เราจะเลือกเข้านิกายยังไงดีครับ

[BloodSweatAndTearz]

คือจริงๆ ผมเป็นคริสเตียนนะครับเพราะที่ ม. มีโบสถ์ hopeมาประกาศ  แต่จริงนิกายที่ทำให้ผมสนใจพระเจ้าคือ คาทอริค อ่าครับ(ประมาณว่าได้คุยกับ มาเซอ คนหนึ่ง) 
คือผมไม่แน่ใจอะครับว่าอันไหนดีสำหรับผม ซึ่งแต่ละที่ก็มี บางสิ่ง(หลายอะ)ที่ต่างกันอ่าครับ ได้อ่านข้างบนแล้วแต่ก็ไม่แน่ใจอ่าครับ เลยลองอธิฐานให้มีคนช่วยชี้นำครับ

[Zion]

ก็ลองศึกษาทุกๆนิกายที่เจอดูครับ


แล้วเลือกสิ่งที่ตัวเองคิดว่า ดีที่สุด

[~@Little lamb@~]

เลือกในนิกายที่ถูกจริตคุณมากที่สุด
โดยดูจากที่ทำให้คุณรู้สึกรักพระเจ้ามากที่สุด

[Holy]

คาทอลิก กับ โปรเตสแตนท์ต่างกันตรงไหน

นิกายใหญ่ ของคริสต์ มี 3 นิกาย คือ....เริ่มแรก บรรพชน ของพวกเราก็รวมกันมาไม่ได้มีการแยกนิกายอะไร ต่อมา ศตวรรษที่ 11 มีความขัดแย้ง ระหว่างพระศาสนจักร(คริสตจักร)ตะวันออก และโรม
จึงแยก ตัวออกไป เกิดเป็นนิกายออธอดอคขึ้นมา

และ ต่อมา ในศตวรรษที่16 ในพระศาสนจักร ได้ประสบปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งจากระบบ และความประพฤติของบรรดาบาทหลวง ทางอดีตบาทหลวงมาร์ติน ลูเธอร์ ยื่นประท้วง 95 ข้อ เพื่อขอให้แก้ไข แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสมเด็จพระสันตะปาปา เลยถูกขับ และสั่งลงโทษ ( ยุคนั้น พระศาสนจักร มีอำนาจเหนืออาณาจักร ) และได้เกิดนิกายโปรแตสแตนท์ขึ้นมา

ดังนั้นสรุปนิกายใหญ่ๆของคริสตศาสนาได้ดังนี้

1.โรมันคาทอลิก

2.ออเทอดอกซ์ แยกออกไป เมื่อ ปี ค.ศ. 1054

3.โปรเตสแตนต์ แยกออกไป เมื่อ ปี 1517 โดยอดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์

++++++++++++++++++++++++++++++

+โรมันคาทอลิก+

มีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครสาวกกลุ่มแรก โดยถือว่า นักบุญ เปโตร หรือ เซนต์ปีเตอร์ คือพระสันตะปาปาพระองค์แรก และสืบทอดมาถึงพระสันตะปาปาเบนนิดิกที่ 16 องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่265

ผู้นับถือคริสตศาสนาทุกนิกายทั่วโลก เรียกเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกันว่า คริสเตียน แปลเป็นภาษาไทยคือคริสตชน แต่สำหรับประเทศไทยเรานั้น นิกายโรมันคาทอลิกถูกนำเข้ามาก่อนสมัยพระนารายณ์มหาราชโดยบาดหลวงชาวโปรตุเกส ดังนั้นการออกเสียงคำว่า คริสเตียนในภาษาโปรตุเกส ออกเสียงว่า "คริสตัง" อย่างจีซัส ก็ออกเสียงว่า "เยซู" จึงทำให้คาทอลิคเรียกผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิคว่า คริสตัง ส่วนโปรแตสแตนท์เข้ามาสมัยหมดบลัดเลย์ซึ่งเป็นอเมริกา ดังนั้น โปรแตสแตนท์ไทยจึงเรียกตัวเองว่า คริสเตียน ตามแบบภาษาอังกฤษ สำเนียงอเมริกา แต่คำว่า"เยซู"ก็ใช้ตามที่คาทอลิกและคนไทยได้คุ้นเคยแล้ว

กลับมาที่ลักษณะของคาทอลิกต่อ

คาทอลิกนั้นจะมีนักบวช ที่เรียกว่า บาดหลวง หรือซิสเตอร์

คาทอลิกจะมีการให้เกียรติพระนางมารีย์ แม่ของพระเยซูเป็นพิเศษ เรียกพระนางว่า "แม่พระ" มาจากคำว่า มารดาของพระเจ้า

คาทอลิกจะมีการยกย่องวีรบุรุษ หรือวีรสตรีทางศาสนา หรือเรียกง่ายๆว่า บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระเยซูอย่างดีมากจนเรามั่นใจว่าเขาได้ไปสวรรค์แน่นอน(คล้ายๆกรณีพระอรหันต์ในศาสนาพุทธ) เราจะเรียกคนเหล่านี้ ว่าเป็น นักบุญ

ดังนั้นหากเปรียบให้เข้าใจง่าย เรามองว่าพระเยซูคือกษัตริย์ ส่วนแม่พระก็เป็นพระราชชนนี(แบบสมเด็จย่า) เหล่านักบุญก็เหมือนขุนนาง ที่ใกล้ชิดกษัตริย์

คาทอลิกมีความเชื่อว่า ในพิธีมิซซา(พิธีนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์) เมื่อขนมปัง และเหล้าองุ่นถูกเสกในพิธี ก็คือเนื้อ และพระโลหิต เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย

โบสถ์คาทอลิกทุกแห่ง ถือเป็น1เดียวกัน ขึ้นตรงต่อกรุงวาติกัน และองค์พระสันตะปาปา ดังนั้น หากคุณเป็นคาทอลิกคุณสามารถไปวัดไหนก็ได้ที่ใกล้บ้าน สามารถเปลี่ยนวัดที่ไปได้ตามแต่สะดวก

+โปรแตสแตนต์+

โปรแตสแตนทต์นั้น หลังจากการแยกนิกายในสมัยมาตินลูเธอร์ หลังจากนั้นได้มีการแยกนิกายย่อยอีกหลานิกาย ดังนั้นโบสถ์หรือคริสตจักรต่างๆ จะไม่ได้ขึ้นกับวาติกันหรือพระสันตะปาปาแต่อย่างใด

แต่สำหรับในประเทศไทย โปรแตสแตน แบ่งเป็น 4 สายใหญ่ๆ คือสายสภาคริสตจักรในประเทศไทย สายสหกิจคริสตจักร และสายสหแบ๊บติสท์ และ เซเวนเดย์แอดเวนทิสท์ และนอกจากนั้นมีคริสตชนที่ไม่มีสังกัด เรียกตัวเองว่าคริสตจักรอิสระ

เท่าที่ทราบมานั้น โบสถ์ใน 4 สายหลักนี้ จะมีโยงใยถึงกัน และมีการตั้งที่เป็นระบบระเบียบ มีการควบคุมดูแลความสอดคล้องในหลักข้อความเชื่อให้ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคริสตจักรที่ไม่มีที่มาที่ไปที่ตั้งขึ้นเอง ซึ่งก็ต้องระมัดระวังในหลักความถูกต้องต่างๆด้วยตัวเอง ทั้งผู้สอนและผู้เชื่อ

โปรแตสแตนต์ ไม่มีนักบวช แต่มีผู้ถวายตัวรับใช้พระเจ้า เรียกว่า ศาสนจารย์ /ศิษยาภิบาล และผู้ประกาศ ซึ่งอาจแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ การเรียกคำนำหน้าบุคคลเหล่านี้ จะเรียกว่า อาจารย์

โปรแตสแตนต์(โดยทั่วๆไป)จะไม่ให้ความสำคัญพิเศษกับพระนางมารีย์ หรือนักบุญ จะเน้นการเข้าถึงพระเยซูเจ้าโดยตรงด้วยตนเอง แต่สำหรับบางกลุ่มที่สนใจในเรื่องศาสนศาสตร์สตรี จะให้ความสำคัญกับพระนางมารีย์มากขึ้น ในฐานะแบบอย่างของสตรีคริสตชนที่ดี

สถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาของโปรแตสแตนต์เรียกว่าคริสตจักร ซึ่งคาทอลิคจะเรียกวัด

โดยทั่วไป เมื่อรับเชื่อที่โบสถ์ไหน ก็ต้องร่วมนมัสการที่โบสถ์นั้น

พิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์เรียกว่าพิธีนมัสการ


http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=2747


5 องค์กรคริสตศาสนา ที่ กรมศาสนารับรอง
1.โรมันคาทอลิก
2.สภาคริสตจักรในประเทศไทย
3.สหกิจคริสเตียน (รวมทั้งแองกลกัน ลูเธอรัน ออร์โธดอกซ์)
4.สหกิจคริสตจักรแบ๊บติสต์
5.เซเว่นเดย์แอดเวนติส

[Batholomew]

ขอพระอวยพรนะครับ ขอให้เข้านิกายที่คุณชอบนะครับ

[~KaThaRoS~]

ลองอธิษฐานภาวนาดูนะค่ะ
แล้วคุณก็จะรู้เองว่าคุณเหมาะกับทางไหน

[Dis volentibus]

ขอพระเจ้านำทางนะคะ 
ลองไปเรื่อยๆ ด้วยความไม่อคติ ค่าๆๆๆ

[Like a Heaven]

ท่านเจ้าของกระทู้เป็นนิสิตจุฬาฯป่ะคับ ถ้าใช่ เมล์มาคุยกันได้นะครับ ที่จุฬาฯมีพี่น้องความหวังเยอะมาก(ผมเองก็คนความหวังคนนึง  ^ ^)

pattarachat@hotmail.com

[Rakkypoko!]

ไปหลายๆที่ จาได้เจอที่ใช่

[Zaliaus]

เลือกคนที่รัก เลือกนิกายที่ชอบ นะคร๊าบ

แล้วก็มาเลือกวัดเลือกโบสถ์ที่พอใจ อีกทีคร๊าบบ 55+

[Mobster]

ผมว่าเราเลือกเองไม่ได้หรอก แต่พระเจ้าจะพาไปเอง โดยมีพระจิตเจ้าจะดลใจให้เอง

สิ่งสำคัญของพระเจ้าไม่ใช่ปาฏิหาริย์แต่คือหลักคำสอนของพระคริสต์ซึ่งทุกนิกายมีเหมือนกัน

[Buddy]

ผมว่าเราเลือกเองไม่ได้หรอก แต่พระเจ้าจะพาไปเอง โดยมีพระจิตเจ้าจะดลใจให้เอง

สิ่งสำคัญของพระเจ้าไม่ใช่ปาฏิหาริย์แต่คือหลักคำสอนของพระคริสต์ซึ่งทุกนิกายมีเหมือนกัน

เห็นด้วยนะว่า  เป็นการนำของพระ  เพราะพี่เองก็ไม่ได้ชอบคาทอลิกแต่แรก  รู้สึกว่า คร่ำครึ  คือพูดง่ายๆว่า  ไม่ใช่นิกายในฝันอะไรขนาดนั้น  มีโปรหลายคนมาประกาศ  เราเชื่อพระเจ้า  แต่รู้สึกว่า  ไม่ใช่  เค้าพูดถึงความรักของพระและอะไรอีกหลายอย่างที่ดีๆ  แต่เราก็รู้สึกว่า  ไม่ใช่ ... จนมาเจอคาทอลิกที่ทิ้งวัด  ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง  นั่งด่าพระให้ฟังนี่แหละ  ถึงได้เดินเข้าวัดคาทอลิกและศึกษาที่จะเป็นคริสต์อย่างจริงจัง  คือมันแปลกมากที่  เราว่าเราเห็นพระเยซูเจ้าในคาทอลิกคนนั้นที่นั่งด่าพระนี่แหละ  และรู้สึกว่า  มันมีอะไรดึงดูดเราอยู่  และเราอยู่ไม่ได้  ร้อนรนมาก  เราต้องไปหาพระองค์  เราต้องเป็นคริสต์ ...  มันแปลกมากที่  ยิ่งเค้าด่าพระ  เรายิ่งเห็นพระ  ไม่เคยคิดมาก่อนว่า  จะเปลี่ยนศาสนา  แต่ตอนนั้นมันอยู่ไม่ได้จริงๆ  ต้องเป็นคริสต์

การขอสัญญาณจากภายนอกก็เป็นทางนึงในการตัดสินใจนะคะ  แต่อยากให้ดูสัญญาณภายในมากกว่า  สิ่งที่ทุกนิกายเหมือนกันคือ  พระคัมภีร์  อยากให้ลองอ่านพระคัมภีร์ดูก่อนนะคะ (คิดว่าน่าจะมีแล้วนะคะ) โดยเฉพาะพระวรสารทั้ง 4 จะเป็นเรื่องราวของพระเยซูเจ้า 

ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก  ทางที่จะตามพระองค์ก็เป็นทางแห่งความรัก  เราต้องมีการตกหลุมรัก  มีการเลือกคนที่  "ใช่"  สำหรับเรา  และเมื่อจะเดินตามเค้าแล้ว  เราต้องไว้ใจเค้า  หลายครั้งเราจะถามว่า  ข้างหน้ามีอะไร  ไปกับพระองค์แล้ว  พระองค์อยู่ที่ไหน  นอนที่ไหน  อัครสาวกก็ถามเช่นกัน  พระเยซูเจ้าไม่ได้บอกอะไรมากนอกจาก  ตามเรามาแล้วจะเห็นเอง  ...  come and see ..  keep coming and you'll see...

อีกมุมที่อยากจะให้ การอยู่กับสิ่งที่ชอบ สิ่งที่เคยชิน บางครั้งก็ไม่ทำให้เราเปลี่ยนตัวเองได้  .... นอกจากความชอบแล้วเนี่ย  (ซึ่งเป็นการดูตัวเอง)  เราอาจดูว่า  ทางไหนที่ท้าทายเรา  ให้เราเดินไป  พระองค์ไม่ได้บอกอะไรเรามากนอกจากว่า  ทางที่ไปคือทางที่ตรงและแคบ  เป็นทางแห่งรัก  พระองค์จะท้าทายเราให้ก้าวไปหาพระองค์ในทุกขณะ  และพระองค์จะเปลี่ยนเรา  ให้เราเหมือนพระองค์

เลือกทางที่พระองค์ท้าทายเราได้นะคะ  ทางที่ทำให้เราสามารถทำสิ่งที่เราไม่คิดจะทำได้  ทางที่ทำให้เรารักมากขึ้น  การตกหลุมรักเป็นสิ่งที่น่ากลัวของหลายคน  เพราะมันเป็นสภาพที่เราไม่เป็นตัวเอง  เราคุมไม่ได้  แต่ขอให้รู้ไว้ว่า  พระเป็นเจ้าจะทำงานกับเราได้ดีที่สุดเมื่อเราตกหลุมรัก  เมื่อเราอยู่ในทางแห่งรัก ... เพราะสิ่งที่ทำให้คนเปลี่ยนได้คือ  ความรัก ไม่ใช่ความชอบหรือความคุ้นเคย

สวดขอพระนะคะ  และอ่านพระคัมภีร์  ให้เวลากับพระองค์และกับตัวเองค่ะ 

[-Rei-]

อยากให้ลองไปดูพิธี และ ไปศึกษาแนวทางคำสอนก่อนหลายๆ ที่
แล้วดูว่าที่ไหนทำให้เรารู้สึกเข้าใกล้พระเจ้าได้มากที่สุดค่ะ

ถ้าสนใจโปรฯ สายสภาคริสตจักรในประเทศไทย
ติดต่อเรย์ได้ค่ะ ยินดีจะช่วยดูแล แนะนำโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ
มาดูได้ที่คริสตจักรวัฒนา สุดซอยสุขุมวิท 19
นั่งบีทีเอสมาสถานีอโศกค่ะ

นมัสการ 10.00-12.00 ของทุกวันอาทิตย์ค่ะ

จะไปอีกทีวันที่ 6 มกรา ค่ะ

[anakin]

ผมว่าเราเลือกเองไม่ได้หรอก แต่พระเจ้าจะพาไปเอง โดยมีพระจิตเจ้าจะดลใจให้เอง

สิ่งสำคัญของพระเจ้าไม่ใช่ปาฏิหาริย์แต่คือหลักคำสอนของพระคริสต์ซึ่งทุกนิกายมีเหมือนกัน

เห็นด้วยนะว่า  เป็นการนำของพระ  เพราะพี่เองก็ไม่ได้ชอบคาทอลิกแต่แรก  รู้สึกว่า คร่ำครึ  คือพูดง่ายๆว่า  ไม่ใช่นิกายในฝันอะไรขนาดนั้น   มีโปรหลายคนมาประกาศ  เราเชื่อพระเจ้า  แต่รู้สึกว่า  ไม่ใช่  เค้าพูดถึงความรักของพระและอะไรอีกหลายอย่างที่ดีๆ  แต่เราก็รู้สึกว่า  ไม่ใช่ ... จนมาเจอคาทอลิกที่ทิ้งวัด  ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง  นั่งด่าพระให้ฟังนี่แหละ  ถึงได้เดินเข้าวัดคาทอลิกและศึกษาที่จะเป็นคริสต์อย่างจริงจัง  คือมันแปลกมากที่  เราว่าเราเห็นพระเยซูเจ้าในคาทอลิกคนนั้นที่นั่งด่าพระนี่แหละ  และรู้สึกว่า  มันมีอะไรดึงดูดเราอยู่  และเราอยู่ไม่ได้  ร้อนรนมาก  เราต้องไปหาพระองค์  เราต้องเป็นคริสต์ ...  มันแปลกมากที่  ยิ่งเค้าด่าพระ  เรายิ่งเห็นพระ  ไม่เคยคิดมาก่อนว่า  จะเปลี่ยนศาสนา  แต่ตอนนั้นมันอยู่ไม่ได้จริงๆ  ต้องเป็นคริสต์

การขอสัญญาณจากภายนอกก็เป็นทางนึงในการตัดสินใจนะคะ  แต่อยากให้ดูสัญญาณภายในมากกว่า  สิ่งที่ทุกนิกายเหมือนกันคือ   พระคัมภีร์  อยากให้ลองอ่านพระคัมภีร์ดูก่อนนะคะ (คิดว่าน่าจะมีแล้วนะคะ) โดยเฉพาะพระวรสารทั้ง 4 จะเป็นเรื่องราวของพระเยซูเจ้า 

ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก  ทางที่จะตามพระองค์ก็เป็นทางแห่งความรัก  เราต้องมีการตกหลุมรัก  มีการเลือกคนที่  "ใช่"  สำหรับเรา  และเมื่อจะเดินตามเค้าแล้ว  เราต้องไว้ใจเค้า  หลายครั้งเราจะถามว่า  ข้างหน้ามีอะไร  ไปกับพระองค์แล้ว  พระองค์อยู่ที่ไหน  นอนที่ไหน  อัครสาวกก็ถามเช่นกัน  พระเยซูเจ้าไม่ได้บอกอะไรมากนอกจาก  ตามเรามาแล้วจะเห็นเอง  ...  come and see ..  keep coming and you'll see...

อีกมุมที่อยากจะให้ การอยู่กับสิ่งที่ชอบ สิ่งที่เคยชิน บางครั้งก็ไม่ทำให้เราเปลี่ยนตัวเองได้  .... นอกจากความชอบแล้วเนี่ย  (ซึ่งเป็นการดูตัวเอง)  เราอาจดูว่า  ทางไหนที่ท้าทายเรา  ให้เราเดินไป  พระองค์ไม่ได้บอกอะไรเรามากนอกจากว่า  ทางที่ไปคือทางที่ตรงและแคบ  เป็นทางแห่งรัก   พระองค์จะท้าทายเราให้ก้าวไปหาพระองค์ในทุกขณะ  และพระองค์จะเปลี่ยนเรา  ให้เราเหมือนพระองค์

เลือกทางที่พระองค์ท้าทายเราได้นะคะ  ทางที่ทำให้เราสามารถทำสิ่งที่เราไม่คิดจะทำได้  ทางที่ทำให้เรารักมากขึ้น  การตกหลุมรักเป็นสิ่งที่น่ากลัวของหลายคน  เพราะมันเป็นสภาพที่เราไม่เป็นตัวเอง  เราคุมไม่ได้  แต่ขอให้รู้ไว้ว่า   พระเป็นเจ้าจะทำงานกับเราได้ดีที่สุดเมื่อเราตกหลุมรัก  เมื่อเราอยู่ในทางแห่งรัก ... เพราะสิ่งที่ทำให้คนเปลี่ยนได้คือ  ความรัก ไม่ใช่ความชอบหรือความคุ้นเคย

สวดขอพระนะคะ   และอ่านพระคัมภีร์  ให้เวลากับพระองค์และกับตัวเองค่ะ   ::001::

เป็น ด้วยอย่าง แรงครับผม มะก่อน ผมก็อยู่ที่ โฮปนี่ แหละแต่รู้สึกว่าไม่ใช่ จนเวลาผ่านไปเมื่อประมาณ สี่ห้าปีก่อน มีเพื่อนชวนไปงานคริสมาส ที่อัสสัม เนื่องจากวันนี้ ที่โบสผมไม่มีงานก็ เลยไป แล้วรู้สึกดีนะครับ เวลาผ่านไปไม่รู้ว่า ประมาณเดือนพฤศจิกา ที่ผ่านมาผมรู้สึกคิดถึงพระเจ้ามาก คิดถึงอย่างแรง แล้วผมก็ต่อเนต ลองค้นหาคำต่าง ๆ เกี่ยวกับพระเจ้า จนมาเจอบอร์ดนี้  แล้วพระเจ้าก็นำผมไปในทางที่พระองค์จัดเตรียมไว้ให้ ตอนนี้ผมเรียนคำสอนอยู่ที่วัดมหาไถ่ ครับ

พระเจ้ามีวิธีที่พระองค์จะทรงเรียกเราในรูปแบบที่แตกต่าง กันออกไป ครับผม

[Like a Heaven]

ผมว่าเราเลือกเองไม่ได้หรอก แต่พระเจ้าจะพาไปเอง โดยมีพระจิตเจ้าจะดลใจให้เอง

สิ่งสำคัญของพระเจ้าไม่ใช่ปาฏิหาริย์แต่คือหลักคำสอนของพระคริสต์ซึ่งทุกนิกายมีเหมือนกัน

เห็นด้วยนะว่า  เป็นการนำของพระ  เพราะพี่เองก็ไม่ได้ชอบคาทอลิกแต่แรก  รู้สึกว่า คร่ำครึ  คือพูดง่ายๆว่า  ไม่ใช่นิกายในฝันอะไรขนาดนั้น   มีโปรหลายคนมาประกาศ  เราเชื่อพระเจ้า  แต่รู้สึกว่า  ไม่ใช่  เค้าพูดถึงความรักของพระและอะไรอีกหลายอย่างที่ดีๆ  แต่เราก็รู้สึกว่า  ไม่ใช่ ... จนมาเจอคาทอลิกที่ทิ้งวัด  ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง  นั่งด่าพระให้ฟังนี่แหละ  ถึงได้เดินเข้าวัดคาทอลิกและศึกษาที่จะเป็นคริสต์อย่างจริงจัง  คือมันแปลกมากที่  เราว่าเราเห็นพระเยซูเจ้าในคาทอลิกคนนั้นที่นั่งด่าพระนี่แหละ  และรู้สึกว่า  มันมีอะไรดึงดูดเราอยู่  และเราอยู่ไม่ได้  ร้อนรนมาก  เราต้องไปหาพระองค์  เราต้องเป็นคริสต์ ...  มันแปลกมากที่  ยิ่งเค้าด่าพระ  เรายิ่งเห็นพระ  ไม่เคยคิดมาก่อนว่า  จะเปลี่ยนศาสนา  แต่ตอนนั้นมันอยู่ไม่ได้จริงๆ  ต้องเป็นคริสต์

การขอสัญญาณจากภายนอกก็เป็นทางนึงในการตัดสินใจนะคะ  แต่อยากให้ดูสัญญาณภายในมากกว่า  สิ่งที่ทุกนิกายเหมือนกันคือ   พระคัมภีร์  อยากให้ลองอ่านพระคัมภีร์ดูก่อนนะคะ (คิดว่าน่าจะมีแล้วนะคะ) โดยเฉพาะพระวรสารทั้ง 4 จะเป็นเรื่องราวของพระเยซูเจ้า 

ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก  ทางที่จะตามพระองค์ก็เป็นทางแห่งความรัก  เราต้องมีการตกหลุมรัก  มีการเลือกคนที่  "ใช่"  สำหรับเรา  และเมื่อจะเดินตามเค้าแล้ว  เราต้องไว้ใจเค้า  หลายครั้งเราจะถามว่า  ข้างหน้ามีอะไร  ไปกับพระองค์แล้ว  พระองค์อยู่ที่ไหน  นอนที่ไหน  อัครสาวกก็ถามเช่นกัน  พระเยซูเจ้าไม่ได้บอกอะไรมากนอกจาก  ตามเรามาแล้วจะเห็นเอง  ...  come and see ..  keep coming and you'll see...

อีกมุมที่อยากจะให้ การอยู่กับสิ่งที่ชอบ สิ่งที่เคยชิน บางครั้งก็ไม่ทำให้เราเปลี่ยนตัวเองได้  .... นอกจากความชอบแล้วเนี่ย  (ซึ่งเป็นการดูตัวเอง)  เราอาจดูว่า  ทางไหนที่ท้าทายเรา  ให้เราเดินไป  พระองค์ไม่ได้บอกอะไรเรามากนอกจากว่า  ทางที่ไปคือทางที่ตรงและแคบ  เป็นทางแห่งรัก   พระองค์จะท้าทายเราให้ก้าวไปหาพระองค์ในทุกขณะ  และพระองค์จะเปลี่ยนเรา  ให้เราเหมือนพระองค์

เลือกทางที่พระองค์ท้าทายเราได้นะคะ  ทางที่ทำให้เราสามารถทำสิ่งที่เราไม่คิดจะทำได้  ทางที่ทำให้เรารักมากขึ้น  การตกหลุมรักเป็นสิ่งที่น่ากลัวของหลายคน  เพราะมันเป็นสภาพที่เราไม่เป็นตัวเอง  เราคุมไม่ได้  แต่ขอให้รู้ไว้ว่า   พระเป็นเจ้าจะทำงานกับเราได้ดีที่สุดเมื่อเราตกหลุมรัก  เมื่อเราอยู่ในทางแห่งรัก ... เพราะสิ่งที่ทำให้คนเปลี่ยนได้คือ  ความรัก ไม่ใช่ความชอบหรือความคุ้นเคย

สวดขอพระนะคะ   และอ่านพระคัมภีร์  ให้เวลากับพระองค์และกับตัวเองค่ะ   ::001::

เป็น ด้วยอย่าง แรงครับผม มะก่อน ผมก็อยู่ที่ โฮปนี่ แหละแต่รู้สึกว่าไม่ใช่ จนเวลาผ่านไปเมื่อประมาณ สี่ห้าปีก่อน มีเพื่อนชวนไปงานคริสมาส ที่อัสสัม เนื่องจากวันนี้ ที่โบสผมไม่มีงานก็ เลยไป แล้วรู้สึกดีนะครับ เวลาผ่านไปไม่รู้ว่า ประมาณเดือนพฤศจิกา ที่ผ่านมาผมรู้สึกคิดถึงพระเจ้ามาก คิดถึงอย่างแรง แล้วผมก็ต่อเนต ลองค้นหาคำต่าง ๆ เกี่ยวกับพระเจ้า จนมาเจอบอร์ดนี้  แล้วพระเจ้าก็นำผมไปในทางที่พระองค์จัดเตรียมไว้ให้ ตอนนี้ผมเรียนคำสอนอยู่ที่วัดมหาไถ่ ครับ

พระเจ้ามีวิธีที่พระองค์จะทรงเรียกเราในรูปแบบที่แตกต่าง กันออกไป ครับผม

สวัสดีครับพี่น้องความหวัง  ผมก็คนความหวังครับ แต่ตอนนี้เรียนคำสอนแบบหนึ่งต่อหนึ่งกะพระสงฆ์ใจดีท่านหนึ่งที่มหาไถ่เช่นเดียวกันครับ

ไม่รุทำไมอยู่ๆก็อยากศึกษาคาทอลิกขึ้นมาซะอย่างนั้น ^ ^"

[anakin]

เห็นด้วยนะว่า  เป็นการนำของพระ  เพราะพี่เองก็ไม่ได้ชอบคาทอลิกแต่แรก  รู้สึกว่า คร่ำครึ  คือพูดง่ายๆว่า  ไม่ใช่นิกายในฝันอะไรขนาดนั้น   มีโปรหลายคนมาประกาศ  เราเชื่อพระเจ้า  แต่รู้สึกว่า  ไม่ใช่  เค้าพูดถึงความรักของพระและอะไรอีกหลายอย่างที่ดีๆ  แต่เราก็รู้สึกว่า  ไม่ใช่ ... จนมาเจอคาทอลิกที่ทิ้งวัด  ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง  นั่งด่าพระให้ฟังนี่แหละ  ถึงได้เดินเข้าวัดคาทอลิกและศึกษาที่จะเป็นคริสต์อย่างจริงจัง  คือมันแปลกมากที่  เราว่าเราเห็นพระเยซูเจ้าในคาทอลิกคนนั้นที่นั่งด่าพระนี่แหละ  และรู้สึกว่า  มันมีอะไรดึงดูดเราอยู่  และเราอยู่ไม่ได้  ร้อนรนมาก  เราต้องไปหาพระองค์  เราต้องเป็นคริสต์ ...  มันแปลกมากที่  ยิ่งเค้าด่าพระ  เรายิ่งเห็นพระ  ไม่เคยคิดมาก่อนว่า  จะเปลี่ยนศาสนา  แต่ตอนนั้นมันอยู่ไม่ได้จริงๆ  ต้องเป็นคริสต์

การขอสัญญาณจากภายนอกก็เป็นทางนึงในการตัดสินใจนะคะ  แต่อยากให้ดูสัญญาณภายในมากกว่า  สิ่งที่ทุกนิกายเหมือนกันคือ   พระคัมภีร์  อยากให้ลองอ่านพระคัมภีร์ดูก่อนนะคะ (คิดว่าน่าจะมีแล้วนะคะ) โดยเฉพาะพระวรสารทั้ง 4 จะเป็นเรื่องราวของพระเยซูเจ้า 

ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก  ทางที่จะตามพระองค์ก็เป็นทางแห่งความรัก  เราต้องมีการตกหลุมรัก  มีการเลือกคนที่  "ใช่"  สำหรับเรา  และเมื่อจะเดินตามเค้าแล้ว  เราต้องไว้ใจเค้า  หลายครั้งเราจะถามว่า  ข้างหน้ามีอะไร  ไปกับพระองค์แล้ว  พระองค์อยู่ที่ไหน  นอนที่ไหน  อัครสาวกก็ถามเช่นกัน  พระเยซูเจ้าไม่ได้บอกอะไรมากนอกจาก  ตามเรามาแล้วจะเห็นเอง  ...  come and see ..  keep coming and you'll see...

อีกมุมที่อยากจะให้ การอยู่กับสิ่งที่ชอบ สิ่งที่เคยชิน บางครั้งก็ไม่ทำให้เราเปลี่ยนตัวเองได้  .... นอกจากความชอบแล้วเนี่ย  (ซึ่งเป็นการดูตัวเอง)  เราอาจดูว่า  ทางไหนที่ท้าทายเรา  ให้เราเดินไป  พระองค์ไม่ได้บอกอะไรเรามากนอกจากว่า  ทางที่ไปคือทางที่ตรงและแคบ  เป็นทางแห่งรัก   พระองค์จะท้าทายเราให้ก้าวไปหาพระองค์ในทุกขณะ  และพระองค์จะเปลี่ยนเรา  ให้เราเหมือนพระองค์

เลือกทางที่พระองค์ท้าทายเราได้นะคะ  ทางที่ทำให้เราสามารถทำสิ่งที่เราไม่คิดจะทำได้  ทางที่ทำให้เรารักมากขึ้น  การตกหลุมรักเป็นสิ่งที่น่ากลัวของหลายคน  เพราะมันเป็นสภาพที่เราไม่เป็นตัวเอง  เราคุมไม่ได้  แต่ขอให้รู้ไว้ว่า   พระเป็นเจ้าจะทำงานกับเราได้ดีที่สุดเมื่อเราตกหลุมรัก  เมื่อเราอยู่ในทางแห่งรัก ... เพราะสิ่งที่ทำให้คนเปลี่ยนได้คือ  ความรัก ไม่ใช่ความชอบหรือความคุ้นเคย

สวดขอพระนะคะ   และอ่านพระคัมภีร์  ให้เวลากับพระองค์และกับตัวเองค่ะ   ::001::

เป็น ด้วยอย่าง แรงครับผม มะก่อน ผมก็อยู่ที่ โฮปนี่ แหละแต่รู้สึกว่าไม่ใช่ จนเวลาผ่านไปเมื่อประมาณ สี่ห้าปีก่อน มีเพื่อนชวนไปงานคริสมาส ที่อัสสัม เนื่องจากวันนี้ ที่โบสผมไม่มีงานก็ เลยไป แล้วรู้สึกดีนะครับ เวลาผ่านไปไม่รู้ว่า ประมาณเดือนพฤศจิกา ที่ผ่านมาผมรู้สึกคิดถึงพระเจ้ามาก คิดถึงอย่างแรง แล้วผมก็ต่อเนต ลองค้นหาคำต่าง ๆ เกี่ยวกับพระเจ้า จนมาเจอบอร์ดนี้  แล้วพระเจ้าก็นำผมไปในทางที่พระองค์จัดเตรียมไว้ให้ ตอนนี้ผมเรียนคำสอนอยู่ที่วัดมหาไถ่ ครับ

พระเจ้ามีวิธีที่พระองค์จะทรงเรียกเราในรูปแบบที่แตกต่าง กันออกไป ครับผม

สวัสดีครับพี่น้องความหวัง  ผมก็คนความหวังครับ แต่ตอนนี้เรียนคำสอนแบบหนึ่งต่อหนึ่งกะพระสงฆ์ใจดีท่านหนึ่งที่มหาไถ่เช่นเดียวกันครับ

ไม่รุทำไมอยู่ๆก็อยากศึกษาคาทอลิกขึ้นมาซะอย่างนั้น ^ ^"

เรียนคำสอนกะคุณพ่อท่านไหน เหรอ ครับผม anakinjr54@hotmail.com แอดมาคุยกันหน่อยจิ เผื่อรู้จักกันไว้

[Like a Heaven]

^
^
^
^
^

ของผมกะของท่านน่าจะท่านเดียวกันนะครับ

ผมเรียนกะคุณพ่อพิชาญครับผม เจอกันอาทิตย์ละครั้ง ไม่พุธก็พฤหัสบดีครับผม

พ่อบอกว่าไม่เกินสามเดือนท่านก็ล้างให้ผมได้แต่ผมไม่เอาอ่ะครับ ผมกะรอเรียนแบบเทคคลาสหนึ่งปีให้เรียบร้อยดีกว่า ได้ชุมชนด้วย ได้ประสบการณ์แบบคาทอลิกๆด้วย

เอ้อ...ผมอยู่สถานนมัสการคลองเตยนะครับ วันอาทิตย์บ่ายๆไม่แน่อาจจะเจอกันในรอบก็ได้นะ ผมนั่งในโซนCUแถวหน้าสุด(แถวผู้ชาย)อ่ะครับ หน้าหอการค้า ข้างๆกะธรรมศาสตร์

[anakin]

เด่วนี้ ปมไม่ได้ไป แล้วครับ ผมไปแต่วัดพระมหาไถ่ครับผม
มะก่อน ก็ คลองเตย เหมือน กันครับ

[Like a Heaven]

เด่วนี้ ปมไม่ได้ไป แล้วครับ ผมไปแต่วัดพระมหาไถ่ครับผม
มะก่อน ก็ คลองเตย เหมือน กันครับ

โอ้ว....สถานนมัสการเดียวกันอีก

ตอนนี้ส่วนเอนจีพี(โปรเฟสเก่า)ย้ายไปนั่งหน้าเวทีแล้วอ่ะครับ นมัสการทีแด้นซ์กระจายได้มันส์กว่าเก่าเยอะเลย

ในขณะที่ส่วนซีก้อยังอยู่ข้างเวทีเหมือนเดิม....เบียดๆ T T.....นมัสการอยู่แดนซ์ๆอยู่มือไปตบเอาหัวพี่น้องข้างๆบ่อยมาก ^ ^"

[In the name of father]

แล้วคำสอนที่แตกต่างกันนี่มันจะมีผลรึเปล่าครับ คือว่าผมเคยเห็นคริสเตียนเขาเถียงกับคริสตัวค์เรื่องความเชื่ออะครับ ไม่รู้จะวางตัวกับเรื่องนี้ยังไง

ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นคริส แต่เรียนคำสอนจากหนังสือจนแม่บอกว่าเดี๋ยวช่วงปิดเทอมพาไปเปลี่ยน

[Batholomew]

แล้วคำสอนที่แตกต่างกันนี่มันจะมีผลรึเปล่าครับ คือว่าผมเคยเห็นคริสเตียนเขาเถียงกับคริสตัวค์เรื่องความเชื่ออะครับ ไม่รู้จะวางตัวกับเรื่องนี้ยังไง

ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นคริส แต่เรียนคำสอนจากหนังสือจนแม่บอกว่าเดี๋ยวช่วงปิดเทอมพาไปเปลี่ยน

ความแตกต่างมีผลอยู่แล้วครับ อยู่ที่เราเองต่างหากว่าจะวางตัวแตกต่างด้วยหรือเปล่า

เพราะเท่าที่เห็น บางคน ถึงเราคนละนิกาย แต่เราก็สามารถที่จะสนิทและรักกันได้ เพราะเรามองเรื่องความรักของพระเป็นหลักครับ

แต่บางคน ก็วางตัวแตกต่างไปเลย

ขอพระอวยพรครับ

[yuki]

ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นคริส แต่เรียนคำสอนจากหนังสือจนแม่บอกว่าเดี๋ยวช่วงปิดเทอมพาไปเปลี่ยน

เพิ่งเคยเจอน่ะค่ะ แม่พาลูกไปเปลี่ยนศาสนา ไม่เคยเจอค่ะ
ส่วนมากเห็นเจอแต่แนวค้านอ่ะ
ศึกษาดูน่ะคะ เลือกที่เข้ากับตัวเราน่ะค่ะขอพระนำทาง
ส่วนพี่เลือกคาทอลิกเพราะรักแม่พระค่ะ (ไม่ใช่ไม่รักพระเยซูและพระบิดาน่ะค่ะ)
แต่ศาสนจักรคาทอลิกในความรู้สึกพี่มีความเป็นครอบครัวมากเลยค่ะ แต่เป็นครอบครัวที่เค้าเฝ้ามองเราจากบนสวรรค์น่ะค่ะ(เหล่านักบุญไง)
ความเป็นครอบครัวอีกอย่างน่ะค่ะ คือการที่ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในโลกเราเข้าวัดคาทอลิกได้ทุกที่ค่ะ พี่อยู่ขอนแก่นพี่ไป 2 วัด สนิทกะคุณพ่อทั้งสองวัด
พี่ไป กทม. พี่ก็ไปทัวร์วัดเลยค่ะ ทั้งเซนต์จอห์น วัดพระมหาไถ่ วัดแม่พระฟาติมา ไม่เบื่อดีน่ะค่ะเปลี่ยนบรรยากาศเรื่อยๆ รู้จักผู้คนมากขึ้นด้วยล่ะ

[Alphonse]

เลือกตามที่คุณชอบ
และเป็นตัวของคุณมากที่สุดครับ...

[In the name of father]

ขอบคุณครับ

[Immanuel (MichaelPaul)]

คงต้องขอบคุณ โบสถ์ ความหวัง แล้วล่ะมั้งเพราะว่าโบสถ์แรกที่ผมเข้าก็ความหวังคลองเตยเนี่ยแหละครับ ปัจจุบัน คาทอลิค ครับ ^^

[Batholomew]

ส่วนพี่เลือกคาทอลิกเพราะรักแม่พระค่ะ (ไม่ใช่ไม่รักพระเยซูและพระบิดาน่ะค่ะ)

ขอแสดงความเห็นเรื่องนี้นิดนึงนะครับ

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นคาทอลิกเพราะแม่พระทรงนำทางผมมาหาพระครับ

ดังนั้น จุดประสงค์ใหญ่ของคาทอลิค คือ แม่พระทรงนำเราให้รักพระครับ ยังไงก็แล้วแต่พระเป็นเจ้าทรงมาเป็นอันดับแรก

ผมขออนุญาตแสดงความเห็นด้วยความเคารพนะครับ

เพราะเกรงว่าจะสะดุดกับพี่น้องท่านอื่น ที่อาจจะไม่เข้าใจว่า คาทอลิกรักและให้เกียรติแม่พระมากกว่าพระหรือเปล่านะครับ

ขอพระอวยพรครับ