หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ประสบการณ์การสอบ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 12:15 pm
โดย Florian
ข้าพเจ้าใคร่จักแบ่งปันประสบการณ์การสอบไว้เพื่อให้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเป็นข้อมูลเผื่อไว้ใช้อ้างอิงสืบไปในอนาคต

ถ้าใครจำเป็นต้องสอบในลักษณะเดียวกับข้าพเจ้า ก็สามารถศึกษาข้อมูลขั้นต้นได้จากที่นี่  : xemo026 :

CU-TEP

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 12:35 pm
โดย Florian
ข้าพเจ้าใคร่จักรู้ความสามารถภาษาอังกฤษของตนเอง จึงสมัครสอบซียู-เทพ ของสำนักจุฬาฯ อันเป็นการสอบครั้งที่สอง (ครั้งแรกสอบไปเมื่อหลายปีก่อน ได้คะแนนประมาณ 580)

วิธีการสมัครให้เข้าไปที่ www.atc.chula.ac.th ของศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงทะเบียน แล้วจ่ายเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์หรือธนาคารไทยธนาคารเท่านั้น  ค่าสมัครสอบ 400 บาท : emo045 :

การสมัครนั้นจะสมัครมั่วๆก็ไม่ได้ ต้องสมัครตามกำหนดเวลาที่แจ้งไว้ให้ทราบในเว็บฯ ชำระเงินก็ต้องชำระตามเวลาอีกเช่นกัน  : emo080 :

สมัครเสร็จก็นั่งรอ จนเวลากำหนดมาถึง ก็เข้าไปเช็กในเว็บหน่อยซิว่า ประกาศสนามสอบแล้วหรือยัง สนามสอบของซียู-เทพนั้น จะใช้อาคารของคณะต่างๆในจุฬาฯ ของข้าพเจ้ารอบก่อนเคยไปสอบที่ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ รอบนี้สอบที่อาคารจุฬาพัฒน์ 4 เห็นชื่อครั้งแรกก็เป็นงง ไม่รู้อยู่ตรงไหน ด้วยความที่ข้าพเจ้าเป็นคนที่ถ้ามีสอบต้องไปดูสนามสอบก่อนเป็นนิจศีล เพราะวันสอบคนเยอะ หลายคนรวย ขับรถมาสอบ คน+รถ ยิ่งเยอะหนักกว่าเดิม การจะไปวิ่งผลัดสี่คูณร้อยหาห้องสอบก็มิใช่วิสัย จึงต้องไปเซอร์เวย์ดูก่อนซิว่า อาคารจุฬาพัฒน์ 4 ที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน  : xemo028 :

เมื่อสบโอกาส ข้าพเจ้าก็ตุหรัดตุเหร่ไปตามที่แผนที่ในเว็บบอกไว้ กว่าจะเจอ ข้าพเจ้าก็อ้อมไปอ้อมมาโดยใช่เหตุ หืดขึ้นคอทีเดียว สุดท้ายก็มาพบว่า อ้อ อยู่ที่คณะสหเวชศาสตร์นี่เอง โดยแท้ที่จริงแล้ว ไปไม่ยากเลย วิธีการไปที่ง่ายที่สุดก็คือ นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ หรือรถเมล์ก็ได้ โดยลงที่ป้ายรถเมล์ตรงใต้สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วก็เดินเข้าประตูเหล็กขนาดใหญ่ของสนามกีฬาที่เปิดแง้มแย้มไว้ให้คนเดินผ่าน เดินไปจนถึงประตูชั้นใน จะมีหมู่อาคารของคณะสหเวชศาสตร์ เลี้ยวซ้าย จะเป็นอาคารจุฬาพัฒน์ 2 ก็เดินต่อไปอีกหน่อย ก็จะเป็นอาคารจุฬาพัฒน์ 4 ข้าพเจ้าสอบชั้นสอง วันที่ไปเซอร์เวย์นั้น มีนิสิตจุฬาฯยืนกันแออัดยัดเยียด สอบปลายภาคนั่นเอง ข้าพเจ้าก็ดุ่มๆเดินต่อไป จนเห็นสนามสอบแล้วก็กลับบ้าน

วันสอบจริง สอบวันอาทิตย์รอบเช้า ข้าพเจ้าก็ต้องไปเข้าวัดร่วมมิสซาก่อนให้เรียบร้อย พอเสร็จสรรพก็ไปสอบ ในการสอบจะมีสามส่วน (1) การฟัง (2) การอ่าน และ (3) การเขียน

(1) การฟัง จะให้ฟังบทสนทนาและบทพูดแล้วเลือกคำตอบที่ถูกต้อง เนื่องจากคณะสหเวชศาสตร์ตั้งอยู่ริมถนนใกล้ๆมาบุญครอง มีตุ๊กๆแล่นผ่านบ่อยมาก ส่งเสียงรบกวน ต้องพยายามตั้งสติฟังเสียงที่เปิดให้ฟังดีๆ ไม่งั้นแทนที่จะได้ยินเนื้อหา จะได้ยินแต่เสียงตุ๊กๆแทน อนึ่ง ถ้ามีให้เสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดการการสอบ ข้าพเจ้าจะเสนอให้กั้นรั้วห้ามตุ๊กๆผ่านถนนข้างตึก เพราะไม่เคยเห็นตุ๊กๆคันแล่นโดยไม่มีเสียงอึกทึกเลยสักคัน สอบเสร็จค่อยปล่อยวิ่งตามปกติ อิ อิ  ส่วนนี้ข้าพเจ้าฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ฟังได้ยินเนื้อหาบ้าง ฟังได้ยินเสียงตุ๊กๆบ้าง มั่วบ้าง มั่น(ใจ)บ้าง ระคนกันไป ::011::

(2) การอ่าน ส่วนนี้ ข้าพเจ้าทำด้วยความมั่นใจ แต่อาจด้วยความที่ต้องการความมั่นใจเกิดพิกัด อ่านแล้วอ่านอีก อ่านอีกก็อ่านแล้ว พินิจพิเคราะห์อยู่นาน ทำให้อ่านเรื่องสุดท้ายไม่ทัน กรรมการเก็บกระดาษคำถามไป ทำให้ต้องฝนคำตอบมั่ว เสียดายมาก  ::008::

(3) การเขียน ส่วนนี้ ก็คือการหาคำตอบที่เป็น"ประเด็นที่ผิดไวยากรณ์" ข้าพเจ้าพอทำได้(มั้ง) เลยทำเสร็จก่อนเวลาเล็กน้อย นั่งนก นั่งสับเงารอกรรมการปล่อยจากห้องสอบ  ::006::

บรรยากาศในการสอบน่าเบื่อ เพราะผู้คนต่างคนต่างมา ต่างคนต่างกลับ ไม่พูดไม่คุยกับเลย หน้าหงิก เหมือนไม่อยากรู้จักมักจี่อะไรกัน เวลาเห็นหน้าผู้ร่วมสอบ ก็ทำหน้าเหมือนกับเห็นหน้าก้อนกรวดก้อนดินก้อนทราย เซ็งเป็ดดดดด  : emo031 :

ขณะนี้ ข้าพเจ้ากำลังรอผลการสอบ แล้วจะมารายงานให้ท่านทั้งหลายทราบสืบไป  : emo045 :

Re: CU-TEP

โพสต์แล้ว: เสาร์ มี.ค. 01, 2008 4:42 pm
โดย Florian
Florian เขียน: ข้าพเจ้าใคร่จักรู้ความสามารถภาษาอังกฤษของตนเอง จึงสมัครสอบซียู-เทพ ของสำนักจุฬาฯ อันเป็นการสอบครั้งที่สอง (ครั้งแรกสอบไปเมื่อหลายปีก่อน ได้คะแนนประมาณ 580)

วิธีการสมัครให้เข้าไปที่ www.atc.chula.ac.th ของศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงทะเบียน แล้วจ่ายเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์หรือธนาคารไทยธนาคารเท่านั้น  ค่าสมัครสอบ 400 บาท : emo045 :

การสมัครนั้นจะสมัครมั่วๆก็ไม่ได้ ต้องสมัครตามกำหนดเวลาที่แจ้งไว้ให้ทราบในเว็บฯ ชำระเงินก็ต้องชำระตามเวลาอีกเช่นกัน  : emo080 :

สมัครเสร็จก็นั่งรอ จนเวลากำหนดมาถึง ก็เข้าไปเช็กในเว็บหน่อยซิว่า ประกาศสนามสอบแล้วหรือยัง สนามสอบของซียู-เทพนั้น จะใช้อาคารของคณะต่างๆในจุฬาฯ ของข้าพเจ้ารอบก่อนเคยไปสอบที่ตึกของคณะวิทยาศาสตร์ รอบนี้สอบที่อาคารจุฬาพัฒน์ 4 เห็นชื่อครั้งแรกก็เป็นงง ไม่รู้อยู่ตรงไหน ด้วยความที่ข้าพเจ้าเป็นคนที่ถ้ามีสอบต้องไปดูสนามสอบก่อนเป็นนิจศีล เพราะวันสอบคนเยอะ หลายคนรวย ขับรถมาสอบ คน+รถ ยิ่งเยอะหนักกว่าเดิม การจะไปวิ่งผลัดสี่คูณร้อยหาห้องสอบก็มิใช่วิสัย จึงต้องไปเซอร์เวย์ดูก่อนซิว่า อาคารจุฬาพัฒน์ 4 ที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน  : xemo028 :

เมื่อสบโอกาส ข้าพเจ้าก็ตุหรัดตุเหร่ไปตามที่แผนที่ในเว็บบอกไว้ กว่าจะเจอ ข้าพเจ้าก็อ้อมไปอ้อมมาโดยใช่เหตุ หืดขึ้นคอทีเดียว สุดท้ายก็มาพบว่า อ้อ อยู่ที่คณะสหเวชศาสตร์นี่เอง โดยแท้ที่จริงแล้ว ไปไม่ยากเลย วิธีการไปที่ง่ายที่สุดก็คือ นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ หรือรถเมล์ก็ได้ โดยลงที่ป้ายรถเมล์ตรงใต้สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วก็เดินเข้าประตูเหล็กขนาดใหญ่ของสนามกีฬาที่เปิดแง้มแย้มไว้ให้คนเดินผ่าน เดินไปจนถึงประตูชั้นใน จะมีหมู่อาคารของคณะสหเวชศาสตร์ เลี้ยวซ้าย จะเป็นอาคารจุฬาพัฒน์ 2 ก็เดินต่อไปอีกหน่อย ก็จะเป็นอาคารจุฬาพัฒน์ 4 ข้าพเจ้าสอบชั้นสอง วันที่ไปเซอร์เวย์นั้น มีนิสิตจุฬาฯยืนกันแออัดยัดเยียด สอบปลายภาคนั่นเอง ข้าพเจ้าก็ดุ่มๆเดินต่อไป จนเห็นสนามสอบแล้วก็กลับบ้าน

วันสอบจริง สอบวันอาทิตย์รอบเช้า ข้าพเจ้าก็ต้องไปเข้าวัดร่วมมิสซาก่อนให้เรียบร้อย พอเสร็จสรรพก็ไปสอบ ในการสอบจะมีสามส่วน (1) การฟัง (2) การอ่าน และ (3) การเขียน

(1) การฟัง จะให้ฟังบทสนทนาและบทพูดแล้วเลือกคำตอบที่ถูกต้อง เนื่องจากคณะสหเวชศาสตร์ตั้งอยู่ริมถนนใกล้ๆมาบุญครอง มีตุ๊กๆแล่นผ่านบ่อยมาก ส่งเสียงรบกวน ต้องพยายามตั้งสติฟังเสียงที่เปิดให้ฟังดีๆ ไม่งั้นแทนที่จะได้ยินเนื้อหา จะได้ยินแต่เสียงตุ๊กๆแทน อนึ่ง ถ้ามีให้เสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดการการสอบ ข้าพเจ้าจะเสนอให้กั้นรั้วห้ามตุ๊กๆผ่านถนนข้างตึก เพราะไม่เคยเห็นตุ๊กๆคันแล่นโดยไม่มีเสียงอึกทึกเลยสักคัน สอบเสร็จค่อยปล่อยวิ่งตามปกติ อิ อิ  ส่วนนี้ข้าพเจ้าฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ฟังได้ยินเนื้อหาบ้าง ฟังได้ยินเสียงตุ๊กๆบ้าง มั่วบ้าง มั่น(ใจ)บ้าง ระคนกันไป ::011::

(2) การอ่าน ส่วนนี้ ข้าพเจ้าทำด้วยความมั่นใจ แต่อาจด้วยความที่ต้องการความมั่นใจเกิดพิกัด อ่านแล้วอ่านอีก อ่านอีกก็อ่านแล้ว พินิจพิเคราะห์อยู่นาน ทำให้อ่านเรื่องสุดท้ายไม่ทัน กรรมการเก็บกระดาษคำถามไป ทำให้ต้องฝนคำตอบมั่ว เสียดายมาก  ::008::

(3) การเขียน ส่วนนี้ ก็คือการหาคำตอบที่เป็น"ประเด็นที่ผิดไวยากรณ์" ข้าพเจ้าพอทำได้(มั้ง) เลยทำเสร็จก่อนเวลาเล็กน้อย นั่งนก นั่งสับเงารอกรรมการปล่อยจากห้องสอบ  ::006::

บรรยากาศในการสอบน่าเบื่อ เพราะผู้คนต่างคนต่างมา ต่างคนต่างกลับ ไม่พูดไม่คุยกับเลย หน้าหงิก เหมือนไม่อยากรู้จักมักจี่อะไรกัน เวลาเห็นหน้าผู้ร่วมสอบ ก็ทำหน้าเหมือนกับเห็นหน้าก้อนกรวดก้อนดินก้อนทราย เซ็งเป็ดดดดด   : emo031 :

ขณะนี้ ข้าพเจ้ากำลังรอผลการสอบ แล้วจะมารายงานให้ท่านทั้งหลายทราบสืบไป  : emo045 :
ผลสอบประกาศแล้ว ดังนี้

การฟัง คะแนนเต็ม 30  ข้าพเจ้าได้ 20
การอ่าน คะแนนเต็ม 60 ข้าพเจ้าได้ 40
การเขียน คะแนนเต็ม 30 ข้าพเจ้าได้ 23

คะแนนรวมทั้งหมด 120  ข้าพเจ้าได้ 83 คะแนน เทียบเป็นโทเฟลได้ 579

ข้าพเจ้าว่าคะแนนที่ข้าพเจ้าสอบได้มันน้อยไปหน่อย อีกอย่างคราวก่อนข้าพเจ้าดันบริหารเวลาไม่ดีพอ เลยรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงตั้งใจจะแก้มือใหม่ เดี๋ยวถ้าสอบอีกครั้ง ผลเป็นอย่างไรจะมาแจ้งให้ทุกท่านทราบสืบไป ทั้งนี้เพื่อให้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับผู้สนใจ  ::014::

ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ศาสนาเปรียบเทียบ)

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 25, 2008 1:56 pm
โดย Florian
ตามที่ข้าพเจ้าเคยมาสอบถามเรื่องการสอบปริญญาโท สาขาศาสนาเปรียบเทียบ มหาวิทยาลัยมหิดล  ข้าพเจ้าไปฝ่าฝืนคำแนะนำไปสอบมาแล้ว  ::008::  ::010::  ::005::  ::004::  ::001::

ก่อนอื่น ข้าพเจ้าสมัครทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อใบสมัคร แล้วก็จัดเอกสารตามที่บัณฑิตวิทยาลัยกำหนด ส่งไปที่บัณฑิตวิทยาลัย ศาลายา พร้อมชำระเงินด้วย 500 บาท แล้วก็รออยู่บ้าน  เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก โกเจ็ด โกแปด  บัณฑิตวิทยาลัยส่งบัตรเข้าสอบและใบเสร็จค่าสมัครมาให้ข้าพเจ้าตามลำดับ รับแล้วก็รออยู่ที่บ้านต่อไป  เวลาผ่านไปยิ่งเร็วกว่าโกหก อะไรกัน ปุ๊บปั๊บ ถึงเวลาสอบแล้วเหรอ  ลืมไปเลย

ข้าพเจ้าก็เดินทางไปสอบที่ศาลายา นั่งรถเมล์ไป เพราะยากจนข้นแค้น ไม่มีคนขับสารถี วิธีการไปนั้นง่ายมาก ถ้ามาต่อรถที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้มารอรถเมล์ที่ป้ายฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี นั่งปอ.515 สีไข่ไก่ไป รถสายดังกล่าวจะวิ่งไปตามถนนราชวิถี ข้ามสะพานซังฮี้ แล้วตะบึงไปออกถนนบรมราชชนนี ที่สุดเลี้ยวขวาเข้าศาลายา  ถ้าไปต่อรถที่วงเวียนใหญ่ ให้นั่งรถพัดลม 84ก. รถนั้นจะวิ่งไปตามถนนเพชรเกษม จนถึงถนนที่ตัดขวางที่ถ้าเลี้ยวขวาจะไปออกพุทธมณฑล ก็นั่นแหละ รถเลี้ยวขวาตรงนั้นแล้วก็ซิ่งไปข้ามสะพานตรงที่ตัดข้ามถนนบรมราชชนนี้ แล้วก็ถึงศาลายา  แต่ถ้าต่อรถที่สนามหลวง ให้ขึ้นรถพัดลม 124 นั่งหลับไปได้เลย เพราะไม่ต้องต่อรถอีก รถจะวิ่งไปข้ามสะพานพระปิ่นเกล้า ไปออกถนนบรมราชชนนี ที่สุดไปเลี้ยวขวาเข้าศาลายาเช่นกัน

บรรยากาศการสอบดูพลุกพล่าน เพราะคนมาสอบกันหลายสาขา ปริญญาโทและปริญญาเอก เดินชนไปชนมา เชิดไปเชิดมา คุยกันบ้างไม่คุยกันบ้าง  ข้าพเจ้าสอบสาขาศาสนาเปรียบเทียบ ส่วนใหญ่ผู้สมัครสอบจะเป็นพระภิกษุ เสียดายที่ข้าพเจ้ามัวแต่ไปขลุกอยู่ในบริเวณที่คฤหัสถ์ชุมนุมหนาแน่น ถ้าไหวตัวทัน ข้าพเจ้าน่าจะไปขลุกกับพระคุณเจ้าทั้งหลาย จะได้สนทนาธรรม มาตอนหลังๆ พอสอบกันจนเห็นหน้าแล้วจำหน้ากันได้ ข้าพเจ้าจึงได้มีโอกาสคุยกับพระคุณท่านทั้งหลายแล้ว โห บางรูปคุยมันส์มาก ขนาดยังเป็นพระหนุ่มกันทั้งนั้นเลยนะ มีอยู่รูปหนึ่งคุยสนุกมากเลย (ถึงบอกไงว่าน่าเสียดาย รู้งี้ไปคุยกับท่านตั้งแต่แรกดีกว่า คุยกับโยมน่าเบื่อ คุยกับพระสนุกกว่าเยอะ) ท่านเรียกข้าพเจ้าว่า "โยม" เช่น "โยมสอบสาขาอะไร" แม้ข้าพเจ้าจะมีอายุมากกว่าพวกท่าน แต่ข้าพเจ้าก็เรียกท่านว่า "หลวงพี่" เพราะถ้าเรียก "หลวงน้อง" มันแปลกๆ ไม่ค่อยมีใครเขาเรียกมั้ง ข้าพเจ้าก็ตอบไปว่า "ผมสอบศาสนาเปรียบเทียบ แล้วหลวงพี่ล่ะ" หลวงพี่ตอบว่า "เหมือนกัน อาตมาเห็นโยมออกคนแรกๆ โยมทำได้ใช่ไหม" ข้าพเจ้าตอบว่า "ได้ทำ...หลวงพี่" ฯลฯ  ข้าพเจ้าเห็นว่าหลวงพี่ทั้งหลายความจำดี สอบเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าจำอะไรไม่ค่อยได้ หลวงพี่จำได้ แล้วก็มาคุยกันว่า ตอบข้อไหนข้อไหน หลวงพี่บางรูปเอากลับไปถามหลวงพ่อที่วัดด้วย ในขณะที่ข้าพเจ้าลืมไปหมดแล้วหลังจากออกจากห้องสอบ  เวลาที่หลวงพี่เจอหลวงพี่ที่มีอาวุโสกว่า ก็ยกมือไหว้กัน แล้วแทนตัวเองว่า "ผม" แล้วเรียกพระภิกษุที่สนทนาด้วยกันว่า "หลวงพี่"  ข้าพเจ้ารู้สึกปีติยิ่งนักที่ได้พบปะและพูดคุยกับพระภิกษุมีกิริยามารยาทที่งดงามน่ารักและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ปลื้มใจมากเลย จริงๆนะ ::001::

ในบรรดาหลวงพี่ที่มาสอบนั้น มีทั้งภิกษุเถรวาทและมหายาน แต่เถรวาทจะมากกว่ามาก  ข้าพเจ้าอดชื่นชมท่านทั้งหลายไม่ได้ เพราะไหนจะต้องเดินทางมาไกล ท่านต้องมีวิริยะอุตสาหะอย่างมาก ประทับใจมากๆเลย

กลับมาที่การสอบ ชั่วโมงเช้าของวันแรก ข้อสอบปรนัย สอบภาษาอังกฤษ ข้อสอบภาษาอังกฤษที่นี่น่าเบื่อมาก สอบอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีแรงยั่วยุให้ผู้สอบทำข้อสอบเลย อยากทำให้เสร็จๆไป ไม่น่าสอบ ไม่น่าทำเหมือนซียู-เทพของจุฬาฯ  หลวงพี่ทั้งหลายก็บ่นกันขรมว่ายากมาก

ชั่วโมงบ่ายของวันแรก ข้อสอบปรนัย สอบความรู้ทั่วไป ก็เหมือนความรู้รอบตัวนะ เช่น ทีมปีนเอเวอร์เรสต์มีกี่คน ข้าพเจ้าก็นึกว่าถามถึงทีมปีนยุคเทนสิง นอเค  ที่ไหนได้ ก็ทีมปีนของไทยนี่แหละ ถามมาด้ายยยยยยย ไม่ได้ท่องจำไว้ด้วย เซ็งเลยตู

ชั่วโมงเช้าของวันที่สอง ข้อสอบปรนัย สอบความรู้มนุษยศาสตร์ ก็เหมือนความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสาขามนุษยศาสตร์ พวกปรัชญา วรรณคคี ประวัติศาสตร์ ฯลฯ แคบลงมาหน่อย เป็นสาขาของเรา ก็เลยดูง่ายกว่าตอนสอบความรู้ทั่วไป เพราะอันนั้นมันกว้างเหลือเกิน  ติดใจอยู่หน่อย ทำไม้ทำไมต้องมาสอบวิชามนุษยศาสตร์ แค่ 1 ชั่วโมง วันที่สอง ให้เปลืองค่ารถ สอบให้เสร็จไปแต่วันแรกเลยไม่ได้หรือไง อิ อิ  ::011::

สรุป สอบที่นี่ปรนัยหมดเลย multiple choices รวด ไม่ต้องเขียนให้เมื่อยมือ แต่สาขาอื่นอีกหลายสาขา เขียนกันมือระวิง มีอยู่เพียงบางสาขาเท่านั้นที่เป็นปรนัยหมด เช่น ศาสนาเปรียบเทียบ และ จริยศาสตร์ศึกษา เป็นต้น

สำหรับผู้ที่สอบที่ตึกสำนักงานอธิการบดีนั้น สะดวกมาก เพราะลงรถเมล์ด้านหน้าก็เลื้อยเข้าตึกได้เลย ตอนกลางวันมีร้านอาหารสวัสดิการอยู่ชั้นสอง ก็สอบ กิน ขับถ่าย ก็อยู่ในตึกนั้นหมดเลย

ขากลับ ก็เดินข้ามสะพานลอยมาขึ้นรถเมล์ สะดวกมาก

ตอนนี้ข้าพเจ้ารอผลสอบอยู่  ::010::

Re: ประสบการณ์การสอบ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 25, 2008 6:04 pm
โดย Alphonse
Florian เขียน: ข้อสอบภาษาอังกฤษที่นี่น่าเบื่อมาก สอบอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีแรงยั่วยุให้ผู้สอบทำข้อสอบเลย อยากทำให้เสร็จๆไป ไม่น่าสอบ ไม่น่าทำเหมือนซียู-เทพของจุฬาฯ  หลวงพี่ทั้งหลายก็บ่นกันขรมว่ายากมาก

ทีมปีนเอเวอร์เรสต์มีกี่คน ข้าพเจ้าก็นึกว่าถามถึงทีมปีนยุคเทนสิง นอเค  ที่ไหนได้ ก็ทีมปีนของไทยนี่แหละ
พอเข้าใจอารมณ์ฮะ
เคยเป็นเหมือนกันที่แบบ...เฮ้ย ไม่ทงไม่ทำมันแล้ว วางปากกาจะเดินออกจากห้องสอบเลย
แต่คิดไปคิดมา นั่งๆ ทำไปก่อนเหอะ อะไรทำนองนั้น
แต่ทีมปีนเอเวอร์เรสต์นี่เป็นอะไรที่ไม่ควรออกมากๆ นะครับ รับไม่ได้อ่ะข้อสอบแบบนี้

TU-GET

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 30, 2008 3:12 pm
โดย Florian
การสมัครสอบทียูเก๊ต สมัครได้ทั้งโดยการซื้อใบสมัคร กรอกข้อมูล แล้วส่งกลับไป หรือดาวน์โหลดใบสมัครจากอินเตอร์เน็ต กรอกข้อมูล ติดรูป แล้วส่งกลับไปก็ได้เช่นกัน ค่าสมัคร 500 บาท (แพงกว่าซียูเทพ 100 บาท) ข้าพเจ้าสมัครแบบหลัง โดยส่งค่าสมัครเป็นธนาณัติ สั่งจ่ายไปรษณีย์หน้าพระลาน

ข้าพเจ้าวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2551  สอบที่อาคารบรรยายรวมสังคมศาสตร์ (SC) คนแน่นขนัด ล้นหลาม น่ากลัว เหมือนงานเทกระจาด  ไม่มีสอบฟัง แต่มีรายละเอียดดังนี้

ส่วนที่ 1 250 คะแนน มี 2 ส่วนย่อย  ได้แก่ 1.1 หาจุดที่ผิดไวยากรณ์ ให้มา 4 ตัวเลือก หาให้เจอก็แล้วกัน  1.2 ให้ประโยคมาครึ่งเดียว (มักเป็นประโยคความรวม/ประโยคความซ้อน) แล้วให้เลือกจากตัวเลือก 4 ข้อ มาเติมประโยคให้สมบูรณ์

ส่วนที่ 2 250 คะแนน มี 2 ส่วนย่อย ได้แก่ 2.1 เติมคำในช่องว่าง (cloze) 2.2 หาคำที่มีความเหมือนกับคำที่ขีดเส้นใต้  เป็นปรนัย 4 ตัวเลือกทั้งสองส่วนย่อย

ส่วนที่ 3 500 คะแนน ตอบคำถามจากเนื้อเรื่องที่อ่าน

ข้าพเจ้าทราบมาว่าศัพท์ในทียูเก๊ตยากมาก เลยทำใจไว้ว่า "ส่วนที่ 2" น่าจะยากที่สุด  แต่ที่ไหนได้ พอได้สอบจริงๆ ข้าพเจ้าเห็นว่าส่วนที่ 2 กลับไม่ยากอย่างที่คิด ที่ยากกลับเป็นส่วนที่ 3 ที่ศัพท์ในเนื้อเรื่องที่ให้อ่านนั้นยากมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยากสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วแถมเนื้อเรื่องที่ให้อ่านก็ดันเป็นเนื้อหาเฉพาะทาง เช่น เรื่องวิทยาศาสตร์หนักๆ เป็นต้น  ทำข้อสอบแล้วรู้สึกเก๊กซิม เจ๊กอัก เสียดายเงิน เพราะยากเกินความจำเป็น

บรรยากาศของสถานที่สอบ สวยงาม โอ่อ่า น่าไปสอบ ทั้งนี้ข้าพเจ้ารู้สึกว่ารังสิตเปลี่ยนไปจากเดิมมากมายนัก แถมที่สำคัญ เด็กธรรมศาสตร์ที่ข้าพเจ้าเห็นก็ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว อัตลักษณ์ของเด็กธรรมศาสตร์เปลี่ยนไป แต่ก่อนดูเถื่อนๆหน่อย เดี๋ยวนี้คุณหนูคุณชายเดินกันเต็มไปหมด ดูไฮโซพิลึก โดยรวมก็กล่าวได้ว่าไม่เหมือนธรรมศาสตร์ในยุคที่ข้าพเจ้าเรียนแล้ว

สรุป ถ้าใครอยากวัดระดับภาษาอังกฤษของตัวเอง แต่ไม่อยากเสียเงินแพงไปสอบข้อสอบเมืองนอก ข้าพเจ้าขอเสนอให้สอบของจุฬาฯ CU-TEP จะดีกว่า ราคาก็ถูกกว่า ความยากง่ายเหมาะสม ท้าทายให้สอบ แถมเทียบคะแนนเป็นโทเฟลได้ แต่ทียูเก๊ตเทียบลำบาก เพราะไม่มีข้อสอบส่วนที่เป็นการฟัง (Listening)  :afro:

Re: ประสบการณ์การสอบ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มี.ค. 30, 2008 3:17 pm
โดย Maria Magdalena
cu-tep 550
toefl 97/120

cu-tep ไปสอบตั้งแต่ตอนมอสี่ ส่วนโทเฟลเพิ่งไปมา ก้อโอเคนะ
โทเฟลไม่ยากเท่าไร ยากแต่พาร์ทที่ต้องพูด อันนั้นบูทำไม่ค่อยได้ดีเลย  ::008::