ามก็ไม่พอใจหาว่าพ่อแม่ไม่รัก ไม่ยุติธรรม
เรื่องวัดรวยหรือเปล่า สำหรับคาทอลิกแล้วโรงเรียนรวยวัดจนครับ
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 2:24 pm
โดย Pry-Kaew
Jack Sparrow เขียน:
เรื่องวัดรวยหรือเปล่า สำหรับคาทอลิกแล้วโรงเรียนรวยวัดจนครับ
เห็นด้วยครับ วัดคาทอลิกทั่วประเทศไทย จนและถังแตกแทบทุกวัน อยู่กันได้ด้วยใจจริงๆ(ขอโทษพี่น้องคริสตัง ไม่ว่าสัตบุรุษ และนักบวชทุกระดับที่เอาความจริงมาพูด) โรงเรียนคาทอลิกที่รวยๆ ก็มีไม่กี่ทีเองในกรุงเทพ และเขตอำเภอเมืองของบางจังหวัด นอกนั้นหากว่าตามเนื้อผ้า ทั้งวัดทั้งโรงเรียน จนพอกันครับ ว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว จำนวนคริสตัง(นับกันจริงๆที่ยังเชื่อพระอยู่)มีจำนวนน้อยกว่าคริสเตียนด้วยซ้ำ เงินก็น้อยกว่าเขา คนก็น้อยกว่าเขา หากเทียบกับคนไทยพุทธแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเลย แทบเป็นจุดเล็กๆในสังคมไทยเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีคือความรักและความจริงใจ ที่พร้อมจะมอบให้แก่ทุกคนครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 10:36 am
โดย sakda88
Holy เขียน:
คนที่คิดว่าวัดรวยกลับไปคิดใหม่ได้นะครับ วาติกันยังมีหนี้อยู่เลย
ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินหรือเปล่า ?
ตัวแดงในบัญชีไม่ได้แปลว่าวัดจนนะ
มันเป็นเรื่องสภาพคล่องมากกว่า
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 10:41 am
โดย sakda88
ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน:
ศาสนจักรเติบโตขึ้นจากคนยากจนหรือ ?
ใช่
พระศาสนจักรเจริญด้วยการนำของชายชาวประมงที่ชื่อว่าซีโมน
ทั้งยังคนเก็บภาษีที่ชื่อว่ามัทธิว ฯลฯ คริสตชนทุกกาลสมัย
คริสตศาสนา เผยแพร่ด้วยชนชั้นกลางที่ค่อนข้างรวยในสังคมไม่ใช่จากคนยากจน
ช่างไม้และชาวประมงไม่ใช่คนจนในสังคมยิวแน่นอน
ยิ่งคนเก็บภาษีเป็นคนรวยแน่นอน
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 10:53 am
โดย sakda88
~@Little lamb@~ เขียน:
ในต่างจังหวัด บางครั้งเก็บถุงทานได้ 8 บาท
เราเห็นแต่วัดในเมืองก็คิดว่ารายได้คงเยอะ สมบัติคงแยะ
แต่ต่างจังหวัด พ่อแทบจะอดตาย วัดแทบจะไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ
มีกี่แห่งที่เป็นเช่นนั้น ที่ไหนบ้าง ?
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 10:55 am
โดย sakda88
Joseph เขียน:
คนยากจนจะช่วยใครได้
การรวยมากใช่จะถวายได้มาก บางคนรวยมากก็ยิ่งถวายได้น้อยลง
41 พระเยซูได้เสด็จประทับตรงหน้าตู้เก็บเงินถวายทรงสังเกตประชาชนเอาเงินมาใส่ไว้ในตู้นั้นและคนมั่งมีหลายคนเอาเงินมากมาใส่ในที่นั้น
42 มีหญิงม่ายคนหนึ่งเป็นคนจนเอาเหรียญทองแดงสองอันมีค่าประมาณสลึงหนึ่งมาใส่ไว้
43 พระองค์จึงทรงเรียกเหล่าสาวกมาตรัสแก่เขาว่าเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าหญิงม่ายจนคนนี้ได้ใส่ไว้ในตู้เก็บเงินถวายมากกว่าคนทั้งปวงที่ใส่ไว้นั้น
44 "เพราะว่าคนทั้งปวงนั้นได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่ไว้แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุดยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด
(มาระโก 12:44)
พระเจ้ามองที่จิตใจเรามากกว่ามองที่ข้างนอก
กรุณาอ่านที่คุณเขียนหลาย ๆ รอบนะครับ
41 พระเยซูได้เสด็จประทับตรงหน้าตู้เก็บเงินถวายทรงสังเกตประชาชนเอาเงินมาใส่ไว้ในตู้นั้นและคนมั่งมีหลายคนเอา
เงินมากมาใส่ในที่นั้น
44 "เพราะว่าคนทั้งปวงนั้นได้เอา
เงินเหลือใช้ของเขามาใส่ไว้แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุดยังได้
เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด
จับประเด็นให้ดี ๆ นะครับ
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 11:02 am
โดย Phulasso
sakda88 เขียน:
~@Little lamb@~ เขียน:
ในต่างจังหวัด บางครั้งเก็บถุงทานได้ 8 บาท
เราเห็นแต่วัดในเมืองก็คิดว่ารายได้คงเยอะ สมบัติคงแยะ
แต่ต่างจังหวัด พ่อแทบจะอดตาย วัดแทบจะไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ
มีกี่แห่งที่เป็นเช่นนั้น ที่ไหนบ้าง ?
ยินดีที่กลับมาอีก
Welcome back 
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 11:21 am
โดย sakda88
Phulasso เขียน:
sakda88 เขียน:
~@Little lamb@~ เขียน:
ในต่างจังหวัด บางครั้งเก็บถุงทานได้ 8 บาท
เราเห็นแต่วัดในเมืองก็คิดว่ารายได้คงเยอะ สมบัติคงแยะ
แต่ต่างจังหวัด พ่อแทบจะอดตาย วัดแทบจะไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ
มีกี่แห่งที่เป็นเช่นนั้น ที่ไหนบ้าง ?
ยินดีที่กลับมาอีก
Welcome back
ขอบคุณ
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 11:37 am
โดย sakda88
เงินคืออะไร ?
คือ เกมอย่างหนึ่ง เกมนี้เล่นได้หลายหลากรูปแบบขึ้นอยู่กับคนเล่นนั้นมีจิตใจอย่างใด
คือ อุปกรณ์ขยายความเป็นตัวตนของแต่ละคนให้ชัดเจนขึ้น
คุณเป็นอย่างไรจะเห็นได้ชัดเมื่อคุณร่ำรวยขึ้น
อย่าง ปอปอ ยิ่งมีเงินมากเขาก็ยิ่งทำบุญมากขึ้น
บ่งบอกถึงจิตใจอันงดงามของเขา
คือ ตัวกลางของการแลกเปลี่ยนสินค้า
คือ รางวัลของการพัฒนาสังคม
คือ รากเหง้าของตัวคนแต่ละคนที่ถูกแสดงออกมา
ถ้าเขามีจิตใจที่ชั่วร้ายเขาก็ขยายสิ่งที่ชั่วร้ายออกมา
ถ้าเขามีจิตใจที่ดีงามเขาก็ขยายสิ่งที่ดีงามออกมา
คือ การทดลองใจอย่างหนึ่ง
โลกนี้ยังมีคนจิตใจงามมากกว่าจิตใจชั่วร้าย
เงินไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของชีวิต
และถ้าใครบอกว่าเงินไม่สำคัญคุณก็คือคนจนคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ที่สำคัญยากจะหาความสุขได้ และมักจะขอเงินจากคนอื่นเสมอ ๆ ซะด้วยซิ น่ากลัวชมัดเลยคนพวกนี้
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 12:49 pm
โดย ~@Little lamb@~
ลองไปแถบอีสานดูสิค่ะ เพียบ
ภาคเหนือก็เยอะ ภาคใต้ก็แยะ
คงระบุให้ไม่ได้ว่ามีกี่แห่ง ที่ไหนบ้าง
เพราะไม่เคยทำสำรวจ แต่เคยเนกะตา เวลาไปแสวงบุญตามวัดต่างจังหวัด
โซนแถบ ๆ สองคอน ชาวบ้านเอาพวกพื้นผักผลไม้ในสวนตัวเองมาถวายแทนเงิน
กล้วย 1 หวี ข้าวถุงเล็ก ๆ ส้ม 4-5 ใบ อะไรพวกนั้น
จริงอยู่ว่าอาจจะพอทำอาหารกินได้ แต่ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือ ทำการพัฒนา ซ่อมแซม ปรับปรุงอะไรไม่ได้เลย
ถ้าคุณอยากจะรู้ว่าที่นี่บ้าง คุณลองไปถามประสบการณ์จากพ่อที่อยู่ต่างจังหวัด
หรือพ่อที่เคยไปเป็นมิชชันเนอรี่ต่างจังหวัดดู
เช่น พ่อวัลลภ พ่อดำรง พ่อบอย(ลืมชื่อจริงพ่อไปแล้ว เอกอะไรหว่า) พ่อเปา ที่ตอนนี้อยู่ภาคเหนือ ฯลฯ
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 12:57 pm
โดย sasuke
sakda88 เขียน:
และถ้าใครบอกว่าเงินไม่สำคัญคุณก็คือคนจนคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ที่สำคัญยากจะหาความสุขได้ และมักจะขอเงินจากคนอื่นเสมอ ๆ ซะด้วยซิ น่ากลัวชมัดเลยคนพวกนี้
ถูกแล้วครับ คนที่คิดว่าเงินไม่สำคัญคือคนจน แต่ผมคิดว่าคุณพูดตกไปหน่อย
คือคนที่ไม่สนใจเงินเลยก็คือคนที่ไม่สนใจโลกเลยด้วยครับ
---------------------------------------------------
ผมขอเล่าอะไรให้ฟังหน่อยนะครับ...
นักบุญฟรันซิสแห่งอัสซีซี เดิมเป็นลูกชายพ่อค้าที่ร่ำรวยในฝรั่งเศส
แต่หลังจากที่ได้ละทิ้งครอบครัว และถือชีวิตความยากจนตามพระวรสาร
ท่านก็ได้ออกเดินทางเทศน์สอนประชาชน ถือความยากจนอย่างเคร่งครัด
เพื่อแสวงหาพระอาณาจักรสวรรค์ และเลียนแบบชีวิตของพระเยซู
ท่านมีทรัพย์สินที่เป็นของท่านหลังจากบวชจนถึงวันที่ท่านเสียชีวิต เพียงแค่3ชิ้น
คือ ชุดนักบวช กางเกงใน และรัดประคด
ท่านฟรันซิสเลี้ยงชีวิตด้วยการขอทาน แต่การขอทานของท่าน ท่านไม่เคยขอเงิน
ท่านขอแต่อาหารเพื่อเลี้ยงชีวิต ถึงแม้ท่านจะได้เงินมา ท่านก็นำเงินไปบริจาคให้วัด
ท่านฟรันซิสเคยซ่อมแซมวัดด้วยตัวคนเดียว โดยที่ไม่มีแม้แต่เงินทุน
เพียงแค่เที่ยวเรี่ยไรขอวัสดุก้อนหินเล็กๆน้อยจากชาวบ้าน ในหมู่บ้านใกล้เคียง
และถ้ามีผู้ใดต้องการให้ความช่วยเหลือ ท่านฟรันซิสก็จะน้อมรับอย่างเต็มใจ
หลังจากที่ท่านก่อตั้งคณะฟรันซิสกันของท่าน ในช่วงต้นศตวรรษที่13
มีสมาชิกภารดาที่้น้อมรับชีวิตยากจนตามแบบพระวรสารเพียงแค่5000คนจากยุโรป
...ปัจจุบันภารดาคณะฟรันซิสกันทั้วโลกทุกสาขา มีสมาชิกมากกว่า2หมื่นคนทั่วโลก
คณะฟรันซิสกันที่เกิดมาจากผู้ที่ยากจนอย่างแท้จริง
ได้ชื่อว่า "เป็นเสาหลักของพระศาสนจักร" ร่วมกัับคณะดอมินิกัน
ที่คอยพยุงพระศาสนจักในช่วงที่พระศาสนจักรเสื่อมถอย
ปล. พ่อบอย ชื่อคุณพ่อเอกพร นิตโยครับพี่LL
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 1:25 pm
โดย Pry-Kaew
~@Little lamb@~ เขียน:
ลองไปแถบอีสานดูสิค่ะ เพียบ
ภาคเหนือก็เยอะ ภาคใต้ก็แยะ
คงระบุให้ไม่ได้ว่ามีกี่แห่ง ที่ไหนบ้าง
เพราะไม่เคยทำสำรวจ แต่เคยเนกะตา เวลาไปแสวงบุญตามวัดต่างจังหวัด
โซนแถบ ๆ สองคอน ชาวบ้านเอาพวกพื้นผักผลไม้ในสวนตัวเองมาถวายแทนเงิน
กล้วย 1 หวี ข้าวถุงเล็ก ๆ ส้ม 4-5 ใบ อะไรพวกนั้น
จริงอยู่ว่าอาจจะพอทำอาหารกินได้ แต่ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือ ทำการพัฒนา ซ่อมแซม ปรับปรุงอะไรไม่ได้เลย
ถ้าคุณอยากจะรู้ว่าที่นี่บ้าง คุณลองไปถามประสบการณ์จากพ่อที่อยู่ต่างจังหวัด
หรือพ่อที่เคยไปเป็นมิชชันเนอรี่ต่างจังหวัดดู
เช่น พ่อวัลลภ พ่อดำรง พ่อบอย(ลืมชื่อจริงพ่อไปแล้ว เอกอะไรหว่า) พ่อเปา ที่ตอนนี้อยู่ภาคเหนือ ฯลฯ
ดูท่าแล้ว ข้าพเจ้าคงต้องไปหางานทำ(งานที่ตั้งใจไว้)เงินเดือนไม่ถึงหมื่น แต่ได้มีอิสระในการประกอบกิจศาสนา ได้ไปแสวงบุญ ได้ไปวัดต่างจังหวัดในสองคอน และได้อยู่กับความเชื่อที่ข้าพเจ้ารัก ในทุกวินาทีของชีวิต(ไม่ว่าทุกข์หรือสุข) ดูท่าแล้ว พระคงลองใจให้ข้าพเจ้า ละทึ้งโอกาสต่างๆทางโลก ไม่ว่าทางธุรกิจ และทุกๆอย่าง ของพื้นฐานที่ข้าพเจ้ามี เพื่อให้ข้าพเจ้ารู้จักชีวิตแบบเพียงพอ และรักในการทำงานในสายงานที่ข้าพเจ้าฝัน ด้วยรายได้ที่แค่พออยู่ได้ แต่มีอิสระในความเชื่อ และไม่ต้องทะเลาะในเรื่องไร้สาระตลอดไป กับคนบางคนที่มาอาศัยครอบครัวข้าพเจ้ามานาน จนกลายร่างเป็นปลิงที่ลืมตีน
ขอพระทรงเปิดทาง ขอแม่พระโปรดวิงวอน Life is not easy. I understand that reason, but If I don't have the real Catholic church, I cannot be happy in this world. In some country,church is for white man only. It is not for me. I am a human,and I am not an animal. The most things in that country are very good,but Catholic church is look like the religious of white man only in that country. I hate that!!!!!!
The Lord be with you always in your time of your life.
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 2:12 pm
โดย Alphonse
เงินที่แท้จริงซื้อความสุขที่แท้จริงไม่ได้
แต่ความสุขที่แท้จริงซื้อเงินที่แท้จริงได้
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 29, 2007 6:06 pm
โดย Phulasso
เศรษฐกิจพอเพียงสิ
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 30, 2007 7:33 am
โดย sakda88
~@Little lamb@~ เขียน:
เวลาไปแสวงบุญตามวัดต่างจังหวัด
โซนแถบ ๆ สองคอน ชาวบ้านเอาพวกพื้นผักผลไม้ในสวนตัวเองมาถวายแทนเงิน
กล้วย 1 หวี ข้าวถุงเล็ก ๆ ส้ม 4-5 ใบ อะไรพวกนั้น
จริงอยู่ว่าอาจจะพอทำอาหารกินได้
โลกที่แท้จริงของคริสตชน การแบ่งปันในสิ่งที่เรามี การพัฒนาที่จิตวิญญาณ
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 30, 2007 7:54 am
โดย sakda88
sasuke เขียน:
sakda88 เขียน:
และถ้าใครบอกว่าเงินไม่สำคัญคุณก็คือคนจนคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ที่สำคัญยากจะหาความสุขได้ และมักจะขอเงินจากคนอื่นเสมอ ๆ ซะด้วยซิ น่ากลัวชมัดเลยคนพวกนี้
ถูกแล้วครับ คนที่คิดว่าเงินไม่สำคัญคือคนจน แต่ผมคิดว่าคุณพูดตกไปหน่อย
คือคนที่ไม่สนใจเงินเลยก็คือคนที่ไม่สนใจโลกเลยด้วยครับ
---------------------------------------------------
ผมขอเล่าอะไรให้ฟังหน่อยนะครับ...
นักบุญฟรันซิสแห่งอัสซีซี เดิมเป็นลูกชายพ่อค้าที่ร่ำรวยในฝรั่งเศส
แต่หลังจากที่ได้ละทิ้งครอบครัว และถือชีวิตความยากจนตามพระวรสาร
ท่านก็ได้ออกเดินทางเทศน์สอนประชาชน ถือความยากจนอย่างเคร่งครัด
เพื่อแสวงหาพระอาณาจักรสวรรค์ และเลียนแบบชีวิตของพระเยซู
ท่านมีทรัพย์สินที่เป็นของท่านหลังจากบวชจนถึงวันที่ท่านเสียชีวิต เพียงแค่3ชิ้น
คือ ชุดนักบวช กางเกงใน และรัดประคด
ท่านเป็นลูกพ่อค้าที่ร่ำรวย
ท่านฟรันซิสเลี้ยงชีวิตด้วยการขอทาน แต่การขอทานของท่าน ท่านไม่เคยขอเงิน
ท่านขอแต่อาหารเพื่อเลี้ยงชีวิต ถึงแม้ท่านจะได้เงินมา ท่านก็นำเงินไปบริจาคให้วัด
ท่านฟรันซิสเคยซ่อมแซมวัดด้วยตัวคนเดียว โดยที่ไม่มีแม้แต่เงินทุน
เพียงแค่เที่ยวเรี่ยไรขอวัสดุก้อนหินเล็กๆน้อยจากชาวบ้าน ในหมู่บ้านใกล้เคียง
และถ้ามีผู้ใดต้องการให้ความช่วยเหลือ ท่านฟรันซิสก็จะน้อมรับอย่างเต็มใจ
ท่านนำเงินที่ขอได้บริจาคให้วัด และท่านไม่ได้ซ่อมแซมวัดด้วยตัวคนเดียว แต่อาศัยคนจำนวนมากโดยมีท่านเป็นตัวกลาง
หลังจากที่ท่านก่อตั้งคณะฟรันซิสกันของท่าน ในช่วงต้นศตวรรษที่13
มีสมาชิกภารดาที่้น้อมรับชีวิตยากจนตามแบบพระวรสารเพียงแค่5000คนจากยุโรป
...ปัจจุบันภารดาคณะฟรันซิสกันทั้วโลกทุกสาขา มีสมาชิกมากกว่า2หมื่นคนทั่วโลก
คณะฟรันซิสกันที่เกิดมาจากผู้ที่ยากจนอย่างแท้จริง
ได้ชื่อว่า "เป็นเสาหลักของพระศาสนจักร" ร่วมกัับคณะดอมินิกัน
ที่คอยพยุงพระศาสนจักในช่วงที่พระศาสนจักรเสื่อมถอย
เกิดจากผู้ร่ำรวยมาก่อนและเปี่ยมด้วยความศรัทธาในพระคริสตเจ้า
และด้วยความศรัทธานั่นเองท่านได้นำผู้คนมากมายให้มีส่วนร่วมในกิจศรัทธาของท่าน
คุณยกเรื่องนี้มาคุณได้อะไรจากเรื่องของท่านบ้าง นอกจากปลาบปลื้มในตัวของท่าน
ถ้าท่านไม่ใช่ลูกพ่อค้าที่ร่ำรวยมาก่อนจะมีคนสนใจท่านหรือไม่ ?
อย่างน้อยคนที่บริจาคแน่ใจได้อย่างหนึ่งว่าเงินที่บริจาคไปไม่ถูกท่านนำไปใช้ส่วนตัวแน่นอน
ท่านอยู่ในยุคที่ตำแหน่งพระสันตปะปาเป็นตำแหน่งที่ผู้มีอำนาจแย่งชิงหรือเปล่านะ ?
ผมได้อะไรหลายอย่างจากเรื่องนี้
ขอบคุณครับ
คริสตศาสนาดำรงอยู่ได้ด้วยผู้ที่มีจิตตารมณ์ของพระเยซูคริสตเจ้ายังมีอยู่
Re: ว่าด้วยเรื่องของเงิน
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 30, 2007 8:08 am
โดย sakda88
Pry-Kaew เขียน:
ดูท่าแล้ว ข้าพเจ้าคงต้องไปหางานทำ(งานที่ตั้งใจไว้)เงินเดือนไม่ถึงหมื่น แต่ได้มีอิสระในการประกอบกิจศาสนา ได้ไปแสวงบุญ ได้ไปวัดต่างจังหวัดในสองคอน และได้อยู่กับความเชื่อที่ข้าพเจ้ารัก ในทุกวินาทีของชีวิต(ไม่ว่าทุกข์หรือสุข) ดูท่าแล้ว พระคงลองใจให้ข้าพเจ้า ละทึ้งโอกาสต่างๆทางโลก ไม่ว่าทางธุรกิจ และทุกๆอย่าง ของพื้นฐานที่ข้าพเจ้ามี เพื่อให้ข้าพเจ้ารู้จักชีวิตแบบเพียงพอ และรักในการทำงานในสายงานที่ข้าพเจ้าฝัน ด้วยรายได้ที่แค่พออยู่ได้ แต่มีอิสระในความเชื่อ และไม่ต้องทะเลาะในเรื่องไร้สาระตลอดไป กับคนบางคนที่มาอาศัยครอบครัวข้าพเจ้ามานาน จนกลายร่างเป็นปลิงที่ลืมตีน
ถ้าคุณเห็นพระเยซูเจ้าในคนผู้นี้ได้ค่อยไปเถอะ ถ้าคุณไม่สามารถทำได้ คุณจะพบกับปลิงตัวใหม่ในที่ใหม่ที่คุณจะไปอยู่
รักและให้อภัย ถ้าคุณไม่สามารถรักและให้อภัยเขาได้แล้ว คุณจะบอกได้เต็มปากหรือว่าเป็นศิษย์ของพระคริสต์
รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง รักศัตรูของท่าน ที่สำคัญต้องรู้จักรักตนเองก่อน
แต่ถ้าเป็นแค่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ก็แล้วกันไป
ผู้นับถือศาสนาคริสต์มากมายอาศัยศาสนาทำลายผู้คน แต่เขาไม่ใช่ศิษย์ของพระคริสต์
ผู้นับถือศาสนาคริสต์มากมายอาศัยศาสนาสร้างอาณาจักรด้วยความรุนแรงและโหดร้าย แต่เขาไม่ใช่ศิษย์ของพระคริสต์
วิถีทางของพระคริสต์นั้นเรียบง่าย ธรรมดาสามัญ รัก ให้อภัย แบ่งปันในสิ่งที่เรามี