ญี่ปุ่นพิศดาร!แต่งพันธุกรรมทำให้หนูไม่กลัวแมว

[Holy]

นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นเผยสามารถปรับแต่งพันธุกรรมทำให้หนูไม่กลัวแมวได้ เผยถือเป็นครั้งแรกที่รู้ว่าวงการวิทยาศาสตร์รู้ว่า สัตว์เล็กไม่ได้กลัวสัตว์ใหญ่เพราะประสบการณ์ แต่มาจากยีนส์รับรู้กลิ่น



สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ว่า นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยโตเกียวเปิดเผยว่า สามารถปรับแต่งพันธุกรรมทำให้หนูไม่กลัวแมว ด้วยวิธีปรับเปลี่ยนยีนส์รับรู้กลิ่นตามธรรมชาติ ทำให้หนูสามารถเข้าใกล้แมวได้ แม้แต่เล่นกับแมวก็ตาม โดยมันจะไม่แสดงความกลัวใด ๆ ต่อแมวเลย พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ตามธรรมชาติแล้วหนูจะกลัวแมวจากยีนส์รับรู้กลิ่นของมัน ไม่ใช่จากการเรียนรู้ตามประสบการณ์ตามที่คนเราเคยเข้าใจ และว่า การที่มนุษย์เกลียดกลิ่นเหม็นต่าง ๆ อาจมาจากยีนส์ ไม่ได้มาจากประสบการณ์การเรียนรู้ด้วย โดยการทดลองนี้ยังช่วยให้นักวิทยาศสตร์ได้รู้ว่า สมองทำงานอย่างไรในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกภายนอก

http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1&catid=14

[Holy]

ข่าวนี้ทำให้ทฤษฎี การถูกสร้างโดยผู้ทรงปัญญา ชัดเจนขึ้น สัตว์ต่างๆ ถูกกำหนดไว้แต่แรกว่าให้ชอบกินอะไรกลัวอะไร มีหน้าที่อะไร ตั้งแต่ก่อนมันเกิดมา

การที่มันถูกกำหนดให้กลัวสิ่งที่จะกินมัน ก็เพื่อปกป้องพวกมันจากการสูญพันธุ์ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เกิดจากการที่มันคิดได้เอง หรือเรียนรู้จากเหตุการณ์จริง

เหมือนที่มนุษย์ทั้งหลายพยายามแสวงหาพระเจ้าในรูปแบบต่างๆกัน แม้พยายามหลอกตัวเองว่าไม่มีพระเจ้า แต่ก็ต้องหาอะไรมาอยู่ในตำแหน่งนั้นเพื่อเติมเต็มวิญญาณอยู่ดี

รม 1:18
พระเจ้าจากสวรรค์ทรงแสดงให้มนุษย์เห็นการลงโทษ ความไม่เคารพนับถือพระเจ้า และความอธรรมทุกชนิดของพวกเขาที่ปิดบังความจริงในความอธรรมของตน ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าทรงทำให้สิ่งที่รู้ได้เกี่ยวกับพระองค์ปรากฏชัดอยู่แล้ว  กล่าวคือ ตั้งแต่เมื่อทรงสร้างโลก คุณลักษณะที่ไม่อาจแลเห็นได้ของพระเจ้า คือพระอานุภาพนิรันดรและเทวภาพของพระองค์ปรากฏอย่างชัดเจนแก่ปัญญามนุษย์ในสิ่งที่ทรงสร้าง ดังนั้น คนเหล่านี้จึงไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ พวกเขารู้จักพระเจ้า แต่ไม่ได้เคารพบูชาพระองค์เป็นพระเจ้าหรือขอบพระคุณพระองค์ ความคิดหาเหตุผลของพวกเขากลับใช้การไม่ได้ และจิตใจที่ไม่ยอมเข้าใจกลับมืดบอดลง  พวกเขาคิดว่าตนเป็นคนฉลาด แต่ในความเป็นจริง พวกเขากลับโง่จนถึงกับ นำพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าผู้เป็นอมตะมาแลกกับภาพเลียนแบบ คือภาพมนุษย์ที่ไม่เป็นอมตะ ภาพสัตว์ปีก ภาพสัตว์สี่เท้า หรือภาพสัตว์เลื้อยคลาน

[Marie Antoinette]

เหมือนที่มนุษย์ทั้งหลายพยายามแสวงหาพระเจ้าในรูปแบบต่างๆกัน แม้พยายามหลอกตัวเองว่าไม่มีพระเจ้า แต่ก็ต้องหาอะไรมาอยู่ในตำแหน่งนั้นเพื่อเติมเต็มวิญญาณอยู่ดี

รม 1:18
พระเจ้าจากสวรรค์ทรงแสดงให้มนุษย์เห็นการลงโทษ ความไม่เคารพนับถือพระเจ้า และความอธรรมทุกชนิดของพวกเขาที่ปิดบังความจริงในความอธรรมของตน ทั้ง ๆ ที่พระเจ้าทรงทำให้สิ่งที่รู้ได้เกี่ยวกับพระองค์ปรากฏชัดอยู่แล้ว   กล่าวคือ ตั้งแต่เมื่อทรงสร้างโลก คุณลักษณะที่ไม่อาจแลเห็นได้ของพระเจ้า คือพระอานุภาพนิรันดรและเทวภาพของพระองค์ปรากฏอย่างชัดเจนแก่ปัญญามนุษย์ในสิ่งที่ทรงสร้าง ดังนั้น คนเหล่านี้จึงไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ พวกเขารู้จักพระเจ้า แต่ไม่ได้เคารพบูชาพระองค์เป็นพระเจ้าหรือขอบพระคุณพระองค์ ความคิดหาเหตุผลของพวกเขากลับใช้การไม่ได้ และจิตใจที่ไม่ยอมเข้าใจกลับมืดบอดลง  พวกเขาคิดว่าตนเป็นคนฉลาด แต่ในความเป็นจริง พวกเขากลับโง่จนถึงกับ นำพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าผู้เป็นอมตะมาแลกกับภาพเลียนแบบ คือภาพมนุษย์ที่ไม่เป็นอมตะ ภาพสัตว์ปีก ภาพสัตว์สี่เท้า หรือภาพสัตว์เลื้อยคลาน

เห็นด้วยค่า

เอ่ออออ......จะอี้จะอั้น ถ้าเป็นอย่างนี้คนที่เลี้ยงแมวไว้เพื่อจับหนู ใครเค้าจะเลี้ยงแมวละก๊า 

[Master_Vivi]

น่ากลัวนะครับเรื่องแบบนี้

โดยส่วนตัวผมเรียนทางด้าน Bioinformatics จะมีพวกเกี่ยวกับ Molecular biology เยอะ
เกี่ยวกับเรื่อง genetics

ผมคิดว่าการจะรู้ความลับทั้งหมดได้เนี่ย ลำบากเหลือเกินครับ ในฐานะมนุษย์ธรรมดาที่ยังมีบาปนี้

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์และทุกๆ สิ่งได้ซับซ้อนขนาดนี้

ขอบคุณพระคุณพระเจ้ามากครับ

[Zion]

หนูไม่กลัว

แต่ แมวก็ยังกินหนูไม่ใช่เหรอ


เท่ากับทำให้หนูเข้าหาอันตรายโดยไม่รู้ตัวนะนี่

[Jeab Agape]

ต้องตัดยีนส์ ในแมว ที่ทำให้เกิดความอยาก จับหนูกินด้วยคร้าบ เพราะถ้าเอายีนส์ในหนูออกไป เท่ากับให้หนูวิ่งซุกแมวเลย อิอิ หม่ำ หม่ำ หม่ำ

[Joseph]

เท่าที่ดู

1. เห็นถึงระบบต่างๆ ที่พระเจ้าทรงสร้าง เช่นระบบระวังกัย ระบบล่าเหยื่อ ระบบความอยู่รอดบนโลกในนี้

2. เห็นว่าพระเจ้าทรงรักเรามากกว่าสัตว์ หรือสำคัญกว่าสัตว์ทั้งหมดตามที่พระคัม ร์ได้กล่าวไว้

เรื่องของชีวะ าพยิ่งศึกษาไปยิ่งสนับสนุนพระคัม ร์มากขึ้น

[Master_Vivi]

ความลับในวิทยาศาสตร์ตอนนี้ ถึงแม้จะมีการค้นพบอะไรใหม่ๆ ก็ยังเป็นส่วนน้อยจนคิดเป็นเปอร์เซนต์จากทั้งหมดไม่ได้เลย
แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ย่อมที่จะทำเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์เอง จนบางครั้งลืมอะไรไปบางอย่าง
โดยเฉพาะในปัจจุบัน งาน Genetics engineering และ Gene therapy เป็นงานที่ต้องเอาชนะโรคภัยไข้เจ็บ อาทิเช่น โรคเอดส์ และอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตา่มก็เพื่อมนุษย์นะครับ

ปล. ผมเพิ่งไปดูหนังเรื่อง I am the Legend มา เป็นหนังของพระเจ้านะครับ แทรกแนวคิดหลา่ยๆ แบบ ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และพระเจ้า เหมือนกัน

[แบกะดิน]

น่าจะแต่งพันธุกรรมให้มนุษย์ไม่กลัวปีศาจมั้ง 55
ที่จริงมนุษย์ก็ไม่ได้กลัวอยู่แล้วนิ  หรอ ??  55555

[Dis volentibus]

รู้ไว้ไม่เสียหลายเจ้าค่ะ เเต่อย่าไปปรับเเต่งมันมากมายก็เเล้วกันคร่า...เสียสมดุลในธรรมชาติหมด ให้หนูกลัวเเมวเป็นดีเเย้วๆๆ

[Batholomew]

ทำเพื่ออะไรอ่า

[Invy]

ถ้าหนูเป็นเช่นนี้ โอกาสตายด้วยแมวจะเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะ มันไม่หลบหลีก  :lipsrsealed:

แมวบ้านผมที่ตายไปก็ไม่กลัวหมา ไปสู้กับหมาจนตัวตายเลย  :sad: แต่ใช่ว่าหมาจะชนะแมวเสมอไปหมาแรงเยอะแต่แมวนั้นไว

[Deo Gratias]

นักวิทยาศาสตร์สงสัยจะว่างจัด อะไรที่จำเป็น ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์คิดกันไม่ค่อยออก มามัวคิดแต่เรื่องแปลกๆ

[Dis volentibus]

จริงๆเเล้ว เรื่องนี้จำเป็นต้องรู้นะคะ
เผื่อในอนาคตภายภาคหน้า พวกสัตว์พวกนี้มันดันเกิดเปลี่ยนเเปลงทางพันธุกรรมเช่น กระต่าย ไม่กลัวมนุษย์ ไม่กลัวเสียงปืน
หรือ เเกะบ้าเลือด กัดกินมนุษย์ เป็นต้น
จะได้ทราบสาเหตุได้ทัน เเละหาทางแก้ไขต่อไป...

ป.ล. เทววิทยา กับ วิทยาศาสตร์ ต้องอยู่ควบคู่กันไปค่า.....

[Joseph]

อ่านที่น้องเจนว่าแกะกินคน เลยมีความคิดเกิดขึ้นมาในสมองพี่คือ เปลี่ยนพันธุกรรมมนุษย์ให้ไม่อยากกินอาหารสุขๆ อาหารสุขหอมๆ อร่อยๆ จะรู้สึกเหม็น ชอบกินแต่อาหารสดๆ คราว กินเนื้อสดๆ โดยเฉพาะเนื้อมนุษย์ด้วยกันเอง อิอิ กลายเป็นหนังผีดิบไปเลย คิดเล่นๆ ไม่ส่งเสริมหรือเห็นด้วย

[Jack Sparrow]

พระเจ้าสร้างทุกอย่างไว้ดีแล้วผมว่าเหมือนรถยนตร์เขาทำไว้ดีๆ แล้วแต่มนุษย์ไปแก้ไขดัดแปลงมันใช้ไปๆ มาๆ เดี๋ยวก็เกิดปัญหา